![]() ![]() คว้าข่าวสาร อ่านเทรนด์ยุโรป ฉบับที่ 3, มีนาคม 2566
ส่งข่าวสารถึงคุณโดย CPG สนับสนุนโดย KAS ![]() เรียน ท่านผู้อ่าน ขอต้อนรับสู่ Europe in Review ฉบับล่าสุด ซึ่งเรา CPG และ KAS นำเสนอภาพรวมที่ครอบคลุมเกี่ยวกับวิวัฒนาการที่ส่งผลกระทบต่อทวีปยุโรปในช่วงเดือนที่ผ่านมา ในรูปแบบที่แปลเป็นภาษาไทย สำหรับฉบับเต็มภาษาอังกฤษ และภาพรวมที่ครอบคลุมการเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในเอเชีย โปรดเข้าไปที่หน้า Facebook ของเรา Henning Glaser บรรณาธิการบริหาร
เว็บไซต์: https://www.cpg-online.de, เฟซบุ๊ก: https://www.facebook.com/CPGTU (transl. by tj) Main Sections
เรื่องเด่น - บรรณาธิการคัดสรร ![]() สงครามในยุโรป: Biden เยือนกรุงเคียฟ ขณะที่ยูเครนโศกเศร้าหนึ่งปีแห่งสงคราม หนึ่งปีที่แล้ว ยานยนต์ ยุทโธปกรณ์และกองกำลังทหารหลั่งไหลเข้าไปในยูเครนเป็นจำนวนมาก เมื่อประธานาธิบดี Vladimir Putin ของรัสเซียประกาศจุดเริ่มต้นที่ตนเรียกว่า “ปฏิบัติการทางทหารพิเศษเพื่อปลดแอกนาซีและปลดอาวุธยูเครน” ซึ่ง Europe in Review ได้รายงานเหตุการณ์พลิกผันครั้งสำคัญทุกครั้งที่เกิดความขัดแย้งในขณะที่สงครามดำเนินไปตลอดปี 2565 ด้วยความรุนแรงที่แทบจะทนไม่ได้ ในขณะที่โลกจดจำช่วงเวลาอันน่าสะเทือนใจมากมายของสงครามอันโหดร้ายนี้ ถึงแม้ครบรอบหนึ่งปีอันน่าเศร้า แต่การสู้รบยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่ลดละ ในขณะเดียวกัน ความขัดแย้งได้เปลี่ยนแปลงยุโรปในรูปแบบที่ผู้เชี่ยวชาญ ผู้สื่อข่าว และประชาชนทั่วไป ยังคงพยายามหาข้อสรุปต่อไป Biden ปรากฏตัวแบบไม่คาดคิดในกรุงเคียฟ ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาเยือนกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มสงคราม การเดินทางถูกปิดไว้อย่างมิดชิด โดยมีผู้สื่อข่าวไม่กี่คนที่ทราบล่วงหน้าและให้คำมั่นว่าจะเก็บเป็นความลับ ในการแถลงข่าวร่วมกัน Biden สัญญาว่าจะสนับสนุนยูเครนต่อไป “ไม่ว่าจะยาวนานแค่ไหน ตราบเท่าที่ต้องทำ” แต่กล่าวว่าจะมี “หลายวัน หลายสัปดาห์ และหลายปีข้างหน้าที่ยากลำบากมาก” สำหรับประเทศนี้ รัฐบาลรัสเซียได้รับแจ้งถึงการเยือนดังกล่าวล่วงหน้าประมาณ 10 ชั่วโมง เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่อาจเป็นอันตราย หลังจากไปเยือนกรุงเคียฟ Biden เดินทางต่อไปกรุงวอร์ซอ หลังจากได้ประกาศแพคเกจเพิ่มเติมของสหรัฐฯ จำนวน 460 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับยูเครน โดยเน้นที่ระบบการจัดหาพัสดุสำรอง ที่ยูเครนมีอยู่แล้วจากสต็อกของสหรัฐฯ [Irish Times] [POLITICO Europe] [Guardian] [Atlantic] [New York Times] [CNN] [TIME] Zelensky ยังได้ไปเยือนประเทศพันธมิตรของยูเครนด้วยตนเองเป็นครั้งที่สองนับตั้งแต่การรุกรานของรัสเซีย ในการเยือนกรุงลอนดอน กรุงปารีส และกรุงบรัสเซลส์ ประธานาธิบดียูเครนยังคงกดดันมให้พันธมิตรสนับสนุนกองทัพยูเครนมากขึ้น โดยเน้นเครื่องบินขับไล่สำหรับกองทัพอากาศของประเทศที่นับวันต้องแบกภาระมากขึ้น [BBC News] [France24] [Le Monde] [Kyiv Independent] [Atlantic Council] [POLITICO Europe] [New York Times] 'ความอดอยากกระสุน' นอกเมืองบัคมุต ในยูเครน การสู้รบยังคงดำเนินต่อไปในแนวหน้า ด้วยการรุกครั้งใหญ่ของรัสเซียที่ปรากฏขึ้นและเป็นที่คาดหมายกันมานาน และจุดเน้นหนึ่งของความคืบหน้าของรัสเซียคือเมืองบัคมุตทางตะวันออก ซึ่งการปะทะกันอย่างหนักยังคงดำเนินต่อไปหลังจากมีกองกำลังเพิ่มเติมของรัสเซียเข้าร่วมการต่อสู้ ในช่วงกลางเดือนมกราคม ทหารรัสเซียเข้ายึดเมืองโซเลดาร์ที่อยู่ใกล้เคียงและกดดันเส้นทางส่งเสบียงของยูเครน ในเดือนกุมภาพันธ์ กองกำลังรัสเซียยังคงรุกคืบต่อไป โดยยึดหมู่บ้านคราสนาโฮรา เบอร์คิฟกา และ ยาฮิดเน่ ทางเหนือ และคุกคามเมือง อิวานิฟสกี้ ทางทิศตะวันออก ในขณะที่วงแหวนรอบเมืองบัคมุต กำลังปิด ความคืบหน้านี้ทำให้กองกำลังยูเครนมีถนนเข้าและออกจากเมืองที่ปลอดภัยเพียงเส้นเดียว หากอิวานิฟสกี้แพ้ จะไม่มีทางออกสำหรับกองกำลังที่เหลืออยู่ [Institute for the Study of War] [POLITICO Europe] [Euronews] [UnHerd] [Euractiv] [Guardian] องค์ประกอบหลักของกองกำลังรัสเซียที่เมืองบัคมุต คือ "ทหารรับจ้าง" ของกลุ่ม Wagner ซึ่งเป็นบริษัททหารเอกชน กลุ่ม Wagner มีส่วนสำคัญอย่างมากในการได้รับชัยชนะล่าสุดของรัสเซียในพื้นที่ โดยเป็นกลุ่มแรกที่รุกเข้าสู่ โซลดาร์ ในเดือนมกราคม อย่างไรก็ตาม ทหารรับจ้างเหล่านี้ เห็นว่าความพยายามของพวกเขากำลังถูกลงโทษโดยกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย แทนที่จะได้รับรางวัลตอบแทน Yevgeny Prigozhin หัวหน้ากลุ่ม Wagner ตกเป็นข่าวในขณะที่เขาแสดงความบาดหมางกับกองทัพรัสเซียอย่างเปิดเผย โดยอ้างว่าฝ่ายนายทหารระดับสูงของรัสเซียขัดขวางไม่ให้กลุ่ม Wagner เกณฑ์นักโทษ ปฏิเสธที่จะจัดหากระสุนปืนใหญ่ที่จำเป็นมาก และเอาเครดิตในการยึดโซลดาร์ ความบาดหมางถึงจุดสูงสุดเมื่อ Prigozhin ใช้ Telegram เพื่อโพสต์รูปภาพของทหารรับจ้างกลุ่ม Wagner ที่เสียชีวิตหลายสิบนายนอกเมืองบัคมุต และโทษว่าการเสียชีวิตของพวกเขาเป็นเพราะ "ความอดอยากกระสุน" ซึ่งภายหลัง Priogzhin อ้างว่าสถานการณ์ได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ผู้สังเกตการณ์เชื่อว่า "ความอดอยากกระสุน" นี้อาจเป็นความกังวลที่เพิ่มขึ้นสำหรับกองกำลังรัสเซียทั้งหมดในยูเครน แม้ว่ารัสเซียจะมีมรดกโซเวียตมากมาย [Guardian] [POLITICO Europe] [Times] [CNN] [Reuters] [Bloomberg] บทเรียนราคาแพงสำหรับรัสเซีย? ในขณะที่รัสเซียประสบความสำเร็จที่เมืองบัคมุต ความพยายามในการยึดเมืองวูห์เลดาร์ ล้มเหลวอย่างมีนัยสำคัญ Europe in Review ได้เคยรายงานก่อนหน้านี้ว่า วูห์เลดาร์ ซึ่งเป็นเมืองทางตอนใต้ของภูมิภาคโดเนตสค์ ได้กลายเป็นจุดวาบไฟใหม่ในแนวหน้าในเดือนมกราคม แทนที่จะดำเนินการต่อด้วยการใช้ยุทธวิธีโจมตีที่ทำให้ข้าศึกเขว รัสเซียกลับโจมตีเมืองนี้โดยตรงในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ กองกำลังทหารรัสเซียประกอบด้วยทหารเกณฑ์และทหารราบทางทะเลชั้นยอด มาพร้อมกับรถถังจำนวนมากและยานหุ้มเกราะ ได้เข้าควบคุมบริเวณริมทะเลสาบเล็ก ๆ ทางทิศใต้ ในการต่อสู้ที่ตามมา กองกำลังยูเครนก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างรุนแรง ซึ่ง ณ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ ได้เป็นที่ประจักษ์ต่อผู้สังเกตการณ์ทั้งหลาย รถถังหลายสิบคันและยานพาหนะอื่นๆถูกทำลาย เนื่องจากกองกำลังรัสเซียไม่สามารถบีบให้กองกำลังยูเครนถอยกลับเข้าไปในเมืองได้ เป็นที่เข้าใจกันว่า ยูเครนใช้ระบบทุ่นระเบิดต่อต้านยานเกราะระยะไกล (Remote Anti-Armor Mine-RAAM) ที่ผลิตในสหรัฐฯ เพื่อขับไล่ยานเกราะรัสเซียซึ่งพยายามที่จะเข้าประชิดเมืองวูห์เลดาร์ทางบก ระบบ RAAM ประกอบด้วยกระสุนปืนใหญ่ที่อัดไว้ด้วยระเบิดบกที่สร้างทุ่นระเบิดเมื่อกระจายตกลงมา ผู้วิจารณ์ทหารรัสเซียที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง กล่าวหาผู้บัญชาการรัสเซียว่านายพลเหล่านี้คือ “คนปัญญาอ่อนที่ไม่ได้เรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเอง” แม้ยูเครนประสบความสำเร็จในการป้องกัน แต่ตอนนี้ เมืองวูห์เลดาร์ ก็มีลักษณะคล้ายกับเมืองบัคมุต อาคารส่วนใหญ่อยู่ในสภาพที่ไม่สามารถอยู่อาศัยได้ และทุ่งนาโดยรอบได้ถูกทำลายกลายเป็นหลุมเป็นบ่อ เนื่องจากการกระหน่ำโจมตีของรัสเซีย เหตุการณ์ที่เมืองวูห์เลดาร์ เป็นลางไม่ดีสำหรับการรุกรานของรัสเซีย ตามที่หลายคนคาดหวัง ที่เมืองวูห์เลดาร์ รัสเซียล้มเหลวอีกในการเจาะผ่านกองกำลังยูเครนที่ตั้งแนวอยู่ สถาบัน Institute for the Study of War ให้เหตุผลว่า “ การขาดยานพาหนะที่เพียงพอกระสุนและวัสดุอื่นๆ” ที่จำเป็นสำหรับยุทธการดังกล่าว และเป็นอีกครั้งที่กองทัพอากาศรัสเซียไม่ได้มามีส่วนร่วมเลย หากรัสเซียไม่สามารถปรับใช้สมรรถนะเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความเสี่ยงที่การต่อสู้ทุกครั้งจะกลายเป็นการทำซ้ำแบบเดิมเช่นที่เกิดขึ้นที่เมืองบัคมุต คือการสู้รบที่ยืดเยื้อมีการสูญเสียสูงโดยมีรางวัลเพียงแค่พื้นที่ว่างเปล่าที่ถูกทำลายยับเยิน หากกองกำลังรัสเซียหวังว่าจะยึดภูมิภาคดอนบาสแทนเพียงทำลายให้ราบเป็นหน้ากลอง จะต้องปรับตัว มิฉะนั้นพวกเขาอาจต้องปักหมุดความหวังไปที่การยืดเยื้อได้ยาวนานกว่ายูเครน แทนที่จะออกไปต่อสู้เพื่อชัยชนะ [Euronews] [BBC News] [Business Insider] [POLITICO Europe] [New York Times] [Institute for the Study of War] [Guardian] ยูเครนเป็นเรื่องหลักในการประชุมว่าด้วยความมั่นคงที่นครมิวนิค อุปสรรคสำคัญสำหรับรัสเซียในการยืดเยื้อยูเครนคือประเทศตะวันตกที่สนับสนุนยูเครน ซึ่งมีผู้นำหลายคนที่เข้าร่วมการประชุมว่าด้วยความมั่นคงที่นครมิวนิค ระหว่างวันที่ 17-19 กุมภาพันธ์เพื่อหารือเกี่ยวกับสงครามดังกล่าว การประชุมเมื่อปีที่แล้วถูกครอบงำโดยเรื่องยูเครน ซึ่งตอนนั้น ชาติตะวันตกขู่รัสเซียด้วยการคว่ำบาตรหากรัสเซียรุกราน แต่ไม่ได้กล่าวถึงความช่วยเหลือด้านวัตถุใดๆแก่ยูเครน Zelensky ปรากฏตัวในการประชุมเพียงไม่กี่วันก่อนรัสเซียรุกรานประเทศของเขา เพื่อขอความช่วยเหลือและยุติ "นโยบายเอาใจ" ต่อรัสเซีย คณะผู้แทนรัสเซียไม่ได้เข้าร่วมประชุมในปี 2565 และไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมในปีนี้ ซึ่งกระบวนทัศน์ได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ในปีนี้ คำถามที่นครมิวนิค ไม่ใช่ว่ายูเครนควรได้รับการสนับสนุนด้านยุทโธปกรณ์ทางทหารหรือไม่ แต่ควรอยู่ในระดับใด ในส่วนของผู้นำตะวันตก มีการพูดคุยกันมากเกี่ยวกับการส่งมอบเพิ่มเติมและเร็วขึ้นไปยังยูเครน รองประธานาธิบดีสหรัฐ Kamala Harris กล่าวหารัสเซียว่าก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ขณะที่ Jens Stoltenberg เลขาธิการนาโต้ วิงวอนสมาชิกของพันธมิตรให้ลงทุนในกองทัพมากขึ้น ท่ามกลางคำเตือนเกี่ยวกับคลังปืนใหญ่ที่ลดน้อยลง สำหรับจีน อยู่ในรูปแบบฮึกห้าวในที่ประชุม โดยโจมตีสหรัฐฯ ในเรื่องการยิง “บอลลูนสอดแนม” ที่ถูกกล่าวหาเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ แต่ไม่มีท่าทีที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับยูเครน Wang Yi นักการทูตระดับสูงสุดของจีนปฏิเสธที่จะถูกดึงเข้าไปกำหนดจุดยืนในสงคราม แต่จีนกลับออก “แผนสันติภาพ” ที่สั้นและคลุมเครือในช่วงปลายเดือน และงดออกเสียงประณามการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการคาดการณ์ว่าจีนอาจกำลังวางแผนที่จะจัดหายุทโธปกรณ์ทางทหารที่จำเป็นให้มอสโก โดยปักกิ่งปฏิเสธเรื่องดังกล่าวอย่างหนักแน่น (ดูเรื่องราวแยกต่างหากในฉบับนี้) การประชุมดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าพื้นที่ความมั่นคงของยุโรปเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงจากสงคราม แต่ล้มเหลวในการดึงการสนับสนุนจากประเทศทางตอนใต้ของโลก ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงเฉยเมยต่อวิกฤตนี้ [Deutsche Welle] [NPR] [POLITICO Europe] [New York Times] [Reuters] (wb/pk/hg, transl. by tj)
Putin กล่าวหาชนชั้นนำตะวันตกว่าพยายามทำลายรัสเซีย ประธานาธิบดี Vladimir Putin กล่าวหาชาติตะวันตกว่าพยายามเอาชนะรัสเซียในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ของตนเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ และยังกล่าวโทษตะวันตกสำหรับการรุกรานยูเครนของมอสโก วิพากษ์วิจารณ์สังคมตะวันตก และเน้นย้ำถึงความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของประเทศหนึ่งปีหลังจากเริ่มสงคราม “ชนชั้นนำตะวันตกไม่ได้ปิดบังเป้าหมายของพวกเขา ซึ่งข้าพเจ้าหมายถึง ’ความพ่ายแพ้ทางยุทธศาสตร์ของรัสเซีย’” Putin กล่าว “สิ่งนี้มีความหมายต่อเราอย่างไร? มันหมายความว่าพวกเขาวางแผนที่จะจัดการกับเราเป็นครั้งสุดท้าย” [Speech] คำปราศรัยของ Putin มีขึ้นในขณะที่โลกตระหนักถึงวันครบรอบปีแรกของการรุกรานยูเครน ความขัดแย้งที่ทำให้ชาวยูเครนหลายล้านคนต้องพลัดถิ่นฐานและทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ทหารรัสเซียราว 200,000 นายเสียชีวิตหรือบาดเจ็บ ตามการประมาณการของตะวันตก กระทรวงกลาโหมของอังกฤษประเมินว่าทหารรัสเซีย 40,000-60,000 นายเสียชีวิตในการสู้รบ [NBC] สงครามยังส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ซึ่งลดลงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยสองทศวรรษที่ร้อยละ 3.8 ตามรายงานประจำปีของ World Economic Outlook ที่กำหนดแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ร้อยละ 3.4 ในปี 2565 และคาดว่าจะลดลงอีกเป็นร้อยละ 2.9 ในปี 2566 อัตราเงินเฟ้อโลก จากผลกระทบต่อเนื่องของการระบาดใหญ่ของโควิด-19 นอกเหนือจากสงคราม ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 8.8 ในปี 2565 แต่คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 6.6 ในปี 2566 ซึ่งสูงกว่าระดับก่อนเกิดการระบาดใหญ่ประมาณร้อยละ 3.5 [FoxNews][IMF] ขณะนี้ Putin กำลังเผชิญหน้ากับตะวันตกที่เป็นศัตรูอย่างเปิดเผยซึ่งมุ่งมั่นสนับสนุนยูเครน ประธานาธิบดี Joe Biden ของสหรัฐฯ เยือนกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นการเดินทางเยือนในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกับการประกาศความช่วยเหลือเพิ่มเติมของสหรัฐฯแก่ยูเครน มอสโกสูญเสียอำนาจต่อรองด้านพลังงานกับยุโรป และปัจจุบัน ต้องพึ่งพาการค้าน้ำมันกับจีนและอินเดียเพื่อเพิ่มรายได้ ดินแดนประวัติศาสตร์ อย่างไรก็ตาม Putin ไม่ได้แสดงท่าทีว่าเต็มใจที่จะแสวงหาข้อยินยอมเพื่อยุติสงครามที่เขากล่าวว่าเริ่มต้นขึ้น “เพื่อปกป้องผู้คนในดินแดนประวัติศาสตร์ของเรา เพื่อความปลอดภัยของประเทศของเรา และเพื่อขจัดภัยคุกคามที่มาจากระบอบนีโอนาซี” [Speech] ปูตินเน้นย้ำถึงระดับความไม่ไว้วางใจที่เขามีต่ออิทธิพลของตะวันตกในยูเครน โดยกล่าวโทษการสนับสนุนกลุ่มนีโอนาซีที่เขาพยายามเอาชนะในภูมิภาคดอนบาสของยูเครน “อย่างที่เราเห็นในตอนนี้ คำสัญญาของผู้นำชาติตะวันตก การรับรองของพวกเขาว่าพยายามทำเพื่อสันติภาพในภูมิภาคดอนบาส กลายเป็นเรื่องหลอกลวงและโกหกโดยสิ้นเชิง” เขากล่าว “พวกเขาเพียงแค่กำหนดเวลา ยุ่งอยู่กับเล่ห์กลทางการเมือง เมินเฉยต่อการลอบสังหารทางการเมืองของระบอบเคียฟ และการตอบโต้ต่อผู้ที่ไม่พึงปรารถนา การปฏิบัติต่อผู้ศรัทธาในทางที่ผิด” การลอบสังหารทางการเมืองของระบอบเคียฟและการตอบโต้ต่อผู้ที่ไม่พึงปรารถนาการปฏิบัติต่อผู้ศรัทธาในทางที่ผิด” [Speech] Putin ชี้ให้เห็นถึงการหลอกลวงของตะวันตกที่ “ลองผิดลองถูกมาหลายครั้งแล้ว” “พวกเขาทำตัวไร้ยางอายและตีสองหน้าเมื่อทำลายยูโกสลาเวีย อิรัก ลิเบีย และซีเรีย” เขากล่าว “พวกเขาจะไม่สามารถล้างความอัปยศนี้ได้ แนวคิดเรื่องเกียรติยศ ความไว้วางใจ และความเหมาะสมไม่ใช่สำหรับพวกเขา” [Speech] การทำลายครอบครัว Putin ยังโจมตีผู้นำตะวันตก โดยกล่าวว่าชนชั้นนำกำลัง “มุ่งทำลายล้างครอบครัว ทำลายเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและชาติ ความวิปริตและการละเมิดเด็ก รวมถึงโรคใคร่เด็ก ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นเรื่องปกติในชีวิตของพวกเขา” [Speech] “ผู้คนหลายล้านคนในตะวันตกตระหนักดีว่าพวกเขากำลังถูกชักนำไปสู่ความหายนะทางจิตวิญญาณ” เขากล่าว “พูดตามตรง พวกชนชั้นสูงดูเหมือนจะบ้าไปแล้ว และดูเหมือนว่าจะไม่มีทางบำบัดรักษาได้ แต่อย่างที่ข้าพเจ้าพูด สิ่งเหล่านี้คือปัญหาของพวกเขา ในขณะที่เราต้องปกป้องลูกๆ ของเรา ซึ่งเราจะทำ เราจะปกป้องลูกหลานของเราจากความเสื่อมโทรมและความเสื่อมทราม” ในการนี้ ในเดือนธันวาคม Putin ได้ลงนามในร่างกฎหมายที่ขยายการห้ามสิ่งที่เรียกว่า "การโฆษณาชวนเชื่อ" ของ LGBTQ ในรัสเซีย ทำให้การสนับสนุนความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันหรือเสนอแนะว่าการมีรสนิยมทางเพศที่ไม่ใช่เพศตรงข้ามเป็นเรื่อง "ปกติ" ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ในคำสั่งห้ามดังกล่าว Putin ได้ประทับตราดยางเพียงไม่กี่วันหลังจากกฎหมาย “ตัวแทนต่างชาติ” ฉบับใหม่ที่เข้มงวดมีผลบังคับใช้ ทั้งนี้ เครมลินปราบปรามเสรีภาพในการพูดและสิทธิมนุษยชน ในขณะที่ปฏิบัติการทางทหารในยูเครนหยุดชะงัก [CNN] Putin ได้ใช้สงครามเพื่อรวบอำนาจการควบคุมสังคมและไม่ยอมให้มีการคัดค้านหรือเห็นต่างใดๆ ทั้งสิ้น ผู้นำศาสนา ผู้ที่อยู่ในวงการบันเทิงและผู้สื่อข่าว ถูกจำคุกหรือถูกเซ็นเซอร์เนื่องจากแสดงท่าทีต่อต้านสงคราม รัสเซียเปิดตัวระบบข่าวเพื่อค้นหาเนื้อหาที่ถูกห้ามบนอินเทอร์เน็ต เนื่องจากประเทศบังคับใช้ข้อจำกัดที่เข้มงวดมากขึ้นกับสื่อ การระงับสนธิสัญญา START Putin ยังประกาศด้วยว่ากำลังระงับการเข้าร่วมของรัสเซียในสนธิสัญญา START ฉบับใหม่ ซึ่งเป็นสนธิสัญญาการลดอาวุธนิวเคลียร์ระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯที่จำกัดคลังอาวุธนิวเคลียร์ของทั้งสองประเทศและจัดให้มีการตรวจสอบสิ่ง อำนวยความสะดวกด้านอาวุธร่วมกัน โดยอ้างถึงความพยายามของวอชิงตันในการ “ปรับรูปแบบของระเบียบระหว่างประเทศให้เหมาะกับความต้องการของตนเองโดยเฉพาะและผลประโยชน์ที่เห็นแก่ตัวนั้นเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ อันเป็นเหตุผลในการระงับสนธิสัญญานี้” [Euractiv][Speech] “ตอนนี้ พวกเขากำลังใช้นาโต้ เพื่อให้สัญญาณแก่เรา ซึ่งอันที่จริงแล้ว ถือเป็นคำขาดที่รัสเซียควรดำเนินการทุกอย่างที่ตกลงร่วมกัน โดยไม่ต้องมีคำถามใดๆ ทั้งสิ้น รวมถึงสนธิสัญญา START ฉบับใหม่ ในขณะที่พวกเขาจะทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการ” Putin กล่าวว่า "ข้าพเจ้าจำเป็นต้องประกาศในวันนี้ว่า รัสเซียกำลังระงับการเป็นสมาชิกในสนธิสัญญา START ฉบับใหม่ โดยขอย้ำอีกครั้งว่า เราไม่ได้ถอนตัวจากสนธิสัญญาฯ แต่เป็นการระงับการเข้าร่วมของเรา” Annalena Baerbock รัฐมนตรีต่างประเทศของเยอรมนี เรียกร้องโดยทันทีให้ Putin กลับเข้าสู่สนธิสัญญาฯ โดยกล่าวว่าสนธิสัญญาดังกล่าวเป็น “ผลประโยชน์ของพวกเราทุกคนทั่วโลก” ในขณะที่กระทรวงต่างประเทศรัสเซียถือว่าการระงับนี้ “ผลิกกลับไม่ได้แล้ว” Baerbock เสริมว่า นับตั้งแต่เริ่มบุกยูเครนเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว รัสเซียได้ละเมิดหลักการพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศและ “บ่อนทำลายสถาปัตยกรรมการควบคุมอาวุธที่เราทุกคนต้องพึ่งพา” ในเดือนมกราคม สหรัฐฯ ยังกล่าวหารัสเซียว่าละเมิดสนธิสัญญา START ฉบับใหม่ โดยกล่าวว่ามอสโกปฏิเสธที่จะอนุญาตให้มีการตรวจสอบในดินแดนของตน สนธิสัญญาฯ ซึ่งเดิมมีผลบังคับใช้ในปี 2554 ได้ขยายออกไปอีก 5 ปีจนถึงปี 2569 [Euractiv] Putin เตือนว่ารัสเซียพร้อมที่จะกลับมาทดสอบอาวุธนิวเคลียร์อีก “แน่นอนว่าเราจะไม่ทำก่อน” Putin กล่าวเสริม “แต่หากสหรัฐฯ ทำการทดสอบ เราก็จะทำเช่นกัน” [MSN] ความแข็งแกร่งและยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ Putin ยังตำหนิตะวันตกที่ทำสงครามเศรษฐกิจกับรัสเซีย และชี้ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจของประเทศแม้จะถูกคว่ำบาตรก็ตาม “ข้าพเจ้าขอย้ำอีกครั้งว่าการคว่ำบาตรรัสเซียเป็นเพียงวิธีการ ในขณะที่เป้าหมายที่ผู้นำตะวันตกประกาศไว้ คือเพื่อให้พวกเราได้รับความทุกข์ยาก” เขากล่าว Putin ชี้ไปที่การลดลงของจีดีพี เพียงร้อยละ 2.1 และอัตราการว่างงานร้อยละ 3.7 ซึ่งต่ำกว่าระดับก่อนเกิดโรคระบาดใหญ่ ซึ่งเป็นตัวอย่างของความแข็งแกร่งและยืดหยุ่นของประเทศ นักวิเคราะห์บางคนได้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะหดตัวมากถึงร้อยละ 25 [Speech] Putin ยังได้ไฮไลท์การผลิตทางการเกษตรของรัสเซีย เกษตรกรรัสเซียเก็บเกี่ยวธัญพืชมากกว่า 150 ล้านตัน รวมทั้งข้าวสาลีมากกว่า 100 ล้านตัน และเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลเกษตรกรรม กล่าวคือวันที่ 30 มิถุนายน รัสเซียจะมีการส่งออกธัญพืช 55–60 ล้านตัน เขากล่าว “เศรษฐกิจรัสเซียได้เข้าสู่วงจรการเติบโตใหม่” Putin กล่าว “ตลาดโลกใหม่ที่มีแนวโน้มดี รวมถึงเอเชียแปซิฟิกกำลังมีความสำคัญ เช่นเดียวกับตลาดในประเทศ เนื่องจากการวิจัย เทคโนโลยี และกำลังแรงงานไม่ได้มุ่งเน้นที่การส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์อีกต่อไป แต่การผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูง สิ่งนี้จะช่วยให้รัสเซียปล่อยศักยภาพอันมหาศาลในทุกเขตและภาคส่วน” [Speech] (gc-ava, transl. by tj)
แผ่นดินไหวทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี คร่าชีวิตคนนับพัน ทำลายล้างทั้งเมือง เกิดแผ่นดินไหว 2 ครั้งทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกีในเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายพันคน เมืองต่างๆ พังยับเยิน โดยแรงสั่นสะเทือน คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่กำลังจะมีขึ้น เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.7 และ 7.6 ที่จังหวัดคารามันมารัส ทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี แผ่นดินไหว 2 ครั้ง ทำลายล้างจังหวัดตุรกีกว่าสิบจังหวัด ได้แก่ จังหวัดคารามันมารัส กาซีอันเตป ซานลิอูร์ฟา ดิยาร์บากีร์ อาดานา อาดิยามาน ออสมานิเย ฮาเตย์ กิลิส และมาลาตี ปฏิบัติการกู้ภัย ซึ่งในตอนแรกเป็นไปอย่างเชื่องช้าเนื่องจากถนนและโครงสร้างพื้นฐานเสียหายหนัก ครอบคลุมพื้นที่กว่า 10 จังหวัดของตุรกี Recep Tayyip Erdogan ประธานาธิบดีตุรกี ระบุยอดผู้เสียชีวิต 42,310 ราย และผู้บาดเจ็บ 195,962 ราย แผ่นดินไหวขนาด 7.7 รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ อาคารกว่า 6,000 หลังพังถล่ม และพนักงานหลายคนจากหน่วยงาน Presidency of Disaster and Emergency Management (AFAD) ของตุรกี เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติการกู้ภัย [BBC] [Afad] [CNN Turk] [Reuters] จังหวัดฮาเตย์ ไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ จากรัฐบาลในช่วง 48 ชั่วโมงแรกหลังเกิดแผ่นดินไหว ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยเบื้องต้นดำเนินการโดยพลเรือน จนกระทั่ง AFAD ส่งทีมกู้ภัย รัฐบาลล้มเหลวในการส่งความช่วยเหลืออย่างเพียงพอไปยังเขตภัยพิบัติตั้งแต่ช่วงต้นของแผ่นดินไหว [BBC News] [Balkan Insight] ในที่สุดรัฐบาลก็สามารถระดมคนกว่า 30,000 คน ทั้งมืออาชีพและอาสาสมัคร รวมทั้งทีมงานจากประเทศอื่นๆ มาช่วยปฏิบัติการกู้ภัย ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญได้เตือนว่า อาจเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ แต่ส่วนใหญ่ไม่คิดว่าจะเกิดรอยเลื่อนตามอานาโตเลียตะวันออกที่ทอดยาวไปทั่วภาคตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี ผลกระทบการเลือกตั้ง ความเสียหายจากแผ่นดินไหวมีแนวโน้มที่จะมีบทบาทในการเลือกตั้งประธานาธิบดีซึ่งจะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2566 โดยพรรคฝ่ายค้านต่างวิพากษ์วิจารณ์การตอบสนองของรัฐบาลซึ่งล่าช้าในการส่งความช่วยเหลือไปยังเขตภัยพิบัติอย่างทันท่วงทีและเพียงพอ [BBC News] [Balkan Insight] พรรค Republican People’s Party (CHP) ซึ่งเป็นฝ่ายค้านหลัก ได้เรียกร้องให้มีคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบภัยพิบัติและระบุสาเหตุของการตอบสนองที่ล่าช้าของรัฐบาล Kemal Kilicdaroglu ผู้นำ CHP กล่าวว่าหลังจาก 20 ปีที่รัฐบาลของ Erdogan อยู่ในอำนาจ ไม่ได้ "เตรียมประเทศให้พร้อมสำหรับแผ่นดินไหว" [TheConversation] พรรค Pro-Kurdish Peoples’ Democratic Party (HDP) กล่าวหารัฐบาลว่าเลือกปฏิบัติในการแจกจ่ายความช่วยเหลือ โดยกล่าวหาว่าสนับสนุนพื้นที่ที่มีผู้สนับสนุนพรรครัฐบาล กล่าวคือพรรค Justice and Development Party (AKP) ในสัดส่วนที่สูง ซึ่งเป็นประเด็นที่คาดว่าจะโน้มน้าวผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวเคิร์ด ซึ่งมีประมาณร้อยละ 18 ของประชากรทั้งหมด [TheConversation] พรรค AKP ของ Erdogan อาจสูญเสียคะแนนเสียงในเขตแผ่นดินไหว ซึ่งคะแนนเสียงของชาวเคิร์ดถือเป็นดุลแห่งอำนาจ ในทางกลับกัน ภัยพิบัติและภาวะฉุกเฉินที่กินเวลานาน 3 เดือนอาจส่งผลกระทบต่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งและการมีส่วนร่วมในการทำงานเพื่อผลประโยชน์ของพรรค [TheConversation] เมื่อระดับของการทำลายล้างชัดเจนขึ้น ความตกใจของสาธารณชนก็กลายเป็นความขุ่นเคืองและความไม่พอใจ ชาวตุรกีตำหนิรัฐบาลที่ละเลยความรับผิดชอบเกี่ยวกับข้อบังคับอาคาร [Guardian] เรียกร้องความสามัคคี Erdogan เรียกร้องให้มีเอกภาพและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ประณามผู้วิจารณ์การรับมือภัยพิบัติว่าไร้เกียรติ เขากล่าวปราศรัยผ่านเทปที่บันทึกไว้ล่วงหน้าเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ เพื่อแจ้งให้สาธารณชนทราบถึงการดำเนินการโดยทันทีของรัฐบาลเพื่อเริ่มการค้นหาและช่วยเหลือ และเงินจำนวน 5 พันล้านยูโรที่จัดสรรให้กับหน่วยงาน AFAD ทั้งนี้ Erdogan ประกาศช่วงเวลาไว้ทุกข์ทั่วประเทศนาน 1 สัปดาห์ และภาวะฉุกเฉิน 3 เดือนใน 10 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว ตามมาตรา 119 ของรัฐธรรมนูญตุรกี Erdogan ยังได้ขอบคุณและแสดงความชื่นชมต่อทุกประเทศและองค์การระหว่างประเทศที่ให้ความช่วยเหลือและส่งสารแสดงความเสียใจ [Anadolu Agency] [Turkish Constitution] ในคำปราศรัยของเขา Erdogan เรียกร้องให้ชาวตุรกีบริจาคเงินให้กับหน่วยงาน AFAD เพื่อช่วยฟื้นฟูประเทศจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เขาย้ำว่าการเกิดขึ้นของข่าวปลอมอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังและอัยการกำลังตรวจสอบสื่อสังคมออนไลน์ และเสริมว่า “เมื่อวันนั้นมาถึง เราจะเปิดหนังสือที่เราเก็บไว้เกี่ยวกับผู้ที่กระทำผิด”[Anadolu Agency] รัฐบาลได้ชะลอและห้ามการเข้าถึง Twitter เนื่องจากการวิจารณ์เชิงลบที่รัฐบาลได้รับเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ Kilicdaroglu ผู้นำฝ่ายค้าน เรียกร้องให้ทุกคนใช้ VPN เพื่อเข้าถึง Twitter เนื่องจากมีความสำคัญในการสื่อสารกับผู้คน รัฐบาลยังคงเงียบ และNetblocks ยืนยันการกระทำของรัฐบาล [Twitter.] [Balkan Insight] [The Washington Post] [New York Post] การแสดงความเสียใจและการสนับสนุน ผู้นำระดับโลกแสดงความเสียใจบนแพลตฟอร์มสื่อสังคมและเสนอให้ความช่วยเหลือหลังจากเกิดภัยพิบัติ สหภาพยุโรปเปิดใช้งาน EU Civil Protection Mechanism โดย 20 ประเทศในสหภาพยุโรประดมเจ้าหน้าที่กู้ภัย 1,500 คนและสุนัขค้นหา 100 ตัวไปยังพื้นที่ประสบภัยในตุรกีและซีเรีย ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ธนาคารโลกประกาศให้คำมั่นว่าจะให้เงินแก่ตุรกี 1.67 พันล้านยูโรสำหรับความพยายามในการฟื้นฟูประเทศ [Twitter] [Reuters] [Anadolu Agency] หน่วยงาน US Agency for International Development ของสหรัฐฯ ให้คำมั่นว่าจะมอบเงินจำนวน 80 ล้านยูโรให้แก่ผู้ประสบภัยในตุรกีและซีเรีย สหรัฐฯ ยังได้ส่งทีมกู้ภัยซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัย 159 คน สุนัข 12 ตัว และอุปกรณ์สำหรับควบคุมภัยพิบัติ นอกจากนั้น ทีมกู้ภัยและเงินบริจาคได้ถูกส่งมาจากอินเดีย แคนาดา คิวบา เกาหลีใต้ อิสราเอล จีน ญี่ปุ่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดีอาระเบีย อิรัก และอัฟกานิสถาน [BBC] [Reuters] [Reuters] [Reuters] นายกรัฐมนตรีกรีซ ได้แสดงความเสียใจทาง Twitter ด้วยทวีตตุรกีโดยกล่าวว่า "ชาวกรีกและชาวตุรกีต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่เพื่อช่วยชีวิต" หนังสือพิมพ์กรีก Kathimerini เผยแพร่รูปภาพบนหน้าแรกที่มีข้อความว่า “เราทุกคนคือชาวตุรกี” เพื่อแสดงการสนับสนุน ในขณะที่ Kornelios S. Korneliou รัฐมนตรีต่างประเทศไซปรัส ระบุว่าทีมช่วยเหลือที่เสนอให้ตุรกีถูกปฏิเสธโดยเจ้าหน้าที่ตุรกีพูดว่า "ขอบคุณ แต่ไม่ต้อง" [Habertürk] [Sigmalive] [T24] [Habertürk] หน่วยงาน German International Search and Rescue และหน่วยงาน Germany’s Federal Agency for Technical Relief ของเยอรมนี ได้ระงับความช่วยเหลือด้านแผ่นดินไหวเนื่องจากการขาดแคลนทรัพยากรน้ำและอาหาร เจ้าหน้าที่กู้ภัยระหว่างประเทศยังกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างผู้รอดชีวิตและทีมกู้ภัย กองทัพบกออสเตรียประกาศว่าจะระงับปฏิบัติการชั่วคราวในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ แต่กองทัพบกออสเตรียยังคงปฏิบัติการต่อไปหลังจากที่กองทัพบกตุรกีเพิ่มการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ [Reuters] แคมเปญตุรกีรวมเป็นหนึ่งเดียว Erdogan จัดแถลงข่าวอีกครั้งในวันที่ 15 กุมภาพันธ์เพื่อประกาศการระดมทุนทั่วประเทศที่จะออกอากาศทางโทรทัศน์ในตุรกี โดยให้ความมั่นใจกับประเทศชาติว่า “เงินทุกบาททุกสตางค์” ที่รวบรวมได้จะนำไปฟื้นฟูประเทศจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและพลเมืองที่ได้รับผลกระทบ แคมเปญ Turkey United as One จัดขึ้นเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ โดยเหล่าคนดังของตุรกีได้รวบรวมเงินบริจาคผ่านทางโทรทัศน์ การบริจาคที่ใหญ่ที่สุดมาจากธนาคารกลางของตุรกีซึ่งมีมูลค่า 1.5 พันล้านยูโร และเมื่อสิ้นสุดแคมเปญ สามารถรวบรวมเงินได้ 5.7 พันล้านยูโร [Anadolu Agency] [AFAD] ตุรกีประกาศเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ว่าปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยได้ยุติลงแล้ว ยกเว้นในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด 2 จังหวัด ได้แก่ อันทักยา และ คารามันมารัส สภา Council of Higher Education (YOK) ประกาศในแถลงข่าว press release ว่าการศึกษาทั้งหมดจะดำเนินการทางออนไลน์ต่อไปสำหรับภาคการศึกษาฤดูใบไม้ผลิทั่วประเทศ Erdogan ประกาศว่ามหาวิทยาลัยจะ "ปิด" และการศึกษาจะยังคงเป็นแบบออนไลน์จนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม หอพักที่ดำเนินการโดยรัฐบาลจะใช้สำหรับผู้ที่สูญเสียบ้านเพื่อเป็นวิธีแก้ปัญหาชั่วคราวสำหรับปัญหาการพลัดถิ่นจำนวนมาก [Daily Sabah] [Al Jazeera] [The Wall Street Journal] (at-lc/gc, transl. by tj)
