คว้าข่าวสาร อ่านเทรนด์ยุโรป

ฉบับที่ 7, กรกฎาคม 2565

 

ส่งข่าวสารถึงคุณโดย CPG

สนับสนุน​โดย KAS

 

เรียน ท่านผู้อ่าน 

ยินดีต้อนรับสู่วารสาร Europe in Review (EiR) ประจําเดือนกรกฎาคม โดยจะแจ้งให้ทราบถึงเหตุการณ์สําคัญและการพัฒนาทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญของยุโรปและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โปรดทราบว่าฉบับภาษาไทยของ EiR ได้ถูกคัดสรรจากวารสารฉบับภาษาอังกฤษซึ่งมีเนื้อหาประมาณสี่เท่าของฉบับภาษาไทย ในกรณีที่คุณสนใจที่จะอ่านฉบับเต็มเป็นภาษาอังกฤษโปรดตรวจสอบได้ที่นี่

นอกจากนี้ CPG ยังเปิดโอกาสให้ท่านได้เข้าถึง Asia in Review (AiR) อย่างเปิดกว้าง โดยเปิดโอกาสให้ทุกคนที่สนใจได้แจ้งตัวเองเกี่ยวกับทุกสิ่งที่สําคัญที่เกิดขึ้นในการเมืองตามรัฐธรรมนูญและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเ มื่อสัปดาห์ที่แล้วในเอเชีย สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดตรวจสอบที่นี่

เราหวังว่าคุณจะสนุกกับการอ่านและขอให้คุณมีวันที่ดี

สำหรับทีม EiR ทั้งหมด

Henning Glaser

บรรณาธิการบริหาร

 

เว็บไซต์: https://www.cpg-online.de, เฟซบุ๊ก: https://www.facebook.com/CPGTU

(transl. by nl)

 

Main Sections

  • 5 เรื่องเด่น - บรรณาธิการคัดสรร

  • กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปตะวันตก

  • กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปตะวันออก

  • กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้

  • กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปใต้

  • กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปกลาง

  • ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ/ภูมิรัฐศาสตร์/ธรรมาภิบาลของสหภาพยุโรป 

 

5 เรื่องเด่น - บรรณาธิการคัดสรร

 
 

กองกําลังรัสเซียบดขยี้ไปข้างหน้าใน Donbas เมื่อยูเครนเป็นผู้สมัครของสหภาพยุโรป

การโจมตีของรัสเซียต่อยูเครนได้กลายเป็นสงครามการขัดขืนที่มีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมากเนื่องจากกองกําลังของมอสโกบดขยี้ต่อไปทางตะวันอ อกโดยไม่คํานึงถึงการตัดสินใจทางภูมิรัฐศาสตร์ที่สําคัญของสหภาพยุโรปใน การกําหนดให้เคียฟเป็นผู้สมัครเข้าร่วมกลุ่ม

ความขัดแย้งนี้เป็นการทำสงครามในเมืองท่ามกลางเมืองที่พังทลายมากกว่าการรุกรานด้วยรถถังและเครื่องจักร ที่พยายามทําเมื่อต้นปีนี้ และเหยื่อรายล่าสุดคือเมืองทางตะวันออกของ Sievierodonetsk [The Guardian] [France 24] [Reuters]

การต่อสู้เพื่อเมืองเริ่มขึ้นในต้นเดือนพฤษภาคมเนื่องจากกองกําลังแบ่งแยกดินแดนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียและรัสเซียโจมตีจากทุกฝ ่ายทําให้มีผู้เสียชีวิตจํานวนมากเมื่อยูเครนโต้กลับ Sievierodonetsk ถูกแยกออกจากส่วนที่เหลือของ ดินแดนยูเครนโดยแม่น้ํา Siversky Donets แปลว่าการนำทหารเข้าต่อสู้ การส่งเสบียงและการนำพลเรือนออก – เป็นปัญหาสําหรับชาวยูเครน

แม้ว่ากองกําลังรัสเซียจะเข้าควบคุมเมืองส่วนใหญ่ได้ภายในวันที่ 12 มิถุนายน แต่กองกําลังยูเครนก็ยังคงยึดครองต่อไปอีกสองสัปดาห์ ในที่สุดผู้บัญชาการของพวกเขาก็สั่งให้พวกเขาออกจากซากปรักหักพัง เพื่อป้องกันเป้าหมายต่อไปของรัสเซียในภูมิภาคนี้: ใกล้ Lysychansk [Euractiv][Reuters][BBC News] [CNN] [Irish Times] [Wall Street Journal]

Sievierodonetsk ประสบความสําเร็จในสนามรบที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซียนับตั้งแต่การยึดครอง Mariupol ในเดือนพฤษภาคม การดำเนินการทางทหารที่ก้าวหน้าของรัสเซียได้อาศัยเขื่อนกั้นปืนใหญ่ ซึ่งทำใหเ Sievierodonetsk แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย [Reuters] [BBC News] [Euractiv] [Al Jazeera] [Hromadske]

การล่มสลายของ Sievierodonetsk ทำให้ยูเครนเหลือการควบคุมเมืองเพียงเมืองเดียวในภูมิภาค Luhansk ตะวันออก - Lysychansk อย่างไรก็ดี Lysychansk ยังถูกกระสุนอย่างหนักโดยกองกําลังรัสเซีย [Euronews] [Reuters] [New York Times] [BBC News] [Al Jazeera]

ศูนย์กลางทางทิศตะวันออก

แม้จะมีการทิ้งระเบิดใน Kiev เป็นครั้งคราวซึ่งการทิ้งระเบิดครั้งที่ใหญ่ที่สุดมาจากเบลารุสเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน แต่จุดสนใจของความขัดแย้ง ยังคงอยู่ใน ภาคตะวันออก เดือนมิถุนายนค่อนข้างเงียบในแนวรบด้านใต้ รอบเมืองKherson ทางตอนใต้ของรัสเซียพบว่าตัวเองอยู่ในแนวรับในขณะที่ยูเครนเปิดตัวการโจมตีตอบโต้ที่ จํากัด ในภูมิภาคนี้ แต่เมือง Mykolaiv ยังคงเป็นเป้าหมายของปืนใหญ่รัสเซีย [Moscow Times] [Reuters] [New York Times] [Forbes]

แม้จะมีการพิชิต Sievierodonetsk แต่รัสเซียก็กําลังเผชิญกับคําถามที่ยากลําบากในแนวหน้าและที่บ้าน ในขณะที่เศรษฐกิจของประเทศยังคงพิสูจน์ให้เห็นถึงความยืดหยุ่นต่อการคว่ําบาตรของตะวันตก แต่รัสเซียกําลังเผชิญกับการคว่ำบาตรอีกรอบจากประเทศ G7 ในขณะที่ ในเมือง Kherson เกิดระเบิดรถยนต์สังหารเจ้าหน้าที่ "ทหาร – พลเรือน” ที่ให้การสนับสนุนรัสเซีย

[BBC News] [Reuters] [Guardian] [Euractiv] [Moscow Times] [New York Times] [Forbes][Financial Times][RFE/RL] [France24] [Bellingcat]

ยูเครนได้รับชัยชนะสำหรับสถานะผู้สมัครของสหภาพยุโรป

ในแนวรบทางการทูตยูเครนได้รับชัยชนะเมื่อสหภาพยุโรปได้ยอมรับสถานะผู้สมัครเข้าร่วมสหภาพยุโรปพร้อมกับมอลโดวา

ก่อนที่ประเทศจะสามารถเข้าร่วมสหภาพยุโรปได้จะต้องสมัครเป็นรัฐผู้สมัครซึ่งยูเครนดำเนินการไม่นานหลังจากการรุกรานของรัสเซียในช่วงปลา ยเดือนกุมภาพันธ์ พันธมิตรที่แข็งแกร่งที่สุดของยูเครนในกระบวนการดังกล่าวคือคณะกรรมาธิการยุโรป ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป Ursula Von Der Leyen ได้เดินทางเยือนเคียฟเพื่อพบกับประธานาธิบดี Volodymyr Zelensky ของยูเครนในเดือนมิถุนายน ซึ่งเธออธิบายถึงยูเครนว่าอยู่ใน "ครอบครัวยุโรป"

เจ้าหน้าที่คณะกรรมาธิการคนหนึ่งกล่าวกับ Politico Europe  โดยไม่เปิดเผยตัวตนว่าความแข็งแกร่งของความรู้สึกที่สนับสนุนเคียฟภายในสถาบันเป็นเพราะยูเครนถูกมองว่าเป็น "ประเทศเดียวในยุโรปที่มีผู้เสียชีวิต... เพียงเพราะพวกเขาเดินบนถนนและถือธงชาติสหภาพยุโรป" ในขณะที่คณะกรรมาธิการยุโรปเป็นแกนนําในการสนับสนุน แต่อํานาจที่แท้จริงอยู่กับสภาสหภาพยุโรปซึ่งสะท้อนผลประโยชน์ของแต่ละประเทศสมาชิก [Euractiv] [Politico Europe] [BBC News]

ยูเครนมีอุปสรรคมากมายก่อนที่จะได้รับการรับรองจากสภาฯ ประเทศเดนมาร์กและโปรตุเกสเป็นหนึ่งในประเทศที่ตั้งคำถามมากที่สุดของการเสนอเข้าร่วมสหภาพยุโรปของยูเครน โดยอ้างว่าสงครามไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่าเคียฟไม่เป็นไปตามข้อกําหนดสําหรับสถานะผู้สมัคร ในทางกลับกันโปแลนด์เป็นเสียงที่แข็งแกร่งที่สุดที่สนับสนุนยูเครนอย่างต่อเนื่อง ความแตกแยกดังกล่าวไม่เพียงพอที่จะป้องกันไม่ให้ยูเครนได้รับสถานะผู้สมัครเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ซึ่งเป็นเป้าหมายของการปฏิวัติ Euromaidan ที่โค่นล้มรัฐบาลที่สนับสนุนรัสเซียของเคียฟในปี 2014

ในการดำเนินการให้เป็นสมาชิกเต็มรูปแบบ ประเทศจะต้องดําเนินการปฏิรูปและเตรียมที่จะใช้ร่างกฎหมายของสหภาพยุโรปทั้งหมดซึ่งเป็นกระบวนการที่อาจใช้เวลานาน มาซิโดเนียเหนือซึ่งเป็นผู้สมัครอีกประเทศหนึ่งที่ดำเนินการดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2005 ในขณะที่ตุรกีเป็นผู้สมัครมาตั้งแต่ปี 1999 [BBC News] [Politico Europe] [Reuters] [Deutsche Welle]

การเคลื่อนไหวเพื่อดำเนินการให้เคียฟเข้าสู่เส้นทางการเป็นสมาชิกเกิดขึ้นท่ามกลางความกลัวว่าฉันทามติของสหภาพยุโรปที่ตึงเครียดเกี่ยว กับยูเครนอาจตอกย้ำความแตกแยกระหว่างประเทศสมาชิก ตัวอย่างหนึ่งของความแตกแยก คือการห้ามนําเข้าน้ำมันของรัสเซียซึ่งมีผลบังคับใช้ในเดือนมิถุนายนและถูกทำให้ลดความสำคัญอย่างมากในการเจรจาท่ามกลางการต่อต้านจากฮั งการี

แม้ว่การเป็นผู้สมัคร เข้าร่วมสหภาพยุโรปอาจเพิ่มขวัญกําลังใจ แต่รัฐบาลยูเครนยังคงเรียกร้องให้ได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรตะวันตกในเชิงปฏิบัติการและเป็นอันตรายถึงชีวิตมากขึ้น แม้ว่าการโจมตีล่าสุดของยูเครนบนเรือรัสเซียในทะเลดําอาจบ่งบอกว่าอาวุธเหล่านั้นกําลังจะมาถึง เสียงจากยูเครนก็แสดงความกลัวว่าการสนับสนุนจากตะวันตกอาจลดลงเมื่อเวลาผ่านไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพันธมิตรต้องรับมือกับอัตราเงินเฟ้อและวิกฤตพลังงาน  นาย Avril Haines ผู้อํานวยการสํานักข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าวว่าประธานาธิบดี Vladimir Putin ของรัสเซียจะ "รอให้สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปอ่อนแอ เนื่องจากการขาดแคลนอาหาร อัตราเงินเฟ้อ และราคาพลังงานแย่ลง" [BBC News] [Reuters] [The Guardian] [New York Times]

สงครามอันยาวนาน

ในขณะเดียวกันความเชื่อที่ว่าสงครามในยูเครนจะเป็นระยะยาวยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง Philip Wasielewski, a Fellow at the Foreign Policy Research Institute, แย้งว่ารัสเซียในการลดขนาดเป้าหมายสงครามในขณะที่ขยายการควบคุม Donbas ได้เปลี่ยนความขัดแย้งให้กลายเป็น "การบดขยี้"

แม้ว่าสิ่งนี้จะนําไปสู่ความสําเร็จทางยุทธวิธีที่เพิ่มขึ้นสําหรับกองทัพรัสเซีย แต่ "ชัยชนะทางยุทธศาสตร์" ยังคงไม่น่าเป็นไปได้ สําหรับ Wasielewski สงครามได้หยุดนิ่งลงจนกลายเป็นสงครามการขัดขืนที่มีผู้บาดเจ็บล้มตายสูงซึ่งจะไม่สิ้นสุด "ตราบใดที่ยูเครนยังคงมีเจตจํานงที่จะต่อสู้และมีวิธีการทําเช่นนั้น"

"การบดขยี้" นี้ก่อให้เกิดความท้าทายต่อทั้งสองฝ่าย สําหรับยูเครนที่จะต่อต้านความก้าวหน้าที่ช้า แต่มั่นคงของรัสเซียก็จะต้องใช้อาวุธมากกว่าพันธมิตรที่ได้รับการส่งมอบ Reuters ผู้สื่อข่าวต่างประเทศ Conor Humphries พบว่านี่เป็นมุมมองที่แพร่หลายในหมู่กองทัพยูเครน ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน Oleksiy Arrestovych กล่าวถึงสถานการณ์อย่างชัดเจน: "[รัสเซีย] เห็นว่าพวกเขากําลังให้ปืนครก 100 กระบอกแก่เราและ... นํา 600 กระบอกมาจากคลัง"

กองกําลังรัสเซียก็ประสบปัญหาเช่นกันตามรายงานของนักวิเคราะห์ ที่ Institute for the Study of Warในพื้นที่ ๆ ห่างจาก Sievierodonetsk ซึ่งรัสเซียได้รวมกําลังจํานวนมากไว้ รัสเซียยังคงล้มเหลวในการครอบครองพื้นที่รอบ ๆ Izyum และ Kharkiv แม้ว่ารัสเซียจะยังคงทุบตีเมืองยูเครนและผลักดันไปยัง Donbas แต่ก็กําลังประสบปัญหากําลังคน ในขณะที่รัสเซียหยุดการระดมพลเต็มรูปแบบในเดือนมิถุนายนรัสเซียได้เพิ่มความพยายามในการ "ระดมพลแอบแฝง": พยายามเพิ่มกําลังคนแนวหน้าโดยการนํากองทัพฝึกกลับมาใช้ใหม่และลดข้อกําหนดด้านอายุสําหรับการรับราชการทหาร

บรรณาธิการทางการทูตรุ่นเก่า Patrick Wintour จาก The Guardian วาดภาพสงครามที่ทําให้ทั้งสองฝ่ายเหนื่อยล้า แต่ที่สําคัญทําให้ยูเครนเหนื่อยล้ากว่ารัสเซีย Wintour กล่าวว่าช่องว่างในคลังทหารของยูเครนโดยเฉพาะการขาดแคลนรถถัง การขาดแพลตฟอร์มการป้องกันทางอากาศ และการที่ประเทศมีอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศขนาดเล็ก หมายความว่า ณ ปัจจุบัน ยูเครนอาจ "ถึงคราวที่จะถูกบีบรัด"

(wb/pk, transl. by nl)

 

ฟินแลนด์และสวีเดนมุ่งหน้าสู่การเข้าเป็นสมาชิกนาโตขณะที่ตุรกียกเลิกการยับยั้ง

ท่ามกลางความตื่นตระหนกในยุโรปที่รัสเซียที่ขัดแย้งกันและคาดเดาไม่ได้มากขึ้นเรื่อยๆ ฟินแลนด์และสวีเดนกําลังได้รับการ fast track เข้าสู่นาโตอย่างรวดเร็วหลังจากที่ตุรกียกเลิกการต่อต้านสองประเทศนอร์ดิกที่เข้าร่วมพันธมิตรทางทหาร

การตัดสินใจของตุรกีซึ่งจะทำให้เฮลซิงกิและสตอกโฮล์มละทิ้งนโยบายที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดซึ่งดำเนินการมายาวนาน ได้รับการประกาศไม่นานก่อนการประชุมสุดยอดนาโตในกรุงมาดริดระหว่างวันที่ 28 ถึง 30 มิถุนายน การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นในขณะที่กองกําลังรัสเซียยังคงโจมตียูเครนในวิกฤตความมั่นคงที่เลวร้ายที่สุดของทวีปมานานหลายทศวรรษ. [AP] [Reuters] [CNBC]

การสมัครเข้าเป็นสมาชิกของเฮลซิงกิและสตอกโฮล์มซึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคมจะต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาของรัฐนาโต้ท ั้ง 30 รัฐซึ่งอาจเกิดขึ้นภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า [AP] เมื่อเข้าร่วมนาโต้ ฟินแลนด์และสวีเดนจะสนับสนุนกองทัพที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีซึ่งอยู่หน้าประตูของรัสเซีย ผู้สังเกตการณ์กล่าวว่ามอสโกจะได้รับนสิ่งที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่ต้องการเมื่อเริ่มสงครามกับยูเครน

ประธานาธิบดี Vladimir Putin เตือนว่ารัสเซียจะตอบโต้อย่าง "สมดุลย์" หากนาโตส่งทหารและโครงสร้างพื้นฐานในฟินแลนด์และสวีเดน

ประธานาธิบดีตุรกี Recep Tayyip Erdogan กล่าวว่าเขาต่อต้านเฮลซิงกิและสตอกโฮล์มที่เข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือเนื่องจากตุรกีกล่าวหาว่าทั้งสองประเทศเต็มใจที่จะเ ป็นเจ้าภาพกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดที่เชื่อมโยงกับสิ่งที่อังการาคิดว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย [Europe Monthly June 2022]

หลังจากการเจรจาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ประธานาธิบดี Sauli Niinisto ของฟินแลนด์ได้ประกาศว่าประเทศของเขา สวีเดนและตุรกีได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อเส้นทางของประเทศนอร์ดิกสู่พันธมิตรทางทหาร [AP]

Jens Stoltenberg เลขาธิการนาโต กล่าวว่า สต็อกโฮล์มได้ตกลงที่จะให้ความสําคัญกับคําขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนของอังการามากขึ้นสําหรับผู้ต้องสงสัยก่อการร้าย เขาเสริมว่าฟินแลนด์และสวีเดนจะยกเลิกข้อจํากัดในการขายอาวุธให้กับอังการาด้วย

อังการา 'ได้สิ่งที่ต้องการ'

โฆษกของสํานักงานของ Erdogan กล่าวว่าอังการา "ได้รับสิ่งที่ต้องการ" จากสวีเดนและฟินแลนด์ [BBC] ในขณะเดียวกัน Niinisto ซึ่งมีพรมแดนติดกับรัสเซียเป็นระยะทาง 1,300 กม. กล่าวว่าข้อตกลงดังกล่าว "เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่น" ของตุรกีและสองประเทศนอร์ดิก "เพื่อขยายการสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อภัยคุกคามต่อความมั่นคงของกันและกัน” [DW]

การสนับสนุนของสาธารณชนและการสนับสนุนทางการเมืองในการเข้าร่วมพันธมิตรตะวันตกได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั้งในสวีเดนและฟินแลนด์นับตั้ งแต่มอสโกส่งทหารเข้าไปในยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์

ผู้สังเกตการณ์หลายคนเชื่อว่าตุรกีไม่น่าจะทําให้การขยายตัวของนาโตตกราง และแย้งว่า Erdogan ตั้งเป้าที่จะแสดงพลังของเขาในเวทีระหว่างประเทศและรักษาสัมปทานไว้ในขณะที่จับตาดูผู้มีสิทธิเลือกตั้งในประเทศอย่างมั่นคงก่อนการเลือ กตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาในปีหน้า

หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ของฟินแลนด์ Ilta-Sanomat ระบุในความคิดเห็นชิ้นหนึ่ง: "... บางที Erdogan  อาจตระหนักว่าเขาตกอยู่ในอันตรายจากการเป็นเด็กที่ทําธุระให้ปูติน" และระบุต่อว่าข้อตกลงกับตุรกีคือ "ไม่ว่าในกรณีใด... การตัดสินใจที่มีความสําคัญทางประวัติศาสตร์"

(pk, transl. by nl)

 

นาโตระบุว่ารัสเซียเป็นภัยคุกคามหลัก และให้คํามั่นว่าจะเพิ่มกําลังทหารถึงเจ็ดเท่าในกรณีที่เป็นการเตือนภัยระดับสูง

นาโตจะเพิ่มกำลังทหาร "มากกว่า 300,000 นาย" ให้มีความพร้อมขั้นสูง โดยเพิ่มกําลังตอบโต้อย่างรวดเร็วถึงเจ็ดเท่า และเพิ่มจํานวนทหารและอาวุธที่อยู่ในตําแหน่งในประเทศที่ใกล้ชิดกับรัสเซียมากที่สุด พันธมิตรเห็นพ้องต้องกันในการประชุมสุดยอดครั้งสําคัญในกรุงมาดริด หลังจากระบุอย่างเป็นทางการว่ามอสโกเป็น "ภัยคุกคามที่สําคัญและภัยทางตรง" ในการยกเครื่องนโยบายครั้งใหญ่

ปัจจุบันมีทหารประมาณ 40,000 นาย ประกอบกันเป็นทีมตอบโต้อย่างรวดเร็วของพันธมิตร หรือกองกําลังตอบโต้ของนาโต้ (NRF) ภายในปี พ.ศ. 2566 กองกําลังจะถูกแทนที่ด้วยรูปแบบที่คล้ายกับในช่วงสงครามเย็น โดยนาโตจะจัดหากองกําลังเพิ่มเติมให้กับภารกิจด้านกลาโหมเฉพาะด้านปฏิบัติการทางบก ทางอากาศ ทางทะเล และไซเบอร์ [Reuters]

"นี่เป็นการยกเครื่องครั้งใหญ่ที่สุดของการป้องปรามและการป้องกันประเทศร่วมกันของเรานับตั้งแต่สงครามเย็น" Jens Stoltenberg เลขาธิการนาโตกล่าวสรุปเมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่สํานักงานใหญ่ของนาโตก่อนการประชุมสุดยอดที่กรุงมาดริดของพันธมิตร [The Guardian]

การประชุมสุดยอดซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 28-30 มิถุนายนได้เห็นพันธมิตรนําแนวคิดเชิงกลยุทธ์ใหม่มาใช้ซึ่งเป็นชุดนโยบายและกลยุทธ์ที่หลากหลายซึ่งอัปเดตประมาณทุกๆ สิบปี

การเปลี่ยนแปลงที่สําคัญคือการเปลี่ยนแปลงจุดยืนอย่างเป็นทางการของพันธมิตรที่มีต่อรัสเซียซึ่งตอนนี้นาโตอธิบายว่าเป็น "ภัยคุกคามที่สําคัญและภัยทางตรงต่อความมั่นคงของพันธมิตร" [Reuters]

ก่อนหน้านี้มอสโกถูกระบุว่าเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ในแนวคิดเชิงกลยุทธ์ที่นํามาใช้ในการประชุมสุดยอดนาโตปี 2010 ที่ลิสบอน

พันธมิตรยังวางแผนที่จะเพิ่มกองกําลังอาวุธและเสบียงที่ประจําการอยู่ในประเทศที่อยู่ใกล้รัสเซียที่สุด หน่วยที่ประจําการอยู่ทั่วรัฐบอลติกและอีกห้าประเทศในนาโตแนวหน้าจะมีความแข็งแกร่งขึ้นโดยเพิ่มจากกลุ่มรบที่ประกอบด้วยสมาชิกมากถึง 1,000 คนไปจนถึงกลุ่มที่มีสมาชิก 3,000 ถึง 5,000 คนที่แข็งแกร่ง[Sky News]

'อย่ามาเพราะคุณจะแพ้'

"พูดง่ายๆ ก็คือ เรากําลังพูดว่า 'อย่ามาเพราะคุณจะแพ้ อย่าคิดจะมาด้วยซ้ํา" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของเอสโตเนียกล่าว CNBC.

