![]() ![]() คว้าข่าวสาร อ่านเทรนด์ยุโรป ฉบับที่ 6, มิถุนายน 2565
ส่งข่าวสารถึงคุณโดย CPG สนับสนุนโดย KAS ![]() เรียน ท่านผู้อ่าน ยินดีต้อนรับสู่วารสาร Europe in Review (EiR) ฉบับเดือนมิถุนายน ทีมงานได้คัดเลือกข่าวสารอย่างละเอียดว่าด้วยพัฒนาการล่าสุดในประเด็นต่างๆ ได้แก่ กิจการตามรัฐธรรมนูญ การเมืองภายใน ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ภูมิรัฐศาสตร์ การป้องกันทางทหาร ความมั่นคงร่วมและสิทธิมนุษยชนในยุโรป ด้วยความปรารถนาดี Henning Glaser บรรณาธิการบริหาร
เว็บไซต์: https://www.cpg-online.de, เฟซบุ๊ก: https://www.facebook.com/CPGTU (transl. by aa) Main Sections
4 เรื่องเด่น - บรรณาธิการคัดสรร ![]() สงครามในยุโรป: รัสเซียบุกรุกเพิ่มในภาคใต้และตะวันออกของยูเครน การโจมตีของรัสเซียทางตอนใต้และตะวันออกของยูเครนกําลังก้าวหน้าอย่างช้าๆ แต่มั่นคง การรุกรานของมอสโกเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ได้กลายเป็นสงครามการขัดสีที่ส่งผลกระทบและคุกคามเสบียงอาหารทั่วโลกและทดสอบเศรษฐกิจของยูเครนและแก้ไขให้ถึงขีดจํากัด [Ukrinform] [The Guardian] [The Economist] รัสเซียเกือบจะควบคุมอย่างเต็มที่ในภูมิภาค Luhansk ซึ่งอยู่ในภาคตะวันออก เมืองจํานวนหนึ่งเป็นตัวแทนสุดท้ายของการป้องกันยูเครน - พลเรือนหลายหมื่นคนไม่มีน้ำหรือไฟฟ้าติดอยู่ใต้พายุแห่งการทำลายล้างเนื่องจากกองกําลังรัสเซียยิงโดยไม่เลือกปฏิบัติไว่ว่าจะเป็นที่บ้ านโรงพยาบาลและพลเรือน [BBC] [EuroNews] [The New York Times] [Ukrinform] [Ukrinform] [NY Post] กองกําลังยูเครนสามารถบังคับให้รัสเซียออกจากเมืองคาร์คิฟตะวันออกเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม – แต่การระเบิดยังคงดําเนินต่อไปในเมืองที่ใหญ่ที่สุดอันดับสองของยูเครนเนื่องจากกองทัพรัสเซียดูเหมือนจะหยุดการล่าถอยของพวกเขา นายกเทศมนตรีของ Kharkiv Oleh Synehubov กล่าวว่า “มันเร็วเกินไปที่จะผ่อนคลาย ศัตรูที่ร้ายกาจอาจโจมตีประชากรพลเรือน ทำให้พวกเรากลัว" ประธานาธิบดีของยูเครน Volodymyr Zelensky เข้าเยี่ยมคารวะเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมเพื่อขอบคุณพวกเขา นอกจากนี้ Zelensky ยังปลดหัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยของเมือง "เนื่องจากไม่ทํางานเพื่อปกป้องเมืองตั้งแต่วันแรกของสงครามเต็มรูปแบบ"[NY Post] [Reuters] [BBC] [The Moscow Times] ในที่สุดรัสเซียก็ยึดเมืองท่าทางตอนใต้ชื่อ Mariupol เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมหลังจากการล้อมสามเดือน พลเรือนและทหารสุดท้ายถูกอพยพไปตามทางเดินด้านมนุษยธรรม แต่กองกําลังเหล่านี้บางส่วนถูกนําตัวไปยังเขตควบคุมของรัสเซียซึ่งประธานาธิบดี Vladimir Putin กล่าวว่าพวกเขาจะได้รับการปฏิบัติที่ "สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง" นายกรัฐมนตรีของเยอรมัน Olaf Scholz และประธานาธิบดี Emmanuel Macron แห่งฝรั่งเศส ได้โทรศัพท์หา Putin เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยกําลังทหารเหล่านี้ การควบคุม Mariupol หมายความว่าตอนนี้มอสโกมีทางเดินบกที่เชื่อมโยงรัสเซียแผ่นดินใหญ่และแหลมไครเมียกับยูเครนตอนใต้รวมถึงแผ่นปล่อยเพื่อขับเครื่องจักรสง ครามไปทางเหนือ [BBC] [NY Post] [Forbes] ยูเครนติดตั้งการต่อต้านครั้งใหญ่เพื่อยึด Kherson คืนในวันที่ 29 พฤษภาคม กองทัพยูเครนบอกกับเมืองท่าทางตอนใต้ผ่านทวิตเตอร์ว่า "เดี๋ยวก่อนเคอร์สัน เรากําลังมา" รัสเซียบุกและครอบครองเมือง Kherson ในเดือนมีนาคมหลังจากการต่อสู้อย่างหนักเมื่อกองกําลังมอสโกผลักขึ้นเหนือจากแหลมไครเมีย [Ukrinform] [The Telegraph] เขียนให้กับ Atlantic Council, นักวิชาการชาวอังกฤษ และผู้เชียวชาญเรื่องยูเครน Taras Kuzio เชื่อว่าการรณรงค์ของรัสเซียทางตอนใต้ของยูเครนจะ "ระบุว่า Vladimir Putin จะสามารถบรรลุเป้าหมายในการดับสถานะยูเครนและรวมส่วนใหญ่ของประเทศเข้ากับจักรวรรดิรัสเซียใหม่ได้หรือไม่" ค่าเงินรูเบิล ปรับตัวแข็งค่าขึ้น เศรษฐกิจรัสเซียกําลังยืนหยัดเพื่อทดสอบการคว่ําบาตรของชาติตะวันตก แม้จะมีการนําเข้าที่ต่ําและราคาผู้บริโภคสูง ขณะนี้ รูเบิลเป็นสกุลเงินที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในโลกหลังจากค่าเงินกลับจากระดับต่ําสุดตลอดกาลในเดือนมีนาคม รัสเซียมีการส่งออกพลังงานเกือบ 20 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือนและธุรกิจจากจีนและอินเดียได้ช่วยตอบโต้การดำเนินธุรกิจที่ลดลงจากยุโรปและสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการคว่ําบาตรอาจกระทบเศรษฐกิจของรัสเซียได้ยากขึ้นในระยะยาว [Markets Insider] [The Economist] [FT] พลเรือนมากกว่า 4,000 คนถูกฆ่าตายในสงครามตามรายงานของสหประชาชาติ แต่เชื่อว่าจำนวนที่แท้จริงน่าจะสูงกว่านี้มาก นอกจากนี้ประชากร เกือบ 12 ล้านคนได้หลบหนีจากความขัดแย้งยูเครน - มากกว่าประชากรของสวีเดน - รวมถึง 7 ล้านคนพลัดถิ่นภายในประเทศ ขณะเดียวกันยูเครนได้ทําการพิพากษาคดีอาชญากรรมสงคราม 2 ครั้ง คือ ทหารรัสเซีย 3 นายได้รับโทษจําคุก เคียฟกล่าวหารัสเซียอย่างต่อเนื่องว่ากระทําการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ [Fox News] [Al Jazeera] [FT] [Sky News] [Ukrinform] [Reuters] กระทรวงกลาโหมของสหราชอาณาจักรกล่าวว่ายอดผู้เสียชีวิตของรัสเซียจนถึงขณะนี้ในยูเครนนั้นคล้ายกับที่สหภาพโซเวียตประสบในสงครามปี 1979-1989 ในอัฟกานิสถาน ประธานาธิบดีของยูเครน Volodymyr Zelensky ได้กล่าวว่าทหารของยูเครนจำนวนระหว่าง 50 และ 100 คน กําลังจะตายทุกวัน – อีก 1,000 คน มีแนวโน้มที่จะได้รับบาดเจ็บในการต่อสู้ในแต่ละวัน [Reuters] [CNN] [FT] Putin หวังที่จะผนวกภูมิภาคดอนบาสตะวันออกทั้งหมดให้ทันเวลาสําหรับขบวนพาเหรดวันแห่งชัยชนะ 9 พฤษภาคมที่จัดขึ้นในมอสโกเพื่อรําลึกถึงความพ่ายแพ้ของรัสเซียในปี 1945 ของนาซีเยอรมนี อย่างไรก็ตาม การเฉลิมฉลองของพิธีนี้เชื่อว่าเป็นการรณรงค์ของรัสเซียในยูเครน ที่ผิดหวังและถูกผลักดันกลับไปยังตะวันออกเฉียงใต้โดยความพยายามในการป้องกันยูเครน [The New York Times] Gideon Rachman หัวหน้าฝ่ายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ของ Financial Times กล่าวว่า: "ภาพค่อนข้างเป็นไปในทางที่ไม่สามารถแพ้ได้ เครื่องสงครามรัสเซียที่เข้มแข็งได้ทำการรุกราน แม้แต่นักวิเคราะห์ข่าวกรองตะวันตกก็คาดว่ารัสเซียจะชนะได้ค่อนข้างง่าย” [FT] รายงานยังชี้ให้เห็นว่ารัสเซียได้เริ่มใช้รถถังยุคโซเวียตออกเพราะรถถังรัสเซียดูเหมือนจะลดลง รถถังเหล่านี้อาจมีความเสี่ยงต่ออาวุธต่อต้านรถถังที่ทันสมัยของยูเครน [Business Insider] แต่ขีปนาวุธที่คล่องแคล่วจากเรือรบรัสเซียที่ลงมาในเมืองตะวันตกเช่น Lviv รวมถึงการครอบครองต่อตารางนิ้วโดยมอสโกในภาคใต้และตะวันออกของยูเครนเป็นเครื่องเตือนใจถึงพลังของรัสเซียและจะชนะ Samuel Cranny-Evans นักวิเคราะห์ทางทหาร จากสถาบันคลังความคิดของลอนดอน Royal United Services กล่าวว่า “กองทัพรัสเซียยังไม่ใช่กองกําลังที่ถูกใช้ไป ยังคงต่อสู้อย่างก้าวหน้าและยังคงก่อให้เกิดความสูญเสียยูเครน” [The New York Times] [FT] การเจรจาสันติภาพยังคงหยุดชะงัก Zelensky ยืนยันว่าเคียฟต้องการฟื้นดินแดนทั้งหมดจากรัสเซีย Zelensky ปฏิเสธ ข้อเสนอแนะเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม จากอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ Henry Kissinger ว่าเคียฟควรจะยกดินแดนในยูเครนตะวันออกให้แก่รัสเซียเพื่อยุติข้อขัดแย้ง Kissinger กล่าวว่า “การเจรจาต้องเริ่มต้นในอีกสองเดือนข้างหน้าก่อนที่จะสร้างความวุ่นวายและความตึงเครียดที่ไม่สามารถเอาชนะได้อย่างง่ายดาย […] การดำเนินการสงครามที่เกินกว่าจุดนั้นจะไม่เกี่ยวกับเสรีภาพของยูเครน แต่เป็นสงครามใหม่กับรัสเซียเอง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ Lloyd Austin เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ร้องขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย Sergei Shoigu ดำเนินการ “หยุดยิงทันที” [CNN] [Reuters][CNN] [Newsweek] [CNN] ความแตกแย้งภายในสหภาพยุโรป Cracks across the EU การหาเส้นทางสู่สันติภาพยังทําให้รอยร้าวทั่วสหภาพยุโรป ข้อสังเกตจากผู้สังเกตการณ์ ประธานาธิบดี Macron ของฝรั่งเศส ได้สร้างความคิดของ "ยุโรปสองชั้น" ความคิดของนายกรัฐมนตรีของอิตาลี เรื่อง “การปฏิบัติของรัฐบาลกลาง” เรียกร้องให้การตัดสินใจไม่ต้องเป็นการตัดสินที่เป็นเอกฉันท์ของทุกประเทศในสหภาพยุโรป ในขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของออสเตรีย Alexander Schallenberg เรียกร้องให้สหภาพยุโรปเร่งกระบวนการการเข้าเป็นสมาชิกและให้ไฟเขียวแก่ ยูเครนและมอลโดวาอย่างเร่งด่วน [EuroNews] [EuroNews] [The Economist] [FT] เขียนให้แก่ Atlantic Council, บรรณาธิการ Peter Dickinson แห่ง UkraineAlert กล่าวว่า "หลายเสียงใดในเวทีระหว่างประเทศยังไม่ได้เข้าใจอย่างเต็มที่ถึงขนาดที่แท้จริงของความทะเยอทะยานของจักรวรรดิรัสเซียและดูเหมือนจะเชื่อ ว่าการเจรจาบางอย่างยังคงเป็นไปได้ นี่เป็นความคิดที่อันตราย ไม่มีการประนีประนอมกับเครมลิน ตราบใดที่ Putin พยายามกวาดล้างยูเครนออกจากแผนที่" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของยูเครน Dmytro Kuleba ชื่นชมสหภาพยุโรปที่ World Economic Forum ในสวิตเซอร์แลนด์สําหรับสิ่งที่เขาเรียกว่า "การตัดสินใจที่เป็นการปฏิวัติและเป็นการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่” [Republic World] คณะกรรมาธิการยุโรปกําลังจัดทําแผนการเพื่อลดผลกระทบของรัสเซียที่อาจตัดเสบียงก๊าซไปยังยุโรปมากขึ้น Gazprom ผู้จัดจําหน่ายก๊าซรัสเซียหยุดส่งมอบไปยังโปแลนด์และบัลแกเรียในเดือนเมษายนและหยุดส่งไปยังฟินแลนด์เมื่อประเทศนอร์ดิกนําสวีเดนเข้าสม ัครสมาชิกนาโต้เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม แต่ท่ามกลางความพยายามในการยุติก๊าซรัสเซียในยุโรป ประเทศผู้สมัครของสหภาพยุโรปที่มีศักยภาพ เซอร์เบียเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมประกาศข้อตกลงการจัดหาก๊าซสามปีกับรัสเซีย อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ผู้นําสหภาพยุโรปตกลงที่จะห้ามการส่งมอบน้ํามันของรัสเซียทางทะเลภายในสิ้นปีนี้ การห้ามดังกล่าวจะไม่ครอบคลุมถึงน้ํามันที่จัดหาโดยท่อส่งน้ําและจําเป็นสําหรับประเทศที่ปิดล้อมด้วยการเข้าถึงเชื้อเพลิงที่ไม่ใช่ของ รัสเซีย [FT] [Reuters] [Euractiv] [Al Jazeera] [Reuters] สหภาพยุโรปยังมีความคิดในการใช้สินทรัพย์รัสเซียที่ถูกอายัดเพื่อระดมทุนในการสร้างยูเครน โฆษกรัสเซียกล่าวว่าการใช้สินทรัพย์ดังกล่าว จะเป็นเงินที่ถูก "โจรกรรมทันที" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย Sergei Lavrov กล่าวหาประเทศตะวันตก ว่าประกาศสงครามทั้งหมดในรัสเซียและ "ใช้เครื่องมือที่หลากหลายที่สุดตั้งแต่การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจฝ่ายเดียวไปจนถึงการโฆษณาชวนเชื่อที่ผิดพลาดอย่างทั่วถึงในพื้นที่สื่อทั ่วโลก" [Handelsblatt] [Reuters] [CNN] [Washington Post] [Times of Israel] ประธานาธิบดี Zelensky ได้กล่าวว่ายูเครนจะต้องใช้ 7 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือนเพื่อให้ครอบคลุมการสูญเสียทางเศรษฐกิจของสงครามรัสเซีย ในเดือนพฤษภาคมประเทศในสหภาพยุโรปและ G7 ตกลงที่จะจัดสรรอีก 9.5 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อประเทศให้กับยูเครน [Reuters] สืบเนื่องจากการชื่นชมสหภาพยุโรป Kuleba กล่าวหา NATO ว่า “ไม่ทำอะไรเลย” กับการรุกรานของรัสเซีย นาโต้ได้กล่าวซ้ำๆ ว่าจะไม่ถูกดึงเข้าสู่ความขัดแย้งโดยตรงกับมอสโก - แต่กองกําลังของประเทศได้เรียงรายติดกับพรมแดนกับรัสเซีย [The Week] [The Guardian] ขีปนาวุธระยะไกล? Biden กล่าวว่า “ไม่” ในกรุงวอชิงตัน ประธานาธิบดี Joe Biden ของสหรัฐฯ ได้ลงนามในการสนับสนุนทางทหาร เศรษฐกิจ และมนุษยธรรมเพิ่มเติมอีก 40,000 ล้านเหรียญสหรัฐสําหรับยูเครนเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ขณะนี้สหรัฐฯ ได้ใช้จ่ายมากกว่า 54 พันล้านเหรียญสหรัฐในการทําสงครามในยูเครน เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม Biden ปฏิเสธคําขอขีปนาวุธพิสัยไกลของเคียฟที่สามารถไปถึงเป้าหมายภายในรัสเซียได้ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ แสดงความกังวลว่ามอสโกจะมองว่าการส่งมอบอาวุธเหล่านี้เป็นการยั่วยุซึ่งอาจยกระดับความขัดแย้งได้ [FT] [CNN] [Reuters] [The New York Times] [The Guardian] ผู้นำประเทศของยุโรป–นายกรัฐมนตรีของอิตาลี Mario Draghi นายกรัฐมนตรีของออสเตรีย Karl Nehammer, นายกรัฐมนตรีของเยอรมัน Scholz และประธานาธิบดีขอฝรั่งเศส Macron ได้กระตุ้นให้ Putin อนุญาตให้ข้าวสาลี 25 ล้านตันออกจาก ยูเครนท่ามกลางความกลัวของการขาดแคลนอาหารทั่วโลกที่กําลังจะมาถึง ยูเครนและรัสเซียร่วมกันส่งออกข้าวสาลีกว่าร้อยละ 30 ของโลก สอดคล้องกับนักวิทยาศาสตร์ด้านข้อมูลของมหาวิทยาลัยออกฟอร์ด Dr. Hannah Ritchie ประเทศในตะวันออกกลางและแอฟริกาที่เป็นประเทศที่มีรายได้ต่ำซึ่งส่วนมากพึ่งพาการส่งออกข้าวสาลีจากยูเครนและรัสเซียเป็นประเทศที่จะได้ รับผลกระทบ แต่ปัญหาการส่งออกของยูเครนจะไม่ส่งผลกระทบร้ายแรงทั่วโลกตามที่พาดหัวข่าวหลายฉบับเสนอ Dr. Ritchie กล่าว [FT] [EuroNews] [Republic World] [The Economist] [Sky News] [AP] ยูเครนและโปแลนด์เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมตกลงที่จะทํางานร่วมกันเพื่อช่วยเปลี่ยนเส้นทางการส่งออกยูเครนจากทะเลผ่าน บริษัท รถไฟที่ใช้ร่วมกันซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาการเคลื่อนไหวของผู้คนที่หลบหนีจากยูเครน [Reuters] (ht/pk, transl. by nl)
การคุกคามทางนิวเคลียร์ของรัสเซีย– เชื่อถือได้แค่ไหน? ตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนความกังวลอย่างต่อเนื่องก็เพิ่มขึ้น ในขณะที่ยูเครนติดตั้งการป้องกันที่แข็งแกร่งนักวิเคราะห์และนักยุทธศาสตร์ได้ถามตัวเองว่ามอสโกสามารถทําสิ่งที่คิดไม่ถึงและเข้าถึงคล ังแสงปรมาณูได้หรือไม่ เครมลินไม่ได้หลบเลี่ยงการเตือนฝ่ายตรงข้ามว่ามันมีตัวเลือกดังกล่าว แต่คําถามคือ: ภัยคุกคามเหล่านี้น่าเชื่อถือเพียงใดและสงครามในยูเครนมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนไปใช้อาวุธนิวเคลียร์มากน้อยเพียงใด? ในระหว่างการสร้างกองทัพของมอสโกที่ชายแดนยูเครนในช่วงปลายปี 2563 และ 2564 การเจรจาเกี่ยวกับสนธิสัญญาจํากัดอาวุธนิวเคลียร์ใหม่ระหว่างสหรัฐอเมริกาและรัสเซียยุติลง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย Sergey Ryabkov เตือนว่าหากไม่มีสนธิสัญญาใหม่มอสโกจะถูกบังคับให้ประจําการอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลางในดินแดนยุโรป - ในขณะที่ประธานาธิบดีเบลารุส Aleksandr Lukashenko แสดงความเต็มใจที่จะเป็นเจ้าภาพ [Reuters] [VOA News] [Guardian] ภัยคุกคามโดยตรงครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อรัสเซียจัดฉากการฝึกซ้อมนิวเคลียร์ "Grom-2022" ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ท่ามกลางการปฏิเสธว่าเขากําลังวางแผนบุกยูเครน, Putin ดูการฝึกซ้อมดังกล่าวกับ Lukashenko [Associated Press] [The Barents Observer] [RFE/RL] ไม่นานหลังจากเริ่มดําเนินการในสิ่งที่เรียกว่า "ปฏิบัติการพิเศษ" ของเขาในยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ Putin เตือนว่าประเทศที่พยายามแทรกแซงจะต้องเผชิญกับ "ผลที่ตามมาที่พวกเขาไม่เคยเห็น" เนื่องจากรัสเซียวางกองกําลังยับยั้งนิวเคลียร์ไว้ในการแจ้งเตือนสูงสุด [Guardian] [Deutsche Welle] [BBC News] [Financial Times] เมื่อเทียบกับฉากหลังของความพ่ายแพ้ทางทหารในยูเครนและการดำเนินการคว่ําบาตรจากชาติตะวันตก ภัยคุกคามนิวเคลียร์ของรัสเซียก็ชัดเจนยิ่งขึ้น Putin ขู่ว่าจะประท้วงตอบโต้ "ฟ้าผ่าเร็ว" เนื่องจากประเทศนาโต้ได้เพิ่มการจัดหาอุปกรณ์ทางทหารให้กับยูเครนในเดือนมีนาคมและเมษายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย Sergei Lavrov กล่าวถึงสงครามนิวเคลียร์ในปลายเดือนเมษายนเมื่อปฏิบัติการรบในยูเครนตะวันออกทวีความรุนแรงขึ้น Lavrov เตือนฝ่ายตรงข้ามของรัสเซียว่าอย่า "ประมาท" ความเสี่ยงของความขัดแย้งนิวเคลียร์โดยระบุว่าอันตรายนั้น "ร้ายแรงจริง" [Reuters] [Politico Europe][RTÉ] [Financial Times] กล่าวกับ Foreign Policy, Matthew Bunn, ศาสตราจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธนิวเคลียร์ จาก Harvard University, แย้งว่าเป้าหมายของมอสโกคือการข่มขู่ Bunn เชื่อว่า "จากมุมมองทางทหาร [Putin] ไม่จําเป็นต้องใช้อาวุธนิวเคลียร์จริงๆ" อย่างไรก็ตามเขายังเตือนว่าภัยคุกคามดังกล่าวจะทําให้การเผชิญหน้านิวเคลียร์ในอนาคตมีแนวโน้มมากขึ้นเนื่องจากอาจจํากัดความสามารถของร ัสเซียในการ "เจรจาการลดความเสี่ยงและการควบคุมอาวุธ" กับรัฐติดอาวุธนิวเคลียร์อื่นๆ [Foreign Policy] Jeffrey Lewis, นักวิชการอาวุโส ที่ Middlebury Institute of International Studies และ Olga Oliker ผู้อำนวยการโครงการที่ International Crisis Group, เห็นท่าทีของรัสเซียในมุมมองคล้ายกัน ในมุมมองของพวกเขาภัยคุกคามนิวเคลียร์เป็นความพยายามที่จะหันเหความสนใจจากความพ่ายแพ้ทางทหารรอบเคียฟ ในการสํารวจความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญที่จัดทำโดย Bulletin of the Atomic Scientists ความเห็นดังกล่าวเป็นความเห็นส่วนมาก [NPR] อดีตเลขาธิการนาโต้ Anders Fogh Rasmussen ยังคงเชื่อตามแนวความคิดนี้ เขากล่าวว่าภัยคุกคามเป็น "ความพยายามที่จะข่มขู่พันธมิตรนาโต้ในการลดการส่งมอบอาวุธไปยังยูเครน” [Deutsche Welle] อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญหลายๆ คนกังขา: ภัยคุกคามล่าสุดของรัสเซียเหมาะกับรูปแบบการสั่นไหวของนิวเคลียร์ที่มีอายุเกือบทศวรรษ นับตั้งแต่ครอบครองแหลมไครเมียในปี 2557 รัฐบาล Putin ได้อวดคลังแสงปรมาณูอย่างต่อเนื่อง ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2557 รัสเซียได้ข่มขู่ยูเครนด้วยอาวุธนิวเคลียร์หากพยายามยึดแหลมไครเมียกลับคืนมา ต่อมาในปีนั้น Putin เตือนรัฐต่างประเทศว่าอย่าดําเนินการ "ไม่เป็นมิตร" ต่อรัสเซียและ "จะเป็นการดีที่สุดที่จะไม่ยุ่งกับเรา" [Diplomat] [Guardian] [Reuters] ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เจ้าหน้าที่รัสเซียได้อวดคลังแสงนิวเคลียร์ของประเทศเพื่อตอบสนองต่อการส่งอาวุธไปยังยูเครนจากประเทศสมาชิกภัยคุกคามเหล่านี้ยังคงดําเ นินต่อไปแม้ในขณะที่ความตึงเครียดกับตะวันตกลดลงบ้าง [Financial Times] [Wall Street Journal] ในปี 2561 Putin อวดคลังแสงนิวเคลียร์ของรัสเซียและเชิดชู "อาวุธที่ไม่สามารถจะแพ้ได้" ในสุนทรพจน์เดียวกันนั้นเขาเรียกร้องให้ฝ่ายตรงข้ามของรัสเซีย "คํานึงถึงความเป็นจริงใหม่และเข้าใจว่าทุกสิ่งที่ฉันพูดในวันนี้ไม่ใช่การหลอกลวง" [Reuters] [Guardian] ในที่สุด ผลสุดท้ายของสงครามในยูเครนยังคงเป็นไปไม่ได้ที่จะคาดการณ์เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยังคงดําเนินการต่อสู้แบบเดิม สำหรับผู้เชี่ยวชาญอย่าง Bunn, Lewis และ Rasmussen การใช้อาวุธนิวเคลียร์โดยรัสเซียยังคงไม่น่าเป็นไปได้ แต่มีรูปแบบที่ชัดเจน – การใช้การข่มขู่นิวเคลียร์ของมอสโก นั้นจะดำเนินต่อไป (wb/pk, transl. by nl)
เหล่าผู้นําห้ามนำเข้าน้ำมันส่วนใหญ่จากมอสโกมายังสหภาพยุโรปโดยมีเป้าหมายที่จะไม่ใช้พลังงานของรัสเซียภายในปี 2570 ผู้นําสหภาพยุโรปได้ตกลงที่จะห้ามการนําเข้าน้ำมันในทะเลของรัสเซียภายในสิ้นปีนี้โดยยกเว้นวัสดุสิ้นเปลืองที่ส่งโดยท่อส่งที่จําเป็นต ่อประเทศที่ไม่มีอาณาเขตติดกับทะเลและสามารถเข้าถึงเชื้อเพลิงที่ไม่ใช่เชื้อเพลิงของรัสเซียได้เพียงเล็กน้อย การเคลื่อนไหวดังกล่าวประกาศเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมเกิดขึ้นหลังจากการเจรจาหลายสัปดาห์ในระหว่างที่ฮังการีปิดกั้นการห้ามใช้น้ำมันเต็มจํานวน บูดาเปสต์ประสบความสําเร็จในการค้ำประกันซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสาธารณรัฐเช็กและสโลวาเกียที่ได้รับน้ำมันดิบของรัสเซียผ่านท่อ Druzhba น้ำมันในทะเลคิดเป็นประมาณสองในสามของการส่งออกของมอสโกไปยังสหภาพยุโรป คํามั่นสัญญาของเยอรมนีและโปแลนด์ที่จะหยุดการนําเข้าท่อของพวกเขาภายในสิ้นปี หมายความว่า การห้ามค้าขายอาจครอบคลุมร้อยละ 90 ของน้ำมันรัสเซียที่ส่งไปยังกลุ่ม [Euronews] เพื่อป้องกันการบิดเบือนของตลาด มาตรการที่คาดว่าจะรวมถึงข้อห้ามในการส่งออกซ้ำและการขายซ้ำผลิตภัณฑ์ที่ได้จากกลั่นจากน้ำมันรัสเซียที่ส่งมอบทางท่อ [FT] [Reuters] ฝ่ายค้านโดยบูดาเปสต์ได้ถ่วงเวลามาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรปครั้งที่หกต่อเครมลินแพคเกจนี้รวมถึงมาตรการในการกำจัดธนาคาร Sberbank ของรัสเซียออกจากระบบการชําระเงินระหว่างประเทศ SWIFT รวมถึงการห้ามเดินทางและการอายัดสินทรัพย์ของบุคคลและข้อ จํากัด เกี่ยวกับสื่อของรัฐรัสเซีย [FT] ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป Ursula von der Leyen เรียกข้อตกลงดังกล่าว ว่า “การดำเนินการที่สำคัญ” และกล่าวว่าสหภาพยุโรปจะ "เร็ว ๆ นี้กลับไปที่ปัญหา" ของ "ส่วนที่เหลือร้อยละ 10 ของน้ำมันที่ส่งทางท่อ" [EC] สื่อมวลชนยุโรปแบ่งแยกเรื่องมาตรการคว่ำบาตรใหม่ Finland’s Helsingin Sanomat daily วิพากษ์วิจารณ์ยุโรปสําหรับการประนีประนอม โดยกล่าวว่า: "การคว่ำบาตรน้ำมันที่กระจัดกระจายอย่างถาวร [...] จะเป็นอาณัติให้ฆ่าต่อไป" [HS] ในขณะเดียวกัน Simon Jenkins คอลัมนิสต์ของเดอะการ์เดียน ของอังกฤษเรียกร้องให้ยุติการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียว่า "ไม่ได้ทำให้รัสเซียสนใจที่จะออกจากยูเครน พวกเขาสร้างความทุกข์ทรมานอย่างมากทั่วโลกเนื่องจากราคาอาหารและพลังงานทะยานขึ้น” [The Guardian] การประกาศมาตรการคว่ำบาตรครั้งที่หกของสหภาพยุโรปต่อรัสเซียเกิดขึ้นหลังจากที่คณะกรรมาธิการยุโรปได้เปิดตัวโครงการเกือบ 