นักการทูตระดับสูงสุดของจีนพยายามสร้างความสัมพันธ์กับยุโรป แต่ปฏิเสธที่จะประณามสงครามของรัสเซีย การประชุมระหว่างผู้นำรัสเซียและนักการทูตระดับสูงสุดของจีนได้ชี้ให้เห็นถึงแนวร่วมที่เพิ่มมากขึ้นระหว่างทั้งสองฝ่าย แม้ว่าการหารือมีขึ้นระหว่างการเยือนยุโรปของจีนในช่วงเวลาที่มีแรงกดดันมากขึ้นต่อปักกิ่งให้ประณามการรุกรานยูเครนของมอสโก Wang Yi นักการทูตระดับสูงสุดของจีนเยือนประเทศต่างๆ ในยุโรป รวมทั้งฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมนี และฮังการี ที่ถูกมองอย่างกว้างขวางว่ามีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์กับชาติยุโรป สิ่งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างปักกิ่งและวอชิงตัน ซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นจากการยิงบอลลูนของจีนตกเหนือดินแดนของสหรัฐฯ [AP] [CNN] หลังจากที่ Wang Yi ได้พบกับประธานาธิบดี Vladimir Putin ของรัสเซียและรัฐมนตรีต่างประเทศ Sergei Lavrov เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ผู้นำรัสเซียได้ประกาศว่าประธานาธิบดี Xi Jinping ของจีนกำลังวางแผนเดินทางเยือนกรุงมอสโก Putin กล่าวถึงความสัมพันธ์จีน-รัสเซียว่า “เรากำลังก้าวไปสู่พรมแดนใหม่” แผนสันติภาพของจีน ก่อนหน้านี้ ในการประชุมว่าด้วยความมั่นคงประจำปีที่นครมิวนิค ในเยอรมนีเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ Wang Yi ได้นำเสนอแผนของจีนสำหรับการริเริ่มเพื่อสันติภาพของโลก ซึ่งจะเน้นย้ำถึงความสำคัญของการยึดถือหลักการของอำนาจอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และกฎบัตรสหประชาชาติ ในเวลาเดียวกัน Wang Yi ย้ำจุดยืนของจีนว่าประชาคมระหว่างประเทศจำเป็นต้องเคารพผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของรัสเซีย[AP News] [Munich Security Conference] [Politico 1] [Politico 2] [The Guardian] [Ministry of Foreign Affairs, China] กระทรวงต่างประเทศรัสเซียยินดีที่จีนเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการแก้ปัญหาความขัดแย้งในยูเครน และกล่าวว่าพวกเขาเห็นคุณค่าของ “แนวทางที่สมดุล” ของปักกิ่ง อย่างไรก็ตาม Lavrov กล่าวว่าแผนสันติภาพของจีนไม่ได้ถูกหารือระหว่างการประชุมกับ Wang Yi [Reuters] การเดินทางไปกรุงมอสโกของนักการทูตระดับสูงสุดของจีนนั้น เกิดขึ้นพร้อมกับการเยือนกรุงเคียฟของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ไม่ได้ประกาศล่วงหน้า เพื่อแสดงการสนับสนุนยูเครนก่อนวันครบรอบหนึ่งปีการรุกรานยูเครนของรัสเซีย การเดินทางของ Wang YI ยังเกิดขึ้นในขณะที่สหรัฐฯ ระบุว่าจีนกำลังพิจารณาที่จะส่งมอบอาวุธให้รัสเซียเพื่อทำสงครามในยูเครน ซึ่งเป็นคำกล่าวอ้างที่ปักกิ่งปฏิเสธอย่างหนักแน่น ขณะที่ Wang Yi อยู่ในยุโรป Putin ประกาศว่ากำลังระงับการมีส่วนร่วมของรัสเซียในสนธิสัญญาลดอาวุธนิวเคลียร์ START ฉบับใหม่ กับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการบ่อนทำลายสนธิสัญญาฉบับสุดท้ายที่เหลืออยู่ที่ควบคุมคลังแสงนิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกสองแห่ง [CNN 2] [CNN 3] การพบกับ Macron หนึ่งสัปดาห์ก่อนการเยือนกรุงมอสโก Wang Yi ได้พบกับประธานาธิบดี Emmanuel Macron ของฝรั่งเศส และ Catherine Colonna รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสที่กรุงปารีส เพื่อหารือเกี่ยวกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน ความมั่นคง ประเด็นเกี่ยวกับสภาพอากาศ และโครงการทวิภาคี ทั้งสองฝ่ายมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการเจรจาสันติภาพและสนับสนุนการหยุดยิงในยูเครน อย่างไรก็ตาม Wang Yi ปฏิเสธที่จะรับฟังเสียงเรียกร้องของยุโรปให้ประณามการทำสงครามของรัสเซีย ในขณะเดียวกัน เขากล่าวว่า จุดยืนของจีนเกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครนนั้น “อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงและเป็นกลาง” [France Diplomacy] [Ministry of Foreign Affairs 1, China] [Ministry of Foreign Affairs, China 2] เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่กรุงโรม Wang Yi ได้พบกับรัฐมนตรีต่างประเทศอิตาลี Antonio Tajani และประธานาธิบดี Sergio Mattarella เพื่อหารือเกี่ยวกับสงครามในยูเครน และการต่ออายุบันทึกความเข้าใจที่โรมและปักกิ่งได้ลงนามเมื่อปี 2562 เกี่ยวกับโครงการ One Belt One Road อิตาลีให้น้ำหนักกับโครงการ Belt and Road อิตาลีเป็นประเทศ G7 เพียงประเทศเดียวที่เข้าร่วมโครงการโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาระดับโลกมูลค่าหลายพันล้านของจีน อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี Giorgia Meloni ได้เรียกบันทึกความเข้าใจนี้ว่า “ความผิดพลาดครั้งใหญ่” และทันทีที่เธอขึ้นสู่อำนาจในเดือนกันยายน 2565 เธอกล่าวว่า เธอตั้งใจที่จะถอนการรับรองของอิตาลีภายในสิ้นปี 2566 ก่อนวันหมดอายุและการต่ออายุอัตโนมัติในเดือนมีนาคม 2567 ในขณะที่ Wang Yi พยายามสร้างความมั่นใจให้กับรัฐบาลอิตาลีชุดใหม่ถึงความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของโครงการ Belt and Road โรมกล่าวว่ายังไม่มีการตัดสินใจอย่างเป็นทางการ และเสริมว่า "การยุติอย่างนุ่มนวล" มีความเป็นไปได้ [Decode 39] [Il Foglio, in Italian] [La Repubblica, in Italian] สร้างความสัมพันธ์กับบูดาเปสต์ ที่กรุงบูดาเปสต์ Wang Yi ได้พบกับนายกรัฐมนตรี Victor Orban ของฮังการี และ Peter Szijjarto รัฐมนตรีต่างประเทศ ในวันที่ 19 และ 20 กุมภาพันธ์ โดยได้มีการหารือเกี่ยวกับสงครามในยูเครนและยืนยันอีกครั้งถึงความตั้งใจที่จะทำงานร่วมกับ “ชาติที่รักสันติภาพทั้งหลาย” เพื่อหาหนทางยุติความขัดแย้งในยูเครน Wang YI กล่าว ไม่นานก่อนที่จะพบกับWang Yi Orban กล่าวว่านาโต้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประเทศของเขา แต่ยังย้ำว่ารัฐบาลฮังการีจะไม่เข้าร่วมกับประเทศยุโรปอื่นๆ ในการส่งมอบอาวุธให้กับยูเครน และจะไม่ตัดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับรัสเซีย ในขณะเดียวกัน มีรายงานว่า Szijjarto กล่าวว่าฮังการีจะยังคงเข้าร่วมในโครงการ Belt and Road Szijjarto ยังให้คำมั่นว่าจะเพิ่มความพยายามในการขยายความร่วมมือกับจีนในด้านต่างๆ รวมทั้งเศรษฐกิจและการค้า การลงทุนร่วมกัน และการเกษตร [Reuters] [China.org.cn] [Global Times 2] [AiR, No.8 February/2023, 3] (aml/pk, transl. by tj) กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปตะวันออก ![]() รัสเซีย: ผู้นำทางศาสนาถูกเซ็นเซอร์เนื่องเพราะจุดยืนต่อต้านสงคราม Maxim Nagibin นักบวชออร์ทอดอกซ์ถูกขับออกจากหมู่บ้านเล็กๆ ทางตอนใต้ของรัสเซีย หลังจากที่เขาเทศนาโดยประกาศว่าการที่รัสเซียรุกรานยูเครนเป็นอาชญากรรม [YouTube] “พ่อต้องการแสดงทัศนคติของพ่อให้ผู้คนได้รู้ พ่ออยากแบ่งปันความเจ็บปวดในจิตวิญญาณพ่อ” Nagibin กล่าว “แต่โชคไม่ดีที่ไม่ใช่ทุกคนจะฟังพ่อ จึงเกิดผลที่ตามมาเหล่านี้” มีหลายคนที่เหมือนเขา โดยได้พยายามประณามการกระทำของรัสเซีย และหลังจากแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาและเปิดเผยแล้ว หลายคนจึงถูกจำคุก ถูกขับออกจากชุมชนของตน และในบางกรณีก็ถูกสังหาร เช่นเดียวกับกรณีของ Nagibin นักบวช Ioann Burdin ก็ถูกตัดสินว่ามีความผิดภายใต้ข้อจำกัดการเซ็นเซอร์ในช่วงสงคราม (wartime censorship restrictions) และถูกปรับเป็นเงิน 400 ยูโรในข้อหาเทศนาต่อต้านสงคราม [The Moscow Times] “พิธีสวดสำหรับพ่อไม่ใช่เป็นเพียงพิธีกรรมบางอย่าง แต่เป็นช่วงเวลาที่คนๆ หนึ่งยืนอยู่ต่อหน้าพระเจ้าจริงๆ ซี่งไม่มีทางจะโกหกหรือเสแสร้งได้” Buridin กล่าว [Kommersant] ผู้นำศาสนาคนอื่นๆ มากมายได้แสดงความไม่เห็นด้วยต่อสงครามนี้อย่างเปิดเผย ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจหลังจากที่เคยมีความสัมพันธ์เชิงบวกในอดีตระหว่างคริสตจักรออร์ทอดอกซ์รัสเซียกับประธานาธิบดี [The Moscow Times] (ava/gc, transl. by vv)
รัสเซีย: ศาลยกฟ้องคดีหมิ่นประมาทโดยเจ้าของบริษัท Wagner ศาลในกรุงมอสโกปฏิเสธที่จะพิจารณาทบทวนคดีหมิ่นประมาทซึ่ง Evgeny Prigozhin เจ้าของ Wagner Group ยื่นฟ้องนักข่าว Alexey Venediktov ผู้ตราหน้าเขาว่าเป็นเจ้าของบริษัทเอกชนที่ให้บริการด้านการรบหรือรักษาความปลอดภัย (military company) ศาลปฏิเสธคำร้องขอของ Prigozhin ที่จะให้ทบทวนคำตัดสินก่อนหน้านี้ของศาลเนื่องเพราะ “พฤติการณ์ที่ค้นพบใหม่” ศาลกล่าว ศาลไม่ได้อธิบายเหตุผลว่าทำไมจึงยกฟ้องอุทธรณ์ แต่อาจเป็นเพราะในปี 2014 ตัว Prigozhin เองยอมรับว่าเขาเป็นเจ้าของ Wagner Group [Meduza][Tass] (ava/gc, transl. by vv)
รัสเซีย: สมาชิกสภาฯ ไม่จำเป็นต้องประกาศรายได้ต่อสาธารณชนอีกต่อไปภายใต้กฎหมายฉบับใหม่ของปูติน ประธานาธิบดี Vladimir Putin ของรัสเซียได้ลงนามในร่างกฎหมายฉบับใหม่ที่อนุญาตให้สมาชิกสภานิติบัญญัติปฏิเสธที่จะประกาศรายได้ของตนต่อสาธารณชน สมาชิกสภาฯ เหล่านี้จะยังต้องยื่นประกาศรายได้ แต่ “ไม่ต้องระบุข้อมูลส่วนบุคคล” [Government] รัฐบาลกล่าวว่ามาตรการดังกล่าวมีความจำเป็นเนื่องจากการปฏิบัติการทางทหารของประเทศในปัจจุบัน [Meduza] (ava/gc, transl. by vv)
การรุกรานยูเครนทำให้ผู้คนราว 13.3 ล้านคนต้องพลัดถิ่น การที่รัสเซียรุกรานยูเครนได้ทำให้ประชาชนราว 13.3 ล้านคนต้องพลัดถิ่น Martin Griffiths หัวหน้าฝ่ายมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติกล่าวไว้เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ในการแสดงความคิดเห็นต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เขากล่าวว่าผู้คนเกือบ 8 ล้านคนหนีออกนอกประเทศ และอีก 5.3 ล้านคนต้องพลัดถิ่นที่อยู่ภายในยูเครนนับตั้งแต่เริ่มสงครามในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2022 ผู้คนราว 17.6 ล้านคนหรือร้อยละ 40 ของประชากรยูเครนต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม [DW] (mb/gc, transl. by vv)
ยูเครน: คณะกรรมการเวนิสจะทำการตรวจสอบกฎหมายว่าด้วยชนกลุ่มน้อย คณะกรรมการเวนิสซึ่งเป็นองค์กรที่ปรึกษาซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยรัฐธรรมนูญของสภายุโรป ได้ประกาศเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่าจะเตรียมความคิดเห็นในเรื่องที่ว่า กฎหมายของยูเครนซึ่งเกี่ยวกับชนกลุ่มน้อยในประเทศที่นำมาใช้เมื่อเดือนธันวาคมของปีที่แล้วนั้นสอดคล้องกับมาตรฐานสากลหรือไม่ ร่างกฎหมายของยูเครนที่ได้รับอนุมัติเมื่อวันที่ 13 ธันวาคมนั้น ให้สัตยาบันกฎหมายจากปี 2017 ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อปกป้องคุ้มครองภาษายูเครนและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่เอกลักษณ์ประจำชาติ คณะกรรมการเวนิสได้เรียกร้องให้สังเกตบางแง่มุมของกฎหมายปี 2017 โดยกล่าวว่ากฎหมายนี้ “ล้มเหลวในการสร้างสมดุลที่ยุติธรรม” ระหว่างการส่งเสริมภาษายูเครนกับการคุ้มครองชนกลุ่มน้อย [Human Rights Watch] [El País] โรมาเนียและฮังการีซึ่งมีชนกลุ่มน้อยขนาดใหญ่อยู่ในดินแดนยูเครน ถือว่ากฎหมายดังกล่าว “ไม่สมบูรณ์และเหมาะสม” และรู้สึกเสียใจที่เคียฟไม่ได้ขอความคิดเห็นจากคณะกรรมการเวนิส กระทรวงการต่างประเทศโรมาเนียระบุในถ้อยแถลงฉบับหนึ่งว่า กฎหมายดังกล่าว “อนุญาตให้มีการจำกัดสิทธิ์และเพิกเฉยต่อความต้องการของชุมชนชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในประเทศนั้น” [MTI] “หากชาวยูเครนไม่ถอดนโยบายต่อต้านชนกลุ่มน้อยนี้ นี่ก็จะจำกัดความสามารถของรัฐบาลฮังการีอย่างมากยิ่งในการให้การสนับสนุนแบบใดๆ ก็ตาม แม้แต่ในความขัดแย้งนี้” Peter Szijjarto รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฮังการีกล่าว [Euractiv] การเปลี่ยนแปลงกฎหมายเกี่ยวกับชนกลุ่มน้อยของชาติเป็นหนึ่งในข้อกำหนดที่ตั้งขึ้นโดยคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป (อียู) เพื่อให้เคียฟได้รับสถานะผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิกอียู [Eurointegration] ยูเครนได้สมัครเป็นสมาชิกอียูในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ซึ่งเป็นเวลาไม่นานหลังจากที่รัสเซียเริ่มรุกรานยูเครน (msa/gc, transl. by vv)
ยูเครน: SpaceX ต้องการให้ยูเครนหยุดใช้อินเทอร์เน็ต Starlink ในการใช้โดรน Gwynne Shotwell ประธานบริษัท SpaceX ของ Elon Musk กล่าวเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ว่า บริษัทได้ดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้ยูเครนใช้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านดาวเทียม Starlink จากบริษัทตนสำหรับโดรนที่ใช้ในสงคราม บริการอินเทอร์เน็ตที่ SpaceX จัดหาให้นั้น “ไม่เคยตั้งใจให้ใช้เป็นอาวุธเลย” Shotwell กล่าว กองทัพยูเครนใช้บริการอินเทอร์เน็ตนี้เพื่อควบคุมโดรน ซึ่ง “ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงใดๆ” Shotwell กล่าว พลางเสริมว่าขอบเขตของสัญญามีวัตถุประสงค์เพื่อมนุษยธรรม [Reuters] [EURACTIV] Mykhailo Podolyak ที่ปรึกษาด้านการเมืองของประธานาธิบดี Zelensky กล่าวบนทวิตเตอร์ว่าหลังจากการต่อสู้มาหนึ่งปี SpaceX ควรเลือกข้างและ “เลือกตัวเลือกเฉพาะ” ได้แล้ว (mb/gc, transl. by vv) กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปตะวันตก ![]() เบลเยี่ยม: ภาษีส่วนเกินน้ำมันและก๊าซจะสร้างรายได้ 435 ล้านยูโร การบริโภคน้ำมันและก๊าซส่วนเกินของเบลเยี่ยมจะสร้างรายได้เกือบ 435 ล้านยูโรให้รัฐบาลในฤดูใบไม้ผลินี้ รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของรัฐบาลกลาง Tinne Van der Straeten กล่าวในคณะกรรมการพลังงานของรัฐสภา เงินดังกล่าวจะนำไปสนับสนุนมาตรการที่รัฐบาลนำมาใช้เพื่อช่วยเหลือค่าพลังงานสาธารณะ “เงินทุกยูโรที่เก็บได้จากภาษีกำไรส่วนเกินจะคืนให้ครอบครัวและบริษัทเต็มจำนวน” Van der Straeten กล่าว [BrusselsTimes] Fluxys ผู้ดำเนินการกริดก๊าซของเบลเยี่ยม ได้โอนเงินสนับสนุนจำนวน 300 ล้านยูโรในช่วงกลางเดือนมกราคม เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ บริษัทต่างๆ ที่ซื้อขายน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมได้รับใบแจ้งหนี้สำหรับครึ่งแรกของปี 2565 เป็นจำนวนเงินมากกว่า 134.5 ล้านยูโร ทั้งนี้ เรื่องภาษีกำไรส่วนเกินสำหรับบริษัทผลิตไฟฟ้ามีความยากลำบากมากขึ้น และรัฐบาลไม่คาดว่าจะมีการจ่ายเงินก้อนแรกจนกว่าจะถึงฤดูใบไม้ร่วง [BrusselsTimes] [gt/gc, transl. by tj]
เยอรมนี: ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจเตือนการพึ่งพาการค้ากับจีน ความสัมพันธ์ทางการค้าของเยอรมนีกับจีนถือเป็นความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น โดยผู้เชี่ยวชาญ เห็นว่าประเทศในเอเชียนี้ เป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเยอรมนีเป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน โดยการค้าเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2565 ตามข้อมูลของ Federal Statistical Office [Reuters] [Tagesschau] [ZDF] การนำเข้าของเยอรมนีจากจีนเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 30 ในปี 2565 ในขณะที่การส่งออกเติบโตเพียงร้อยละ 3 ทำให้ขาดดุลการค้าประมาณ 84 พันล้านยูโร ตามรายงานของ German Economic Institute การขาดดุลการค้านี้สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งตอนนั้น อยู่ที่ 2.4 หมื่นล้านยูโร [Tagesschau] การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของการขาดดุลการค้าเป็น "ปัญหา" และเป็น "ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์" Jurgen Matthes จากสถาบัน German Economic Institute กล่าว [ZDF] Lukas Menkhoff หัวหน้าแผนกเศรษฐกิจโลกของสถาบัน German Institute for Economic Research กล่าวว่า "สงครามรัสเซียกับยูเครนได้แสดงให้เห็นว่าการพึ่งพาสินค้าโภคภัณฑ์สามารถนำมาใช้เป็นอำนาจต่อรองทางการเมืองโดยระบอบเผด็จการได้" เศรษฐกิจของเยอรมนีอาจถูก “แบล็คเมล์ หากจีนโจมตีไต้หวัน” [Reuters] กระทรวงต่างประเทศเยอรมนีกล่าวเมื่อปลายปี 2565 ว่ากำลังดำเนินการเกี่ยวกับ “ยุทธศาสตร์จีน” ใหม่ ซึ่งอาจเข้มงวดมากขึ้นเกี่ยวกับกฎระเบียบสำหรับบริษัทที่ทำการค้ากับจีน และมีบทบาทมากขึ้นในด้านสิทธิมนุษยชน [Europe Monthly December 2022] (mb/gc, transl. by tj)