แนวทางใหม่นี้นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสําคัญจากนโยบาย "tripwire" ของกลุ่มในปี 2014 ในรัฐบอลติกและโปแลนด์ที่ถูกนํามาใช้หลังจากการรุกรานยูเครนของรัสเซียในปี 2014 และการผนวกไครเมีย ในขณะที่พันธมิตรนาโตได้ตกลงที่จะส่งกําลังทหารประมาณ 1,000 นายในแต่ละประเทศ สิ่งเหล่านี้จะไม่ป้องกันกองกําลังที่บุกรุกของรัสเซียจากการยึดครองดินแดน แต่จะก่อให้เกิด " tripwire " ที่นําไปสู่การเสริมกําลังถูกเรียกเข้ามาทันที [Sky News]

รัฐบอลติกได้ผลักดันให้มีการแก้ไขนโยบายและเพื่อให้กองกําลังพันธมิตรจํานวนมากสามารถประจําการอยู่บนอาณาเขตของตนหลังจากการรุกรานยูเค รนของรัสเซียเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์

นายกรัฐมนตรีเอสโตเนีย Kaja Kallas ได้เตือนผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 22 มิถุนายนว่าภายใต้กลยุทธ์ " tripwire " ประเทศของเธอซึ่งเป็นอดีตสาธารณรัฐโซเวียตจะถูก "กวาดล้าง" ทั้งหมดโดยการรุกรานของรัสเซียก่อนที่การเสริมกําลังใด ๆ จะมาถึง [FT]

'ความท้าทาย' จากประเทศจีน

แนวคิดเชิงกลยุทธ์ล่าสุดรวมถึงการเรียกประเทศจีน อธิบายว่าปักกิ่งเป็นผู้ท้าชิงทางตะวันตกและกล่าวหาว่าจีนสร้าง "หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์" กับมอสโก

อย่างไรก็ตาม นาโตกล่าวว่า "เปิดกว้างสําหรับการมีส่วนร่วมที่สร้างสรรค์" กับปักกิ่ง "จีนไม่ใช่ปฏิปักษ์ของเรา แต่เราต้องจับตาดูอย่างชัดเจนเกี่ยวกับความท้าทายร้ายแรงที่จีนเป็นตัวแทน" Stoltenberg กล่าว [Washington Post]

แถลงการณ์ภารกิจกว้าง ๆ ของกลุ่มยังยืนยันด้วยว่ามาตรา 5 ซึ่งเป็นมาตราที่สําคัญของกฎบัตรนาโต้ระบุว่าการโจมตีสมาชิกคนหนึ่งเป็นการโจมตีสมาชิกคนหนึ่งเป็นการโจมตีทุกคนนั้นใช้กับการโจมตีทางไ ซเบอร์ทางอวกาศและการโจมตีทั้งสองทาง เช่น การเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนหรือการตัดแหล่งพลังงาน [Time]

การเปลี่ยนแปลงจุดยืนอย่างเป็นทางการของนาโต้ต่อมอสโกจากพันธมิตรทางยุทธศาสตร์เป็นภัยคุกคามหลักขจัดความคลุมเครือทําให้รัสเซียเป็นคู ่ต่อสู้หลักของกลุ่มตะวันตกและช่วยให้พันธมิตรสามารถวางแผนการป้องกันได้ดีขึ้นตามรายงานของ William Alberque ผู้อํานวยการฝ่ายกลยุทธ์เทคโนโลยีและการควบคุมอาวุธที่สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการศึกษาเชิงกลยุทธ์. [France 24]

สามปีหลังจาก ประธานาธิบดีฝรั่งเศส Emmanuel Macron กล่าวกับ The Economist ว่า นาโตกำลังกลาย เป็น “สมองตาย” นาโตเปลี่ยนตําแหน่งตัวเองในกรอบสงครามเย็นที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่ามี "วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์" อีกครั้ง The Spectator ของอังกฤษกล่าว  

(qv/pk, transl. by nl)

 

เศรษฐกิจของรัสเซียแสดงสัญญาณที่หลากหลายสี่เดือนหลังจากมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของตะวันตก

กว่าสี่เดือนในสงครามของรัสเซียในยูเครนและการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของตะวันตกที่โหดร้ายเศรษฐกิจของประเทศกําลังแสดงสัญญาณที่หลากหลายเ นื่องจากอุปสงค์ของผู้บริโภคและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงในขณะที่ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ – การว่างงาน การส่งออกน้ำมันและอัตราเงินเฟ้อ - ดีขึ้นหรือมีเสถียรภาพ

ยอดค้าปลีกซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ของผู้บริโภคซึ่งขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจในรัสเซียลดลงร้อยละ10.1 ในเดือนพฤษภาคมหลังจากลดลงร้อยละ 9.8 ในเดือนเมษายน นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง ร้อยละ 5.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามผลสํารวจของสํานักข่าวรอยเตอร์ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงร้อยละ 1.7 ต่อปีในเดือนพฤษภาคม โดยการผลิตรถยนต์ลดลงร้อยละ 97 ในเดือนพฤษภาคมเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ตามข้อมูลของ Rosstat [Reuters]

ข้อมูลจากประเทศคู่ค้าชี้ว่าการนําเข้าของรัสเซียลดลงอย่างรวดเร็วในเดือนมีนาคมและเมษายน Gerard DiPippo นักวิชาการอาวุโส the Center for Strategic and International Studies’ Economic Program ระบุเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน

สมาร์ทโฟนทํางานไม่ถูกต้องในขณะที่บรรจุภัณฑ์อาหารต้องพิมพ์โดยไม่มีฉลาก “สิ่งนี้ส่งผลกระทบต่อการผลิตภาคอุตสาหกรรมรวมถึงยุทโธปกรณ์ทางทหารและการหยุดชะงักอาจเพิ่มขึ้นเนื่องจากสินค้าคงคลังของชิ้นส่วนที่นํ าเข้าหมดลง" Radio Free Europe รายงานเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน โรงงานเสื้อผ้าไม่สามารถหากระดุมสําหรับเย็บบนเสื้อได้ [RFERL]

Chris Miller แห่งโรงเรียน Tufts University’s Fletcher กล่าวว่าผู้นําตะวันตกต้องการจํากัดความสามารถของรัสเซียในการสนับสนุนเงินแก่กองทัพของตนในระยะกลางและจํากัดความสามารถในการซื้อส่วนป ระกอบสําหรับอุปกรณ์ป้องกันประเทศ จากมาตรการเหล่านั้นเขากล่าวว่าการคว่ำบาตรกําลังส่งผลกระทบ [Marketplace]

อัตราการว่างงานลดลง

ในทางกลับกันอัตราการว่างงานของรัสเซียลดลงร้อยละ 1 เป็นร้อยละ 3.9 ในเดือนพฤษภาคมซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่บริการสถิติเริ่มเผยแพร่ตัวเลขในปี 1992 ตามฐานข้อมูลของ Eikon รูเบิลแข็งค่าขึ้นเหนือระดับก่อนสงครามในช่วงปลายเดือนเมษายนหลังจากดิ่งลงมากกว่าร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับดอลลาร์หลังจากการโจมตี [Reuters] [CSIS]

จีนและอินเดียยังได้เพิ่มการซื้อน้ํามันรัสเซียแม้จะมีการคว่ําบาตรจากตะวันตก รัสเซียได้ปรับปรุงคุณภาพของการส่งออกน้ำมันดิบ Urals เสนอส่วนลดจำนวนมากที่น่าสนใจยิ่งขึ้นสําหรับผู้ซื้อในเอเชีย เจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าวว่าขณะนี้มอสโกมีรายได้มากขึ้นกว่าก่อนความขัดแย้งในยูเครนเนื่องจากราคาน้ำมันและก๊าซที่สูงขึ้น [Reuters]

ธนาคารกลางของรัสเซียยังปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลักลง 150 จุดพื้นฐานเป็นร้อยละ 9.5 ในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นระดับที่รัสเซียบุกยูเครนเริ่มขึ้น ธนาคารกลางกล่าวในแถลงการณ์ว่า "อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวเร็วขึ้นและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ลดลงมีขนาดน้อยกว่าที่คาดไว้ในเดือนเมษายนแม้จะมีความท้าทายภายนอกเหลืออยู่สําห รับเศรษฐกิจ [CBR]

“ข้อมูลล่าสุดชี้ให้เห็นว่าอัตราการเปลี่ยนแปลงราคาในเดือนพฤษภาคมและต้นเดือนมิถุนายนอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งเป็นผลมาจากการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนรูเบิลและการลดลงของความต้องการของผู้บริโภคในบริบทของการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อที่ลดล งอย่างเห็นได้ชัดของครัวเรือนและธุรกิจ [CBR]

การผิดนัดชำระหนี้ของรัสเซีย

ข้อมูลเศรษฐกิจแบบผสมล่าสุดเกิดขึ้นหลายวันหลังจากที่มอสโกดูเหมือนจะผิดนัดชําระหนี้ต่างประเทศ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1998 หลังจากพลาดกําหนดเวลาที่สําคัญ มอสโกล้มเหลวในการจ่าย ดอกเบี้ยประมาณ 100 ล้านเหรียญสหรัฐสําหรับ พันธบัตรสองใบในช่วงระยะเวลาผ่อนผัน 30 วันที่หมดอายุในวันที่ 26 มิถุนายน [BBC][CNN]

โฆษกเครมลิน Dmitry Peskov กล่าวว่า “เรื่องการผิดนัดชําระหนี้นั้นไม่ยุติธรรมอย่างยิ่ง" และเสริมว่าธนาคารตัวกลางได้ระงับเงินและเงินสํารองถูกอายัด "อย่างผิดกฎหมาย" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของรัสเซียเรียกสถานการณ์นี้ว่า "เป็นเรื่องตลก" และกล่าวว่าสถานการณ์ดังกล่าวไม่คาดว่าจะส่งผลกระทบในระยะสั้น เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงของสหรัฐฯ กล่าวว่าการผิดนัดชําระหนี้เกิดจากการคว่ำบาตรของตะวันตกต่อรัสเซีย [BBC][CNN]

"เศรษฐกิจของรัสเซียดีอยู่ในตอนนี้" Theodore Karasi นักวิชาการเรื่องกิจการรัสเซียและตะวันออกกลาง ที่ the Jamestown Foundation in Washington กล่าวในอีเมล์ที่ตอบคำถามว่า "รูเบิลอยู่ในอัตราที่ต่ำอย่างต่อเนื่อง มีปัญหาด้านการผลิตเกิดขึ้นในบางเมืองของรัสเซียที่ส่งสัญญาณถึงช่วงเวลาที่ยากลําบากข้างหน้า"

รัฐบาลกําลังทําการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทําได้ "ขณะนี้มีปัญหาด้านความยั่งยืนและจะมีปัญหาดังกล่าวเสมอรวมกับการแก้ปัญหาที่แข็งกระด้าง"

Putinท้าทาย

ประธานาธิบดี Vladimir Putin ของรัสเซียกําหนดเสียงท้าทายในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับสถานะของเศรษฐกิจของประเทศของเขาหลังจากมีการคว่ำบาตร ความพยายามที่จะ "ตอก" รัสเซียนั้นล้มเหลวและการคาดการณ์ที่มืดมนยังไม่สําเร็จ Putin กล่าวที่การประชุมเศรษฐกิจระหว่างประเทศเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กในเดือนมิถุนายน การคว่ำบาตรของสหภาพยุโรปอาจทําให้กลุ่มนี้เสียหายมากกว่า 400,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ Putin  กล่าวว่า "สายฟ้าแลบทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียของตะวันตกไม่มีโอกาสประสบความสําเร็จ"

ฟอรัมนี้รู้จักกันในชื่อ "ดาวอสรัสเซีย" มีจํานวนผู้เข้าร่วมต่ำกว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมาอย่างมากเนื่องจาก บริษัทระหว่างประเทศต้องการรักษาระยะห่างเนื่องจากการคว่ำบาตร ในปีนี้ผู้นําจากพื้นที่ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียทางตะวันออกของยูเครน, ประธานาธิบ Alexander Lukashenko ของเบลารุส และคณะผู้แทนจากผู้นําตาลิบานของอัฟกานิสถานเข้าร่วม [Russia Briefing] [The Moscow Times]

ฟอรัมนี้กลายเป็นเวทีสําหรับรัสเซียในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับรัฐที่เป็นมิตรเช่นคาซัคสถานจีนและอียิปต์ Valentina Matviyenko กรรมการ Federation Council กล่าวว่า มี "ความสนใจเพิ่มขึ้น" จากประเทศในเอเชีย แอฟริกาและละตินอเมริกาในการพัฒนาและขยายความร่วมมือกับรัสเซีย [The Moscow Times] [RBC] [TASS]

(gc-ab/pk, transl. by nl)

 

วิกฤตอาหารโลกทําให้เกิดความกลัวต่อความไม่สงบและการเสียชีวิตจํานวนมาก

จากไอร์แลนด์ไปถึงศรีลังกา ราคาอาหารที่สูงขึ้นทําให้เกิดความกังวลในหมู่ผู้นํา ผู้กําหนดนโยบายและองค์กรช่วยเหลือระหว่างประเทศว่า สงครามในยูเครนอาจทําให้รัฐบาลเกิดความไม่มั่นคง ทําให้เกิดความไม่สงบทางสังคมและคร่าชีวิตผู้คนนับล้านเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อจะทําร้ายผู้ที่เปราะบางที่สุดในโลก

ในเดือนมิถุนายนมีการประท้วงทั่วโลกเพื่อต่อต้านการไม่ดําเนินการของรัฐบาลเพื่อจัดการกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ผู้คนทั่วไอร์แลนด์ออกมาเดินตามท้องถนนเพื่อเรียกร้องให้ขึ้นค่าแรงขั้นต่ําเพื่อชดเชยราคาที่สูงขึ้น ทั้งนี้ เป็นการประท้วงที่จัดขึ้นโดยสหภาพแรงงาน องค์กรนักศึกษา ผู้รับบํานาญและนักการเมืองฝ่ายค้าน [The Irish Times] [RTÉ] [RTÉ]

การประท้วงอื่นๆ เมื่อเดือนที่แล้วรวมถึงการต่อต้านทางการเมืองในปากีสถาน, พยาบาลในซิมบับเว, คนงานสหภาพแรงงานในเบลเยียม, คนงานรถไฟในสหราชอาณาจักร, ชนพื้นเมืองในเอกวาดอร์, นักบินสหรัฐหลายร้อยคนและพนักงานสายการบินในยุโรปบางคน รายงานโดย Associated Press นายกรัฐมนตรีศรีลังกาประกาศภาวะเศรษฐกิจล่มสลายหลังเกิดความวุ่นวายทางการเมืองมาหลายสัปดาห์ [AP]

องค์กรช่วยเหลือระหว่างประเทศออกคําเตือนที่น่ากลัวเกี่ยวกับวิกฤตอาหาร Peter Sands ผู้อำนวยการใหญ่ ของ Global Fund to Fight Aids, Tuberculosis and Malaria กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีว่า การขาดแคลนอาหารอาจบ่อนทําลายสภาวะสุขภาพโลกสําหรับคนที่เปราะบางที่สุดในโลก [Barrons]

"เราได้เริ่มวิกฤตสุขภาพครั้งต่อไปแล้ว มันไม่ใช่เชื้อโรคใหม่ แต่หมายความว่าคนที่ได้รับสารอาหารไม่ดีจะมีความเสี่ยงต่อโรคที่มีอยู่มากขึ้น” เขากล่าวในการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุข G20 ในเมืองยอกยาการ์ตาของอินโดนีเซีย “ฉันคิดว่าผลกระทบรวมของโรคติดเชื้อและการขาดแคลนอาหารและวิกฤตพลังงาน เราสามารถพูดถึงการเสียชีวิตเพิ่มเติมอีกหลายล้านคนได้เพราะเหตุดังกล่าวเหล่านี้" [Barrons]

David Beasley ผู้อำนวยการของ UN’s World Food Program เตือนว่าหากผลิตภัณฑ์อาหารของยูเครนและรัสเซียไม่สามารถส่งออกได้ผลลัพธ์ที่ได้คือ "ความอดอยาก ความไม่มั่นคงของประเทศและการย้ายถิ่นฐานจํานวนมาก” ในขณะที่ Beasley กําลังพูดถึงประเทศที่ "มีความเสี่ยง" มากที่สุด เลขาธิการสหประชาชาติ Antonio Guterres กล่าวว่า“ไม่มีประเทศใดที่จะรอดพ้นจากผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจ"

สัญญาณของการผ่อนคลาย

มีสัญญาณของการผ่อนคลายเป็นไปได้ต่ออัตราเงินเฟ้อของอาหาร  สินค้าโภคภัณฑ์ทางการเกษตรลดลงตั้งแต่ต้นฤดูกาลของการเก็บเกี่ยวข้าวสาลีใน Northern Hemisphere ทำให้มีการคาดการณ์การผลิตในหมู่นักวิเคราะห์ การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและแนวโน้มภาวะถดถอยกําลังทําให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ลดลงเช่นกัน [Yahoo][Bloomberg]

ดัชนีราคาอาหารของสหประชาชาติปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนมีนาคมหลังจากการรุกรานของรัสเซียทําให้การส่งออกจากยู เครนซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ส่งธัญพืชและน้ำมันพืชชั้นนําของโลกชะงัก ดัชนีราคาอาหารของ FAO เฉลี่ย 157.4 จุดในเดือนพฤษภาคม ลดลงร้อยละ 0.6 จากเดือนเมษายน ซึ่งนับเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง การลดลงนี้นําโดยการลดลงของดัชนีราคาน้ำมันพืชและราคาของผลิตภัณฑ์นม [FAO]

Chua Hak Bin นักเศรษฐศาสตร์ประจำธนาคารเมย์แบงค์ (Maybank Investment Banking Group) กล่าวว่า “มีสัญญาณว่าวิกฤตการณ์อาหารโลกกำลังถึงจุดสูงสุด” [Yahoo]

ถึงทางตัน

แม้ราคาอาหารจะมีการปรับลงมาเล็กน้อยแต่แผนการที่จะบรรเทาวิกฤติโดยการนำเมล็ดพืชลำเลียงออกจากยูเครนในช่วงสงครามนั้นยังคงหยุดชะงัก การเจรจากับรัสเซียในเรื่องการเปิดช่องทางทะเลดำอีกครั้งก็ดูเหมือนจะมีความคืบหน้าเพียงน้อยนิด และยูเครนยังคงคัดค้านคำขอของตุรกีในเรื่องการเปิดท่าเรือ Odessa เพื่อให้ทั้งยูเครนและรัสเซียใช้ลำเลียงอาหาร
[The Guardian] [Los Angeles Times] [New York Times] [Deutsche Welle] [Al Jazeera] [Politico Europe] [RFE/RL]

รัสเซียได้ประกาศเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนว่ากองกำลังของรัสเซียได้สละด่านหน้าซึ่งเป็นบริเวณยุทธศาสตร์ฝั่งทะเลดำในเกาะงู (Snake Island )  แล้วเพื่อเป็นการคลายการปิดล้อมของรัสเซียในท่าเรือของยูเครน รัฐบาลรัสเซียกล่าวว่าได้ตัดสินใจที่จะแสดง “ท่าทีที่แสดงให้เห็นถึงเจตนาดี” นี้เนื่องจากต้องการที่จะแสดงให้เห็นว่ารัสเซียนั้นไม่ได้จะขัดขวางความพยายามของสหประชาชาติในการเปิดช่องทางทางมนุษยธรรมเพื่อให้เมล็ ดพันธุ์พืชถูกส่งออกมาจากยูเครนได้ การปิดล้อมทางทะเลของรัสเซียนั้นได้ก่อให้เกิดการตกค้างของเมล็ดพันธุ์พืชที่มีจำนวนในระบบอุปทานของโลกกว่า 25 ล้านตัน [Reuters] [Politico]

เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน นาย Recep Tayyip Erdogan ประธานาธิบดีแห่งตุรกีได้บอกกับนาย Antonio Guterres เลขาธิการแห่งสหประชาชาติว่ามีการพยายามร่วมกันที่จะริเริ่มการส่งออกเมล็ดพันธุ์พืชจากยูเครนผ่านช่องทางทะเลดำ โดยสหประชาชาตินั้นกำลังหาวิธีผ่านกลไกที่จะใช้ในการเปิดท่าเรือในยูเครนซึ่งจะทำให้สามารถนำเมล็ดพันธุ์พืชส่งออกมาได้ นาย Joe Biden ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาได้เสนอไอเดียในการสร้างฉางเก็บข้าวในแถบประเทศเพื่อนบ้านของยูเครนซึ่งเป็นสมาชิก NATO เพื่อช่วยในการเพิ่มอัตราความคล่องตัวในการส่งออก [AA] [Daily Sabah][Politico]

ประเทศที่โดยปกติไม่ได้ฝักใฝ่ฝ่ายใดก็ได้ออกมาเรียกร้องให้เกิดสันติภาพเนื่องจากพวกเขานั้นเริ่มรู้สึกถึงผลกระทบการขาดแคลนทางอาหาร นาย Joko Widodo ประธานาธิบดีอินโดนีเซียและเป็นประเทศซึ่งจะเป็นเจ้าภาพจัดการกระชุม G20 ที่กำลังจะเกิดขึ้น ได้ยกเรื่องวิกฤตการณ์อาหารเป็นประเด็นหลักในที่ประชุม Macky Sall ประธานสหภาพแอฟริกาได้เข้าพบประธานาธิบดี Putin ในกรุงมอสโกว

ในการพบปะกันนั้น ประธานาธิบดีได้ขอให้มีการ “ตกลงร่วมกัน” ที่จะเปิดทางให้เมล็ดพันธุ์พืชของยูเครนได้ถูกส่งออก ซึ่งเขายังกล่าวอีกว่าจะ “ส่งผลกระทบแก่ประเทศในแถบแอฟริกาโดยเฉพาะ” โดยทวีปแอฟริกานั้นนำเข้าเมล็ดพันธุ์พืชจากรัสเซียและยูเครนกว่าร้อยละ 44 ในปี 2018 และ 2020 [Africanews] [Euractiv] [Washington Post]

(wb/gc/jv/go/pk, transl. by nl, ph)

 

กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปตะวันตก

 
 

ฝรั่งเศส: ประธานาธิบดี Macron พ่ายแพ้ต่อการชนะเสียงข้างมากในสภาฯ

นาย Emmanuel Macron ประธานาธิบดีแห่งฝรั่งเศสเสียคะแนนเสียงข้างมากในสภาฯระหว่าง การเลื่อกตั้งฝ่ายนิติบัญญัติรอบที่สองเมื่อ 19 มิถุนายน ถือเป็นความพ่ายแพ้ทางการเมืองที่จะสร้างความยุ่งยากในการปรับใช้นโยบายไฟแรงว่าด้วยเรื่องการปฏิรูปภายในประเทศโดยผู้นำที่กำลังถูกล้อ มไปด้วยศัตรูท่านนี้ ในขณะที่ความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจในประเทศกำลังถดถอย [France24]

“Macron’s Ensemble” (ร่วมกัน) รัฐบาลผสมซึ่งมากจากการเลือกต้องแพ้ไปโดยมีอัตราเสียงที่ชนะไม่ถึง 289  ที่นั่งในรัฐสภา (สภาผู้แทนราษฎร) ในการรักษาเสียงข้างมาก โดยชนะเพียง 245 ที่นั้ง ทำให้การพ่ายแพ้ดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปีที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศสแพ้ในการเลือกตั้งเพื่อชิงที่นั่งส่วนมากในสภาฯ ซึ่งเขานั้นจะต้องเผชิญหน้ากับการผนึกกำลังของฝ่ายค้านทั้งพรรคการเมืองจากฝั่งซ้ายและขวา

Jean-Luc Melenchon ผู้นำพันธมิตรพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายในนามว่า New Ecologic and Social People’s Union (NUPES) ชนะเสียงในสภามาเป็นอันดับสองด้วย 131 ที่นั่งทำให้พันธมิตรของเขานั้นคือผู้นำฝ่ายค้าน โดยกลุ่มพรรคการเมืองฝ่ายขวา Rassemblement National (RN) ของ Marine Le Pen นั้นได้คะแนนเสียงมากเป็นประวัติการณ์ด้วย 89 ที่นั่ง ทำให้เป็นกลุ่มพรรคฝ่ายค้านพรรคเดี่ยวที่มีเสียงมากที่สุดในรัฐสภาแห่งฝรั่งเศส

เหตุผลที่ทำให้ประธานาธิบดี Macron สูญเสียความนิยมอย่างต่อเนื่องนั้นไม่ได้มากจากนโยบายภายในประเทศซึ่งมุ่งเน้นไปในเรื่องการทำให้ระบบการปกครองที่แข็งทื่อของฝรั่งเศสท ันสมัยขึ้นและทำให้ประเทศเปิดรับภาคธุรกิจมากขึ้น แต่กลับเป็นลักษณะนิสัยของตัวประธานาธิบดีเอง Pierre Rosanvallon นักประวัติศาสตร์กล่าวว่า “ในบางมุม เขาแสดงให้เห็นถึงการปฏิเสธอย่างเห็นได้ชัด” โดยเขายังมีภาพลักษณ์ที่ห่างเหินและดูแคลนที่ติดอยู่กับตัวเขา”  [DW]

ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค

ในขณะที่พรรคของประธานาธิบดี Macron เสียคะแนนส่วนมากไป ความไม่แน่นอนของสภาพเศรษฐกิจในอนาคตก็เพิ่มขึ้น ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ในเดือนมิถุนายน ซึ่งถือเป็นเวลาติดต่อกัน 9 ปีที่ความกังวลในเรื่องเศรษฐกิจสั่งสมมา หน่วยงานทางการด้านสถิติหรือ INSEE กล่าวว่าดัชนีความเชื่อมั่นในผู้บริโภคตกลงมาที่ 82 ในเดือนมิถุนายน จาก 85 ในเดือนพฤษภาคม เป็นอัตราที่ต่ำที่สุดตั้งแต่เดือนกรกฎาคมในปี 2013 [Reuters]

ความคิดเห็นจากภาคครัวเรือนตกลงมาต่ำที่สุดเมื่อเดือนพฤษภาคม 2020 ในช่วงที่ฝรั่งเศสเข้าเดือนที่สองของล๊อกดาวน์โควิด 19 ที่เข็มงวดที่สุดครั้งแรก อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นทำให้เกิดความกังวลในภาคประชาชนเพราะพวกเขานั้นต้องจ่ายมากกว่าเดิมเพื่อซื้ออาหารและพลังงานซึ่งเป็นสาธารณูปโ ภคพื้นฐาน [Reuters]

ประธานาธิบดี Macron ดูเหมือนว่าจะไม่อยู่ในฐานะที่สามารถแก้ไขวิกฤติทางการเมือง โดยพรรคฝ่ายค้านได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องของเขาในการ “เข้าประนีประนอม” เพื่อที่จะหาทางออกจากวิกฤตินี้ให้แก่ประเทศ Le Pen ได้ให้สัญญาณชัดเจนว่าจะพยายามขัดขวางนโยบายของประธานาธิบดี Macron [France24]

Melenchon ปฏิเสธคำเชิญของประธานาธิบดี Macron ในการเจรจาเรื่องรัฐบาลผสม ณ ทำเนียบ Elysee โดยส่งผู้รักษาการของเขาไปเข้าเจรจาแทน เขายังได้อ้างถึงคำแถลงการณ์ของประธานาธิบดี Macron ซึ่งถูกถ่ายทอดออกอากาศเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน โดยประธานาธิบดีได้แบ่งปันแนวคิดซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ของ “รัฐบาลที่เป็นเอกภาพ” ว่าเหมือนกับ “ราทาทุย” อาหารที่มีชื่อเสียงโด่งดังของฝรั่งเศสประกอบไปด้วยผักหลายชนิด [France24]

Christian Jacob ผู้นำแห่งพรรค Les Republicains party (LR) ซึ่งถือเป็นพรรคที่มีอุดมการณ์ใกล้เคียงกับพรรคของประธานาธิบดี Macron มากที่สุด ปฏิเสธที่จะสร้างพรรคร่วมรัฐบาลกับประธานาธิบดีฯ โดยเขาสามารถทำให้พรรคของ Macron นั้นชนะเสียงส่วนใหญ่ในสภาฯด้วย 61 ที่นั่งที่พรรคของเขามี และทำให้ทางตันในเรื่องการเมืองจบลงพร้อมทั้งทำให้พรรคร่วมรัฐบาลถูกสร้างขึ้น [Reuters]

Paul Smith ศาสตราจารย์ด้านการเมืองฝรั่งเศสแห่งมหาวิทยาลัย Nottingham กล่าวว่า  “โดยเหตุและผลนั้นมีข้อตกลงอยู่เบื้องหลัง แต่ Christian Jacob ต้องการอยู่แบบอิสระ” “เขาต้องตัดสินใจแบบนั้นเนื่องจากสมาชิกในพรรคของเขาต้องการเห็นประธานาธิบดี Macron ล้มเหลว”

ข้อตกลงพรรคร่วมรัฐบาล

Clement Beaune รัฐมนตรีด้านยุโรปในรัฐบาล Macron ให้คำอธิบายว่าประธานาธิบดีจะไม่เข้าร่วมกับกลุ่มพันธมิตร Rassemblement National ของ Marie Le Pen “ขอพูดให้ชัดเจนเลยว่า การรวมกลุ่มพันธมิตรกับ RN แม้แต่เพียงชั่วคราวก็จะไม่มีทางเกิดขึ้น  เราไม่มีแนวทางที่ตรงกับกลุ่ม RN” [Deutsche Welle]

โดยศาสตราจารย์ Smith กล่าวว่า “การรวมกลุ่มพันธมิตรกับ Le Pen คือสิ่งสุดท้ายที่ประธานาธิบดี Macron คิดจะทำ” Le Pen จะชอบด้วยซ้ำเพราะเธอจะได้เล่นบทเป็นนักเรียนที่ดี”

Elisabeth Borne ได้รับคำสั่งจากประธานาธิบดี Macron ให้จัดตั้งกลุ่ม “รัฐบาลเพื่อปฏิบัติงาน” ในต้นเดือนกรกฎาคม หลังจากที่เธอได้ปฏิเสธการลงจากตำแน่งนายกรัฐมนตรีของฝรั่งเศส [France24]

“หากไม่มีข้อตกลงเพื่อให้ได้เสียงส่วนใหญ่ในสภาฯ ประธานาธิบดี Emmanuel Macron จะต้องปกครองประเทศโดยพื้นฐานทางกฎหมาย โดยหากพรรคการเมืองพร้อมที่จะสนับสนุนวิธีดังกล่าว การปกครองจะเป็นไปตามหลักกรณีต่อกรณี”