300 พันล้านยูโร เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม เพื่อยุติการพึ่งพาพลังงานของสหภาพยุโรปต่อรัสเซียภายในห้าปีและเร่งการเปลี่ยนผ่านของกลุ่มไปสู่พลังงานทดแทน แผนนี้ขนานนามว่า RePowerEU วางเส้นทางที่จะไม่ใช้น้ำมันของรัสเซียอย่างสมบูรณ์ก่อนปี 2570 โดยการประหยัดพลังงาน การหาผู้ให้บริการพลังงานทางเลือก เร่งการเปลี่ยนไปสู่พลังงานหมุนเวียนและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน [CNN] [Politico] โครงการนี้ยกระดับเป้าหมายพลังงานทดแทนสําหรับปี 2573 และรวมถึงการลงทุนจำนวนมากในพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมไฮโดรเจนการประหยัดพลังงานและปั๊มความร้อน แต่รวมถึงเงินทุนสําหรับเชื้อเพลิงฟอสซิลเช่นกัน [The Guardian] นอกจากนี้ ยังมีมาตรการเพื่อปรับปรุงกระบวนการอนุมัติสําหรับโครงการหมุนเวียนในประเทศในสหภาพยุโรป และมีเป้าหมายที่จะเพิ่มกําลังการผลิตแผงโซลาร์เซลล์เป็นสองเท่าภายในปี 2568 รวมถึงการกำหนดภาระหน้าที่ในการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนอาคารที่อยู่อาศัยใหม่ภายในปี 2572 [AP] [Politico] ความต้องการก๊าซของสหภาพยุโรปคาดว่าจะลดลง 30 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2573 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอน อย่างไรก็ตามเพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานทันที RePowerEU จัดสรร 10 พันล้านยูโรสําหรับโครงการก๊าซและก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) บรัสเซลส์ยังเพิ่มการจัดซื้อ อนุญาตให้ประเทศสมาชิกสามารถซื้อก๊าซร่วมกันเพื่อเจรจาราคาที่ดีขึ้นรวมถึงการขยายกลไกการป้องกันราคาชั่วคราว [Al Jazeera] [The Guardian] สมาชิกสหภาพยุโรปคาดว่าจะบรรลุเป้าหมายของบรัสเซลส์ในการลดการบริโภคก๊าซรัสเซียโดยสองในสามในช่วงปลายปีนี้ เช่นเดียวกับการห้ามการนําเข้าถ่านหินรัสเซียภายในเดือนสิงหาคม [CNN] [Europe Monthly May 2022] (qv/pk, transl. by nl)
สวีเดน ฟินแลนด์สมัครเข้าร่วมนาโต้เนื่องด้วยการเปลี่ยนแปลงและสั่นคลอนในความมั่นคง สวีเดนและฟินแลนด์เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมสมัครอย่างเป็นทางการเพื่อเข้าร่วมนาโต้หลังจากหลายทศวรรษของการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด การเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่สําคัญที่เกิดจากการรุกรานของรัสเซียยูเครน การเคลื่อนไหวดังกล่าวกระตุ้นให้เกิดการต่อต้านจากตุรกีซึ่งกล่าวว่าสามารถถ่วงเวลากระบวนการได้และคําเตือนที่คลุมเครือจากมอสโกว่าสาม ารถส่ง "การตอบสนอง" ได้ การเสนอตัวของทั้งสองประเทศนอร์ดิกในการเข้าเป็นสมาชิกนาโต้ซึ่งนําโดยฟินแลนด์ อย่างไรก็ดี เฮลซิงกิและสตอกโฮล์มที่จะเดินให้ทันกับสมาชิกอื่นจะทำให้พันธมิตรตะวันตกขยายตัวถัดจากชายแดนของรัสเซีย - สถานการณ์ที่ประธานาธิบดี Vladimir Putin อ้างว่าเป็นหนึ่งในเหตุผลของเขาในการปลดปล่อยสิ่งที่เขาอธิบายว่าเป็น "ปฏิบัติการพิเศษ" ของเขาในยูเครน ผู้สังเกตการณ์อธิบายถึงการตอบโต้แบบมีข้อจำกัดอย่างผิดปกติต่อแผนของฟินแลนด์และสวีเดนว่า ประธานาธิบดี Putin กล่าวเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมาถึงคำขอเพื่อขยายสมาชิกภาพของกลุ่มพันธมิตรดังกล่าวว่า “ไม่ได้สร้างภัยคุกคามโดยตรงต่อรัสเซีย’’ ซึ่งเป็นการโต้กลับที่ผู้สังเกตการณ์ต่างมองว่ามีการสงวนท่าทีจนน่าแปลกใจต่อฝั่งสวีเดนและฟินแลนด์ แต่เขายังกล่าวเพิ่มอีกว่า การขยายโครงสร้างทางกองกำลังในประเทศใดก็ตามโดยนาโต้ ‘’จะเป็นการชี้ชนวนให้ฝ่ายเราต้องตอบโต้ สืบเนื่องมาจากภัยคุกคามต่อเราที่สร้างโดยพวกเขาเอง” [Financial Times] เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ประธานาธิบดี Dmitry Medvedev หนึ่งในพันธมิตรคนสนิทของประธานาธิบดี Putin ได้กล่าวอ้างถึงแสนยานุภาพของอาวุธนิวเคลียร์ที่ผลิตโดยรัสเซียเพื่อเป็นการเตือนว่าหากสวีเดนและฟินแลนด์พยายามที่จะปีนขึ้นไปอยู่กับน าโต้ รัฐบาลรัสเซียอาจทำการปล่อยอาวุธนิวเคลียร์จากดินแดนแยก Kaliningrad ซึ่งตั้งอยู่ในชายฝั่งทะเล Baltic [Europe Monthly May 2022] เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ประธานาธิบดี Joe Biden แห่งสหรัฐฯได้แสดงการสนับสนุนอย่างชัดเจนต่อการสมัครเข้าร่วมของสวีเดนและฟินแลนด์ และยังให้สัญญาว่าสหรัฐฯและเหล่าพันธมิตรจะ “ยับยั้งและเผชิญหน้ากับการคุกคามใดๆ ก็ตามในระหว่างที่ฟินแลนด์และสวีเดนยังอยู่ในขั้นตอนลงนาม” ขนาบข้างโดยประธานาธิบดีฟินแลนด์ Sauli Niinisto และนายกรัฐมนตรีแห่งสวีเดน Magdalena Andersson โดยสวีเดนนั้นเป็นประเทศที่แสดงจุดยืนในการไม่ฝักใฝ่ใดในเรื่องการทหารมากว่า 2 ศตวรรษ “จุดพลิกผัน” นายกรัฐมนตรีแห่งสวีเดน Andersson กล่าวผ่านทำเนียบขาวว่า ‘’การโจมตีอย่างเต็มรูปแบบของรัสเซียต่อประเทศเพื่อนบ้านซึ่งมีอธิปไตยและประชาธิปไตยของตนเองอยู่แล้วนั้นคือจุดเปลี่ยนของสวีเดน โดยรัฐบาลของเราได้ลงมติกันแล้วว่าความปลอดภัยของชาวสวีเดนจะถูกปกป้องอย่างดีที่สุดภายใต้ความเป็นพันธมิตรกับนาโต้” [AP] Andersson เคยกล่าวว่าสวีเดนไม่ต้องการฐานบัญชาการถาวรของ NATO หรืออาวุธนิวเคลียร์เข้ามาอยู่ดินแดน [BBC] ตั้งแต่ประธานาธิบดี Putin ได้ส่งทหารไปในยูเครนเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ เสียงสนับสนุนจากภาคประชาชนและภาคการเมืองในเรื่องการเข้าร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฝั่งตะวันตกได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากทั้งในสวีเดนและ ฟินแลนด์ โดยฟินแลนด์เป็นประเทศที่มีชายแดนติดกับรัสเซียยาวกว่า 1,300 กิโลเมตร ในขณะนี้นาโต้ กำลังลังหาแนวหน้าใหม่เพื่อที่จะกดดันรัสเซีย แต่ก็เป็นแนวหน้าที่มีพันธะที่จะต้องป้องกัน [Vox] จากรายงานเชิงวิเคราะห์ของ CNN Stephen Collinson ผู้รายงานข่าวจากทำเนียบขาวกล่าวว่าอาจมี “เสียงสะท้อนกลับที่รุนแรง” เกิดขึ้นจากการที่ NATO ขยายตัวเพื่อเพิ่มประเทศนอร์ดิกทั้งสอง “การเพิ่มกำลังของพันธมิตรในแนวรบที่ติดกับรัสเซียจะถือว่าเป็นการมุ่งเป้าไปที่ประธานาธิบดี Putin โดยตรง”’ เขายังกล่าวเพิ่มอีกว่า “และหากประธานาธิบดี Putin รู้สึกว่ารัสเซียได้ถูกปิดล้อมในแถบแนวตะวันตกอยู่แล้ว การที่นาโต้ เพิ่มสมาชิกเข้าไปอีก 2 ประเทศในช่วงเวลาอันตรึงเครียดที่สุดระหว่างรัฐบาลรัสเซียและตะวันตกในทศวรรษที่ผ่านมาจะเป็นการเพิ่มความหวาดระแวงแก่ผู้นำรัสเซียหรือ ไม่” อย่างไรก็ตาม The Guardian ให้ข้อมูลว่าทั้งสวีเดนและฟินแลนด์คาดการณ์ว่าจะไม่มีผลกระทบอย่างหนักตามมา Minna Alander ผู้เชี่ยวชาญด้านยุโรปเหนือแห่งสถาบันการศึกษาด้านกิจการความมั่นคงระหว่างประเทศแห่งเยอรมนี (German Institute for International and Security Affairs) ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเบอร์ลิน กล่าวกับทางหนังสือพิมพ์ของอังกฤษว่าอาจมีผลกระทบในด้านของ “ข่าวปลอม การโจมตีทางไซเบอร์ หรือการละเมิดเล็กน้อยด้านอวกาศ” โดยเธอกล่าวเพิ่มว่า “พวกเราก็พร้อมรับมือ” การเป็นสมาชิกใหม่ของนาโต้ ต้องผ่านการเห็นชอบจาก 30 ประเทศซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพันธมิตรทางทหารของฝ่ายตะวันตก สมาชิกอย่างเช่นประเทศตุรกีซึ่งมีกองกำลังขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของนาโต้ ได้แสดงการคัดค้านต่อการเข้าเป็นสมาชิก (ดูบทความด้านล่าง) ผู้สังเกตการณ์บางคนกล่าวว่าประธานาธิบดี Recep Tayyip Erdogan คัดค้านการเข้าเป็นสมาชิกของสวีเดนและฟินแลนด์เพื่อใช้เป็นกลยุทธ์ในการต่อรองและสงวนท่าทีการยินยอมในระดับนานาชาติ เพื่อแสดงอำนาจต่อสายตาโลก และโน้มน้าวผู้สนับสนุนภายในประเทศล่วงหน้าการเลือกตั้งประธานาธิบดีและสมาชิกสภาในปีหน้า นับถอยหลังการประชุมนาโต้ ในเดือนมิถุนายน เสียงที่แข็งกร้าวของประธานาธิบดี Erdogan ทำให้สวีเดนและฟินแลนด์เกิดความไม่มั่นใจในการมุ่งไปหานาโต้ และกำบังของชาติพันธมิตรผ่านนโยบายให้การป้องกันร่วมกัน[Politico] ในขณะเดียวกันเวลานับถอยหลังเริ่มใกล้เข้ามาสำหรับการประชุมนาโต้ ในปลายเดือนมิถุนายน ณ กรุงมาดริด ซึ่งตั้งใจว่าจะมีการสร้างแนวร่วมพันธมิตร ผู้สังเกตการณ์และเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายต่างเชื่อกันว่าตุรกีจะไม่ขัดขวางการขยายสมาชิกของนาโต้ “ผลลัพธ์ที่จะเป็นไปได้ที่สุดคือฟินแลนด์และสวีเดนจะรวมกลุ่มในไม่ช้า” กล่าวโดย Garret Martin ผู้อำนวยการร่วมศูนย์นโยบายทรานส์แอตแลนติกที่ American University ในกรุงวอชิงตัน ผ่าน Al Jazeera Martin กล่าวเพิ่มเติมว่า “ประธานาธิบดี Erdogan คือผู้นำแบบแลกเปลี่ยนและราคาที่ต้องจ่ายในการห้ามไม่ให้ประเทศนอร์ดิกทั้งสองเข้าเป็นสมาชิก จะสร้างความโกรธเคืองกับพันธมิตรชาติตะวันตกเป็นอย่างมากซึ่งอาจเป็นการให้โทษมากกว่าประโยชน์เมื่อมองถึงเสียงสนับสนุนในประเทศ” เดนมาร์ก นอร์เวย์ และไอซ์แลนด์ ซึ่งเป็นประเทศสมาชิกของ NATO ได้ออกแถลงการณ์ร่วมเพื่อแสดงการสนับสนุนการเข้าเป็นสมาชิกของสวีเดนและฟินแลนด์ และให้คำสัญญาว่าจะช่วยทั้งสองประเทศหากได้รับการละเมิดจากรัสเซีย [Foreign Policy] Jonas Gahr นายกรัฐมนตรีแห่งนอร์เวย์กล่าวว่า “นอร์เวย์พร้อมที่จะช่วยโดยวิธีใดก็ตามหากสวีเดนและฟินแลนด์ถูกคุกคาม” ก่อนที่ทั้งสองประเทศจะเข้าเป็นสมาชิก NATO [Aftenposten] (pk, transl. by nl, ph) สหภาพยุโรป ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและภูมิรัฐศาสตร์ ![]() อียูระบุว่าการแช่แข็งสินทรัพย์ของรัสเซียมูลค่า 34 พันล้านดอลลาร์สหรัฐนั้นน้อยกว่าที่คาดไว้ Didier Reynders กรรมาธิการยุโรปด้านกิจการยุติธรรมกล่าวเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมว่า ประเทศต่างๆ ในสหภาพยุโรปได้รายงานว่ามีการแช่แข็งสินทรัพย์ของรัสเซียมูลค่าประมาณ 34 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยตัวเลขดังกล่าวสร้างความประหลาดใจให้กับผู้สังเกตการณ์หลายคนที่คาดว่าน่าจะมีมากกว่านี้ จำนวนเงินดังกล่าวประกอบด้วยสินทรัพย์ของธนาคารกลางรัสเซียมูลค่าประมาณ 24.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ และสินทรัพย์ที่จับต้องได้อีก 10 พันล้านเหรียญสหรัฐ เช่น เรือยอทช์และวิลล่า เครมลินได้กล่าวว่าการคว่ำบาตรของตะวันตกทั่วโลกนั้นได้ทำให้สินทรัย์ของธนาคารกลางรัสเซียมูลค่า 300 พันล้านเหรียญสหรัฐถูกแช่แข็ง ในขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ได้ยึดสินทรัพย์ของรัสเซียมูลค่า 100 พันล้านดอลลาร์สหรัฐนับตั้งแต่เริ่มสงครามในยูเครน ซึ่งมากกว่า 27 รัฐบาลในสหภาพยุโรปรวมกันประมาณสามเท่า [euobserver] [Reuters] Christian Lindner รัฐมนตรีคลังของเยอรมนีกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Handelsblatt ที่ตีพิมพ์เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ว่าประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรปและกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลกเจ็ดชาติ (Group of Seven - G7) ได้หารือเกี่ยวกับการใช้สินทรัพย์ของรัสเซียที่ถูกแช่แข็งเพื่อช่วยซ่อมสร้างยูเครนให้คืนสู่สภาพเดิม โฆษกรัฐบาลรัสเซีย Dmitry Peskov กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวจะไม่ชอบด้วยกฎหมายและ “เป็นการโจรกรรมโดยตรงและเปิดเผย” [Washington Post] เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม คณะกรรมาธิการยุโรปได้เสนอกฎระเบียบใหม่เกี่ยวกับการแช่แข็งและยึดสินทรัพย์ “ของประมุขแห่งระบอบคณาธิปไตย (oligarchs) ที่ละเมิดมาตรการจำกัด (restrictive measures) และของอาชญากร” กฎระเบียบดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อขจัดช่องโหว่ทางกฎหมายในสหภาพยุโรปและทำให้ประเทศสมาชิกยึดสินทรัพย์ได้ง่ายขึ้น [European Commission] (jk/pk, transl. by vv)