เนเธอร์แลนด์: คณะกรรมการกฤษฎีกาต่อต้านการห้ามให้การบำบัดเพื่อเปลี่ยนเพศ คณะกรรมการกฤษฎีกาของเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ปรึกษาของรัฐบาล มีท่าทีต่อต้านความพยายามของรัฐสภาของประเทศที่จะห้ามการบำบัดเพื่อเปลี่ยนเพศเป็นเกย์ ตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ไม่มีเหตุผลเพียงพอในการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาโดยอนุมัติคำสั่งห้าม ซึ่งจะเป็นการขัดต่อสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ที่เกี่ยวข้อง คณะกรรมการกฤษฎีกาได้แนะนำให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชี้แจงให้ชัดเจนว่าเหตุใดการดำเนินการเช่นนี้จึงมีความสำคัญ และให้คำอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อเสนอ [NL Times] พรรคการเมืองของเนเธอร์แลนด์ได้เสนอร่างกฎหมายที่ลงโทษทางอาญาการบำบัดเพื่อเปลี่ยนเพศเป็นเกย์ ซึ่งเป็นการบำบัดที่มีวัตถุประสงค์เพื่อปรามรสนิยมทางเพศหรืออัตลักษณ์ทางเพศของผู้คน ด้วยการปรับหรือจำคุก มีการเสนอห้ามในปี 2562 แต่รัฐบาลชุดก่อนไม่พร้อมที่จะรับเรื่องนี้มาพิจารณา [NL Times] (ava/gc, transl. by tj)
เนเธอร์แลนด์: ที่พักพิงของผู้ลี้ภัยเด็กแออัดมากขึ้น เทศบาลในเนเธอร์แลนด์จำเป็นต้องสร้างพื้นที่พักพิงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วสำหรับผู้ขอลี้ภัยเด็กที่ไม่มีผู้ดูแล Joeri Kapteijns จาก หน่วยงาน Central Agency for the Reception of Asylum Seekers (COA) และ Tanno Klijn จากองค์กรพิทักษ์ Nidos กล่าวกับหนังสือพิมพ์ AD COAจะให้ที่พักพิงแก่เด็กและวัยรุ่นที่ไม่มีผู้ดูแลราว 5,000 คนภายในสิ้นปีนี้ และจะต้องจัดหาที่อีก 2,500 แห่งในเดือนหน้า Kapteijns กล่าวกับหนังสือพิมพ์ [NL Times] COA คาดว่าจะประสบปัญหาการขาดแคลนเตียง 200 เตียงภายในกลางเดือนมีนาคม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสัญญากับโรงแรมหมดอายุ เนื่องจากโรงแรมต้องการให้บริการแก่นักท่องเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ผู้ขอลี้ภัยเด็กที่ใบสมัครได้รับการอนุมัติและได้รับสถานะผู้ลี้ภัยจะย้ายออกจากที่พักพิงของ COA และไปอยู่ในความดูแลของ Nidos แต่จากข้อมูลของ Klijn เด็ก 145 คนอยู่ในบัญชีรายชื่อรอที่อยู่ถาวร และจะมีเพิ่มอีก 20 คนทุกเดือน [NL Times] [gt/gc, transl. by tj]
สหราชอาณาจักร: Downing Street แสวงหาข้อตกลงพิธีสารไอร์แลนด์เหนือ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ Rishi Sunak ยังคงหารืออย่างต่อเนื่องกับพรรค Democratic Unionist Party (DUP) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองอนุรักษ์นิยมของไอร์แลนด์เหนือ เพื่อหาข้อตกลงกับสหภาพยุโรปเกี่ยวกับกฎหลัง Brexit ในไอร์แลนด์เหนือ [BBC] Sir Jeffrey Donaldson ผู้นำพรรค DUP กล่าวว่า เพื่อบรรลุข้อตกลง จำเป็นต้องมีการยินยอมเพิ่มเติมต่อสหภาพยุโรป ข้อเรียกร้องของพรรค DUP รวมถึงการที่สหภาพยุโรปยอมรับกฎหมายและมาตรฐานของสหราชอาณาจักรที่ใช้กับสินค้าที่ซื้อขายภายในไอร์แลนด์เหนือ [BBC] Sunak กล่าวว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะปกป้องสถานะของไอร์แลนด์เหนือในสหราชอาณาจักรและปกป้องข้อตกลงสันติภาพ Good Friday 1998 และดำเนินการค้าเสรีในตลาดสหราชอาณาจักรต่อไป [BBC] โฆษกของ Sunak ยืนยันว่านายกรัฐมนตรีได้หารือกับประธานคณะกรรมาธิการยุโรป Ursula von der Leyen เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ซึ่งการพบปะดังกล่าวกระตุ้นให้เกิดการคาดการณ์ว่าข้อตกลงใกล้จะบรรลุผลแล้ว [The Guardian] พิธีสารไอร์แลนด์เหนือ เจรจาโดย Boris Johnson และมีผลบังคับใช้ในปี 2564 [BBC] (jn/gc, transl. by tj)
สหราชอาณาจักร: รัฐบาลพิจารณาส่งเครื่องบินรบของอังกฤษไปยังยูเครน สหราชอาณาจักรกำลังพิจารณาอย่าง “แข็งขัน” ว่าจะจัดหาเครื่องบินรบให้ยูเครนหรือไม่ หลังจากได้รับการร้องขอจากประธานาธิบดียูเครน Volodymyr Zelensky ให้ช่วยเหลือทางทหารมากขึ้น ซึ่งสำนัก Downing Street ชี้แจงว่าจะไม่ส่งเครื่องบินขับไล่ไปยังยูเครนหากมีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของอังกฤษ [The Telegraph] [The Guardian] [Forbes][Breaking Defence][Wall Street Journal] ในแถลงการณ์จากสำนักนายกรัฐมนตรีอังกฤษ Rishi Sunak นายกรัฐมนตรีให้คำมั่นว่าจะ “สนับสนุนข้อเสนอการฝึกกองทหารยูเครนโดยสหราชอาณาจักร รวมถึงขยายไปยังนักบินขับไล่ไอพ่น เพื่อให้แน่ใจว่ายูเครนสามารถปกป้องน่านฟ้าของตนได้ในอนาคต” [The Telegraph] [The Guardian] [Forbes][Breaking Defence][Wall Street Journal] สถานเอกอัครราชทูตรัสเซีย ณ กรุงลอนดอนออกแถลงการณ์เตือนสหราชอาณาจักรว่าการส่งเครื่องบินรบไปยังยูเครนจะ “ส่งผลทางทหารและการเมืองต่อทวีปยุโรปและทั่วโลก” [The Telegraph] [The Guardian] [Forbes][Breaking Defence][Wall Street Journal] (cl/gc, transl. by tj) กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ ![]() แอลเบเนีย: พรรคฝ่ายค้านประท้วงต่อต้านรัฐบาลในกรุงติรานา พรรคฝ่ายค้านของแอลเบเนียได้จัดการประท้วงนอกรัฐสภาที่กรุงติรานาเพื่อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี Edi Rama ลาออก เนื่องจากข้อกล่าวหาเรื่องการคอร์รัปชั่นและการบริหารเศรษฐกิจของประเทศที่ผิดพลาด [Euractiv] การประท้วงมีขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ จัดขึ้นโดยอดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปไตยขวาจัด Sali Berisha แม้จะมีกองกำลังตำรวจอยู่มากมายในบริเวณดังกล่าว แต่ก็ยังมีการโยนดอกไม้ไฟและระเบิดควัน [Euractiv][Euractiv] ผู้ประท้วงอ้างว่า Rama มีส่วนพัวพันในเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับ Charles McGonigal อดีตเจ้าหน้าที่ FBI Counter-Intelligence ที่ถูกตั้งข้อหารับเงินจากตัวแทนท้องถิ่นชาวแอลเบเนีย [Euractiv] “ดังนั้น ข้าพเจ้าขอบอกท่านว่า ควรปฏิบัติตามกฎและกฎหมาย และเคารพสิทธิของฝ่ายค้าน” Berisha กล่าว “มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 750,000 คนที่ถูกระงับสิทธิในรัฐสภา เราจะไม่มีวันอดทนกับสิ่งนี้ ขอให้การปฏิวัติจงเจริญ ขอให้การต่อต้านจงเจริญ ขอให้ทุกคนจงเจริญ” (jn/gc, transl. by tj)
บัลแกเรีย: แผนการเข้าเป็นสมาชิกอียูประสบปัญหาในข้อกล่าวหาว่าบ่อนทำลายรัฐสภา แผนการเข้าเป็นสมาชิกอียูของบัลแกเรียเพื่อเข้าร่วมสหภาพยุโรปกำลังถูกทำลายโดยการต่อสู้แข่งขันทางการเมืองในรัฐสภาของประเทศ ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวหาอีกฝ่ายว่าทำการบ่อนทำลาย พรรคสายกลาง We Continue the Change (WCC) และพรรคเดโมแครตบัลแกเรีย (DB) ได้กล่าวหาอีกห้ากลุ่มในรัฐสภาว่าสมรู้ร่วมคิดกันต่อต้านการยอมรับบัลแกเรียเข้าเป็นสมาชิกยูโรโซน พวกเขาได้ประกาศยืนยันอย่างหนักแน่นภายหลังจากสมาชิกรัฐสภาหลายคนงดออกเสียงในร่างกฎหมายสำคัญสำหรับเส้นทางเข้าสู่ยูโรโซนของบัลแกเรีย ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการกล่าวหากันดังกล่าว [Novinite] พรรค GERB และพรรค DPS ที่สนับสนุนยุโรป พร้อมด้วยพรรคสังคมนิยม Bulgarian Eurosceptic, พรรค Revival และพรรค Bulgarian Rise ไม่ได้ลงคะแนนเสียงเพื่อเปลี่ยนแปลงกฎหมาย, ข้อบังคับ และคำประกาศด้านการประกันภัย (Insurance Code) ของบัลแกเรีย ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญสำหรับการยอมรับบัลแกเรียเข้าสู่ยูโรโซน [Novinite] Martin Dimitrov ส.ส. พรรค DB และประธานคณะกรรมการเศรษฐกิจ แสดงความไม่พอใจต่อการที่พรรคเหล่านั้นปฏิเสธการลงคะแนน เขากล่าวว่า “การไม่ [เข้าสู่] ยูโรโซนและบอกว่าคุณชอบสกุลเงินยูโรนั้นเป็นการฉวยโอกาสทางการเมือง” Alexander Ivanov ซึ่งเป็นหนึ่งในสอง ส.ส. พรรค GERB ที่อยู่ในที่ประชุมการลงคะแนนนั้นด้วย ปกป้องพฤติกรรมของพรรค โดยระบุข้อกังวลเกี่ยวกับผลกระทบด้านลบของร่างกฎหมายดังกล่าวที่มีต่อการเพิ่มขึ้นของค่าประกันภัยความรับผิดทางแพ่งสำหรับผู้ขับขี่ชาว บัลแกเรีย [Euractiv] (jk/gc, transl. by vv)
เซอร์เบีย: นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าการคว่ำบาตรรัสเซียเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการยอมรับเข้าเป็นสมาชิกอียู Ana Brnabic นายกรัฐมนตรีเซอร์เบียกล่าวเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ว่าการที่เบลเกรดปฏิเสธที่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียเนื่องเพราะรัสเซียรุกรานยูเครนนั้น เป็นอุปสรรคสำคัญในยอมรับเซอร์เบียเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) [Reuters] Brnabic กล่าวว่าการเข้าร่วมกับอียูในการคว่ำบาตรรัสเซียเป็น “เงื่อนไขที่สำคัญที่สุด” จุดยืนของเบลเกรดที่มีต่อรัสเซียได้กระทบต่อสถานะการเป็นพันธมิตรระหว่างเซอร์เบียกับอียูในเรื่องนโยบายด้านต่างประเทศและกลาโหมโดยทั่ วไป Brnabic ยังกล่าวขอโทษต่อสาธารณชนอีกด้วย หลังจากเว็บไซต์ของรัฐบาลเรียกคอซอวอว่าสาธารณรัฐคอซอวอ ปัจจุบันเซอร์เบียไม่ยอมรับว่าคอซอวอเป็นประเทศเอกราช [Radio Free Europe] (lc/gc, transl. by vv) กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปใต้ ![]() อิตาลี: ชัยชนะในการเลือกตั้งระดับภูมิภาคสนับสนุนรัฐบาลผสมฝ่ายขวาจัดของนายกฯ Meloni สถานะของรัฐบาลผสมฝ่ายขวาจัดของนายกรัฐมนตรี Giorgia Meloni แห่งอิตาลีได้รับการเสริมความแข็งแกร่ง หลังจากได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งระดับภูมิภาคที่สำคัญอันเป็นการเลือกตั้งทดสอบครั้งแรกนับตั้งแต่ได้สร้างความวิตกให้แก่พวกเสรีนิยม ทั่วยุโรปด้วยการขึ้นสู่ตำแหน่งโดยได้รับคะแนนเสียงจำนวนมากในเดือนกันยายน อย่างไรก็ตาม มีจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์น้อยเป็นประวัติการณ์ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ในแคว้นลาซีโอที่ตั้งอยู่ทางตะวันตก ซึ่งรวมถึงกรุงโรม และในแคว้นทางตอนเหนืออันมั่งคั่งของลอมบาร์ดีที่รวมถึงมิลานซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเงินด้วย [Reuters] [Bloomberg] รัฐบาลผสมฝ่ายขวาซึ่งปกครองอิตาลีในระดับชาตินั้นได้รับคะแนนเสียงประมาณร้อยละ 50 ในลาซีโอและมากกว่าร้อยละ 55 ในลอมบาร์ดี ผลการเลือกตั้งเหล่านี้หมายความว่าพวกอนุรักษ์นิยมตอนนี้มีหน้าที่ดูแล 15 แคว้นของอิตาลี (จากทั้งหมด 20 แคว้น) [Reuters] แม้จะมีจำนวนผู้มาออกเสียงเลือกตั้งน้อย นั่นคือร้อยละ 37 ในลาซีโอและร้อยละ 41 ในลอมบาร์ดี แต่ Meloni ก็เขียนบนทวิตเตอร์ว่า “ผลการเลือกตั้งนี้รวมฝ่ายกลาง-ขวาให้เป็นหนึ่งและเสริมความแข็งแกร่งให้กับงานของรัฐบาล” [Reuters] [ANSA] Attilio Fontana จากพรรคฝ่ายขวา League ซึ่งเป็นพรรคที่มีอิทธิพลน้อยกว่าพรรคอื่นๆ (junior partner) ในรัฐบาลผสมของ Meloni ได้รับเลือกใหม่อีกครั้งให้เป็นประธานแคว้นลอมบาร์ดี ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เขาได้ดำรงมานับตั้งแต่ปี 2018 ในแคว้นลาซิโอนั้น ผู้สมัครฝ่ายขวา Francesco Rocca ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลผสมของ Meloni ได้เป็นประธานแคว้น [Bloomberg] ในการเลือกตั้งรัฐสภาของประเทศเมื่อเดือนกันยายนนั้น พรรค Brothers of Italy ของ Meloni ได้รับชัยชนะอย่างขาดลอยในการเปลี่ยนทิศทางไปสู่ฝ่ายขวาอันทำให้พวกเสรีนิยมผิดหวัง แต่สร้างความปีติยินดีให้แก่พวกชาตินิยมในยุโรป [Europe Monthly October 2022] [Europe Monthly November 2022] (km/pk, transl. by vv)
อิตาลี: อดีตนายกฯ Berlusconi พ้นผิดในคดีติดสินบน อดีตนายกรัฐมนตรี Silvio Berlusconi ของอิตาลีได้พ้นผิดจากข้อหาให้สินบนแก่พยานเพื่อให้การเท็จในคดีค้าประเวณีผู้เยาว์ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ คำตัดสินเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์โดยศาลแห่งหนึ่งในเมืองมิลานมีขึ้นหลังจากผู้พิพากษาท่านหนึ่งกล่าวว่า มีการกล่าวหาว่าเกิดข้อผิดพลาดทางกฎหมายขึ้นในวิธีที่อัยการได้ร่างคดีที่มีระยะเวลาหกปีซึ่ง Berlusconi ถูกกล่าวหาว่าจ่ายเงินให้พยานเพื่อให้การเท็จในการพิจารณาคดีครั้งก่อน เมื่อตอนที่เขาถูกตั้งข้อหาว่าได้จ่ายค่าบริการทางเพศให้กับวัยรุ่นสตรีที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ศาลมิลานตัดสินว่า Berlusconi ไม่มีประเด็นที่จะต้องให้การแก้ฟ้อง (had no case to answer) [Reuters] [The Independent] [CBS News] อดีตนายกรัฐมนตรีที่เคยดำรงตำแหน่งถึงสามสมัยผู้นี้เป็นผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยม Forza Italia ซึ่งเป็นพรรคหนึ่งในรัฐบาลผสมที่กำลังปกครองอิตาลี เขากล่าวว่าเขา “โชคดีมากที่ได้รับการตัดสินโดยผู้พิพากษาที่รู้วิธีที่จะคงความเป็นอิสระ ความเป็นกลาง และความยุติธรรม” [Reuters] [Agenzia Nova] นายกรัฐมนตรี Giorgia Meloni แห่งพรรคฝ่ายขวา Brothers of Italy ที่กำลังปกครองประเทศ กล่าวว่า “การพ้นผิดของ Silvio Berlusconi เป็นข่าวยอดเยี่ยมที่ยุติการพิจารณาคดีอันยาวนานที่ได้ส่งผลสะท้อนสำคัญต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างแข็งขันของผู้คน (political life) และต่อธุรกิจที่นำผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดและเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งรวมถึงธุรกิจเกี่ยวกับการประกันชีวิต (institutional life) ของอิตาลีด้วย” [EuroNews] [Agenzia Nova] ในที่สุด Berlusconi ก็พ้นผิดในคดีแรกหลังจากศาลอุทธรณ์ตัดสินว่าแม้เขาจะได้จ่ายเงินให้กับวัยรุ่นคนหนึ่งเพื่อมีเพศสัมพันธ์ แต่ก็ไม่มีหลักฐานที่พิสูจน์ว่าเขารู้ว่าเธอยังไม่บรรลุนิติภาวะ [Reuters] [The Independent] [Euractiv] (rmp/pk, transl. by vv)
โปรตุเกส: ผลสอบสวนพบเด็กเกือบ 5,000 คนอาจถูกกระทำทารุณโดยสมาชิกคริสตจักร คณะกรรมาธิการที่ตั้งขึ้นโดยบิชอปได้กล่าวเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ว่าเด็กอย่างน้อย 4,815 คนอาจถูกกระทำทารุณทางเพศโดยสมาชิกคริสตจักรคาทอลิกโปรตุเกสมาตั้งแต่ปี 1950 รายงานฉบับหนึ่งของคณะกรรมาธิการอิสระเพื่อการศึกษาการกระทำทารุณต่อเด็กในคริสตจักรคาทอลิก ซึ่งตั้งขึ้นเมื่อปีก่อน ระบุว่าการค้นพบนี้เป็นเพียง “ปัญหาเล็กๆ ของปัญหาที่ใหญ่กว่ามาก (tip of the iceberg)” เท่านั้น [AP] [Reuters] จากการสืบสวนพบว่าผู้กระทำความผิดส่วนใหญ่ นั่นคือร้อยละ 77 เป็นนักบวช และเหยื่อส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 10 ถึง 14 ปี [Reuters] [RTVE] จิตแพทย์เด็ก Pedro Stercht ซึ่งเป็นผู้ประสานงานของรายงานดังกล่าว กล่าวว่าขณะนี้ได้มีการรวบรวมคำให้การของพยานจำนวน 512 ฉบับ และได้ส่ง 25 ข้อกล่าวหาไปยังสำนักงานอัยการแล้ว [RTVE] [AP] [Reuters] แม้ว่าคดีส่วนใหญ่จะได้หมดอายุความแล้วภายใต้กฎหมายกำหนดระยะเวลาการบังคับตามกฎหมาย (statue of limitations) แต่คณะกรรมาธิการก็กำลังจัดทำรายชื่อผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำทารุณที่ยังคงเป็นนักบวชอยู่ [Reuters] [RTVE] Hans Zoller เจ้าหน้าที่วาติกันที่รับผิดชอบคดีกระทำทารุณทางเพศต่อเด็กกล่าวว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้อง “รับฟังผู้ที่ตกเป็นเหยื่อต่อไป เพราะเรื่องจะไม่จบแค่นี้” [Reuters] คณะกรรมาธิการโปรตุเกสเริ่มทำการสอบสวนหลังจากการไต่สวนในฝรั่งเศสได้สรุปผลในเดือนตุลาคม 2021 ว่าพวกพระชาวฝรั่งเศสได้กระทำทารุณทางเพศต่อเด็กมากกว่า 200,000 คนในช่วงเจ็ดทศวรรษที่ผ่านมา [Europe Monthly December 2021] (msa/pk, transl. by vv)