(la/gc, transl. by ph)

 

ฝรั่งเศส: รัฐบาลของประธานาธิบดี Macron เสื่อมความนิยมด้วยข้อกล่าวหาการล่วงละเมิดทางเพศและการข่มขืน

คำมั่นของประธานาธิบดี Emmanuel Macron ที่ให้ไว้ว่าจะยกเรื่องความเท่าเทียมทางเพศเป็นเสาหลักของนโยบายใหม่นั้นกำลังถูกทำลายลงโดยข้อกล่าวหาเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศและการ ข่มขืนของเจ้าหน้าที่หลายท่านที่เขาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี

มีหญิงจำนวนสามคนได้ออกมากล่าวหา Damien Abad  รัฐมนตรีแห่งภารดรภาพและผู้พิการ ว่าได้ขืนใจพวกเธอเมื่อปี 2010 และ 2011 โดยข้อกล่าวหาดังกล่าวถูกนำขึ้นในเดือนมิถุนายน และนำเสนอรายงานโดยสื่อที่ทำการสืบสวนนามว่า Mediapart ข้อกล่าวหานั้นอ้างอิงจากคำให้การที่เหยื่อผู้ถูกกระทำบอกกับสื่อ [Euronews][Gettotext.com]

Abad ผู้เคยเป็นบุคคลแถวหน้าของพรรคอนุรักษ์นิยม Les Republicains ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาอย่างแข็งกร้าวโดยกล่าวว่าเขานั้น “ไม่เคยขืนใจผู้หญิงคนใดเลยในชีวิต” และความสัมพันธ์ที่ผ่านมาของเขานั้นล้วนแต่ “เป็นการตกลงกันทั้งสองฝ่าย” เขายังกล่าวอีกว่ากระกระทำดังกล่าวมัน “เป็นไปไม่ได้โดยสิ้นเชิง” เพราะเขานั้นป่วยเป็นโรคข้อยึดซึ่งส่งผลกระทบต่อข้อต่อและกล้ามเนื้อมาตั้งแต่กำเนิด

แม้ข้อกล่าวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจะสร้างความมืดมัวให้แก่รัฐบาลใหม่ของเขา แต่ประธานาธิบดี Macron ยังคงให้การสนับสนุน Abad และให้คำมั่นในช่วงหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีว่าจะทำให้ความเท่าเทียมทางเพศเป็น “ประเด็นหลักในวาระ 5 ปีของเขา” เหล่าสตรีนิยม (feminist) กล่าวหาประธานาธิบดี Macron ว่าไม่สามารถรักษาคำพูดได้ [NY Times]

คณะรัฐมนตรีของ Macron เต็มไปด้วยข้อกังขาในเรื่องการเหยียดเพศหลังจากที่แต่งตั้งให้ Gerald Darmanin และ Eric Dupond-Moretti เข้าดำรงตำแหน่งอีกครั้ง โดยทั้งสองเคยถูกกล่าวหาในการล่วงละเมิดทางเพศ สิ่งนี้ทำให้เกิดความกังวลต่อการเหยียดเพศและความรุนแรงทางเพศที่ชัดเจนในการเมืองฝรั่งเศส[Financial Times] [Le Monde]

สมาชิกสองคนจากพรรค Les Republicains และอดีตเพื่อนร่วมงานของ Abad กล่าวว่าเขาไม่แปลกใจในข้อกล่าวหาเรื่องการข่มขืนเพราะ Abad นั้นเป็นที่รู้จักดีว่ามักทำตัวไม่เหมาะสมกับผู้หญิงที่อยู่รอบตัวเขา โดยสมาชิกทั้งสองไม่ทราบถึงข้อกล่าวหาดังกล่าวมาก่อนหน้าจนถูกนำเสนอผ่านบทความใน Mediapart [Mediapart] [New York Times]

Elisabeth Borne  นายกรัฐมนตรีผู้เข้ารับตำแหน่งคนใหม่กล่าวว่า “หากมีข้อมูลใหม่ๆในเรื่องของ Abad และหากมีการดำเนินการทางกฎหมาย เราจะใช้เรื่องนี้เพื่อประกอบการตัดสินใจ” และเธอยังกล่าวอีกว่าจะ “ไม่มีการทน” ต่อความรุนแรงทางเพศในรูปแบบใดก็ตาม [Politico][Le Monde]

(la/gc, transl. by ph)

 

ฝรั่งเศส: ประธานาธิบดี Macron เรียกร้องให้มีการเพิ่มงบประมาณกลาโหมในยุโรป โดยกล่าวว่าฝรั่งเศสอยู่ใน “ภาวะเศรษฐกิจยามสงคราม”

ประธานาธิบดี Emmanuel Macron เร่งให้ประเทศในแถบยุโรปเพิ่มกำลังทางทหารเพื่อเป็นการตอบโต้กับความเสียหายทางภูมิรัฐศาสตร์จากการที่รัสเซียบุกยูเครน โดยทำมุมมองของเหล่าประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปด้านความมั่นคงในภูมิภาคเสื่อมลง [France24]

ประธานาธิบดี Macron เรียกร้องให้เกิดฐานอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีทางกลาโหมของยุโรปที่ “แข็งแกร่งและทะเยอทะยานมากขึ้น” โดยกล่าว ณ Eurosatory ที่ประชุมทางกลาโหมของยุโรปเมื่อวันที่  13 มิถุนายนในกรุงปารีส  Macron กล่าวว่ายุโรปนั้นต้องมี “อุตสาหกรรมทางกลาโหมที่ใหญ่กว่านี้” เพื่อที่จะหลีกเลี่ยง “การพึ่งพาในอนาคต” ต่อผู้ผลิตรายอื่นๆในการตอบรับความต้องการด้านเครื่องมือ [Reuters]

สิ่งนี้แสดงให้เห็นชัดว่าประธานาธิบดี Macron ได้เปลี่ยนจุดยืนอย่างเห็นได้ชัดเห็นได้จากตอนแรกที่เขาพยายาม “ประนีประนอม” กับประธานาธิบดี Putin ซึ่งเป็นการลังเลที่จะยืนขึ้นสู้กับรัฐบาลรัสเซียที่สร้างความกังวลอย่างมากต่อรัฐบาลยูเครน จากการที่ Macron เยือนยูเครนเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน เขาได้ให้คำสัญญาว่าฝรั่งเศสจะ “ทำทุกทางที่จะหยุดกองกำลังสงครามของรัสเซีย ให้การช่วยเหลือประชาชนและกองกำลังของยูเครน และเดินหน้าเจรจาต่อไป”

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ประธานาธิบดี Macron ได้กล่าวว่า “เราไม่ควรที่จะทำให้รัสเซียขายหน้าเพราะเมื่อวันที่สงครามจบลงเราจะยังสามารถสร้างทางลงผ่านวิธีทางการทูตได้” ประธานาธิบดี Macron กล่าวกับสื่อเมื่อวันศุกร์ที่แล้วว่าประธานาธิบดี Vladimir Putin จะต้องได้รับทางออกจากสิ่งที่เขาเรียกว่า “ความผิดพลาดทางประวัติศาสตร์” ในการรุกรานยูเครน [France24]

ประธานาธิบดี Macron และเหล่าผู้นำประเทศแถบยุโรปผู้อื่นได้เปลี่ยนแนวคิดเรื่องลำดับความสำคัญของด้านกลาโหมหลังจากที่รัสเซียทำการบุกยูเครน การรุกรานนั้นทำให้สหภาพยุโรปต้องกลับมาประเมินนโยบายความมั่นคงและกลาโหมอีกครั้ง โดยคณะมนตรียุโรปด้านการต่างประเทศกล่าวเมื่อวันที่ 15 มิถุนายนว่าประชาชนในยุโรปสนับสนุน “มาตราการรุนแรงต่อรัสเซีย รวมไปถึงการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ ยุติการนำเข้าพลังงาน และส่งกำลังพลไปประจำที่ยุโรปตะวันออก” [ECFR]

ด้วยเหตุนี้เอง ประธานาธิบดี Macron กล่าวว่าเขาต้องการที่จะเพิ่มงบประมานณกลาโหมของฝรั่งเศสไปจนถึงปี 2025 เพื่อ “ตอบรับ” กับภัยคุกคามที่กำลังเกิดขึ้น เขายังกล่าวเพิ่มว่าฝรั่งเศสได้เข้าสู่ “ภาวะเศรษฐกิจยามสงคราม” ซึ่งจะดำเนินต่อไป “อีกยาวนาน”

การเปลี่ยนแปลงผ่านรูปแบบนิติบัญญัติอาจกำลังมีขึ้นเพื่อที่จะให้รัฐสามารถใช้โรงงานของภาคเอกชนเพื่อผลิตยุทโธปกรณ์ ซึ่งเป็นวิธีที่มักถูกนำมาใช้ในช่วงสงคราม อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์ Le Monde [rfi] [Reuters]

ตั้งแต่ที่ประธานาธิบดี Macron ดำรงตำแหน่งในปี 2017 การใช้จ่ายด้านกลาโหมของฝรั่งเศสเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยขึ้นไปถึง 41 พันล้านยูโรในปีนี้ และถูกคาดการณ์ว่าจะถึง 5 หมื่นล้านยูโรในปี 2025 Macron กล่าวว่า “สงครามของรัสเซียทำให้เกิดความจำเป็นที่ต้องขับเคลื่อนให้เร็วขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นในอัตราที่ถูกลง” [France24]

(la/gc, transl. by ph)

 

เยอรมนี: รัฐบาลระงับข้อกำหนดในรัฐธรรมนูญว่าด้วยเรื่องหนี้เป็นปีที่สามเพื่อขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ

รัฐบาลเยอรมนีระงับข้อกำหนดในรัฐธรรมนูญติดกันเป็นปีที่สาม เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศถูกกระทบด้วยผลจากสงครามในยูเครนและการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โดยกระทำผ่านงบประมาณประจำปี 2022 จำนวน 496 แสนล้านยูโร [Zeit] [Tagesschau]

เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน สภาผู้แทนราษฎรแห่งเยอรมนี  (Bundestag) ได้อนุมัติอัตราหนี้เพิ่มเป็นจำนวน 140 แสนล้านยูโร  สูงมากที่สุดเป็นลำดับสองในประวัติการณ์จาก 215.4 พันล้านในปี  2021  ในปีที่ผ่านมาหนี้ของรัฐบาลเพิ่มมากขึ้นจากการใช้จ่ายด้านเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับการ ล๊อกดาวน์โควิด 19 [Zeit] [ZDF]

หนี้รัฐบาลในปี 2022 ประกอบด้วยงบประมาณที่เพิ่มขึ้นจำนวน 40 พันล้านยูโรโดยประมาณ    ซึ่งถูกยื่นในเดือนเมษายนเพื่อใช้ในการรับมือโดยตรงกับความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน กระทรวงการคลังกล่าวว่าธนาคารกลางของเยอรมนีหรือ The Bundesbank ได้ออกมาเตือนเมื่อเดือนมิถุนายนว่า “ความไม่แน่นอนในการเติบโตของเศรฐกิจในอนาคตมีอัตราสูงมาก” โดยหลักๆแล้วเป็นผลมาจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน [TheStar][AA]

Christian Lindner รัฐมนตรีการคลังกล่าวว่างบประมาณในปี 2023 จะเป็นไปตามข้อกำหนดว่าด้วยเรื่องหนี้ และเขายังกล่าวอีกว่าการเจรจาระหว่างรัฐมนตรีในเรื่องงบประมาณของปีถัดไปได้เริ่มขึ้นแล้วและเน้นไปในเรื่องของความพยายามที่จะต่อสู้กั บอัตราเงินเฟ้อที่สูง สิ่งที่เรียกกันว่า “ตัวหยุดหนี้” ถูกระงับมาแล้วกว่าสามปี ซึ่งเป็นตัวกำหนดให้งบประมาณทั้งระดับสหพันธ์และระดับรัฐมีอัตราที่สมดุลโดยไม่คำนึงถึงรายได้ของรัฐซึ่งมาจากการกู้” [TheStar][Zeit] [ZDF]

Olaf Scholz นายกรัฐมนตรีแห่งเยอรมนีบอกให้ฝ่ายนิติบัญญัติแห่งสภาผู้แทนฯในฐานะผู้ร่างกฎหมายให้รวมตัวกันเพื่อถกในเรื่องงบประมาณแผ่นดิน ว่าเยอรมนีไม่ควรให้เงินสมทบระยะยาวซึ่งจะก่อให้เกิดหนี้เพิ่มขึ้น เพื่อที่จะได้กลับไปสู่การใช้ข้อกำหนดเรื่องหนี้ตามรัฐธรรมนูญในปีถัดไป โดยเขากล่าวว่า “เป้าหมายคือการลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในระยะยาว”

ธนาคารกลางของเยอรมนีหรือ The Bundesban คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อในปีนี้จะเพิ่มขึ้นจำนวนร้อยละ 7.1 โดยเฉลี่ย เศรษฐกิจของเยอรมนีจะเติบโตร้อยละ 1.9 ในปีนี้ อ้างอิงจากการคาดการณ์ล่าสุดของธนาคารฯ [AA]

“การฟื้นฟูทางเศรษฐกิจของเยอรมนีดูมีแนวโน้มว่าจะดำเนินต่อ แต่เป็นไปในอัตราที่ช้าลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนธันวาคม” [AA]

รัฐบาลได้ปรับใช้งบประมาณในปีนี้ช้ากว่าปกติ ซึ่งมักมีการลงมติไม่นานหลังจากเริ่มปีงบประมาณใหม่ แต่การเลือกตั้งในปี 2021 และการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาลทำให้เกิดความล่าช้าในการลงมติ [Tagesschau] [Spiegel]

Alexander Dobrindt  สมาชิกพรรค Christian-Social Union ซึ่งเป็นพรรคคริสเตียนฝ่ายอนุรักษ์นิยมในแคว้นบาวาเรียกล่าวว่า “มันไม่ใช่งบประมาณแต่เป็นภูเขาหนี้”  ฝ่ายซ้ายก็ได้ออกมาวิจารณ์ถึงโครงการด้านสังคมที่ถูกเลื่อนออกไป [Zeit] [Spiegel]

ค่าแรงขั้นต่ำในอัตราใหม่

สภาผู้แทนราษฎรแห่งเยอรมนียังได้ลงมติเห็นชอบการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในอัตราร้อยละ 15 คิดเป็น 12 ยูโร ซึ่งจะมีผลตั้งแต่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป โดยเป็นการลงมติที่ตรงกับนโยบายหาเสียงของ  Olaf Scholz เมื่อการเลือกตั้งในปีที่ผ่านมา ค่าแรงขั้นต่ำในปัจจุบันจำนวน 9.82 ยูโรถูกวางแผนให้เพิ่มขึ้นเป็น 10.45 ยูโรในเดือน กรกฎาคม และเพิ่มขึ้นอีกครั้งในสามเดือนข้างหน้าสืบเนื่องมาจากการที่ประเทศต้องต่อสู้กับแรงกดดันของภาวะเงินเฟ้อ

ค่าแรงขั้นต่ำในอัตราใหม่จะให้ประโยชน์กับผู้คนประมาณ 6 ล้านคน ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ที่มีรายได้น้อยกว่า 12 ยูโรต่อชั่วโมง โดยส่วนมากเป็นผู้หญิงและคนงานในฝั่งเยอรมันตะวันออก Hubertus Heil รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานกล่าวว่าอัตราค่าแรงที่เพิ่มขึ้นหมายถึงเงินที่เพิ่มขึ้นจำนวนกว่า 400 ยูโรต่อเดือนสำหรับผู้คนที่มีรายได้ 1,700 ยูโรต่อเดือน [AP] [Süddeutsche][Tagesschau] [ZDF] [Bloomberg]

การกำหนดอัตราค่าแรงขั้นต่ำขึ้นในเยอรมนีมีขึ้นในปี 2015 รายได้เพิ่มเติมจากนายจ้างและสหภาพมักถูกเพิ่มขึ้นจากมติของฝ่ายนิติบัญญัติในสภาผู้แทนราษฎรแห่งเยอรมนี

สมาชิกพรรคฝ่ายค้าน Christian Democratic Union (CDU) พร้อมด้วยเหล่านายจ้างที่เป็นส่วนหนึ่งของคณะกรรมาธิการว่าด้วยเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ ออกมาวิจารณ์ร่างกฎหมายว่าเป็นการลัดขั้นตอนและทำให้คณะกรรมาธิการฯดูเสื่อมอำนาจลง Hermann Grohe สมาชิกพรรค CDU สนับสนุนการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำแต่ไม่สนับสนุนระบบที่ใช้ในปัจจุบัน [Süddeutsche] [DW]

(mb/gc, transl. by ph)

 

เยอรมนี: รัฐบาลลงมติเห็นชอบแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่ออุดเงินสบทบจำนวน 1 แสนล้านยูโรด้านการทหาร

ฝ่ายนิติบัญญัติแห่งเยอรมนีลงมติเห็นชอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเป็นการเพิ่มการใช้จ่ายด้านการทหารกว่า 1 แสนล้านยูโรในการตอบโต้การรุกรานของรัสเซียในยูเครน โดยการเพิ่มอัตราการใช้จ่ายดังกล่าวจะทำให้รัฐบาลกลางแห่งเยอรมนีได้ปฏิบัติตามพันธะในเรื่องการทหารที่มีต่อ NATO ในการเพิ่มการใช้จ่ายเป็นร้อยละ 2 ของผลิตภัณฑ์รวมในประเทศ [Tagesschau] [Reuters][Zeit] [Bloomberg]

การใช้จ่ายมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกองกำลังทางทหารของเยอรมนีที่ขาดงบประมาณและมีความขาดแคลนด้านอุปกรณ์ โดยการเพิ่มงบประมาณด้านการทหารต้องกระทำโดยผ่านการแก้ไขรัฐธรรมนูญเนื่องจากงบประมาณด้านการทหารใหม่นี้จะเกิดขึ้นโดยการกู้ซึ่งลัดข้อ กำหนดในเรื่องหนี้ [Bloomberg] [FAZ]

General Jens Stoltenberg เลขาธิการ NATO ได้ออกมาแสดงความขอบคุณต่อ “การลงทุนด้านการทหารที่สูงเป็นประวัติการณ์ของเยอรมนี” รวมไปถึงความเห็นชอบจากสภาผู้แทนฯของเยอรมนีต่องบประมาณการทหารดังกล่าว โดยเลขาธิการฯ กล่าวว่า “การสนับสนุนจากสภาผู้แทนฯในการเพิ่มอัตราการใช้จ่ายด้านการทหารเพื่อที่จะเสริมกำลังให้แก่กองทัพของรัฐบาลสหพันธ์ (Bundeswehr) เป็นการส่งสัญญาณที่ดีต่อพันธมิตร” [NATO]

การรวบรวมเสียงสนับนุนในสภาผู้แทนฯเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก รัฐบาลผสมระหว่างพรรค Social Democrats (SPD) และพรรค  Greens and Liberals (FDP) เจรจาร่วมเดือนกับพรรคฝ่ายค้านที่มีเสียงมากที่สุดอย่างพรรค Christian Democratic Union (CDU) เพื่อให้เสียงจำนวน 2 ใน 3 ในการลงมติ โดยการลงคะแนนถูกเลื่อนไปในเดือนพฤษภาคมเนื่องจากความไม่ลงรอยกันระหว่างพรรค [Europe Monthly June 2022]

ในการลงคะแนนเมื่อ 3 มิถุนายน สมาชิกผู้แทนฯจำนวน 567คน ลงคะแนนเห็นชอบให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยคะแนนเสียงขั้นต่ำเพื่อให้มติผ่านคือ 491 เสียง มีผู้คัดค้าน 96 เสียงและงดออกเสียงจำนวน 20 เสียง [FAZ] [Politico Europe]

พรรคการเมืองทางเลือกทั้งฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวาต่างคัดค้านการอุดเงินด้านการทหาร Dietmar Bartsch จากพรรคฝ่ายซ้าย Die Linke ให้คำนิยามว่าการอุดเงินดังกล่าวเป็นอะไรที่ “บ้า”

Christine Lambrecht รัฐมนตรีกลาโหมกล่าวต่อหน้าสภาผู้แทนฯว่า “มันเป็นจำนวนเงินที่เยอะแต่เป็นการลงทุนที่ดีในความมั่นคงและสันติภาพในประเทศของเรา” Mathias Middelberg แห่งพรรค CDU กล่าวว่า “มันเป็นก้าวที่จำเป็นและสำคัญ” [Zeit] [AP]

(mb/gc, transl. by ph)

 

เยอรมนี: การให้สัญชาติแก่ผู้อพยพเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 ในปี 2021 อัตราของชาวซีเรียกลายเป็นพลเมืองเพิ่มขึ้นสามเท่า

จำนวนของผู้อพยพที่กลายเป็นพลเมืองของเยอรมนีเพิ่มขึ้นต่อปีเป็นจำนวนร้อยละ 20 ในปี 2021 สืบเนื่องมาจากอัตราการให้สัญชาติแก่ผู้อพยพชาวซีเรียที่เพิ่มขึ้นสามเท่าเมื่อเทียบกับปีก่อน ข้อมูลอ้างอิงจาก สำนักงานสถิติกลาง (Federal Statistical Office)

ชาวต่างชาติกว่า 131,600 คน ได้รับสัญชาติเมื่อปี 2021 โดย 19,100 คนในนั้นคือผู้ลี้ภัยชาวซีเรียซึ่งหนีออกมาจากประเทศเมื่อปี 2014 และ 2016 นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมานั้นได้มีการให้สัญชาติแก่ชาวตุรกีจำนวน 12,200 คน ชาวโรเมเนียจำนวน 6,900 คน ชาวโปแลนด์ 5,500 คนและชาวอิตาลี 5,000 คน [FAZ]

บุคคลจะต้องอาศัยอยู่ในเยอรมนีเป็นเวลา 8 ปีจึงจะสามารถยื่นขอแปลงสัญชาติได้ อย่างไรก็ตามบุคคลสามารถยื่นในระยะเวลาที่เร็วกว่านั้นได้หากภายใน 6 ปีมีคุณสมบัติตรงกับเกณฑ์ที่แสดงให้เห็นว่า “มีเจตนาเจาะจงในการย้ายถิ่นฐาน” ซึ่งประกอบไปด้วยทักษะภาษาที่คล่องแคล่ว ทักษะโดดเด่นทางวิชาการ ความสำเร็จในวิชาชีพ และการมีส่วนร่วมต่อสังคม [FAZ] [Reuters]

(mb/gc, transl. by ph)

 

ไอร์แลนด์: นายกรัฐมนตรี Martin ต้องการให้มีการลงคะแนนในเรื่องความเป็นกลางทางทหารของไอร์แลนด์

แม้ผู้ลงคะแนนส่วนมากจะเห็นชอบกับรูปแบบการทหารปัจจุบัน Micheal Martin นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์กล่าวว่าเขาต้องการให้สภาพลเมือง (Citizens assembly) พิจารณาความเป็นกลางทางทหารของไอร์แลนด์ต่อความขัดแย้งอีกครั้งหลังจากที่การรุกรานของรัสเซียในยูเครนก่อให้เกิดการถกเถียงทางการเมือง เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว

Martin กล่าวเมื่อวันที่ 29  พฤษภาคมว่าเค้าจะหยิบยกเรื่องนี้เพื่อพูดคุยกับกลุ่มแนวร่วมของเขาในสภาพลเมือง จากแบบสำรวจที่จัดทำขึ้นเมื่อเดือนเมษายนชี้ให้เห็นว่า ประชาชนชาวไอร์แลนด์ผู้มีสิทธิเลือกตั้งส่วนมากไม่ต้องการที่จะเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่เป็นกลางทางทหารของประเทศ [The Irish Times] [RTÉ]

หลังจากที่สงครามในยูเครนปะทุขึ้น นักการเมืองชาวไอร์แลนด์หลายท่านได้ออกมาถกเถียงถึงประเด็นความเป็นกลาง [Irish Examiner] [RTÉ] [The Irish Times] [The Irish Times]

สงครามยังก่อให้เกิดการโต้เถียงในเรื่องของ NATO โดยเมื่อวันที่8 มิถุนายน Martin กล่าวว่ารัฐบาลไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ประชามติเพื่อเข้าร่วม NATO เขายังกล่าวอีกว่าไอร์แลนด์จำเป็นที่จะต้อง “หันกลับมามอง” ความเป็นกลางและความไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดในการทหาร โดยย้ำเพิ่มว่าประเทศไอร์แลนด์นั้นไม่ได้เป็นประเทศที่เป็นกลางทางการเมือง [The Irish Times]

โดยคำกล่าวอ้างของ Martin ถูกหักล้างโดย David Kenny ศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐธรรมนูญประจำคณะนิติศาสตร์ แห่ง Trinity College Dublin ว่า “มีความเป็นไปได้สูงมาก”ที่จะต้องทำประชามติเพื่อที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกของ NATO เขาได้อ้างถึงคดีของศาลฎีกาเมื่อปี 1987 นามว่าคำพิพากษา Crotty (the Crotty judgement) ซึ่งบังคับให้รัฐบาลต้องจัดทำประชามติเพื่อพิจารณากฎหมายยุโรปตลาดเดียว (Single European Act) และสนธิสัญญาสำคัญอื่นๆของสหภาพยุโรป [The Irish Times]

ไอร์แลนด์เป็นสมาชิกของโครงการความร่วมมือเพื่อสันติภาพ (Partnership for Peace Programme) ซึ่งจัดให้กำลังทางทหารของไอร์แลนด์เป็นไปตามมาตราฐานของ NATO หากแต่ว่ารัฐบาลปัจจุบันมิได้สนใจที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิก  กลุ่มพันธมิตร NATO [The Irish Times] [Irish Examiner]

(jv/gc, transl. by ph)

 

เนเธอร์แลนด์: หน่วยข่าวกรองดัตช์ถูกกล่าวหาว่าใช้โปรแกรมล้วงข้อมูลอันเป็นที่ถกเถียงของอิสราเอล

หน่วยข่าวกรองของเนเธอร์แลนด์หรือ AIVD ใช้โปรแกรมล้วงข้อมูลนามว่า Pegasus ซึ่งเป็นโปรแกรมจากบริษัท NSO Group สัญชาติอิสราเอลในการติดตามโทรศัพท์ของผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรม [Euractiv] [NLtimes]

AVID ใช้โปรแกรม Pegasus เพื่อติดตามโทรศัพท์ของ Ridouan Taghi ผู้ต้องสงสัยหลักในคดีฆาตกรรมหมู่ Marengo Trial ซึ่งสาวไปถึงผู้ต้องสงสัยจำนวน 17 คนจากกลุ่มอาชญากรสัญชาติดัตช์-โมรอคโคที่ถูกดำเนินคดีข้อหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมหลายรายและการพยายามฆ่า โดย Taghi ถูกจับกุมใน Dubai เมื่อปี 2019 [Euractiv]  [NLtimes]

AIVD ปฏิเสธในการให้ข้อมูลกับประเด็นดังกล่าว และ NSO Group ยังไม่ได้ออกมายืนยันว่าเนเธอร์แลนด์คือลูกค้าของบริษัท อย่างไรก็ตามในเว็บไซต์ของบริษัทรายงานว่าผลิตภัณฑ์ของเขา “ช่วยให้หน่วยงานข่าวกรองของรัฐที่ได้รับอนุญาตและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายสามารถรับมือกับปัญหาที่อันตรายที่สุดในโลคยุคปัจจุบันโดยชอ บด้วยกฎหมาย” [Euractiv] [NLtimes]