สาธารณรัฐเช็กได้รับเลือกให้สืบทอดตำแหน่งต่อจากรัสเซียในคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม สาธารณรัฐเช็กได้รับเลือกให้เข้าสู่คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติด้วยเสียงข้างมากเพื่อสืบทอดตำแหน่งต่อจากรัสเซีย ซึ่งถูกระงับไปในเดือนเมษายนเนื่องจากข้อกล่าวหาที่ว่ารัสเซียทำการละเมิดสิทธิ์โดยทหารของตนในช่วงระหว่างสงครามในยูเครน และจากนั้นรัสเซียก็ถอนตัวออกจากคณะมนตรีฯ สาธารณรัฐเช็กเป็นผู้สมัครเพียงรายเดียวในการลงคะแนนเสียงจากประเทศต่างๆ ในสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ โดยมี 157 ประเทศลงคะแนนให้สาธารณรัฐเช็กและ 23 ประเทศงดออกเสียง [Associated Press] ที่นั่งในคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มภูมิภาคต่างๆ และผู้สืบทอดของรัสเซียจะต้องเป็นประเทศในยุโรปตะวันออก [Associated Press] ประเทศสมาชิกจะได้รับการเลือกวาระละสามปี รัสเซียทำหน้าที่อยู่ในปีที่สอง และสาธารณรัฐเช็กก็จะครบวาระ [Reuters] รัสเซียได้สูญเสียที่นั่งจำนวนหนึ่งในสถาบันต่างๆ ขององค์การสหประชาชาติ นับตั้งแต่เริ่มทำสงครามกับยูเครนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ซึ่งรวมถึงคณะกรรมการบริหารขององค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (UN Women) และ UNICEF, คณะกรรมาธิการว่าด้วยองค์กรพัฒนาเอกชน (Committee on Non-governmental Organizations) และที่ประชุมถาวรว่าด้วยประเด็นชนเผ่าพื้นเมือง (Permanent Forum on Indigenous Issues) [Associated Press] (jg/pk, transl. by vv)
ประเทศสมาชิกแสวงหาแนวทางที่ชัดเจนของสหภาพยุโรปเกี่ยวกับกฤษฎีกาของ Putin ว่าด้วยการจ่ายราคาก๊าซเป็นเงินรูเบิล สมาชิกสหภาพยุโรปกำลังร้องขอความชัดเจนเพิ่มขึ้นจากบรัสเซลส์เพื่อหลีกเลี่ยงการฝ่าฝืนมาตรการคว่ำบาตรของกลุ่มต่อมอสโก ด้วยการชำระค่าก๊าซของรัสเซียเป็นเงินรูเบิล ประธานาธิบดี Vladimir Putin ได้ออกกฤษฎีกาเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ซึ่งกำหนดให้บริษัทพลังงานจากประเทศที่ “ไม่เป็นมิตร” ต้องชำระค่าก๊าซในสกุลเงินรัสเซีย แม้ว่าบริษัทส่วนใหญ่จะมีสัญญา (ชำระ) เป็นสกุลเงินยูโรหรือดอลลาร์ก็ตาม ประเทศต่างๆ เช่น ฟินแลนด์ โปแลนด์ และบัลแกเรีย ที่ปฏิเสธจะปฏิบัติตามกฤษฎีกาฉบับนี้ได้ถูกตัดปริมาณก๊าซลง [France 24] มอสโกต้องการให้บริษัทต่างๆ เปิดบัญชีธนาคารสองบัญชีที่ธนาคาร Gazprombank ของรัสเซีย โดยบัญชีหนึ่งเป็นสกุลเงินยูโรหรือดอลลาร์ และอีกบัญชีหนึ่งเป็นเงินรูเบิล บริษัทเหล่านี้ต้องฝากเงินชำระค่าก๊าซในบัญชีแรก ซึ่งจะถูกแปลงเป็นเงินรูเบิลในบัญชีที่สอง เพื่อทำธุรกรรมให้เสร็จสมบูรณ์ คำแนะนำเป็นลายลักษณ์อักษรของคณะกรรมาธิการยุโรประบุว่าบริษัทต่างๆ จะไม่ฝ่าฝืนมาตรการคว่ำบาตรหากพวกเขาชำระเงินในสกุลเงินตามที่ระบุไว้ในสัญญาที่มีอยู่ ไม่ใช่ในสกุลเงินรูเบิล และประกาศว่าภาระผูกพันตามสัญญาของพวกเขาได้รับการปฏิบัติตามในขณะนั้น [Europe Monthly Monthly May 2022] ความคลุมเครือนี้ได้ทำให้บริษัท ENI ของอิตาลีและบริษัท RWE ของเยอรมนี รวมถึงบริษัทพลังงานอื่นๆ ในสหภาพยุโรปดำเนินการต่อไปโดยใช้ระบบนี้ ในขณะที่ประเทศอื่นๆ คัดค้านแผนการนี้ [Politico] โปแลนด์กับเนเธอร์แลนด์กำลังเรียกร้องขอคำแนะนำที่ชัดเจนกว่านี้จากบรัสเซลส์ และขอให้ยุติสิ่งที่นายกรัฐมนตรี Mario Draghi แห่งอิตาลีเรียกว่า “พื้นที่สีเทา” [Reuters] (qv/vb, transl. by vv)
ฝรั่งเศส: บริษัท Engie ต้องจ่ายบริษัท Gazprom ของรัสเซียเป็นเงินยูโรในเดือนพฤษภาคม บริษัทพลังงานของฝรั่งเศส Engie กล่าวเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมว่าตนจะชำระเงินให้กับบริษัท Gazprom ซึ่งเป็นผู้ผลิตก๊าซของรัสเซียเป็นเงินยูโรภายในสิ้นเดือนพฤษภาคม ทั้งสองบริษัทได้ตกลงกันในการแก้ปัญหา (เพื่อให้สอดคล้อง) ตามมาตรการคว่ำบาตรของยุโรป [Reuters] [Reuters][TASS] [MontelNews] ภายหลังการเปิดเผยแนวทางปฏิบัติที่ได้รับการปรับปรุงซึ่งเกี่ยวกับวิธีการที่บริษัทต่างๆ จะสามารถซื้อก๊าซของรัสเซียได้ต่อไปนั้น คณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวว่าการเปิดบัญชีในสกุลเงินรูเบิลของรัสเซียที่ธนาคารรัสเซียเพื่อชำระค่าก๊าซ จะเป็นการฝ่าฝืนมาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรปที่มีต่อมอสโก [Reuters] [Reuters] อย่างไรก็ตาม การคว่ำบาตรของสหภาพยุโรปไม่ได้ป้องกันมิให้บริษัทต่างๆ เปิดบัญชีกับธนาคารที่กำหนด หรือจากการชำระค่าก๊าซของรัสเซียในสกุลเงินที่ตกลงกันไว้ในสัญญาที่มีอยู่ และประกาศว่า (การซื้อขาย) จะเสร็จสมบูรณ์เมื่อทำการชำระเงินด้วยสกุลเงินดังกล่าว บริษัท Gazprom ซึ่งเป็นบริษัทก๊าซยักษ์ใหญ่ของรัสเซียมีสัญญาเกือบทั้งหมดในการจัดส่งก๊าซระหว่างตนกับบริษัทต่างๆ ในสหภาพยุโรปในสกุลเงินยูโรหรือดอลลาร์ [Reuters] [Reuters] (sw/gc, transl. by vv)
ประเทศในทะเลเหนือพยายามจะเป็น ‘โรงไฟฟ้าสีเขียวแห่งยุโรป’ หลายประเทศในทะเลเหนือได้ประกาศแผนริเริ่มด้านพลังงานสีเขียวสำหรับทั่วทั้งยุโรป ซึ่งจะรวมถึงเยอรมนี เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม และเดนมาร์ก ความคิดริเริ่มนี้จะมุ่งเน้นไปที่ลมและไฮโดรเจนสีเขียว (green hydrogen - เชื้อเพลิงทางเลือกที่เป็นพลังงานสะอาดซึ่งเกิดจากการนำพลังงานหมุนเวียนอย่างพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม มาแยกก๊าซไฮโดรเจนออกจากน้ำโดยไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ในกระบวนการผลิต) เนื่องจากประเทศเหล่านี้พยายามที่จะเป็น “โรงไฟฟ้าสีเขียวแห่งยุโรป” ตามการแถลงร่วมที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม การผลิตพลังงานทั้งหมด 65 GW นั้นถูกตั้งเป้าไว้ภายในปี 2030 ซึ่งจะทำให้เพิ่มขึ้นเป็น 150 GW ภายในปี 2050 โครงการนี้จะมีมูลค่าประมาณ 135 พันล้านยูโร ในขณะเดียวกัน กลยุทธ์ของคณะกรรมาธิการยุโรปในปี 2020 ที่ขยายกว้างขึ้นนั้น เห็นความเป็นไปได้ในอนาคตว่ายุโรปจะกลายเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีสะอาด ซึ่งเป็นการดำเนินการที่จำเป็นต้องมีการผลิตพลังงานจากทรัพยากรทางทะเล (offshore energy) เพิ่มขึ้น 30 เท่าภายในปี 2050 โดยจะมีการผลิตพลังงานถึง 340 GW ตลอดทั้งทวีป [Euractiv] [EUR-Lex] คณะกรรมาธิการยุโรปได้กำหนดจำนวนเงิน 800 พันล้านยูโรไว้สำหรับกลยุทธ์อย่างหลังนี้ Robert Habeck รองนายกรัฐมนตรีของเยอรมนีกล่าวว่าข้อตกลง “โรงไฟฟ้าสีเขียวแห่งยุโรป” นี้เป็น “ก้าวที่สำคัญในความร่วมมือข้ามพรมแดน” เขากล่าวเสริมว่า “มันเป็นพื้นฐานสำหรับโรงไฟฟ้ายุโรปที่แท้จริงแห่งแรกที่ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนด้วยเช่นกัน” [Euractiv] เดนมาร์กเตรียมขยายข้อตกลงพร้อมด้วยแผนที่จะพัฒนา “หมู่เกาะพลังงาน” จากกังหันลมที่เพิ่งประกาศใหม่ เนื่องจากประเทศนี้ให้คำมั่นที่จะแทนที่เชื้อเพลิงฟอสซิลของรัสเซียด้วยทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมก่อนปี 2030 “หมู่เกาะ” นี้จะประกอบด้วยกังหันลมหลายร้อยตัวที่จะถูกสร้างขึ้นในทะเลเหนือและทะเลบอลติก เพื่อควบคุมศักยภาพของพลังงานลมที่มากมายมหาศาลซึ่งสามารถจ่ายพลังงานอย่างเพียงพอให้กับบ้านจำนวนประมาณ 5 ล้านหลัง หมู่เกาะแห่งใหม่นี้จะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้บริการรองรับการขยายตัวในอนาคต ซึ่งสามารถให้พลังงานแก่บ้านเรือนเพิ่มขึ้นอีก 5 ล้านหลัง เมื่อรวมกันแล้ว อุปกรณ์เหล่านี้จะผลิตไฟฟ้าได้ถึง 5 กิกะวัตต์ โคเปนเฮเกนได้กล่าวแล้วว่ากำลังพยายามลดก๊าซและน้ำมันของรัสเซียลง เพื่อตอบโต้ต่อการที่รัสเซียรุกรานยูเครน เดนมาร์กได้พยายามเร่งแผนสำหรับ “การเปลี่ยนผ่านที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (green transition)” เดิมแผนนั้นตั้งใจให้เสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2030 แต่ตอนนี้กำลังดำเนินการในอัตราที่เร็วขึ้นอย่างมาก [Europe Monthly May 2022] (cg/pk, transl. by vv)
ตำรวจสเปนจับกุมบล็อกเกอร์ยูเครนในข้อหาทรยศ บล็อกเกอร์และนักข่าวชาวยูเครนคนหนึ่งซึ่งถูกกล่าวหาว่าพยายามอย่างมากเพื่อทำให้ผู้คนยอมรับโฆษณาชวนเชื่อของเครมลิน (Kremlin propaganda) และเป็นผู้ที่ถูกต้องการตัวในประเทศบ้านเกิดของเขาเพราะถูกกล่าวหาว่า “ทรยศต่อประเทศ” และปลุกระดมด้วยวาจาที่สร้างความเกลียดชัง ถูกตำรวจจับกุมตัวในสเปนเมื่อวันที่ 5 เมษายน Anatoly Shariy ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวขณะที่ศาลท้องถิ่นประเมินว่าเขาควรถูกส่งตัวกลับไปยังยูเครน (ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน) หรือไม่ ในระหว่างนี้เขาจะต้องไปขึ้นศาลเดือนละสองครั้ง [ElConfidencial] ช่องยูทูบของ Shariy มีผู้ติดตามกว่า 3 ล้านคน และเขายังได้ดูแลเว็บไซต์ข่าวยอดนิยมที่มีชื่อว่า sharij.net [Swissinfo] Shariy เคยออกมาแสดงการต่อต้านประธานาธิบดียูเครน Viktor Yanukovich ที่สนับสนุนอยู่ข้างรัสเซีย (pro-Kremlin) แต่หลังจากที่ประธานาธิบดี Yanukovich ถูกปลดออกจากตำแหน่ง Shariy ก็เริ่มวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลที่เอนเอียงไปทางตะวันตก ซึ่งเข้ามาปกครองยูเครนต่อจากรัฐบาลของ Yanukovich ต่อมาในปี 2563 เขาก่อตั้งพรรคการเมือง ชื่อว่า “Party of Shariy” โดยส่งเสริมแนวคิดต่อต้านยุโรป และในปีเดียวกันพรรคนี้ได้รับคะแนนเสียงจากการเลือกตั้งนิติบัญญัติหลายครั้งที่ร้อยละ 2.2 อย่างไรก็ดี ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา พรรคของ Shariy เป็นหนึ่งในพรรคการเมืองที่ถูกระงับการดำเนินการ เนื่องจากมีการตรวจพบสายสัมพันธ์อันน่าสงสัยกับรัฐบาลรัสเซีย Shariy ออกมาจากยูเครนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เขาอาศัยในประเทศสเปนมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2021 และยังไม่ชัดเจนว่าเหตุใดเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกักขังเขาไว้ในขณะนี้ ทั้งนี้ โพสต์ที่เผยแพร่หลังจากการจับกุมตัว Shariy บนเพจเฟซบุ๊กของหน่วยความมั่นคงของยูเครน เปิดเผยว่ามี “เหตุผลที่ทำให้เชื่อได้” ว่าเขากำลังกระทำ “ตามคำสั่ง” ขององค์กรต่างชาติ [Politico] (vb/pk, transl. by vv, aa)