สเปน: กฎหมายใหม่เพิ่มสิทธิให้แก่คนข้ามเพศและสิทธิการทำแท้งสำหรับวัยรุ่น รัฐสภาสเปนได้ผ่านกฎหมายที่ให้วัยรุ่นทำการเปลี่ยนเพศที่ถูกระบุอย่างเป็นทางการของตนและทำแท้งได้ง่ายขึ้น สเปนยังเป็นประเทศแรกในยุโรปที่อนุญาตให้มีการลาด้วยเหตุมีประจำเดือนได้อีกด้วย กฎหมายฉบับใหม่นี้ซึ่งได้รับการอนุมัติเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ อนุญาตให้ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไปเปลี่ยนเพศที่ถูกระบุไว้ในบัตรประจำตัวประชาชนของตนได้ จนถึงขณะนี้ คนข้ามเพศจำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่ามีความทุกข์ทรมานใจที่เกิดจากความไม่เข้ากันระหว่างอัตลักษณ์ทางเพศ, การแสดงออกทางเพศ และเพศกำเนิด (gender dysphoria) ก่อนจึงจะสามารถดำเนินการดังกล่าวได้ ผู้ที่มีอายุสิบสี่ถึง 16 ปีจะสามารถเปลี่ยนเพศที่ระบุในบัตรประชาชนของตนได้ก็โดยได้รับความยินยอมจากบิดามารดาหรือผู้ปกครองตามกฎหมาย [The Guardian] [France 24] [NPR] Irene Montero รัฐมนตรีกระทรวงความเสมอภาคแห่งพรรคฝ่ายซ้าย Podemos ซึ่งเป็นพรรคหนึ่งในรัฐบาลผสมที่กำลังปกครองประเทศ กล่าวว่า กฎระเบียบใหม่นี้ “หยุดการปฏิบัติต่อสภาวะตามความเป็นจริงของคนข้ามเพศ (trans realities) ว่าเป็นสิ่งผิดปกติ คนข้ามเพศไม่ใช่คนป่วย พวกเขาคือคน, จบ พวกเขาเป็นอย่างที่เขาเป็น, จบ…รัฐยอมรับสิ่งนั้นนับจากวันนี้ไป” [The Guardian] [Thred] Carla Antonelli นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิ LGBTQ+ และสตรีข้ามเพศคนแรกที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในสภานิติบัญญัติของสเปน ยกย่องกฎหมายฉบับใหม่นี้ว่าเป็น “เหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์” [France 24] [EuroNews] อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับการต่อต้านจากบรรดาพรรคฝ่ายขวาและได้สร้างความแตกแยกขึ้นภายในพรรคแรงงานสังคมนิยมสเปนซึ่งเป็นฝ่ายกลาง-ซ้ายที ่กำลังปกครองประเทศ [The Guardian] [Thred] กฎหมายนี้ยังห้ามสิ่งที่เรียกว่าการบำบัดแก้เพศวิถี (conversion therapy) สำหรับผู้ที่เป็น LGBTQ+ และเสนอการให้บริการช่วยเหลือจากรัฐแก่ผู้หญิงที่เป็นโสด, ไบเซ็กช่วล และเลสเบี้ยนที่ต้องการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ด้วย [Spain in English] [PA News/Wandsworth Guardian] ในการเปลี่ยนแปลงขั้นต่อไป ผู้หญิงที่ต่อสู้กับอาการปวดประจำเดือนอย่างรุนแรงจะได้รับประกันการลาด้วยเหตุมีประจำเดือนโดยได้รับค่าจ้างสูงสุดถึง 5 วันต่อเดือน ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในช่วงมีประจำเดือนจะให้บริการฟรีที่โรงเรียนและเรือนจำ [The Guardian] [Al Jazeera] [ABC News] กฎหมายนี้ยังยกเลิกมาตรการที่พวกอนุรักษ์นิยมนำมาใช้ในปี 2015 ในเรื่องที่ว่าผู้หญิงที่มีอายุต่ำกว่า 17 ปีไม่สามารถยุติการตั้งครรภ์ได้หากไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง [Reuters] (rmp/pk, transl. by vv) กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปกลาง ![]() ฮังการี: เจ้าหน้าที่อียูกล่าวว่า ความเป็นอิสระของศาลจะต้องได้รับการสนับสนุน ‘ในเวลาอันสั้นนี้’ เพื่อเข้าถึงกองทุนฟื้นฟูได้ สำนักข่าวรอยเตอร์ได้อ้างคำกล่าวของ Vera Jourova รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ว่าฮังการีต้องสนับสนุนความเป็นอิสระของฝ่ายตุลาการของประเทศ “ในเวลาอันสั้นนี้” เพื่อเข้าถึงกองทุนฟื้นฟูหลังสถานการณ์โควิดที่มีมูลค่าหลายพันล้านยูโรของอียูที่ถูกระงับเนื่องจากข้อกังวลด้านหลักนิติธรรม ปีที่แล้ว บรัสเซลส์ได้อนุมัติแผนฟื้นฟูหลังโควิด-19 ของฮังการีอย่างมีเงื่อนไข แต่ระงับเงินช่วยเหลือจำนวน 5.8 พันล้านยูโรจนกว่าบูดาเปสต์จะดำเนินการปฏิรูปในด้านความเป็นอิสระของศาลและจัดการแก้ปัญหาการทุจริต [Europe Monthly January 2023] ฮังการียังสามารถได้รับเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำอีก 9.6 พันล้านยูโรด้วยหากฮังการีทำตามเงื่อนไขที่กำหนดโดยคณะกรรมาธิการยุโรป [Reuters] “พวกเขาจะต้องนำกฎหมายเหล่านั้นมาใช้ ซึ่งจะสร้างความแข็งแกร่งให้กับสถานะของผู้พิพากษา และจะเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการต่อต้านการทุจริต” Jourova กล่าว “สิ่งเหล่านี้เป็นรูปธรรมมากซึ่งรัฐบาลฮังการีได้สัญญาว่าจะแก้ไขหรือนำมาใช้ในเวลาอันสั้นนี้…เวลาไม่เข้าข้างพวกเขาเลย” [Reuters] รัฐมนตรีฮังการีที่รับผิดชอบในการเจรจาด้านเงินทุนกับบรัสเซลส์กล่าวว่า “ผมเชื่อมั่นว่าชุดกฎหมาย (legislative package) นี้จะเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีพอ (...) และจะมีการบรรลุข้อตกลง” เขากล่าว [Vilaggazdasag] เขายังกล่าวเสริมว่ารัฐสภาฮังการีมีเวลาจนถึงเดือนมีนาคมในการผ่านกฎหมายเกี่ยวกับความเป็นอิสระของศาล [Reuters] (msa/pk, transl. by vv)
โปแลนด์: ประธานาธิบดีส่งร่างกฎหมายปฏิรูปเพื่อให้ศาลสูงสุดพิจารณา ประธานาธิบดี Andrzej Duda ของโปแลนด์ได้ส่งร่างกฎหมายปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อปลดล็อกกองทุนของอียู ไปยังศาลสูงสุดของประเทศเพื่อทำการพิจารณา [Reuters] [Politico] [Deutsche Welle] [Notes From Poland] ในท่ามกลางสถานการณ์ที่ไร้ทางออก (standoff) ระหว่างวอร์ซอกับสหภาพยุโรปนั้น ร่างกฎหมายที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐสภามีเป้าหมายเพื่อแก้ไขข้อกังวลในเรื่องความเป็นอิสระของศาลในโปแลนด์ และปูทางไปสู่การปล่อยเงินจำนวน 35.4 พันล้านยูโรในกองทุนฟื้นฟูหลังสถานการณ์โควิดจากบรัสเซลส์ไปให้วอร์ซอ [Europe Monthly February 2023] รัฐบาลของโปแลนด์ซึ่งนำโดยพรรคฝ่ายขวา Law and Justice (PiS) ที่ได้รับความนิยม หวังว่ากฎหมายฉบับใหม่นี้จะบรรลุ “เหตุการณ์สำคัญ” อันเป็นจุดสำคัญที่ตกลงไว้กับคณะกรรมาธิการยุโรปว่าเป็นเงื่อนไขที่ต้องทำให้สำเร็จก่อนเพื่อจะได้รับเงินทุนดังกล่าว [Europe Monthly February 2023] อย่างไรก็ตาม แทนที่จะลงนามเพื่อทำให้ร่างกฎหมายนี้เป็นกฎหมาย Duda ได้ส่งร่างกฎหมายไปยังศาลรัฐธรรมนูญของโปแลนด์เพื่อประเมินว่ากฎหมายนี้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญของประเทศหรือไม่ [Reuters] [Politico] [Deutsche Welle] Duda กล่าวว่าร่างกฎหมายนี้ “ก่อให้เกิดความขัดแย้งทางรัฐธรรมนูญอย่างรุนแรง” เขาเสริมว่ากฎหมายนี้ “จะไม่มีผลบังคับใช้จนกว่าศาลจะได้ตัดสินว่าไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ” [Politico] [Polish President Andrzej Duda] รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมของโปแลนด์ Zbigniew Ziobro สนับสนุนการตัดสินใจของประธานาธิบดี โดยกล่าวว่าการลงนามเพื่อทำให้ร่างกฎหมายกลายเป็นกฎหมายนั้น “จะไม่แก้ปัญหาอะไรเลย” แต่จะ “ทำให้ความระส่ำระสาย ความวุ่นวาย และความไม่สงบในศาลยุติธรรมของโปแลนด์เลวร้ายลงไปอีก” แทน [Deutsche Welle] การแตกหักในกลุ่มพันธมิตรที่ปกครองประเทศ พรรคสายแข็ง United Poland (Solidarna Polska) ซึ่งเป็นพันธมิตรที่มีอิทธิพลน้อยกว่าในรัฐบาลผสมของประเทศ ได้เคยลงมติคัดค้านร่างกฎหมายฉบับนี้ โดยเน้นให้เห็นการแตกหักภายในกลุ่มพันธมิตรที่ปกครองประเทศ (ruling camp) Ziobro ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรค ได้กล่าวถึงแผนการปฏิรูปกฎหมายนั้นว่าเป็น “นโยบายที่ตั้งอยู่บนการขู่กรรโชกจากบรัสเซลส์” [Europe Monthly February 2023] กฎหมายฉบับใหม่นี้จะป้องกันไม่ให้ผู้พิพากษาถูกลงโทษเนื่องจากตั้งข้อสงสัยและซักถามถึงความชอบธรรมในการแต่งตั้งตุลาการที่พวกเขาเห็นว ่ามีแรงจูงใจทางการเมือง [Europe Monthly February 2023] นักวิจารณ์กล่าวหาพวกนักชาตินิยมที่กำลังปกครองโปแลนด์ว่าทำการแต่งตั้งพันธมิตรให้ดำรงตำแหน่งตุลาการอย่างรีบเร่งและก้าวข้ามลำดับขั้ นตอน ทั้งนี้เพื่อทำให้แน่ใจว่าศาลจะถูกกดดันให้ปฏิบัติตามนโยบายของพรรครัฐบาล ร่างกฎหมายฉบับใหม่นี้จะส่งมอบคดีความผิดทางวินัย (ที่ฟ้อง) ผู้พิพากษาให้กับศาลปกครองสูงสุดของโปแลนด์ แทนที่จะส่งให้กับสภาความรับผิดชอบทางวิชาชีพ (Chamber of Professional Responsibility) ซึ่งจัดการเรื่องเหล่านี้อยู่ในปัจจุบัน [Europe Monthly February 2023] ข้อกังวลเกี่ยวกับหลักนิติธรรม สภานี้เปิดตัวในเดือนกรกฎาคม 2022 เพื่อแทนที่องค์กรตรวจสอบด้านระเบียบวินัย (disciplinary body) สำหรับผู้พิพากษาอันเป็นที่ถกเถียงกัน ซึ่งอียูได้กล่าวว่า (องค์กรนี้) ทำลายความเป็นอิสระทางการเมืองของศาลยุติธรรมโปแลนด์และค่อยๆ ทำลายหลักนิติธรรม [Europe Monthly February 2023] แต่บรัสเซลส์ได้กล่าวว่าสภาใหม่นี้ยังไม่บรรลุผลมากพอที่จะประกันความเป็นอิสระของศาลโปแลนด์ได้ [Europe Monthly February 2023] ในอีกเหตุการณ์ล่าสุด คณะกรรมาธิการยุโรปกำลังฟ้องร้องดำเนินคดีวอร์ซอว์ต่อศาลยุติธรรมของอียูในเรื่องเกี่ยวกับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญโปแลนด์ ซึ่งบรัสเซลส์ระบุว่า (เป็นการ) ท้าทายสถานะสำคัญสูงสุด (primacy) ของกฎหมาย (ที่ใช้) ในกลุ่มนี้ (ดูเรื่องราวที่เขียนแยกต่างหากในฉบับนี้) (ek/pk, transl. by vv)
โปแลนด์: งบประมาณด้านการทหารจะเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดของ NATO โปแลนด์มีแผนที่จะเพิ่มงบประมาณด้านการทหารเป็น 4% ของ GDP ภายในปี ค.ศ. 2023 ซึ่งจะเป็นตัวเลขที่สูงสุดในบรรดาประเทศสมาชิก NATO [BBC News] [Notes From Poland] [Polsat News] [TVP Info] [France24] “สงครามในยูเครนหมายความว่าเราเพิ่มศักยภาพการป้องกันตนเองให้เร็วขึ้น นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมในปีนี้เราต้องพยายามอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในการเพิ่มงบประมาณด้านการทหารของโปแลนด์เป็นสัดส่วน 4% ของ GDP” นายกรัฐมนตรีของโปแลนด์ Mateusz Morawiecki กล่าวเพิ่มเติมว่า “นี่อาจเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดในบรรดาประเทศสมาชิก NATO” [TVP Info] [BBC News] [Notes From Poland] โดยปัจจุบันโปแลนด์จัดสรร 2.4% ของ GDP เป็นงบประมาณสำหรับกองทัพ ซึ่งสูงเป็นอันดับสามในประเทศสมาชิก NATO รองมาจากกรีซและสหรัฐอเมริกา [France24] [BBC News] ทั้งนี้ ในข้อตกลงของ NATO ในปี ค.ศ. 2006 กล่าวว่าประเทศสมาชิกควรจัดสรร 2% ของ GDP เป็นงบประมาณสำหรับการทหาร ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ประเทศสมาชิกส่วนใหญ่ไม่สามารถปฏิบัติตามได้ [BBC News] [Notes From Poland] สงครามในยูเครนทำให้พันธมิตรด้านการทหารอย่าง NATO ต้องมีเจตนารมณ์ใหม่ร่วมกันต่อเป้าหมาย 2% ดังกล่าว โดยประเทศสมาชิกมุ่งหมายจะบรรลุเป้าาหมายดังกล่าวตั้งแต่ปี ค.ศ. 2024 เป็นต้นไป [BBC News] ประเทศตะวันตกหลายประเทศได้จัดซื้อยุทโธปกรณ์จำนวนมากตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 2022 [BBC News] [France24] โปแลนด์ได้จัดทำข้อตกลงอาวุธจากสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ในการซื้อรถถัง และปืนใหญ่เพิ่มเติม รวมทั้งเครื่องบินรบ ตัวปล่อยจรวด และระบบป้องกันภัยทางอากาศ [Notes From Poland] [France24] [BBC News] (ek/pk, transl. by aa)
สโลวาเกีย: อดีตนายกรัฐมนตรีต้องการสร้างแรงจูงใจให้คนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งด้วยเงิน 500 ยูโร ผู้นำพรรครัฐบาลกลาง-ขวา Ordinary People’s party (OLaNO) ของสโลวาเกียเสนอให้เงินรางวัลตอบแทนจำนวน 500 ยูโร สำหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ออกมาใช้สิทธิในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (early parliamentary elections) ของประเทศสโลวาเกียในวันที่ 30 กันยายน เพื่อที่จะส่งเสริมให้คนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยอดีตนายกรัฐมนตรี Igor Matovic ยื่นข้อเสนอดังกล่าวต่อสภาเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ท่ามกลางความกลัวว่าสโลวาเกียจะแยกตัวออกจากกระแสข้างมากในสหภาพยุโรป และโน้มเอียงเข้าหาจุดยืนที่สนับสนุนรัสเซียหากพรรคการเมืองฝ่ายซ้าย Smer และ Hlas ได้ขึ้นมามีอำนาจ [Euractiv] “เรากำลังเผชิญกับความเป็นไปได้ว่าสโลวาเกียอาจจะแยกทางกับสหภาพยุโรปและ NATO เพื่อไปเข้าร่วมกับรัสเซีย” Matovic กล่าวเตือน [Tasr] นอกจากนี้ Branislav Groehling รองประธานของพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามอย่างพรรคขวา-กลาง Freedom and Soldarity (SaS) วิจารณ์แผนของ Motavic ว่าการเสนอแรงจูงใจที่เป็นเงินสำหรับการเลือกตั้งอาจถือเป็น “การทุจริตการเลือกตั้ง” [Rtv] ซึ่ง Motavic ตอบโต้โดยการกล่าวว่าเขาไม่ได้มีเป้าหมายชักจูงให้ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนื่ง แต่เพื่อที่จะ “เพิ่มจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งให้ได้มากที่สุด” เขายังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การเสนอเงินจูงใจจำนวน 500 ยูโร จะใช้งบประมาณประเทศทั้งสิ้น 1.5 พันล้านยูโร หากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 3 ล้านคน ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในเดือนกันยายนนี้ [Tasr] โดย Motavic เพิ่มเติมถึงพรรค Smer และ Hlas ว่า เจ้าหน้าที่ของ Smer และ Hlas จะ “ขโมย” เงินมากกว่าจำนวนดังกล่าว หากพรรคเหล่านั้นได้เข้ามามีอำนาจ เขาอ้างว่าสมาชิกของกลุ่มดังกล่าวได้ยักยอกเงินกว่า 30 พันล้านยูโร ในระหว่างที่พวกเขาเป็นรัฐบาลสมัยที่แล้ว การเสนอเงินจำนวน 1.5 พันล้านยูโรให้กับผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเดือนกันยายนนี้จะคิดเป็นเพียง “5% ของจำนวนเงินในการทุจริตดังกล่าว” [Tasr] พรรค OLaNO ของ Motavic ชนะการเลือกตั้งสภาในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2020 หลังจากประกาศว่าจะทำลายล้างการทุจริตที่เกิดขึ้นจากรัฐบาลสมัยที่แล้วที่นำโดยพรรค Smer ทั้งนี้ Motavic ถูกกดดันให้ลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหลังจากที่ทำข้อตกลงอย่างลับ เกี่ยวกับการขนส่งวัคซีนโควิด-19 ของรัสเซียที่ยังไม่ได้รับการอนุมัติเมื่อปีที่ผ่านมา [Reuters] สำหรับการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนกันยายนนี้ พรรค Smer และ Hlas เป็นฝ่ายนำอยู่ในโพลสำรวจความเห็น โดยหัวหน้าของ พรรค Smer คือ Robert Fico อดีตนายกรัฐมนตรีสามสมัย ค้านการส่งอาวุธให้กับยูเครนและตั้งคำถามต่อการคว่ำบาตรรัสเซีย เมื่อวันที่ 31 มกราคม สมาชิกสภานิติบัญญัติลงคะแนนเสียงในการลดวาระของสภาสโลวาเกียหลังจากเกิดวิกฤติการเมืองเป็นเวลาหลายเดือนภายหลังจากการล่มสลายของพันธม ิตรรัฐบาลกลาง-ขวา การเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้จะมีการเลือกตั้งในเดือนกันยายนแทนกำหนดการเดิมที่จะมีการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2024 [Europe Monthly February 2023] (yt/pk, transl. by aa)