Pieter Omtzigt สมาชิกสภาผู้แทนฯของเนเธอร์แลนด์ได้ริเริ่มการสืบสวนเพื่อที่จะระบุให้ได้ว่าทางหน่วยงานฯได้ใช้โปรแกรม Pegasus จริงหรือไม่

Pieter กล่าวว่า “ผมอยากจะรู้ว่าโปรแกรมดังกล่าวถูกใช้ผ่านกรอบงานใด ใช้กับคนประเภทใด และถูกควบคุมอย่างไร และอยากรู้เพิ่มเติมอีกว่านายกรัฐมนตรีคิดอย่างไรกับการใช้โปรแกรม Pegasus โดยหน่วยงานของเนเธอร์แลนด์” [Euractiv]  [NLtimes]

ไม่นานมานี้รัฐบาลสเปนได้ออกมาประกาศที่จะปฏิรูประบบข่าวกรองในประเทศหลังจากที่มีหน่วยงานภายในออกมายอมรับว่าได้ใช้โปรแกรม Pegasus ในการล้วงข้อมูลจากโทรศัพท์ของนักการเมืองและนักเคลื่อนไหวชาว Cantalan  สภายุโรป (European Parliament) ได้จัดตั้งคณะกรรมาธิการใหม่ (PEGA) เพื่อสืบสวนการใช้โปรแกรมสปายแวร์ดังกล่าวในสหภาพ [Euractiv]

(vp/gc, transl. by ph)

 

สหราชอาณาจักร: นายกรัฐมนตรี Johnson ชนะการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในขณะที่ความกังวลในเรื่องเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

Boris Johnson นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักรชนะการอภิปรายไม่ไว้วางใจจากเหล่าผู้แทนจากพรรคอนุรักษ์นิยม (Conservatives) โดยเข้าได้รับเสียงสนับสนุนจำนวนร้อยละ 59 แม้ว่าจะมีการต่อต้านการเป็นผู้นำของเขาจากกลุ่มสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมในสภาฯ (Tory) อย่างเห็นได้ชัดเป็นการต่อต้านที่แสดงให้เห็นถึงอำนาจของเขาที่กำลังเสื่อมลงในขณะที่รัฐบาลของเขาถูกแปดเปื้อนไปด้วยเรื่องอื้อฉาว

Johnson ได้รับคะแนนเสียงไว้วางใจจำนวน 211 คะแนนจากสมาชิกผู้แทนฯจากพรรคอนุรักษ์นิยม และ 148 คะแนนลงความเห็นไม่ไว้วางใจ โดยขณะนี้เขาสามารถป้องกันการท้าทายเพื่อชิงตำแหน่งผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยมได้ต่ออีกหนึ่งปี หลังจากที่สมาชิกผู้แทนจำนวนร้อยละ 15 ยื่นหนังสือแก่คณะกรรมาธิการพรรคที่เกี่ยวข้องเพื่อแสดงความประสงค์ให้ Johnson ลงจากตำแหน่ง จึงทำให้เกิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจ [BBC][Guardian]

ความขุ่นเคืองต่อความเป็นผู้นำของ Johnson เพิ่มขึ้นหลังจากที่มีการปล่อยรายงานเรื่องงานฉลองในบริเวณใกล้เคียงทำเนียบนายกรัฐมนตรี (Downing Street) ในช่วงล๊อกดาวน์ของการแพร่ระบาดโควิด 19 รายงานแสดงให้เห็นถึงการกระทำที่ละเมิดกฎอย่างสิ้นเชิง รวมไปถึงงานฉลองวันเกิดที่นายก Johnson ถูกตำรวจสั่งให้ชดเชยด้วยค่าปรับในฐานที่เข้าร่วมงาน เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2020 [BBC]

หลังจากการลงคะแนน Johnson กล่าวว่าผลลัพธ์นั้นเป็น “อะไรที่ดี กระชับ และเด็ดขาด” ในการเข้าประชุมของรัฐบาลเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน เขาแสดงความต้องการที่จะ  “ให้สิ่งที่สำคัญกับชาวอังกฤษ” Sir Ed Davey ผู้นำพรรค Liberal Democrat กล่าวว่า “ชื่อเสียงของ Johnson ณตอนนี้ขาดสะบั้นและอำนาจของเขาก็ถูกทำลายลง” [Guardian][Gov.UK]

เรื่องอื้อฉาวทางการเมืองเกิดขึ้นในขณะเดียวกับที่สหราชอาณาจักรกำลังเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง Johnson ถูกวิจารณ์ในเรื่องการเพิ่มภาษีและความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลที่ไม่สามารถปรับใช้นโยบายเพื่อบรรเทาผลกระทบของค่าครองชีพที่สูงขึ้นต่ อภาคธุรกิจและลูกจ้าง อัตราเงินเฟ้อของอาหารอาจสูงขึ้นถึงร้อยละ 15 ในฤดูร้อนนี้ เป็นอัตราที่สูงที่สุดในรอบกว่า 20 ปี [BBC][Guardian][Guardian]

JP Morgan ธนาคารซึ่งมีฐานที่มั่นในนิวยอร์กให้ข้อมูลว่าอังกฤษอาจจะกำลังเข้าสู่สภาวะเศรษฐกิจถดถอยภายในปีหน้า หรืออาจภายใน 2 ปีข้างหน้าท่ามกล่างอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นจากความอ่อนไหวของประเทศต่อปัจจัยชะงักภายนอก ธนาคารดังกล่าวในสหรัฐได้ออกรายงานมาหนึ่งวันหลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (Bank of England) ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นร้อยละ 1.25 เมื่อวันพฤหัส ซึ่งเป็นอัตราที่สูงที่สุดตั้งแต่มกราคม 2009 และเป็นอัตราที่เพิ่มสูงขึ้นกว่า 5 เท่า [IndianExpress][MSN][Guardian]

“หาก ธนาคารกลางสหรัฐฯ ก่อให้เกิดการเติบโตอย่างรวดเร็วหรือชะลอตัวลงหรือถดถอย สิ่งนี้จะกระจายไปยังสหราชอาณาจักร กอร์ปกับสภาวะการเงินในประเทศที่กำลังตึงตัว ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะถดถอยของสหราชอาณาจักร” JP Morgan กล่าว “โดยธรรมชาติของเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร เราเห็นว่ามีความเสี่ยงสูงต่อผลกระทบจากภายนอกในระยะใกล้ และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของภาวะถดถอยในอีก 1- 2 ปีข้างหน้า” [IndianExpress]

JP Morgan กล่าวว่า ภาวะถดถอยจะมีแนวโน้มมากขึ้นหากอัตราของอังกฤษ สูงกว่าระดับการคาดการณ์ระยะยาวที่ร้อยละ 3

อัตราเงินเฟ้อเร่งขึ้น

ธนาคารกลางของอังกฤษคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 11 ในฤดูใบไม้ร่วงนี้ เมื่อมีการยกเลิกการจำกัดค่าพลังงานในครั้งถัดไป และจีดีพีของสหราชอาณาจักรจะหดตัวร้อยละ 0.3 ในไตรมาสนี้  คณะกรรมการระบุว่า “คณะกรรมการจะตื่นตัวเป็นพิเศษต่อข้อบ่งชี้ของแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่คงอยู่มากขึ้น และหากจำเป็น จะดำเนินการตอบโต้อย่างแข็งขัน” [Guardian]

Paul Scully รัฐมนตรีกระทรวงธุรกิจกล่าวว่ารัฐบาลต้อง “ทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อฝ่าฟันพายุนั้น” ท่ามกลางความกลัวว่าเศรษฐกิจจะถดถอย และเสริมว่ามันเป็น “สถานการณ์ระดับโลก” และประเทศอื่นๆ ก็เห็นระดับราคาที่สูงขึ้นเช่นกัน เขาไม่ได้ขี้ขาดว่าภาวะถดถอยจะไม่เกิดขึ้นและย้ำว่ารัฐบาลได้วางมาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจ รวมถึงการลดเกณฑ์ก่อนที่ผู้คนจะเริ่มจ่ายประกันแห่งชาติ [PoliticalHome]

(pr/gc, transl. by ph, tj)

 

กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปตะวันออก

 
 

เอสโตเนีย: ผู้บัญชาการทหารอาวุโสกล่าวว่ายุทธศาสตร์ระดับชาติโดยมีเพียงการป้องปราม ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้อีกแล้ว

ผู้บัญชาการ Estonian Defence Forces (EDF) พล.ท. Martin Herem กล่าวเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมว่า การป้องปรามในฐานะที่เป็นยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป เมื่อพิจารณาถึงการรุกรานยูเครนของรัสเซีย [Äripäev] [ERR] [Verkkouutiset]

Herem กล่าวว่า แม้ว่าเขาจะถือว่าการรุกรานของรัสเซียนั้น “บ้าอย่างชัดเจน” มอสโกปฏิบัติการทางทหารโดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา เขาเสริมว่า เอสโตเนียต้องเตรียมพร้อมสำหรับการรุกรานของรัสเซียทุกเมื่อ [ERR]

EDF ให้คำมั่นว่าจะจัดสรรงบประมาณมากกว่า 800 ล้านยูโรในช่วงสามปีข้างหน้าเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องและเพื่อให้ครอบคลุมการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์อย่างเพียงพอ EDF จะมุ่งเน้นไปที่การฝึกอบรมกับพันธมิตรและความสามารถในการตอบสนองที่รวดเร็ว ซึ่งสามารถนำไปใช้กับภัยคุกคามทั่วไปได้ [ERR]

(mo/gc, transl. by tj)

 

ลัตเวีย: ศาลยอมรับความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกัน

ศาลแขวงปกครองลัตเวีย ได้ตัดสินเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมว่ายอมรับความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกัน [BNN] [LSM]

แม้ว่ารัฐธรรมนูญของลัตเวียจะกำหนดว่าการสมรสประกอบด้วยชายและหญิง ศาลกล่าวว่า คำนิยามของครอบครัวอาจรวมถึงคู่รักเพศเดียวกัน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้แต่งงานกันอย่างเป็นทางการ แต่พวกเขาสร้างความสัมพันธ์โดยอาศัยความเข้าใจและความเคารพซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นพื้นฐานของ “ครอบครัว” ในความหมายทางกฎหมาย ศาลกล่าว  [BNN] [LSM]

รัฐสภาลัตเวีย เดิมมีกำหนดจะลงคะแนนเสียงเกี่ยวกับกฎหมายสหภาพพลเรือนในวันที่ 2 มิถุนายน ซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องของคู่รักเพศเดียวกัน แต่เนื่องจากการขาดองค์ประชุม การลงคะแนนเสียงจึงต้อง เลื่อนออกไปจนกว่าจะมีผู้แทนอย่างน้อย 50 คนเข้าร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยการสมรสกัน [BNN]

(mo/gc, transl. by tj)

 

ลัตเวีย: รัฐบาลสั่งห้ามทีวีรัสเซียทุกช่อง

สภา National Electronic Mass Media Council (NEPLP) ของลัตเวียประกาศเมื่อวันที่ 6 มิถุนายนว่าทุกช่องที่ลงทะเบียนในรัสเซียจะถูกสั่งห้ามทั่วประเทศ โดยการตัดสินใจนี้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน [LSM] [Leta]

Ivars Abolins ประธานสภา NEPLP กล่าวว่า เนื่องจากการรุกรานของรัสเซียต่อยูเครนและการละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดนอย่างร้ายแรงของรัสเซีย ช่องทีวีของรัสเซียจึงไม่สามารถออกอากาศในลัตเวียได้ การสั่งห้ามดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้จนกว่ารัสเซียจะคืนดินแดนยูเครนที่ตนครอบครองอยู่และถอนทหารทั้งหมดออกจากแผ่นดินยูเครน [Interfax] [BNN]

สภา NEPLP ออกใบอนุญาตแพร่ภาพให้ช่อง Dozhd TV ของรัสเซีย ซึ่งไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับนโยบายของประธานาธิบดีปูตินของรัสเซีย มอสโกประกาศว่าเป็น "ตัวแทนต่างชาติ" และยุติการดำเนินงานทั้งหมดในรัสเซียเมื่อสงครามเริ่มขึ้น [Interfax] [Newsweek]

(mo/gc, transl. by tj)

 

กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้

 
 

แอลเบเนีย: รัฐสภาเลือกหัวหน้าทหารเป็นประธานาธิบดี

รัฐสภาของแอลเบเนียได้ลงคะแนนเสียงเลือก Bajram Begaj หัวหน้าฝ่ายกลาโหม เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศ ซึ่งเป็นตำแหน่งพิธีการเป็นส่วนใหญ่ วาระห้าปี หลังจากสามรอบก่อนหน้านี้ล้มเหลวในการบรรลุฉันทามติเกี่ยวกับตำแหน่งดังกล่าว [USnews]

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน Begaj ได้รับคะแนนเสียงข้างมากด้วยเสียงสนับสนุน 78 เสียงในรัฐสภา 140 ที่นั่งในการเสนอชื่อเขาเป็นประธานาธิบดี ซึ่งเป็นบทบาทที่มีอำนาจจำกัดเหนือตุลาการและกองทัพ Begaj จะเข้ารับตำแหน่งในเดือนกรกฎาคมจากประธานาธิบดี Ilir Meta ที่กำลังจะพ้นหน้าที่

ความพยายามในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งก่อนล้มเหลวเนื่องจากความขัดแย้งระหว่างพรรค Socialist Party ที่ปกครองประเทศ กับพรรค Democratic Party ที่เป็นฝ่ายค้าน สมาชิกพรรคฝ่ายค้านหลายคนเดินออกจากการลงคะแนนเสียงในรัฐสภา หลังจาก Sali Berisha ประธานพรรค Democratic Party กล่าวว่า Begaj ไม่มีสิทธิ์ที่จะได้รับการเลือก เพราะเขาได้รับการเสนอชื่อ ในขณะที่ยังดำรงตำแหน่งเดิม [Europe Monthly June 2022][Euractiv][USnews]

ก่อนการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง  Begaj ได้ลาออกจากตำแหน่งสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ เพื่อให้มีสิทธิ์ได้รับตำแหน่งประธานาธิบดี เขาเกิดในปี ค.ศ. 1967  Begaj เคยเป็นนายทหารระดับสูงสุดในกองทัพแอลเบเนีย ในช่วงอาชีพทหารกว่าสามทศวรรษ เขาดำรงตำแหน่งผู้นำในกองทัพ  [Euractiv][USnews]

(jm/gc, transl. by tj)

 

บัลแกเรีย: นายกรัฐมนตรีลาออก หลังรัฐบาลแพ้คะแนนไม่ไว้วางใจ

นายกรัฐมนตรี Kiril Petkov ของบัลแกเรีย ได้ลาออกหลังจากถูกโค่นล้มในระหว่างการลงคะแนนไม่ไว้วางใจ หกเดือนหลังจากขึ้นสู่อำนาจ โดยฝ่ายค้านทางการเมืองอ้างถึงการแตกแยกเกี่ยวกับงบประมาณของรัฐบาลกลาง อัตราเงินเฟ้อที่รุนแรง และการยับยั้งการเข้าร่วมสหภาพยุโรปของมาซิโดเนียเหนือเป็นเหตุผล

ผู้แทนฝ่ายค้านในรัฐสภาลงคะแนนเสียง 123 -116 ให้โค่นล้มรัฐบาลเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ระหว่างการลงคะแนนเสียงที่จัดขึ้น 24 ชั่วโมงหลังจากสิ้นสุดการอภิปรายที่ยาวนาน Petkov ซึ่งลาออกอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ได้รับมอบหมายให้พยายามจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ร่วมกับประธานาธิบดี Rumen Radev [Reuters] [SofiaGlobe] [Euronews] [RadioFreeEurope][Euractiv].

Boyko Borisov อดีตนายกรัฐมนตรีและสมาชิกพรรคฝ่ายค้านกลางขวาของพรรค GERB เสนอให้การลงคะแนนเสียงไม่ไว้วางใจ โดยอ้างว่ารัฐบาลของ Petkov ไม่สามารถควบคุมอัตราเงินเฟ้อร้อยละ15.6 เป็นเหตุผลหลัก และ Slavi Trifonovสลาวี หัวหน้าอดีตพรรค Coalition Member Populist “There is Such a People” สนับสนุนการตัดสินใจลงคะแนนเสียงนี้ [SofiaGlobe] [Reuters] [RadioFreeEurope].

Borisov กล่าวสองวันหลังจากการลงคะแนนเสียงว่า พรรคของเขาสนใจที่จะจัดตั้งพันธมิตรกับพรรคอื่นๆ ที่สนับสนุนยุโรป เขากล่าวว่าประเทศควรถูกปกครองโดยกลุ่มพันธมิตรยูโร - แอตแลนติกใหม่ ไม่นานหลังจากขอโทษ Petkov ที่เรียกเขาว่า “คนขี้ขลาด”  [Euractiv]

Petkov ปฏิเสธความคิดนี้ “ถ้า Boyko Borissov ตัดสินใจที่จะไปที่เกาะที่อบอุ่น ข้าพเจ้าแน่ใจว่าเรามีความคิดสำหรับบัลแกเรียในยุโรปกับเจ้าหน้าที่บางคนของเขา” เขากล่าวเสริมว่า “การต่อสู้กับการทุจริตไม่สามารถเกิดขึ้นได้ตราบใดที่คุณมีพันธมิตรที่เป็นพันธมิตร ส่วนหนึ่งของการทุจริต”  [Euractiv]

รัฐบาลของ Petkov มีจุดยืนที่แข็งแกร่งเดี่ยวกับการต่อต้านการทุจริตและต่อต้านรัสเซีย หลังจากการลงคะแนนเสียง เขากล่าวว่า พรรคฝ่ายกลางที่สนับสนุนยุโรปของเขาจะยังคงแสวงหาผลประโยชน์ของประเทศในยุโรปที่ประสบความสำเร็จ ซึ่ง "ไม่มีมาเฟีย" เป็นผู้นำ [RadioFreeEurope] [BalkanInsight] [Politico]

พรรคของ Petkov มีเวลาหนึ่งสัปดาห์ในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดในรัฐสภา หากเขาไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้หลังจากพยายามสามครั้ง Radev จะแต่งตั้งรัฐบาลผู้ดูแลและจัดการเลือกตั้ง [SofiaGlobe] [RadioFreeEurope].

หลังจากการลงคะแนนเสียงไม่ไว้วางใจ ชาวบัลแกเรียกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการเลือกตั้งครั้งใหม่ อันเนื่องมาจากการสนับสนุนพรรคชาตินิยมที่เพิ่มขึ้นและความเป็นไปได้ของการกลับมาของ Borisov ในฐานะนายกรัฐมนตรี ผู้นำของพรรค GERB เป็นหนึ่งในเหตุผลหลักของการประท้วงต่อต้านมาเฟียในช่วงฤดูร้อนปี ค.ศง 2020 ซึ่งนำไปสู่ความวุ่นวายในการเลือกตั้งเป็นเวลาหนึ่งปี  [Politico] [Europe Monthly December 2021]

(ib/gc, transl. by tj)

 

กรีซ: รัฐบาลผ่านร่างกฎหมายห้ามการบำบัดเพื่อการแปลงเพศสำหรับคนข้ามเพศ

รัฐบาลกรีกผ่านร่างกฎหมายห้ามการปราบปรามรสนิยมทางเพศผ่านการบำบัดเพื่อการแปลงเพศและการโฆษณา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ระดับชาติที่กว้างขึ้นเพื่อปรับปรุงความเท่าเทียมทางเพศ [NBCNews] [Reuters]

ร่างกฎหมายนี้ห้ามไม่ให้นักจิตวิทยาส่งเสริมการบำบัดรักษาผู้เยาว์ และกำหนดโทษปรับและจำคุกหากมีการละเมิด กรีซเข้าร่วมกับประเทศอื่นๆ เช่น แคนาดา นิวซีแลนด์ และฝรั่งเศส ในการบำบัดด้วยการทำให้กลับใจใหม่เป็นอาชญากรรม [NeosKosmos][Reuters]

รัฐบาลยังไม่ได้สั่งห้ามการผ่าตัดจุดตัดของทารกที่เกิดมาพร้อมกับอวัยวะเพศหรือโครโมโซมที่คลุมเครือหรือคลุมเครือ [GreekReporter]

(ib/gc, transl. by tj)

 

โรมาเนีย: ขบวนพาเหรด Pride ถูกโจมตีโดยนักเคลื่อนไหวอนุรักษ์นิยม

ผู้ประท้วงหัวโบราณและเคร่งศาสนาโจมตีผู้เข้าร่วมหลายร้อยคนในขบวนพาเหรด Prideในเมือง Iasi ทางตะวันออกเฉียงเหนือของโรมาเนียเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน  [BalkanInsight]

ขณะเดินพาเหรด ไปยังใจกลางเมือง งานมหกรรมที่จัดโดยสมาคม Rise OUT Association ถูกรบกวนโดยการปรากฏตัวของกลุ่มคนที่สวมสัญลักษณ์ทางศาสนาและสวดมนต์พาดพิงถึงชุมชน LBGTQIA+ พวกเขายังขว้างไข่และจุดพลุด้วย [Universul]

ตำรวจเข้าแทรกแซงเพื่อแยกทั้งสองกลุ่มตามเส้นทางขบวนพาเหรด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรึงกำลังตามจุดต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ความตึงเครียดเพิ่มขึ้น [BalkanInsight][Universul]

(jm/gc, transl. by tj)

 

เซอร์เบีย: ประธานาธิบดี Vucic วิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจปิดน่านฟ้าต่อรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียว่าเป็น ‘อาการหวาดผวา'

เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ประธานาธิบดี Aleksandar Vucic แห่งเซอร์เบียวิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจของประเทศในภูมิภาค ที่ปิดน่านฟ้าของตนต่อรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย Sergei Lavrov ก่อนเยือนกรุงเบลเกรด

Vucic เห็นว่าการตัดสินใจของมอนเตเนโกร มาซิโดเนียเหนือ และบัลแกเรียที่ปิดน่านฟ้าของพวกเขาว่า "อาการหวาดผวา" และแสดง "ความไม่พอใจ" กับแรงกดดันต่อเซอร์เบียเนื่องจากการเยือนของ Lavrov เขากล่าวหาว่าสหภาพยุโรปเป็นคนหน้าซื่อใจคดเนื่องจาก Lavrov มีแผนการที่จะไปเยือนตุรกี ซึ่งเป็นสมาชิกของนาโต้ [APnews][BalkanInsight]

“ข้าพเจ้าไม่ได้เห็นอาการหวาดผวาแบบนี้มานานแล้ว ที่เซอร์เบียซึ่งเป็นประเทศเล็กได้รับสัมผัสในยุโรปและทั่วโลก” Vucic กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ เป็นไปตามที่คาดหมายอย่างแน่นอน และบ่นว่าเซอร์เบียถูกประณามเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามมาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรปต่อรัสเซีย และเสริมว่าประเทศของเขาจะคงไว้ซึ่งอิสรภาพและเอกราชในการตัดสินใจทางการเมือง [APnews] [BalkanInsight]

(jm/gc, transl. by tj)

 

ตุรกี: Erdogan เริ่มหาเสียงเลือกตั้งด้วยการโจมตีพรรคคู่แข่งและฝ่ายค้านอย่างรุนแรง

ประธานาธิบดี Recep Tayyip Erdogan ของตุรกีเริ่มรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีของประเทศสำหรับปี ค.ศ. 2023 โดยวิพากษ์วิจารณ์ Kemal Kilicdaroglu ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของฝ่ายค้าน ในขณะที่ รัฐบาลดูเหมือนกำลังสร้างอุปสรรคทางกฎหมายให้กับพรรคฝ่ายค้านของประเทศมากขึ้น

แม้ว่า ประวัติทางการเมืองของ Kilicdaroglu “เต็มไปด้วยการแตกร้าวและความล้มเหลว แต่ตอนนี้เขากำลังไล่ล่าตำแหน่งประธานาธิบดี” Erdogan กล่าว “แทนที่จะทำแบบลูกผู้ชาย   เขากลับพยายามทำแบบ อ้อมๆ จากหลังเวที ตามกฎหมายของเขาเอง เขากำลังมองหาอนาคตด้วยพระคุณของเอกอัครราชทูตต่างประเทศ” [EURONEWS] [HABER]

ขณะที่ Erdogan เกลี้ยกล่อม Kilicdaroglu ให้ประกาศการสมัครรับเลือกตั้งกับพรรค People’s Republic Party (CHP) หรือให้พรรคประกาศผู้สมัครรับเลือกตั้ง รัฐบาลดูเหมือนกำลังพยายามใช้อุปสรรคทางกฎหมายเพื่อสร้างความขัดแย้งในหมู่กลุ่มพันธมิตรที่นำโดยฝ่ายค้านหลักของประเทศ การเลือกตั้งที่กำหนดไว้ในเดือนมิถุนายน ค.ศ.2023  [Al Monitor]

ศาลอุทธรณ์ระดับสูงของตุรกีประกาศเมื่อวันที่ 14 มิถุนายนว่าสมาชิกภาพพรรคการเมืองของ Canan Kaftancioglu หัวหน้าพรรค CHP สิ้นสุดลงแล้ว Kaftancioglu หัวหน้า CHP สาขาอิสตันบูล เป็นที่รู้จักจากความสามารถของเธอในการจัดระเบียบและขยายการสื่อจุดยืนทางการเมืองและการระดมพลระดับรากหญ้าของพรรค [Al Monitor]

ภายใต้ Erdogan ตุรกีกลายเป็นที่รู้จักในการถอดถอนนักการเมืองฝ่ายค้านออกจากตำแหน่งที่ได้รับการเลือกตั้ง ด้วยกฎหมายที่ซับซ้อนโดยการทำให้ความผิดต่อประธานาธิบดีและรัฐบาลเป็นอาชญากรรม คำวินิจฉัยเหล่านี้ถือเป็นการละเมิดสิทธิตามแบบอย่างของศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป ตามที่นักวิชาการด้านกฎหมายอ้างโดย Al Monitor Al Monitor.

