สวัสดีณ เดือนที่ 3 ของปีค่ะ สำหรับบางท่านนี่อาจเป็นอีเมล์แรกที่ได้รับจากชูใจ ขอแนะนำตัวอีกครั้งละกันนะคะ ชื่อจิ๊กค่ะ เป็นบก.ชูใจ ในอัพเดทนี้จิ๊กก็จะแชร์ประสบการณ์ที่จิ๊กได้เรียนรู้กับพระเจ้า และพูดถึงงานชูใจให้ฟังค่ะ ความเดิมจากครั้งที่แล้ว ที่จิ๊กเล่าเรื่องจุดเริ่มต้นของการฝึกตื่นเช้า & ออกกำลังกายให้ฟัง นี่ก็วิ่งมาได้ 3 เดือนแล้วค่ะ เลยอยากมาแชร์ให้ฟังว่าได้เรียนรู้อะไรบ้างจากการปฏิวัติตัวเองครั้งนี้ สิ่งที่ยากที่สุดของการวิ่ง คือการลุกจากเตียงไปวิ่งยอมรับเลยค่ะว่ามีหลายเช้าที่ยอมแพ้ ขี้เกียจตื่น จนคิดว่านี่หาเรื่องให้ตัวเองลำบากทำไมเนี่ย ต้องใช้คำว่า 'เคี่ยวเข็ญ' ตัวเองอยู่มากพอสมควรแม้กระทั่งทุกวันนี้ก็ตาม เลยทำให้เข้าใจสิ่งที่พระเยซูบอกสาวกมากว่า "ถ้าผู้ใดใคร่ตามเรามาให้ผู้นั้นเอาชนะตัวเอง และรับกางเขนของตนแบกและตามเรามา" (มธ.16:24) มันต้องเอาชนะตัวเองทุกวันจริงๆ นะคะ ไอ้อุปนิสัยดีๆ ที่เราไม่มีเนี่ย ดังนั้นเวลาที่เราจะใส่นิสัยใหม่ของพระเจ้าเข้าไปในชีวิต ก็ขอให้ให้กำลังใจตัวเองไว้มากๆ และรู้อยู่เสมอว่า "ในความอ่อนแอของเรา ฤทธิ์เดชของพระเจ้าจะยิ่งปรากฏชัด" ค่ะ แน่นอนที่เราจะแพ้มันบ้าง แต่ขอให้สติจงอยู่กับท่าน ฝืนมันหน่อยค่ะ เพราะเมื่อเราผ่านไปได้ เราจะรู้เลยว่า เรากำลังจะเป็นคนใหม่ อีกคนที่เราไม่เคยเป็นมาก่อน เหมือนประโยคนี้ของมูฮัมมัด อาลี ที่ว่า
สำคัญกว่าการเป็นแชมเปี้ยน ก็คือเราจะเป็นคนที่พระเจ้าทรงใช้การได้ เป็นคนใหม่ที่พระเจ้าภาคภูมิใจค่ะ และเมื่อถึงตรงนั้นเราจะรู้เลยว่าไม่ใช่ตัวเรา แต่เป็นพระเจ้าเป็นผู้เสริมกำลังเราให้ทำสำเร็จ บากบั่นมุ่งไป = ทำต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเห็นผลจำได้ว่าวันแรกวิ่ง 0.8 โลนี่คือหอบละค่ะ มารู้ทีหลังว่า คนอื่นเค้าวิ่งกันทีละ 5-10 โลนี่อึ้งไปเลย! ในใจคิดแค่ว่า เออ... ช่างคนอื่นเหอะ ขอแค่วิ่งให้ไม่รู้สึกผิดกับตัวเองในอนาคตก็พอ! 555+
'บากบั่น' ใช้เวลาพูดแค่เสี้ยวนาทีแต่ใช้เวลาพิสูจน์ด้วยการกระทำเป็นปีๆ น้องที่โบสถ์คนนึงที่วิ่งได้ทีละ 10 โลบอกจิ๊กว่า "แรกๆ หนูก็วิ่งได้แบบพี่นี่แหละ ใช้เวลาเป็นปี กว่าจะได้ 10 โล" ไม่รู้ว่าตอนนี้ ต้อง 'บากบั่น' กับอะไรอยู่บ้าง ยิ่งเวลาเห็นคนอื่นไปได้เร็วกว่า ทำได้ดีกว่า สำเร็จมากกว่า มันยิ่งท้อใช่ไหมคะ แต่ดูข้อ 16 ข้างล่างค่ะ
