![]() ![]() คว้าข่าวสาร อ่านเทรนด์ยุโรป ฉบับที่ 12, ธันวาคม 2565
ส่งข่าวสารถึงคุณโดย CPG สนับสนุนโดย KAS ![]() เรียน ท่านผู้อ่าน ยินดีต้อนรับสู่วารสาร Europe in Review (EiR) ฉบับภาษาไทยของเดือนธันวาคม และเช่นเคย เรานำเสนอเรื่องราวที่คัดเลือกมาจาก EiR ฉบับเต็มภาษาอังกฤษ ซึ่งท่านสามารถเข้าไปอ่านได้ ที่นี่ แม้จะมีภาพที่ค่อนข้างน่าวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ของยุโรปในช่วงปลายปี 2565 แต่ทีมงาน EiR ขออวยพรให้ท่านมีสัปดาห์ที่ดี และสนุกสนานในช่วงสุดท้ายของปีนี้ ด้วยความปรารถนาดี Henning Glaser บรรณาธิการบริหาร
เว็บไซต์: https://www.cpg-online.de, เฟซบุ๊ก: https://www.facebook.com/CPGTU (transl. by tj) Main Sections
เรื่องเด่น - บรรณาธิการคัดสรร ![]() สงครามในยุโรป: ยูเครนยึดคืนเมืองเคอร์สัน ในขณะที่รัสเซียทำลายโครงข่ายไฟฟ้า เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน กองกำลังยูเครนยึดคืนเมืองเคอร์สัน ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและเป็นเมืองหลวงระดับภูมิภาคแห่งเดียวในดินแดนที่รัสเซียยึดได้ นับเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเคียฟในช่วงเก้าเดือนนับตั้งแต่การรุกรานของมอสโก ในการตอบโต้ รัสเซียได้โจมตีระบบส่งไฟฟ้าของยูเครน ก่อให้เกิดความทุกข์ยากแก่พลเมืองที่ไม่มีไฟฟ้าใช้เป็นประจำ ในขณะที่ อุณหภูมิลดต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง ยูเครนได้รับแรงกระตุ้นจากการปลดปล่อยเมืองเคอร์สันและกระตือรือร้นที่จะกอบกู้ดินแดนเพิ่ม อย่างไรก็ตาม ยูเครนต้องเผชิญกับฤดูหนาวที่หนักหน่วงที่สุดในชั่วอายุคนในขณะที่สงครามกำลังยืดเยื้อ กองกำลังรัสเซียถอยกลับ กองทหารยูเครนเคลื่อนพลเข้าสู่เมืองเคอร์สัน เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน และได้รับการต้อนรับชาวเมืองที่ยังตกค้างอยู่ที่อ่อนล้าแต่โล่งใจ ทางตอนใต้ของเมืองที่ถูกทิ้งให้ว่างเปล่าโดยทหารรัสเซียที่ล่าถอยข้ามแม่น้ำนีเปอร์เพื่อไปตั้งหลักใหม่บนฝั่งตะวันออก ผู้บัญชาการทหารรัสเซียอ้างว่าได้ดึงกองกำลังกลับเพื่อ "ช่วยชีวิตทหารรัสเซีย" ซึ่งเป็นการยอมรับที่น่าทึ่ง เนื่องจากมอสโกมักลังเลที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ใดๆ ใน "ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ" การถอนตัวของรัสเซียใช้เวลาหลายสัปดาห์ ยูเครนได้พยายามทำให้รัสเซียไม่สามารถคงการยึดครองเมืองเอาไว้ได้ [Europe Monthly November 2022] กองกำลังยูเครนโจมตีคลังกระสุนของรัสเซียและทำลายสะพานด้วยขีปนาวุธโดยใช้เครื่องยิง HIMARS ที่จัดหาโดยตะวันตก การโจมตีเมื่อต้นเดือนตุลาคมทำให้พื้นที่ควบคุมของรัสเซียหดตัวลงอีก ในขณะที่ยูเครนยังคงเสริมสร้างกองกำลังของตนสำหรับปฏิบัติการเชิงรุกระยะยาว ภายในเดือนพฤศจิกายน กองทหารรัสเซียสามารถรับเสบียงผ่านเฉพาะทางสะพานโป๊ะที่ถูกทิ้งระเบิดบ่อยๆ และทางเฮลิคอปเตอร์ที่มีราคาแพงและอันตรายเท่านั้น การถอนตัวของกองกำลังรัสเซียได้รับการประกาศทางโทรทัศน์ของรัฐ ในรูปแบบของการหารือที่ผิดปกติและ"จัดฉาก" ระหว่างรัฐมนตรีกลาโหม Sergei Shoigu และ Sergey Surovikin ผู้บัญชาการการปฏิบัติการทางทหารพิเศษของรัสเซีย จากคำกล่าวของ Surovikin การยึดครองเมืองเคอร์สันกลายเป็นเรื่อง "ไร้ประโยชน์" เนื่องจากมอสโกไม่สามารถส่งเสบียงให้กองกำลังของตนได้อีกต่อไป Surovikin เสนอให้ถอนทหารข้าม แม่น้ำนีเปอร์ ซึ่ง Shoigu เห็นด้วย การถอยข้ามแม่น้ำนีเปอร์ รัสเซียได้เคลื่อนหน่วยต่างๆออกจากเมืองเคอร์สันตั้งแต่ยูเครนยึดพื้นที่ส่วนนี้ได้ในเดือนตุลาคม และภายในวันที่ 10 พฤศจิกายน กองกำลังจำนวนมากของมอสโกได้ล่าถอยข้ามแม่น้ำ รัสเซียยังได้อพยพพลเรือนไปยังไครเมีย ซึ่งเป็นการกระทำที่เคียฟ ถือว่าเป็นการบังคับส่งตัวข้ามประเทศ และเป็นอาชญากรรมสงคราม [Europe Monthly October 2022] [Independent] [Associated Press] [Politico Europe] [Euronews] [Reuters] [CNN] ยูเครนเริ่มบุกโจมตีเมืองเคอร์สันอย่างจริงจังในคืนวันที่ 9 พฤศจิกายน และในเช้าวันรุ่งขึ้นได้ยึด สนิฮูริฟกา ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีการสู้รบอย่างหนักมาหลายเดือน ภายนอกหมู่บ้านดังกล่าว กองกำลังยูเครนไม่พบการต่อต้านใดๆ ระหว่างที่เคลื่อนตัวเข้าสู่ตัวเมือง และเมื่อถึงเมืองในวันที่ 11 พฤศจิกายน ผู้พลัดหลงชาวรัสเซียกำลังหลบหนีจากพื้นที่นี้โดยใช้สะพานโป๊ะหรือเรือยนต์ หรือไม่ก็ถอดเครื่องแบบเพื่อกลมกลืนกับพลเรือน ประชาชนแห่กันไปที่ถนนและจัตุรัสของเมืองเพื่อเฉลิมฉลองร่วมกับทหารยูเครนที่เพิ่งมาถึง หลายคนโบกธงยูเครนที่พวกเขาได้ซ่อนไว้ระหว่างการยึดครอง รัสเซียอ้างว่าการถอนกำลังดำเนินไปอย่างไร้ที่ติโดยไม่มียุทโธปกรณ์หลงเหลืออยู่ในเมืองเคอร์สัน ซึ่งไม่เป็นความจริง และมีหลักฐานบ่งชี้ว่าทั้งบุคลากรและอุปกรณ์ได้ถูกทิ้งไว้หากไม่สามารถอพยพได้ทันเวลา ในช่วงต้นของการอพยพ Kirill Stremousov รองหัวหน้ารัฐบาลท้องถิ่นทหาร-พลเรือนที่ฝักใฝ่รัสเซียในเมืองเคอร์สัน เสียชีวิตเมื่อรถของเขาถูกรถบรรทุกชน อย่างไรก็ตาม มีภาพที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดจากความพ่ายแพ้ของรัสเซียที่คาร์คิฟและไลมานทางตะวันออก ในช่วงต้นเดือนกันยายนและต้นเดือนตุลาคม ตามที่ Europe in Review ได้รายงาน ผลของการสู้รบครั้งนั้นคือความพ่ายแพ้ – กองกำลังรัสเซียทิ้งคลังยุทโธปกรณ์ไว้และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ครั้งนี้ รัสเซียดูเหมือนจะถอยกลับโดยที่อุปกรณ์หนักและกำลังพลส่วนใหญ่ไม่เสียหาย และที่สำคัญที่สุดคือ พร้อมที่จะส่งไปประจำการในพื้นที่อื่นๆในแนวหน้าที่กำลังแผ่กิ่งก้านสาขา [BBC News] [Guardian] [Europe Monthly October 2022] [Euractiv] [POLITICO Europe] [Euronews] [NPR] การสูญเสียเมืองเคอร์สัน ซึ่งเป็นเมืองที่ประธานาธิบดี Vladimir Putin ประกาศเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาว่าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย "ตลอดกาล" ถือเป็นแรงกระทบทางสัญลักษณ์ครั้งใหญ่ต่อมอสโก ในแง่ของยุทธ์ศาสตร์ทางทหารการยึดเมืองนี้ของยูเครนทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถป้องกันเมืองท่าสำคัญอย่างมิโคไลฟและโอเดสซาได้ดีขึ้น ซึ่งการรุกคืบของรัสเซียหยุดชะงักไปในเดือนมีนาคม [Institute for the Study of War] [Economist] [Al Jazeera] [Financial Times] [RFE/RL] [Euractiv] [Reuters] หลุมฝังศพจำนวนมาก เมื่อใดที่ยูเครนยึดเมืองคืนได้ในสงครามนี้ ความสุขของชาวยูเครนจะถูกผสมผสานด้วยความโกรธและความโศกเศร้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อความโหดร้ายถูกเปิดเผยออกมา ซึ่งกรณีเมืองเคอร์สัน ก็ไม่แตกต่างกัน เมืองนี้ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม และมีรอยแผลเป็นจากการถูกยึดครอง ทหารยูเครนยาตราเข้าไปในเมืองที่ไม่มีน้ำประปา ไฟฟ้า หรือสัญญาณโทรศัพท์มือถือ อาหารขาดแคลนเนื่องจากทหารรัสเซียปล้นทั้งสิ่งของที่จำเป็นและสินค้าอุปโภคบริโภคในปริมาณที่เท่ากัน ทั้งยังได้ทำลายหอโทรศัพท์ของเมืองหนึ่งวันก่อนการปลดปล่อย หลุมฝังศพจำนวนมากถูกขุดพบในวันต่อมาที่หมู่บ้านพราฟไดน์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านใกล้เคียง ผู้อยู่อาศัยให้การว่าทหารรัสเซียใช้การทรมานอย่างต่อเนื่อง ทุ่นระเบิดถูกทิ้งไว้ทั่วภูมิภาคและมีแนวโน้มที่จะสังหารต่อไปอีกหลายปีข้างหน้า เคียฟได้เรียกร้องให้ประชาชนอพยพออกจากเมือง เนื่องจากอุณหภูมิลดลงและการนัดหยุดงานของรัสเซียขัดขวางไม่ให้ไฟฟ้ากลับมาใช้ใหม่ได้ สำหรับกองกำลังรัสเซีย แม่น้ำนีเปอร์อยู่ระหว่างพวกเขาและกองทัพยูเครน โดยที่สะพานหลักทั้งหลายได้ถูกทำลายไป ยูเครนจะเผชิญกับความยากลำบากอย่างมากหากพยายามที่จะรุกคืบต่อไปในแนวหน้านั้น ถึงกระนั้น จากการสูญเสียเมืองเคอร์สัน รัสเซียได้สูญเสียดินแดนครึ่งหนึ่งที่ยึดครองในยูเครนในเดือนเมษายน ชัยชนะอย่างต่อเนื่องของยูเครนที่คาร์คิฟ ไลมาน และต่อมา เคอร์สันได้ทำให้การต่อสู้ของรัสเซียเป็นไปในลักษณะตั้งรับเป็นหลัก โดยมีข้อยกเว้นที่โดดเด่นประการหนึ่งในภูมิภาคดอนบัสตะวันออกของยูเครน ที่บัคมุท [Guardian] [AP News] [Euronews] [New York Times] [CNN] [Al Jazeera] [Deutsche Welle] โครงข่ายพลังงานยูเครนเป็นเป้าหมาย ในการตอบโต้การปลดปล่อยเมืองเคอร์สันและเพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มของการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือนด้วยขีปนาวุธ นับตั้งแต่ยูเครนโจมตีสะพานช่องแคบเคิร์ชในเดือนตุลาคม รัสเซียได้เปิดตัวขีปนาวุธร่อนโจมตีโรงงานพลังงานของยูเครน ผลลัพธ์ได้สร้างความปั่นป่วนอย่างมาก โดยยูเครนประสบกับปัญหาไฟดับอย่างต่อเนื่องและดิ้นรนเพื่อรักษาแหล่งจ่ายไฟให้กับเมืองต่างๆ ยูเครนสามารถกู้คืนเสบียงได้อย่างรวดเร็ว แม้แต่ในเมืองเคอร์สัน แต่งานนี้มีราคาแพงและมักเป็นอันตราย เนื่องจากรัสเซียโจมตีโรงไฟฟ้าซ้ำหลายครั้ง เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน การโจมตีของรัสเซียส่งผลให้ไฟฟ้าดับถึง 40 เปอร์เซ็นต์ของประเทศ ทำให้ทางการยูเครนพิจารณาอพยพเมืองใหญ่หากโครงสร้างพื้นฐานได้รับความเสียหายรุนแรงเกินไป การขาดพลังงานยิ่งกัดกินมากขึ้นเนื่องจากยูเครนกำลังเผชิญกับสภาพอากาศหนาวเย็น ส่งผลให้ประเทศเพื่อนบ้านต้องเตรียมพร้อมรับผู้ลี้ภัยระลอกใหม่ การโจมตีด้วยขีปนาวุธมักจะไม่ค่อยแม่นยำและมักไปลงที่บ้านเรือนของประชาชน อาคาร อพาร์ตเมนต์ และแม้แต่สนามเด็กเล่น ส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก [Politico Europe] [BBC News] [Reuters] [Associated Press] [Euronews] [Wall Street Journal] [New York Times] ชาวยูเครนได้แสดงความแข็งแกร่งในการเผชิญกับยุทธวิธีล่าสุดของเครมลินต่อพวกเขา ยุทธศาสตร์ของมอสโกในการทิ้งระเบิดเมืองต่างๆ ของยูเครนดูเหมือนจะสร้างความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในหมู่ชาวเมืองให้ต่อสู้กลับ Anastasia Pyrozhenko ผู้อาศัยอยู่ในเคียฟกล่าวกับสำนักข่าว Associated Press โดยสรุปทัศนคตินี้ว่า "เราพร้อมที่จะอยู่โดยปราศจากแสงสว่าง แต่ไม่ใช่กับชาวรัสเซีย" ในขณะเดียวกัน ประโยชน์ทางทหารจากการโจมตีก็ไม่ชัดเจน กองทหารของยูเครนยังคงสามารถเข้าถึงเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและเสบียงเชื้อเพลิงของตนเองได้ และมีอุปกรณ์ครบครันสำหรับอุณหภูมิที่เยือกแข็ง ในส่วนของรัสเซียนั้น กำลังใช้ขีปนาวุธร่อนอันมีค่าอย่างฟุ่มเฟือย ซึ่งเป็นขีปนาวุธนำสมัยที่ยากจะหามาทดแทนได้ Mark Schneider นักวิเคราะห์อาวุโสของสถาบันนโยบายสาธารณะแห่งชาติ ระบุว่า รัสเซียกำลังเผาผลาญขีปนาวุธของตนอย่างรวดเร็ว มุมมองของเขาคือประสิทธิภาพของการโจมตีของรัสเซียถูกบั่นทอนโดยความหลากหลายของระบบต่างๆ ที่ใช้ ตั้งแต่ระบบที่ออกแบบมาเพื่อบรรทุกอาวุธนิวเคลียร์ไปจนถึงขีปนาวุธต่อต้านเรือ [Institute for the Study of War] [Associated Press] [Guardian] [US Naval Institute] [Sky News] [PBS] [Reuters] [Euronews] [National Interest] เคียฟเรียกร้องเครื่องปั่นไฟ เป็นอีกครั้งที่พันธมิตรตะวันตกของยูเครนได้ก้าวเข้ามา โดยคราวนี้ สัญญาว่าจะจัดส่งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าดีเซลในความพยายามที่จะบรรเทาความทุกข์ยากของพลเมือง เคียฟได้เรียกร้องการสนับสนุนในรูปแบบของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและการป้องกันภัยทางอากาศ ในขณะที่รัสเซีย ตามคำพูดของเลขาธิการนาโต้ Jens Stoltenberg ระบุว่ามี "อาวุธฤดูหนาว" เครื่องกำเนิดไฟฟ้าซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของความช่วยเหลือที่ "ไม่ใช่อาวุธ" กำลังถูกส่งไปยังยูเครนแล้ว พร้อมกับสิ่งทดแทนที่สำคัญสำหรับโครงสร้างพื้นฐานที่เสียหาย เช่น หม้อแปลงไฟฟ้า สหภาพยุโรปเป็นผู้นำในเรื่องนี้ โดยจัดตั้งกองทุนสนับสนุนพลังงานยูเครนเพื่อช่วยเหลือโครงข่ายไฟฟ้าที่ทรุดโทรมของประเทศตลอดฤดูหนาวนี้และหลังจากนั้นด้วย สหภาพยุโรปยังได้ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมประมาณ 1 พันล้านยูโรโดยเฉพาะเพื่อช่วยให้ชาวยูเครนมีแสงสว่างและอุณหภูมิสูงขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า สำหรับรัฐสภายุโรป ในการตอบโต้การโจมตีระลอกนี้ ได้กำหนดให้รัสเซียเป็น "ผู้สนับสนุนการก่อการร้ายโดยรัฐ" (ดูเรื่องราวแยกต่างหากในฉบับนี้) ในขณะที่ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมพุ่งเป้าไปที่อาการของการโจมตีของรัสเซีย ยูเครนก็พุ่งเป้าไปที่สาเหตุเช่นกัน เคียฟได้ร้องขอระบบขีปนาวุธแพทริออตที่ผลิตโดยสหรัฐฯ เพื่อใช้ร่วมกับระบบต่อต้านขีปนาวุธอื่นๆ ที่ได้รับจนถึงปัจจุบัน เช่น นาแซมส์ ที่ผลิตในนอร์เวย์ นาแซมส์ ได้รับการยกย่องจากผู้ปฏิบัติการรายใหม่ โดยมีรายงานว่ายิงขีปนาวุธที่เป็นเป้าหมายตกทุกลูก อย่างไรก็ตาม แพทริออต เป็นแพลตฟอร์มที่ปรับเปลี่ยนได้มากกว่าและถือเป็น "มาตรฐานทองคำ" ในระบบการป้องกันขีปนาวุธ ซึ่งแตกต่างจาก นาแซมส์ ซึ่งมีพิสัยระยะกลางคงที่ แต่แพทริออตสามารถสกัดกั้นได้ในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะไกล ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่าเมื่อเทียบกับประเภทของโดรนฆ่าตัวตายที่รัสเซียใช้แพทริออต ยังไม่อยู่ในจุดที่เคียฟเอื้อมถึงในขณะนี้ แม้ว่าจะมีสัญญาณบ่งชี้ว่าอาจเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต โดยมีการหารือกันอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับประเด็นนี้ระหว่างประเทศในกลุ่มนาโต้ [BBC News] [NPR] [PBS] [AP News] [The Hill] [Deutsche Welle] [New York Times] [Euronews] สัญญาณเตือนภัยเมื่อขีปนาวุธตกในโปแลนด์ ความกลัวการเผชิญหน้าโดยตรงระหว่างนาโต้และรัสเซียทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อขีปนาวุธตกลงในฟาร์มของโปแลนด์ใกล้กับชายแดนยูเครนเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน คร่าชีวิตชายสองคนในประเทศที่เป็นสมาชิกพันธมิตรทางทหารของชาติตะวันตก ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ผู้นำนาโต้ จัดการประชุมอย่างกระทันหันในระหว่างการประชุมสุดยอด จี 20 ที่บาหลี ทางการโปแลนด์สรุปว่าขีปนาวุธดังกล่าว น่าจะเป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนเองที่ออกนอกเส้นทาง ซึ่งเคียฟโต้แย้งเรื่องนี้ ขณะที่ Maria Zakharovaโฆษกหญิงของกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียแสดงความไม่พอใจผ่านแอพส่งข้อความโทรเลขเกี่ยวกับการเสียชีวิตของชาวโปแลนด์ทั้งสอง เหตุการณ์ดังกล่าว แม้จะไม่ใช่การโจมตีของรัสเซีย