ขณะที่ พรรค Justice and Development Party (AKP) ของ  Erdogan พยายามทำให้ฝ่ายค้านอ่อนแอลง พรรคก็พยายามกำหนดด้วยว่าจังหวัดใดมีข้อบกพร่องอยู่บ้างตามผลการเลือกตั้งครั้งก่อน พรรคAKP ยังได้เริ่มเตรียมการต่อต้านการฉ้อโกงและการกระทำผิดกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นที่กล่องลงคะแนนโดยร่วมมือกับศาลการเลือกตั้งสูงสุด

(go/gc, transl. by tj)

 

ตุรกี: การแก้ไขกฎหมายการเลือกตั้งรัฐสภาของตุรกีอาจเป็นอันตรายต่อประชาธิปไตย คณะกรรมาธิการ Venice กล่าว

การเปลี่ยนแปลงกฎหมายการเลือกตั้งรัฐสภาของตุรกีอาจส่งผลทางลบต่อระบอบประชาธิปไตยแบบครอบคลุม คณะกรรมาธิการ Venice คณะผู้เชี่ยวชาญของสภาสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป กล่าวใน opinion ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน

กฎหมายถูกมองว่าเป็นความพยายามที่จะแบ่งแยกและทำให้ฝ่ายค้านทางการเมืองอ่อนแอลง ประธานาธิบดีตุรกี Recep Tayyip Erdogan ได้รวมอำนาจไว้ที่ศูนย์กลางในปี ค.ศ. 2018 เมื่อประเทศเปลี่ยนจากรัฐบาลระบบรัฐสภามาเป็นรัฐบาลระบบประธานาธิบดี [Al Monitor]

ในขณะที่คณะกรรมาธิการ Venice ยินดีกับการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่เกิดขึ้น เช่น การลดเกณฑ์การเลือกตั้งจากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 7 คณะกรรมาธิการฯ วิพากษ์วิจารณ์กฎหมายใหม่ว่าการคุกคามการรวมกลุ่มโดยทำให้พรรคเล็กๆ เข้าสภาได้ยากขึ้น เกณฑ์การเลือกตั้งใหม่ยังคงอยู่ในระดับสูงที่สุดในยุโรป ซึ่งโดยปกติแล้วจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 5 หรือแม้กระทั่งไม่มีเลย

ข้อกำหนดใหม่ที่ฝ่ายต่างๆ จะต้องมีการประชุมสองครั้งในระดับชาติ ระดับจังหวัด และระดับเขตเพื่อเข้าร่วมในการเลือกตั้งรัฐสภา ทำให้พรรคเล็กๆ ได้ที่นั่งยากลำบากขึ้น คณะกรรมาธิการฯ วิพากษ์วิจารณ์การขาดกระบวนการปรึกษาหารือกับฝ่ายค้านและภาคประชาสังคม พร้อมทั้งเรียกร้องให้ตุรกีพิจารณาทบทวนกฎหมายและทำการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็น [Council of Europe] [Balkan Insight]

(aml/gc, transl. by tj)

 

ตุรกี: อัตราเงินเฟ้อประจำปีแตะระดับสูงสุดในรอบ 24 ปีในเดือนพฤษภาคมเนื่องจากสงครามยูเครน Lira ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

อัตราเงินเฟ้อในตุรกีแตะระดับสูงสุดในรอบ 24 ปีในเดือนพฤษภาคม โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 73.5 ต่อปี เนื่องจากสงครามในยูเครน ราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น และค่าเงินลีราที่ร่วงลงทำให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลง นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อประจำปีจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 76.6 [ABCNEWS] [Reuters]

ค่าขนส่งและอาหารได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 108 และ ร้อยละ 92 ต่อปีตามลำดับในเดือนพฤษภาคม ทำให้ชาวเติร์กต้องดิ้นรนกับการซื้ออาหารพื้นฐาน เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจของประเทศกำลังทวีความรุนแรงขึ้นท่ามกลางค่าเงินสกุล Lira ที่ลดลง โดยสกุลเงินท้องถิ่นตกลงร้อยละ 44 ในปี ค.ศ. 2021และอีกร้อยละ 20 ในปีนี้ [Reuters]

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง Nureddin Nebati กล่าวใน Twitter ว่าอัตราเงินเฟ้อรายเดือนมีแนวโน้มลดลง ซึ่งเป็นสัญญาณบวก นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระดับสูงในปี ค.ศ. 2022 โดยในช่วงปลายปี จะอยู่ที่ร้อยละ 63 ตามค่ามัธยฐาน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 52 ในแบบสำรวจความคิดเห็นของเดือนที่แล้ว [Reuters]

ความน่าเชื่อถือของสถาบัน Turkish Statistical Institute ถูกตั้งคำถามโดยฝ่ายนิติบัญญัติและนักเศรษฐศาสตร์ฝ่ายค้าน จากการสำรวจพบว่า ชาวเติร์กเชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อสูงกว่าตัวเลขทางการ แต่สถาบันฯได้ปฏิเสธข้อกล่าวอ้างดังกล่าว

Steve Hanke ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ประยุกต์ที่มหาวิทยาลัย Johns Hopkins ในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ ให้ความเห็นว่า อัตราดอกเบี้ยต่ำทำลายมูลค่าของเงิน lira ซึ่งอาจหมายถึง "จุดจบ" ของ Erdogan [Twitter]

(fw/gc, transl. by tj)

 

ตุรกี: ตำรวจจับกุมคนกว่า 200 คนในการประท้วง LGBTQ+ ในนครอิสตันบูล

ตำรวจตุรกีจับกุมคนกว่า 200 คน รวมถึงผู้สื่อข่าวด้วยในระหว่างการประท้วง LGBTQ+ ในนครอิสตันบูลเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน หลังจากที่มีการสั่งห้ามเนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัย ผู้ที่ถูกควบคุมตัวส่วนใหญ่ได้รับการปล่อยตัวในวันรุ่งขึ้น หลังจากให้คำให้การกับตำรวจและเข้ารับการตรวจสุขภาพ [Associated Press] [Le Monde] [Zeit]

ตำรวจคุมตัวผุ้สื่อข่าวที่ทำข่าวการเดินขบวน และยังทุบตีผู้คนจำนวนมากที่เข้าร่วมการประท้วง ตามรายงานของสหภาพผู้สื่อข่าว DISK Basin-Is  ผู้สื่อข่าวของ AFP กล่าวว่า ตำรวจไม่อนุญาตให้มีการถ่ายทำการจับกุม [Le Monde] [Associated Press] [Zeit]

ชาวบ้านทุบกระทะและหม้อจากหน้าต่างและระเบียงบ้าน ด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับผู้ประท้วง เจ้าหน้าที่ระดับสูงของตุรกีเรียกกลุ่ม LGBTQ+ ว่า “คนวิปลาส” ซึ่งขัดต่อค่านิยมดั้งเดิมของครอบครัว [FAZ] [Associated Press]

(fw/gc, transl. by tj)

 

กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปใต้

 
 

อิตาลี: ความวุ่นวายเกิดขึ้นเมื่อรัฐมนตรีต่างประเทศออกจากกลุ่ม Five Star movement

รัฐมนตรีต่างประเทศอิตาลีประกาศเมื่อวันที่ 21 มิถุนายนว่าเขาได้ลาออกจากกลุ่ม Five Star Movement ที่ปกครองร่วมกันเพื่อสร้างกลุ่มรัฐสภาใหม่ที่สนับสนุนรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี Mario Draghi แต่ความแตกแยกภายในได้ทำให้เกิดความกลัวว่ารัฐบาลผสมหลายพรรคของประเทศจะไม่เสถียร [Reuters][Corriere][Ansa]

การตัดสินใจดังกล่าวของรัฐมนตรีต่างประเทศ Luigi Di Maio มีขึ้นหลังจากที่เขากล่าวหาว่าพรรคบ่อนทำลายการเคลื่อนไหวของรัฐบาลเพื่อช่วยยูเครน และอ้างว่า กลุ่มดังกล่าวทำให้สถานะของกรุงโรมในสหภาพยุโรปอ่อนแอลง ด้วย“ทัศนคติที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ" [Ansa][Reuters]

กลุ่ม Five Star Movement ได้เป็นกำลังสำคัญในรัฐสภาของอิตาลีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2018 อย่างไรก็ตาม ขบวนการฯ ประสบความสูญเสียครั้งใหญ่ในการเลือกตั้งท้องถิ่นและจากการสำรวจความคิดเห็นเมื่อเร็วๆ นี้ ขบวนการฯ เริ่มกังขามากขึ้นเกี่ยวกับการส่งมอบอาวุธให้ยูเครน และโทษผลลัพธ์ที่ถดถอยลงในประเด็นนี้

มีข่าวลือแพร่สะพัดว่า Giuseppe Conte ผู้นำกลุ่ม Five Star Movement อาจถอนพรรคออกจากรัฐบาลเพื่อหยุดยั้งแนวโน้มขาลง ซึ่งพรรคปฏิเสธเรื่องนี้ในแถลงการณ์ที่ออกเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน [Reuters][msn]

Di Maio ได้สร้างกลุ่ม Centrist ขึ้นมาใหม่แล้ว ซึ่งเรียกกันชั่วคราวว่า Together for the Future ปัจจุบันมีผู้แทน 51 คน รวมถึงอดีตสมาชิกขบวนการ Five Star Movement ที่ออกจากพรรคหลังการประกาศของเขา [Il Foglio][IlManifesto][msn]

(sr/pk, transl. by tj)

 

อิตาลี: การลงประชามติประสบความล้มเหลว

การลงประชามติในอิตาลี สอบถามประชาชนเกี่ยวกับข้อเสนอการเปลี่ยนแปลงระบบตุลาการของประเทศ พบว่ามีผู้มาลงคะแนนเสียงเพียง 1 ใน 5 เท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าร้อยละ 50 หากผลลัพธ์จะมีผลบังคับใช้ได้

การลงประชามติเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ได้สอบถามประชาชนเกี่ยวกับการปฏิรูประบบตุลาการที่หลายคนมองว่าไม่มีประสิทธิภาพ แต่นักวิจารณ์กล่าวว่าคำถามห้าข้อในประชามตินั้น เทคนิคเกินกว่าที่ผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงบางคนจะเข้าใจ [Reuters]

อดีตนายกรัฐมนตรี Giuseppe Conte ผู้นำของกลุ่ม Five Star Movement ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล กล่าวว่า การลงประชามติดังกล่าว “น่าผิดหวังอย่างมากในผลลัพธ์ของมัน โดยมีประชาชนออกมาใช้สิทธิน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมา ประชาชนไม่เชื่อว่ามีความพยายามที่แท้จริงในการปรับปรุงความยุติธรรม” [rainews]

ในบรรดาผู้สนับสนุนการลงประชามติคือพรรค League Party ฝ่ายขวา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลผสม และพรรค Radical Party ฝ่ายซ้ายกลาง ซึ่งโต้แย้งว่ามีความจำเป็นต้องมีการควบคุมตุลาการมากขึ้น [ilgiorno]

(ab/pk, transl. by tj)

 

อิตาลี: ช่องว่างเหนือ -ใต้ที่เพิ่มขึ้น ยับยั้งการเจริญเติบโตของประเทศ ธนาคารกลางกล่าว

ช่องว่างในการพัฒนาระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ของอิตาลีได้กว้างขึ้นอย่างมากและชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม ตามรายงานของธนาคารกลางของประเทศ [ansa]

รายงานเรื่อง “ช่องว่างเหนือ-ใต้: การพัฒนาเศรษฐกิจและการแทรกแซงสาธารณะ” ถูกนำเสนอในการประชุมที่กรุงโรมเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน โดยระบุว่าระหว่างปี ค.ศ. 2007 ถึงปี ค.ศ. 2019 ซึ่งเป็นช่วงที่มีวิกฤตการณ์ทางการเงิน จีดีพี ของภาคใต้ของอิตาลีหดตัวร้อยละ 10 หรือประมาณห้าเท่าของภาคกลางและภาคเหนือ [rainews]

Ignazio Visco ผู้ว่าการธนาคารกลางอิตาลี กล่าวว่า ความด้อยพัฒนาทางตอนใต้ของประเทศเป็นผลมาจากความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจและสังคมที่ลึกซึ้ง [rainews]

(ab/pk, transl. by tj)

 

โปรตุเกส: ร่างกฎหมายการุณยฆาตผ่านการพิจารณาครั้งแรก หลังจากที่ประธานาธิบดีเคยยับยั้ง 2 ครั้ง

ร่างกฎหมายสี่ฉบับที่มีเป้าหมายเพื่อลดทอนความเป็นอาชญากรรมของการุณยฆาต ที่เสนอโดยพรรค Socialist Party ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของโปรตุเกส และพรรคฝ่ายค้านฝ่ายซ้ายและฝ่ายกลาง 3 พรรค ผ่านการพิจารณาครั้งแรกในรัฐสภาเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน

การลงคะแนนเสียงโดยฝ่ายนิติบัญญัติถือเป็นความพยายามครั้งที่สามของรัฐสภาโปรตุเกสในเวลาเพียงปีเดียวในการเสนอกฎหมายที่ลดทอนความเป็นอ าชญากรรมของการปลดชีวิตด้วยการช่วยเหลือทางการแพทย์ [Lusa] [msn]

ฝ่ายนิติบัญญัติ ได้ผ่านร่างกฎหมายการุณยฆาตในเดือนมกราคม ค.ศ. 2021แต่ประธานาธิบดีฝ่ายอนุรักษ์นิยมของโปรตุเกส Marcelo Rebelo de Sousa ได้ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญทบทวนกฎหมายดังกล่าว เนื่องจากเขาเห็นว่าถ้อยคำไม่ชัดเจน ซึ่งศาลเห็นชอบและประกาศว่าร่างกฎหมายฯขัดต่อรัฐธรรมนูญ หลังจากนั้น Rebelo de Sousa ได้ใช้สิทธิประธานาธิบดี ยับยั้งร่างกฎหมายฯ [Reuters]

ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2021 ร่างกฎหมายฉบับแก้ไขได้ผ่านรัฐสภา แต่ถูกประธานาธิบดียับยั้งอีกครั้ง โดยกล่าวว่า ถ้อยคำยังคลุมเครือ และส่งร่างกฎหมายกลับไปให้ฝ่ายนิติบัญญัติปรับปรุงแก้ไขอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม รัฐสภาไม่สามารถดำเนินการกับเรื่องนี้ได้ก่อนจะมีการยุบสภา เนื่องจากมีการเลือกตั้งในเดือนมกราคม ค.ศ. 2022. [The Portugal News] [Europe Monthly December 2021] [Europe Monthly January 2022]

ร่างกฎหมายฉบับปรับปรุงแก้ไขล่าสุด ได้ตอบโจทย์บางประการของ Rebelo de Sousa โดยระบุว่าผู้คนจะได้รับอนุญาตให้ขอความช่วยเหลือในการยุติชีวิตในกรณีของ "การบาดเจ็บขั้นสุดท้ายจากแรงโน้มถ่วงสุดขีด" หรือ "โรคร้ายแรงที่รักษาไม่หาย"

ร่างกฎหมายจะถูกตรวจสอบโดยฝ่ายนิติบัญญัติก่อนการลงคะแนนเสียงขั้นสุดท้าย ก่อนที่ร่างกฎหมายฉบับสุดท้ายจะถูกนำเสนอต่อประธานาธิบดี ซึ่งเป็นผู้ที่สามารถลงนามเพื่อบัญัติเป็นกฎหมาย หรือ ยับยั้งอีกครั้ง หรือส่งไปที่ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อประเมิน [Reuters]

(sr/pk, transl. by tj)

 

โปรตุเกส: อดีตประธานาธิบดีเรียกร้องให้มีการปฏิรูประบบการเลือกตั้ง

Anibal Cavaco Silva อดีตประธานาธิบดีโปรตุเกส เรียกร้องให้มีการปฏิรูประบบการเลือกตั้งของประเทศ โดยชี้ไปที่อัตราการงดออกเสียงในการเลือกตั้งเมื่อเร็วๆ นี้ [CM Jornal]

นักการเมืองหัวโบราณ ซึ่งดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี ค.ศ. 2006 ถึง 2016 กล่าวในการประชุมเมื่อวันที่ 14 มิถุนายนว่า ประชาธิปไตยในโปรตุเกสเริ่มแสดง “อาการด้อยคุณภาพ”

เขากล่าวว่า ภายใต้กฎการเลือกตั้งในปัจจุบัน การลงคะแนนเสียงจำนวนมากไม่มีผลกระทบต่อผลการเลือกตั้ง นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่ได้เป็นตัวแทนของการเลือกของประชาชน เขาเสริมว่า สิ่งนี้นำไปสู่ความคับข้องใจและทำให้บางคนงดออกเสียง [Diario de noticias]

การเลือกตั้งรัฐสภาในโปรตุเกสเป็นไปตามวิธีการแทนตามสัดส่วนของ D’Hondt โดยแบ่งประเทศออกเป็นเขตที่คัดเลือกผู้แทนระหว่างสองถึง 48 คน ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในพื้นที่

ประชาชนสามารถเลือกได้ระหว่างรายชื่อผู้สมัคร โดยแต่ละพรรคหรือกลุ่มพันธมิตรจะระบุบัญชีรายชื่อของตน จากนั้น จึงแจกจ่ายที่นั่งรัฐสภาตามสัดส่วนคะแนนเสียงที่ได้รับ ซึ่งหมายความว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตเลือกตั้งขนาดเล็ก การลงคะแนนเสียงอื่นที่ไม่ใช่รายชื่อที่ชนะจะไม่ส่งผลต่อผลการแข่งขันระดับชาติ [Parlamento][Secretaria Geral][Noticias ao minuto]

ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2021 สมาคม Portuguese Association for Economic and Social Development ได้เสนอระบบการเลือกตั้งที่ประชาชนจะลงคะแนนเสียงสองเสียง กล่าวคือ หนึ่งเสียงสำหรับพรรคหนึ่งและอีกหนึ่งเสียงสำหรับผู้สมัครโดยเฉพาะ สมาคมฯยังได้เสนอผู้แทนอย่างน้อยแปดคนต่อเขตเลือกตั้ง [Diario de noticias]

Joao Cotrim Figueiredo หัวหน้าพรรค Liberal Initiative Party ซึ่งเป็นฝ่ายค้านกลางขวา กล่าวเมื่อต้นปีนี้ว่า “ระบบการเลือกตั้งมีปัญหาร้ายแรง” เนื่องจากผลการเลือกตั้งไม่ได้สะท้อนถึงสิ่งที่ผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งต้องการ [Diario de noticias]

แต่พรรค Socialist Party ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล กล่าวว่า ไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงระบบการเลือกตั้งอย่างลึกซึ้ง [Noticias ao minuto][Diario de noticias]

(sr/pk, transl. by tj)

 

รายงานแจ้งเตือนว่าโปรตุเกสไม่บรรลุมาตรฐานการต่อต้านการรับสินบน

รายงานระบุว่า โปรตุเกสไม่สามารถบรรลุมาตรฐานการต่อต้านการทุจริตของสภายุโรป ซึ่งเป็นหน่วยงานเฝ้าระวังด้านสิทธิมนุษยชนชั้นนำของทวีปยุโรป [Council of Europe] [Lusa]

มีการระบุไว้ในรายงานที่ครอบคลุมปี 2021 และออกเผยแพร่เมื่อวันที่ 2 มิถุนายนโดยกลุ่มรัฐเพื่อต่อต้านการทุจริต (Group of States Against Corruption - GRECO) ซึ่งเป็นหน่วยงานตรวจสอบการให้สินบนของสภา ว่าโปรตุเกสได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ตามคำแนะนำของ GRECO เพียงสามข้อจากทั้งหมด 15 ข้อเท่านั้น [Council of Europe][Lusa]

สภายุโรปก่อตั้ง GRECO ขึ้นในปี 1999 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยรัฐต่างๆ ให้ต่อสู้กับการรับสินบนด้วยการดูแลและตรวจสอบการปฏิบัติตามมาตรฐานการต่อต้านการทุจริตของสภา [Council of Europe]

ในขณะเดียวกัน องค์กรต่อต้านการทุจริตที่ชื่อองค์กรโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International) สาขาโปรตุเกส กล่าวว่าผลลัพธ์จากรายงานนี้ “ไม่น่าประหลาดใจอีกต่อไป แต่ยังน่าผิดหวังอยู่” [Lusa]

Susana Coroado ผู้นำองค์กรโปร่งใสนานาชาติในโปรตุเกสกล่าวว่า แม้ว่าโปรตุเกสจะได้ดำเนินการปฏิรูปหลายอย่าง เช่น ข้อเสนอและเงื่อนไขว่าด้วยความโปร่งใส (transparency package) ปี 2019 และกลยุทธ์ต่อต้านการทุจริตในระดับชาติ แต่ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยาวนานและมากพอ รวมทั้งไม่สามารถจัดการกับปัญหาต่างๆ ที่สำคัญและซ่อนเร้นได้ ซึ่งรวมถึงกฎระเบียบของงานที่เกี่ยวกับการวิ่งเต้น (lobby work) ด้วย [Lusa] [The Portugal News] [Lusa]

(sr/pk, transl. by vv)

 

สเปน: พรรคอนุรักษ์นิยมชนะการเลือกตั้งระดับภูมิภาค, แรงหนุนก่อนการลงคะแนนเสียงในระดับชาติ

เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พรรคประชาชนอนุรักษ์นิยมของสเปนได้รับเสียงข้างมากอย่างเด็ดขาดในการเลือกตั้งระดับภูมิภาคในแคว้นอันดาลูเซีย ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศ โดยส่งผลให้เกิดแรงหนุนต่อกลุ่มฝ่ายค้านหลักของประเทศก่อนการเลือกตั้งระดับประเทศในปีหน้า [The Guardian] [Reuters]

ผลการเลือกตั้งดังกล่าวหมายความว่าพรรคประชาชนจะไม่ต้องพึ่งพาพรรคประชานิยมขวาจัดวอกซ์ (Vox) ซึ่งผงาดขึ้นมามีอำนาจและอิทธิพลในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพื่อปกครองในแคว้นอันดาลูเซีย

การลงคะแนนเสียงในระดับภูมิภาคเป็นการทดสอบที่สำคัญครั้งแรกสำหรับ Alberto Nunez Feijoo ผู้นำคนใหม่ของพรรคประชาชน ซึ่งได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งในเดือนมีนาคม ผู้นำคนก่อนหน้าเขาถูกขับออกหลังจากการวิวาทในที่สาธารณะซึ่งคุกคามต่อการทำลายพรรคในท่ามกลางการต่อสู้แข่งขันที่รุนแรงระหว่างบุคคลสำ คัญต่างๆ ในฝ่ายอนุรักษ์นิยม [Europe Monthly April 2022]

สมาชิกพรรคฝ่ายซ้ายพ่ายแพ้อย่างหมดรูปในการเลือกตั้งที่อันดาลูเซีย ซึ่งเพิ่มความกดดันอย่างหนักต่อนายกรัฐมนตรี Pedro Sanchez และพรรคแรงงานสังคมนิยมสเปนของเขาที่ปกครองประเทศ รัฐบาลของ Sanchez ได้พยายามอย่างหนักเพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและผลพวงทางเศรษฐกิจจากสงครามรัสเซียกับยูเครน [AP] [The Guardian]

Antonio Barroso นักวิเคราะห์แห่งบริษัทให้คำปรึกษาทางการเมือง Teneo บอกกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า “Sanchez อาจต้องเผชิญกับการต่อสู้ที่ยากลำบากยิ่งเพื่อให้ได้รับเลือกตั้งอีกครั้ง” ในการลงคะแนนเสียงโดยใช้บัตรของรัฐสภาในระดับชาติที่จะถึงกำหนดภายในสิ้นปี 2023 [AFP/France 24]

ชัยชนะของพรรคประชาชนในแคว้นอันดาลูเซียหมายความว่าพรรคมีอิสระที่จะปกครองภูมิภาคนี้โดยไม่ต้องมีพรรควอกซ์เข้าร่วม จนเมื่อเร็วๆ นี้ที่พรรควอกซ์ถูกมองว่าเป็นพวกนอกคอกในการเมืองของสเปนเนื่องเพราะลัทธิชาตินิยมสุดโต่ง (ultra-nationalism) และความเกลียดกลัวชาวต่างชาติ (xenophobia) ของพรรค

พรรควอกซ์แข็งแกร่งและมีอำนาจมากขึ้น และเมื่อต้นปีนี้ นับเป็นครั้งแรกที่พรรคเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับรัฐบาลท้องถิ่นในบริเวณภาคกลางตอนเหนือของแคว้นกัสติยาและเลออน ที่ซึ่งพรรคได้ทำงานร่วมกับพรรคประชาชน [Europe Monthly April 2022]

(pk, transl. by vv)

 

สเปน: พรรคแบ่งแยกดินแดนกาตาลุญญาเลือกผู้นำคนใหม่แทนที่ Puigdemont

พรรคแบ่งแยกดินแดนจุนต์ส (Junts) ซึ่งเป็นผู้นำในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของแคว้นกาตาลุญญาในการประกาศแยกตัวเป็นอิสรภาพจากสเปนในปี 2017 ได้เลือกผู้นำคนใหม่มาแทนที่ Carles Puigdemont ซึ่งบอกว่าเขาจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งในตำแหน่งนี้อีกเนื่องจากเขาพุ่งความสนใจไปยัง (การทำ) หน้าที่ต่างๆ ในฐานะสมาชิกของรัฐสภายุโรป [rtve]

Laura Borras ประธานรัฐสภาท้องถิ่นแห่งกาตาลุญญาได้รับเลือกให้เป็นผู้นำพรรคเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ในระหว่างการประชุมใหญ่ที่ Puigdemont เข้าร่วม ซึ่งจัดขึ้นในเมืองอาร์เจเลสที่อยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศสและอยู่ใกล้กับชายแดนสเปน

Puigdemont เลือกไปลี้ภัยอยู่ในเบลเยียมหลังจากที่รัฐสภาของแคว้นกาตาลุญญาออกคำประกาศอิสรภาพที่มีระยะเวลาสั้นๆ เมื่อห้าปีที่แล้ว เขาเป็นบุคคลที่ทางการสเปนต้องการตัวในข้อหาปลุกปั่นให้ขัดขืนอำนาจปกครอง (sedition) และก่อการกบฏ

Borras กล่าวว่าอิสรภาพยังคงเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกสำหรับพรรคจุนต์สและอธิบายตัวเธอเองว่าเป็น “พวกนิยมปุดจ์ดาโมน” (puigdemontist) [ElDiario]

Borras กำลังถูกสอบสวนในข้อกล่าวหาว่าได้รับสัญญาที่ผิดปกติในขณะที่เธอเป็นหัวหน้าสถาบันอักษรศาสตร์แห่งกาตาลุญญา [ElMundo]

ในเดือนตุลาคม 2017 พวกผู้นำแบ่งแยกดินแดนกาตาลุญญาประกาศอิสรภาพจากสเปนหลังจากการลงประชามติที่ได้รับการคัดค้าน รัฐบาลแห่งชาติถือว่าการลงคะแนนเสียงนั้นผิดกฎหมาย และพวกผู้นำของกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อเอกราชถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานขัดขืนอำนาจปกครองและก่อการกบฏ, ถูกคุมขังหรือไม่ก็ถูกบังคับให้หนีไปต่างประเทศ

(vb/pk, transl. by vv)

 

กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปกลาง

 

หน่วยงานเฝ้าระวังกล่าวว่า นอร์เวย์จำเป็นต้องยกระดับการต่อสู้กับการค้ามนุษย์

ผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานเฝ้าระวังด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสภายุโรปได้กล่าวไว้ในรายงานฉบับหนึ่ง ว่านอร์เวย์ได้มีความคืบหน้าในการต่อสู้กับการค้ามนุษย์ แต่จำเป็นต้องดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อให้แน่ใจว่าเหยื่อสามารถเข้าถึงความยุติธรรมและการเยียวยาได้

กลุ่มผู้เชี่ยวชาญในการดำเนินการต่อต้านการค้ามนุษย์ (Group of Experts on Action against Trafficking) แห่งสภายุโรปยินดียอมรับการเปลี่ยนแปลงขอบข่ายงานด้านกฎหมายในกฎหมายอาญาและกฎหมายมหาชนที่นอร์เวย์ได้ดำเนินการเพื่อต่อต้านการละเมิดส ิทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระราชบัญญัติว่าด้วยความโปร่งใสของประเทศ (Transparency Act) นั้นบังคับให้บริษัทขนาดใหญ่ต้องรับประกันสภาพการทำงานที่เหมาะสม ทั้งนี้ตามคำกล่าวของผู้เชี่ยวชาญ

อย่างไรก็ตาม รายงานดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นในการใช้แรงงานที่เป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ (trafficked workers) ในภาคส่วนต่างๆ เช่น การก่อสร้าง เกษตรกรรม การทำความสะอาด การเก็บขนของเสีย และงานบริการในนอร์เวย์ ตลอดจนการฟ้องร้องดำเนินคดีและการพิพากษาลงโทษที่กระทำต่อการค้ามนุษย์นั้นอยู่ในอัตราที่ต่ำ สิ่งนี้เรียกร้องให้ประเทศใช้กลไกการส่งต่อการให้ความช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ระดับชาติ (national referral mechanism) เพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าหน้าที่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิผลเพื่อหลีกเลี่ยงการเนรเทศผู้ที่อาจตกเป็นเหยื่อโดยไม่ต้องคัดกรอง [Council of Europe]