สโลวาเกีย: อดีตรัฐมนตรีมหาดไทยถูกจับกุมข้อหาให้สินบน อดีตรัฐมนตรีมหาดไทยสามสมัย Robert Kalinak แห่งพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายของสโลวาเกียอย่างพรรค Smer-SD ถูกจับกุมโดยหน่วยงานป้องกันอาชญากรรมแห่งชาติ (National Crime Agency – NAKA) ข้อหาให้สินบน [Tasr] เจ้าหน้าที่กล่าวว่า Kalinak จ่ายเงินให้กับอดีตหัวหน้าของหน่วยงานการคลังของสโลวาเกีย Frantisek Imrecze แลกกับการกระทำที่เขาต้องการเป็นการตอบแทน [Slovak Spectator] [Euractiv] โดยในข้อกล่าวหา อดีตรัฐมนตรีมหาดไทยคนดังกล่าวได้ให้มหาเศรษฐี Jozef Brhel เป็นผู้จ่ายเงินให้กับ Imrecze เป็นจำนวน 1.1 พันล้านยูโร ในช่วงปี ค.ศ. 2014 – 2018 เพื่อแลกกับการให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาษีอากรแก่นาย Kalinak [Startitup] ทั้งนี้ นาย Kalinak ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยเขาและผู้นำพรรค Smer Robert Fico กล่าวว่าการสืบสวนคดีของอดีตรัฐมนตรีมหาดไทยดังกล่าวมีแรงจูงใจทางการเมือง [Tvnoviny] [Ujszo] [Nitranoviny] เนื่องจากพรรค Smer – SD นั้นค่อนข้างทำได้ดีในผลโพลสำรวจความเห็นก่อนการเลือกตั้งสภาในเดือนกันยายน [Ta3] โดยทางพรรคได้ขู่ว่าจะยกเลิกการสืบสวนของตำรวจต่อสมาชิกของพรรคถ้าหากพรรคได้ขึ้นสู่อำนาจ [Sme] พรรค Smer ยังได้กล่าวว่าจะยุบหน่วยงานอัยการพิเศษ (Special Prosecutor’s Office – USP) ซึ่งกำลังสืบสวนคดีของ Kalinak [Pluska] (jbn/pk, transl. by aa)
สโลวีเนีย: คู่รักเพศเดียวกันได้รับอนุญาตให้แต่งงานและรับเลี้ยงบุตรบุญธรรม คู่รักเพศเดียวกันในสโลวีเนียจะได้รับสิทธิในการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมหลังจากที่ประเทศได้แก้ไขความหมายทางกฎหมายของคำว่าแต่งงานให้ครอ บคลุมถึงคู่รักเพศเดียวกัน [Slovenian government] การแก้ไขดังกล่าวซึ่งได้รับการอนุมัติเมื่อวันที่ 31 มกราคม อันเป็นผลจากคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญนั้น ได้รับการตอบรับที่ดีจากพรรครัฐบาล Liberal Freedom Movement party และองค์กรด้านความหลากหลายทางเพศ รัฐมนตรีต่างประเทศของสโลวีเนีย Tanja Fajon กล่าวบนโซเชียลมีเดียว่าประเทศของเธอได้เข้าร่วม “สังคมประชาธิปไตยที่ก้าวหน้าและเปิดกว้าง” โดยสถานทูตสโลวีเนียประจำสหรัฐฯ กล่าวเพิ่มเติมว่าสโลวีเนีย เป็นประเทศแรกในยุโรปตะวันออกและคาบสมุทรบอลข่านที่ทำให้การแต่งงานเพศเดียวกันถูกกฎหมาย [Twitter, RTV SLO] ทั้งนี้สืบเนื่องจากการที่รัฐบาลเสรีนิยมได้ขึ้นมามีอำนาจในสโลวีเนียในการเลือกตั้งสภาเมื่อเมษายน ค.ศ. 2022 แทนที่รัฐบาลฝ่ายขวา ในขณะเดียวกัน Natasa Pirc Musar นักรณรงค์ด้านสิทธิผู้มีความหลากหลายทางเพศก็ได้คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อเดือนพฤศจิกายน [Europe Monthly December 2022] ก่อนหน้านี้ คู่รักเพศเดียวกันในสโลวีเนีย สามารถอยู่ร่วมกันในสถานะ civic union ได้ แต่กฎใหม่อนุญาตให้การครองคู่ดังกล่าวเปลี่ยนเป็นการแต่งงานที่กฎหมายรับรอง [Slovenian Government] (pl/pk, transl. by aa) กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปเหนือ ![]() ฟินแลนด์: กฎหมายใหม่ทำให้การเปลี่ยนเพศในทางกฎหมายง่ายขึ้น สภาฟินแลนด์ได้ผ่านกฎหมายที่ทำให้ผู้ใหญ่ (adult) สามารถเปลี่ยนเพศในทางกฎหมายง่ายขึ้น โดยกำจัดเงื่อนไขที่ต้องได้รับการอนุญาตจากแพทย์หรือจิตแพทย์ [Euro News] [Bloomberg] โดยในกฎหมายเก่าซึ่งแก้ไขเมื่อปี ค.ศ. 2002 บุคคลข้ามเพศ (transgender) ต้องพิสูจน์ว่าร่างกายไม่แข็งแรง (infertile) เพียงพอที่จะแปลงเพศที่ถูกต้องตามกฎหมายได้ แต่เงื่อนไขดังกล่าวได้รับการยกเลิกแล้วในปัจจุบัน [GenderGP] นายกรัฐมนตรี Sanna Marin ได้กล่าวก่อนหน้าว่าการปฏิรูปกฎหมายถือเป็นวาระเร่งด่วนของรัฐบาลเธอ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากพรรคร่วมรัฐบาลทั้งห้าของเธอ ทว่าได้รับการต่อต้านจากพรรคฝ่ายค้านฝ่ายขวาอย่างพรรค Finns และพรรค Christian Democrats [Yle] กฎใหม่ดังกล่าวยังได้รับการตอบรับที่ดีจากองค์กรสิทธิมนุษยชนอย่าง Amnesty International โดย Matti Pihlajamaa ที่ปรึกษาด้านสิทธิผู้มีความหลากหลายทางเพศของ Amnesty ฟินแลนด์เรียกการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวว่าเป็น “ก้าวสำคัญในการปกป้องสิทธิของบุคคลข้ามเพศ” [Amnesty International] (rs/pk, transl. by aa)
ไอซ์แลนด์: การขังเดี่ยวถูกใช้มากเกินไป รายงานขององค์กรสิทธิมนุษยชน Amnesty International พบว่าไอซ์แลนด์มีการใช้มาตรการขังเดี่ยว (Solitary confinement) “อย่างแพร่หลายมากเกินไป” ในการคุมขังระหว่างพิจารณาคดี [Iceland Review] รายงานดังกล่าวยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลไอซ์แลนด์จัดการกับการขังเดี่ยวที่ “อันตรายและไม่ชอบธรรม” [Amnesty International] [Iceland Review] ในรายงานระบุว่ามีผู้ต้องขัง 825 คนที่ถูกขังเดี่ยวระหว่างพิจารณาคดีในช่วง ค.ศ. 2012 – 2021 โดย 10 คนในจำนวนนั้นมีอายุเพียง 15 – 17 ปี รายงานยังได้วิจารณ์ไอซ์แลนด์ที่มักใช้มาตรการขังเดี่ยวเป็นเวลานาน รวมถึงกับกลุ่มอ่อนแออย่างเยาวชน และผู้พิการทั้งร่างกายและจิตใจ “ในประเทศเล็กที่มีอัตราผู้ต้องขังโดยทั่วไปและอัตราการคุมขังระหว่างพิจารณาคดีที่ต่ำ ตัวเลขดังกล่าวเป็นที่น่ากังวลอย่างยิ่ง” Amnesty เรียก “การใช้มาตรการขังเดียวที่โหดร้ายทารุณ” ว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยข้อกำหนดเนลสัน แมนเดลาว่าด้วยการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง (UN Nelson Mandela Rules for Treatment of Prisoners) กำหนดว่าการขังเดี่ยวควรใช้ในกรณียกเว้นในฐานะทางเลือกสุดท้าย และใช้ในระยะเวลาที่น้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ข้อกำหนดดังกล่าว ยังได้ห้ามการใช้การกักขังกับผู้พิการทางร่างกายและจิตใจ รายงานของ Amnesty ยังได้เสนอข้อเสนอแนะสำหรับรัฐบาลไอซ์แลนด์ในการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการขังเดี่ยว และยังได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ยุติการใช้การกักขังสำหรับเด็กและผู้พิการเกิน 15 วัน [Iceland Review] (rs/pk, transl. by aa) ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ/ภูมิรัฐศาสตร์/ธรรมาภิบาลของสหภาพยุโรป ![]() สหภาพยุโรป: สมาชิกรัฐสภา 2 คนถูกจับในกรณีฉาวเกี่ยวกับการทุจริต ‘Qatargate’ ท่ามกลางข่าวฉาวที่ทำลายชื่อเสียงสหภาพยุโรป สมาชิกรัฐสภายุโรปอีกสองคนถูกจับในข้อหาทุจริตซึ่งกล่าวหาสมาชิกรัฐสภาดังกล่าวและผู้ช่วยว่าได้รับเงินกว่าล้านยูโรหลายครั้ง จากกาตาร์และโมร็อกโกเพื่อแลกกับอิทธิพลและข้อมูล สำนักงานอัยการท้องถิ่น (Federal Prosecutor’s Office) ของเบลเยียมกล่าวว่า สมาชิกรัฐสภาชาวเบลเยียม Marc Tarabella ซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มสังคมนิยมและประชาธิปไตยในสภายุโรป ถูกคุมขังในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ในข้อกล่าวหาว่าทุจริต ฟอกเงิน และมีส่วนร่วมกับองค์กรอาชญากรรม [FT] ทั้งนี้ ทนายของสมาชิกรัฐสภาชาวอิตาลี Andrea Cozzolino กล่าวในแถลงการณ์ว่านาย Cozzolino ถูกคุมขังหนึ่งวันก่อนหน้าในเมืองเนเปิลส์ระหว่างที่เขากำลังออกจากคลินิกสุขภาพหลังจากเข้ารับการรักษาเกี่ยวกับปัญหาหัวใจ นาย Cozzolino ซึ่งอยู่กลุ่มสังคมนิยมและประชาธิปไตยนั้น ถูกคุมขังอยู่ภายในบ้าน (house arrest) ทนายความของเขายืนยันว่าจะต่อสู้กับความพยายามในการจะส่งตัวเขาให้กับทางการเบลเยียม ทั้ง Cozzolino และ Tarabella ต่างปฏิเสธข้อกล่าวหา [Euronews] โดยข้อกล่าวหาต่อทั้งคู่นั้นเหมือนกับข้อกล่าวหาต่อสมาชิกรัฐสภาชาวกรีซและอดีตรองประธานสภายุโรป Eva Kaili และบุคคลอื่นอีกสามคน เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดนการเปิดเผยดังกล่าวถือเป็นเรื่องอื้อฉาวทางการเมืองและถูกเรียกขานจากสื่อว่า “Qatargate” โดย Kaili ได้ถูกจับและคุมขังในช่วงต้นของเรื่องอื้อฉาวพร้อมกันกับคู่รักของเธอ Francesco Giorgi รวมทั้งผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นหัวหน้ากลุ่ม Pier Antonio Panzeri และ Niccolo Figa-Talamanca ผู้ที่เป็นแกนนำ NGO ผู้ซึ่งอ้างว่าบริสุทธิ์และถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำ ข้อตกลงรับสารภาพ (Plea deal) ในข้อตกลงรับสารภาพกับทางการเบลเยียม Panzeri อดีตสมาชิกรัฐสภาชาวอิตาลีรับสารภาพว่าเป็นหนึ่งในผู้นำของกลุ่มอิทธิพล (influence-peddling group) ที่มีฐานอยู่ที่กรุงบรัสเซลส์ และตกลงที่จะแบ่งปันรายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมของเครือข่ายเพื่อแลกกับโทษที่เบาลง [Europe Monthly February 2023] สื่อของเบลเยียมรายงานว่า Panzeri อ้างว่าเขาได้ให้เงินสดจำนวน 120,000 ยูโร กับ Tarabella หลายงวดเพื่อให้ทำงานเกี่ยวกับกาตาร์ [Euronews] โดย Francesco Giorgi ผู้เป็นคู่รักของ Kaili และมีหน้าที่ผู้ช่วยเกี่ยวกับงานรัฐสภาให้กับ Panzeri ก่อนที่จะมาทำงานให้ Cozzolino นั้น ได้ถูกปล่อยออกจากเรือนจำโดยมีการใช้เครื่องมือติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ [Politico] ทั้งนี้ Giorgi ได้รับสารภาพว่ามีส่วนร่วมกับการทุจริต ในระหว่างการสอบสวน เขาได้ยืนยันว่า Cozzolino และ Tarabella ก็ได้พัวพันกับประเด็นดังกล่าว และพยายามเบี่ยงเบนข้อกล่าวหาให้พ้นจาก Kaili โดย Kaili ได้ถูกปฏิเสธการปล่อยตัวระหว่างพิจารณาคดีและถูกขยายระยะเวลาคุมขังไปอีกกว่าสองเดือน เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ในขณะที่เธอยังคงยืนยันความบริสุทธิ์ [Euronews] ข้อกล่าวหาถึงความเชื่อมโยงกับรัฐมนตรีแรงงานของกาตาร์ หมายจับกุมของ Kaili ที่เปิดเผยต่อ Politico กล่าวหาว่า Panzeri ได้ทำงานในนามของรัฐมนตรีแรงงานของกาตาร์ Ali bin Samikh Al Marri โดยหมายดังกล่าวยังกล่าวหาว่า “โมร็อกโกและกาตาร์” ได้มี “การจ่ายเงินสดอย่างลับ” จำนวน “หลายล้านยูโร” ให้แก่ผู้ต้องสงสัย โดยกล่าวเป็นนัยว่าเงินจำนวน 1.5 พันล้านยูโรที่ถูกจับกุมโดยตำรวจเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวนั้นไม่ได้สะท้อนจำนวนเงินทั้งหมดที่จ่ายให้กับกลุ่มของ Panzeri โฆษกของอัยการของเบลเยียมกล่าวต่อความผิดปกติดังกล่าวว่าผู้สอบสวนยังไม่ได้สรุปประเด็นอย่างครอบคลุมของรายงานจ่ายเงินที่เกี่ยวข้องกั บข่าวอื้อฉาว ทั้งนี้ กาตาร์และโมร็อกโกต่างปฏิเสธการกระทำผิด จุดยืนทางศีลธรรมของยุโรปถูกตั้งคำถาม ถึงแม้ว่า Kaili, Tarabella และ Cozzolino จะยุติการปฏิบัติหน้าที่และถูกจับกุมระหว่างพิจารณาคดี แต่ทั้งสามก็ยังคงรักษาสถานะและเงินเดือนของความเป็นสมาชิกสภาอยู่ [Euronews 1] [Euronews 2] ขณะที่ องค์กรติดตามประเด็นสิทธิมนุษยชนอย่าง Civil Liberties for Europe ได้เตือนในรายงานว่าประเด็นอื้อฉาวดังกล่าวสามารถลดทอนความพยายามของสหภาพยุโรปในการให้รัฐบาลแห่งชาติรับผิดชอบต่อการละเมิดหลักนิติธร รม รายงานซึ่งจัดทำโดยองค์กรสิทธิมนุษยชน 45 แห่ง ใน 18 ประเทศ ทั่วยุโรป กล่าวว่ากรณีอื้อฉาว Qatargate “มีแนวโน้มจะสร้างความเสียหายให้แก่ความน่าเชื่อถือและจุดยืนทางศีลธรรมของยุโรป” ซึ่งอาจทำให้ยากขึ้นในการจัดการกับประเทศสมาชิกอย่างฮังการีและโปแลนด์ซึ่งเป็น “ผู้ต้องหาเกี่ยวกับหลักนิติธรรมที่แย่ที่สุด” [Euractiv] (qv/pk, transl. by aa)
สมาชิกสภายุโรปอนุมัติการยุติการใช้รถยนต์เชื้อเพลิงฟอสซิลที่จะมีผลบังคับใช้ในปี ค.ศ. 2035 รัฐสภายุโรปผ่านกฎหมายที่จะยุติการขายรถยนต์ดีเซลและรถยนต์ที่ใช้น้ำมันภายในปี ค.ศ. 2035 ในความพยายามที่จะเร่งการเปลี่ยนผ่านยุโรปไปสู่การใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (emissions) ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของยุโรป การออกกฎหมายที่เป็นหมุดหมายสำคัญดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกสภาในการลงคะแนนเสียงเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ซึ่งจะทำให้ผู้ผลิดรถยนต์ต้องตัดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากรถยนต์ที่ผลิตใหม่ 100% ซึ่งหมายความว่าตั้งแต่ปี ค.ศ. 2035 เป็นต้นไป รถยนต์ที่เป็นไฮบริดหรือรถยนต์พลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลจะไม่ได้รับอนุญาตให้ขายในยุโรป [France 24] กฎหมายดังกล่าวยังได้กำหนดว่ารถยนต์ที่ขายในปี ค.ศ. 2030 จะต้องมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดลง 50% จากระดับในปี ค.ศ. 2021 [Reuters] ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปเห็นชอบตรงกันในร่างกฎหมายเมื่อเดือนตุลาคม แต่ยังดำเนินการตามหลักนิติบัญญัติก่อนที่กฎหมายดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ การอนุมัติวาระสุดท้ายของกฎหมายดังกล่าวคาดว่าจะมีขึ้นในเดือนมีนาคม [Reuters] ‘ชัยชนะของโลก’ Karima Delli หัวหน้าคณะกรรมาธิการด้านการขนส่งของสภายุโรปกล่าวว่าการตัดสินใจดังกล่าวเป็นการลงคะแนนเสียงประวัติศาสตร์สำหรับการเปลี่ยนผ่านด้านนิ เวศวิทยาและเป็น “ชัยชนะของโลกและประชากรโลก” “เราจะไม่มีหรือแทบจะไม่มีรถยนต์ใช้น้ำมันและรถยนต์ดีเซลบนถนนของเราในปี ค.ศ. 2050” [Euronews] กฎหมายดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหภาพยุโรป “Fit for 55” ซึ่งถูกออกแบบเพื่อตัดลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของยุโรป 55% ภายในปี ค.ศ. 2030 เทียบกับเมื่อปี ค.ศ. 1990 การออกกฎหมายจะส่งเสริมเป้าหมายของยุโรปในการเป็นระบบเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศที่จะไม่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายในปี ค.ศ. 2050 คณะกรรมาธิการยุโรปได้กล่าวว่ารถยนต์และรถตู้นั้นมีสัดส่วนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในยุโรปประมาณ 15% อย่างไรก็ดี ร่างกฎหมายดังกล่าวก็เผชิญแรงต่อต้าน โดยรัฐมนตรีคมนาคมของอิตาลีและรองนายกรัฐมนตรี Matteo Salvini กล่าวว่า “เราห่วงใยเกี่ยวกับน้ำ คุณภาพอากาศ และสภาพแวดล้อมที่สะอาดขึ้น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราต้องปลดคนงานกว่าล้านคนออกจากงานและปิดกิจการเป็นพันแห่ง” ‘ความเชื่อทางอุดมการณ์’ Salvini ผู้ซึ่งเป็นแกนนำพรรคฝ่ายขวาของอิตาลี League ได้เรียกแผนของยุโรปในการพึ่งพาเพียงรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวว่าเป็น “ความเชื่อทางอุดมการณ์ (ideological fundamentalism)” ซึ่งเขามองว่าเป็นการสะท้อน “การฆ่าตัวตายและเป็นของขวัญให้กับจีน” [Euractiv] Jens Gieseke สมาชิกสภายุโรปชาวเยอรมันจากพรรคกลางขวา European People’s Party กล่าวว่าการเพิ่มขึ้นของราคาพลังงานถือเป็นข้อโต้แย้งที่ว่างเปล่าจากฝ่าย Green และ Socialist ในสภา ที่ว่ารถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะถูกกว่าในการใช้สอย Gieseke ยังได้กล่าวว่าคนงานกว่า 600,000 คน ที่ทำงานในเยอรมนีเกี่ยวกับการผลิตเครื่องยนต์สันดาปภายใน (internal combustion engine) นั้น “ตกอยู่ในความเสี่ยง” สมาชิกพรรค European’s People Party กลุ่มที่ต่อต้านกฎหมายโต้ว่ากฎหมายจะทำให้เกิด “Havana effect” ที่ชาวยุโรปผู้ที่ไม่สามารถซื้อรถยนต์ไฟฟ้าได้ ต้องซื้อรถยนต์มือสอง ซึ่งเป็นเครื่องยนต์สันดาปเก่าหลังจากที่มีการยุติการขายรถยนต์สันดาปใหม่ ผู้ที่ต่อต้านร่างกฎหมายดังกล่าวยังได้โต้ว่าแบตเตอรี่ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้านั้น ถูกผลิดโดยประเทศคู่แข่งของสหภาพยุโรป ทว่ารองประธานกรรมาธิการยุโรป Frans Timmermans กลับกล่าวว่าการลงทุนของยุโรปจะช่วยเพิ่มการผลิตสินค้าของยุโรป [France 24] คู่แข่งจากประเทศจีน Timmermans สมาชิกคณะกรรมาธิการด้านสภาพภูมิอากาศของสหภาพยุโรปกล่าวต่อสมาชิกสภายุโรปว่าภายในปี ค.ศ. 2023 “ประเทศจีนจะส่งออกโมเดลรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 80 แบบ สู่ตลาดระหว่างประเทศ” เขากล่าวเพิ่มเติมว่า “รถเหล่านั้นเป็นรถที่ดี รถยนต์เหล่านั้นจะเริ่มที่การจับต้องได้และเราจะต้องแข่งขันกับสิ่งนั้น เราไม่ต้องการที่จะยอมแพ้ในการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่สำคัญให้กับคนภายนอก” [Euronews] โดยในวันเดียวกันนั้น คณะกรรมาธิการยุโรปยังได้เปิดเผยแผนที่จะตัดลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากรถยนต์ขนาดใหญ่ ซึ่งมีสัดส่วนเป็น 6% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในสหภาพยุโรป โดยแผนดังกล่าวนั้นเป็นอิสระจากการลงคะแนนเสียงในรัฐสภายุโรป โดยในแผนดังกล่าว หากอ้างอิงระดับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปี ค.ศ. 2019 นั้น จะถือว่ารถบรรทุกและรถโค้ชจะต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 45% ในปี ค.ศ. 2030 และ 90% ในปี ค.ศ. 2040 รถเมล์ในเมืองก็จำเป็นต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ. 2030 [FT] ทั้งนี้ แผนดังกล่าวก็อาจเปลี่ยนแปลงได้ระหว่างการเจรจาต่อรองที่ยาวนานที่จะเกิดขึ้นในคณะกรรมาธิการ สภายุโรปและประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (qv/pk, transl. by aa)