แต่ก็นำไปสู่การประณามการโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซียในยูเครน และเห็นว่าเยอรมนีเสนอให้ย้ายระบบขีปนาวุธแพทริออตไปยังโปแลนด์ ในตอนแรกวอร์ซอว์ยินดีรับข้อเสนอ จากนั้นเปลี่ยนใจโดยแจ้งเยอรมนีว่า เห็นควรมอบระบบดังกล่าวให้ยูเครนแทน ก่อนจะกลับมาบอกว่าอาจพิจารณารับระบบขีปนาวุธแพทริออตมาไว้ในดินแดนโปแลนด์ในที่สุด [Telegraph] [Associated Press] [Politico Europe] [BBC News] [Euractiv] [RFE/RL] [Reuters] ปฏิบัติการเชิงรุกเพื่อบดขยี้ ในขณะเดียวกัน รัสเซียยังคงโจมตีบัคมุททางตะวันออกอย่างต่อเนี่อง หลุมอุกกาบาตที่ก่อตัวขึ้นจากการระดมยิงไม่หยุดหย่อน และซากอาคารฟาร์ม ปัจจุบัน บริเวณโดยรอบชวนให้นึกถึงสมรภูมิรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 ผู้เสียชีวิตมีมากทั้งสองฝั่ง แม้ว่าในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ บุคลากรของรัสเซีย สูญเสียอย่างหนักเพื่อพยายามฝ่าแนวยูเครน เมืองบัคมุทส่วนใหญ่ถูกทำลาย แม้ว่าประชากรก่อนสงครามจำนวน 70,000 คนจะยังคงอาศัยอยู่ที่นั่น เมืองนี้ถูกใช้เป็นโรงพยาบาลสนามสำหรับผู้บาดเจ็บล้มตายชาวยูเครนอย่างต่อเนื่อง รัสเซียโจมตีบัคมุทตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม แต่คืบหน้าได้เพียงเล็กน้อยและต้องเผชิญกับการต่อต้านที่รุนแรง กองกำลังรัสเซียประกอบด้วยหน่วยทหารประจำการ กลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์ และกองกำลังแบ่งแยกดินแดนที่เหลืออยู่ของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์และลูฮานสค์ อย่างไรก็ตาม อรรถประโยชน์เชิงยุทธ์ศาสตร์ของบัคมุท เป็นประเด็นถกเถียงในหมู่ผู้เชี่ยวชาญ ดร. Jack Watling นักวิชาการอาวุโสด้านการศึกษาการป้องกันที่สถาบัน Royal United Services Institute ของ สหราชอาณาจักร ให้ความเห็นในบทความที่ตีพิมพ์โดยสำนักข่าว Telegraph ว่าการโจมตีของรัสเซียกำลังค้นหาชัยชนะ "เชิงสัญลักษณ์" หากยึดบัคมุทได้ เส้นอุปทานของยูเครนในภูมิภาคดอนบัสจะไม่ถูกขัดขวางอย่างจริงจัง ในขณะที่รัสเซียยังคงต้องโจมตีเมืองต่างๆ ที่มีป้อมปราการอย่าง สโลเวียนสค์, ซิเวอร์สค์, ครามาเตอร์สค์ และ อาฟดิฟกาเพื่อแย่งชิงการครอบครองภูมิภาคดอนบัสทางตะวันออก [Politico Europe] [Reuters] [Guardian] [New York Times] [Institute for the Study of War] [Forbes] [France 24] [RUSI] [Telegraph] การรุกรานยูเครนของรัสเซีย ซึ่งขณะนี้เข้าสู่เดือนที่สิบแล้ว ได้กลายมาเป็นการต่อสู้ที่โหดร้ายและทำลายล้าง พลเรือนไม่ได้เป็นเพียงหลักประกันความเสียหายอีกต่อไป แต่พวกเขาคือเป้าหมายสำคัญทางยุทธศาสตร์ของรัสเซีย ความทุกข์ยากที่เกิดขึ้นในเมืองต่างๆของยูเครนนั้น ตรงกับความทุกข์ยากที่พบในร่องลึกที่เยือกแข็งที่บัคมุท แม้ว่าทั้งสองจะเป็นประโยชน์สำหรับกองทัพรัสเซียหรือไม่นั้นยังเป็นที่โต้เถียงกัน ในขณะที่รัสเซียยังคงสูญเสียดินแดนเดือนต่อเดือน (wb/pk, transl. by tj)
การประชุมสุดยอดด้านสภาพอากาศตกลงจัดตั้งกองทุนสำหรับประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ท่ามกลางการขาดความคืบหน้าเกี่ยวกับเชื้อเพลิงฟอสซิล ประชาคมระหว่างประเทศได้ตกลงในการประชุมสุดยอดระดับโลกนี้ จัดตั้งกองทุนใหม่เพื่อสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนาที่ประสบกับผลกระทบที่เลวร้ายที่สุดของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่ไม่สามารถบรรลุฉันทามติในเรื่องการจำกัดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล [BBC News] [Sky News] [Independent] สหภาพยุโรป ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักของกองทุน ได้เตือนว่า พร้อมที่จะล้มเลิกการเจรจาในการประชุมสุดยอด COP27 เมื่อเผชิญกับสิ่งที่เห็นว่าขาดความคืบหน้าและฉันทามติจากพันธมิตรระหว่างประเทศ [Independent] [The Guardian] [Independent] ในที่สุด กองทุนใหม่นี้ได้รับการอนุมัติเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนโดย 197 ประเทศ ซึ่งเป็นสมาชิกทุกรายที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดในรีสอร์ทของอียิปต์ที่ชาร์ม เอล-ชีค หลังจากการเจรจาที่เลยเวลาไปสองวัน [Independent] [BBC News] การจัดตั้งกองทุน "ความสูญเสียและความเสียหาย" เป็นข้อเรียกร้องที่สำคัญของกลุ่ม 77 ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาระหว่างประเทศที่เผชิญกับผลกระทบที่รุนแรงอย่างไม่สมส่วนจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ [The Guardian] [Independent] “ดิฉันมั่นใจว่าเราได้เปลี่ยนมุมมองในการทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายด้านสภาพอากาศ” Sherry Rehmanรัฐมนตรีด้านสภาพอากาศของปากีสถาน ซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่ม 77 กล่าวในการเจรจา [BBC News] [The Guardian] ข้ออ้างเกี่ยวกับเชื้อเพลิงฟอสซิล? อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อตกลงใดๆ ในการจำกัดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลเพื่อรักษาอุณหภูมิโลกไม่ให้เพิ่มสูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียส นักวิทยาศาสตร์ระบุว่าเกณฑ์ดังกล่าวจำเป็นต่อการรักษาความปลอดภัยของโลก [The Guardian] [Sky News] Frans Timmermans รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรปและทูตด้านสภาพอากาศกล่าวว่า “หลายฝ่ายไม่พร้อมที่จะดำเนินการให้เกิดความคืบหน้ามากขึ้นในวันนี้เพื่อต่อสู้กับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ… ข้อตกลงนี้ไม่เพียงพอ [ในการลดการปล่อยมลพิษ]” [The Guardian] [Politico] ในขณะเดียวกัน Annalena Baerbock รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของเยอรมนีกล่าวว่า “น่าผิดหวังมากกว่าที่เห็นขั้นตอนการบรรเทาผลกระทบที่ล่าช้าและการยุติพลังงานฟอสซิลถูกสกัดกั้นโดยผู้ปล่อยมลพิษและผู้ผลิตน้ำมันรายให ญ่หลายราย” [Al Jazeera] ซาอุดีอาระเบีย จีน และรัสเซียเป็นส่วนหนึ่งของบรรดาประเทศที่คัดค้านความมุ่งมั่นที่จะยึดมั่นในเป้าหมาย 1.5 องศาเซลเซียส [Sky News] 'โลกของเรายังอยู่ในห้องฉุกเฉิน' ในระหว่างการเจรจาข้อตกลง Antonio Guterres เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวว่า ระดับความสูญเสียและความเสียหายทั่วโลกอันเป็นผลมาจากการมีส่วนร่วมของมนุษย์ในวิกฤตสภาพภูมิอากาศเป็นเรื่องที่ไม่อาจปฏิเสธได้ [Yahoo News] “โลกของเรายังอยู่ในห้องฉุกเฉิน เราจำเป็นต้องลดการปล่อยก๊าซลงอย่างมากในตอนนี้ และนี่คือปัญหาที่ การประชุม COP ไม่ได้แก้ไข กองทุนสำหรับการสูญเสียและความเสียหายเป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็ไม่ใช่คำตอบหากวิกฤตสภาพอากาศทำให้รัฐที่เป็นเกาะเล็กๆ หายไปจากแผนที่ หรือเปลี่ยนประเทศในแอฟริกาทั้งประเทศให้กลายเป็นทะเลทราย” Guterres กล่าวในคำปราศรัยปิดท้าย [United Nations] อย่างไรก็ตาม อาจใช้เวลาหลายปีกว่าจะมีการจัดตั้งกองทุนที่ตกลงไว้ เนื่องจากคำถามยังคงมีอยู่ว่าเงินจะมาจากไหนและประเทศต่างๆ จะได้รับเท่าไร[Reuters] [Sky News] นักวิเคราะห์เห็นว่า ยังมีการตั้งคำถามเกี่ยวกับกระบวนการและขั้นตอนของ COP ที่อาศัยฉันทามติ อันเป็นผลมาจากการประนีประนอมซึ่งต้องทำเพื่อตกลงเกี่ยวกับกองทุนการสูญเสียและความเสียหาย [Sky News] [The Guardian] ผู้สังเกตการณ์เห็นว่า ภาษาที่ใช้ในข้อตกลงขั้นสุดท้ายอาจทำให้ก๊าซธรรมชาติถูกจัดให้อยู่ในประเภทแหล่งพลังงานที่ "ปล่อยมลพิษต่ำ" แม้ว่าจะก่อมลพิษน้อยกว่าถ่านหิน แต่ก๊าซธรรมชาติยังคงมีส่วนสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ [Al Jazeera] [BBC News] [The Guardian] นอกจากนี้ มีหลายมาตรการเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ได้ถูกนำมาใช้ อันเป็นผลมาจากการประชุมสุดยอด COP27 รวมถึงคำมั่นสัญญาที่จะเร่งการเปลี่ยนผ่านไปใช้ยานพาหนะที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ และความคิดริเริ่มที่มีเป้าหมายในการรีไซเคิลขยะมูลฝอยครึ่งหนึ่งที่ผลิตในแอฟริกา ภายในปี 2593 [Yahoo News] การลดการปล่อยก๊าซมีเทนถือเป็นอีกหนึ่งความสำคัญระดับนานาชาติ โดยมีกว่า 150 ประเทศที่ได้ลงนามในสัญญา Global Methane Pledge เพื่อลดการปล่อยก๊าซมีเทนลง 30 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2573 อนึ่ง จีนไม่ได้ลงนาม [Reuters] [Yahoo News] (ek/pk, transl. by tj)
การเยือนจีนของนายกฯ เยอรมนีก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ นายกรัฐมนตรี Olaf Scholz แห่งเยอรมนีได้พบปะอย่างเป็นทางการกับประธานาธิบดี Xi Jinping ของจีนในการเยือนปักกิ่งเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นการเยือนที่ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ [DW] [Reuters] [AP] Scholz พร้อมด้วยคณะผู้แทนของผู้นำธุรกิจชาวเยอรมันไปเยือนจีนไม่นานหลังจากที่เขาสนับสนุนข้อตกลงด้านการลงทุน (ซึ่งก่อให้เกิดข้อโต้แย้ง) เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม โดยบริษัทเดินเรือ COSCO ของจีน ณ ท่าเทียบเรือแห่งหนึ่งของฮัมบูร์ก เขากล่าวว่าเขาแสวงหาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นขึ้นกับปักกิ่ง แต่ก็คาดหวัง (จะได้รับ) การปฏิบัติที่เท่าเทียมในระหว่างการเดินทางเยือนของเขา [Reuters] [Politico Europe] “สิ่งที่ชัดเจนสำหรับเราคือเราไม่เชื่อในแนวคิดที่จะแยกตัวออกจาก (จีน) แต่ก็เป็นที่ชัดเจนด้วยว่าสิ่งนั้นเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่เท่าเทียมกัน ถ้อยทีถ้อยปฏิบัติต่อกัน โดยมีประเด็นสำคัญว่าต้องจัดให้มีการเข้าถึงการลงทุนอย่างเท่าเทียมกัน” เขากล่าวในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งตอนเริ่มการเจรจากับนายกรัฐมนตรี Li Keqiang ของจีน [France24] บรรดาพันธมิตรรัฐบาล กระทรวงต่างๆ และผู้เชี่ยวชาญของ Scholz ได้วิพากษ์วิจารณ์ข้อตกลงท่าเรือฮัมบูร์ก (Hamburg port deal) โดยกล่าวว่ามันจะทำให้จีนขยาย “อิทธิพลทางยุทธศาสตร์ต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งของเยอรมนีและยุโรป” และเพิ่ม “การพึ่งพาจีนของเยอรมนี” เจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ที่ไม่อนุญาตให้เปิดเผยชื่อ กล่าวเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ว่าสหรัฐฯ ได้เสนอแนะอย่างแข็งขันว่าจีนต้องไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าถือหุ้นมากกว่าร้อยละ 50 ซึ่งทำให้สามารถควบคุมนโยบายการดำเนินงานและการเงิน (controlling stake) ในท่าเรือฮัมบูร์กได้ [DW] [Reuters] [Europe Monthly November 2022][NPR] Noah Barkin ผู้วิจัยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างยุโรป-จีนให้กับคณะทำงานระดับมันสมอง (think tank) ของ Rhodium Group กล่าวว่าข้อตกลง COSCO-ฮัมบูร์กนั้นบอกเป็นนัยว่า Scholz ไม่ใส่ใจฟังรัฐบาลของเขาเอง โดย Barkin กล่าวว่า “มันดูไม่ดีอย่างมากเลย” ซึ่งสังเกตุเห็นได้ “ว่า Scholz นั้นก่อนเดินทางไปปักกิ่งไม่นาน กำลังเสนอของขวัญให้กับรัฐบาลจีน” เขากล่าว [NPR] รับผิดชอบต่อสันติภาพ ในระหว่างการเยือน Xi Jinping มีรายงานว่า Scholz ได้พูดคุยเรื่องข้อกังวลด้านสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อชนกลุ่มน้อยชาวอุยกูร์ในจีน รวมถึงจุดยืนของปักกิ่งต่อการที่รัสเซียรุกรานยูเครน และความเป็นไปได้ที่จะรวมชาติกับไต้หวัน [DW] [Reuters] ในเรื่องยูเครนนั้น Scholz กล่าวว่าเขาบอก Xi ว่าจีนในฐานะ “ตัวแสดงทางภูมิรัฐศาสตร์และสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาตินั้น มีหน้าที่รับผิดชอบต่อสันติภาพในโลก” และควร “ใช้อิทธิพลของตนต่อรัสเซีย” “ทุกคนในจีนรู้ว่าการเพิ่มระดับความรุนแรงของสงครามจะส่งผลที่ตามมาต่อพวกเราทุกคน” Scholz กล่าวกับผู้สื่อข่าว [LeMonde] นายกรัฐมนตรีเยอรมันกำลัง “ทำสิ่งจำเป็นทั้งหมดให้เสร็จสิ้นตามขั้นตอน” และไม่ได้ใช้อิทธิพลเพื่อจัดการประเด็นต่างๆ ที่ละเอียดอ่อนอย่าง “มีประสิทธิภาพ” อดีตที่ปรึกษาทางการเมืองของรัฐสภายุโรป Zsuzsa Anna Ferenczy กล่าว [DW] Xi กล่าวว่าความสัมพันธ์จีน-เยอรมนีไม่สามารถมาถึงระดับปัจจุบันได้หากปราศจากวิสัยทัศน์ที่พิเศษไม่ธรรมดาและความกล้าหาญทางการเมืองของผู้ นำจีนและผู้นำเยอรมันหลากหลายรุ่น Xi กล่าวเสริมว่าความไว้วางใจทางการเมืองนั้นถูกทำลายได้ง่ายแต่สร้างขึ้นใหม่ได้ยาก และว่ามันจึงควรได้รับการหล่อเลี้ยงและปกป้องจากทั้งสองฝ่าย [ChinaForeignMinistry] ขณะที่ Scholz กำลังจับมือกับ Xi ใน Golden Hall ของหอประชุมประชาชนนั้น รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ Anthony J. Blinken ก็กำลังบอกกับนักข่าวตอนสิ้นสุดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ G7 เป็นเวลาสองวันในเมือง Munster ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของเยอรมนีว่า “พวกเรา [กลุ่ม G7] เข้าใจชัดเจนยิ่งถึงความจำเป็นที่ต้องเป็นพันธมิตรกับจีน” บรรดาผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการเดินทางของ Scholz อาจส่งผลกระทบในทางลบต่อนโยบายร่วมของยุโรปที่มีต่อจีน ลิทัวเนียกับจีนได้โต้เถียงกันหลังจาก Vilnius เปิดสำนักงานตัวแทนแห่งหนึ่งขึ้นในไต้หวัน จีนถือว่าไต้หวันซึ่งเป็นประเทศที่ปกครองตนเองด้วยระบอบประชาธิปไตยเป็นมณฑลหนึ่งของตน และพิจารณาว่าแนวปฏิบัติใดๆ ในการให้สาธารณชนมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ (public engagement) กับรัฐบาลของตนในไทเปนั้นเป็นการประณามทางการเมือง (political rebuke) [VOA] ชาวยุโรปตื่นตระหนก การปฏิบัติของจีนต่อลิทัวเนียได้ทำให้ยุโรปตื่นตระหนกในช่วงเวลาที่หลายประเทศกำลังจับตาดูปักกิ่งด้วยความระแวดระวังมากยิ่งขึ้น สหภาพยุโรปเป็นหนึ่งในคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของไต้หวัน และหลายประเทศก็ได้หันมาหาไต้หวันเนื่องจากความสามารถในการผลิตขั้นสูงและอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่มีชื่อเสียงของประเทศนี้ [VOA] Reinhard Butikofer แห่งพรรคกรีนและเป็นหนึ่งในคณะผู้แทนยุโรปในไต้หวันกล่าวว่า Scholz “กล่าวข้อความสำคัญอย่างเป็นนัยว่าการลงทุนและการค้าอย่างต่อเนื่องจะเป็นความสำคัญลำดับแรกทางการเมือง (political priority)” เขายังกล่าวเสริมว่า Scholz “ได้เพิกเฉยต่อคำแนะนำที่มีประสิทธิภาพและน่าพอใจในเรื่องที่เกี่ยวกับจีน” [DW] Thierry Breton กรรมาธิการยุโรปด้านตลาดภายในกล่าวว่าประเทศต่างๆ ไม่ควร “ไร้เดียงสา” เมื่อต้องรับมือกับการลงทุนของจีน Samuel Cogolati สมาชิกรัฐสภาเบลเยียมกล่าวว่า “น่าเสียดาย” ที่การเยือนของ Scholz ไม่ใช่ “แนวร่วมยุโรป (united European