(aml/pk, transl. by vv)

 

สวีเดน: รัฐบาลรอดพ้นจากการถูกโหวตไม่ไว้วางใจซึ่งสร้างความยุ่งยากให้กับการประกาศเข้าร่วมนาโต

โอกาสที่รัฐบาลเสียงข้างน้อยของสวีเดนจะลาออกนั้นถูกขัดขวางไว้ได้อย่างหวุดหวิดเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน เมื่ออดีตนักรบชาวเคิร์ดที่ผันตัวมาเป็น ส.ส. ผู้ซึ่งได้สร้างความยุ่งยากให้กับคำประกาศอย่างเปิดเผยของรัฐบาลสวีเดนที่จะเข้าร่วมกับองค์การนาโตนั้น งดออกเสียงในการลงคะแนนไม่ไว้วางใจที่สำคัญ

ญัตติไม่ไว้วางใจที่มีจุดประสงค์จะขับรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมและมหาดไทยของสวีเดน Morgan Johansson ออกจากตำแหน่งขาดไปหนึ่งคะแนนเสียง หลังจากที่ ส.ส. อิสระ Amineh Kakabaveh ตัดสินใจไม่ลงคะแนนเสียง

นายกรัฐมนตรี Magdalena Andersson ได้ประกาศว่ารัฐบาลพรรคโซเชียลเดโมแครตของเธอซึ่งเป็นเสียงข้างน้อย จะลาออกหากมติไม่ไว้วางใจดังกล่าวประสบผลสำเร็จ โดยกล่าวว่าสิ่งนี้เป็นการ “ไม่รับผิดชอบ” ต่อการสร้างวิกฤติการณ์ทางการเมืองในท่ามกลางสงครามในยูเครน และถูกจัดให้มีขึ้นเพียงสามเดือนก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในสวีเดน [Euractiv] [Göteborgs-Posten]

ความไม่พอใจต่อการที่ Johansson จัดการกับการกระทำผิดที่เพิ่มขึ้นของคนกลุ่มหนึ่ง ทำให้พรรคเดโมแครตของสวีเดนซึ่งเป็นนักชาตินิยมต้องยื่นญัตติไม่ไว้วางใจ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายค้านกลาง-ขวา [Dagens Nyheter] [Dagens Nyheter]

ในการเจรจากับพรรคโซเชียลเดโมแครตที่ปกครองประเทศก่อนการออกเสียงลงคะแนนนั้น Kakabaveh ได้ให้การสนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อยของ Andersson โดยมีเงื่อนไขว่าสวีเดนจะต้องให้การสนับสนุนกลุ่มชาวเคิร์ดในซีเรียอย่างต่อเนื่อง เธอเตือนรัฐบาลว่าต้องไม่ให้ความยินยอมต่อตุรกีในกรณีที่เกี่ยวกับชาวเคิร์ด โดยตุรกีได้ขัดขวางความพยายามอย่างแข็งขันของสวีเดนในการเข้าร่วมนาโต [Reuters] [Europe Monthly June 2022]

Kakabaveh เป็นอดีตนักรบเคิร์ดเพชเมอร์กา (Kurdish peshmerga) ที่มีเชื้อสายชาวเคิร์ดในอิหร่าน อิทธิพลของเธอที่มีต่อการเมืองสวีเดนถูกวิพากษ์วิจารณ์จากเอกอัครราชทูตตุรกีประจำกรุงสตอกโฮล์มเมื่อเดือนพฤษภาคม นักการทูตคนนี้กล่าวว่าเขาต้องการจะเห็น Kakabaveh ถูกส่งตัวไปยังตุรกีในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน โดยกล่าวหาว่าเธอมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มหนึ่งที่ตุรกีมองว่าเป็นองค์กรก่อการร้าย [SVT]

ประธานาธิบดีตุรกี Recep Tayyip Erdogan กล่าวในเดือนพฤษภาคมว่าเขาคัดค้านต่อการที่สวีเดนและฟินแลนด์จะเข้าร่วมในองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ เนื่องจากประเทศทั้งสองถูกกล่าวหาว่าสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ด [Europe Monthly June 2022] รัฐบาลตุรกียกเลิกการคัดค้านเมื่อปลายเดือนมิถุนายนหลังจากการเจรจาต่อรองเป็นเวลาหลายสัปดาห์

(phr/pk, transl. by vv)

 

สวีเดน: การสนับสนุนที่เพิ่มขึ้นของรัฐสภาต่อคำสั่งห้ามเปิดโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา

ในเดือนมิถุนายน พรรคประชาชนเสรี (Liberals) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านกลาง-ขวาเรียกร้องให้มีคำสั่งห้ามเปิดโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาขึ้นในสวีเดน และเนื่องจากมีพรรคการเมืองอื่นๆ ที่สนับสนุนคำสั่งห้ามนี้เช่นเดียวกัน จึงอาจมีเสียงข้างมากในรัฐสภาในตอนนี้ (ที่สนับสนุน) การดำเนินการดังกล่าว [Ekot]

โรงเรียนเอกชนในสวีเดนได้รับเงินทุนสนับสนุนทั้งหมดหรือบางส่วนจากรัฐบาล และต้องปฏิบัติตามแนวทางของรัฐบาลในเรื่องเกี่ยวกับหลักสูตร แต่สถานะของโรงเรียนเหล่านี้เป็นที่โต้เถียงกันมาระยะหนึ่งแล้ว

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พรรคโซเชียลเดโมแครตฝ่ายกลาง-ซ้ายที่ปกครองประเทศได้เสนอคำสั่งห้ามมากมายหลายครั้งต่อรัฐสภาสวีเดน โดยอ้างว่าโรงเรียนสอนศาสนาเอกชนส่งเสริมการแบ่งแยกแทนที่จะบูรณาการ, บ่อนทำลายเสรีภาพในการเลือกนับถือศาสนา และใช้อิทธิพลทางศาสนาอย่างไม่เหมาะสมต่อนักเรียนของตน [The Local]

ตอนนี้สมาชิกพรรคประชาชนเสรีได้รับเอาความคิดนั้นมาใช้แล้วหลังจากก่อนหน้านี้เพียงแต่สนับสนุนข้อจำกัดในการจัดตั้งโรงเรียนสอนศาสนาเอ กชนแห่งใหม่ขึ้น หัวหน้าพรรค Johan Pehrson ชี้ไปที่ทางเลือกอื่นสำหรับการให้การศึกษาด้านศาสนา เช่น โรงเรียนสอนศาสนาวันอาทิตย์

คำสั่งห้ามที่นำเสนอนี้จะไม่นำไปใช้กับชนกลุ่มน้อยในชาติบางกลุ่ม เช่น ชาวฟินน์และชาวยิวในสวีเดน ซึ่งจะได้รับอนุญาตให้ดำเนินงานโรงเรียนได้ภายใต้กฎเกณฑ์ว่าด้วยการคุ้มครองชนกลุ่มน้อย [Göteborgs-Posten] [Dagens-Nyheter]

(phr/pk, transl. by vv)

 

ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ/ภูมิรัฐศาสตร์/ธรรมาภิบาลของสหภาพยุโรป 

 
 

ลิทัวเนียปิดการขนส่งไปและกลับจากคาลินินกราด ซึ่งทำให้รัสเซียเดือดดาล

ทางการลิทัวเนียกำหนดข้อจำกัดด้านการขนส่งต่อสินค้าที่อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรป ซึ่งขนส่งทางรางไปยังดินแดนส่วนแยกคาลินินกราดของรัสเซีย (Russian exclave Kaliningrad) เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน และขยายคำสั่งห้ามไม่ให้มีการข้ามพรมแดนทางถนนในวันที่ 20 มิถุนายน ซึ่งเป็นการดำเนินการที่ถูกมอสโกประณามในทันที [LRT] [Meduza]

Gabrielius Landsbergis รัฐมนตรีต่างประเทศลิทัวเนียกล่าวว่าการดำเนินการของประเทศสอดคล้องกับมาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรป แม้ว่ารัสเซียจะย้ำว่าสหภาพยุโรปและลิทัวเนียจะละเมิดข้อตกลงที่ทำขึ้นในปี 2002 ซึ่งได้อนุญาตให้มีการขนส่งสินค้าผ่านคาลินินกราดจากส่วนอื่นๆ ของรัสเซียได้ บรัสเซลส์และวิลนีอุสกล่าวว่าการคว่ำบาตรเหล่านี้เกิดขึ้นเนื่องจากรัสเซีย “ทำสงครามกับยูเครนอย่างผิดกฎหมาย” [LRT] [Meduza] [BNE]

Josep Borrell ผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรปด้านการต่างประเทศและนโยบายความมั่นคง เน้นว่าถึงแม้สินค้าที่อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรปจะไม่ได้รับอนุญาต แต่สินค้าที่ถูกกฎหมายอื่นๆ ก็ได้รับอนุญาตให้ขนส่งผ่านลิทัวเนียได้ [Financial Times]

สินค้าที่ถูกคว่ำบาตรภายใต้กฎหมายของสหภาพยุโรปมีตั้งแต่โลหะ ไม้และวัตถุดิบไปจนถึงเทคโนโลยีขั้นสูง, เครื่องใช้ในครัวเรือน, ยาสูบและแอลกอฮอล์ ตลอดจนสินค้าฟุ่มเฟือยต่างๆ เช่น น้ำหอม, ไข่ปลาคาเวียร์ และเห็ดทรัฟเฟิล สินค้านำเข้ามากกว่าครึ่งหนึ่งอยู่ภายใต้นโยบายคว่ำบาตรของสหภาพยุโรป รัฐบาลรัสเซียได้ส่งสัญญาณแล้วว่าตนจะจัดส่งเรือบรรทุกสินค้าแทนการขนส่งสินค้าทางทะเล [Meduza] [Republic World]

รัสเซียได้กล่าวหาสหรัฐฯ ว่าทำการกดดันต่อลิทัวเนีย โดยเรียกการดำเนินการของฝ่ายหลังว่าเป็น “การปิดล้อม”

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน กระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียกล่าวหาว่าการดำเนินการเหล่านั้นเป็นการกระทำตามคำสั่งของทำเนียบขาว และย้ำว่าตะวันตกไม่สนใจต่อการเรียกร้องให้มีการเจรจาและการประชุมปรึกษาหารือ ทางการสหพันธรัฐรัสเซียกำลังวางแผนที่จะใช้มาตรการตอบโต้ต่อทั้งสหรัฐอเมริกาและลิทัวเนีย [Ukrainian News] [Meduza] [Republic World] [Reuters]

ลิทัวเนียปฏิเสธข้อกล่าวหาของรัสเซีย เนื่องจากคาลินินกราดไม่ได้ถูกโดดเดี่ยวและยังสามารถเข้าถึงได้ทางบกและทางอากาศ [LRT]

(mo/gc, transl. by vv)

 

ลิทัวเนีย: ประธานาธิบดี Nauseda กล่าวว่าเบอร์ลินจะช่วยนาโตหลังจากพบปะกับนายกรัฐมนตรีเยอรมัน

ประธานาธิบดีลิทัวเนีย Gitanas Nauseda กล่าวเมื่อวันที่ 7 มิถุนายนว่า เยอรมนีส่งสัญญาณถึงความเต็มใจที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันปีกด้านตะวันออกของนาโต หลังจากพบปะกับนายกรัฐมนตรี Scholz แห่งเยอรมนีในเมืองวิลนีอุส [Reuters] [Tagesspiegel]

Scholz เน้นย้ำว่าเยอรมนีจะพัฒนาขีดความสามารถทางทหารของตนในลิทัวเนีย เพื่อโต้ตอบต่อสงครามของรัสเซียในยูเครน ประธานาธิบดี Egils Levits แห่งลัตเวียเรียกร้องให้ Scholz ทำ “ข้อเสนอแนะเฉพาะ” เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับปีกด้านตะวันออกของนาโต [Reuters] [Reuters] [Tagesspiegel]

(mo/gc, transl. by vv)

 

การวิเคราะห์: สงครามในยูเครนกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานในยุโรป

การที่รัสเซียโจมตียูเครนได้กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานในยุโรปขึ้น ในอัตราที่อาจจะเป็นไปไม่ได้เลยหากไม่มีความท้าทายด้านความมั่นคงที่สำคัญ

สงครามได้กระตุ้นให้ประเทศต่างๆ ในยุโรปทำการเปลี่ยนแปลงในสามทิศทาง: ประการแรกคือการแทนที่แหล่งก๊าซธรรมชาติของรัสเซียด้วยแหล่งพลังงานจากนานาประเทศ ประการที่สองคือการเริ่มผลิตถ่านหินขึ้นใหม่และขยายการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เพื่อเติมเต็มความต้องการด้านพลังงานในระ ยะสั้น และประการที่สามคือการเร่งการลงทุนมหาศาลในด้านพลังงานหมุนเวียนเพื่อลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลของรัสเซีย

คณะกรรมาธิการยุโรปประกาศแผนหนึ่งขึ้นเมื่อวันที่ 8 มีนาคมเพื่อแทนที่การจัดส่งพลังงานของรัสเซียในระยะยาว ซึ่งรวมถึงการจัดหาก๊าซธรรมชาติจากตะวันออกกลาง, แอฟริกา, อเมริกาเหนือ และกลุ่มประเทศแถบเทือกเขาคอเคซัส; การผลิตไบโอมีเทนและไฮโดรเจนสีเขียวในยุโรป และการลดความต้องการ (พลังงาน) ด้วยวิธีการอนุรักษ์

เงินช่วยเหลือจำนวนมากเพื่อกระตุ้นโครงการพลังงานหมุนเวียนใหม่นี้ถูกประกาศเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลของรัสเซียลงอย่างรวดเร็วและเดินหน้าสู่การเปลี่ยนแปลงสีเขียวอย่างเร่งรีบ (RePowerEU plan) ปัญหาในการจัดส่งพลังงานในทันทีอันเนื่องจากสงครามในยูเครนในเดือนที่แล้วนั้น ได้เปลี่ยนแปลงแผนการยุติการใช้ถ่านหินและบางทีอาจรวมถึงพลังงานนิวเคลียร์เป็นระยะๆ ด้วย [European Commission 1] [European Commission 2

เตรียมพร้อมสำหรับการปิดการส่งก๊าซจากรัสเซีย: แหล่งพลังงานหลัก

บริษัท Gazprom ซึ่งเป็นผู้จัดส่งก๊าซที่รัฐบาลรัสเซียเป็นเจ้าของประกาศลดการขนส่งก๊าซธรรมชาติผ่านท่อส่งก๊าซ Nordstream 1 ลงร้อยละ 60 เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน และตามด้วยการประกาศลดปริมาณการขนส่งก๊าซไปยังอิตาลีลงร้อยละ 15 เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ผู้อำนวยการบริหารสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency - IEA) ประกาศเมื่อวันที่ 22 มิถุนายนว่ายุโรปควรเตรียมพร้อมสำหรับการปิดการส่งก๊าซจากรัสเซียทั้งหมด [Financial Times]

เยอรมนีกำลังกลับลำนโยบายด้านพลังงานเพื่อเป็นการตอบโต้ โดยประกาศเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนว่าจะเปิดใช้งานโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินขึ้นอีกครั้ง เพื่อให้สามารถเปลี่ยนจากภาวะก๊าซธรรมชาติที่ลดลงไปสู่การค้ำจุนแหล่งก๊าซที่จัดเก็บไว้ ซึ่งถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรองรับความต้องการพลังงานในช่วงฤดูหนาวของเยอรมนี สหภาพยุโรปนำกฎระเบียบเหล่านี้มาใช้เมื่อวันที่ 27 มิถุนายนซึ่งกำหนดให้ประเทศสมาชิกเติมเต็มแหล่งจัดเก็บก๊าซที่มีอยู่ไว้ที่ร้อยละ 80 ก่อนฤดูหนาวนี้ และที่ร้อยละ 90 ก่อนฤดูหนาวในอนาคต

การปิดเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของเยอรมนีในปีนี้ดูเหมือนตอนนี้จะไม่สามารถทำได้อีกต่อไป และอาจคาดว่าจะมีการขยาย (การใช้) พลังงานนิวเคลียร์ออกไปอย่างไม่มีกำหนด [New York Times]

เนเธอร์แลนด์ประกาศเมื่อวันที่ 20 มิถุนายนว่าจังหวัดโกรนิงเงินซึ่งเป็นแหล่งก๊าซที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป จะรักษากำลังการผลิตปัจจุบันไว้ที่ร้อยละ 60 ซึ่งเป็นการกลับลำแผนการปิดตัวอันเนื่องจากสิ่งรบกวนขนาดมหึมา [Reuters]

จำนวนสถานีก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ในยุโรปที่จำเป็นต่อการนำเข้าพลังงานในปริมาณมากเพื่อทดแทนการสูญเสีย (การนำเข้า) จากรัสเซียในปัจจุบันนั้นไม่เพียงพอ แม้จะกำลังดำเนินการแก้ปัญหาอยู่แต่ก็มีวิธีแก้ปัญหาอย่างฉับพลันเท่านั้น นั่นคือ สถานี LNG ใหม่ๆ กำลังถูกสร้างขึ้นในเยอรมนี, การขยายขีดความสามารถในทะเลเหนือที่กำลังดำเนินการอยู่ และมีการวางแผนที่จะเพิ่มสมรรถภาพของท่อส่งก๊าซในแอฟริกาเพื่อจัดหาก๊าซให้กับยุโรปตอนใต้ [Globaldata]

ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่สำหรับยุโรป

รัฐบาลในกรุงเบอร์ลินเช่าสถานี LNG ลอยน้ำสี่แห่งเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม และท่าเรือวิลเฮมส์ฮาเฟินของเยอรมนีมีกำหนดจะเริ่มปฏิบัติการในเดือนธันวาคม 2022 นายกรัฐมนตรี Olaf Scholz แห่งเยอรมนีกล่าวสุนทรพจน์เมื่อวันที่ 2 มิถุนายนเพื่อยกย่องคุณค่าของก๊าซธรรมชาติว่าเป็น “สะพานกลาง” ซึ่งพาดผ่านไปยังอนาคตของพลังงานที่เป็นกลางต่อสภาพอากาศ (climate-neutral energy) แต่สถานี LNG แห่งใหม่ตามที่กำหนดไว้นั้นไม่คาดว่าจะเริ่มปฏิบัติการได้จนกระทั่งปี 2026 และอีกสามปีข้างหน้าจะเกิดความท้าทายด้านพลังงานสำหรับยุโรปอย่างที่ไม่เคยพบเห็นในช่วงเวลาที่ยังจดจำกันได้ในปัจจุบัน [Offshore-energy] [Offshore-energy] [Hanseatic-energy-hub]

แผน RePowerEU ที่ใช้ระยะเวลาปานกลางสำหรับการลงทุนที่สูงถึง 72 พันล้านยูโรในการให้เงินอุดหนุนพลังงานหมุนเวียนเป็นระยะเวลาเจ็ดปี ซึ่งมากกว่าจำนวนเงิน 66 พันล้านยูโรที่สหรัฐฯ ได้วางแผนไว้ในช่วงห้าปีข้างหน้า โดยรวมกับเงินกู้จำนวน 225 พันล้านยูโร และการเร่งความเร็วถึงหกเท่าในช่วงเวลาที่อนุมัติสำหรับโครงการพลังงานหมุนเวียนจากเวลาประมาณหกปีเป็นหนึ่งปีนั้น สร้างโอกาสใหม่ที่สำคัญสำหรับอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด

Blackrock ซึ่งเป็นบริษัทการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกในแง่ของสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการที่ประมาณ 10 ล้านล้านยูโร ประกาศเมื่อวันที่ 16 มิถุนายนว่า บริษัทกำลังเปิดตัวโครงการความมั่นคงด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการเปลี่ยนผ่าน โดยคาดว่าจะมีการลงทุนครึ่งหนึ่งสำหรับยุโรป [EurLex]

การดำเนินการตามแผน RePowerEU ยังคงเผชิญความท้าทายหลายอย่าง ตามที่ปรากฎในการเริ่มต้นปฏิบัติงานอีกครั้งของโรงไฟฟ้าถ่านหินของเยอรมนีและการขยายปฏิบัติการของแหล่งก๊าซธรรมชาติโกรนิงเงินของเนเธอ ร์แลนด์ อีกทั้งเบอร์ลินกับยุโรปจะต้องคงการใช้พลังงานถ่านหินและนิวเคลียร์ในระยะสั้นเพื่อชดเชยการสูญเสีย (การจัดส่ง) พลังงานจากรัสเซีย

(rw/pk, transl. by vv)

 

หน่วยงานเฝ้าระวังกล่าวว่า เรือที่เชื่อมโยงกับกรีซ ไซปรัส และมอลตาเพิ่มการขนส่งน้ำมันของรัสเซีย

องค์กรหนึ่งที่ต่อต้านการทุจริตระหว่างประเทศได้กล่าวว่า เรือที่เชื่อมโยงกับประเทศกรีซ ไซปรัส และมอลตากำลัง “เยาะเย้ยและดูหมิ่น” ความพยายามอย่างแข็งขันของสหภาพยุโรปที่จะลงโทษตามมาตรการคว่ำบาตรต่อมอสโก ด้วยการขนส่งน้ำมันของรัสเซียไปทั่วโลก [Independent] [Times of Malta]

หน่วยงานเฝ้าระวัง Global Witness กล่าวในรายงานฉบับหนึ่งว่าเรือบรรทุกสินค้าที่ชักธงมอลตา กรีก และไซปรัส ได้เพิ่มการขนส่งน้ำมันดิบของรัสเซียในแต่ละเดือนนับตั้งแต่สงครามที่รัสเซียทำกับยูเครนเริ่มต้นขึ้น โดยรวมแล้ว เรือที่เชื่อมโยงกับสามประเทศในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเหล่านี้ได้ขนส่งน้ำมันจำนวน 178 ล้านบาร์เรลนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 16 พันล้านยูโร ทั้งนี้ตามรายงานของหน่วยงานเฝ้าระวังดังกล่าว [Independent] [Times of Malta]

Louis Goddard ที่ปรึกษาอาวุโสด้านการสืบสวนข้อมูลของ Global Witness กล่าวว่า “เรือที่เชื่อมโยงกับกรีซ ไซปรัส และมอลตากำลังเยาะเย้ยและดูหมิ่นความพยายามอย่างแข็งขันของสหภาพยุโรปในการลงโทษตามมาตรการคว่ำบาตรต่อทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ของ Putin โดยทำให้เงินสดไหลเข้าสู่รัสเซียตลอดเวลาในขณะที่กองทัพของประเทศนี้ยังคงโจมตียูเครนต่อไป” [Independent]

รายงานของ Global Witness มีขึ้นหลังจากมอลตา กรีซ และไซปรัสขัดขวางข้อเสนอของคณะกรรมาธิการยุโรปเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ในการห้ามบริษัทในสหภาพยุโรปทั้งหมดไม่ให้ช่วยขนส่งน้ำมันของรัสเซีย สิ่งนี้หมายความว่าบริษัทในยุโรปจะทำกำไรเพิ่มต่อไปจากการขนส่งน้ำมันของรัสเซียไปยังประเทศต่างๆ ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป [Reuters] [Independent]

(ta/pk, transl. by vv)

 

เดนมาร์กโหวตเพื่อเข้าร่วมการป้องกันร่วมกันของอียูหลังจากเลือกไม่เข้าร่วมเป็นเวลา 30 ปี

ชาวเดนมาร์กลงคะแนนเสียงในประชามติที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนเพื่อยกเลิกการเลือกไม่เข้าร่วม และเข้าร่วมรับนโยบายการป้องกันร่วมกันของสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นการดำเนินการที่นายกรัฐมนตรีของประเทศกล่าวว่าจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนไปยังประธานาธิบดี Vladimir Putin ของรัสเซียในท่ามกลางสงครามที่เขาทำอยู่กับยูเครน

การตัดสินใจของผู้มีสิทธิ์ออกเสียงชาวเดนมาร์กหมายความว่าโคเปนเฮเกนจะเข้าร่วมกับอีก 26 ประเทศในสหภาพยุโรปที่แสดงความเห็นด้วยกับนโยบายการป้องกันร่วมกันของกลุ่ม ซึ่งเป็นกรอบการทำงานที่ช่วยให้มีความร่วมมือทางทหารที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นระหว่างกองทัพของประเทศต่างๆ ในยุโรป นโยบายของสหภาพยุโรปนี้แยกต่างหากจากแนวคิดการป้องกันร่วมของนาโต [dr.dk] [Europe Monthly April 2022] [MFA DE]

หลังจากการรณรงค์เป็นเวลาหลายสัปดาห์ที่จัดโดยพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อระดมพลเมืองเดนมาร์กให้ลงคะแนนเสียง การลงประชามตินี้มีผู้เข้าร่วมจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ โดยรวมแล้ว ร้อยละ 66.9 กล่าวว่าพวกเขาต้องการการเปลี่ยนแปลงทิศทางหลังจากเวลา 30 ปีที่เลือกไม่รับนโยบายการป้องกันร่วมกันของสหภาพยุโรป

การลงประชามติจัดขึ้นหลังจากการที่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ นายกรัฐมนตรีฝ่ายกลาง-ซ้ายของเดนมาร์ก Mette Frederiksen กล่าวว่า “เราได้ส่งสัญญาณไปยังพันธมิตรของเราในนาโต ในยุโรป และเราได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนไปยังปูติน” [Euractiv]

บรัสเซลส์ส่งสัญญาณการอนุมัติผลการลงคะแนนเสียง โดยประธานคณะกรรมาธิการยุโรป Ursula von der Leyen กล่าวว่า “ข้อความที่ชัดเจนและหนักแน่นของการให้คำมั่นต่อความมั่นคงปลอดภัยร่วมกันของเรา [ถูก] ส่งมาจากประชาชนชาวเดนมาร์ก” [Politico]

พรรคโซเชียลเดโมแครตที่ปกครองประเทศของเดนมาร์กเห็นชอบที่จะยกเลิกการเลือกไม่เข้าร่วม ซึ่งก็เช่นเดียวกับกลุ่มต่างๆ ของรัฐสภาเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นสามพรรคการเมือง นั่นคือพรรคฝ่ายซ้ายจัดพรรคหนึ่งกับพรรคฝ่ายขวาจัดสองพรรค ซึ่งปฏิเสธที่จะเห็นชอบและสนับสนุนการดำเนินการดังกล่าว โดยอ้างว่าสิ่งนี้จะจำกัดอำนาจอธิปไตยของเดนมาร์ก

การลงประชามติเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการของรัฐบาลเดนมาร์ก ซึ่งขณะนี้ต้องตัดสินใจเลือกโครงการทางทหารของสหภาพยุโรปที่ตนต้องการเข้าร่วม โครงการดังกล่าวอาจรวมถึงภารกิจรักษาสันติภาพในบอสเนียซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนกำลังพลพร้อมอาวุธของสหภาพยุโรปไปประจำการตามประ เทศต่างๆ (EUFOR multinational deployment) และปฏิบัติการป้องกันและต่อต้านการกระทำที่เป็นโจรสลัด (anti-piracy operations) ในโซมาเลีย [dr.dk] [Politico] [EUFOR]

เดนมาร์ก ซึ่งเข้าร่วมสหภาพยุโรปในปี 1973 ตัดสินใจเลือกไม่เข้าร่วมการป้องกันร่วมกันของยุโรปเมื่อตอนที่ประเทศนี้ได้ลงมติยอมรับสนธิสัญญามาสทริชต์ ปี 1993 [Europe Monthly April 2022]