โปแลนด์ถูกนำขึ้นสู่ศาลสูงสุดสำหรับการท้าทายกฎหมายสหภาพยุโรป คณะกรรมาธิการยุโรปได้นำโปแลนด์ขึ้นสู่ศาลยุติธรรมของสหภาพยุโรปเกี่ยวกับกรณีคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญของโปแลนด์ซึ่งสหภาพยุโรปมองว่า เป็นการท้าทายหลักความสูงสุดของกฎหมายสหภาพยุโรป [The Guardian] [Politico] [Reuters] [European Commission] การเคลื่อนไหวดังกล่าวของคณะกรรมาธิการยุโรปได้ตอบโต้ต่อคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญของโปแลนด์ซึ่งเป็นศาลสูงสุด ที่ตัดสินว่าสนธิสัญญาบางส่วนของสหภาพยุโรปนั้นขัดแย้งกับกฎหมายรัฐธรรมนูญของโปแลนด์ โดยหัวหน้าคณะกรรมาธิการยุโรป Ursula von der Leyen กล่าวว่า ในขณะที่คำตัดสินดังกล่าวถือเป็น “การท้าทายโดยตรงต่อความเป็นหนึ่งเดียวของระเบียบกฎหมายของสหภาพยุโรป” [Reuters] [Politico] [The Guardian] [European Commission] [Europe Monthly November 2021] คณะกรรมาธิการยุโรปยังได้กล่าวในแถลงการณ์เพื่อเป็นการสร้างความชอบธรรมต่อการตัดสินว่า “หลักความสูงสุดของกฎหมายสหภาพยุโรปนั้นจะเป็นตัวรับประกันว่าจะมีการบังคับใช้กฎหมายของสหภาพยุโรปในประเทศสมาชิกอย่างเท่าเทียมกัน” และยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “วัตถุประสงค์ของคณะกรรมาธิการคือเพื่อรับรองว่าสิทธิของประชาชนชาวโปแลนด์จะได้รับการปกป้องและพวกเขาจะได้รับประโยชน์จากสหภาพยุโรปเห มือนกับประชากรสหภาพยุโรปทั้งหมด” [European Commission] นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการยุโรปยังได้กล่าวเพิ่มว่า “ความไม่ปกติ” ในศาลรัฐธรรมนูญนั้นหมายความว่าศาล “ขาดคุณสมบัติของความเป็นอิสระและไม่โน้มเอียง” [European Commission] นอกจากนี้คณะกรรมาธิการยุโรปยังได้ชี้ให้เห็นถึงการแต่งตั้งผู้พิพากษาซึ่งไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม [European Commission] [Politico] คณะกรรมาธิการยุโรปได้แจ้งเตือนไปยังโปแลนด์เกี่ยวกับความกังวลในประเด็นดังกล่าวไปเมื่อเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2022 ทว่าการตอบรับที่ได้กลับมาไม่ได้ตอบประเด็นความกังวล จึงทำให้นำไปสู่การนำประเด็นดังกล่าวขึ้นสู่ศาลสูงสุดของสหภาพยุโรป [European Commission] [Reuters] รัฐมนตรียุติธรรมของโปแลนด์ Zbigniew Ziobro ผู้ที่เป็นแกนนำฝ่ายเหยี่ยวในพรรค United Poland ซึ่งเป็นพรรคเล็กร่วมรัฐบาลชาตินิยมเรียกการเคลื่อนไหวดังกล่าวของคณะกรรมาธิการยุโรปว่าเป็นส่วนหนึ่งของ “แผนของเยอรมนีในการสลายประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปให้กลายเป็นประเทศหนึ่งเดียวที่รวมอำนาจ ซึ่งมีเมืองหลวงอย่างเป็นทางการที่บรัสเซลส์และเมืองหลวงที่แท้จริงที่เบอร์ลิน” [Notes From Poland] โปแลนด์และสหภาพยุโรปมีความขัดแย้งมานานเกี่ยวกับประเด็นความกังวลเรื่องหลักนิติธรรม โดยสหภาพยุโรปยังคงขัดขวางเงินจำนวน 35.4 พันล้านยูโรในกองทุนฟื้นฟูโควิด-19 สำหรับโปแลนด์ โดยสหภาพยุโรปยังปฏิเสธที่จะปล่อยเงินจำนวนดังกล่าวจนกว่าพรรคประชานิยมฝ่ายขวา อย่างพรรค Law and Justice (PiS) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของโปแลนด์ จะยกเลิกการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่ได้กระทำกับกระบวนการศาลของโปแลนด์ (ดูหัวข้อที่เกี่ยวกับประเด็นนี้โดยเฉพาะ) สหภาพยุโรปยังได้กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นการลดทอนความเป็นอิสระทางการเมืองของผู้พิพากษาโปแลนด์ บรรดาผู้วิจารณ์ยังได้กล่าวว่าพรรค PiS นั้นได้ทำลายเสาหลักสำคัญของประชาธิปไตยโดยการแทรกแซงศาลด้วยผู้มีอิทธิพลของพรรคการเมือง ทว่าพรรครัฐบาลดังกล่าวกลับปฏิเสธข้อกล่าวหา [Europe Monthly February 2023] (ek/pk, transl. by aa)
แปดประเทศในสหภาพยุโรปถูกนําตัวไปยังศาลยุติธรรมเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแส คณะกรรมาธิการยุโรปกําลังส่งเรื่องของประเทศในสหภาพยุโรปแปดประเทศไปยังศาลสูงสุดของกลุ่มโดยกล่าวว่าพวกเขาไม่ปฏิบัติตามกฎที่จัดทําขึ ้นโดยบรัสเซลส์เพื่อปกป้องผู้แจ้งเบาะแส คณะกรรมาธิการ ประกาศ เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ สาธารณรัฐเช็ก เอสโตเนีย เยอรมนี ฮังการี อิตาลี ลักเซมเบิร์ก สเปน และโปแลนด์ไม่ได้ดําเนินการตามระเบียบของกลุ่มเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้ที่รายงานการละเมิดกฎหมายของสหภาพยุโรป ระเบียบ ถูกนํามาใช้ในเดือนตุลาคม 2019 เพื่อจัดการกับการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสที่ "กระจัดกระจาย" ทั่วทั้งรัฐสมาชิกของกลุ่ม ซึ่งควรจะเปลี่ยนกฎเป็นกฎหมายระดับประเทศก่อนเดือนธันวาคม 2021 ประเทศในสหภาพยุโรปจําเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้แจ้งเบาะแสที่มีศักยภาพมี "ช่องทางการรายงานที่ชัดเจน" และห้ามและลงโทษ "การตอบโต้ในรูปแบบต่างๆ" คณะกรรมาธิการได้ดําเนินการกับ 15 ประเทศที่ไม่ปฏิบัติตามกฎดังกล่าว และพบว่าข้อโต้ตอบของแปดประเทศนั้น "ไม่น่าพอใจ" ขณะนี้ผู้บริหารของสหภาพยุโรปได้ตัดสินใจที่จะนําเรื่องของแปดประเทศดังกล่าวไปยังศาลยุติธรรมยุโรป [European Commission]สองสัปดาห์ก่อนการตัดสินใจของคณะกรรมาธิการ วุฒิสภาของเยอรมนีได้ปฏิเสธร่างกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแส [DW] กฎหมายซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อบังคับให้ บริษัท ที่มีพนักงาน 50 คนขึ้นไปสร้างกลไกสําหรับผู้แจ้งเบาะแสเพื่อเปิดเผยกิจกรรมที่น่าหนักใจโดยไม่ต้องกลัวการตอบโต้ หรือถูกกระทำโดยฝ่ายค้านอนุรักษ์นิยม. [DW] (msa/pk, transl. by nl)
35 ประเทศให้คํามั่นว่าจะสนับสนุนการห้ามการเข้าแข่งขันของรัสเซียและเบลารุสในการแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศ สามสิบห้าประเทศ รวมถึงฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ได้แสดงการสนับสนุนการแบนนักกีฬารัสเซียและเบลารุสจากการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ [Reuters] การแถลงการณ์ร่วม เผยแพร่เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์โดยรัฐบาลอังกฤษประเทศต่างๆประณามการรุกรานยูเครนของมอสโกซึ่งได้รับการอํานวยความสะดวกโดยรัฐบาลในมินสค์ โดยได้แสดงความกังวลต่อข้อเสนอของคณะกรรมการโอลิมปิกสากลที่จะอนุญาตให้นักกีฬารัสเซียและเบลารุสเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปารีส 2024 ภายใต้ "เงื่อนไขที่เข้มงวด" [gov.uk] เมื่อปีที่แล้วคณะกรรมการโอลิมปิกเสนอแนะ ว่านักกีฬาจากรัสเซียและเบลารุสควรถูกห้ามไม่ให้เข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติ ในขณะที่เมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมาแถลงการณ์ ระบุว่านักกีฬาทั้งหมดควรได้รับความเคารพ “โดยปราศจากการเลือกปฏิบัติ” ผู้เชี่ยวชาญจากสหประชาชาติ ยกย่อง คณะกรรมการโอลิมปิกเพื่อพิจารณาอนุญาตให้นักกีฬารัสเซียและเบลารุสแข่งขันในความสามารถที่ "เป็นกลาง" 35 ประเทศรวมถึงไอร์แลนด์ โปแลนด์ และสเปน กล่าวว่าโมเดล "ความเป็นกลาง" เป็นเรื่องที่น่าหนักใจเนื่องจากนักกีฬา "ได้รับทุนสนับสนุนโดยตรงจากรัฐของตน" [gov.uk] ยูเครนขู่ว่าจะคว่ําบาตรการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปี 2024 หากคู่แข่งของรัสเซียและเบลารุสเข้าร่วม [Reuters] (msa/pk, transl. by nl)
ความขัดแย้งที่อ้างว่าฮังการีสามารถอ้างสิทธิในดินแดนสโลวัก รัฐมนตรีต่างประเทศของสโลวาเกียปฏิเสธที่จะขอโทษหลังจากที่เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์จากเจ้าหน้าที่ในบูดาเปสต์และโดยสมาชิกพรรคของเขาเองที ่อ้างว่าฮังการีจะยึดครองดินแดนสโลวักหากรัสเซียเอาชนะยูเครน [Spectator] [Euractiv] Rastislav Kacer, สมาชิกของฝ่ายปกครองขวาของสโลวาเกีย พรรค OLaNO ทําให้การเรียกร้องช่องรายการโทรทัศน์ Markiza Na Telo PLUS เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ เมื่อถูกถามว่าฮังการีจะอ้างสิทธิในดินแดนเพื่อนบ้านของสโลวาเกียหรือไม่ Kacer ตอบว่า “If Vladimir Putin ประสบความสําเร็จมากขึ้นและรัสเซียอยู่ติดกับชายแดนตะวันออกของเราฉันคิดว่าเราจะเผชิญกับการเรียกร้องดังกล่าวในวันนี้อย่างน่าเสียดาย ” [Spectator] ในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ผู้นำพรรค OLaNO Igor Matovic กล่าวว่าฮังการีไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อสโลวาเกียและเรียกร้องให้ Kacer กล่าวคำขอโทษ. Matovic กล่าวเสริมว่าเขาจะเรียกร้องให้ประธานาธิบดีสโลวาเกีย Zuzana Caputova และรักษาการนายกรัฐมนตรี Eduard Heger เพื่อระงับ Kacer ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหากเขาล้มเหลวในการออกคําขอโทษ [Tvnoviny] [Dailynewshungary] Kacer ยังอ้างในการให้สัมภาษณ์ของเขาว่าเขามีไฟล์ข่าวกรองที่พิสูจน์นายกรัฐมนตรีฮังการีในที่ปลอดภัย Viktor Orban ตั้งใจที่จะอ้างสิทธิในดินแดนสโลวัก [Dennikn] [Dailynewshungary] Tamas Menczer, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของฮังการีกล่าวว่าข้ออ้างนั้น "โกหกไร้สาระ" และกล่าวหา Kacer ว่ากำลัง “โจมตีฮังการี”. [Facebook] [Budapesttimes] Gyorgi Gyimesi, สมาชิกของสโลวาเกียพรรค OLaNO ที่มีรากเหง้าของฮังการีเรียกร้องให้ Kacer เพื่อแสดงหลักฐานของไฟล์ข่าวกรองที่กล่าวหา [Dailynewshungary] Kacer ไม่ได้เป็นคนเดียวที่เตือนถึงความตั้งใจของบูดาเปสต์ ในเดือนเมษายน 2022 Boris Kollar ประธานสภาผู้แทนราษฎรใน Bratislava ยังอ้างว่าฮังการีจะอ้างสิทธิในดินแดนสโลวาเกียหากรัสเซียเอาชนะยูเครน [Hungarian Conservative] [Dennikn] ตามที่ Kollar กล่าว, มอสโกบ่อนทําลาย "ระบบระหว่างประเทศ [ของอธิปไตย]" ด้วยการทําสงครามกับเคียฟ หากยูเครนพ่ายแพ้อธิปไตยของสโลวาเกียจะถูกคุกคาม and “Orban สามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ได้” Kollar กล่าว [Hungarytoday] [Ma7] Orban ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าสวมผ้าพันคอฟุตบอลในเดือนพฤศจิกายนที่แสดงถึงดินแดนก่อนสงครามโลกครั้งที่หนึ่งของฮังการีซึ่งรวมถึงสิ่งที่ตอนนี้ เป็นส่วนหนึ่งของสโลวาเกียสาธารณรัฐเช็กโครเอเชียเซอร์เบียโรมาเนียและยูเครน. [Europe Monthly December 2022] (jbn/pk, transl. by nl)
ฝรั่งเศสจัดตั้งข้อริเริ่มความร่วมมือไตรภาคีกับอินเดียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รัฐมนตรีต่างประเทศของฝรั่งเศส อินเดีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ดำเนินการเกี่ยวกับการสร้างแผนปฏิบัติการสําหรับความร่วมมือไตรภาคีใหม่ของพวกเขาในระหว่างการโทรศัพท์เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ทั้งสามประเทศเห็นพ้องที่จะจัดตั้งข้อริเริ่มความร่วมมือไตรภาคีในเดือนกันยายน 2022 [France Diplomacy] ทั้งสามฝ่ายเห็นพ้องกันในสี่ประเด็นหลักเฉพาะ ข้อริเริ่มนี้จะส่งเสริมโครงการในด้านพลังงาน การพัฒนาที่ยั่งยืนในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การพัฒนาร่วมกันในการป้องกันประเทศและนวัตกรรม ทางเทคโนโลยีโดยเฉพาะอย่างยิ่งใน การวิจัยโรคติดเชื้อ ทั้งสามประเทศได้กําหนดกิจกรรมไตรภาคีที่จัดขึ้นในขอบเขตของประธาน G20 ของอินเดียและยูเออีเป็นเจ้าภาพ COP-28 [France Diplomacy] เมื่อต้นสัปดาห์นั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุโรปและการต่างประเทศของฝรั่งเศส Catherine Colonna เยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในบริบทของความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง Colonna ยืนยันความมุ่งมั่นของฝรั่งเศสต่อความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาค และแสดงความพึงพอใจต่อความร่วมมือทางวัฒนธรรมและความมั่นคงระหว่างปารีสและอาบูดาบี [France Diplomacy] (pl/gc, transl. by nl)