front)” [Euronews] รายงานของสำนักงานสถิติแห่งสหพันธรัฐเยอรมนีกล่าวว่าจีนเป็นคู่ค้าที่สำคัญที่สุดของเยอรมนีติดต่อกันเป็นปีที่ 6 (ในปี 2021) ผลสำรวจโดยสำนักข่าวของสมาคมบรรษัทกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (ARD) แสดงให้เห็นว่าชาวเยอรมันเกือบร้อยละ 49 ต้องการให้ประเทศพึ่งพาจีนทางเศรษฐกิจน้อยลง [Tagesschau] “เยอรมนีแค่สนใจและกระตือรือร้นต่อการส่งออกไปยังจีนมากเกินไป จนมีท่าทีที่อดทนอดกลั้นมากขึ้นต่อรายงานด้านสิทธิมนุษยชนที่น่าตกใจของประเทศนี้” Melvyn B. Krauss ศาสตราจารย์เกียรติคุณด้านเศรษฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยนิวยอร์กเขียนไว้เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ว่า “รถยนต์เยอรมันหนึ่งในสามคันมีขายในประเทศจีน ในปี 2019 บริษัท Volkswagen ขายรถยนต์ของตนได้เกือบร้อยละ 40 ในประเทศนี้ ขณะที่บริษัท Mercedes-Benz ขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่นั่นได้ประมาณ 700,000 คัน” [Project Syndicate] แม้ Scholz จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ แต่เยอรมนีก็ปิดกั้นการลงทุนที่อาจเกิดขึ้นได้ของจีนในโรงงานเซมิคอนดักเตอร์สองแห่งเมื่อเดือนที่แล้วเนื่องจากความกังวลด้านความมั่นค งของชาติ กระทรวงการต่างประเทศยังประกาศหลังจากการเดินทางของ Scholz ว่ากำลังดำเนินการร่าง “ยุทธศาสตร์จีน” ฉบับใหม่ขึ้น ที่อาจเข้มงวดในด้านกฎระเบียบสำหรับบริษัทต่างๆ ที่ทำการค้ากับจีน รวมทั้งมีบทบาทมากขึ้นในด้านสิทธิมนุษยชน กรุงฮานอย, สิงคโปร์ หลังจากการเดินทางเยือนจีนของ Scholz ซึ่งเป็นครั้งแรกของผู้นำยุโรปนับตั้งแต่เกิดการระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนาแล้ว เขาก็ได้ไปเยือนเวียดนามและสิงคโปร์ก่อนที่จะเข้าร่วมการประชุม G20 ในอินโดนีเซีย การเดินทางของเขามีขึ้นเพื่อเน้นย้ำถึงการให้คำมั่นของเยอรมนีที่มีต่อพันธมิตรอื่นๆ ในภูมิภาคนี้หลังจากการเยือนปักกิ่งของนายกรัฐมนตรีคนนี้ Scholz กล่าวในกรุงฮานอยว่าสิงคโปร์และเวียดนามอยู่ในกลุ่มประเทศที่มี “พลวัต” ในภูมิภาคนี้ที่ซึ่งเยอรมนีต้องการจะพัฒนาความร่วมมือของตน Scholz สังเกตว่ามีร้านค้ารายใหญ่ของเวียดนามหลายร้านที่ค้าขายแร่ธาตุหายาก ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักสำหรับอุตสาหกรรมสีเขียว รวมถึงในการผลิตแบตเตอรี่ ที่ซึ่งจีนครองตลาดอยู่ในปัจจุบันนี้ [Barrons] (mb/gc, transl. by vv)
สหภาพยุโรปต้องการกระชับความสัมพันธ์กับอาเซียน ประธานคณะมนตรียุโรปกล่าวว่าสหภาพยุโรปต้องการกระชับความร่วมมือกับชาติต่างๆ ในสมาคมอาเซียน เนื่องจากพยายามทำค้าขายและลงทุน (ในภูมิภาคนี้) มากขึ้น รวมทั้งส่งเสริมระบบพหุภาคี (multilateralism) และระเบียบระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของกติกา (rules-based international order) ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก สหภาพยุโรปต้องการกระชับความร่วมมือระหว่างสองกลุ่มเพื่อจัดการกับวิกฤติการณ์ต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและในอนาคต ประธานคณะมนตรียุโรป Charles Michel กล่าวไว้ในระหว่างวิดีโอข้อความ (video message) สำหรับการประชุมสุดยอดทางธุรกิจและการลงทุนของอาเซียนเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน สหภาพยุโรปและอาเซียน “แบ่งปันความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็ง” และจำเป็นต้องร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้นเพื่อเอาชนะความท้าทายต่างๆ “ในช่วงเวลาที่สับสนอลหม่านนี้” เขากล่าว Michel กล่าวว่าทั้งสององค์กรสามารถขยายความสัมพันธ์ในภาคส่วนต่างๆ เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล, เทคโนโลยีสีเขียว และความยืดหยุ่นในห่วงโซ่อุปทานได้ เขายังเสริมด้วยว่าอาเซียนมี “ศักยภาพที่ยังไม่ได้นำมาใช้” ซึ่งทำให้น่าดึงดูดใจต่อการลงทุนของยุโรป สมาคมอาเซียนและสหภาพยุโรป “มีมุมมองเดียวกันเกี่ยวกับภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก...เป็นหนึ่งเดียวกันสำหรับโอกาสและการเติบโตอย่างมีพลวัต” เขากล่าวเสริม เพื่อเน้นย้ำความสำคัญของสิ่งนี้ ทั้งสองกลุ่มได้ลงนามในข้อตกลงการขนส่งทางอากาศที่ครอบคลุมระหว่างสหภาพยุโรปและอาเซียน (EU-ASEAN Comprehensive Air Transport Agreement) ในเดือนตุลาคม ข้อตกลงดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกในด้านการค้าและการเดินทางที่ยั่งยืนระหว่างสองภูมิภาค ทั้งสององค์กรเป็น “ผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งต่อระบบพหุภาคีและระเบียบระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของกติกา” Michel กล่าว ทั้งสองภูมิภาคกำลังดำเนินการเพื่อรับประกันเส้นทางการค้าที่ปลอดภัยในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ประเทศต่างๆ ในอาเซียนกำลังฟื้นตัวหลังจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ซึ่งคาดว่าจะเติบโตขึ้นโดยเฉลี่ยร้อยละ 5 ในช่วงสองปีข้างหน้า การฟื้นตัวขึ้นอยู่กับความพยายามในการฉีดวัคซีนอย่างกว้างขวาง, การผ่อนคลายข้อจำกัดในการเคลื่อนย้าย และการเปิดพรมแดนสู่การท่องเที่ยว แต่สมรรถภาพในภูมิภาคนี้มีแตกต่างกันไป โดยประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่กว่าและอุดมด้วยทรัพยากรมากว่านั้น เติบโตเร็วกว่าประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดเล็กกว่าหรือประเทศที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันและอาหาร [ERIA] จากข้อมูลเบื้องต้น อัตราเงินเฟ้อในภูมิภาคทรงตัวอยู่ที่ร้อยละ 6.2 ในเดือนตุลาคม มีการเพิ่มของราคาอย่างรวดเร็วขึ้นในลาว ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ในขณะที่ประเทศไทยและอินโดนีเซียมีราคาที่เพิ่มขึ้นช้าลง ในปีหน้า อัตราเงินเฟ้อน่าจะผ่อนคลายลงแต่จะยังคงทรงตัวเนื่องจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินในประเทศต่อสกุลเงินต่าง ประเทศ (pass-through effects) ที่ยืดเยื้อยาวนาน [FocusEconomics] สมาคมอาเซียนซึ่งเป็นองค์กรระดับภูมิภาคที่ประกอบด้วยบรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ประเทศไทย และเวียดนาม จัดการประชุมสุดยอดเป็นเวลาสามวันขึ้นที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา จากวันที่ 10-13 พฤศจิกายน บรรดาสมาชิกหารือกันในเรื่องการแข่งขันระหว่างสหรัฐฯ กับจีน, วิกฤติการณ์ทางการเมืองในเมียนมาร์หลังการรัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์ 2021, สงครามในยูเครน และการพัฒนาเศรษฐกิจของภูมิภาค Michel กล่าวว่าความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ในขณะนี้คือสงครามของรัสเซียในยูเครนและผลกระทบของสงครามนี้ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก สหภาพยุโรปกำลังพยายามทำให้แหล่งพลังงานของตนมีหลากหลายเพื่อตอบโต้ต่อการใช้อาหารและพลังงานของเครมลิน “เป็นอาวุธทำลายเสถียรภาพในวงกว้าง (mass destabilization)” Michel กล่าว สหภาพยุโรป “จะมุ่งเน้นไปที่แบบรวมกลุ่มทางภูมิภาค (regional integration) ของตลาดไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน” และส่งเสริมพลังงานสะอาดผ่านความร่วมมือกัน Michel กล่าว โดยมีสองตัวอย่าง ได้แก่ โครงการ Green Team Europe Initiative ที่ร่วมกับอาเซียนโดยให้คำมั่นในการปกป้องสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม และโครงการ Just Energy Transition Partnerships ที่ร่วมกับเวียดนามและอินโดนีเซีย โดยสนับสนุนทั้งสองประเทศในการเปลี่ยนผ่านจาก (การใช้) ถ่านหินไปสู่พลังงานหมุนเวียน [European Council] กัมพูชาประณามสงครามในยูเครน Kung Phoak รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาประณามสงครามในยูเครน เนื่องจากอาเซียนไม่สนับสนุนการคุกคามหรือการใช้กำลังต่อประเทศอธิปไตยอื่นๆ อาเซียนยังต้องการกระชับความสัมพันธ์กับยูเครนเช่นกัน โดยขั้นตอนแรกคือการที่ยูเครนลงนามในสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือ (Treaty of Amity and Cooperation) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน [Aljazeera] เขากล่าวว่าอาเซียนจะไม่ “เลือกข้าง” และจะ “ยังคงเป็นกลาง” ในท่ามกลางการแข่งขันกันระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และขณะที่จีนยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของภูมิภาคนี้ อาเซียนก็ไม่ต้องการให้ “เศรษฐกิจของตนถูกครอบงำอย่างสิ้นเชิงโดยเศรษฐกิจอื่น” เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ สมาคมอาเซียนได้ยกระดับความสัมพันธ์ของตนกับสหรัฐฯ ไปสู่การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุม และกระชับข้อตกลงทางการค้ากับออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ในการประชุมนอกรอบของการประชุมสุดยอดนี้ [CNBC] [AiR, No.64, November/2022, 3] ในวันที่ 14 ธันวาคม กลุ่มสหภาพยุโรปและอาเซียนจะฉลองครบรอบ 45 ปีแห่งการเป็นคู่เจรจากันในการประชุมสุดยอดสหภาพยุโรป-อาเซียนซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกที่กรุงบรัสเซลส์ (aml/gc, transl. by vv)
สหราชอาณาจักร: มาตรฐานการครองชีพตกต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ สหราชอาณาจักรเผชิญกับมาตรฐานการครองชีพที่ตกต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากราคาสิ่งต่างๆ ที่สูงขึ้น โดยรวมถึงอาหารและพลังงาน ที่กัดเซาะรายได้ทั่วทั้งประเทศ [Office for Budget Responsibility] สำนักงานความรับผิดชอบด้านงบประมาณ (The Office for Budget Responsibility - OBR) ซึ่งเป็นหน่วยงานคาดการณ์ของรัฐบาล กล่าวว่ารายได้ของครัวเรือน เมื่อพิจารณาจากราคาที่สูงขึ้นแล้ว จะลดลงร้อยละ 7 ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า สหราชอาณาจักรเริ่มบันทึกระดับรายได้เมื่อปี 1956 OBR กล่าวเสริมว่าการกดบีบรายได้ที่แท้จริง, การเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย และการลดลงของราคาบ้านได้ส่งผลกระทบในทางลบต่อการบริโภคและการลงทุน โดยทำให้เศรษฐกิจของอังกฤษเข้าสู่ภาวะถดถอยซึ่งจะกินเวลานานกว่าหนึ่งปี OBR ยังคาดด้วยว่าจำนวนผู้ว่างงานจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 500,000 คน [Office for Budget Responsibility] เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรจะหดตัวลงร้อยละ 2 ในช่วงระหว่างเศรษฐกิจถดถอยทั้งหมด ซึ่งเริ่มต้นเมื่อต้นปีนี้ และคาดว่าจะกินเวลานานกว่า 12 เดือน โดยคาดการณ์ว่าราคาบ้านจะลดลงร้อยละ 9 ภายในปี 2024 Jeremy Hunt นายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวว่าสหราชอาณาจักรเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยแล้ว และก็จะหดตัวลงต่อไปถึงปีหน้า เขากล่าวว่าการขึ้นภาษีครั้งใหม่และการใช้จ่ายของรัฐบาลที่เข้มงวดมากขึ้นจะนำไปสู่ “เศรษฐกิจตกต่ำที่ตื้นขึ้น (shallower downturn)” พร้อมกับการตกงานที่น้อยลง [BBC] [Financial Times] “สหราชอาณาจักรเป็นประเทศเศรษฐกิจในกลุ่ม G10 เพียงประเทศเดียวที่กิจกรรม (ทางเศรษฐกิจ) ยังคงต่ำกว่าระดับก่อนเกิดโรคระบาดใหญ่ และนักเศรษฐศาสตร์ของเราคาดว่าการเติบโตจะติดลบในปี 2023 ในขณะที่ส่วนที่สะท้อนแนวโน้มเงินเฟ้อ (underlying inflation) นั้นแข็งแกร่งเป็นพิเศษและแสดงสัญญาณที่จำกัดของการตกต่ำลง (coming down)” Michael Cahill นักยุทธศาสตร์จากบริษัท Goldman Sachs กล่าว แถลงการณ์ฤดูใบไม้ร่วง Hunt กล่าวในแถลงการณ์ฤดูใบไม้ร่วงว่าการขึ้นภาษีครั้งใหม่และการใช้จ่ายสาธารณะที่เข้มงวดขึ้นในแผนงบประมาณเมื่อวันที่ 17 ตุลาคมนั้น ได้รับการออกแบบมาเพื่อประหยัดเงินจำนวน 55 พันล้านปอนด์อังกฤษต่อปี จากความพยายามของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการคลังสาธารณะของอังกฤษ เขากล่าวว่ามาตรการต่างๆ ดังกล่าวเป็นสิ่งจำเป็นหลังจากชื่อเสียงทางการเงินการคลังของประเทศถูกทำลายโดยแผนเศรษฐกิจของอดีตนายกรัฐมนตรี Liz Truss รัฐบาลกำลังพยายามจัดการกับราคาที่เพิ่มสูงขึ้นและฟื้นฟูความน่าเชื่อถือของสหราชอาณาจักรในตลาดระหว่างประเทศ นโยบายเศรษฐกิจของ Truss ส่งผลให้ค่าเงินสเตอร์ลิงร่วงลงในเดือนกันยายนสู่ระดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ในรอบสามทศวรรษ แม้ว่าค่าเงินจะได้ฟื้นตัวขึ้นจากความสูญเสียอย่างฮวบฮาบและมากยิ่ง (steep losses) เหล่านั้น แต่ก็มีแนวโน้มจะยังคงเป็นหนึ่งในสกุลเงินหลักที่มีผลตอบแทนน้อยกว่าที่คาดจนถึงปีใหม่ ทั้งนี้ตามการคาดการณ์ล่าสุดของบริษัท Goldman Sachs [PoundSterlingLive] การประมาณการรายรับและรายจ่ายในช่วงเวลาหนึ่ง (budget) ของ Hunt แสดงให้เห็นว่า “ได้ทำหน้าที่เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการกลับลำขนานใหญ่ของนโยบายการคลัง ซึ่งได้ทำให้ส่วนเพิ่มของผลตอบแทนเพื่อชดเชยความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น (risk premium) ของสินทรัพย์ของสหราชอาณาจักรลดลงอย่างมาก” Cahill กล่าว “แต่เรายังคงคาดว่าเงินสเตอร์ลิงจะให้ผลตอบแทนน้อยกว่าที่คาดในระยะเวลาอันใกล้นี้ เนื่องจากมันดูดซับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันจนทำให้อุปทานของสินค้าเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทางลบ (negative supply shock) ครั้งล่าสุดจากราคาพลังงานไว้” [PoundSterlingLive] 'ศัตรูแห่งเสถียรภาพ' “อัตราเงินเฟ้อที่สูงเป็นศัตรูของเสถียรภาพ” Hunt กล่าว “นั่นหมายถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองที่สูงขึ้น, บิลล์ค่าอาหารและเชื้อเพลิงที่แพงขึ้น, ธุรกิจที่ล้มเหลว และการว่างงานที่เพิ่มขึ้น สิ่งนี้ทำลายเงินออม, ทำให้เกิดสภาวะความไม่ลงรอยกันระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง (industrial unrest) และตัดลดการให้เงินทุนสำหรับบริการสาธารณะ” [gov.uk] Hunt ประกาศแผนการต่างๆ ที่จะระงับค่าลดหย่อนภาษีเงินได้และลดเกณฑ์หรือระดับที่ผู้คนเริ่มชำระภาษีเงินได้ในอัตราสูงสุดลง เขากล่าวว่าภาษีลาภลอยที่เก็บจากบริษัทน้ำมันและก๊าซจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 35 จากอัตราปัจจุบันที่ร้อยละ 25 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมถึงเดือนมีนาคมปี 2028 นอกจากนี้ เขายังได้แนะให้จัดเก็บภาษีชั่วคราวร้อยละ 45 สำหรับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าด้วย มีการประกาศการอุดหนุนค่าครองชีพมูลค่า 26 พันล้านปอนด์อังกฤษ รวมถึงการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องสำหรับค่าพลังงานที่เพิ่มขึ้น [Gov.UK] งบประมาณขนาดเล็ก (mini-budget) นั้นรวมถึงสิทธิประโยชน์ของคนวัยทำงาน (working age benefits) ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.1 ค่าจ้างเพื่อชีวิตของประเทศ (National Living Wage) จะเพิ่มขึ้นเป็น 10.42 ปอนด์สเตอร์ลิงอังกฤษต่อชั่วโมง โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.7 การเพิ่มขึ้นนี้จะทำให้พนักงานประจำได้รับค่าจ้างเพิ่มขึ้น 1,600 ปอนด์อังกฤษต่อปี [Gov.UK] Rachel Reeves นายกรัฐมนตรีเงาของพรรคแรงงาน เรียกมาตรการเหล่านี้ของ Hunt ว่าเป็น “ใบแจ้งหนี้สำหรับการฆาตกรรมทำลายล้างหมู่ทางเศรษฐกิจ (economic carnage)” ที่เกิดขึ้นภายใต้การบริหารงานของ Truss โดยกล่าวว่าไม่มีเศรษฐกิจที่คล้ายคลึงกันนี้ที่ต้องควบคุมการใช้จ่าย [The Guardian] [BBC News] [Reuters] (chm-jn/gc, transl. by vv)