ขอบคุณอ.เปาโล ณ จุดนี้ ใช่ค่ะ ถึงแม้โลกจะหลอกเราด้วยการเปรียบเทียบตลอดเวลา แต่พระเจ้าให้โจทย์ชีวิตของเราแต่ละคนมาไม่เหมือนกัน สำหรับจิ๊กแล้ว การตื่นนอนมาวิ่งออกกำลังเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น แค่นี้ก็เป็นเส้นชัยของตัวเองแล้วค่ะ อย่างการทำชูใจก็เหมือนกัน บางทีก็ท้อเวลาเห็นสถิติตกลง หรือเพจคนอื่นได้รับความนิยมมากกว่า แต่ก็ต้องดึงสติตัวเอง ให้กลับมาจดจ่ออยู่ที่เส้นชัยของเรา และวิ่งต่อไป ใช่ค่ะ เส้นชัยของเราเอง ไม่ใช่วิ่งไปเข้าเส้นชัยคนอื่น เมื่อเช้าวันก่อนจิ๊กวิ่งได้ 3.45 โลแล้วค่ะ แค่ "ดำเนินตามนั้นต่อไป" นะคะ ไม่ยาวไม่ใช่เราเลยจริงๆ เอาละค่ะ เข้าเรื่องงานดีกว่า อยากจะสรุปให้ฟังคร่าวๆ ถึง Highlight ของปีที่ผ่านมา ส่วนอัพเดทฉบับหน้าจิ๊กจะเล่าให้ฟังว่าปีนี้ชูใจอยากจะทำอะไรอีกบ้างค่ะ Highlight
Jan 2017 ณ วันนี้ ชูใจมีทีมอาสาฯ อยู่ 30 คน แบ่งเป็น 2 ทีมหลักคือ คอนเท้นต์ (เขียน edit แปล วาดภาพประกอบ) และทีมเว็บ และเพราะเป็นการทำงานออนไลน์ทำให้ทีมเรากระจายตัวอยู่หลายที่ค่ะ แต่หลักๆ อยู่ที่กทม. (7 คน) เชียงใหม่และปริมณฑล (23 คน) เราจัดทีมมีตติ้งทั้งที่เชียงใหม่ (ก.ค. 16) กับที่ กทม. (ม.ค.17) ไปแล้วอย่างละครั้งค่ะ ที่ต้องมีมีตติ้งก็เพราะแต่ละคนจะได้เห็นภาพเดียวกัน เห็นทิศทางว่าทำไปเพราะอะไร และทำความรู้จักกันในทีมค่ะ จิ๊กก็ขอบคุณพระเจ้าสำหรับอาสาสมัครเหล่านี้มากๆ เลยค่ะ Feb 2017: ชูใจเปิดขอถวายหน้าเว็บและทางเฟสบุ๊คอย่างเป็นทางการค่ะ หลังจากที่ทำหลังไมค์มาตลอด สมัยก่อนตอนที่ทำบัญชีให้เจ้านาย มันปวดหัวแค่เรื่องจะจัดสรรเงินยังไงให้พอค่าใช้จ่ายแต่ละเดือน แต่ตอนนี้พระเจ้าก็อัพเกรดเรา ให้คิดหาหนทางหาเงินด้วย ถึงแม้ดูจะเป็นเรื่องยากกว่าจัดสรรเงิน แต่พระเจ้าก็นำผ่านตั้งแต่เดือนแรกจนถึงตอนนี้ได้อย่างอัศจรรย์ ยิ่งช่วงที่เว็บยังไม่เสร็จ แต่มีคนอีเมล์มาอยากมีส่วนร่วมในการถวายให้เรา หรือกรอกแบบฟอร์มทั้งที่ไม่เคยประชาสัมพันธ์ นั่นโคตรจะเป็นการคอนเฟิร์มจากพระเจ้าเลยค่ะ จริงอย่างที่พี่เชษฐ์ (อ.