ฮังการีจะรักษาความสัมพันธ์กับรัสเซีย กล่าวโดยนายกรัฐมนตรี Orban นายกรัฐมนตรีฮังการีประชานิยม Viktor Orban ได้กล่าวว่ารัฐบาลของเขาจะไม่ตัดความสัมพันธ์กับรัสเซียท้าทายความพยายามของสหภาพยุโรปในการรักษาแนวร่วมต่อต้านมอสโกหลังจากที่มันบุกย ูเครน ในสุนทรพจน์ ในบูดาเปสต์ เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ , Orban กล่าวว่าฮังการี "จะรักษาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับรัสเซีย" และกระตุ้นให้ผู้อื่นทําเช่นเดียวกัน. Orban, ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์มานานสําหรับความสัมพันธ์ฉันมิตรของเขากับเครมลินได้ยืนหยัดต่อต้านการคว่ําบาตรของสหภาพยุโรปต่อมอสโกและปฏิเสธท ี่จะจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ให้แก่ประเทศเพื่อนบ้านยูเครน [Europe Monthly February 2023] เขากล่าวว่าประเทศในยุโรปโดยการจัดหาอาวุธ "กําลังทําสงครามทางอ้อมกับรัสเซียอยู่แล้ว" และย้ำว่าเขาจะไม่เห็นด้วยกับ "การคว่ำบาตรก๊าซ น้ำมันหรือนิวเคลียร์ที่จะทําลายฮังการี"รัฐบาลในบูดาเปสต์ตําหนิการคว่ําบาตรของสหภาพยุโรปสําหรับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในฮังการีซ ึ่งสูงสุดที่ 26.2 เปอร์เซ็นต์ในเดือนมกราคมซึ่งสูงที่สุดในสหภาพยุโรป [Eurostat] Orban กล่าวว่าเขาต้องการอธิปไตยยูเครน แต่เสริมว่าวิธีการบรรลุเป้าหมายนี้คือ "การหยุดยิงและการเจรจาทันที" ไม่ใช่ "การเอาชนะรัสเซีย" [Miniszterelnok] รัฐมนตรีต่างประเทศฮังการีเยือนเบลารุส ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฮังการี Peter Szijjarto เดินทางไปเบลารุสในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ กลายเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสคนแรกจากประเทศในสหภาพยุโรปที่ไปเยือนประเทศนับตั้งแต่ระบอบการปกครองในมินสค์เปิดตัวการปราบปรามฝ่ายค้านอย่ างโหดเหี้ยมในปี 2020 [AP] มินสค์ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดของรัสเซียได้สนับสนุนการรุกรานยูเครนของมอสโกและปล่อยให้กองทัพรัสเซียเดินทางข้ามดินแดนของตนในช่วง สงคราม[RFE/RL] สหภาพยุโรปกําหนดมาตรการคว่ําบาตรเบลารุสในปี 2020 และ 2022 และการเยือนของ Szijjarto เกิดขึ้นหลังจากบรัสเซลส์คาดว่าจะพิจารณามาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม [AP] [RFE/RL] “หลายคนจะโจมตีฉันในเรื่องนี้ แต่(…) ช่องทางการสื่อสารต้องเปิดกว้าง” Szijjarto กล่าวบน Facebook เขาเสริมว่าเขาได้ขอให้ Sergei Aleinik ผู้ทีทำงานร่วมกันชาวชาวเบลารุสของเขาเพื่อให้แน่ใจว่ามินสค์ "ทําทุกอย่างที่เป็นไปได้เพื่อสันติภาพ”. [Telex] (msa/pk, transl. by nl)
ยูเครนวิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีโครเอเชียเกี่ยวกับความคิดเห็นของไครเมีย กระทรวงการต่างประเทศยูเครนและสมาชิกพรรครัฐบาลโครเอเชียได้วิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีโครเอเชีย Zoran Milanovic เพราะบอกว่าไครเมีย "จะไม่เป็นส่วนหนึ่งของยูเครนอีก". [N1] [Hina] กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 30มกราคม Milanovic กล่าวว่าการมีส่วนร่วมในสงครามในยูเครนนอกเหนือจากการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมนั้น "อันตรายถึงตาย" [N1] [Hina] อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี Andrej Plenkovic ซึ่งปกครองแบบอนุรักษ์นิยม Croatian Democratic Union (HDZ) party มีความขัดแย้งเป็นอย่างมากกับ Milanovic ให้คํามั่นว่าจะสนับสนุนยูเครนอย่างต่อเนื่องในขณะที่ต่อสู้กับผู้รุกรานจากรัสเซีย. [N1] [Hina] Oleg Nikolenko, โฆษกกระทรวงการต่างประเทศยูเครนเขียนบน Facebook: “ฉันสงสัยว่า Zoran Milanovic, ด้วยสํานวนโวหารดังกล่าวอาจกลายเป็นประธานาธิบดีของประเทศของเขาในปี 1990 เนื่องจากโครเอเชียพยายามรักษาความเป็นรัฐของตน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งของเขาจะตกลงที่จะปิดตาของพวกเขาในการยึดครองบางส่วนของประเทศของพวกเขาหรือไม่? ฉันสงสัย” [N1] [Hina] ในช่วงทศวรรษ 1990 โครเอเชียต่อสู้และชนะสงครามในขณะที่พยายามหลุดพ้นจากสาธารณรัฐยูโกสลาเวีย หลายส่วนของโครเอเชียถูกยึดครองโดยกองทัพยูโกสลาเวียโดยมีเซอร์เบียซึ่งเป็นส่วนประกอบที่ใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐอ้างว่าเป็นของตนเอง สมาคมที่รวบรวมผู้ก่อตั้งการปกครองของโครเอเชีย พรรค Croatian Democratic Union ออกแถลงการณ์วิพากษ์วิจารณ์ Milanovic กล่าวว่าความคิดเห็นของเขาเกี่ยวกับยูเครนเป็น "ตัวอย่างที่ชัดเจนของการขาดความรับผิดชอบและสภาพที่น่าสังเวชและน่าเศร้าของจิตวิญญาณที่ยากจนของเขาและคุณภาพที่น่าสงสัยของการตัดสินท ี่ไม่สอดคล้องกัน" [N1] [Hina] ก่อนเป็นประธานาธิบดี Milanovic เป็นผู้นําฝ่ายค้านกลางซ้ายของพรรค Social Democratic ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเขาได้ปะทะกับ Croatian Democratic Union, รวมถึงมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับมาตรการคว่ําบาตรต่อรัสเซียสําหรับการรุกรานยูเครน [predsjednik] [emerald] โครเอเชียได้ช่วยสนับสนุนยูเครนในช่วงสงครามส่งอาวุธและให้การดูแลสุขภาพแก่ผู้ลี้ภัย แต่ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2565 รัฐบาลปฏิเสธข้อเสนอของสหภาพยุโรปที่ให้กองทัพยูเครนเข้ารับการฝึกอบรมในโครเอเชีย. [N1] [Euractiv] แม้จะมีการวิพากษ์วิจารณ์ Milanovic, Nikolenko กล่าวว่า Ukrainians "ชื่นชมและขอบคุณรัฐบาลโครเอเชียและชาวโครเอเชียสําหรับการสนับสนุนที่แน่วแน่ของ Ukrainians ในการต่อสู้กับการรุกรานของรัสเซีย". [N1] [Hina] ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ นายกรัฐมนตรีโครเอเชีย Plenkovic กล่าวว่า: “รัฐบาลโครเอเชียยังคงให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนและเรากําลังช่วยเหลือ... เท่าที่โครเอเชียทําได้” [N1] [Hina] เมื่อถูกถามถึงโอกาสที่ความขัดแย้งในยูเครนจะลุกลามไปยังคาบสมุทรบอลข่านตะวันตก Plenkovic โครเอเชียเชื่อมานานแล้วว่ามาซิโดเนียเหนือ เซอร์เบีย มอนเตเนโกร บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา โคโซโวและแอลเบเนียควรเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรปซึ่งจะช่วยเพิ่มเสถียรภาพของภูมิภาค [N1] [Hina] (iy/pk, transl. by nl)
ยูเครนกล่าวว่า Berlusconi ของอิตาลี กําลัง 'เผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อของรัสเซีย' Kyiv ได้ตําหนิอดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลี Silvio Berlusconi สําหรับ "การเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อของรัสเซีย” หลังจากที่เขากล่าวว่าประธานาธิบดียูเครน Volodymyr Zelensky คือการตําหนิการทําสงครามกับรัสเซีย. Berlusconi พรรคการมืองของเขา Forza Italia party เป็นสมาชิกของแนวร่วมฝ่ายขวาที่ปกครองอิตาลี กล่าวว่าถ้าเขายังคงเป็นผู้นํารัฐบาลในกรุงโรมเขาจะไม่พยายามที่จะพบกับ Zelensky. “ทั้งนี้ ที่ [Zelensky] ต้องทําคือหยุดโจมตีสาธารณรัฐปกครองตนเองทั้งสองของ Donbas และสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้น", Berlusconi กล่าวเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์โดยอ้างถึงดินแดนที่ถูกยึดครองโดยกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียทางตะวันออกของประเทศและตอนนี้ถูกยึดครอ งโดยกองทัพรัสเซีย [Politico] “ฉันตัดสินพฤติกรรมของสุภาพบุรุษคนนี้ในทางลบมาก" กล่าวเสริม Berlusconi, เพื่อนที่สารภาพตัวเองของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ปูตินของรัสเซีย Oleg Nikolenko, โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของยูเครน, กล่าวบน Facebook ว่า Berlusconi “มีความรับผิดชอบทางการเมืองและศีลธรรม" สําหรับ "การเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อของรัสเซีย" ‘พยายามจูบมือของปูติน “ข้อกล่าวหาที่ไร้สาระของ Berlusconiต่อประธานาธิบดียูเครนเป็นความพยายามที่จะจูบมือของปูตินซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยเลือดจนถึงข้อศอก" Nikolenko เพิ่มในโพสต์ Facebook ซึ่งเขาตีพิมพ์พร้อมกับรูปถ่ายของ Berlusconi จูบมือของอดีตเผด็จการลิเบีย Muammar Gaddafi ในปี 2010 โฆษกยูเครนต้อนรับแถลงการณ์จากนายกรัฐมนตรีอิตาลี สํานักงานของ Giorgia Meloni ยืนยันว่า "การสนับสนุนยูเครนของกรุงโรมนั้นมั่นคงและเชื่อมั่น" [Reuters] [The Local] Meloni ที่เป็นผู้นําแนวร่วมฝ่ายขวาซึ่งรวมถึง พรรคของBerlusconi พรรค Forza Italia party, เยือนเคียฟเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์เพื่อยืนยันการสนับสนุนยูเครนอีกครั้ง ใน การประชุมสื่อมวลชนร่วม กับ Meloni ประธานาธิบดียูเครนตอบโต้ความเห็นของ Berlusconi โดยกล่าวว่า: “Mr. Berlusconi ดูเหมือนว่าฉันไม่เคยมีบ้านของเขาถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธทุกวัน และขอบคุณพระเจ้าคู่หูของเขาจากสหพันธรัฐรัสเซียไม่ได้ขับรถถังเข้าไปในบ้านของเขาและทําลายญาติและคนใกล้ชิดของเขา” [Reuters] [Politico] 'เส้นทางนองเลือด' ที่รัสเซียทิ้งไว้ “เพื่อสร้างความคิดเห็นอย่างเต็มที่,” Zelensky กล่าวเพิ่มเติม "เต้องมาที่นี่" และเป็นสักขีพยานใน "เส้นทางนองเลือดที่สหพันธรัฐรัสเซีย 'พี่น้อง' ทิ้งไว้" Berlusconi ไม่ได้โต้ตอบอย่างเป็นทางการ. ตามรายงานของหนังสือพิมพ์อิตาลี Corriere della Sera, เขาพูดหลังประตู ที่ปิด:" มันไม่เป็นความจริงที่ฉันไม่รู้จักสงครามในฐานะเด็กหนุ่มที่พลัดถิ่นเช่นกัน ฉันใช้ชีวิตผ่านความน่าสะพรึงกลัวของสงคราม" [Euractiv] [Al Jazeera] นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Berlusconi ได้จุดประกายการโต้เถียงกับความคิดเห็นของเขาเกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครน ในเดือนตุลาคม อดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลีสามสมัยทําให้เกิดความโกลาหลเมื่อเขาเปิดเผยในบันทึกที่รั่วไหลออกมาว่าเขาได้แลกเปลี่ยน "จดหมายหวาน" กับ Putin. ในการบันทึกอื่น Berlusconi กล่าวว่าประธานาธิบดีรัสเซียถูกผลักเข้าสู่สงครามและต้องการติดตั้ง "รัฐบาลของคนดี" ในเคียฟ - ความคิดเห็นที่ Meloni ตําหนิในเวลานั้น [Europe Monthly November 2022] [Reuters] [Politico] ความโกลาหลใน EPP Berlusconi’s ความคิดเห็นล่าสุดจุดประกายความโกรธเคืองทั่วยุโรปรวมถึงจากสมาชิกพรรคประชาชนยุโรปกลางขวากลุ่มการเมืองในรัฐสภายุโรปที่พรรค Forza Italia ของ Berlusconi สมาชิกของกลุ่มขู่ว่าจะคว่ําบาตรการประชุมฤดูร้อนของพรรคประชาชนยุโรปในเนเปิลส์ทําให้ผู้นํา Manfred Weber, เพื่อแยกตัวออกจาก Berlusconi และยกเลิกการชุมนุม ใน tweet, Weber กล่าวเพิ่มว่า: "การสนับสนุนสําหรับยูเครนไม่ใช่ทางเลือก" Weber ได้สนับสนุนรัฐบาลผสมอิตาลี – โดขเฉพาะอย่างยิ่งพรรค Forza Italia ของ Berlusconi– ก่อนการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้วที่นํามาสู่อํานาจ เมื่อเร็ว ๆ นี้เขายังพยายามสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างพรรคของ Meloni พรรค Brothers of Italy และกลุ่มของเขาเอง แต่ต้องเผชิญกับการต่อต้านอย่างรุนแรงจากสมาชิกพรรคประชาชนยุโรป [Politico] [Euractiv] [El Pais] (qv/pk, transl. by nl)
ประธานาธิบดีตุรกีพบกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ประธานาธิบดีตุรกี Recep Tayyip Erdogan เข้าพบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา Antony Blinken ในอังการาเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ นายบลิงเคนยืนยันความมุ่งมั่นของสหรัฐฯ ในการให้ความช่วยเหลือที่จะช่วยตุรกีในการฟื้นฟูแผ่นดินไหว พวกเขายังกล่าวถึงจุดยืนของตุรกีในสงครามในยูเครน [US Department of State] Blinken ยังได้พบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของตุรกีฃ Mevlut Cavusoglu, และเยี่ยมชมเขตแผ่นดินไหว ในการแถลงข่าว, Cavusoglu ขอบคุณ Blinken สําหรับความช่วยเหลือทั้งหมดที่มีให้สําหรับโซนแผ่นดินไหว. Cavusoglu ยังกล่าวถึงการขายเครื่องบินขับไล่ F-16 ของสหรัฐฯ ให้กับตุรกี และรับรองว่าสหรัฐฯ ให้การสนับสนุนในเรื่องนี้ Blinken สริมว่าแม้ว่าจะไม่มีกําหนดเวลาอย่างเป็นทางการสําหรับขั้นตอนการขาย แต่ฝ่ายบริหารของ Biden สนับสนุนการซื้อนี้อย่างมากแม้จะมีการคัดค้านของสภาคองเกรส. [US Department of State] (lc/gc, transl. by nl)
เจ้าหน้าที่อาวุโสของเช็กกล่าวว่าปรากสนับสนุนไต้หวันแม้จะมีความโกรธแค้นในจีน ท่ามกลางความโกรธแค้นในกรุงปักกิ่ง ประธานสภาผู้แทนราษฎรเช็กให้ความมั่นใจกับไต้หวันเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ว่า ประเทศของเธอสนับสนุนผู้ที่เคารพประชาธิปไตยเสรีนิยมและสิทธิมนุษยชน [Reuters] ความคิดเห็นของเธอก่อนการเยือนไทเปในเดือนมีนาคมเกิดขึ้นหลังจากจีนประณามการเลือกตั้งประธานาธิบดีเช็ก Petr Pavel สําหรับการเจรจาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีไต้หวัน Tsai Ing-Wen เมื่อวันที่ 30 ม.ค. [Dennikn] [China Mission] [BBC] เพื่อหลีกเลี่ยงการยั่วยุจีนซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกมีเพียงไม่กี่ประเทศในยุโรปที่มีปฏิสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกั บไต้หวันในระดับการทูตสูงสุด [Reuters] [Euractiv] Pavel ที่ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีของประเทศเมื่อวันที่ 28 มกราคม กล่าวใน Twitter หลังการพูดคุยทางโทรศัพท์กับ Tsai Ing-Wen ว่าสาธารณรัฐเช็กและไต้หวัน "มีค่านิยมร่วมกันในเรื่องเสรีภาพ ประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชน" และได้ตกลงที่จะกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคี [Europe Monthly February 2022] โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนตอบโต้โดยกล่าวว่า รัฐบาลจีน ทำให้การเคลื่อนไหว ของ Pavel เป็นที่น่าเสียใจ และร้องขอให้ ปราก “ยกเลิกผลกระทบด้านลบของเหตุการณ์นี้เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่ไม่สามารถแก้ไขได้ต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนและเช็ก" นายกรัฐมนตรีเช็ก Petra Fiala อ้างว่านโยบายของเช็กที่มีต่อรัฐบาลจีนไม่ได้เปลี่ยนแปลงเนื่องจากประเทศของเขาไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับไต้หวัน [AP News] (jbn/pk, transl. by nl)
ฟินแลนด์หวังเพิ่มการค้ากับไต้หวัน: เจ้าหน้าที่รัฐสภา เฮลซิงกิต้องการขยายความสัมพันธ์ทางการค้ากับไต้หวันเจ้าหน้าที่รัฐสภาฟินแลนด์กล่าวในระหว่างการเยือนไทเปโดยเสริมว่าประเทศในเอเชียตะ วันออกซึ่งจีนอ้างสิทธิ์ในฐานะดินแดนของตนเองมีสิทธิที่จะตัดสินใจอนาคตด้วยตนเอง ระหว่างการประชุมกับประธานาธิบดีไต้หวัน Tsai Ing-wen เมื่อวันที่ 8 ก.พ. Mikko Karna ประธานรัฐสภาฟินแลนด์กลุ่มมิตรภาพกับไต้หวัน ประณามสิ่งที่เขาเรียกว่า "การรุกรานของจีน" ประธานาธิบดี Tsai เน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้นระหว่างไต้หวันและฟินแลนด์ การค้าทวิภาคีขยายตัวร้อยละ 30 ในปี 2564 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา [Overseas Community Affairs Council, Taiwan] [Taipei Times] [AiR, No.7 February/2023, 2] (aml/pk, transl. by nl) Contributors and editorial team: Aiyana Vittoria Amplatz (ava),, Antonia Lawrenz (aml), Aydan Talibli (at), Caitlin Leng (cl), Eric Kliszcz (ek), Ethan Flanagan (ef), Giulia Taraborrelli (gt), Glen Carey (gc), Greta Middendorf (gm), Harry Lowery (hl), Henning Glaser (hg), Isaac Yielder (iy), James Bertie Norman (jbn), Jemina Nuredini (jn), Johnny Khouri (jk), Katherine Mansfield (km), Lara Cin (lc), Maria Rusu (mr), Maria Simon Arboleas (msa), Marlene Busch (mb), Pauline Lecomte (pl), Peter Kononczuk (pk), Quentin Vidberg (qv), Rex Wempen (rw), Rohini Singh (rs), Roohi Mariam Peter (rmp), Stephanie Wild (sw), Venus Phuangkom, Warren O'Broin (wb), Wiktoria Drazewska (wd), Yi-Ting Lo (yl)
Translators: Tomwit Jarnson (tj), Natthanicha Lephilibert (nl), Aekpaween Anuson (aa), Vachiravan Vanlaeiad (vv), Pattariya Hansawong (ph) เราจะขอบคุณมากสำหรับความคิดเห็นของคุณ! โปรดส่งความคิดเห็นใดๆ ที่คุณมีเกี่ยวกับจดหมายข่าวนี้ไปที่ : info@cpg-online.de นอกจากนี้ อย่าลืมกด Like CPG บน Facebook และเยี่ยมชม เว็บไซต์ ของเราสำหรับการอัปเดตข้อมูลข่าวสารอื่นๆ
|