คณะกรรมาธิการยุโรปเสนอหลักเกณฑ์ใหม่เพื่อคุ้มครองเด็ก คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) ได้เสนอแผนการเพื่อทำให้การคุ้มครองเด็กจากความรุนแรงทางเพศบนอินเทอร์เน็ตดีขึ้น ทั้งนี้ ในร่างกฎหมายดังกล่าวที่เผยแพร่ออกมาเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ผู้ให้บริการ อาทิ กูเกิลและเฟซบุ๊ก อาจถูกเรียกร้องตามกฎหมายให้ใช้ซอฟท์แวร์เพื่อค้นหาเนื้อหาที่มีความรุนแรงทางเพศต่อเด็กบนบริการหรือแพลตฟอร์มต่างๆ ของตน และต้องรายงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบด้วย [Zeit Online] คณะกรรมาธิการฯ ประกาศบนเว็บไซต์ว่าระบบปัจจุบันที่วางอยู่บนฐานการตรวจสอบและการรายงานโดยสมัครใจของบริษัทเองนั้น “พิสูจน์แล้วว่าไม่เพียงพอสำหรับการคุ้มครองเด็ก” นอกจากนี้ เพื่อช่วยให้ธุรกิจออนไลน์สามารถระบุและรายงานเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย หากมีการนำหลักเกณฑ์ใหม่มาใช้แล้ว จะมีการจัดตั้งศูนย์ภายใต้สหภาพยุโรปที่อุทิศตนเพื่อการต่อสู้กับการทารุณกรรมทางเพศต่อเด็กต่อไป ซึ่งขณะนี้ แผนการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้รับการกำหนดให้ลงคะแนนโดยคณะมนตรียุโรปและรัฐสภายุโรป (European Parliament) แล้ว (acn/pk, transl. by aa)
สหภาพยุโรปตั้งเป้าที่จะคุ้มครองผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชน และผู้สื่อข่าวจากคดีที่เป็นการข่มเหงรังแก เมื่อวันที่ 27 เมษายน คณะกรรมาธิการยุโรป เปิดเผยข้อเสนอเพื่อปรับปรุงการคุ้มครองผู้สื่อข่าวและผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชนจากการดำเนินคดีที่ “เป็นการข่มเหงรังแก” ซึ่งคดีต่าง ๆ ดังกล่าวมีเป้าประสงค์เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาพูดถึงประเด็นที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม โดยคณะกรรมาธิการฯ เปิดเผยว่าจุดมุ่งหมายของสิ่งที่เรียกว่า “คดีเชิงยุทธศาสตร์ต่อการมีส่วนร่วมของประชาชน” หรือเรียกโดยย่อว่า คดี SLAPP ไม่ใช่การฟ้องดำเนินคดีเพื่อให้โจทก์ได้รับความยุติธรรม แต่เป็นการ “คุกคาม ข่มขู่ ทำเพื่อปิดปากจำเลยด้วยระยะเวลาของกระบวนการทางกฎหมาย แรงกดดันทางการเงิน และภัยคุกคามของมาตรการบังคับทางอาญา” [Anwaltsblatt] [European Commission] ระเบียบที่เสนอโดยคณะกรรมาธิการยุโรปนี้ ตั้งใจที่จะให้ศาลของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปตลอดจนจำเลยมีเครื่องมือที่สามารถปัดตกข้อกล่าวหาที่เป็นการข่มเหงรังแกออกไปได้ ตามที่คณะกรรมาธิการฯ กล่าวไว้คือ หลักเกณฑ์ใหม่เหล่านี้จะช่วยให้ผู้พิพากษาสามารถยกฟ้องคดี “ที่ไม่มีมูลชัดแจ้ง” ต่อผู้สื่อข่าวและนักรณรงค์ด้านสิทธิมนุษยชนได้อย่างรวดเร็ว โดยผู้สื่อข่าวและผู้รณรงค์ฯ สามารถอนุญาตให้ศาลกำหนดบทลงโทษโจทก์ได้เช่นเดียวกัน หากคดีดังกล่าวถูกตัดสินว่าเป็นการข่มเหงรังแก [European Commission] (acn/pk, transl. by aa)
องค์กรตรวจสอบอำนาจรัฐวิจารณ์ “กฎหมายที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ” ต่อผู้สื่อข่าว ในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปบางประเทศ องค์กรนักข่าวไร้พรมแดน (Reporters Without Border : RWB) ซึ่งเป็นองค์กรตรวจสอบอำนาจรัฐสำหรับสื่อ (media watchdog) เปิดเผยในรายงานประจำปีว่าประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปบางประเทศได้ “เพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ (draconian laws)” ต่อผู้สื่อข่าว และไม่สามารถคุ้มครองให้นักข่าวปลอดภัยได้ ทั้งนี้ รายงานการจัดอันดับเสรีภาพของสื่อมวลชน (Press Freedom Index) ฉบับล่าสุดที่ตีพิมพ์ออกมาเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ระบุว่าเสรีภาพสื่อมวลชนทั่วโลกเลวร้ายลงในช่วงปีที่แล้ว โดยให้คะแนนสถานการณ์ใน 28 ประเทศว่าเสรีภาพสื่อมวลชนในประเทศนั้น ๆ ตกต่ำอยู่ในระดับ “ร้ายแรงมาก” ซึ่งต่ำเป็นประวัติการณ์ [RWB] สำหรับดัชนีที่ใช้ในการวิเคราะห์ระดับเสรีภาพของสื่อมวลชนในประเทศหนึ่งนั้น วางอยู่บน 5 เกณฑ์ ดังนี้ บริบททางการเมือง กรอบการดำเนินงานทางกฎหมาย บริบททางเศรษฐกิจ บริบททางสังคมและวัฒนธรรม และความปลอดภัยของผู้สื่อข่าว หลายประเทศได้รับการประเมินจากระดับ “ดี” ซึ่งเป็นอันดับที่ดีที่สุด ไปจนถึง “ร้ายแรงมาก” ซึ่งเป็นอันดับที่แย่ที่สุด อย่างไรก็ดี ระเบียบวิธีวิจัยสำหรับการจัดอันดับของรายงานปีนี้ ถูกเปลี่ยนไปจากเดิม และหากมีการเปรียบเทียบระหว่างรายงานปี ค.ศ. 2564 และ 2565 ก็ต้องทำอย่างระมัดระวัง [EuroNews] สำหรับยุโรป 4 จาก 5 อันดับแรกในรายงานการจัดอันดับเสรีภาพของสื่อมวลชน เป็นประเทศสแกนดิเนเวียถึง 4 ประเทศอีกครั้ง ได้แก่ นอร์เวย์ (อันดับ 1) เดนมาร์ก (อันดับ 2) สวีเดน (อันดับ 3) ฟินแลนด์ (อันดับ 5) พร้อมด้วยเอสโตเนียที่อยู่ในอันดับ 4 นอกจากเอสโตเนียแล้ว ลิทัวเนีย (อันดับ 9 ซึ่งขยับอันดับขึ้นมาถึง 19 อันดับ หากเทียบกับรายงานการจัดอันดับเมื่อปีที่แล้ว) สาธารณรัฐเช็ก (อันดับ 20 ซึ่งขยับอันดับขึ้นมาถึง 20 อันดับ) เซอร์เบีย (อันดับ 79 ซึ่งขยับอันดับขึ้นมาถึง 14 อันดับ) และบัลแกเรีย (อันดับ 91 ซึ่งขยับอันดับขึ้นมาถึง 21 อันดับ) ก็ขยับอันดับขึ้นมามหาศาลในการจัดอันดับครั้งนี้ ด้านเนเธอร์แลนด์ (อันดับ 28 ซึ่งตกลงไปถึง 22 อันดับ) และกรีซ (อันดับ 108 ซึ่งตกลงไปถึง 38 อันดับ) กลับถอยหลังลงไปอย่างมาก องค์กรนักข่าวไร้พรมแดนเผยว่าสาเหตุหลักที่ทำให้ประเทศเหล่านี้ตกอันดับ มาจากการที่ผู้สื่อข่าวในแต่ละประเทศ “ถูกยิงโดยการยิงนั้นมีลักษณะแบบมาเฟีย” องค์กรนักข่าวไร้พรมแดนยังเสริมอีกว่า เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี (อันดับ 16 ซึ่งตกลงไป 3 อันดับ) ฝรั่งเศส (อันดับ 26 ซึ่งขยับอันดับขึ้นมา 8 อันดับ) และอิตาลี (อันดับ 58 ซึ่งตกลงไปถึง 17 อันดับ) ไม่สามารถทำให้ผู้สื่อข่าวปลอดภัยจากผู้ประท้วงที่เข้าร่วมประท้วงมาตรการต่าง ๆ ที่รัฐบาลกำหนด เพื่อต่อสู้กับการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ด้านรัฐบาลในสโลวีเนีย (อันดับ 54 ซึ่งตกลงไปถึง 18 อันดับ) โปแลนด์ (อันดับ 66 ซึ่งตกลงไป 2 อันดับ) ฮังการี (อันดับ 85 ซึ่งขยับอันดับขึ้นมา 7 อันดับ) แอลแบเนีย (อันดับ 103 ซึ่งตกลงไปถึง 20 อันดับ) และกรีซ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าได้ “เพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายที่รุนแรงเกินกว่าเหตุต่อผู้สื่อข่าว” นอกจากนี้ องค์กรนักข่าวไร้พรมแดนได้แสดงความเห็นชอบที่คณะกรรมาธิการยุโรปเริ่มใช้กลไกหลักนิติธรรมต่อรัฐบาลฮังการี เนื่องจากรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีฮังการี Viktor Orban ถูกกล่าวหาว่าใช้อำนาจชักจูงศาลและสื่อของประเทศ รวมทั้งใช้กองทุนสนับสนุนของสหภาพยุโรปไปในทางที่ผิด [Europe Monthly May 2022] แต่คณะกรรมาธิการฯ กลับถูกวิพากษ์วิจารณ์กรณีการระงับการเผยแพร่ช่องข่าว RT และ Sputnik ที่ควบคุมโดยรัฐบาลรัสเซีย โดยองค์กรฯ กล่าวว่าการระงับการเผยแพร่ดังกล่าว ถูกนำมาใช้ “โดยปราศจากกรอบการดำเนินงานทางกฎหมายที่เหมาะสม ซึ่งเสี่ยงที่จะเป็นข้ออ้างในการตอบโต้สื่อสัญชาติยุโรปต่อไป” (jk/pk, transl. by aa)
ความกังวลในยุโรปเกิดขึ้น เพราะผู้หญิงอเมริกันมีแนวโน้มที่จะเสียสิทธิการทำแท้งตามรัฐธรรมนูญไป ร่างความคิดเห็นของผู้พิพากษาศาลสูงสุดที่หลุดออกมา ซึ่งได้ระบุว่าสิทธิการทำแท้งตามรัฐธรรมนูญในสหรัฐอเมริกากำลังจะถูกยกเลิกนั้น ก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์และความกังวลทั่วยุโรป คดี Roe v. Wade ในปี 2516 ที่เป็นหมุดหมายสำคัญ และคำพิพากษาต่อมาในปี 2535 ต่อคดี Planned Parenthood v. Casey ได้ปกปักรักษาสิทธิการทำแท้งตามรัฐธรรมนูญในสหรัฐฯ ไว้ และขณะนี้กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงในสหรัฐฯ กำลังจะเสียการรับประกันสิทธินั้นไป หลังจากที่อดีตประธานาธิบดี Donald Trump ได้แต่งตั้งผู้พิพากษา 3 คน จวบจนปัจจุบันศาลสูงสุดสหรัฐฯ มีเสียงข้างมากฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่หกต่อสามแล้ว และคาดว่าพวกเขาจะสนับสนุนร่างความคิดเห็นที่ร่างขึ้นมาโดยผู้พิพากษา Samuel Alito [Politico] รวมทั้งรัฐในสหรัฐฯ 18 รัฐ ได้ผ่าน “กฎหมายที่อาจมีผลบังคับใช้หลังจากเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง” (trigger-laws) ไว้แล้ว ซึ่งกฎหมายนี้จะไประงับการทำแท้งทันทีหลังจากที่ต้นแบบจากคดี Roe v. Wade ถูกคว่ำลง [The Guardian] [Politico] ด้านนักการเมืองยุโรปหลายคนออกมาตอบโต้ด้วยความกังวล อาทิ Nicola Sturgeon ผู้นำรัฐบาลสกอตแลนด์ โพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ว่า “สิทธิสตรีในการตัดสินใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของพวกเรา ถือเป็นสิทธิมนุษยชน และประสบการณ์ได้บอกพวกเราว่าการถอดถอนสิทธิการทำแท้งตามกฎหมายออกไปไม่ได้หยุดการเกิดขึ้นของการทำแท้ง การถอดถอนนี้จะเป็นการทำให้ผู้หญิงไม่ปลอดภัย และเสี่ยงชีวิตมากยิ่งขึ้น” เช่นเดียวกันกับที่วุฒิสมาชิกฝรั่งเศส Julien Bareton ออกมาเตือนว่านี่เป็น “การถอยหลังที่เลวร้ายสำหรับผู้หญิงอเมริกัน” และเสริมด้วยว่า “กลุ่มคนหัวก้าวหน้าทั่วโลกต้องออกมาชุมนุม” นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน Sadiq Khan ก็ออกมาแสดงตนว่ายืนเคียงข้างผู้หญิงในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม สมาชิกพรรคการเมืองขวาจัด เช่น พรรค Vox ของสเปน และพรรค Alternative for Germany ของเยอรมนี กลับออกมาแสดงความยินดีต่อร่างความคิดเห็นของผู้พิพากษา Alito นี้ [The New York Times 1] [The Washington Post] รัฐสมาชิกสหภาพยุโรปส่วนใหญ่อนุญาตให้การทำแท้งถูกกฎหมาย หรืออย่างน้อยก็เพิกถอนโทษได้ในช่วงสามเดือนแรกของการตั้งครรภ์ หลังจากนั้นการทำแท้งสามารถเป็นไปได้ตามปกติ หากมีสาเหตุทางการแพทย์บางอย่างหรือในกรณีที่ถูกข่มขืน ทั้งนี้ ข้อยกเว้นก็ยังมีอยู่ อาทิ มอลตาเป็นประเทศที่การทำแท้งยังผิดกฎหมายในทุกกรณี และโปแลนด์ที่มีคำพิพากษาโดยศาลสูงสุดของประเทศในปี 2563 เกิดขึ้น ซึ่งได้นำไปสู่การห้ามทำแท้งเกือบทุกกรณี [Verfassungsblog] [The New York Times 2] สำหรับประเทศที่เหลือในยุโรป 41 ประเทศ อนุญาตให้การทำแท้งถูกกฎหมาย โดยขึ้นอยู่กับคำร้อง ปัจจัยทางสังคมหรือทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี อันดอร์รายังไม่อนุญาตให้มีการทำแท้งเกิดขึ้นเลย ด้านซานมาริโนเพิ่งทำให้การทำแท้งถูกกฎหมายหลังจากการลงประชามติ เมื่อปี 2564 ส่วนในลิกเตนสไตน์ โมนาโกและโปแลนด์ อนุญาตให้มีการทำแท้งเฉพาะกรณีที่สุขภาพของผู้หญิงอยู่ในภาวะเสี่ยง หรือการตั้งครรภ์นั้นเป็นผลมาจากการถูกข่มขืน หลายประเทศในยุโรป รวมทั้งประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป การเข้าถึงการทำแท้งมักยุ่งยาก เนื่องจากมีกำหนดระยะเวลาที่ให้รอตามข้อบังคับ การเข้ารับการปรึกษาตามข้อบังคับ หรือกระบวนการการได้รับการอนุญาตจากบุคคลที่สาม ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ เช่น เยอรมนี อิตาลี ฮังการี และรัสเซีย [Reproductive Rights] นอกจากนั้น สิทธิในการทำแท้งมักจะเป็นสิทธิที่ได้รับการรับรองโดยกฎหมายทั่วไปเท่านั้น โดยไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญหรือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานดังที่เป็นอยู่ ณ ปัจจุบัน ในสหรัฐฯ ทั้งศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป (European Court of Human Rights) หรือศาลยุติธรรมแห่งสภาพยุโรป (European Court of Justice) ก็ยังไม่ยอมรับสิทธิการทำแท้งในคำพิพากษาของศาลตน ในปี 2564 รัฐสภายุโรปผ่านมติเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกยอมรับว่าการแทรกแซงการเข้าถึงการคุมกำเนิดและการทำแท้ง ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน มติที่ยังไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายนี้ผ่านด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 378 คะแนน และไม่เห็นด้วย 255 คะแนน แต่ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากฝ่ายอนุรักษ์นิยม [Politico] (aml/pk, transl. by aa)