(cg/pk, transl. by vv)

 

นาโตจัดซ้อมรบในทะเลบอลติกในท่ามกลางความตึงเครียดกับรัสเซีย

สิบหกประเทศได้เข้าร่วมในปฏิบัติการฝึกซ้อมรบทางทหารในทะเลบอลติก (Baltic Operations - BALTOPS) ประจำปีของนาโตตั้งแต่วันที่ 5 ถึงวันที่ 17 มิถุนายน ในท่ามกลางความตึงเครียดกับรัสเซีย

เรือและเครื่องบินหลายสิบลำรวมทั้งบุคลากรจำนวน 7,500 นายเข้าร่วมการฝึกซ้อมรบที่สวีเดนเป็นเจ้าภาพ โดยเมื่อเดือนพฤษภาคม สวีเดนได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกองค์การนาโตอย่างเป็นทางการพร้อมๆ กับฟินแลนด์ อันเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในด้านความมั่นคงและภูมิรัฐศาสตร์ของยุโรปที่ถูกกระตุ้นจากการที่รัสเซียรุกรานยูเครน [Europe Monthly June 2022]

การฝึกซ้อมรบ BALTOPS รวมถึงการฝึกปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบกและการปฏิบัติการของเรือดำน้ำ (amphibious and submarine operations) ตลอดจนการฝึกเคลียร์ทุ่นระเบิดและปฏิบัติการแพทย์เพื่อรับมืออุบัติภัยนั้น ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในด้านความร่วมมือของประเทศสมาชิกที่เป็นพันธมิตร

เมื่อฟินแลนด์และสวีเดนกำลังดำเนินการเข้าร่วมนาโต ทะเลบอลติกจึงถูกประเทศสมาชิกนาโตปิดล้อมรอบเกือบทั้งหมด [Göteborgs-Posten] [Dagens-Nyheter] นายพลระดับสูงของสหรัฐฯ Mark Milley กล่าวว่าสิ่งนี้ “เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง” สำหรับนาโตในแง่ของการทหาร และในขณะเดียวกันก็ “เป็นปัญหาอย่างมาก” สำหรับตำแหน่งความมั่นคงของรัสเซียในภูมิภาคนี้ [Reuters]

(phr/pk, transl. by vv)

 

ธนาคารกลางยุโรปจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในท่ามกลางเงินเฟ้อ

เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน สภาปกครองของธนาคารกลางยุโรป (European Central Bank - ECB) ได้ประกาศการตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยเฉพาะ (key interest rates) ของ ECB สำหรับยูโรโซนจำนวน 25 หน่วยย่อยของอัตราผลตอบแทน (basis points) ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2011 การดำเนินการนี้จะมีผลบังคับใช้ในการประชุมสภาปกครองครั้งต่อไปในวันที่ 21 กรกฎาคม [Politico]

ECB กล่าวว่าพวกเขาวางแผนที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเฉพาะอีกครั้งในเดือนกันยายน และกล่าวว่าการเพิ่มขึ้นนี้จะมากกว่า 0.25 หากอัตราเงินเฟ้อ “ยังคงอยู่หรือแย่ลง” ECB ยังตัดสินใจยุติโครงการจัดซื้อสินทรัพย์และโครงการจัดซื้อฉุกเฉินในช่วงโรคระบาดใหญ่ โดยโครงการทั้งสองถูกออกแบบมาเพื่ออัดฉีดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ที่กำลังฝืดเคือง [European Central Bank][EuroNews]

ECB ยังได้แก้ไขการคาดการณ์ของตนเกี่ยวกับเงินเฟ้อให้สูงขึ้น โดยขณะนี้คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 6.8 ในปี 2022, ร้อยละ 3.5 ในปี 2023 และร้อยละ 2.1 ในปี 2024 แต่เนื่องจากสงคราม, ความไม่มั่นคงด้านการจัดส่งพลังงาน และการชะงักงันของห่วงโซ่อุปทาน อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนจึงพุ่งแตะที่ระดับร้อยละ 8.1 ในเดือนพฤษภาคมซึ่งเป็นการทำลายสถิติ และเป็นสี่เท่าของเป้าหมายประจำปีของธนาคารกลางที่ตั้งไว้ร้อยละ 2 [NewYorkTimes][European Central Bank][Euronews]

Christine Lagarde ประธาน ECB กล่าวว่า “อัตราเงินเฟ้อที่สูงเป็นความท้าทายที่สำคัญสำหรับพวกเราทุกคน...จากการประเมินในปัจจุบันของเรา เราคาดการณ์ว่าการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปแต่ต่อเนื่องเป็นเวลานานจะเป็นสิ่งเหมาะสม”

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ธนาคารกลางสหรัฐได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 หน่วยย่อยฯ เป็นมากกว่าร้อยละ 1.5 ธนาคารกลางอังกฤษได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของตนเป็นร้อยละ 1 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 13 ปี [BBC] [Reuters]

ลมต้านทางเศรษฐกิจ

ECB รายงานว่าความเชื่อมั่นและการเติบโตทางเศรษฐกิจของยุโรปกำลังลดลงเนื่องจากการรุกรานอย่างไม่ยุติธรรมของรัสเซียต่อยูเครน และการชะงักงันทางการค้าที่กำลังนำไปสู่การขาดแคลนวัสดุและนำไปสู่พลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีราคาสูง รวมทั้งแรงกดดันเงินเฟ้อได้ขยายวงกว้างขึ้นและรุนแรงขึ้น พร้อมด้วยราคาสินค้าและบริการหลายอย่างก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก

ปัจจัยเหล่านี้จะยังคงส่งผลกระทบต่อยูโรโซนใน “ระยะเวลาหนึ่งในอนาคตอันใกล้” ECB กล่าว “อย่างไรก็ตาม มีเงื่อนไขสำหรับเศรษฐกิจที่จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง, ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง, การสนับสนุนทางการเงิน และการออมที่เกิดขึ้นในช่วงการระบาดใหญ่ เมื่อลมต้านในปัจจุบันอ่อนกำลังลง กิจกรรมทางเศรษฐกิจก็คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง”

ภาพอนาคตนี้สะท้อนให้เห็นในวงกว้างในการคาดคะเนจากพนักงานของ Eurosystem (ผู้มีอำนาจทางการเงินของกลุ่มยูโรโซนซึ่งประกอบด้วยธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปที่ใช้สกุลเงินยูโรอย่างเป็ นทางการ) ซึ่งคาดการณ์การเติบโตของ GDP ที่แท้จริงประจำปีอยู่ที่ร้อยละ 2.8 ในปี 2022, ร้อยละ 2.1 ในปี 2023 และร้อยละ 2.1 ในปี 2024 เมื่อเปรียบเทียบกับการคาดการณ์ในเดือนมีนาคมแล้ว ภาพอนาคตก็ได้มีการแก้ไขและปรับลงอย่างมีนัยสำคัญสำหรับปี 2022 และ 2023 ในขณะที่สำหรับปี 2024 นั้น ภาพอนาคตได้มีการแก้ไขและปรับขึ้น

(jk/gc, transl. by vv)

 

สหภาพยุโรปดำเนินการทางกฎหมายต่อการเปลี่ยนแปลงพิธีสารไอร์แลนด์เหนือของสหราชอาณาจักร

สหภาพยุโรปเริ่มดำเนินการทางกฎหมายกับสหราชอาณาจักรอีกครั้ง โดยสหภาพยุโรปเตรียมการต่อสู้ที่อาจยืดเยื้อ หลังจากที่รัฐบาลอังกฤษผลักดันกฎหมายซึ่งอาจทำลายพิธีสารไอร์แลนด์เหนือส่วนหนึ่ง [Bloomberg] ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน รัฐบาลอังกฤษเสนอร่างกฎหมายเพื่อเปลี่ยนพิธีสารฝ่ายเดียว โดยอ้างว่าข้อตกลงฉบับปัจจุบันทำให้เกิดต้นทุนสูงและอุปสรรคจากกระบวนการราชการ ต่อมาในวันที่ 15 มิถุนายน รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป Maros Sefcovic ออกมาแถลงว่าการตัดสินใจของอังกฤษนั้น ผิดกฎหมาย และเสริมว่าสงครามการค้าอาจเกิดขึ้นได้ หากร่างกฎหมายดังกล่าวผ่าน เขากล่าวว่า “ไม่ต้องสงสัยเลยเพราะไม่มีความชอบธรรมทั้งทางกฎหมายและทางการเมืองในการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงระหว่างประเทศเพียงฝ่ายเดียว และการเปิดประตูสู่การเปลี่ยนแปลงข้อตกลงระหว่างประเทศเพียงฝ่ายเดียวนี้ ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอีกด้วย พูดกันอย่างตรงไปตรงมา การกระทำแบบนี้ถือว่าผิดกฎหมาย”

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษ Liz Truss ให้สัมภาษณ์ว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะ “ยุติสถานการณ์ที่ป้องกันไม่ได้ ซึ่งประชาชนในไอร์แลนด์เหนือก็ได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างออกไปหากเทียบกับที่อื่นในสหราชอาณาจักร รวมทั้งจะปกป้องอำนาจสูงสุดของศาลและบูรณภาพแห่งดินแดนของเรา” เธอยังเสริมอีกว่าร่างกฎหมาย “จะพิทักษ์การเป็นตลาดเดียวของสหภาพยุโรป (EU Single Market) และรับประกันว่าจะไม่มีการควบคุมพรมแดนเข้มงวดบนเกาะไอร์แลนด์” อย่างไรก็ดี พิธีสารไอร์แลนด์เหนือคือส่วนสำคัญของข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปในช่วงหลังเบร็กซิต โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อป้องกันการควบคุมพรมแดนที่เข้มงวดระหว่างไอร์แลนด์เหนือที่เป็นส่วนหนึ่งของอังกฤษ และไอร์แลนด์ที่เป็นประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป พิธีสารนี้ทำให้ไอร์แลนด์เหนือเป็นส่วนหนึ่งที่มีประสิทธิภาพของตลาดเดียวสหภาพยุโรป ซึ่งการตรวจสอบสินค้าที่นำเข้าจากสหราชอาณาจักรสามารถทำได้แล้วที่ท่าเรือต่าง ๆ ของไอร์แลนด์เหนือ [BBC] [Reuters]

ข้อเสนอของอังกฤษฉบับใหม่นี้ประกอบด้วยเส้นทางนำเข้า 2 เส้นทางไปยังไอร์แลนด์เหนือ เส้นทางหนึ่งสำหรับสินค้าที่จะไม่ได้รับการตรวจสอบ และอีกหนึ่งเส้นทางสำหรับสินค้าที่จะส่งไปยังสหภาพยุโรปซึ่งจะได้รับการตรวจสอบ ทั้งนี้ ตามที่รัฐบาลอังกฤษระบุไว้คือ กฎเกณฑ์ทางตลาดและภาษีของสหราชอาณาจักรจะถูกนำไปใช้กับไอร์แลนด์เหนือด้วยเช่นเดียวกัน [UKGovernment] [BBC] [Reuters] และในวันเดียวกัน คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) ก็ได้เผยแพร่ข้อเสนอการปฏิรูปพิธีสารไอร์แลนด์เหนือ 2 ฉบับ โดยระบุว่าคณะกรรมาธิการฯ ต้องการที่จะ “แสดงให้เห็นว่าทางออกของการเคลื่อนย้ายสินค้าระหว่างสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์เหนือสามารถพบได้ภายในพิธีสารนี้” [EuropeanCommission] [Politico] ด้าน Truss กล่าวว่า สหราชอาณาจักรพร้อมที่จะดำเนินการผ่านการเจรจา หากสหภาพยุโรปเต็มใจที่จะเปลี่ยนแปลงพิธีสารด้วยตนเอง “ขณะนี้พวกเขาไม่ได้เต็มใจที่จะเปลี่ยนแปลงพิธีสาร แต่ในขณะเดียวกัน สถานการณ์ที่วิกฤติในไอร์แลนด์เหนือก็หมายความว่าพวกเราไม่สามารถปล่อยให้สถานการณ์เป็นไปในแนวทางนี้ได้”

(jk/gc, transl. by aa)

 

รัฐมนตรีของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปเห็นชอบกับการสร้างระบบจัดสรรผู้อพยพใหม่ ท่ามกลางคลื่นผู้อพยพที่คาดการณ์ไว้

ในการประชุมที่ลักเซมเบิร์ก เมื่อวันที่ 10 – 11 มิถุนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงยุติธรรมจากประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป เห็นชอบให้มีการสร้างกลไกจัดสรรผู้อพยพใหม่เพื่อสนับสนุนรัฐสมาชิกที่เผชิญกับการทะลักเข้ามาของผู้อพยพท่ามกลางการขาดแคลนอาหารทั่วโลก ที่มีสาเหตุมาจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน [Schengen Visa Info] ไซปรัส มอลตา กรีซ อิตาลี และสเปน จะได้รับประโยชน์จากการตัดสินใจครั้งนี้ ทั้งผ่านระบบที่ทำให้ผู้อพยพที่กำลังจะเข้ามาในยุโรป สามารถย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปอื่นได้ หรือผ่านการสนับสนุนทางการเงิน [Cyprus Mail] ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไซปรัส Nicos Nouris ให้สัมภาษณ์ว่ามีการคาดการณ์ว่าผู้อพยพกว่า 150,000 คน จากทวีปแอฟริกาและตะวันออกกลาง จะอพยพเข้ามายังประเทศริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน 5 ประเทศ ในปี ค.ศ. 2022 เปรียบเทียบกับในปี ค.ศ. 2021 ที่มีผู้อพยพเข้ามาจำนวน 123,318 คนเท่านั้น [The Telegraph] โดย Nouris เปิดเผยหลังจากที่รัฐมนตรีจากกลุ่มประเทศ “MED5” มาประชุมร่วมกันที่เมืองเวนิส เมื่อวันที่ 3 – 4 มิถุนายน เพื่อหารือเกี่ยวกับกระแสการอพยพและสงครามในยูเครน [Euractiv]

อย่างไรก็ดี เหตุผลหลักที่คาดว่าจะทำให้จำนวนผู้อพยพเพิ่มขึ้น คือการขาดแคลนอาหารทั่วโลกที่มีสาเหตุมาจากการส่งออกที่ตกฮวบลงจากยูเครนและรัสเซีย ผู้ประสานงานของสหประชาชาติในช่วงวิกฤติ Amin Awad ให้สัมภาษณ์ว่าการขาดแคลนอาหารที่เป็นผลมาจากสงครามดังกล่าว อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 1.4 พันล้านคนทั่วโลก [Reuters] ทั้งนี้ จำนวนผู้อพยพที่คาดว่าจะเข้ามายังประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปในปีนี้ ยังถือว่าน้อยกว่าจำนวนผู้ลี้ภัยในช่วงวิกฤติผู้ลี้ภัย ปี ค.ศ. 2015 อยู่มาก และเมื่อผู้อพยพกว่าล้านคนเข้ามายังยุโรปแล้ว พวกเขาก็หวังว่าจะมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม [Schengen Visa Info] การตัดสินใจสร้างกลไกการจัดสรรผู้อพยพใหม่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับไซปรัส เพราะเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางการอพยพบริเวณเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเส้นทางที่พลุกพล่านที่สุด ตามรายงานของ Frontex ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบด้านการอารักขาพรมแดนและชายฝั่ง ระบุว่าจำนวนผู้อพยพข้ามพรมแดนเข้ามาไซปรัสอย่างผิดกฎหมายในปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 213 หากเทียบกับปีที่แล้ว และคลื่นผู้อพยพส่วนใหญ่มาจากบังกลาเทศ อียิปต์ และตูนิเซีย ส่วนผู้อพยพชาวยูเครนยังไม่ถูกนับรวมอยู่ในข้อมูลนี้ [Schengen Visa Info]

(ta-jk/pk, transl. by aa)

 

สหภาพยุโรปเห็นชอบระเบียบค่าแรงขั้นต่ำ

เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน นักเจรจาจากรัฐสภายุโรป (European Parliament) และคณะมนตรียุโรป (European Council) เห็นชอบกับระเบียบที่มีเป้าหมายเพื่อนำเสนอกรอบการดำเนินงานทั่วไปเกี่ยวกับกฎหมายค่าแรงขั้นต่ำในสหภาพยุโรป [EuroNews] ออสเตรีย ไซปรัส เดนมาร์ก ฟินแลนด์ อิตาลี และสวีเดน เป็นเพียง 6 ประเทศจาก 27 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปเท่านั้นที่ไม่กำหนดค่าแรงขั้นต่ำตามกฎหมาย โดยประเทศเหล่านี้กำกับค่าแรงผ่านการร่วมเจรจาต่อรอง (collective bargaining) และระเบียบใหม่ของสหภาพยุโรปนี้ไม่ได้มีภาระผูกพันให้ประเทศดังกล่าวต้องนำค่าแรงขั้นต่ำตามกฎหมายมาใช้ [European Parliament] ส่วนรัฐสมาชิกสหภาพยุโรปที่กำหนดค่าแรงขั้นต่ำจะต้องกำหนดระเบียบข้อบังคับใหม่ และตรวจสอบว่าระเบียบข้อบังคับเหล่านี้ “เพียงพอต่อการรับประกันมาตรฐานการครองชีพที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงสภาพเศรษฐกิจและสังคมของตน” หรือไม่ [European Parliament] และไม่ว่าประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปทุกประเทศจะกำหนดค่าแรงขั้นต่ำตามกฎหมายหรือไม่ พวกเขาจำเป็นต้องเสริมสร้างการร่วมเจรจาต่อรองให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปที่มีแรงงานที่อยู่ภายใต้การร่วมเจรจาต่อรองน้อยกว่าร้อยละ 80 จะต้องจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อเพิ่มความครอบคลุมดังกล่าว และประเทศสมาชิกจำเป็นต้องสร้างกลไกการเฝ้าระวังเพื่อให้แน่ใจว่ามีการปฏิบัติตาม [European Commission]

ด้าน Nicolas Schmit ข้าหลวงใหญ่เพื่อการงานและสิทธิทางสังคมแห่งสหภาพยุโรป (European Commissioner for Jobs and Social Rights) ยกย่องข้อเสนอนี้ว่าเป็นตัวพลิกสถานการณ์ในการต่อสู้กับความยากจน อย่างไรก็ดี ประเทศสมาชิกบางประเทศ อาทิ เดนมาร์กและสวีเดน คัดค้านระเบียบใหม่นี้ เพราะพวกเขากังวลว่าระเบียบข้อบังคับของสหภาพยุโรปจะทำให้ระบบการร่วมเจรจาต่อรองแห่งชาติที่มีอยู่ตกอยู่ในความเสี่ยง [EuroNews] ข้อตกลงเฉพาะกาลนี้มาจากข้อเสนอของคณะกรรมาธิการยุโรป เมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 2020 และยังจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการจากรัฐสภายุโรปและคณะมนตรียุโรปก่อนที่ประเทศสมาชิกจะนำไปดำเนินการเป็นกฎหมายในประเท ศของตนภายในสองปีข้างหน้า [Reuters]

(jk/pk, transl. by aa)

 

พรรคประชาชนยุโรปเลือก Weber ของเยอรมนีเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่

พรรคประชาชนยุโรป (European People’s Party : EPP) ซึ่งเป็นกลุ่มพรรคการเมืองฝ่ายขวา-กลางพรรคสำคัญในยุโรป เลือก Manfred Weber ของเยอรมนีเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ สำหรับ Weber นั้น มีชื่อเสียงในฐานะคนที่มีอิทธิพลต่อการเมืองภายในสหภาพยุโรป โดยครั้งนี้เขาได้รับเลือกด้วยคะแนนเสียง 447 คะแนน จาก 502 คะแนน ที่การประชุมพรรค เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ณ เมืองรอตเตอร์ดัม Weber เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคต่อจาก Donald Tusk อดีตนายกรัฐมนตรีโปแลนด์ [euobserver] ทั้งนี้ เขาจะทำงานในตำแหน่งหัวหน้าพรรคควบคู่ไปกับตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มพรรคประชาชนยุโรปในรัฐสภายุโรปด้วย ซึ่งเขาดำรงตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2014 [Politico]

บทสัมภาษณ์ของ Weber กับ EuroNews ที่เผยแพร่ออกมาเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน นั้น เขากล่าวว่าเขาตั้งเป้าที่จะฟื้นความเชื่อมั่นของผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียง หลังจากที่พรรคประชาชนยุโรปประสบกับการสูญเสียจากการเลือกตั้งอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ล่าสุดคือในเยอรมนีและฝรั่งเศส เขาเสริมว่าสงครามในยูเครน ปัญหาเศรษฐกิจ และการต่อสู้กับประชานิยม เป็นประเด็นที่เขาให้ความสำคัญลำดับต้น ๆ

(jk/pk, transl. by aa)

 

โปแลนด์ : สหภาพยุโรปอนุมัติแผนการฟื้นฟูของรัฐบาลโปแลนด์ แม้ว่าจะมีข้อกังวลเกี่ยวกับหลักนิติธรรม

รัฐมนตรีของสหภาพยุโรปอนุมัติแผนการฟื้นฟูจากวิกฤติโควิด-19 ของโปแลนด์ ซึ่งเป็นขั้นตอนหนึ่งที่จำเป็นต้องปลดล็อกเงินหลายพันล้านในกองทุนที่ถูกขัดขวางไว้เพื่อไม่ให้โปแลนด์เข้าถึง แม้จะมีความกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับหลักนิติธรรมในโปแลนด์ก็ตาม รัฐมนตรีว่าการเศรษฐกิจและการเงินในคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรปอนุมัติแผนการฟื้นฟูดังกล่าวเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากการตัดสินใจแบบเดียวกันของคณะกรรมาธิการยุโรปเมื่อต้นเดือน การอนุมัติครั้งนี้ปูเส้นทางให้รัฐบาลโปแลนด์สามารถเข้าถึงเงินกู้และเงินช่วยเหลือจากกองทุนฟื้นฟูหลังวิกฤติโควิด-19 ของสหภาพยุโรป เป็นจำนวน 35.4 พันล้านยูโร [Euronews] [Reuters] [The Guardian] [Council of the European Union] อย่างไรก็ดี ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป Ursula von der Leyen ให้สัมภาษณ์ว่าโปแลนด์อาจจำเป็นต้องปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาเพื่อรับประกันความเป็นอิสระของฝ่ายตุลาการ “ก่อนการชำระเงินจริงครั้งใดก็ตาม” [The Guardian] ทั้งนี้ สหภาพยุโรปไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลโปแลนด์ในการเปลี่ยนแปลงระบบกฎหมายของประเทศขนานใหญ่ ซึ่งสหภาพยุโรปมองว่าเป็นการบ่อนทำลายความเป็นอิสระทางการเมืองของฝ่ายตุลาการและกร่อนเซาะหลักนิติธรรม รวมทั้งสหภาพยุโรปยังขัดขวางไม่ให้โปแลนด์เข้าถึงกองทุนจนกว่าการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญจะเกิดขึ้น [Europe Monthly March 2022]

มี ‘เหตุการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยน’ ก่อน ได้เงินทีหลัง

เมื่อเดือนพฤษภาคม รัฐบาลโปแลนด์และสหภาพยุโรปเห็นชอบกับ “เหตุการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยน” หลาย ๆ เหตุการณ์ หากโปแลนด์สามารถปฏิบัติตามได้ จะทำให้สามารถเข้าถึงกองทุนของสหภาพยุโรปได้ [Europe Monthly June 2022] ประการหนึ่งคือให้คณะกรรมการวินัยภายในศาลสูงสุดของโปแลนด์ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งสหภาพยุโรปให้เหตุผลว่าเป็นเพราะผู้พิพากษาสามารถถูกลงโทษได้จากเนื้อหาของการพิจารณาคดีของพวกเขา [Europe Monthly June 2022] ต่อมาในเดือนมิถุนายน ด้านสภาผู้แทนราษฎรของโปแลนด์ได้ผ่านร่างกฎหมายสำหรับการตั้ง “คณะกรรมการแห่งความรับผิดชอบทางวิชาชีพ” (Chamber of Professional Responsibility) ซึ่งอาจไปแทนที่คณะกรรมการวินัย โดยประธานาธิบดี Andrzej Duda ซึ่งเสนอร่างกฎหมายนี้ กล่าวว่าระบบปัจจุบันทำงานไปใน “แนวทางที่ไม่ปกติอย่างสิ้นเชิง” [Euronews] [Notes From Poland] อย่างไรก็ดี นักวิจารณ์แสดงความคิดเห็นว่าร่างกฎหมายดังกล่าวที่ Duda ลงนามเพื่อให้กลายเป็นกฎหมายจริงหลังจากการลงคะแนนเสียงในรัฐสภานั้น จะทำให้องค์กรใหม่เข้ามาแทนที่คณะกรรมการวินัยก็จริง แต่มีอำนาจไม่ต่างจากเดิม [Europe Monthly June 2022] [Rzeczpospolita]

การเปลี่ยนแปลงแต่ ‘ภายนอก’ ?