นิติเชษฐ์) เคยบอกจิ๊กไว้ว่า "เงินไม่ใช่ปัญหา แค่ต้องออกไปหา ถ้าพระเจ้านำเราแล้วพระเจ้าไม่ปล่อยให้เราอดแน่นอน" แล้วพระองค์ก็คอนเฟิร์มจิ๊กผ่านมือผู้ถวายและทีมงานทุกคนที่เข้ามาช่วยกันจริงๆ ค่ะ ประสบการณ์เดินบนน้ำแบบนี้ ไม่ก้าวออกจากเรือนี่ไม่รู้นะคะว่าตื่นเต้นแค่ไหน หวังว่า จะได้มีโอกาสเดินบนน้ำกันสักครั้งในชีวิตนะคะ จะได้มีเรื่องเอาไว้เล่าไปชั่วลูกชั่วหลาน และถึงแม้ในงบที่ตั้งไว้จะมีเงินเดือนจิ๊กอยู่ด้วย แต่ส่วนตัวแล้วก็ยังไม่เคยเบิกเงินเดือนจากบัญชีชูใจค่ะ เพราะขอบคุณพระเจ้าที่มีผู้ถวาย ถวายเงินเดือนส่วนตัวให้ซึ่งก็พอดีใช้จ่ายในแต่ละเดือน ดังนั้น ค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ 90% อยู่ที่การจ้างสต๊าฟ, เงินช่วยอาสาฯตามวาระต่างๆ, และค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการนัดพบอาสาฯทั้งแบบกลุ่มและเดี่ยว ส่วนอีก 10% เป็นค่าดำเนินการต่างๆ ค่ะ กดลิงค์นี้เพื่อดูรายงานการเงิน Feb 2017 เราได้ทดลองจัด workshop เป็นครั้งแรก โดยเลือกจัด workshop การเขียนก่อน จุดประสงค์ที่จัดอย่างแรกคือ ต้องการพัฒนาความสามารถของอาสาฯ ของเรา จุดประสงค์ที่สองคืออยากเปิดพื้นที่ให้กับน้องๆ ที่มีความสนใจอยากพัฒนาทักษะ หรืออยากทดลองทำในสิ่งที่สนใจ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 25 คน มีอาสาของเราทั้งหมด 10 คน มีคนไม่เชื่อมา 6 คน (รวมวิทยากรด้วย) งานจัดแบบมีค่าลงทะเบียนสำหรับคนที่ไม่ได้เป็นอาสาสมัคร ซึ่งก็ทำให้มีรายรับตรงนี้มาจ่ายให้กับอาสาฯ ของเราค่ะ อยากขอบคุณพระเจ้ามากตรงที่มีคนไม่เชื่อมาด้วยทั้งๆ ที่ไม่ได้ตั้งใจจัดงานประกาศ ตอนแรกก็กังวลว่าจะได้มีโอกาสประกาศกับคนกลุ่มนี้ไหม แต่ในช่วงการฝีกเขียน วิทยากรก็ให้แต่ละคนอ่านงานที่ตัวเองเขียนให้เพื่อนฟังค่ะ ซึ่งคนที่เขียนเรื่องของพระเจ้าก็จะได้อ่านคำพยานของตัวเองให้คนไม่เชื่อฟังไปด้วย ซึ่งก็กลายเป็นวิธีการประกาศที่แนบเนียนไปเลย คงมีไม่บ่อยนักที่คริสเตียนเราจะจัดงานที่ได้ประกาศด้วย แต่ให้คนไม่เชื่อมาจ่ายเงินให้เราหรอกนะคะ เราได้รวบรวม Feedback ของผู้มาเข้าร่วมไว้ในนี้ค่ะ คลิกไปอ่านได้เลย Contentในส่วนของเนื้อหา ปีที่ผ่านจากที่ตั้งเป้าไว้ 6 คอลัมน์ เราสามารถทำออกมาได้จริง 5 ค่ะ