ประเทศยุโรป 15 ประเทศ คัดค้านแผนการตั้งถิ่นฐานของอิสราเอล ประเทศยุโรป 15 ประเทศออกแถลงการณ์ร่วม เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม เรียกร้องให้อิสราเอลยุติแผนการตั้งถิ่นฐานเพิ่มเติมในดินแดนเวสต์แบงก์ (West Bank) บนแถลงการณ์โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของฝรั่งเศส เบลเยียม เดนมาร์ก ฟินแลนด์ เยอรมนี กรีซ ไอร์แลนด์ อิตาลี ลักเซมเบิร์ก มอลตา เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ โปแลนด์ สเปน และสวีเดน ระบุว่าการก่อสร้างบ้านกว่า 4,400 หลัง บนดินแดนที่อิสราเอลเข้ายึดครอง ถือเป็น “การละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน” และ “จะเป็นอุปสรรคต่อทางออกของสองรัฐ” [France Diplomacy] [Al Jazeera] ทั้ง 15 ประเทศยังระบุเสริมต่อไปว่า “การตัดสินใจนี้ ตลอดจนการรื้อถอนและการขับไล่ที่กระทบต่อประชากรชาวปาเลสไตน์ทางด้านเยรูซาเลมตะวันออก […] คุกคามความอยู่รอดของรัฐปาเลสไตน์ในอนาคตโดยตรง” แถลงการณ์ร่วมของ 15 ประเทศ ออกมาหนึ่งวันหลังจากที่สหภาพยุโรปประณามการอนุมัติให้มีการตั้งถิ่นฐานเพิ่มเติมของอิสราเอล สหราชอาณาจักรและตุรกีก็สะท้อนความกังวลของสหภาพยุโรปด้วยเช่นเดียวกัน [EEAS] [AA] สหภาพยุโรปนั้น เรียกร้องให้อิสราเอลยุติการก่อสร้างเพื่อการตั้งถิ่นฐานทั้งหมด และรื้อด่านหน้าที่สร้างขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคม 2544 มาโดยตลอด [EEAS] ดินแดนเวสต์แบงก์ซึ่งเป็นบ้านของชาวปาเลสไตน์เกือบ 3 ล้านคน ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของอิสราเอลตั้งแต่ “สงครามหกวัน” ในปี ค.ศ. 1967 ทั้งนี้ หลายประเทศพิจารณาว่าการตั้งถิ่นฐานของอิสราเอล เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ แม้ว่าอิสราเอลจะโต้แย้งข้อกล่าวหานี้ก็ตาม [Vox] สำหรับชาวปาเลสไตน์ พวกเขาต้องการที่จะสร้างรัฐเอกราชขึ้นในดินแดนเวสต์แบงก์และกาซา แต่ประเด็นเรื่องการตั้งถิ่นฐานของอิสราเอลก็พิสูจน์ให้เห็นมาอย่างยาวนานว่าเป็นอุปสรรคต่อการเจรจาสันติภาพ [Reuters] (qv/pk, transl. by aa)
วุฒิสภาบราซิลต้องการเชิญผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งของสหภาพยุโรปเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้งของประเทศ แม้ว่า Bolsonaro จะคัดค้าน ศาลเลือกตั้งสูงสุด (Supreme Electoral Court) ซึ่งเป็นหน่วยงานสูงสุดที่ดูแลด้านการเลือกตั้งของบราซิล ได้ถอนคำเชิญที่ส่งไปยังสหภาพยุโรป เพื่อให้สหภาพยุโรปส่งผู้สังเกตการณ์มาสังเกตการณ์การเลือกตั้งของบราซิลที่จะเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ การถอนคำเชิญเกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลของประธานาธิบดี Jair Bolsonaro คัดค้านการกระทำดังกล่าว อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวภายในให้สัมภาษณ์ว่าสมาชิกของศาลเลือกตั้งสูงสุดยังไม่ยอมแพ้ในการนำภารกิจสังเกตการณ์ของสหภาพยุโรปเข้ามา และขณะนี้ วุฒิสภาก็อาจจะออกคำเชิญดังกล่าวด้วยตนเองอีกด้วย [Reuters][TBR] ทั้งนี้ Bolsonaro ผู้นำฝ่ายขวาจัดกำลังพยายามทำให้เกิดการเลือกตั้งครั้งใหม่ แต่ผลสำรวจความคิดเห็นหลายแห่งคาดการณ์ว่าคู่แข่งของเขา อดีตประธานาธิบดีฝ่ายซ้ายของบราซิล Luiz Inacio Lula da Silva ที่ดำรงตำแหน่งในช่วงปี 2546 ถึง 2553 อาจจะชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ หลายปีที่ผ่านมา Bolsonaro ตั้งคำถามกับความเที่ยงธรรมของระบบการลงคะแนนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของประเทศ และกล่าวหาว่าจะมีทุจริตการเลือกตั้งในอนาคต แม้ว่าเขาจะไม่มีหลักฐานใดมาแสดงก็ตาม ความกังวลถูกแสดงออกมาเรื่อย ๆ ว่า Bolsonaro อาจจะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ หากเขาพ่ายแพ้ ตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา ศาลเลือกตั้งสูงสุดจึงได้ออกคำเชิญจำนวนมากไปยังผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งระหว่างประเทศ เพราะศาลฯ เชื่อว่าการสังเกตการณ์จะรับประกันได้ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นตามบรรทัดฐานประชาธิปไตย [Nexo][G1] สองวันหลังจากที่สื่อเปิดเผยคำเชิญที่ถูกส่งไปยังผู้สังเกตการณ์ของสหภาพยุโรปในช่วงต้นเดือนเมษายน กระทรวงการต่างประเทศบราซิลก็ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่ากระทรวงฯ ขอคัดค้านการนำภารกิจสังเกตการณ์ดังกล่าวเข้ามาใช้ในบราซิล และเสริมว่าบราซิลไม่เคยมีการเลือกตั้งใดที่ “ถูกประเมินโดยองค์การระหว่างประเทศที่บราซิลไม่ใช่ประเทศสมาชิก” ต่อมาในวันที่ 3 พฤษภาคม ศาลเลือกตั้งสูงสุดจึงได้เพิกถอนคำเชิญที่ส่งไปยังสหภาพยุโรปของตน [G1] แหล่งข่าวภายในกล่าวว่ากลุ่มวุฒิสมาชิกที่ต้องการรับประกันว่าการเลือกตั้งจะเป็นไปอย่างยุติธรรมนั้น ขณะนี้ พวกเขาตั้งใจที่จะเชิญผู้สังเกตการณ์ของสหภาพยุโรปเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้งด้วยตนเองแล้ว และข้อเสนอนี้อาจได้รับการสนับสนุนจากประธานวุฒิสภา Rodrigo Pacheco ด้วย [FolhaSP] [G1] ภารกิจการสังเกตการณ์การเลือกตั้งของบราซิลได้รับการยืนยันแล้ว จากองค์การระหว่างประเทศหลายแห่ง ได้แก่ องค์การรัฐอเมริกัน (Organization of American States : OAS) รัฐสภาแห่งตลาดร่วมอเมริกาใต้ตอนล่าง (MERCOSUR) และเครือข่ายการเลือกตั้งของกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาโปรตุเกส (af/pk, transl. by aa)
ประธานของสหภาพยุโรปเยือนญี่ปุ่น โดยข้ามประเทศจีนไป การเยือนเอเชียร่วมกันครั้งแรกของประธานคณะมนตรียุโรป (European Council) Charles Michel และประธานคณะกรรมาธิการยุโรป Ursula von der Leyen พวกเขาได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดสหภาพยุโรป - ญี่ปุ่น ณ กรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม แต่ข้ามประเทศจีนซึ่งเป็นคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของสหภาพยุโรปไป การเยือนครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความสนใจของสหภาพยุโรปที่จะกระชับความสัมพันธ์และเสนอการเป็นแนวร่วมที่มีประชาธิปไตยคล้ายคลึงกันกับญี ่ปุ่น หลังจากที่รัฐบาลจีนและรัสเซียเพิ่งกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ [Politico] ณ กรุงโตเกียว เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหภาพยุโรป และนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น Fumio Kishida ให้ความสนใจกับประเด็นการแข่งขัน ความมั่นคงในการจัดหาอาวุธทางทหารและการป้องกันประเทศ รวมทั้งพูดคุยเกี่ยวกับสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ในยูเครน ขณะที่กำลังกล่าวระหว่างการประชุม von der Leyen เรียกรัสเซียว่าเป็น “ภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดของโลกในปัจจุบัน” Kishida กล่าวว่าการรุกรานยูเครนของรัสเซีย “สั่นคลอนระเบียบโลก และเป็นสิ่งที่ไม่ควรทนได้” Michel ยังเสริมอีกว่าสหภาพยุโรปและญี่ปุ่นได้กระชับการหารือด้วยประเด็นจีน “ที่มั่นใจยิ่งขึ้น” [Spiegel ภาษาเยอรมัน] (ar/pk, transl. by aa)
สหภาพยุโรป - อินเดีย : เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสเรียกอินเดียว่าเป็น “จุดสนใจหลัก” เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศอินเดีย Emmanuel Lenain เรียกอินเดียว่าเป็น “จุดสนใจหลัก” สำหรับช่วงการดำรงตำแหน่งประธานสหภาพยุโรปของฝรั่งเศส โดยเรียกร้องให้เกิด “การเคลื่อนย้ายทางวิชาการมากขึ้น” และจะเป็น “การลงทุนที่ดีที่สุด” ในอนาคตสำหรับการเป็นหุ้นส่วนกันระหว่างฝรั่งเศสและอินเดีย Lenain กล่าวด้วยว่าฝรั่งเศส “ไม่ได้เป็นประเทศประเภทที่จะสอนหุ้นส่วนใกล้ชิดอย่างอินเดียได้” Lenain ตั้งตารอความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป 27 ประเทศ และอินเดีย เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน (people-to-people) ไปในเวลาเดียวกัน เขายังกล่าวต่อไปว่าฝรั่งเศสต้องการส่งเสริมเอกราชทางยุทธศาสตร์ของอินเดีย และต้องการสร้างความมั่นคงแห่งชาติของอินเดียให้เป็นเอกราชมากยิ่งขึ้น โดยการยกย่องความสำเร็จในการส่งยุทโธปกรณ์ทางทหารไปยังอินเดีย อย่างไรก็ตาม วันที่ 12 พฤษภาคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย Subrahmanyam Jaishankar ได้ร่วมประชุมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไอซ์แลนด์ ในการประชุมสุดยอดรูปแบบเสมือนจริงของทั้งสองประเทศ ซึ่งทั้งสองมีโอกาสติดตามผลจากการประชุมสุดยอดอินเดีย - นอร์ดิก ครั้งที่ 2 ที่เกิดขึ้น ณ กรุงโคเปนเฮเกน หนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้ด้วย [โปรดดู Asia in Review No. 20, May/2022, 3] การประชุมเหล่านี้เกิดขึ้นหลังการประชุม Raisina Dialogue ประจำปี เมื่อวันที่ 26 เมษายน ณ กรุงนิวเดลี ทั้งนี้ เนื่องจากตะวันตกกดดันรัฐบาลอินเดียให้ยืนหยัดชัดเจนเพื่อต่อต้านรัสเซีย ที่การประชุมดังกล่าว Jaishankar จึงเรียกสงครามในยูเครนว่าเป็น “เหตุการณ์ที่เหมือนเป็นการปลุก [ยุโรป] ให้ตื่น” (wakeup call) โดยกล่าวว่า “หลายสิ่งเกิดขึ้นในเอเชียมาอย่างต่อเนื่อง ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา [และ] ยุโรปอาจจะไม่ได้ไตร่ตรองถึงเลย” [โปรดดู Asia in Review No. 18, May/2022, 1] (ar, transl. by aa)
ตุรกีตั้งเป้าที่จะพัฒนาความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบียให้ดีขึ้น หลังจาก Erdogan เยือนกรุงริยาด ประธานาธิบดีตุรกี Recep Tayyip Erdogan เผยว่ารัฐบาลตุรกีต้องการที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับซาอุดีอาระเบียให้ดีขึ้นหลังจากการเยือนกรุงริยาดของประธานาธิบดีครั้งแ รกในรอบ 5 ปี ทั้งนี้ เขาไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่าความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศจะดีขึ้นได้อย่างไร [Reuters] Erdogan ยังได้เชิญผู้นำของซาอุดีอาระเบียโดยพฤตินัย เจ้าชาย Mohammed bin Salman ให้มาเยือนตุรกี โดยเจ้าชายคาดว่าจะมาเยือนตุรกีในช่วงต้นเดือนมิถุนายนนี้ [Bloomberg][Barron's] นักวิเคราะห์การเมืองชาวซาอุดีฯ Ali Shihabi ออกมาวิเคราะห์ว่า Erdogan “ต้องการการไหลเวียนทางการค้าและการท่องเที่ยว” จากซาอุดีอาระเบีย ส่วนรัฐบาลซาอุดีฯ ก็ต้องการตุรกีเป็นพันธมิตรระดับภูมิภาค และอาจสนใจที่จะซื้ออาวุธทางทหารจากตุรกีด้วย [International Business Times] (fw/gc, transl. by aa)