คลื่นแห่งการนัดหยุดงานเกิดขึ้นทั่วยุโรปซึ่งเกี่ยวกับค่าจ้างและค่าครองชีพที่สูงขึ้น การประท้วงและการนัดหยุดงานได้ปะทุขึ้นในหลายๆ ประเทศในยุโรป เนื่องจากพวกคนงานต้องเผชิญปัญหารายได้แท้จริงที่ลดลงมากที่สุดเป็นระยะเวลานาน ช่องว่างระหว่างอัตราค่าจ้างและค่าครองชีพในเขตยูโร (Eurozone - ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปที่ใช้สกุลเงินยูโร) นั้นได้กว้างขึ้น ราคาพุ่งขึ้นโดยเฉลี่ยร้อยละ 10.7 ในเดือนตุลาคมเมื่อเทียบกับปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน ขณะที่เงินเดือนในไตรมาสที่ 2 สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปี 2021 เพียงร้อยละ 4.1 เท่านั้น [Bloomberg] เกิดความไม่สงบเพิ่มมากขึ้นในสหราชอาณาจักร หลังจากสิ่งที่บางคนเรียกว่าเป็น “ฤดูร้อนแห่งความไม่พอใจ” ก็คาดกันว่าสหราชอาณาจักรจะมีการนัดหยุดงานประท้วงอย่างกว้างขวางในฤดูหนาวนี้ การหยุดชะงักเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อโรงพยาบาล, หน่วยงานให้บริการฉุกเฉิน, โรงเรียน, ไปรษณีย์, โทรคมนาคม และการจัดการเงินสด (cash handling) [Reuters] [The Telegraph] สหราชอาณาจักรบันทึกอัตราเงินเฟ้อเป็นตัวเลขสองหลักเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีในเดือนกรกฎาคม และแตะอยู่ที่ร้อยละ 11.1 ในเดือนตุลาคม [สำนักงานสถิติแห่งชาติ] อังกฤษเป็นประเทศแรกในบรรดาประเทศเศรษฐกิจร่ำรวยที่สำคัญที่เผชิญกับภาวะเงินเฟ้อสูงกว่าร้อยละ 10 [Reuters] เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของอังกฤษคาดว่าจะหยุดงานประท้วงอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในวันที่ 15 และ 20 ธันวาคม พยาบาลจำนวนมากถึง 100,000 คนเตรียมพร้อมจะหยุดงาน โดยจะมีเจ้าหน้าที่ประจำรถพยาบาลมากกว่า 10,000 คนเข้าร่วมด้วย [Reuters] ในขณะเดียวกัน ข้อมูลล่าสุดเผยให้เห็นว่ามีผู้ป่วยจำนวน 7 ล้านคนอยู่ในรายชื่อรอการรักษาในโรงพยาบาล ทั้งนี้อ้างจากข้อมูลของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในอังกฤษ [The Guardian] การนัดหยุดงานประท้วงของคนงานในเบลเยียมและกรีซ คนงานชาวกรีกและเบลเยียมหยุดงานประท้วงในวันที่ 9 พฤศจิกายน ซึ่งทำให้เกิดการหยุดชะงักในการขนส่งและการปิดหน่วยงานบริการสาธารณะ [AP News] ผู้คนหลายพันเข้าร่วมในการเดินขบวนประท้วงในกรุงเอเธนส์และเมืองเทสซาโลนีกีในทางตอนเหนือของกรีซ [AP News] ในการหยุดงานประท้วงเป็นเวลา 24 ชั่วโมงซึ่งนับเป็นครั้งที่สองของปีนี้ คนงานเหล่านี้ประท้วงต่อต้านการปลดพนักงานและการตัดลดค่าจ้าง [The Guardian] อัตราเงินเฟ้อในกรีซอยู่ในกลุ่มที่สูงที่สุดในเขตยูโร และประเทศนี้ยังคงกำลังฟื้นตัวจากวิกฤติหนี้ที่มีระยะเวลาเกือบหนึ่งทศวรรษ [Reuters] [The Guardian] ในเบลเยียม การหยุดงานประท้วงทั่วประเทศทำให้การจราจรและธุรกิจต่างๆ หยุดชะงัก “ราคาไฟฟ้า ก๊าซ และอาหารได้พุ่งสูงขึ้นมากตลอดปีที่ผ่านมา” สหภาพแรงงานคริสเตียนเดโมแครต ACV กล่าว “ในทางตรงข้าม ค่าจ้างถูกห้ามไม่ให้ปรับขึ้นเป็นเวลาหลายปีแล้ว…สิ่งนี้ต้องหยุดได้แล้ว” [AP news] การขนส่งหยุดชะงักในฝรั่งเศสและออสเตรีย ในวันที่ 10 พฤศจิกายน การหยุดงานประท้วงของคนงานขนส่งทำให้กรุงปารีสเป็นอัมพาต [RFI] ฝรั่งเศสมีการหยุดงานประท้วงหลายครั้งนับตั้งแต่เดือนกันยายน โดยมีการหยุดงานทั่วไปในเมืองหลวงแห่งนี้เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พวกคนงานกำลังผลักดันให้ขึ้นค่าจ้างในท่ามกลางแผนปฏิรูประบบบำนาญของประธานาธิบดี Emmanuel Macron ซึ่งจะเพิ่มอายุเกษียณจาก 62 ปี เป็น 64 หรือ 65 ปี [Le Monde] ในออสเตรีย การหยุดงานประท้วงในหน่วยงานให้บริการขนส่งทางราง (rail services) เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนนั้นทำให้การจราจรทางรถไฟทั่วประเทศหยุดชะงัก สหภาพแรงงานกล่าวว่าพวกเขาพร้อมจะนัดหยุดงานอีกครั้งหากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับบริษัทรถไฟ OBB ที่รัฐเป็นเจ้าของได้ [Reuters] [VOA] คนงานชาวสเปนเรียกร้องค่าจ้างเพิ่มขึ้น คนงานชาวสเปนหลายพันคนเดินขบวนในกรุงมาดริดเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน เพื่อเรียกร้องการเพิ่มค่าจ้างในท่ามกลางค่าครองชีพที่สูงขึ้นและอัตราเงินเฟ้อที่สูง สหภาพแรงงานหลักของสเปนบางแห่ง เช่น General Union of Workers (UTG) และ Workers’ Commissions (CCOO) จัดประท้วงขึ้น ผู้ประท้วงเรียกร้องให้เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำให้สูงกว่า 1,000 ยูโรต่อเดือน ซึ่ง 1,000 ยูโร เป็นค่าแรงขั้นต่ำในปัจจุบัน อัตราเงินเฟ้อของสเปนขึ้นไปสูงสุดที่ร้อยละ 10.8 ในเดือนกรกฎาคม ก่อนที่ภายหลังจะลดลงเหลือร้อยละ 7.3 ในเดือนตุลาคม ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของสหภาพแรงงาน Antonio Garamendi ประธานสมาคมนักธุรกิจแห่งสเปน (CEOE) ให้สัมภาษณ์ว่า “เราไม่ได้ ‘ปฏิเสธ’ การเพิ่มเงินเดือน” แต่เขาเสริมว่า “สิ่งที่เราไม่สามารถสรุปได้ คือการเพิ่มเงินเดือนจะช่วยเรื่องอัตราเงินเฟ้อ” [Associated Press] [Europapress] ด้าน UTG และ CCOO เตือนว่า หากข้อเรียกร้องให้ค่าแรงเพิ่มสูงขึ้นของพวกเขา ไม่ได้รับการตอบรับ การพิพาทก็จะดำเนินต่อไป [El Pais] การประท้วงของข้าราชการในโปรตุเกส บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ครู และข้าราชการโปรตุเกสจำนวนหลายพันคน ออกมาประท้วงเรียกร้องให้เพิ่มเงินเดือนของพวกเขา เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน การหยุดงานประท้วงครั้งนี้เกิดขึ้นหนึ่งสัปดาห์ก่อนการลงมติเห็นชอบครั้งสุดท้ายต่องบประมาณ ปี พ.ศ. 2566 ซึ่งในงบประมาณนี้รวมการขึ้นค่าแรงที่ร้อยละ 2 ถึง 8 ให้แก่ข้าราชการด้วย [Reuters] [Portugal News] ในเดือนตุลาคม รัฐบาลโปรตุเกสได้เห็นชอบกับสมาคมธุรกิจและ UGT สหภาพแรงงานที่ใหญ่เป็นลำดับสองของประเทศ เพิ่มเงินค่าแรงที่ร้อยละ 5.1 ให้แก่ภาคเอกชน [Reuters] อย่างไรก็ดี ความพยายามของคณะรัฐมนตรีสังคมนิยมของ Antonio Costa ไม่ได้ช่วยหยุดคลื่นแห่งความไม่พอใจ เนื่องจากราคาผู้บริโภคพุ่งสูงแตะที่ร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคมปีที่แล้ว [Reuters] ครูฮังการีนัดหยุดงาน หลังจากครูจำนวนหนึ่งถูกไล่ออกเพราะกระทำการอารยะขัดขืน ครู นักเรียน และผู้ปกครองฮังการี ออกมาประท้วงเรื่องค่าแรงของครู เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ซึ่งการประท้วงครั้งนี้ขยายมาจากการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในเดือนกันยายน ที่มีชื่อว่า “ฉันต้องการสอน” (I want to teach) [Reuters] ต่อมา ในวันที่ 30 พฤศจิกายน กระทรวงมหาดไทยประกาศไล่ครูจำนวน 8 คนออก เพราะพวกเขาได้เข้าร่วมอารยะขัดขืนดังกล่าว ทำให้ครูหลายร้อยคนนัดหยุดงานอย่างไม่มีกำหนดในวันถัดมา [Euractiv] ทั้งนี้ พระราชกฤษฎีกาที่รัฐบาลออกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์นั้น จำกัดการหยุดงานประท้วงของครูอย่างเข้มข้น โดยระบุว่าสหภาพครูเป็น “การละเมิดกฎหมาย” [Hungary Today] ในแอลเบเนีย พรรคฝ่ายค้านนำการประท้วงต่อต้านรัฐบาล ผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลออกมาประท้วงด้านหน้าสำนักนายกรัฐมนตรีแอลเบเนียของ Edi Rama นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ที่ตั้งอยู่ในเมืองติรานา เมืองหลวงของประเทศ เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน โดยมีผู้ประท้วงหลายหมื่นคนออกมาเรียกร้องให้ Edi Rama ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรค Socialist พรรคซ้าย-กลาง ลาออก [AlJazeera] อย่างไรก็ดี การประท้วงนี้ ซึ่งถูกเห็นว่าเป็นการสร้างขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2566 เป็นผลมาจากค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น จากการรายงานของธนาคารโลก (World Bank) ระบุว่า ในช่วงที่แย่ที่สุดของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประชากรชาวแอลเบเนีย ประมาณร้อยละ 22 อาศัยอยู่ใต้เส้นความยากจน [WorldBank] ด้านผู้สนับสนุนพรรคฝ่ายค้านกล่าวโทษ Rama ที่ปล่อยให้ชายหนุ่มอพยพออกนอกประเทศจำนวนมหาศาล โดยการอพยพออกจากแอลเบเนียเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 และทำให้เมืองในแอลเบเนียหลายเมืองกลายเป็น “เมืองร้าง” ทั้งนี้ Sali Berisha ผู้นำพรรคฝ่ายค้านขวา-กลาง Democratic ได้จัดการประท้วงนี้ขึ้น และเขาได้ปราศรัยกับกลุ่มผู้ประท้วงว่า “เช่นเดียวกันกับเมื่อ 32 ปีที่แล้ว โลกมองว่าพวกเราเป็นคน [ที่มาถึง] ด้วยเรือลำเล็ก” โดยแอลเบเนียมีการอพยพครั้งใหญ่ในปี พ.ศ. 2533 (ค.ศ. 1990) หลังจากที่การปกครองของระบอบคอมมิวนิสต์ล่มสลาย ขณะเดียวกัน ที่ผ่านมาก็มีผู้อพยพชาวแอลเบเนียจำนวนมากข้ามช่องแคบอังกฤษไปยังสหราชอาณาจักร [ABC] [AP] (jn-km-msa/pk, transl. by vv, aa)
ราคาพลังงานในยุโรปทรงตัวระดับสูงก่อนฤดูหนาวที่ไม่แน่นอน เนื่องจากราคาไฟฟ้าจริงผันผวนทั่วยุโรปในเดือนพฤศจิกายน รัฐบาลจึงพยายามรักษาเสถียรภาพราคาผ่านการแทรกแซงตลาด โดยอุดหนุนทั้งภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม ฤดูหนาวที่ไม่แน่นอนในยุโรปอยู่ใกล้แค่เอื้อม ซึ่งความไม่แน่นอนส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการไม่ได้รับก๊าซจากรัสเซีย อย่างไรก็ดี ราคาไฟฟ้าที่ส่วนใหญ่ขับเคลื่อนด้วยก๊าซธรรมชาติ กลับดูทรงตัวในปัจจุบัน แม้ว่าจะอยู่ในระดับที่ไม่ยั่งยืนหากขาดการสนับสนุนจากรัฐบาล และสูงกว่าราคาปีที่แล้วที่กว่าร้อยละ 100 [CNN] ด้านการพยากรณ์อากาศในระยะยาวนั้น เป็นการพยากรณ์ในกรณีที่มีฤดูหนาวที่ไม่รุนแรง และประเทศต่าง ๆ ในยุโรป ก็ยังไม่ได้ร่วมกันเตรียมพร้อมแบ่งไฟฟ้าไว้ใช้ในสัดส่วนที่จำกัดเท่า ๆ กัน ล่วงหน้า หรือเตรียมพร้อมสำหรับไฟฟ้าดับทั่วไปในกรณีที่อากาศหนาวจัด [Bloomberg] แม้ว่าปริมาณก๊าซสำรองมีมากกว่าร้อยละ 95 ทั่วยุโรป แต่รัฐบาลเยอรมันก็ได้เริ่มเตรียมการออกเงินสำรองฉุกเฉินให้กับธนาคาร และจำกัดการถอนเงินสดส่วนบุคคล ในกรณีที่อาจเกิดไฟฟ้าดับ ซึ่งการทำธุรกรรมค้าปลีก ที่ประกอบด้วยการซื้อของกินของใช้ในชีวิตประจำวัน จำเป็นต้องจ่ายด้วยเงินสด [Reuters] [Reuters] นอกจากนี้ แม้ว่าราคาพลังงานในยุโรปจะดูมีเสถียรภาพในตอนนี้ แต่สงครามในยูเครนได้เปลี่ยนตลาดพลังงานของยุโรปไปถาวร ประเทศต่าง ๆ ในยุโรป จะต้องแข่งขันกับทั่วโลกเพื่อนำเข้าก๊าซธรรมชาติในอนาคต ซึ่งราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญก็มีแนวโน้มว่าจะดำเนินต่อไปในระยะยาว [WSJ] การอุดหนุนที่เกิดขึ้นในยุโรป หลังจากที่เปลี่ยนรัฐบาล สหราชอาณาจักรได้ลดการประกันการอุดหนุนที่มอบให้แก่ภาคครัวเรือนลง ที่ร้อยละ 20 เพื่อลดแรงกดดันด้านงบประมาณ [Reuters] ด้านฝรั่งเศสมุ่งมั่นที่จะใช้จ่ายเงินจำนวน 8.4 พันล้านยูโรเพิ่ม เพื่อมอบเป็นค่าใช้จ่ายด้านพลังงานแก่ภาคธุรกิจ [Reuters] ขณะที่อิตาลีจะใช้จ่ายเงินจำนวน 30 พันล้านยูโร เพื่ออุดหนุนทั้งภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเงินจำนวนนี้เป็นเงินส่วนที่เพิ่มเติมจากเงินจำนวน 75 พันล้านยูโรโดยประมาณ ที่ถูกใช้จ่ายไปเป็นค่าใช้จ่ายด้านพลังงานในปี พ.ศ. 2565 [Reuters] สำหรับเยอรมนี ได้ให้การรับรองบริษัท Securing Energy for Europe GmbH (SEFE) เป็นหน่วยงานของรัฐ ซึ่ง SEFE เป็นบริษัทที่ซื้อขายและจัดหาก๊าซจากบริษัท Gazprom ของรัสเซียช่วงก่อนหน้านี้ โดยเยอรมนีได้มอบเงินเพิ่มจำนวน 14 พันล้านยูโร เพื่อรับรองความรับผิดชอบทางการเงินและหนี้สิน (solvency) อย่างต่อเนื่อง และความสามารถในการจัดหาก๊าซให้ลูกค้าต่อไปของบริษัทฯ [Bloomberg] ทั้งนี้ บริษัท SEFE ได้ดำเนินการภายใต้การดูแล (trusteeship) ของรัฐบาลมาตั้งแต่เดือนเมษายน และบริษัทนี้ คือบริษัทที่สองที่เยอรมนีให้การรับรองให้เป็นหน่วยงานของรัฐ ในระยะเวลา 2 เดือน ราคาก๊าซและน้ำมันดิบผันผวน เมื่อเข้าใกล้ฤดูหนาว ราคาซื้อขายก๊าซธรรมชาติล่วงหน้า (future prices) ตาม Dutch Title Transfer Facility (TTF) ซึ่งเป็นมาตรฐานราคายุโรปในการประเมินและเปรียบเทียบราคาก๊าซ ลดลงอย่างรวดเร็วจากประมาณ 334 ยูโรต่อเมกะวัตต์-ชั่วโมง ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม หล่นลงมาที่ 99 ยูโร ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน [Trading Economics] ความกังวลเกี่ยวกับการหยุดจ่ายก๊าซของรัสเซียได้ขับเคลื่อนความผันผวนนี้ ซึ่งทำให้ราคาซื้อขายเพิ่มสูงขึ้น และการประกาศว่ายุโรปสำรองก๊าซไว้ได้เกินเป้าหมาย ช่วยทำให้ราคาซื้อขายลดลง [WSJ] ด้าน Copernicus Climate Change Service ของสหภาพยุโรป ได้พยากรณ์ว่ายุโรปในฤดูหนาวนี้จะมีอากาศที่อบอุ่นอย่างผิดฤดูกาล ขณะที่ปริมาณการใช้ก๊าซที่ลดลงร้อยละ 15-20 ทำให้แรงกดดันด้านราคาลดลงด้วย ซึ่งการใช้ก๊าซที่ลดลง ถูกทำให้ประสบความสำเร็จอย่างมากผ่านการบังคับใช้ข้อตกลงทางการเมืองของสหภาพยุโรปในระดับชาติ [WSJ] อย่างไรก็ดี เรือบรรทุกก๊าซธรรมชาติที่ไม่มีถังเก็บน้ำมัน กำลังลอยอยู่นอกชายฝั่งเมืองกาดิซ สเปน และบริเวณช่องแคบอังกฤษ โดยคาดว่าราคาซื้อขายจะอยู่ระหว่าง 120 ถึง 180 ยูโรต่อเมกะวัตต์-ชั่วโมง ตาม Dutch TTF ในปีหน้า และการสำรองก๊าซธรรมชาติของยุโรปในปีนี้ บางส่วนถูกเติมเต็มด้วยการจัดหาก๊าซมาให้ของรัสเซีย ซึ่งก๊าซที่สำรองไว้จะหมดลงช่วงฤดูร้อนในที่สุด และคาดว่าจะไม่มีการส่งออกก๊าซมาจากรัสเซียอีกในปีถัดไป นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังลดลงเหลือ 10 ยูโรต่อบาร์เรลในช่วงเดือนพฤศจิกายน หลังจากมีข่าวว่าเศรษฐกิจในจีนเติบโตช้าลง รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกที่กำลังจะเกิดขึ้น [WSJ] กำหนดเพดานราคาน้ำมันและก๊าซ วันที่ 5 ธันวาคม เป็นจุดเริ่มต้นของการกำหนดเพดานราคาน้ำมันดิบจากรัสเซีย ทั้งของกลุ่ม 7 (G7) ที่ประกอบด้วย เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดาและญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป รวมทั้งสหภาพยุโรปได้ห้ามนำเข้าน้ำมันดิบของรัสเซียผ่านทางทะเล [WSJ] ทั้งนี้ น้ำมันดิบรัสเซียที่ขายเกินเพดานราคาที่ 60 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 57 ยูโร ต่อบาร์เรล จะไม่สามารถรับกรมธรรม์ประกันภัย เงินทุนหรือการขนส่งจากบริษัทที่มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศคู่สัญญาได้ ซึ่งมีนัยสำคัญคือบังคับรัสเซียให้ขนส่งน้ำมันบนเรือของตนเองเท่านั้น ด้านรัสเซีย ได้เพิ่มกองเรือพาณิชย์ เพื่อให้สามารถขนส่งน้ำมันจำนวนมากของตนได้ในช่วงปีที่ผ่านมา [Reuters] อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำมันดิบที่สามารถขนส่งได้โดยเรือเหล่านี้ มีน้อยกว่าปริมาณการค้าทางทะเลของรัสเซียทั้งหมดในปัจจุบัน ซึ่งปริมาณน้ำมันดิบดังกล่าวมีประมาณ 3.