สมาคมผู้พิพากษาในโปแลนด์ Iustitia กล่าวว่ากฎหมายใหม่ที่ผ่านแล้วนี้ “ไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลยุโรป” [Euronews] กลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนก็วิพากษ์วิจารณ์กฎหมายนี้ว่าเป็นเพียงการบรรจุการเปลี่ยนแปลงแต่ “ภายนอก” เท่านั้น และไม่สามารถรับประกันได้ว่าผู้พิพากษาที่ถูกระงับการปฏิบัติหน้าที่โดยคณะกรรมการวินัยจะได้รับสถานะคืนโดยอัตโนมัติ [The Guardian] [Rzeczpospolita] อย่างไรก็ดี Von der Leyen ตอบโต้ข้อวิจารณ์ว่าด้วยการตัดสินใจของคณะกรรมาธิการยุโรปที่อนุมัติแผนการฟื้นฟูโควิด-19 ของรัฐบาลโปแลนด์ว่า “ทุกอย่างได้รับการแก้ไขแล้วหรือ ก็ไม่ ไม่เลย แต่ตอนนี้ พวกเราเคลื่อนไปในทิศทางที่ถูกต้อง และยกระดับเพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ต้องการ” [Euronews]

(ek/pk, transl. by aa)

 

ความสัมพันธ์ที่ระหองระแหงระหว่างสมาชิกนาโต กรีซและตุรกี

ความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต (NATO) กรีซและตุรกี ย่ำแย่ลงอีกครั้ง เพราะผู้นำของทั้งสองประเทศมีปากเสียงกันเล็กน้อยเกี่ยวกับอำนาจอธิปไตยของเกาะต่าง ๆ ในทะเลอีเจียน และวิพากษ์วิจารณ์การซ้อมรบทางทหารที่เป็นปรปักษ์ของฝ่ายตรงข้าม นายกรัฐมนตรีกรีซ Kyriakos Mitsotakis โพสต์ข้อความลงบนทวิตเตอร์ว่า “ประชาชนชาวกรีกต้องรู้สึกปลอดภัยที่สุด” และรัฐบาลกรีซมี “ความสามารถในการป้องปรามที่แข็งแกร่ง” ซึ่งกรีซเสริมสร้างความเข้มแข็งในช่วงสามปีที่ผ่านมากับ “พันธมิตรที่ทรงพลัง” ด้านประธานาธิบดีตุรกี Recep Tayyip Erdogan กล่าวเตือนขณะที่ประชุมร่วมกับผู้ร่างกฎหมายของพรรคเขา เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ว่ากรีซ “อาจต้องเจ็บตัว” หากกรีซยังพยายามเป็น “ผู้เล่นที่พยายามมีบทบาทเพิ่มขึ้นอีก” ซึ่งเป็นปฏิปักษ์ต่อตุรกี [Al-Monitor] [LeMonde] ความตึงเครียดระหว่างสองประเทศเพิ่มสูงขึ้นขณะที่ Mitsotakis เยือนกรุงวอชิงตัน ทั้งนี้ ก่อนการเดินทางของเขา รัฐสภากรีซอนุมัติการต่อและการแก้ไขข้อตกลงความร่วมมือทางทหารกับสหรัฐอเมริกา โดยการแก้ไขดังกล่าวอนุญาตให้กองทัพสหรัฐฯ ตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ทางทหาร 4 แห่ง ของกรีซ ประกอบด้วย ค่ายทหาร 2 แห่งบริเวณภาคกลางและภาคเหนือ และฐานทัพเรือบนเกาะครีต ซึ่งตุรกีวิพากษ์วิจารณ์ข้อตกลงทั้งสองฉบับ [Al-Monitor]

อย่างไรก็ดี Erdogan กล่าวหา Mitsotakis ว่าเขาเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยับยั้งการขายเครื่องบินขับไล่ F-16 ให้ตุรกี และให้ที่พักพิงกับผู้ติดตามของอิหม่าม Fethullah Gulen ที่พลัดถิ่นอยู่ในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นศัตรูอันยาวนานของ Erdogan นอกจากนี้ Erdogan ยังให้สัมภาษณ์อีกว่าในตอนนี้ Mitsotakis “ไม่มีตัวตนอีกต่อไป” สำหรับเขา เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ก่อนจะเดินทางไปกรุงมาดริดเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดนาโต Erdogan ย้ำว่าเขาไม่ต้องการพบกับ Mitsotakis [Europe in Review, June 2022] [Reuters] [LeMonde] ด้าน Mitsotakis กล่าวที่การประชุมร่วมของรัฐสภาคองเกรส เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ว่านาโตไม่จำเป็นต้องมี “อีกหนึ่งต้นตอของการไม่มีเสถียรภาพ” ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ สหรัฐฯ ควร “คำนึงถึงสิ่งนี้” เมื่อทำการตัดสินใจเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างอาวุธยุทโธปกรณ์ที่สัมพันธ์กับบริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก [Europe in Review, June 2022] [The NationalHerald] [Reuters] [Tagesschau]

ในเดือนมิถุนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศตุรกี Mevlut Cavusoglu ออกมาแสดงความคิดเห็นในประเด็นอำนาจอธิปไตยของกรีซบนเกาะต่าง ๆ ในทะเลอีเจียนว่า “อำนาจอธิปไตยบนเกาะต่าง ๆ เหล่านั้นจะถูกตั้งคำถาม หาก (กรีซ) ไม่ยุติการละเมิดอธิปไตย” [Al-Monitor] Mitsotakis ตอบโต้กลับว่าคำถามของรัฐบาลตุรกีเกี่ยวกับอำนาจอธิปไตยของกรีซเหนือเกาะต่าง ๆ นั้น เป็นสิ่ง “ไร้สาระ” และเขากล่าวในตอนท้ายของการประชุมคณะมนตรียุโรปในเดือนมิถุนายนว่า เขาจะดำเนินการแก้ไขทางการทูตในกรณีข้อพิพาทต่อไป แต่ “ตุรกีต้องหยุดวาทกรรมก้าวร้าวสุดโต่งที่มีต่ออำนาจอธิปไตยของกรีซ” เขาเสริมว่าการเจรจาใด ๆ ระหว่างสองประเทศอาจยุ่งยากเพราะวาทกรรมของตุรกี ทั้งสองประเทศยังได้ส่งจดหมายไปยังองค์การสหประชาชาติ โดยสรุปตำแหน่งแห่งที่ของอีกประเทศที่อยู่บนน่านฟ้าและบนเกาะต่าง ๆ [Reuters] [The NationalHerald] ด้านอดีตเอกอัครราชทูตตุรกีประจำกรีซ Hasan Gogus ให้สัมภาษณ์ว่า “พวกเรามีข้อพิพาทหลายแห่งกับกรีซในทะเลอีเจียน เช่น ความกว้างของน่านน้ำอาณาเขต การปักปันเขตไหล่ทวีป และการทำให้เกาะต่าง ๆ หรือความยาวของน่านฟ้าปลอดทหาร ในขณะที่ทุกประเด็นมีความเกี่ยวข้องกัน กรีซกลับยอมรับว่ามีข้อพิพาทเกี่ยวกับเขตไหล่ทวีปเพียงประเด็นเดียว” [MSN] Gogus ยังให้สัมภาษณ์กับอีกสื่อหนึ่งว่าการเลือกตั้งที่ใกล้เข้ามาของทั้งสองประเทศทำให้ความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้นด้วย ทั้งนี้ Erdogan และ Mitsotakis จะเผชิญกับการเลือกตั้งภายในหนึ่งปีข้างหน้า [DW]

เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน เลขาธิการนาโต Jens Stoltenberg เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายแสดงความยับยั้งชั่งใจ ซึ่งเป็นหนึ่งวันก่อนที่การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของนาโตในกรุงบรัสเซลส์จะเริ่มต้นขึ้น “เราขอเรียกร้องให้กรีซและตุรกีแก้ปัญหาความแตกต่างในทะเลอีเจียนด้วยจิตวิญญาณแห่งความไว้เนื้อเชื่อใจและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันข องพันธมิตร นั่นหมายถึงว่าทั้งสองประเทศควรยับยั้งชั่งใจ รู้จักประมาณ และละเว้นจากการกระทำหรือวาทกรรมใด ๆ ที่อาจทำให้สถานการณ์บานปลาย” [Al-Monitor] อย่างไรก็ดี เว็บไซต์ Hellas Journal อ้างคำพูดของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ที่กล่าวว่าอำนาจอธิปไตยของกรีซบนเกาะต่าง ๆ ในทะเลอีเจียนนั้น ไม่ใช่อะไรที่ต้องถูกตั้งคำถาม ด้านสหภาพยุโรปก็แถลงคำกล่าวเดียวกัน [Al-Monitor]

(go/ib/gc, transl. by aa)

 

ฮังการีและยูเครนตกอยู่ในสงครามวิวาทะ

รัฐบาลฮังการีและยูเครนโจมตีกันด้วยภาษาที่รุนแรงผิดปกติ หลังจากที่ประธานรัฐสภาฮังการีกล่าวว่าพฤติกรรมของประธานาธิบดียูเครน Volodymyr Zelensky ในเวทีระหว่างประเทศเป็นผลมาจาก “ปัญหาทางจิต” (Telex) ประธานรัฐสภาฮังการี Laszlo Kover ให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ว่าเขาไม่เข้าใจที่ประธานาธิบดีของประเทศที่มีปัญหากล้าแสดงท่าทีอันแข็งกร้าวต่อนายกรัฐมนตรีเยอรมันหรือฮังการีได้อย่างไร เพราะเขาเป็นคนที่ต้องการความช่วยเหลือในสงครามรัสเซีย-ยูเครน Kover กล่าวว่า “คนคนหนึ่งมักจะข่มขู่ศัตรูของตน แต่ไม่ค่อยมีใครพยายามจะเอาชนะคนที่เป็นเพื่อนของตน ซึ่งน่าจะมีปัญหาทางจิตส่วนตัว ณ ที่นี้” (Telex) Kover อ้างถึงความคิดเห็นของเอกอัครราชทูตยูเครนประจำเยอรมนี ซึ่งเรียกนายกรัฐมนตรีเยอรมัน Olaf Scholz ว่าเป็น “คนที่ทำอะไรตามใจตนเอง” (offended liver sausage) และอ้างถึงการตอบโต้ที่เผ็ดร้อนก่อนหน้านี้ของยูเครนกับฮังการี (Reuters) (Europe in Review, June 2022)

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของยูเครนตอบโต้ความคิดเห็นของ Kover โดยโพสต์บนเฟซบุ๊กว่า “กระทรวงการต่างประเทศยูเครนหวังว่าประธานรัฐสภาฮังการี Laszlo Kover จะเผยแพร่ใบรับรองสุขภาพจิตของตน การประเมินคำพูดของนาย Kover ต่อจากนี้ไป จะขึ้นอยู่กับข้อสรุปที่ถูกบันทึกไว้ในใบรับรองนั้นโดยตรง” (Pravda) ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฮังการี Peter Szijjarto ก็หันมาวิจารณ์ยูเครนด้วย โดยกล่าวว่าขณะที่คนหลายหมื่นคนในฮังการีทำงานอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เพื่อช่วยเหลือยูเครนที่ถูกทลายด้วยสงครามและประชาชนชาวยูเครน “แต่นักการเมืองยูเครนกลับพูดถึงฮังการีด้วยน้ำเสียงที่เราไม่สามารถยอมรับได้ ทั้งยั่วยุ พูดเท็จและพยายามป้ายสีเรา พวกเขาไม่แม้แต่จะพูดด้วยน้ำเสียงขอบคุณสักครั้ง ทั้งหมดนี้ยิ่งทำให้คำพูดของ Laszlo Kover ถูกต้องที่สุด แม้ว่าชาวยูเครนจะโกรธเคืองก็ตาม” (Telex)

เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน Zelensky จึงได้โทรศัพท์ไปหานายกรัฐมนตรีฮังการี Viktor Orban ซึ่งเป็นความพยายามที่ถูกมองว่าจะทำให้สถานการณ์เบาบางลง Zelensky กล่าวขอบคุณฮังการีสำหรับความช่วยเหลือในการสนับสนุนอธิปไตยและความหวังในการเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปของยูเครน รวมทั้งความช่วยเหลือที่มอบให้ผู้ลี้ภัยชาวยูเครน (Mandiner) (Magyar Nemzet) อย่างไรก็ดี ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลฮังการีและยูเครนตึงเครียดมาตั้งแต่ก่อนสงคราม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเด็นที่ชาวฮังการี 130,000 คน อาศัยอยู่ในยูเครนใกล้พรมแดนฮังการี โดยรัฐบาลยูเครนเกรงว่าฮังการีจะคุกคามบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน ในปี ค.ศ. 2019 ยูเครนผ่านกฎหมายห้ามใช้ภาษาชนกลุ่มน้อยภายในปี ค.ศ. 2030 รวมทั้งภาษาฮังการีด้วย ยกเว้นในการสนทนาที่เป็นส่วนตัวและพิธีการทางศาสนา [Guardian] [Magyar Nemzet] [Mandiner] [HVG] [Telex]

(dk/pk, transl. by aa)

 

ตุรกีและซาอุดิอาระเบียเริ่ม ‘ยุคใหม่แห่งความร่วมมือ’ เนื่องจากความสัมพันธ์เริ่มกลับมาดีขึ้น

ตุรกีและซาอุดิอาระเบียประกาศว่าพวกเขาได้เริ่ม “ยุคใหม่แห่งความร่วมมือ” ในช่วงที่มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบีย Mohammed bin Salman เยือนกรุงอังการา ซึ่งถือเป็นการเยือนตุรกีครั้งแรกของเขาตั้งแต่เกิดเหตุสายลับซาอุฯ สังหารนักข่าว Jamal Khashoggi ในนครอิสตันบูล [Associated Press] [New York Times] [Alarabiya News] ประธานาธิบดีตุรกี Recep Tayyip Erdogan จัดการประชุม 2 ชั่วโมง กับมกุฎราชกุมาร Mohammed ทั้งนี้ ตุรกีและซาอุฯ ระบุในแถลงการณ์ร่วมที่เผยแพร่ออกมาหลังการประชุมว่า พวกเขา “เน้นย้ำปณิธานที่มีร่วมกันอย่างแข็งขัน เพื่อเริ่มยุคใหม่แห่งความร่วมมือในความสัมพันธ์ทวิภาคีหลายมิติ … ได้แก่ การเมือง เศรษฐกิจ ทหาร ความมั่นคง และวัฒนธรรม” [Associated Press] [New York Times] [Alarabiya News] พวกเขาหารือเกี่ยวกับการพัฒนาและการกระจายการค้า รวมทั้งการส่งเสริมการลงทุนในหลายด้าน ทั้งนี้ ในแถลงการณ์ยังระบุอีกว่าการเจรจาระหว่างสองประเทศจัดขึ้นในบรรยากาศที่มี “ความบริสุทธิ์ใจและภราดรภาพที่ฝังลึกเป็นความสัมพันธ์อันดีเลิศระหว่างสองประเทศ” [Associated Press]

Emile Hokayem นักวิเคราะห์ภูมิภาคตะวันออกกลางประจำสถาบันยุทธศาสตร์ศึกษาระหว่างประเทศ (International Institute for Strategic Studies) แสดงความเห็นว่าการปรับความสัมพันธ์ของซาอุฯ – ตุรกี ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ “ทั้งสองประเทศคือนักมวยรุ่นเฮฟวีเวทที่สามารถปล่อยหมัดใส่กันอย่างหนัก แต่ไม่มีใครเอาชนะอีกฝ่ายได้ด้วยการน็อก” [New York Times] การเจรจาที่กรุงอังการาเกิดขึ้นเพราะตุรกีเผชิญภาวะเงินเฟ้อรุนแรง ค่าเงินลีราของตุรกีอ่อนแรง และ Erdogan กำลังเตรียมการสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี ค.ศ. 2023 รัฐบาลตุรกีจึงต้องการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่ร่ำรวย กลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (Gulf) ย้อนไปปลายปีที่แล้ว การประชุมของ Erdogan กับชีคแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ Mohammed bin Zayed Al Nahyan ก็นำไปสู่ข้อตกลงการลงทุนมูลค่า 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ยุติหลายปีของการแข่งขันกันในระดับภูมิภาค [Associated Press]

เนื่องจากซาอุดิอาระเบียมีความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับรัฐบาลของ Biden ซาอุฯ จึงพยายามที่จะสร้างพันธมิตรในวงกว้าง รวมทั้งมกุฎราชกุมาร Mohammed bin Salman ก็ต้องการที่จะฟื้นฟูการดำเนินความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศอื่นหลังจากที่ถูกทำให้โดดเดี่ยวทางการทูตจากการสังหาร Khashoggi ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทำลายชื่อเสียงของเขา ด้านประธานาธิบดีสหรัฐฯ Joe Biden มีกำหนดเยือนซาอุดิอาระเบียในช่วงสุดท้ายของการเยือนภูมิภาคตะวันออกกลางช่วงวันที่ 13 – 16 กรกฎาคม [Associated Press] Ayham Kamel หัวหน้าทีมวิจัยภูมิภาคตะวันออกกลางของบริษัท Eurasia Group วิเคราะห์ว่าการเยือนระดับภูมิภาคของมกุฎราชกุมารสัปดาห์นี้ “ถูกออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างบทบาทระดับภูมิภาคของรัฐบาลซาอุฯ ให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น และแผ่ขยายความพยายามที่จะปรองดองกับประเทศอื่นก่อนการเยือนซาอุฯ ของ Biden” นอกจากนี้ “การค้าทวิภาคีก็มีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้น และเป็นโอกาสอันดีที่กระแสการท่องเที่ยวตุรกีของชาวซาอุฯ จะฟื้นคืนมาอีกครั้ง การเจรจาต่าง ๆ ยังสามารถนำความร่วมมือทางทหาร/การป้องกัน หรือการจัดซื้อจัดจ้างอาวุธเข้ามาข้องเกี่ยวได้ เพราะชาวซาอุฯ สนใจที่จะกระจายสินค้าและบริการของตนออกไปยังประเทศอื่นด้วยเช่นกัน”

สำหรับ Hatice Cengiz คู่หมั้นของ Khashoggi ให้สัมภาษณ์ว่าเธอยินดีกับการปรับความสัมพันธ์ระหว่างซาอุฯ และตุรกีให้ดีขึ้น แต่คัดค้านที่มกุฎราชกุมาร Mohammed ได้รับการต้อนรับสู่กรุงอังการาก่อนที่ฆาตกรที่สังหาร Khashoggi จะถูกนำตัวมาลงโทษตามกฎหมาย โดยเธอตอบคำถามของสำนักข่าว The Associated Press เป็นลายลักษณ์อักษรความว่า “ในฐานะคนที่ถูกทำร้าย ฉันรู้สึกใจสลายมาก ฉันขอคัดค้านการเชิญมกุฎราชกุมาร Mohammed มายังกรุงอังการา ทั้งที่ร่างของ Jamal ยังหาไม่พบ ฉันรู้สึกหัวเสียมากที่ฉันยังไม่ได้รับคำตอบในเรื่องนี้ และคนที่ฆ่า Jamal ก็ยังไม่ได้รับการลงโทษ” [Associated Press]

(fw/gc, transl. by aa)

 

รัสเซียได้รับอนุญาตให้เคลื่อนย้ายกองกำลังทหารในนิการากัวเพื่อการซ้อมรบและการบังคับใช้กฎหมาย

เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ประธานาธิบดีนิการากัว Daniel Ortega อนุมัติให้รัสเซียสามารถเคลื่อนย้ายกองกำลังทหาร เครื่องบิน และเรือมายังนิการากัวเพื่อการซ้อมรบ การบังคับใช้กฎหมาย ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ภารกิจกู้ภัย และการค้นหาฉุกเฉินกรณีเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ [Ticotimes][WashingtonPost] โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย Maria Zakharova กล่าวว่าการตัดสินใจของ Ortega เป็นเรื่องปกติ นี่คือ “กระบวนการในการนำกฎหมายนิการากัวมาใช้กับการเดินทางเข้ามาชั่วคราวของทหารต่างชาติในดินแดนนิการากัว” โดยเธอเสริมว่ากฎหมายนี้อนุญาตให้กองกำลังทหารจากสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก และประเทศในแถบอเมริกากลางอื่น ๆ เดินทางเข้าประเทศนิการากัวได้เช่นเดียวกัน [EFE][Ticotimes][WashingtonPost]

สำนักพิมพ์ Washington Post รายงานว่าประธานาธิบดี Ortega เป็นพันธมิตรที่เข้มแข็งของรัสเซียมาตั้งแต่สมัยที่เขาเป็นผู้นำการปฏิวัติ 1979 ซึ่งเป็นการปฏิวัติที่ไล่ผู้นำเผด็จการ Anastasio Somoza ออกจากตำแหน่ง โดย Ortega ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีในช่วงปี ค.ศ. 1985 – 1990 ก่อนจะได้รับเลือกตั้งให้เข้ามาเป็นประธานาธิบดีอีกครั้งในปี ค.ศ. 2007 ทั้งนี้ นิการากัวเป็นหนึ่งใน 7 ประเทศ ที่รับรอง South Ossetia และ Abkhazia เป็นรัฐเอกราช ซึ่งเป็นดินแดน 2 แห่งของจอร์เจียที่ประกาศอำนาจอธิปไตยของตนโดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลรัสเซีย [DW][WashingtonPost]

(jm/gc, transl. by aa)

 

ประธานาธิบดีเวเนซุเอลาเยือนตุรกีเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการค้า

ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา Nicolas Maduro เยือนตุรกีเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน และได้เข้าพบประธานาธิบดี Recep Tayyip Erdogan ที่กรุงอังการา เพื่อหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคีและลงนามความตกลงในด้านต่าง ๆ อาทิ เกษตรกรรม การท่องเที่ยว และการเงิน [Daily Sabah] ทั้งนี้ ตุรกีเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ Maduro ยังรักษาความสัมพันธ์อยู่ เพราะสหรัฐอเมริกากำหนดมาตรการคว่ำบาตรกับเวเนซุเอลา และตั้งแต่ปี ค.ศ. 2018 เป็นต้นมา การค้าระหว่างตุรกีและเวเนซุเอลาก็เพิ่มขึ้น

ในเดือนเมษายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศตุรกี Mevlut Cavusoglu เยือนเวเนซุเอลา และได้ลงนามในความตกลงหลายฉบับ Cavusoglu กล่าวว่าเป้าหมายของพวกเขา คือการพัฒนาการค้าระหว่างสองประเทศให้เพิ่มขึ้นไปที่ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี โดยเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ประมาณ 850 ล้านดอลลาร์สหรัฐ [Mercopress] ประธานาธิบดี Erdogan ยังได้ประกาศอีกว่า เขาจะไปเยือนเวเนซุเอลาในเดือนกรกฎาคมนี้ด้วย ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามทำให้ความเป็นหุ้นส่วนระหว่างสองประเทศดีขึ้นต่อไป [Daily Sabah]

(af/gc, transl. by aa)

 

สมาชิกรัฐสภายุโรปชี้ให้เห็นว่าการปฏิบัติต่อชาวอุยกูร์ของจีนอยู่ในระดับที่ ‘เสี่ยงร้ายแรงต่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์’

เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน รัฐสภายุโรปรับข้อมติที่แปะป้ายว่าการปฏิบัติต่อชาวอุยกูร์และกลุ่มชาติพันธุ์เตอร์กิกอื่น ๆ ทางด้านตะวันตกของเขตปกครองตนเองซินเจียงของจีน เป็น “อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ” ซึ่ง “แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงร้ายแรงต่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ทั้งนี้ จากสมาชิกรัฐสภาทั้งหมด เห็นชอบ 513 คะแนน งดออกเสียง 14 คะแนน และไม่เห็นชอบ 1 คะแนน [European Parliament] ข้อมติดังกล่าวยังวิจารณ์การเยือนเขตปกครองตนเองซินเจียงของข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ Michelle Bachelet ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม โดยชี้ให้เห็นว่าเธอ “ล้มเหลวในการทำให้รัฐบาลจีนต้องรับผิดชอบต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวอุยกูร์” อย่างไรก็ดี ข้อมติของรัฐสภายุโรปก็ยังไม่ไปไกลถึงการกล่าวหาจีนว่าฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อย่างที่สหรัฐอเมริกากล่าวหา

เจ้าหน้าที่จากคณะผู้แทนจีนประจำสหภาพยุโรปออกมาตอบโต้ว่า พวกเขา “ไม่เห็นด้วย (กับข้อมติ) อย่างที่สุดและคัดค้านอย่างไม่ต้องสงสัย” (strongly deplore and firmly oppose) โดยเสริมว่าข้อมติดังกล่าว “เมินเฉยต่อข้อเท็จจริงอย่างสิ้นเชิงด้วยการเสริมเติมแต่ง และนำเรื่องจริงและไม่จริงมาผสมปนเปกัน เพื่อให้เกิดความสับสน” การเคลื่อนไหวของรัฐสภายุโรปครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่มีเอกสารรั่วไหลออกมาเมื่อไม่นานนี้ ซึ่งเอกสารเหล่านั้นแสดงให้เห็นถึงระดับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในซินเจียง ที่ทำให้ทัศนคติของประเทศบางประเทศในยุโรปเปลี่ยนไป ทั้งนี้ ข้อมติของรัฐสภายุโรปไม่ได้ทำให้สหภาพยุโรปเปลี่ยนท่าทีทางการของตนโดยอัตโนมัติ [see Asia in Review No.24, June/2022, 2]

(ar/pk, transl. by aa)

 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอินเดียแนะยุโรป ‘ออกจาก’ กรอบความคิดของตน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอินเดีย Subrahmanyam Jaishankar แนะยุโรป “ต้องออกจากกรอบความคิดที่มองว่าปัญหาของยุโรปเป็นปัญหาของโลก แต่ปัญหาของโลกไม่ใช่ปัญหาของยุโรป” ซึ่งเป็นการตอบกลับคำถามที่ถามถึงท่าทีของรัฐบาลอินเดียเกี่ยวกับสงครามในยูเครน ที่การประชุมความมั่นคงระหว่างประเทศประจำปี 2022 GLOBSEC เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ณ ประเทศสโลวาเกีย [Indian Express] ในเดือนมีนาคม Jaishankar ก็ออกมาแก้ต่างให้อินเดีย หลังจากถูกวิจารณ์ว่าซื้อน้ำมันลดราคาจากรัฐบาลรัสเซีย โดยเขากล่าวว่ายุโรปใช้น้ำมันรัสเซียช่วงก่อนสงครามมากกว่าอินเดียใช้ในตอนนี้มหาศาล ต่อมาในเดือนเมษายน เขาเน้นย้ำอีกว่าอินเดียจะกำหนดแนวทางการดำเนินนโยบายต่างประเทศของตนเอง [see Asia in Review No.23, June/2022, 1]

(ar/pk, transl. by aa)

 

จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเยอรมนีอีกครั้ง

ตามรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนี รัฐบาลจีนยังคงเป็นคู่ค้าที่สำคัญที่สุดของรัฐบาลเยอรมัน และการค้าระหว่างสองประเทศก็ไม่ได้รับผลกระทบหนักจากการล็อกดาวน์ที่เป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 ในจีนเท่าใดนัก ทั้งนี้ จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเยอรมนีเป็นเวลา 6 ปีติดต่อกันแล้ว การค้าระหว่างสองประเทศมีมูลค่า 245.9 พันล้านยูโร ในปี ค.ศ. 2021 โดยสินค้านำเข้าของเยอรมนีที่ส่วนใหญ่มาจากจีน มีมูลค่า 142.2 พันล้านยูโร [Reuters] [Destatis, in German]

(ar/pk, transl. by aa)

 
 

Contributors and editorial team:

Aleksandra Bulatova (ab), Anamilé Grothuesmann Restituyo (ar), Ann-Charlotte Neumann (acn), Anna Bungaro (ab), Antonia Lawrenz (al), Aurea T. da S. Ferreira (af), Christopher James Godwin (cg), David Kiss (dk), Eric Kliszcz (ek), Fabian Schubert (fs), Ferdinand Witthuhn (fw), Friedrich Bücker (fb), Giulia Taraborrelli (gt), Gizem Öztürk (gö), Glen Carey (gc), Henning Glaser (hg), Ivandzhelin Bozadzhieva (ib), Jan Grosser (jg), Jan Vogelgesang (jv), Jannis Kupfer (jk), Jasmin Spekkers (js), Jonas Borini (jb), Jose Moises Sanchez Amaya (jm), Ketevan Esaiashvili (ke), Kevin Sarmiento (ks), Lavinia Abbott (la), Lea Holst (lh), Lena Krummeich (lk), Marcel Varga (mv), Marlene Busch (mb), Maximilian Ohle (mo), Peter Kononczuk (pk), Philipp Rieth (phr), Piet Rehmert (pr), Rex Wempen (rw), Quentin Vidberg (qv), Sophie Roth (sr), Tamari Akhaladze (ta), Valentina Polacchi (vp), Venus Phuangkom, Vincenzo Bardo (vb), Warren O'Broin (wo)

 

Translators:

Tomwit Jarnson (tj), Natthanicha Lephilibert (nl), Aekpaween Anuson (aa), Vachiravan Vanlaeiad (vv), Pattariya Hansawong (ph)

 

เราจะขอบคุณมากสำหรับความคิดเห็นของคุณ! โปรดส่งความคิดเห็นใดๆ ที่คุณมีเกี่ยวกับจดหมายข่าวนี้ไปที่ : info@cpg-online.de 

นอกจากนี้ อย่าลืมกด Like CPG บน Facebook และเยี่ยมชม เว็บไซต์ ของเราสำหรับการอัปเดตข้อมูลข่าวสารอื่นๆ

 
FacebookWebsite
 
German-Southeast Asian Center of Excellence for Public Policy and Good Governance - CPG

Room 207, Faculty of Law, Thammasat University, 2 Prachan Road, Bangkok 10200, Thailand

www.cpg-online.de
www.facebook.com/cpgtu
Preferences  |  Unsubscribe