Erdogan ประกาศว่าปฏิบัติการทางทหารในซีเรียมีความจำเป็นเพื่อความมั่นคงของตุรกี เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ประธานาธิบดีตุรกี Recep Tayyip Erdogan ออกมาประกาศว่าปฏิบัติการทางทหารในซีเรียที่ดำเนินอยู่ขณะนี้และในอนาคตนั้น เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อความมั่นคงของตุรกี [FAZ] ปฏิบัติการทางทหารทางตอนเหนือของซีเรียจะขยายบริเวณออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านอีกประมาณ 30 กิโลเมตร (20 ไมล์) และตั้งเป้าที่จะตอบโต้ “ภัยคุกคามจากการก่อการร้าย” จากกลุ่ม Kurdistan Workers Party (PKK) และกลุ่มพันธมิตรซีเรีย YPG ของ PKK ทั้งนี้ Erdogan กล่าวว่าปฏิบัติการทางทหารนี้จะไม่เป็นการละเมิดอธิปไตยของซีเรียแต่อย่างใด [FAZ] [Reuters] [Associated Press] [Reuters] พื้นที่เป้าหมายถูกควบคุมโดยกองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย (Syrian Democratic Forces : SDF) และ SDF ได้ออกมาแถลงว่าตุรกีกำลังจะบ่อนทำลายเสถียรภาพในภูมิภาคนี้ ด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ Ned Price ให้สัมภาษณ์ว่าปฏิบัติการทางทหารใดก็ตามที่กระทำเพื่อต่อต้านกลุ่ม YPG สุดท้ายจะไปขัดขวางพวกเขาจากการต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลาม (Islamic State) [Aljazeera] [Reuters] [The Region] (fw/gc, transl. by aa) กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปตะวันตก ![]() ฝรั่งเศส: พรรคสังคมนิยมจะรวมกลุ่มกับพรรค Greens และ Communists ในรูปแบบพรรคฝ่ายค้านต่อประธานาธิบดี Macron Jean-Luc Melenchon ผู้นำฝ่ายซ้ายสุดโต่งซึ่งได้รับความนิยมมาเป็นอันดับ 3 ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรก ได้ทำการรวมกลุ่มพันธมิตรฝ่ายซ้ายสุดโต่งเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ล่วงหน้าการเลือกตั้งฝ่ายนิติบัญญัติในเดือนมิถุนายน ในความพยายามที่จะคว้าที่นั่งส่วนใหญ่ในสภาเพื่อต่อต้านการปฏิรูปของประธานาธิบดี Emmanuel Macron [The Guardian] กลุ่มพันธมิตรดังกล่าว นำโดย Melenchon จากพรรค La France Insoumise (LFI) ผู้ซึ่งไม่ฝักใฝ่การเข้าร่วมกับสหภาพยุโรป รวมกับพรรคสังคมนิยม (Socialist Party) พรรค Green และพรรค Communists ภายใต้ชื่อว่า “Social and Ecological People’s Union” โดยมีนโยบายหลักที่รวมไปถึงการผลักดันการเกษียณอายุจากอายุ 62 เป็น 60 ปี การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ และการปฏิรูปนโยบายบางอย่างซึ่งเกี่ยวข้องกับตลาดเสรีในสหภาพยุโรป โดยอาจเป็นการทำให้ประเทศในกลุ่มสหภาพไม่เห็นด้วย [Al Jazeera][Le Monde] พรรค Greens และ พรรค LFI ยกให้การรวมกลุ่มนี้ถือเป็น “หน้าประวัติศาสตร์” และจุดเปลี่ยนของพรรคสังคมนิยม ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีจุดยืนที่เห็นพ้องกับการรวมกลุ่มของยุโรป กลุ่มสังคมนิยมได้รับคะแนนรวมอยู่ที่ประมาณร้อยละ 1.75 ของการลงคะแนนในรอบแรกภายใต้การเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อเดือนเมษายน [The Guardian] การตัดสินใจเพื่อร่วมกลุ่มกับ Melenchon ก็ยังสร้างความไม่ลงรอยกันระหว่างกลุ่มสังคมนิยม รวมไปถึงอดีตประธานาธิบดี Francois Hollande ผู้ที่ออกมาเตือนว่าการรวมกลุ่มพันธมิตรดังกล่าวอาจสร้างจุดจบแก่พรรคสังคมนิยม และกลุ่มผู้ฝักใฝ่ในสหภาพยุโรปที่อยู่ในพรรค เขายังกล่าวว่าเขาจะ “ปฏิเสธข้อตกลงโดยสิ้นเชิง” [Euractiv] พรรคของประธานาธิบดี Macronได้เตรียมรับมือกับสมาชิกพรรคสังคมนิยมผู้ไม่เห็นชอบและผู้ที่หวังจะต่อต้าน [Euronews] (la/gc, transl. by ph)
ฝรั่งเศส: ประกาศห้ามการสวมชุดว่ายน้ำของผู้หญิงชาวมุสลิม (Burkini) ทำให้เกิดการถกเถียงในเรื่องการเป็นกลางทางการเมืองของฝรั่งเศส Grenoble คือเมืองที่สองต่อจากเมือง Rennes ที่อนุญาตให้ผู้หญิงชาวมุสลิมสามารถใส่ชุดว่ายน้ำ Burkini ได้เพื่อลงเล่นในสระว่ายน้ำสาธารณะ โดยมติดังกล่าวจุดประกายให้เกิดการถกเถียงในเรื่องของความเป็นกลางทางการเมืองในด้านศาสนาของฝรั่งเศส (Secularism) [Euronews] [Politico] มีเพียงกลุ่มคนจำนวนน้อยที่เห็นชอบกับมติดังกล่าว โดยสมาชิกท้องถิ่นจำนวน 29 คนลงคะแนนเห็นชอบต่อมาตรการและอีก 27 คนลงคะแนนเสียงคัดค้าน [Euronews] Gerard Darmanin รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของฝรั่งเศสเรียกมาตรการดังกล่าวว่าเป็น “การปลุกปั่นที่มิอาจยอมรับได้” ซึ่งถือเป็นการขัดแย้งต่อค่านิยมความเป็นกลางของฝรั่งเศส โดยเขายังได้เรียกร้องให้เกิดกระบวนการทางด้านกฎหมายเพื่อห้ามการสวมใส่ชุดว่ายน้ำในสระสาธารณะ รัฐบาลฝรั่งเศสสามารถชำระมาตรการใดก็ตามที่ถือว่าเป็นการกระทำอันเป็นที่สวนทางกับธรรมเนียมที่เป็นกลางของฝรั่งเศสภายใต้กฎหมายใหม่ซึ่ งถูกปรับใช้เมื่อปีที่ผ่านมาโดยสภา เพื่อเป็นการต่อต้านแนวคิดการแบ่งแยก (separatism) ภายในสังคม [The Conversation] [rfi] แนวคิดของรัฐเป็นกลางทางการเมืองในด้านศาสนาหรือโลกิยนิยม (secularism) หรือ laicité คือส่วนหนึ่งของลักษณะสังคมและการเมืองของฝรั่งเศส โดยให้การปกป้องสิทธิของประชาชนที่จะนับถือศาสนาใดก็ตามภายใต้รัฐธรรมนูญ แต่ห้ามการบูชาอย่างเปิดเผย ผู้สังเกตการณ์บางท่านกล่าวว่าโลกิยนิยมคือเครื่องมือที่มุ่งใช้กับชาวมุสลิมมากกว่าชาวคริสต์ โดยเด็กสาวหรือผู้หญิงชาวมุสลิมถูกห้ามมิให้สวมผ้าคลุมหัว (hijabs) หรือผ้าคลุมปกปิดใบหน้า (burqas) ในที่สาธารณะ [Politico] [Secularhumanism] การประกาศห้ามการสวม Burkini ถือว่าเป็นการใช้กฎหมายเพื่อโจมตีเสรีภาพขั้นพื้นฐานซึ่งกระทำโดยศาลปกครองสูงสุดของฝรั่งเศส [Euronews] Eric Piollo ผู้ว่าแห่งเมือง Grenoble กล่าวว่า “ผมรอแทบไม่ไหวที่จะฟังรัฐบาลอธิบายว่าทำไมเราต้องปกปิดสัญลักษณ์ทางศาสนาของเราในสระว่ายน้ำ” [Euronews] (la/gc, transl. by ph)
ฝรั่งเศส: สารคดีใหม่เผยให้เห็นถึงการสังหารหมู่ในยุคอาณานิคมที่ฝรั่งเศสไม่อยากจดจำ Thiaroye 44 สารคดีชุดใหม่ซึ่งเผยให้เห็นถึงช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดของประวัติศาสตร์การสร้างอาณานิคมของฝรั่งเศส เล่าถึงเหตุการณ์เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2487 เมื่อกองกำลังของฝรั่งเศสทำการยิงทหารแอฟริกาตะวันตกผู้ไม่ติดอาวุธ ซึ่งรู้จักกันในนามว่า Tirailleurs [France24] Tirailleurs คือทหารผู้ทำการสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับทหารฝรั่งเศสในการต่อต้านเหล่านาซี ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกตกเป็นเชลยสงครามภายใต้การบุกรุกของนาซีในฝรั่งเศสเมื่อปี 2483 หลังจากได้รับอิสระในปี 2487 ทหารเหล่านั้นถูกส่งกลับไปเข้าค่ายเพื่อเป็นการถอนกำลังใน Thiaroye บริเวณตะเข็บเมืองของกรุงดาร์กาประเทศเซเนกัล พวกเขาถูกยิงสังหารจากการเรียกร้องการจ่ายค่าแรงที่เทียบเท่ากับทหารผิวขาวและการประท้วงการไม่จ่ายค่าแรง [Al Jazeera] การสังหารหมู่ซึ่งรู้จักกันในนามว่า Thiaroye 44 ถูกกลบให้อยู่ใต้พรมโดยเหล่าผู้นำฝรั่งเศสกว่าทศวรรษ ประธานาธิบดี Francois Hollande คือคนแรกที่เรียกเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเป็น “การกดขี่อย่างนองเลือด” ระหว่างการเยือนกรุงดาร์กา เมื่อเดือนตุลาคม 2555 โดยแถลงว่าฝรั่งเศสจะทำการส่งเอกสารสำคัญซึ่งบรรยายถึงเหตุการณ์ดังกล่าว เขายอมรับว่าการสังหารหมู่เป็นฝีมือของฝรั่งเศสแต่ไม่กล่าวถึงตัวผู้ร้ายหรือเหตุผลที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว [Al Jazeera] [The Conversation] เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นถูกระบุว่าเป็นการกบฏในช่วงแรกโดยถูกบันทึกว่าไม่มีหลักฐานใดที่แสดงให้เห็นถึงการรวมกลุ่มเพื่อใช้ความรุนแรงโดย Tirailleurs จากบันทึกของทางการฝรั่งเศสระบุว่าจำนวนผู้เสียชีวิตมีอยู่ 35 คนแต่ทหารผ่านศึกจากเหตุการณ์ดังกล่าวบอกว่ามีจำนวนทหารแอฟริกาที่เสียชีวิตและถูกจับกุมกว่า 300 นาย ความคลาดเคลื่อนนี้แสดงให้เห็นว่าทางฝรั่งเศสต้องการที่จะ ทำให้ตัวเลขของอุบัติเหตุดูเล็กลง เหยื่อถูกฝังไว้ภายใต้หลุมศพใหญ่ซึ่งไม่มีหินระบุชื่อด้านบนแต่อย่างใด ในปัจจุบันนี้การสังหารหมู่ Thiaroye ก็ไม่ได้ถูกพูดถึงในหนังสือประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศส [EHNE Sorbonne University] [Al Jazeera] ทหารแอฟริกันกว่า 17,000 นายเสียชีวิตจากการป้องกันฝรั่งเศสให้พ้นจากการครอบครองของนาซีในสงครามโลกครั้งที่ 2 [TalkAfricana] (la/gc, transl. by ph)
เยอรมนี: Schroder อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งเยอรมนีถูกปลดลงจากตำแหน่งเนื่องจากความเชื่อมโยงอันใกล้ชิดกับรัสเซีย Gerhard Schroder อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งเยอรมนีจะถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งและปลดพนักงานของเขาในคณะกรรมาธิการด้านงบประมาณในสภากลางแห่งเยอรมนี (Bundestag) เนื่องจากการที่เขาไม่ให้ความร่วมมือที่จะปลีกตัวออกจากประธานาธิบดีแห่งรัสเซีย Vladimir Putin และลงจากตำแหน่งในรัฐวิสาหกิจของรัสเซีย หลังจากสภามีมติดังกล่าวได้เพียงหนึ่งสัปดาห์ Schroder ก็ลาออกจาก Rosneft บริษัทน้ำมันสัญชาติรัสเซีย [DeutscheWelle] [TheNewYorkTimes] ถึงแม้เขาจะถูกปลดจากตำแหน่งในสภาและถูกถอดถอนกำลังด้านเจ้าหน้าที่ Schroder ยังคงสามารถรักษาบำนาญเขาไว้อยู่ได้จำนวน 100,000 ยูโรต่อปี รวมไปถึงข้อมูลด้านความปลอดภัยของเขา เหตุผลที่แท้จริงของการถอดถอนอภิสิทธิ์ซึ่งมีมูลค่ากว่า 419,000 ยูโรคือ การขาดส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง พรรคต่างๆออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า Schroder “ไม่ได้กระทำการใดๆ ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรีเลย” อย่างไรก็ตามไม่กี่วันหลังจากที่รัสเซียบุกยูเครน ทั้งสภารวมไปถึง Albrecht Funk ผู้จัดการและผู้เขียนคำแถลงการณ์ของเขา ต่างหันหลังให้กับ Schroder [TheGuardian] [DeutscheWelle] [Bloomberg] Schroder ถูกประนามด้วยเหตุที่ทำการสร้างสายสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและพลังงานกับรัสเซียซึ่งทำให้เยอรมนีต้องพึ่งพาก๊าซจากรัสเซียมานานกว่าที่สงค รามจะเกิดขึ้น เขายังถูกวิจารณ์อย่างหนักหลังจากการให้สัมภาษณ์กับ The New York Times โดยอดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าเขาไม่ได้เจตนาที่จะ “ยอมรับผิด” และโบ้ยความผิดเรื่องการสังหารหมู่ใน Bucha ชานเมืองของกรุงเคียฟให้ปูติน [TheNewYorkTimes] [Politico] Schroder ไม่ได้รับความนิยมจากสมาชิกในพรรคของเขาเนื่องจากการไม่ประณามประธานาธิบดี Putin โดยตรง Saskia Esken ผู้นำร่วมแห่งพรรค Social Democratic Party of Germany (SPD) อ้างว่า “หยุดมองเขาว่าเป็นรัฐบุรุษอาวุโสและอดีตรัฐมนตรีได้แล้ว” เธอยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่าตอนนี้มีหลายขั้นตอนที่ถูกดำเนินการเพื่อขับไล่ Schroder ออกจากพรรค อย่างไรก็ตาม “ยังดูเหมือนมีอุปสรรคอยู่มากที่จะทำให้มันเกิดขึ้น” [Politico] Schroder เป็นนายกรัฐมนตรีระหว่างปี 2541 ถึง 2548 หลังลงจากตำแหน่งเขาทำงานในบริษัทพลังงานรัสเซียและบริษัทก๊าซยักษ์ใหญ่เช่น Gazprom เขายังดำรงตำแหน่งประธานกรรมการผู้ถือหุ้นในโครงการ Nord Stream ซึ่งทำท่อส่งแก๊สเชื่อมระหว่างรัสเซียและเยอรมนี และยังถูกแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าผู้ควบคุมบอร์ดกรรมการโครงการ Nord Stream 2 โดยถูกพักไว้เนื่องจากการบุกยูเครนของรัสเซีย [TheNewYorkTimes] [DeutscheWelle] (ym/gc, transl. by ph)