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน และยังมีผลิตภัณฑ์จากการกลั่นน้ำมันที่นับได้ เช่น น้ำมันดีเซล จำนวนเกือบ 5 ล้านชิ้น [BI] [FW] มีการประมาณการแตกต่างกันออกไป แต่การส่งออกทางทะเลของรัสเซีย อาจลดลงเหลือเพียง 200,000 ถึงกว่า 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากขาดความสามารถในการขนส่ง ซึ่งหมายความว่ารัสเซียจะประสบกับรายได้ที่ลดลง แต่น้ำมันส่วนใหญ่ของรัสเซียก็จะยังถูกส่งออกไปยังตลาดเอเชีย เพดานราคาน้ำมันดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบทันทีต่อรัสเซีย เพราะมาตรฐานราคาส่งออกน้ำมันของรัสเซีย หรือ Urals grade crude นั้น ต่ำกว่าเพดานราคาน้ำมันของตลาดยุโรปอยู่แล้ว [Bloomberg] ทั้งนี้ ยังไม่ปรากฏว่ามีสัญญาณการเพิ่มสูงขึ้นของราคาน้ำมันระหว่างประเทศ แต่ในเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อการห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่กลั่นน้ำมันแล้วจากรัสเซียของสหภาพยุโรป มีผลบังคับใช้ ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานยุโรปมากขึ้น [Gulf News] [Bloomberg] น้ำมันดิบจากท่อส่งน้ำมัน East Siberia Pacific Ocean (ESPO) ของรัสเซีย ที่ส่งออกผ่านคาบสมุทร Kamchatka มีราคาซื้อขาย ในวันที่ 5 ธันวาคม ที่ 79 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 75.3 ยูโรต่อบาร์เรลในตลาดเอเชีย ซึ่งมีราคาเหนือเพดานราคาน้ำมันของกลุ่ม 7 (G7) อย่างมีนัยสำคัญ โดยรัสเซียยืนยันว่าจะไม่ปฏิบัติตาม [Reuters] เยอรมนีสร้างสถานี LNG ลอยน้ำแห่งแรกเสร็จสิ้นแล้ว เยอรมนีวางแผนที่จะสร้างสถานีซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสถานีเก็บรักษาและแปรสภาพก๊าซธรรมชาติจากของเหลวเป็นก๊าซแบบลอยน้ำ (floating storage regasification unit : FSRU) 6 แห่ง และเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน เยอรมนีได้สร้างสถานีแห่งแรกเสร็จสิ้นแล้ว ที่ท่าเรือ North Sea เมือง Wilhelmshaven [Reuters] สถานีนี้คาดว่าจะได้รับคลังก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ครั้งแรก พร้อมกันกับสถานีที่สอง ที่เมือง Brunsbuettel ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2566 เพื่อชดเชยก๊าซจากรัสเซียที่สูญเสียไปในช่วงปีนี้ สำหรับสถานีอีก 4 แห่ง ที่เมือง Stade เมือง Lubmin และเมือง Wilhelmshaven ที่คาดว่าจะเปิดดำเนินการในปี พ.ศ. 2566 น่าจะช่วยทำให้เยอรมนีสามารถรับก๊าซธรรมชาติได้หนึ่งในสามของความต้องการของตนจากท่าเรือ LNG หรือประมาณครึ่งหนึ่งของก๊าซที่ได้รับจากรัสเซียก่อนที่จะมีการกำหนดมาตรการคว่ำบาตร และการหยุดจัดส่งก๊าซของรัสเซีย หลังจากที่รัฐบาลรัสเซียเข้ารุกรานยูเครน ทั้งนี้ ลิทัวเนีย โปแลนด์ เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร โปรตุเกส สเปน อิตาลี โครเอเชียและกรีซ มีสถานี LNG ที่ดำเนินการอยู่แล้ว [GIE] นอกจากนี้ มีการวางแผนที่จะสร้างสถานี LNG เพิ่มเติม หรือกำลังสร้างอยู่ในเอสโตเนีย ลัตเวีย โปแลนด์ เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม ฝรั่งเศส ไอร์แลนด์ อิตาลี กรีซ และแอลเบเนีย ประเทศต่าง ๆ ในยุโรปต้องการออกจากการเป็นสมาชิกสนธิสัญญากฎบัตรพลังงาน เยอรมนีประกาศวางแผนที่จะถอนตัวจากการเป็นสมาชิกสนธิสัญญากฎบัตรพลังงาน (Energy Charter Treaty) ปี ค.ศ. 1994 หลังจากฝรั่งเศส โปแลนด์ สเปน เนเธอร์แลนด์และสโลวีเนีย ตัดสินใจแบบเดียวกันในเดือนตุลาคม [Politico] ซึ่งทำให้เกิดการปะทะกันระหว่างรัฐบาลของประเทศต่าง ๆ ในยุโรป และสหภาพยุโรป รัฐบาลเหล่านี้กำลังพยายามยุติความสามารถของบริษัทต่าง ๆ ในการฟ้องร้องรัฐบาลที่ทำการยกเลิกสัญญาฝ่ายเดียว เพราะรัฐบาลฯ พยายามที่จะเปลี่ยนจากการใช้ถ่านหิน และในบางกรณีจากการใช้พลังงานนิวเคลียร์ไปใช้อย่างอื่น โดยต้องการยกเลิกสนธิสัญญากฎบัตรพลังงานโดยสิ้นเชิง ด้านสหภาพยุโรปสนับสนุนแผนการปฏิรูปมากกว่า สหภาพยุโรปพิจารณาอุดหนุนพลังงานเพื่อแข่งขันกับสหรัฐอเมริกา Robert Habeck รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ ออกมาประณามสหรัฐอเมริกาที่ดึงการลงทุนด้านพลังงานสะอาดของยุโรปไปยังสหรัฐฯ พร้อมให้การอุดหนุนที่สูงกว่าสำหรับบริษัทแต่ละแห่งที่หันไปลงทุนในอเมริกา รวมทั้งยังมอบเงินทุนเร็วกว่าที่แผนการ RePower EU จะมอบให้นักลงทุนได้ [FT] [Reuters] ด้านคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) ขู่ว่าจะดำเนินมาตรการตอบโต้ทางการค้ากับสหรัฐฯ ในจดหมายถึงรัฐบาลสหรัฐฯ ในช่วงกว่าสองเดือน หลังจากที่ Inflation Reduction Act (IRA) ปี ค.ศ. 2022 ของสหรัฐฯ ผ่านในเดือนสิงหาคม โดยระบุว่าผลกระทบโดยรวมอย่างเป็นรูปธรรมของพระราชบัญญัติ Build Back Better และ Infrastructure Investment and Jobs Act ในปี ค.ศ. 2021 – 2022 ของสหรัฐอเมริกา ได้สร้างสภาพแวดล้อมที่ดึงดูดให้บริษัทยุโรปเข้าไปลงทุนในสหรัฐฯ แทนที่จะลงทุนในประเทศต่าง ๆ ในสหภาพยุโรป ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎเกณฑ์ขององค์การการค้าโลก (World Trade Organization : WTO) [FT] บริษัท Enel ผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์ของอิตาลี บริษัทด้านพลังงาน Iberdrola ของสเปน และบริษัท Safra ผู้ผลิตชิ้นส่วนอากาศยานของฝรั่งเศส ได้ลดแผนการลงทุนของยุโรปลง ขณะเดียวกันก็เดินหน้ากับแผนการลงทุนของสหรัฐฯ [WSJ] [FT] ทั้งนี้ ราคาพลังงานในยุโรปเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก นับตั้งแต่เกิดสงครามในยูเครน โดยปัจจุบันราคาพลังงานในยุโรปสูงกว่าราคาพลังงานในสหรัฐฯ ที่ประมาณ 5 เท่า ซึ่งส่งผลกระทบอย่างสำคัญต่อความสามารถในการแข่งขันของยุโรป ด้านนายกรัฐมนตรีเยอรมัน Olaf Scholz และข้าหลวงใหญ่ด้านตลาดภายในของสหภาพยุโรป (EU Internal Market Commissioner) Thierry Breton ได้แสดงท่าทีเห็นชอบกับการนำ European Solidarity Fund มาอุดหนุนการลงทุนของบริษัทยุโรปในสหภาพยุโรป [EC] [Politico] โดยกองทุนดังกล่าวจะทำให้สหภาพยุโรปสามารถแข่งขันกับ IRA ของอเมริกาได้ แทนที่จะเข้าไปเกี่ยวพันในความขัดแย้งทางกฎหมายที่ WTO ในช่วงเวลาที่การกำหนดนโยบายของสหภาพยุโรปสนับสนุนความร่วมมือทางการเมืองกับสหรัฐฯ ในการต่อต้านรัสเซียและจีน นอกจากนี้ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส Emmanuel Macron พบกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ Joe Biden ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ในการแถลงข่าวร่วมกัน Biden ได้กล่าวว่าสหรัฐฯ จะหารือเกี่ยวกับการปรับเงินอุดหนุน และสิทธิประโยชน์ทางการค้า เพื่อรับมือกับข้อกังวลของยุโรป [WSJ] (rw/pk, transl. by aa) กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปตะวันตก ![]() เบลเยียม : รัฐบาลอนุมัติข้อเสนอสำหรับประมวลกฎหมายอาญาใหม่ เบลเยียมอนุมัติข้อเสนอสำหรับประมวลกฎหมายอาญาใหม่ ซึ่งจะยกเลิกโทษจำคุกสำหรับการกระทำความผิดเล็กน้อย และแทนที่โทษจำคุกนั้นด้วยการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วนรวม (community service) ทั้งนี้ เป็นเพราะรัฐบาลเบลเยียมกำลังดำเนินการเพื่อทำให้ระบบศาลปัจจุบันมีความทันสมัยและลดความซับซ้อน สำหรับกรณีที่เป็นอาชญากรรมร้ายแรง ผู้พิพากษาจะต้องให้เหตุผลว่า เพราะเหตุใดโทษจำคุกจึงเหมาะสมกว่าการลงโทษรูปแบบอื่นที่มีอยู่ ประมวลกฎหมายใหม่นี้จะนำการลงโทษที่รุนแรงยิ่งขึ้นมาใช้ในกรณีที่มีการทำร้ายบุคลากรทางการแพทย์ และความรุนแรงภายในครอบครัว โดยกำหนดประเภทของอาชญากรรมขึ้นมาใหม่สำหรับการฆาตกรรมภายในครอบครัว [BrusselsTimes] เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน Vincent Van Quickenborne รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมของเบลเยียม ประกาศถึงแผนการของรัฐบาลที่จะเปลี่ยนประมวลกฎหมายอาญา ร่างประมวลฯ ฉบับใหม่ ซึ่งมีความยาวมากกว่า 1,000 หน้า นี้ จะถูกส่งไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกา (Council of State) และส่งต่อไปยังรัฐสภาในปีถัดไป เพื่อขอการอนุมัติ [Euractiv] [LeSoir] [BrusselsTimes] สำหรับการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ในประมวลกฎหมายอาญานั้น รวมไปถึงการดำเนินคดีต่อการยุยงให้ผู้อื่นฆ่าตัวตาย และการกำหนดโทษที่รุนแรงมากขึ้นสำหรับการให้ความช่วยเหลือการก่อการร้าย เช่นเดียวกันกับที่จะมีการลงโทษเข้มงวดขึ้นสำหรับการปลุกปั่น การรับสมัครคน และการฝึกฝนเพื่อการก่อการร้าย [BrusselsTimes] นอกจากนี้ การทำลายสิ่งแวดล้อม (ecocide) ซึ่งหมายถึงการก่อให้เกิดความเสียหายที่ร้ายแรงและยาวนานต่อสิ่งแวดล้อมในวงกว้าง ก็ถูกรวมไปในการแก้ประมวลกฎหมายฯ ครั้งนี้แล้ว หลังจากการล็อบบี้ของ Zakia Khattabi รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม ซึ่งต้องการสร้างแนวร่วมประเทศที่ก้าวหน้า เพื่อรวมคำนิยามนี้ไว้ในธรรมนูญกรุงโรม (Rome Statute) ว่าเป็นอาชญากรรมต่อสันติภาพและความมั่นคง [NewsBelgium] (gt/gc, transl. by aa)
เยอรมนี : รัฐบาลเยอรมันขัดขวางการลงทุนเซมิคอนดักเตอร์ของจีน รัฐบาลเยอรมันขัดขวางการลงทุนที่อาจเป็นไปได้ของจีนในโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ 2 แห่ง เมื่อเดือนที่แล้ว เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับความมั่งคงแห่งชาติว่ารัฐบาลจีนอาจเข้าถึงเทคโนโลยีที่ละเอียดอ่อนได้ (sensitive technology) [Politico Europe] [Reuters] [Tagesschau] ทั้งนี้ รัฐบาลเยอรมันขัดขวางการเข้าซื้อบริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ Elmos จากบริษัทสัญชาติสวีเดน Silex ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัทจีน Sai Micro Electronics และจากรายงานหลายแห่ง ได้ระบุว่ารัฐบาลเยอรมันได้ขัดขวางการเข้าซื้อบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ ERS Electronic อีกบริษัทหนึ่งด้วย [CNN] [Reuters] Robert Habeck รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ กล่าวในแถลงการณ์ว่ารัฐบาลต้อง “จับตาดู [การเข้าครอบงำบริษัท] อย่างใกล้ชิด เมื่อมันเกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ หรือเมื่อมีอันตรายที่เทคโนโลยีอาจไหลไปสู่ผู้เข้าซื้อกิจการจากประเทศที่ไม่ใช่ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป” [Reuters] [Tagesschau] Habeck เสริมว่าเป็นเรื่อง “สำคัญของเราที่จะปกป้องอำนาจอธิปไตยทางเทคโนโลยีและทางเศรษฐกิจของเยอรมนีและยุโรป” ภายใต้ข้อตกลงด้านการลงทุน โรงงานเซมิคอนดักเตอร์ของ Elmos ที่ตั้งอยู่ในเมือง Dortmund อาจยกเลิกการผลิตของตนเอง และจ้างผู้ผลิตแทน [Politico Europe] [AP] [Zeit] การขายดังกล่าวกลายเป็นที่ถกเถียง ทั้งในหมู่ประเทศหุ้นส่วนตะวันตกและภายในพรรคร่วมรัฐบาลของเยอรมนีเอง ฝ่ายค้านเกรงว่าข้อตกลงนี้ จะทำให้เยอรมนีต้องพึ่งพาจีนมากยิ่งขึ้น [see AiR No. 44, November/2022, 1] ซึ่งจีนตอนนี้ก็เป็นคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนีอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ และเบลเยียม ซึ่งคัดค้านการขายดังกล่าว ก็ได้ลงนามในข้อตกลงแบบเดียวกันกับบริษัท Cosco หรือบริษัทจีนอื่น ๆ แล้ว ซึ่งเป็นข้อตกลงที่ใหญ่กว่าข้อตกลงท่าเรือ Hamburg มาก [Politico] [AiR, No.46, November/2022, 3] ด้าน Zhao Lijian โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ให้สัมภาษณ์ว่าประเทศต่าง ๆ “ควรจะจัดให้มีสภาพแวดล้อมของตลาดที่ยุติธรรม เปิดกว้าง และไม่เลือกปฏิบัติสำหรับการดำเนินงานตามปกติของกิจการจีน และควรละเว้นจากการทำให้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าตามปกติเป็นเรื่องการเมือง ซึ่งยังไม่ต้องพูดถึงการกีดกันทางการค้า (protectionism) ที่นำการคำนึงถึงความมั่นคงแห่งชาติมาอ้าง” [Reuters] [AP] การค้าที่หลากหลาย หลังจากการเยือนจีนของนายกรัฐมนตรี Olaf Scholz ในเดือนพฤศจิกายน กระทรวงการต่างประเทศเยอรมนีได้ออกมาประกาศว่า รัฐบาลเยอรมันกำลังร่าง “ยุทธศาสตร์จีน” (China strategy) ใหม่ ซึ่งจะมีการตัดสินใจเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ดังกล่าวในช่วงต้นปี พ.ศ. 2566 ร่างฯ อาจเข้มงวดกับกฎระเบียบที่บริษัทที่ทำการค้ากับจีนต้องปฏิบัติมากขึ้น และร่างดังกล่าว อาจวางบทบาทด้านสิทธิมนุษยชนมากขึ้นด้วย [Reuters] [FAZ] [Tagesschau] ทั้งนี้ ในวันที่ 22 พฤศจิกายน Scholz กล่าวว่า เยอรมนีไม่ควรจะพึ่งพาด้านการค้ากับประเทศหนึ่งมากเกินไป “ความผิดพลาดจากการพึ่งพารัสเซียจะไม่เกิดขึ้นอีก” [DW] [Reuters] ต่อมาในวันที่ 25 พฤศจิกายน Scholz กล่าวอีกว่า เขารู้สึก “ประหลาดใจ” ที่บริษัทเยอรมันบางแห่งพึ่งพาการค้ากับจีนมากเพียงใด และบริษัทเหล่านั้น “ไม่สนใจความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นเลย” ทั้งนี้ อุตสาหกรรมเยอรมันต้องการการสนับสนุนทางการเมืองและแรงจูงใจที่มากขึ้น เพื่อทำให้ทางเลือกทางการค้าของตนหลากหลายยิ่งขึ้น [Reuters] อย่างไรก็ดี Habeck กล่าวว่าการยุติการค้ากับจีน “เป็นไปไม่ได้เลยสำหรับเศรษฐกิจเยอรมัน” โดยเขาเสริมว่าการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ “ต้องได้รับการตรวจสอบอย่างใกล้ชิด” ด้านกระทรวงการต่างประเทศของจีนออกมาตอบโต้ร่างยุทธศาสตร์ใหม่ของเยอรมนี นี้ โดยกล่าวว่าร่างฯ ต้องเป็นไป “ตามข้อเท็จจริง” (objective) และ “ตามเหตุผล” (rational) และไม่ “ทำให้ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจเป็นเรื่องการเมือง” [FAZ][Reuters] (mb-aml/gc, transl. by aa)