ส่วน 1 คอลัมน์ที่พับเก็บไป คือ Bible Project ค่ะ คือตั้งใจอยากเอาวีดีโอคลิปของ Bible Project มาแปล แต่เพจ Christian Subtitle ก็ทำไปแล้ว ถ้าจะทำก็ต้องทำให้ต่าง แต่เรายังไม่พร้อมเรื่องคนที่จะรับผิดชอบดูแลส่วนนี้ค่ะ เลยพับโครงการไป ถ้าหากมีการ Partner กับองค์กรอื่นที่มีศักยภาพในการทำก็จะปัดฝุ่นกลับมาทำใหม่ เสียดายที่ศักยภาพของเรายังไปไม่ถึงในช่วงที่ผ่านมา ด้านสถิติของบทความสถิติการเข้ามาอ่านเว็บโดยเปิดมาดูแต่ละหน้าเฉลี่ย 18,6xx ครั้งต่อเดือน จาก 8,xxx เครื่อง/เดือน ผู้อ่านที่เข้าใหม่ 64% ผู้อ่านเดิมนับเป็น 36%
Facebook Post โพสต์ใน FB ที่ทำยอด Reach ได้สูงสุด (หมายถึงมีคนเห็นโพสต์นี้ในหน้า Feed ของตัวเอง) ก็คือ การใช้ถ้อยคำแสดงความอาลัยในช่วงในหลวงร.๙ เสด็จสวรรคต ยอด Reach สูงถึง 89,xxx สาเหตุที่ได้รับความนิยมอาจเป็นเพราะเป็นเรื่องในกระแส และเป็นเรื่องที่ไม่มีกลุ่มองค์กรคริสเตียนไหนกล้าพูดในที่สาธารณะ ถือเป็นความเสี่ยงมากในการโพสต์ค่ะ ตอนนั้นกลัวแต่รู้สึกว่าจำเป็นต้องพูด ไม่งั้นก็ใช้กันผิดๆ ถูกๆ อยู่นั่น ซึ่งถึงแม้จะมีคนให้ความเห็นว่ายังไม่ถูกต้องตามหลักการเสียทีเดียวในเรื่องการใช้คำแทนตัวว่า ข้าพระพุทธเจ้า อันนั้นก็สุดแล้วแต่การตีความและหลักการที่แต่ละบุคคลจะยึดถือค่ะ ส่วนโพสต์ที่มียอดแชร์สูงสุดใน Facebook คือ "ขอพื้นที่ศึกษาพระคัมภีร์" อันนี้เห็นยอด Reach ไม่สูง แต่แชร์เยอะมากค่ะ 943 แชร์เลยทีเดียว สาเหตุที่ได้รับความนิยมน่าจะเพราะความคิดสร้างสรรค์ที่จับเรื่องในกระแส มาโยงเข้ากับเรื่องพระคัมภีร์ได้อย่างสนุกสนาน อันนี้จิ๊กก็ชอบค่ะ แถมทำให้น้องเอ็มม่า (ที่ยังเชื่อได้ไม่นานมาก) ได้อ่านพระคัมภีร์สรุปกันเป็นวรรคเป็นเวรเลยทีเดียว (น้องเค้าบอกตอนเริ่มทำงานว่า อธิษฐานขอให้รู้จักพระเจ้ามากขึ้นผ่านการทำงานกับชูใจ จิ๊กเลยจัดให้ค่ะ 555+) สรุปจบละค่า! ถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้อีเมล์กลับมาบอกด้วยนะคะ จิ๊กมีของขวัญจะมอบให้ 555 พูดจริงนะคะไม่ได้พูดเล่น ปีที่ผ่านมานับเป็นการเปิดตัวที่ดีของเราค่ะ แต่! ยังมีอีกหลายอย่างมากที่เราต้องพัฒนาต่อไปอีก จิ๊กยังได้ feedback มาจากบางคนว่า ที่โบสถ์นำเอาเนื้อหาของชูใจไปคุยในกลุ่มเซลล์ หรือนำกลุ่มอนุชนด้วย เลยยิ่งทำให้เราอยากพัฒนางานของเราไปให้ได้มากกว่านี้อีกค่ะ สุดท้ายต้องขอบคุณพระเจ้า และขอบคุณ ที่มารับใช้กับชูใจด้วยการถวายค่ะ เราจะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด เพื่อสิ่งนี้จะไปถึงชีวิตของน้องๆ คริสเตียนไทยค่ะ ไปด้วยกันนะคะ! จิ๊ก
|