เยอรมนี : รัฐสภาอนุมัติการปฏิรูปการตรวจคนเข้าเมือง วันที่ 30 พฤศจิกายน รัฐสภาเยอรมันอนุมัติการปฏิรูปการตรวจคนเข้าเมือง (immigration reform) ซึ่งจะทำให้แรงงานจากประเทศนอกสหภาพยุโรปสามารถเข้ามาหางานได้ง่ายขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปกำลังประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานฝีมือ และเศรษฐกิจชะลอตัว [Reuters] [Politico Europe] [DW] [Tagesschau] นโยบายตรวจคนเข้าเมืองใหม่นี้ จะอนุญาตให้มีสิ่งที่เรียกว่า “บัตรแห่งโอกาส” (opportunity card) ซึ่งใช้ระบบคะแนนที่วัดจากเกณฑ์ต่าง ๆ เช่น ทักษะทางภาษา ประสบการณ์ทำงานและการศึกษา สายสัมพันธ์ในเยอรมนีและอายุ โดยมาพร้อมกับบัตรพำนักอาศัย 1 ปี ซึ่งจะอนุญาตให้คนจากประเทศที่ไม่ใช่ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปเดินทางมายังเยอรมนีได้ โดยไม่ต้องมีสัญญาจ้างงานอยู่ก่อน และสามารถหางานทำได้ระหว่างนี้ [Reuters] [Tagesschau] [DW] Rainer Dulger ประธาน Confederation of German Employers’ Associations กล่าวว่าเยอรมนีต้องการ “คนที่จะมาช่วยรักษาความรุ่งเรืองในประเทศนี้” [Reuters] ด้าน Bettina Stark-Watzinger รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า นอกจากแรงงานในประเทศ เยอรมนีต้องการแรงงานต่างชาติประมาณ 400,000 คน โดยอ้างถึงข้อมูลจาก German Federal Employment Agency ในปี พ.ศ. 2564 ทั้งนี้ การขาดแคลนแรงงานฝีมือเกิดขึ้นอย่างแพร่หลายในภาคส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาคบริการ สุขภาพ และเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) [Politico Europe] [DW][Politico Europe] [DW] รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน Hubertus Heil เรียกการปฏิรูปการตรวจคนเข้าเมืองว่าเป็น "ขั้นตอนสําคัญและสําคัญ" FDP พันธมิตรแนวร่วมเสรีนิยมวิพากษ์วิจารณ์แผนดังกล่าว โดยกล่าวว่าอาจเพิ่มการโยกย้ายที่ผิดกฎหมาย [Tagesschau] [Politico Europe] [Reuters] รัฐสภายังคงต้องกําหนดร่างกฎหมายที่คณะรัฐมนตรีจะลงมติในช่วงต้นปี 2566 [Politico Europe] [DW] [Tagesschau] (mb/gc, transl. by aa, nl)
เยอรมนี: รัฐบาลมีความแตกแยกเรื่องการกำหนดบทลงโทษสําหรับนักเคลื่อนไหว รัฐบาลเยอรมันมีความแตกแยกว่าจะลงโทษนักเคลื่อนไหวด้านสภาพอากาศอย่างไรเนื่องจากขบวนการ "Last Generation" เพิ่มการประท้วงทั่วประเทศ พรรคฝ่ายค้านอนุรักษ์นิยมที่ใหญ่ที่สุด Christian Democratic Union (CDU) ต้องการการลงโทษที่เข้มงวดยิ่งขึ้นสําหรับนักเคลื่อนไหวที่ฝ่าฝืนกฎหมายและขัดขวางความสงบเรียบร้อยของประชาชน การประท้วงบางรูปแบบ เช่น การปิดถนน ควรถูกลงโทษด้วยการจําคุกอย่างน้อยสามเดือนและไม่เกินห้าปี [EURACTIV] [Spiegel] พรรคร่วมรัฐบาล Social Democrats (SPD), Greens และ Liberals (FDP) ได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องสําหรับบทลงโทษที่รุนแรงขึ้น เครื่องมือทางกฎหมายที่มีอยู่นั้นเพียงพอแล้ว "เมื่อมีการการข้ามเส้นของการประท้วงอย่างสงบ" Bijan Djir-Sarai จาก FDP and Sonja Eichwede จาก SPD ทั้งสอง "กังวลเกี่ยวกับความรุนแรงเพิ่มเติม" ของขบวนการ "รุ่นสุดท้าย" หากมีการลงโทษที่รุนแรงขึ้น [Tagesschau] [EURACTIV] รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเยอรมนี Marco Buschmann กล่าวเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนว่าเขาจะตรวจสอบว่าบทลงโทษที่รุนแรงขึ้น "จําเป็น" หรือไม่ กระทรวงฯ จะสังเกตสิ่งที่ตุลาการทําและจะดำเนินการ "หากกรอบตุลาการที่มีอยู่ไม่เพียงพอ" [Tagesschau] [Zeit] การเคลื่อนไหวด้านสภาพอากาศได้รับความสนใจในเดือนตุลาคมเนื่องจากการประท้วงของพวกเขาซึ่งรวมถึงการขว้างปาอาหารใส่งานศิลปะติดกาวตัวเอ งเพื่อจัดแสดงนิทรรศการในพิพิธภัณฑ์และปิดถนน นักปั่นจักรยานเสียชีวิตหลังจากรถพยาบาลไม่สามารถไปถึงจุดเกิดเหตุได้เร็วพอเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม โดยถูกกล่าวหาว่าเกิดจากการจราจรที่เกิดจากการปิดล้อมถนนของนักเคลื่อนไหวดังกล่าว [AP] [EURACTIV] โฆษกนายกรัฐมนตรีเยอรมนี Wolfgang Buechner กล่าวว่า "ชีวิตของผู้คนต้องไม่ตกอยู่ในอันตราย" และการประท้วงควรมีความ "สร้างสรรค์" การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็น "ข้อกังวลหลัก" ของรัฐบาลเยอรมันอยู่แล้ว [AP] นักเคลื่อนไหว Carla Rochel กล่าวว่าเป้าหมายของกลุ่มไม่ใช่ "การให้เป็นทที่ชอบ" แต่เป็น "เพื่อให้สังคมตระหนัก" เกี่ยวกับ "ภัยพิบัติสภาพภูมิอากาศ" [Tagesschau] เยอรมนีอาจไม่สามารถบรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึงร้อยละ 65 เมื่อเทียบกับระดับปี 1990 ภายในปี 2030 ตามรายงานของที่ปรึกษาของรัฐบาล [AP] (mb/gc, transl. by nl)
เยอรมนี: รัฐสภาบรรลุข้อตกลงในการปฏิรูปสวัสดิการ รัฐสภาเยอรมันได้บรรลุข้อตกลงประนีประนอมเพื่อให้การปฏิรูปสวัสดิการมีผลบังคับใช้ในเดือนมกราคมในวันที่ 22 พฤศจิกายน หลังจากฝ่ายค้านอนุรักษ์นิยมปิดกั้นแผนเดิม [Reuters] [DW] [AP] พรรคร่วมรัฐบาล Social Democrats (SPD), Greens และ Liberals (FDP) อนุมัติแผนเดิมเพื่อยกเครื่องระบบผลประโยชน์การว่างงานแห่งชาติในสภาล่างของรัฐสภาเยอรมัน พรรคฝ่ายค้านที่ใหญ่ที่สุด Christian Democratic Union (CDU) และ Christian Social Union (CSU) พรรคเล็ก ที่ไม่รับการปฏิรูปในสภาสูง [DW] [AP] แผนการยกเครื่องสิทธิประโยชน์การว่างงานในปัจจุบันจะมีผลในเดือนมกราคม 2023 ภายใต้ชื่อ "เงินของประชาชน" จะแนะนําการเพิ่มสิทธิประโยชน์การว่างงาน มาตรการที่เข้มงวดน้อยลง เช่น การลดผลประโยชน์สําหรับผู้ที่ปฏิเสธข้อเสนองานและแรงกดดันที่น้อยลงในการหางานในช่วงหกเดือนแรกของการว่างงาน. [DW] [Reuters] สมาชิกของกลุ่มอนุรักษ์นิยมต้องการเปลี่ยนร่างกฎหมายเดิมเนื่องจากพวกเขาสนับสนุนการเพิ่มผลประโยชน์การว่างงาน แต่ไม่เห็นด้วยกับประเด็นอื่น ๆ ของแผน เพราะมองว่าแผมีความใจกว้างเกินไปเมื่อเทียบกับสิ่งที่คนงานที่มีรายได้น้อยได้รับพวกเขากล่าวว่า [AP] [Reuters] Markus Soder, หัวหน้าของ CSU, กล่าวบน Twitter การที่แผนดังกล่าวส่ง "สัญญาณที่ผิดอย่างสิ้นเชิง" คือ "ความไม่ยุติธรรมทางสังคม" และ "ทําให้ผู้ที่ทํางานหนักเสียเปรียบ” [DW] CDU รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน Nicole Hoffmeister-Kraut ในสหพันธรัฐ Baden-Wuerttemberg กล่าวว่ารัฐสวัสดิการเยอรมัน "สามารถทํางานได้ก็ต่อเมื่อมีหน้าที่และสิทธิ" [Reuters] ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเยอรมัน Hubertus Heil, การปฏิรูปนี้มีขึ้นเพื่อปกป้องผู้คนที่ต้องการอัตถิภาวนิยมและให้โอกาสสําหรับการได้รับคุณสมบัติและการฝึกอบรมที่ดีขึ้นสําหรับการหางา น [Reuters] ข้อตกลงประนีประนอมไม่รวมถึง "ระยะเวลาแห่งความไว้วางใจ" ในระยเวลาหกเดือนเดิมซึ่งผู้รับผลประโยชน์ไม่สามารถถูกลงโทษเนื่องจาก "ขาดความร่วมมือ" กรอบเวลาเดิมของสองปีที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่อยู่อาศัยทั้งหมดโดยไม่ต้องตรวจสอบถูกลดลงเหลือหนึ่งปี[Reuters] [DW] (mb/gc, transl. by nl)
เนเธอร์แลนด์: กระทรวงยุติธรรมต้องการจูงใจพยานให้เป็นพยาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและความมั่นคงของเนเธอร์แลนด์ Dilan Yesilgoz ได้เสนอให้อาชญากรเป็นพยานต่อผู้นําอาชญากรรมในศาลได้ง่ายขึ้นภายใต้โครงการพยานสําคัญที่จะยกเลิกโทษจําคุกของพยานโทษดังกล่าวมีระยะเว ลาน้อยกว่าหกปี [NLTimes] พยานคนสําคัญสามารถได้รับการลดโทษได้ถึงร้อยละ 50 เพื่อแลกกับคําให้การ แต่รัฐมนตรี Yesilgoz ต้องการขยายผลประโยชน์เหล่านี้ให้กับ "ปลาตัวเล็ก" ที่อาจแบ่งปันข้อมูลที่เป็นประโยชน์หากพวกเขามีโอกาสได้รับการยกเว้นโทษทั้งหมดหากโทษดังกล่าวมีระยะเวลาน้อยกว่าหกปี [NLTimes] ประธานสมาคมตํารวจเนเธอแลนด์แนะนําให้ตรวจสอบพยานคนสําคัญที่ดีขึ้นในอนาคตเพื่อหลีกเลี่ยงจําเลยที่โกหกเพียงเพื่อให้ได้รับโทษลดลง [NLTimes] (gt/gc, transl. by nl)
สหราชอาณาจักร: Sunak ปฏิเสธรายงานที่กล่าวเรื่องความสอดคล้องกับสหภาพยุโรปในความสัมพันธ์หลังเบร็กซิต นายกรัฐมนตรีอังกฤษ Rishi Sunak กล่าวว่ารัฐบาลสหราชอาณาจักรจะไม่กลับไปทําข้อตกลงเบร็กซิตกับสหภาพยุโรปและสาบานว่าความสัมพันธ์ใด ๆ กับยุโรปจะไม่เกี่ยวข้องกับการแก้กฎหมายของประเทศให้สอดคล้องกับกฎหมายของกลุ่ม “ภายใต้การนําของฉันสหราชอาณาจักรจะไม่ดำเนินความสัมพันธ์ใด ๆ กับยุโรปที่อาศัยความสอดคล้องกับกฎหมายของสหภาพยุโรป” Sunak กล่าวในการประชุมประจําปีของสมาพันธ์อุตสาหกรรมอังกฤษในเบอร์มิงแฮม [Bloomberg] [Agence France Press] เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากหน่วยงานเฝ้าระวังความรับผิดชอบด้านงบประมาณของสํานักงานประเมินว่า Brexit มี "ผลกระทบเชิงลบอย่างมีนัยสําคัญ" ต่อการค้าของสหราชอาณาจักรในความคิดเห็นที่ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ มีการคาดเดากันว่า สส. บางคนในรัฐบาลต้องการก้าวไปสู่ข้อตกลงแบบสวิสโดยมีเสรีภาพในการเคลื่อนไหวมากขึ้นและการกําจัดอุปสรรคทางการค้าบางอย่างกับกลุ่ม [The Sunday Times] [BBC News] (chm/gc, transl. by nl)
สหราชอาณาจักร: รัฐบาลสืบสวนการครอบงําของยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี วอซดอกด้านการแข่งขันทางการค้าของสหราชอาณาจักรได้เปิดตัวการสอบสวนการครอบงําของ บริษัท เทคโนโลยีเช่น Apple and Google [Politico] [Reuters] คำตัดสินของหน่วยงานด้านการแข่งขันและการตลาดของสหราชอาณาจักร (CMA) เกิดขึ้นหลังจากการสํารวจก่อนหน้านี้เปิดเผยขอบเขตของการควบคุมระบบนิเวศมือถือของยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีในสหราชอาณาจักร การปรึกษาหารือที่ดําเนินการโดย CMA เผยให้เห็นการสนับสนุนที่สําคัญสําหรับการสืบสวนที่เต็มรูปแบบเกี่ยวกับวิธีที่ Apple และ Google ครองตลาดเบราว์เซอร์มือถือและการเล่นเกมบนคลาวด์ [Competition and Markets Authority] CMA ตั้งข้อสังเกตว่า "97 เปอร์เซ็นต์ของการท่องเว็บบนมือถือทั้งหมดในสหราชอาณาจักรในปี 2021 เกิดขึ้นบนเบราว์เซอร์ที่ขับเคลื่อนโดยเอ็นจิ้นเบราว์เซอร์ของ Apple หรือ Google ดังนั้น ข้อ จากัด ใด ๆ เกี่ยวกับเอ็นจิ้นเหล่านี้อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อประสบการณ์ของผู้ใช้" การตรวจสอบตลาดจะพิจารณาข้อกังวลเหล่านี้และพิจารณาว่าจําเป็นต้องมีกฎระเบียบใหม่เพื่อปรับปรุงโอกาสในการแข่งขันในภาคส่วนดังกล่าวหรื อไม่ (chm/gc, transl. by nl)
สหราชอาณาจักร: ลอนดอนสูญเสียตําแหน่งในฐานะตลาดหุ้นยุโรปที่ใหญ่ที่สุด ลอนดอนไม่ได้เป็นที่ตั้งของตลาดหุ้นที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปอีกต่อไปเนื่องจากปารีสเมืองหลวงของฝรั่งเศสนำหน้าเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ ่มมีการบันทึกในปี 2003 [Bloomberg] [The Independent] [ITV] บางคนบอกว่านี่เป็นอีกสัญญาณเชิงสัญลักษณ์ของการหดตัวของสหราชอาณาจักรหลังจาก Brexit และคู่แข่งในทวีปที่จะก้าวเข้าสู่ตําแหน่ง ตลาดหุ้นฝรั่งเศสมีมูลค่า 2.823 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ โดยตัดขอบสหราชอาณาจักรอย่างหวุดหวิด ตามข้อมูลที่รวบรวมโดย Bloomberg ในปี 2016 หุ้นอังกฤษมีมูลค่ารวมมากกว่าฝรั่งเศส 1.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ [Bloomberg] [The Independent] [ITV] ตลาดหุ้นของสหราชอาณาจักรได้รับความโปรดปรานมานานแล้วเนื่องจากเศรษฐกิจที่มืดมน แต่ปีนี้เลวร้ายลงเมื่อเผชิญกับวิกฤตพลังงานอัตราเงินเฟ้อสองหลักและความวุ่นวายทางเศรษฐกิจที่เกิดจาก แผนการลดภาษีที่ถกเถียงกันอย่างรุนแรงของอดีตนายกรัฐมนตรี Liz Truss ในขณะที่บลูชิพของสหราชอาณาจักรจํานวนมากได้รับการป้องกันจากความวุ่นวายของสหราชอาณาจักรจากการปรากฏตัวทางธุรกิจทั่วโลก แต่ บริษัท ขนาดเล็กและ บริษัท ที่มุ่งเน้นผู้บริโภคได้รับผลกระทบอย่างหนัก. [Bloomberg] [The Independent] [ITV] (chm/gc, transl. by nl) กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ ![]() บัลแกเรีย: การประท้วงที่จัดขึ้นเพื่อต่อต้านความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน การประท้วงจำนวนมากเกิดขึ้นบัลแกเรียเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายนหลังจากการตัดสินใจของรัฐสภาเพื่อช่วยเหลือยูเครนในความขัดแย้งทางทหารกับรัสเซีย [Novinite] การประท้วงจัดขึ้นภายใต้สมมติฐาน "เพื่อสันติภาพและความเป็นกลาง" ตามที่ผู้จัดงานประกาศบน Facebook การประท้วงต่อต้านการมีส่วนร่วมของบัลแกเรียในการจัดหาอาวุธให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แม้ว่าบัลแกเรียจะไม่ได้จัดหาอาวุธให้กับยูเครนโดยตรง แต่คาดว่าบัลแกเรียจะจัดหาอาวุธและกระสุนอย่างน้อย 1 พันล้านยูโรให้กับยูเครนผ่านประเทศอื่น ๆ การจัดหาความช่วยเหลือทางทหารและทางเทคนิคให้กับยูเครนได้รับการสนับสนุนจากมติที่ผ่านโดยสมัชชาแห่งชาติเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน [Euro Maidan Press] (jk/gc, transl. by nl)
ตุรกี: อัยการเรียกร้องให้มีการห้ามมิให้นายกเทศมนตรีของอิสตันบูลเล่นการเมือง อัยการได้เรียกร้องให้นายกเทศมนตรีของอิสตันบูล Ekrem Imamoglu ถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาดูหมิ่นสมาชิกสภาการเลือกตั้งสูงสุดของตุรกี ข้อเรียกร้องดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการพิจารณาคดีครั้งที่สามที่นักวิจารณ์กล่าวหาว่าเป็นความพยายามที่จะกําจัดคู่ต่อสู้คนสําคัญของป ระธานาธิบดี Recep Tayyip Erdogan จากฉากการเมือง นายกเทศมนตรี Ekrem Imamoglu, สมาชิกของฝ่ายค้าน Republican People's Party ต้องเผชิญกับโทษจําคุกสูงสุดสี่ปีหากพบว่ามีความผิดตามข้อกล่าวหาดังกล่าวและอาจถูกห้ามไม่ให้ดํารงตําแหน่ง เขาถูกกล่าวหาว่าดูหมิ่นสมาชิกสภาการเลือกตั้งเมื่อเขาอธิบายว่าการยกเลิกการเลือกตั้งที่ถูกต้องตามกฎหมายเป็น "ความโง่เขลา" ในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2019 นายกเทศมนตรีปฏิเสธข้อกล่าวหาและยืนยันว่าคําพูดของเขาเป็นการตอบสนองต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย Suleyman Soylu เรียกเขาว่า "คนโง่" และกล่าวหา Imamoglu ของการวิพากษ์วิจารณ์ตุรกีระหว่างการเยือนรัฐสภายุโรป เขาได้ระบุว่าข้อกล่าวหาที่มีต่อเขาได้รับการออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้เขาลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2023 เขาถือเป็นคู่แข่งที่เป็นไปได้กับประธานาธิบดี Recep Tayyip Erdogan. [Euronews] การพิจารณาคดีของศาลที่กําหนดไว้ในวันที่ 11 พฤศจิกายนถูกเลื่อนออกไปจนถึงวันที่ 14 ธันวาคม อัยการได้ร้องขอซ้ําแล้วซ้ําอีกว่าให้จําคุก Imamoglu [Middle East Eye] Imamoglu ได้รับเลือกให้เป็นผู้นําเมืองที่ใหญ่ที่สุดของตุรกีในเดือนมีนาคม 2019 ชัยชนะของเขาเป็นความผิดหวังของพรรคของ Erdogan's Justice and Development Party ซึ่งควบคุมอิสตันบูลมาเป็นเวลาสี่ศตวรรษ พรรคผลักดันให้ผลการเลือกตั้งเทศบาลในเมือง 16 ล้านคนเป็นโมฆะโดยกล่าวหาว่ามีความผิดปกติ (chm/gc, transl. by nl)
ตุรกี: อดีตหัวหน้าของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ล้มล้างคำตัดสินคดีก่อการร้าย ศาลสูงสุดของตุรกีได้คว่ําคําตัดสินคดีที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายของอดีตหัวหน้าแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลและประธานกิตติมศักดิ์ตุรกี Taner Kilic พร้อมกับนักเคลื่อนไหวอีกสามคน [Reuters] ศาล Cassation อ้างถึงคดีของ Kilic กลับไปที่ศาลชั้นต้นด้วยเหตุผลของ "การสอบสวนที่ไม่สมบูรณ์" การพิจารณาคดีนี้เกิดขึ้นนานกว่าห้าปีหลังจากนักกิจกรรมทั้งสี่คนถูกจับกุมครั้งแรกในปี 2560 แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลประกาศว่าตลอดการพิจารณาคดีของศาล 12 ครั้ง ทุกข้อกล่าวหาที่กล่าวหานักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนทั้งสี่คนนั้น "ได้รับการพิสูจน์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าไม่มีมูลความจริง รวมถึงในรายงานของตํารวจของรัฐเองด้วย" [Amnesty International] (chm/gc, transl. by nl) กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปใต้ ![]() อิตาลี: อดีตนายกรัฐมนตรี Berlusconi พ้นผิดในคดีติดสินบน ศาลอิตาลีตัดสินลงโทษอดีตนายกรัฐมนตรี Silvio Berlusconi เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ในข้อหาว่าเขาติดสินบนพยานในคดีที่ถูกกล่าวหาว่าซื้อประเวณีผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ Berlusconi ซึ่งปัจจุบันเป็นสมาชิกวุฒิสภา, เป็นสมาชิกของพรรคฝ่ายกลางขวา Forza Italia party, ซึ่งเพิ่งเข้าร่วมรัฐบาลใหม่ของประเทศที่นําโดยนายกรัฐมนตรี Giorgia Meloni และพี่น้องขวาจัดกลุ่มขวาจัดของอิตาลี [Euronews] Berlusconi ถูกกล่าวหาว่าจ่ายเงินให้นักร้องชาวอิตาลี Mariano Apicella 157,000 ยูโร ให้โกหกในคดีก่อนหน้านี้ที่เกี่ยวข้องกับการค้าประเวณีผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ในการพิจารณาคดีในปี 2013 เขาถูกกล่าวหาว่าจ่ายเงินเพื่อมีเพศสัมพันธ์กับนักเต้นไนท์คลับชาวโมร็อกโกวัย 17 ปี แต่ต่อมาได้รับการปล่อยตัว ในช่วงที่สามของเขาในฐานะนายกรัฐมนตรีเริ่มต้นในปี 2008 เรื่องอื้อฉาวปะทุขึ้น "ดอกไม้ ดอกไม้" ปาร์ตี้เซ็กซ์ ของ Berlusconi มีส่วนทําให้การดำรงตําแหน่งนายกรัฐมนตรีจบลงในปี 2011 ขณะที่ Berlusconi กําลังรอคําตัดสินในคดีที่ค้างอยู่ซึ่งเขาถูกกล่าวหาว่าติดสินบนพยาน 24 คนของคู่กรณีของเขา อดีตนายกรัฐมนตรีได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว คดีดังกล่าวคาดว่าจะสรุปได้ในเดือนมกราคม. [Reuters] [Corriere] (km/pk, transl. by nl)
อิตาลี: จะไม่ใช้เทคโนโลยีการจดจําใบหน้ายกเว้นในการต่อสู้กับอาชญากรรม อิตาลีได้ห้ามการใช้เทคโนโลยีการจดจําใบหน้าที่ใช้ข้อมูลไบโอเมตริกซ์พร้อมกับ "แว่นตาอัจฉริยะ" จนถึงอย่างน้อยสิ้นปี 2023 หรือจนกว่าจะมีการออกกฎหมายเฉพาะเพื่อควบคุมปัญหา ข้อยกเว้นเพียงอย่างเดียวของการห้ามคือเมื่อใช้ระบบจดจําใบหน้าในการสืบสวนทางอาญาและการพิจารณาคดี [La Stampa] การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน เป็นการตอบสนองต่อแผนของเทศบาลสองแห่งในการทดลองเทคโนโลยีดังกล่าว ในเมืองทางใต้ของ Lecce เจ้าหน้าที่กล่าวว่าพวกเขาจะเริ่มใช้เทคโนโลยีการจดจําใบหน้าในขณะที่อยู่ในใจกลางเมือง Arezzo เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกําลังวางแผนที่จะจัดเตรียม "แว่นตาอัจฉริยะ" ให้กับตํารวจที่จดจําป้ายทะเบียนได้ ในแถลงการณ์หน่วยงานคุ้มครองข้อมูลของอิตาลีกล่าวว่า" การเลื่อนดังกล่าวเกิดขึ้นจากความจําเป็นในการควบคุมข้อกําหนดเงื่อนไขและการควบคุมการรับประกันที่เกี่ยวข้องกับการจดจําใบหน้าตามหลัก การของสัดส่วน" [Reuters] ตามที่หน่วยงานระบุว่าเทศบาลที่ต้องการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวจะต้องบรรลุ "สนธิสัญญาความมั่นคงในเมือง" กับรัฐบาลกลาง [IET] (km/pk, transl. by nl)
โปรตุเกส: นักเคลื่อนไหวด้านสภาพภูมิอากาศยึดโรงเรียนเรียกร้องให้รัฐมนตรีเศรษฐกิจลาออก นักเคลื่อนไหวด้านสภาพอากาศรุ่นเยาว์เข้ายึดครองโรงเรียนและมหาวิทยาลัยหลายแห่งในลิสบอนในเดือนพฤศจิกายน โดยเรียกร้องให้โปรตุเกสยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลภายในปี 2030 และเรียกร้องให้รัฐมนตรีเศรษฐกิจลาออก ซึ่งเป็นอดีตผู้บริหารบริษัทน้ำมัน [Portugal Resident] การประท้วงจัดขึ้นโดยกลุ่มนัดหยุดงานสภาพภูมิอากาศของนักเรียนลิสบอนเพื่อสนับสนุนการรณรงค์นานาชาติ End Fossil: Occupy! [Lusa] ควบคู่ไปกับการยึดครองโรงเรียนหลายแห่งนักเคลื่อนไหวหลายสิบคนบุกเข้าไปในอาคารที่รัฐมนตรีเศรษฐกิจ Antonio Costa Silva กําลังกล่าวสุนทรพจน์ในวันที่ 12 พฤศจิกายน [Reuters] Costa Silva ตกลงที่จะพบกับผู้ประท้วงในวันที่ 14 พฤศจิกายน หลังจากนั้นบางคนติดกาวตัวเองกับทางเข้าของกระทรวงเศรษฐกิจและถูกจับกุม [Lusa] นอกจากนี้ยังมีการจับกุมที่คณะศิลปศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยลิสบอนซึ่งตํารวจถูกเรียกตัวเพื่อบังคับให้ผู้ประท้วงออกไป [Portugal Resident] Costa Silva บอกว่าเขาจะไม่ลาออก เขาเสริมว่าเขาต่อสู้เพื่อการลดคาร์บอนมานานแล้วและเขาได้สนับสนุนพลังงานหมุนเวียนต่อสาธารณะ [Portugal Resident] (msa/pk, transl. by nl)
โปรตุเกส : นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าโครงการ'วีซ่าทอง'สําหรับชาวต่างชาติที่ร่ำรวยจะสิ้นสุดลง นายกรัฐมนตรี Antonio Costa ได้กล่าวว่าโปรตุเกสจะยกเลิก"วีซ่าทอง" ซึ่งโครงการที่ให้ถิ่นที่อยู่ให้กับชาวต่างชาติจากรัฐนอกสหภาพยุโรปที่ลงทุนจำนวนมากในประเทศ [Politico] โครงการ "อาจได้เติมเต็มบทบาทที่ต้องเติมเต็มแล้วและในขณะนี้ไม่เป็นธรรมที่จะเก็บโครงการดังกล่าวไว้อีกต่อไป" Costa กล่าว [Reuters] โครงการนี้ดึงดูดนักลงทุนส่วนใหญ่ซึ่งมาจากจีน บราซิลและแอฟริกาใต้โดยเงินลงทุนส่วนใหญ่จะอยู่ในภาคอสังหาริมทรัพยของโปรตุเกส สิ่งที่เรียกว่า “วีซ่าทองคํา” ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ว่าทำให้ราคาที่อยู่อาศัยและค่าเช่าในประเทศสูงขึ้น [Reuters] คณะกรรมาธิการยุโรปได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับโครงการดังกล่าวโดยกล่าวว่าโครงการทำให้ความเสี่ยงที่มีอยู่ปกติทั้ง ด้าน "ความปลอดภัย การฟอกเงิน การหลีกเลี่ยงภาษีและการทุจริต” เพิ่มมากขึ้น [European Commission] Costa กล่าวว่าโปรตุเกสต้องการคงความน่าสนใจให้กับชาวต่างชาติและชี้ไปที่สิ่งที่เรียกว่า "วีซ่าเร่ร่อนดิจิทัล" ของประเทศ ภายใต้มาตรการนี้ซึ่งประกาศใช้เมื่อวันที่ 31 ตุลาคมชาวต่างชาติที่มีรายได้สูงจากการทํางานระยะไกลได้รับอนุญาตให้อาศัยอยู่ในโปรตุเกสเป็นเวลาหนึ่งปี [Reuters] (msa/pk, transl. by nl)
โปรตุเกสถูกเรียกร้องให้เพิ่มความพยายามในการต่อต้านการติดสินบน องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ได้ออกมาเรียกร้องให้โปรตุเกสเพิ่มความสามารถในการปราบปรามการติดสินบนแก่เจ้าหน้าที่รัฐของต่างประเทศ [Lusa] รายงานล่าสุดของกลุ่มงานในองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาได้เผยให้เห็นผลการประเมินการบังคับใช้กฎหม ายซึ่งเป็นไปตามอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทุจริตของโปรตุเกสและพบว่ามีการตรวจพบเจอการคอรัปชั่นที่ “ยังอยู่ในระดับต่ำ” จากผลการรายงานขององค์การฯ หน่วยงานผู้มีอำนาจในโปรตุเกสมักทำการ “ปิดคดีก่อนกำหนด” ในเรื่องการติดสินบนเจ้าหน้าที่จากต่างประเทศ “โดยไม่ทำการสืบสวนลึกลงไปในข้อกล่าวหาอย่างกระตือรือร้นและถี่ถ้วน” [OECD] อนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทุจริตมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 20 ปีที่แล้ว โดยจากรายงานขององค์การฯเผยให้เห็นว่าตั้งแต่นั้นมาไม่เคยมีรายงานถึงการกระทำผิดเรื่องการติดสินบนเจ้าหน้าที่จากต่างประเทศแม้เพียงคด ีเดียว ในขณะที่กลุ่มงานขององค์การฯนั้นแสดงการยอมรับกับการปฏิรูปที่ผ่านมา แต่หน่วยงานผู้มีอำนาจในโปรตุเกสก็ยังไม่เคยออกมาไขข้อข้องใจกับ “ความกังวลที่มีมาอย่างยาวนาน” ในเรื่องกรอบของหลักกฎหมายในโปรตุเกส การคว่ำบาตรโปรตุเกสในเรื่อง “การติดสินบนเจ้าหน้าที่จากต่างประเทศ ดูเหมือนจะไม่เป็นผลไม่เป็นสัดส่วนและไม่ได้ลดแรงชักจูงในการทำผิด” [OECD] (msa/pk, transl. by ph)
สเปน: การถกเกียงกันในเรื่องแผนการปฏิรูปกฎหมายการยุยงปลุกปั่นของพรรคแนวร่วมรัฐบาล Pedro Sanchez
นายกรัฐมนตรีแห่งสเปนถูกกล่าวหาว่าให้การสนับสนุนกลุ่มผู้แบ่งแยกดินแดนชาว Cantalan
เพื่อแลกกับผลประโยชน์ทางการเมืองหลังจากที่พรรคแนวร่วมรัฐบาลของสเปนประกาศแผนการการปฏิรูปกฎหมายว่าด้วย พรรคฝ่ายซ้ายของ Sanchez นามว่า Spanish Socialist Workers’ Party (PSOE) และพรรคแนวร่วมรุ่นน้องอย่างพรรค Unidas Podemos ได้ยื่นข้อเสนอในการแก้ไขกฎหมายให้ความผิดในการก่อความไม่สงบแก่ความเรียบร้อยแก่สาธารณะมาถูกแทนกฎหมายว่าด้วยการยุยงปลุกปั่นซึ่งโทษจ ำคุกสูงสุดจะถูกลดลงจาก 15 ปี เป็น 8 ปี [Euronews] โดยข้อเสนอการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวซึ่งถูกเปิดเผยเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนได้ถูกยกขึ้นมาก่อนการลงคะแนนเสียงว่าด้วยเรื่องงบประมาณปี 2023 ในสภาผู้แทนราษฎรซึ่งพรรค PSOE กำลังพึ่งพาเสียงสนับสนุนจากพรรคฝ่ายซ้ายอย่าง Republican Left of Catalonia (ERC) พรรคฝ่ายค้านได้แย้งว่านายกรัฐมนตรีผู้นี้กำลังให้ความสำคัญกับพรรคของเขามากกว่าประเทศเนื่องจากการปฏิรูปด้านกฎหมายดังกล่าวถูกจัดทำข ึ้นเพื่อให้เป็นผลประโยชน์กับผู้นำในการปลดแอกพื้นที่ Cantalan (Catalan Independence movement) เมื่อปีที่แล้วนายกรัฐมนตรีได้ให้การอภัยโทษแก่เหล่าผู้สนับสนุนการแยกดินแดนชาว Cantalan ซึ่งถูกต้องโทษในคดีการยุยงปลุกปั่นตั้งแต่ปี 2019 สืบเนื่องมาจากความพยายามที่ล้มเหลวในการแบ่งแยกดินแดนทางตะวันออกเฉียงเหนือของภูมิภาค Cantalan ออกจากสเปนในปี 2017 [Associated Press] [Reuters 1] Alberto Nunez Feijoo ผู้นำพรรคฝ่ายขวา People’s Party ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านกล่าวใน Twitter ว่า “ผมรู้สึกว่าผมพูดถูกแล้วที่ว่านายกรัฐมนตรี Sanchez เห็นผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเองเหนือกว่าผลประโยชน์ของประเทศมาโดยตลอด” Pere Aragones ผู้นำแห่งรัฐบาลของภูมิภาค Cantalan ซึ่งมาจากพรรค ERC ได้ออกมาให้การสนับสนุนการปฏิรูปครั้งนี้ โดยกล่าวว่า “การดำเนินคดีทางกฎหมายแก่กลุ่มเคลื่อนไหวเพื่ออิสรภาพที่ไม่เป็นธรรมและทำขึ้นโดยพลการ” จะเป็นเรื่องที่ยากขึ้น [Reuters 2] (km/pk, transl. by ph)
สเปน: กฎหมายใหม่เรื่องความยินยอมในการมีเพศสัมพันธ์สร้างเสียงลุกฮือเนื่องจากผลเสียที่ตามมาอย่างคาดไม่ถึง กฎหมายใหม่เรื่องความยินยอมในการมีเพศสัมพันธ์จุดชนวนให้เกิดความไม่พอใจเนื่องจากเหล่าทนายใช้มันเป็นเครื่องมือในการลดโทษแก่ผู้ที่มี คดีอาชญากรรมทางเพศ กฎหมาย “only yes means yes” ถูกนำมาใช้เมื่อเดือนตุลาคมและมีเป้าหมายที่จะตีกรอบคำนิยามของการให้ความยินยอมหลังจากเกิดเหตุการณ์คดีรุมโทรมในเมือง Pamplona ในเบื้องต้นชายห้าคนถูกพบว่ามีความผิดฐานการล่วงละเมิดทางเพศเด็กสาวซึ่งอยู่ในภาวะไร้สติที่มีอายุเพียง 18 ปี แทนที่จะเป็นการข่มขืนเนื่องจากเธอนั้นไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าตนเองไม่ได้ให้ความยินยอม [Europe Monthly August 2022] ต่อมาศาลฎีกาแห่งสเปนได้กลับคำพิพากษาว่าชายห้าคนดังกล่าวมีความผิดฐานกระทำการข่มขืนและให้ส่งตัวให้เรือนจำด้วยโทษจำคุก 15 ปี เนื่องมาจากการประท้วงที่เกิดขึ้นเป็นวงกว้าง กฎหมายฉบับนี้เมื่อมีผลบังคับใช้ในสเปนอาจถูกนำไปตีความให้มีผลย้อนหลังเพื่อเป็นผลประโยชน์กับผู้ที่ถูกต้องโทษมาแล้วในคดีซึ่งอยู่ในก ารควบคุมของกฎหมายฉบับใหม่นี้ หลังจากที่กฎหมายตัวนี้ถูกบังคับใช้ เหล่าทนายในกว่าแปดคดีความ สามารถหาทางลดโทษให้แก่ผู้ที่เคยมีคดีอาชญากรรมทางเพศเพราะในบางคดีนั้นกฎหมายฉบับนี้มีการกำหนดโทษขั้นต่ำที่น้อยกว่าเดิม Irene Montero รัฐมนตรีด้านความเท่าเทียมของสเปน ผู้ซึ่งมีบทบาทอย่างสูงในเรื่องการปฏิรูปกฎหมาย กำลังตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักกับผลที่ตามมา อย่างไรก็ตาม Montero ได้ออกมาปกป้องกฎหมายฉบับใหม่นี้โดยกล่าวว่า “ความเป็นชายอาจทำให้ผู้พิพากษา (ชาย) บางท่านนำกฎหมายมาบังคับใช้อย่างไม่ถูกต้องนัก” พรรคอนุรักษ์นิยมฝ่ายค้านอย่าง People’s Party ได้ออกมาเรียกร้องให้ Montero ลงจากตำแหน่งและเรียกร้องให้มีการชำระกฎหมายฉบับใหม่นี้ในสภาสูงของสเปน [Associated Press] [Euronews] (km/pk, transl. by ph) กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปกลาง ![]() ออสเตรีย: กลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมยึดห้องบรรยายของมหาวิทยาลัย กลุ่มนักศึกษาซึ่งเป็นนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมทำการยึดห้องบรรยายของมหาวิทยาลัยเพื่อแสดงความไม่พอใจต่อการรับมือกับวิกฤติการณ์ด ้านสภาพอากาศของรัฐบาลรวมไปถึงจุดยืนด้านระบบการศึกษาและความไม่ยุติธรรมในสังคม [Euractiv] ในวันแรกของการประท้วงซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ในกรุงเวียนนา ห้องบรรยายของมหาวิทยาลัยในเมือง Salzburg และ Innsbruck ถูกเข้าจับจองด้วยผู้คนจำนวน 150-200 คน โดยมีผู้ประท้วงจำนวน 25 คนในเมือง Salzburg และ 40 คนในเมือง Innsbruck กลุ่มนักเคลื่อนไหวเรียกร้องให้มีการหยุดใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ผลักดันให้มีการสนับสนุนด้านการเงินแก่มหาวิทยาลัยมากขึ้น และการเก็บภาษีผู้มีฐานะและผู้ที่ได้กําไรเกินปกติ[ORF] (vs/pk, transl. by ph) กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปเหนือ ![]() เดนมาร์ก: การเจรจาเพื่อจัดตั้งแนวร่วมรัฐบาลกลุ่มใหญ่หลังจากการเลือกตั้งที่มีขึ้นอย่างฉับพลัน การเจรจาเพื่อจัดตั้งแนวร่วมรัฐบาลใหม่กำลังเกิดขึ้นในเดนมาร์กหลังจากที่มีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน โดยพรรคซ้าย-กลางอย่าง Social Democrats หวังที่จะได้ครองตำแหน่งอีกครั้งจากการที่ดึงแนวร่วมหลายๆพรรคเข้ามาร่วมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับปี 2001 Mette Frederiksen ผู้นำพรรค Social Democrat และผู้ดำรงตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรีในขณะนี้ ได้เรียกร้องให้มีการเลือกตั้งหลังจากที่เรื่องอื้อฉาวจำนวนมากได้พรากเสียงสนับสนุนของรัฐบาลเสียงข้างน้อยของเธอไป [Europe Monthly November 2022] พรรค Social Democrat คว้าชัยชนะด้วยคะแนนโหวตร้อยละ 27.5 ซึ่งทำให้ทางพรรคได้รับ 50 ที่นั่ง จากสภาผู้แทนราษฎรของเดนมาร์กที่ประกอบไปด้วย 179 ที่นั่ง โดยยังขาดไป 40 ที่นั่งหากต้องการเป็นฝ่ายที่มีเสียงข้างมากซึ่งจำเป็นต้องมี 90 ที่นั่ง อย่างไรก็ตามพรรค Social Democrat ได้ทำการก่อตั้งพันธมิตร “กลุ่มแดง” กับพรรคกลางอย่าง Social Liberals กลุ่มพันธมิตรฝ่ายซ้ายอย่าง Red-Green Alliance และพรรคกลาง-ซ้ายอย่างพรรค Green Left Party โดยรวมกันได้ 87 ที่นั่ง โดยมีสามที่นั่งเข้ามาเติมจากพรรคกลาง-ซ้ายอย่างพรรค Faroese Social Democratic Party และพรรคกลาง-ซ้ายอย่างพรรค Siumut Party ของกรีนแลนด์ ดังนั้นพรรค Social Democrats จะมีที่นั่ง 90 ที่ซึ่งถือเป็นเสียงข้างมาก [Euronews] [Reuters] [AP] Frederiksen ประกาศระหว่างหาเสียงว่าเธอตั้งใจที่จะสร้างพรรคแนวร่วมรัฐบาลที่มีขนาดใหญ่กว่านี้และก่อตั้งรัฐบาลที่มีแนวคิดเป็นกลางเพื่อเชื่อมควา มแตกต่างในแนวคิดทางการเมืองของการเมืองในเดนมาร์ก [Politico] [Berlingske] รักษาการนายกรัฐมนตรีผู้นี้ต้องเผชิญกับคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงในช่วงหลายเดือนก่อนการเลือกตั้งในเรื่องบทบาทของเธอในคดีอื้อฉาวเรื่องการฆ่าตัวมิงค์ ซึ่งเธอนั้นได้รับการตักเตือนขั้นรุนแรงจากรัฐสภา รวมไปถึงเรื่องแผนการย้ายถิ่นฐานของผู้ลี้ภัยไปสู่รวันดา [AP] นอกเหนือจากพรรคอื่นๆนั้น ก็ยังมีพรรคหน้าใหม่ที่ทำออกมาได้ดีเช่นพรรคกลาง-เสรีอย่าง Moderates ซึ่งนำโดยอดีตนายกรัฐมนตรี Lars Rasmussen ในขณะนี้พรรค Moderates คือพรรคที่ใหญ่เป็นอันดับสามในเดนมาร์กหลังจากที่คว้าชัยชนะด้วยที่นั่งในสภาฯจำนวน 16 ที่นั่ง [Euronews] ผู้ที่พ่ายแพ้อย่างหนักคือกลุ่มฝ่ายค้านอย่าง Venstre Party ซึ่งเป็นพรรคกลาง-ขวา โดยเสียไปกว่า 20 ที่นั่ง ในขณะเดียวกัน พรรคใหม่อย่าง Danish Democrats ซึ่งเป็นพรรคขวาสุดโต่งนำโดย Inger Stojberg รัฐมนตรีตรวจคนเข้าเมือง ทำผลลัพธ์ออกมาได้ดีที่สุดในบรรดาฝ่ายขวา โดยรักษาที่นั่งได้จำนวน 14 ที่นั่งและทำออกมาได้ดีกว่าพรรค Danish People’s Party ซึ่งเป็นพรรคชาตินิยมแนวหน้าของเดนมาร์กซึ่งเสียไปจำนวน 11 ที่นั่งและเหลือเพียง 5 ที่นั่ง พรรคของ Stojberg ได้มีมติที่จะเข้ากลุ่มแนวร่วมรัฐบาลกับ Frederiksen โดยมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งเมื่อ 1 พฤศจิกายนจำนวนร้อยละ 83.7 (cg/pk, transl. by ph)
ฟินแลนด์: รัฐสภาลงมติผ่อนคลายกฎหมายการทำแท้ง กฎหมายการทำแท้งของฟินแลนด์ที่มีความเข้มงวดเป็นอย่างมากจะได้รับการผ่อนปรนหลังจากที่สภาฯเห็นชอบให้มีการปฏิรูปซึ่งคาดว่าจะมีการบังค ับใช้ภายในปี 2023 ภายใต้กฎหมายการทำแท้งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 1970 ผู้หญิงนั้นจำเป็นที่จะต้องได้รับความเห็นชอบจากแพทย์ถึงสองท่านก่อนที่จะมีการทำแท้งเกิดขึ้น ในปัจจุบันนี้ความเห็นชอบสามารถมาจากแพทย์เพียงคนเดียวได้ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้หญิงสามารถที่จะทำให้การตั้งครรภ์ที่อายุตั้งแต่ 12 สัปดาห์สิ้นสุดลงโดยไม่ต้องแจ้งเหตุผล ผลการลงคะแนนในสภาฯที่ประกอบไปด้วยที่นั่งจำนวน 200 ที่นั่งเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมเผยให้เห็นว่ามีผู้เห็นชอบจำนวน 125 เสียงและคัดค้าน 45 เสียงในการปฏิรูป โดยเรื่องดังกล่าวถูกนำขึ้นมาถกเถียงในส่วนหนึ่งของข้อริเริ่มจากประชาชนที่เริ่มขึ้นในปี 2020 [Euronews] (cg/pk, transl. by ph) ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ/ภูมิรัฐศาสตร์/ธรรมาภิบาลของสหภาพยุโรป ![]() สหภาพยุโรปแนะให้ระงับการส่งเงินทุนกว่า 13,300 ล้านยูโรแก่ฮังการีเนื่องมาจากความกังวลในเรื่องหลักนิติธรรม คณะกรรมาธิการยุโรปได้แนะนำให้ระงับการส่งเงินทุนกว่า 13,000 ล้านยูโรซึ่งมาจากกองทุนของสหภาพฯแก่ฮังการี โดยให้เหตุผลว่ารัฐบาลฮังการีนั้นไม่ได้แสดงให้เห็นอย่างเพียงพอถึงการวางนโยบายปฏิรูปเพื่อแก้ปัญหาความกังวลด้านคอรัปชั่น หลักนิติธรรม และพัฒนาการที่ถดถอยของประชาธิปไตย [Euronews] [The Guardian] [BBC News] [European Commission] คณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวในแถลงการณ์ว่า “ในขณะที่การปฏิรูปในหลายๆด้านได้ถูกปรับใช้ไปแล้วและกำลังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินงาน รัฐบาลฮังการีก็ยังไม่สามารถวางนโยบายส่วนกลางให้เพียงพอกับมาตราการบรรเทาอันจำเป็น 17 ข้อ ภายในกำหนดของวันที่ 19 พฤศจิกายนอย่างที่ได้ให้สัญญาไว้” [Euronews] [European Commission] คณะกรรมาธิการฯต้องการที่จะขัดขวางการส่งเงินทุนจากทั้งสองกองทุนของสหภาพฯ 7,500 ล้านยูโรจากนโยบายส่วนรวมของสหภาพฯเพื่อการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและ 5,800 ล้านยูโรจากกองทุนสหภาพฯเพื่อการฟื้นฟูจากโรคระบาดไวรัสโควิด-19[Euronews] [The Guardian] [BBC News] [European Commission] ถึงแม้ว่าทั้งเหล่าผู้บริหารในคณะกรรมาธิการฯได้เห็นชอบในแผนฟื้นฟูจากโรคระบาดไวรัสโควิด-19 ของฮังการี คณะกรรมาธิการเล็งเห็นว่าควรระงับเงินทุนไว้ก่อนจนกว่ารัฐบาลฮังการีจะสามารถดำเนินการใน “หลักสำคัญ” 27 ข้อ “ได้อย่างถูกต้องและสมบูรณ์แบบ” [Euronews] [The Guardian] [BBC News] โดยเหล่าประเทศสมาชิกจำนวน 2 ใน 3 ของสหภาพยุโรปซึ่งคิดเป็นร้อยละ 65 ของจำนวนประชากรในสหภาพฯต้องเห็นพ้องรวมกันในการที่จะระงับเงินทุนเพื่อส่งให้ฮังการี [The Guardian] [Euronews] รัฐบาลฮังการีออกมาโต้ว่ารัฐบาลฯนั้นได้ดำเนินการในนโยบายต่างๆที่จำเป็นแล้ว โดยกล่าวผ่าน Tibor Navracsics รัฐมนตรีของฮังการีผู้ซึ่งเป็นแนวหน้าในการเจรจากับรัฐบาลของสหภาพยุโรป ซึ่งกองกำลังต่อต้านคอรัปชั่นก็ได้มีการก่อตั้งขึ้นแล้ว [BBC News] Navracsics ยังกล่าวเพิ่มเติมว่ามาตรการเพิ่มเติมที่จำเป็นจะถูกปรับใช้และในปี 2023 รัฐบาลฮังการีจะ “ประสบความสำเร็จในการทำให้คณะกรรมาธิการยุโรปเห็นว่าไม่จำเป็นที่จะต้องระงับการส่งเงินทุน” [Euronews] ในปีที่ผ่านมา Viktor Orban นายกรัฐมนตรีแห่งฮังการีถูกกล่าวหาในเรื่องการเพิ่มอำนาจให้รัฐบาลในการควบคุมสื่อและศาลยุติธรรม รวมไปถึงการใช้เงินทุนจากสหภาพฯในทางที่ไม่ถูกต้อง [Europe Monthly May 2022] ในเดือนเมษายน 2022 รัฐบาลแห่งสหภาพยุโรปได้ทำการปรับใช้กลไก “ด้านเงื่อนไข” เป็นครังแรก ซึ่งทำให้รัฐบาลแห่งสหภาพฯสามารถระงับการส่งเงินทุนให้รัฐบาลฮังการี โดยมีเป้าประสงค์ที่จะปกป้องงบประมาณของสหภาพฯเพื่อไม่ให้รัฐบาลฮังการีไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง [Europe Monthly May 2022] โปแลนด์ซึ่งเป็นประเทศพันธมิตรอันใกล้ชิดที่สุดกับฮังการีเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรปก็ถูกคณะกรรมาธิการฯระงับการส่งเงินทุน ให้เนื่องจากความกังวลด้านหลักนิติธรรมเช่นกัน [Europe Monthly November 2022] อย่างไรก็ตาม กลไกด้านเงื่อนไขนั้นไม่ได้ถูกนำมาใช้กับรัฐบาลโปแลนด์ เนื่องจากรัฐบาลแห่งสหภาพฯไม่เห็นถึงความเสี่ยงอย่างชัดเจนในเรื่องงบประมาณของสหภาพยุโรปในโปแลนด์ ในทางกลับกัน โปแลนด์จะต้องมีคุณสมบัติต่างๆให้ตอบรับกับ “เงื่อนไขการอนุญาต” เพื่อที่จะปลดล็อกเงินทุน [Europe Monthly May 2022] [Europe Monthly November 2022] Johannes Hahn ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปด้านงบประมาณกล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในรัฐบาลฮังการีเพื่อที่จะไขข้อกังวลของสหภาพฯ “อาจไม่เกิดขึ้น” หากไม่ได้มีการปรับใช้กลไกดังกล่าว [Euronews] [The Guardian] ในขณะเดียวกัน Zoltan Kovacs หัวหน้าโฆษกแห่งรัฐบาลฮังการี กล่าวหาว่าสหภาพยุโรปนั้นกำลังตกเป็นเครื่องต่อรองของ “ฝ่ายซ้าย” ซึ่งเขานั้นกล่าวว่าเป็นกลุ่มคนที่ “กำลังใช้การผูกขาดในการแผ่อำนาจการเมือง เพื่อหักหลัง เพื่อทำลายรัฐบาล และเป็นกลุ่มทางการเมืองที่มีความคิดต่างไปจากที่รัฐบาลแห่งสหภาพฯบอกให้คิด” [The Guardian] (ek/pk, transl. by ph)
เหล่าประเทศเพื่อนบ้านของฮังการีต่างไม่พอใจอย่างมากจากการที่นายกรัฐมนตรีฮังการีสวมผ้าพันคอแสดงภาพ “Greater Hungary” เหล่าประเทศเพื่อนบ้านต่างวิจารณ์ Viktor Orban นายกรัฐมนตรีฮังการีในเรื่องที่ผู้นำผ่ายชาตินิยมผู้นี้ได้สวมผ้าพันคอฟุตบอลที่มีลายดินแดนของฮังการีก่อนช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งรวมไปถึงแสดงให้เห็นพื้นที่ที่ปัจจุบันนี้เป็นของออสเตรีย สโลวาเกีย โรมาเนีย โครเอเชีย เซอร์เบีย และยูเครน [The Guardian] [Reuters] Oleg Nikolenko โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของยูเครนบรรยายแผนที่ของ “Greater Hungary” ที่อยู่บนผ้าพันคอที่ Orban สวมใส่ระหว่างพบปะกับนักฟุตบอลเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนว่าเป็น “การส่งเสริมอุดมการณ์การปฏิรูปลัทธิใหม่” [BBC] ความสัมพันธ์ระหว่างฮังการีและยูเครนนั้นมีภาวะตึงเครียดในปีที่ผ่านมา โดย Orban ถูกวิจารณ์ในเรื่องความสัมพันธ์ที่มีต่อประธานาธิบดี Vladimir Putin ท่ามกลางการปะทุของสงครามของรัสเซียในยูเครน พร้อมกับที่รัฐบาลฮังการีออกมาเรียกร้องเรื่องที่กลุ่มชาวชาติพันธุ์ฮังการีที่อาศัยอยู่ในอยู่เครนถูกจำกัดสิทธิ [Politico] รัฐบาลโรมาเนียออกมา “คัดค้านอย่างแข็งกร้าว” เรื่องแผนที่ “Greater Hungary” ผ่านการตักเตือนเอกอัครราชทูตฮังการีในกรุงบูคาเรสต์ โดยรัฐมนตรีการต่างประเทศของโรมาเนียได้กล่าวในแถลงการณ์ว่า “การแสดงออกใดๆก็ตามที่สื่อถึงอุดมการณ์การปฏิรูปลัทธิใหม่ …. นั้นเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ในโลกยุคปัจจุบันและฉันทามติที่มีร่วมกัน” [The Guardian] Rastislav Kacer รัฐมนตรีการต่างประเทศของสโลวาเกียก็ได้ออกมาแสดงท่าทีที่ไม่ได้พบบ่อยนักผ่านความเห็นอย่างแข็งกร้าวในเชิง “รังเกียจ” [Euractiv] Orban ได้ออกมาอธิบายข้อโต้แย้งดังกล่าวผ่านการให้ความเห็นใน Facebook ว่า “ฟุตบอลไม่ใช่การเมือง อย่าได้ตีความอะไรไปผิดกว่าที่มันควรจะเป็น” [Euractiv] ประธานกลุ่มความร่วมมือของประเทศในระดับภูมิภาค หรือ Visegrad Four ซึ่งประกอบไปด้วยสาธารณรัฐเช็ก โปแลนด์ สโลวาเกีย ฮังการี ได้ออกมาประนีประนอมผ่านการพบปะกันที่สโลวาเกียเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน โดย Eduard Heger นายกรัฐมนตรีแห่งสโลวาเกียได้ให้ผ้าพันคอผืนใหม่แก่ Orban [Euronews] (msa/pk, transl. by ph)
ตุรกีเสี่ยงที่จะเสียสมาชิกภาพในสภายุโรป ตุรกีอาจถูกตัดออกจากสภายุโรป (Council of Europe) หลังจากที่ไม่สามารถปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป (The European Court of Human Rights) ในการให้ปล่อยตัว Osman Kavala นักธุรกิจและผู้ใจบุญที่ถูกคุมขัง ซึ่งจะทำให้ตุรกีอาจเป็นประเทศที่สองที่โดนตัดออกจากสภายุโรปต่อจากรัสเซียเนื่องมาจากการเข้ารุกรานในยูเครน [Reuters] สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนโดยอ้างอิงจากโฆษกของสภาฯว่าคณะรัฐมนตรีแห่งสภายุโรปได้เริ่มขั้นตอนสืบสวนหาข้อละเมิดของตุรกีและจะตัดสินว่าตุรกีควรถูกตัดอ อกจากสภาฯหรือระงับการเป็นสมาชิก คำวินิจฉัยของตุรกีมีอยู่จำนวน 3,820 เรื่องโดย 3,385 เรื่องนั้นประกอบไปด้วยการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างน้อยหนึ่งเรื่อง [Reuters] เจ้าหน้าที่ทางการออกมาโต้แย้งว่ารัฐบาลตุรกีได้ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป จำนวน 2,800 เรื่อง ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา แต่แหล่งอ้างอิงจากสภายุโรปชี้ให้เห็นว่าตุรกีปฏิบัติตามคำวินิจฉัยเพียง 521 เรื่อง [Reuters] Kavala คือนักธุรกิจและผู้ใจบุญชาวตุรกีที่ถูกคุมขังในปี 2017 เนื่องจากการถูกกล่าวหาว่าให้การสนับสนุนทางการเงินแก่การประท้วงใน Gezi Park หลังจากศาลฯให้คำวินิจฉัยเมื่อปี 2019 ตุรกีไม่ได้ปฏิบัติตามและยังเพิ่มโทษจำคุกเป็นตลอดชีวิตเมื่อเดือนเมษายน 2022 หลังจากที่เขาขึ้นสู้ในชั้นศาล ผู้เชี่ยวชาญต่างเชื่อกันว่าหากตุรกีถูกตัดออกจากสภาฯหลังจากที่การสืบสวนหาข้อละเมิดลุล่วง ประชาชนจำนวน 85 ล้านคนจะต้องสูญเสียสถาบันที่ช่วยเกื้อหนุนชีวิตผู้คนนับพัน [Reuters] (lc/gc, transl. by ph)
สหภาพยุโรปและสหรัฐฯ ขยายการคว่ำบาตรถึงเมียนมาร์ สหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาได้ประกาศมาตรการการคว่ำบาตรชุดใหม่กับเจ้าหน้าที่ทางทหารหลายนาย รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการยุติธรรม เจ้าหน้าที่ระดับสูงทางทหาร และนักลงทุนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัฐบาลทหาร [Reuters] สภายุโรปกล่าวเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนว่า มาตรการการคว่ำบาตรจากสหภาพยุโรปได้ถูกบังคับใช้เพิ่มเติมทั้งบุคคลและองค์กรจำนวน 19 รายซึ่งเป็นผลมากจาก “ความรุนแรงที่ปะทุขึ้นอย่างต่อเนื่องและการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนแรงที่เกิดขึ้นหลังจากการยึดอำนาจโดยรัฐบาลทหารกว่าสองปี” โดยสหภาพยุโรปได้ลงโทษผ่านมาตราการคว่ำบาตรที่ออกมาล่าสุดนี้ต่อบุคคลเป็นจำนวน 84 รายและอีก 11 องค์กร ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกของรัฐบาลทหารหรือมีสัมพันธ์ด้วยก็ตาม [Al Jazeera] [AiR, No. 46, November/2022, 3] (aml/pk, transl. by ph) Contributors and editorial team: Anastasiya Drobava (ad), Ann-Charlotte Neumann (acn), Antonia Lawrenz (aml), Charlotte Hughes-Morgan (chm) Christopher James Godwin (cg), Emelia Macdonald (em), Eric Kliszcz (ek), Ethan Flanagan (ef), Giulia Taraborrelli (gt), Glen Carey (gc), Greta Middendorf (gm), Henning Glaser (hg), Hsu May Maung, Jemina Nuredini (jn), Johnny Khouri (jk), Katherine Mansfield (km), Ketevan Esaiashvili (ke), Lara Cin (lc), Madeleine Piesold (mp), Maria Rusu (mr), Maria Simon Arboleas (msa), Marlene Busch (mb), Maximilian Ohle (mo), Peter Kononczuk (pk), Quentin Vidberg (qv), Rex Wempen (rw), Venus Phuangkom, Viktoria Styková (vs), Warren O'Broin (wb)
Translators: Tomwit Jarnson (tj), Natthanicha Lephilibert (nl), Aekpaween Anuson (aa), Vachiravan Vanlaeiad (vv), Pattariya Hansawong (ph) เราจะขอบคุณมากสำหรับความคิดเห็นของคุณ! โปรดส่งความคิดเห็นใดๆ ที่คุณมีเกี่ยวกับจดหมายข่าวนี้ไปที่ : info@cpg-online.de นอกจากนี้ อย่าลืมกด Like CPG บน Facebook และเยี่ยมชม เว็บไซต์ ของเราสำหรับการอัปเดตข้อมูลข่าวสารอื่นๆ
|