เยอรมนี: รัฐบาลเพิ่มมาตรการเพื่อควบคุมการแข่งขันของบริษัทสื่อสังคมออนไลน์อย่าง Meta รัฐบาลเยอรมนีกล่าวเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมว่าจะยกระดับการควบคุมการแข่งขันของ Meta Platforms Inc., เจ้าของ Facebook หลังจากที่ได้มีมติคล้ายกันในการควบคุมกับบริษัท Google เมื่อต้นปีที่ผ่านมา [Reuters] [DW] [EiR Monthly May 2022] สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าแห่งชาติเยอรมัน (Bundeskartellamt หรือ Federal Cartel Office) จำแนกบริษัท Meta ซึ่งเป็นเจ้าของเดียวกับ Instagram และ WhatsApp ว่า “มีความสำคัญอย่างมากสำหรับการแข่งขันในตลาด” ทำให้ทางการเยอรมนีสามารถใช้กฎหมายโต้กลับกิจกรรมที่เชื่อว่ามีลักษณะการต่อต้านการแข่งขันทางการค้า (anti-competitive activities) ได้อย่างง่ายดายมาตั้งแต่ต้นปี 2564 [Reuters] สำนักงานคณะกรรมการฯได้กล่าวผ่านการแถลงว่าการจำแนกประเภทแบบใหม่ยังมีผลในเรื่องการนำบริษัท Meta เข้าขั้นตอนการป้องกันการผูกขาด และยังกล่าวหาบริษัท Meta ว่าทำการครอบครองตลาดเพื่อเก็บข้อมูลโดยไม่ผ่านการยินยอมและสร้างการทำงานหลายขั้นตอนในการเข้ารวมกับ Meta Quest เมื่อปี 2562 โดยคำตัดสินยังอยู่ในการพิจารณาของศาล [EURACTIV] [Reuters] โฆษกของบริษัท Meta กล่าวเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมว่าถึงแม้บริษัทไม่เห็นด้วยกับการจำแนกประเภทของสำนักงานคณะกรรมการฯ แต่ก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามมติ [Reuters] โฆษกของสำนักงานคณะกรรมการฯกล่าวว่าอาจมีการออกมติเช่นเดียวกันเร็วๆนี้กับ Amazon และ Apple ในเรื่องการจำแนกประเภทบริษัทที่ “มีความสำคัญอย่างมากสำหรับการแข่งขันในตลาด” [EURACTIV] (mb/gc, transl. by ph)
สหราชอาณาจักร: แบงค์ออฟอเมริกาเตือน เงินปอนด์อาจกำลังเผชิญกับ “ภาวะวิกฤตการมีอยู่” แบงค์ออฟอเมริกาให้คำอธิบายกับสภาวะเงินปอนด์อย่างตรงไปตรงมาโดยเตือนว่าค่าเงินกำลังเผชิญกับ “ภาวะวิกฤตการมีอยู่” และคาดการณ์ว่ามูลค่าจะลดลงในปีนี้เนื่องจากนโยบายของรัฐที่ไม่สอดคล้องกับความแข็งตัวของค่าเงิน Kamal Sharma นักกลยุทธ์เรื่องการแลกเปลี่ยนค่าเงินต่างประเทศในลอนดอนเขียนในรายงานว่า “ค่าเงินปอนด์สเตอร์ลิงที่ลดฮวบลงมาเป็นเรื่องใหญ่มากเห็นได้จากผู้คนที่มีความสุขกับมันเมื่อปีที่ผ่านมา โดยนักลงทุนก็ต่างคาดไม่ถึง” Sharma กล่าวเพิ่มเติมว่าทางธนาคารกังวลว่านโยบายทางการเมืองของสหราชอาณาจักรจะทำให้ค่าเงินปอนด์ได้รับผลกระทบ [FXStreet][CityAm] Sharma เขียนลงในรายงานว่า “ความน่าเชื่อถือของธนาคารกลางสำคัญที่สุดต่อค่าเงิน บ่อยครั้งที่การแทรกแซงทางการเมืองมักจะสร้างจุดจบที่ไม่ค่อยดีนักและยังทำให้สหราชอาณาจักรถูกมองว่ากำลังตกอยู่ในภาวะที่กำลังป่วย” [CityAm] (gc/pk, transl. by ph)
สหราชอาณาจักร: การเลือกตั้งท้องถิ่นถูกจัดขึ้นในอังกฤษ เวลส์และสก๊อตแลนด์ การเลือกตั้งท้องถิ่นถูกจัดขึ้นในสภาท้องที่ของอังกฤษ เวลส์และสก๊อตแลนด์ เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม โดยพรรอนุรักษ์นิยม (Conservative party) ของนายกรัฐมนตรี Boris Johnson พ่ายแพ้อย่างราบคาบ [France24] สภาท้องที่ในลอนดอนหันไปเลือกผู้นำจากพรรคแรงงาน (Labour Party) มากกว่าผู้นำจากพรรอนุรักษ์นิยม ในขณะที่ที่นั่งของพรรคเสรีประชาธิปไตย (Liberal Democrats) ก็เพิ่มขึ้นในเขตเมืองหลวงของสหราชอาณาจักร ส่วนพรรคกรีน (British Green Party) ได้รับที่นั่ง 81 ที่จากการเลือกตั้งท้องถิ่น [FinancialTimes][Guardian] การเลือกตั้งเกิดขึ้นท่ามกลางเสียงวิพากย์วิจารณ์ที่มีต่อนายกรัฐมนตรี Boris Johnson ในเรื่องที่เขาละเมิดกฎล็อคดาวน์ช่วงที่มีโรคระบาด ที่ปรึกษาพรรคอนุรักษ์นิยมโทษนายกรัฐมนตรี Johnson ว่ามีส่วนต่อความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าเขายอมรับว่าเขามีส่วนต่อผลโดยรวมของการเลือกตั้ง [BBC] (pr/gc, transl. by ph)
สหราชอาณาจักร: พรรคชินน์เฟนคว้าที่นั่งจำนวนมากที่สุดจากการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรของไอร์แลนด์เหนือ จากการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแห่งไอร์แลนด์เหนือเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม หลังจากเกิดการยุบสภาฯเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาท่ามกลางความขัดแย้งซึ่งเกี่ยวข้องกับมาตรการที่ใช้กับไอร์แลนด์เหนือ พรรคชินน์เฟน (Sinn Féin) ที่ได้ที่นั่งในสภาเป็นจำนวนมากที่สุด ถือว่าเป็นครั้งแรกที่พรรคชาตินิยมได้เสียงส่วนใหญ่ในสภาฯในเรื่องของที่นั่ง [Guardian] [BBC] พรรคชาตินิยมเช่นพรรคชินน์เฟนสนับสนุนอิสรภาพของไอร์แลนด์เหนือโดยการแยกตัวออกมาจากสหราชอาณาจักร ในขณะที่พรรคสหภาพประชาธิปไตย (Democratic Unionist Party: DUP) สนับสนุนความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับสหราชอาณาจักร พรรคสหภาพประชาธิปไตย คัดค้านมาตรการของไอร์แลนด์เหนือในข้อตกลง Brexit ข้อตกลงว่าด้วยการมีเอกภาพในเรื่องของศุลกากรและตรวจคนเข้าเมืองบริเวณชายแดนระหว่างสหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์เหนือ สภาพยุโรป และในบางเรื่องของการค้าระหว่างไอร์แลนด์เหนือและสหราชอาณาจักร พรรคชินน์เฟนทำการแต่งตั้งผู้นำรัฐในระบบแบ่งอำนาจ โดยพรรคสหภาพประชาธิปไตยจะทำการแต่งตั้งรองนายกรัฐมนตรี Sir Jeffrey Donaldson ผู้นำพรรคสหภาพประชาธิปไตยกล่าวว่าจะไม่แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี หากมาตรการของไอร์แลนด์เหนือยังไม่เปลี่ยนแปลง จะต้องมีการเลือกตั้งใหม่หากยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ภายใน 6 เดือน เว้นแต่รัฐบาลกลางของสหราชอาณาจักรจะเสนอแนวทางแก้ไขเพิ่มเติม ในขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีสามารถปฏิบัติงานในวาระสุดท้ายโดยมีอำนาจหน้าที่ที่จำกัด [Guardian] [BBC] Liz Truss รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เสนอให้มีการปรับมาตรการไอร์แลนด์เหนือถึงแม้รัฐบาลกลางของสหราชอาณาจักรจะเน้นย้ำถึงการเคารพผล การเลือกตั้งก็ตาม Nancy Pelosi โฆษกของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐฯ เตือนว่าการปรับเปลี่ยนมาตรการจะมีผลกระทบด้านลบแก่ข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร [Gov.UK][Guardian] (pr/gc, transl. by ph) กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปตะวันออก ![]() เบลารุส: รัฐมนตรีกลาโหมเรียกร้องให้ขยายองค์การสนธิสัญญาความมั่นคงร่วม (CTSO) ท่ามกลางความกังวลต่อการขยายสมาชิก NATO Viktor Khrenin รัฐมนตรีกลาโหมของเบลารุสกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ Belaruskaya Voennaya Gazeta เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมว่าองค์การสนธิสัญญาความมั่นคงร่วม (CTSO) หรือพันธมิตรทางทหารซึ่งประกอบไปด้วยรัสเซีย เบลารุส คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน ทาจิกิสถาน และอาร์เมเนีย ควรพิจารณาการเพิ่มสมาชิก [belta.by] [Belaruskaya Voennaya Gazeta] Khrenin กล่าวว่าประเทศสมาชิกตัดสินใจจากมติร่วมและมีจุดประสงค์ที่จะเสริมกำลังความร่วมมือพหุภาคีแบบเดียวกับ NATO เพื่อที่จะขยายสมาชิกภาพทั่วยุโรป เขายังเน้นย้ำอีกว่าความสำคัญในการเพิ่มสมาชิกใหม่ในองค์กรก็เพื่อที่จะส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคง และต่อสู้กับภัยคุกคามทางชีวภาพและเคมี [belta.by] [Belaruskaya Voennaya Gazeta] ประธานาธิบดี Aleksandr Lukashenko ย้ำถึงความสำคัญที่กล่าวโดย Khrenin ในเรื่องของการสร้างแนวหน้าจากสมาชิกของ CTSO เพื่อต่อต้านฝ่ายตะวันตก เขากล่าวหาประเทศชาติตะวันตกว่าพยายามที่จะยืดเยื้อสงครามในยูเครนเพื่อทำให้เศรษฐกิจและกองกำลังของรัสเซียอ่อนแอลง [Reuters] พลโท Stanislaw Sas เลขาธิการ CTSO บอกกับสถานีโทรทัศน์ช่อง 1 ของเบลารุสเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมว่า CTSO มีประสิทธิภาพพอที่จะต่อต้านแนวรบจากด้านตะวันตก [belta.by] Sas ยังย้ำอีกว่าการขยายสมาชิกภาพของ NATO ไปทางตอนเหนืออาจทำให้เกิดภัยคุกคามด้านความมั่นคงอย่างหนักและทวีความรุนแรง สืบเนื่องมาจากแผนการของสวีเดนและฟินแลนด์ที่จะเข้าร่วมกลุ่มพันธมิตรทรานส์แอตแลนติกนำโดยสหรัฐฯ การรวมกลุ่มทางทหารที่เพิ่มขึ้นอาจไม่เพียงส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของเบลารุสและรัสเซียแต่อาจลามไปถึงสมาชิกของ NATO [belta.by] (mo/gc, transl. by ph)
ลิทัวเนีย: แฮ็กเกอร์ชาวรัสเซียประกาศ 'สงครามไซเบอร์' ต่อลิทัวเนีย กลุ่มแฮ็กเกอร์ชาวรัสเซีย Killnet และ Legion ประกาศเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมว่าพวกเขาจะเข้าร่วมในสงครามไซเบอร์ต่อลิทัวเนียและอีกเก้าประเทศ รวมถึงโปแลนด์ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และยูเครน [lrt] กลุ่มแฮ็กเกอร์กล่าวว่าพวกเขาได้ติดตามประเทศที่สนับสนุน “นาซี” และ “รัสเซีย” ในยูเครน แม้ว่าพวกเขาจะเน้นย้ำว่าประชาชนทั่วไปจะไม่ถูกคุกคาม แต่โครงสร้างนโยบายจะเป็นเป้าหมายหลักของการทำสงครามไซเบอร์ของกลุ่ม [lrt] การโจมตีทางไซเบอร์ไม่ใช่ปรากฏการณ์ใหม่ในลิทัวเนียและทางการลิทัวเนียได้บันทึกว่ามีการโจมตี 1,020 ครั้งในไตรมาสแรกของปี 2565 เทียบกับ 981 ครั้งในปี 2564 ในขณะที่การโจมตีทางไซเบอร์ในช่วงหลังนี้ ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการที่ลิทัวเนียสนับสนุนยูเครนอย่างหนักแน่นสำหรับการโจมตีครั้งก่อนๆ เกี่ยวข้องกับการรณรงค์บิดเบือนข้อมูลในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 [Euractiv] รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของลิทัวเนีย Arvydas Anusauskas กล่าวว่า สำหรับสงครามในยูเครน ลิทัวเนียได้ดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการปกป้องความมั่นคงของรัฐและโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ [The Baltic Times] [lrt] (mo/gc, transl. by tj)
ลิทัวเนีย: รัฐสภาร่างกฎหมายว่าด้วยหุ้นส่วนความสัมพันธ์เพศเดียวกัน รัฐสภาของลิทัวเนียได้ร่างกฎหมายเกี่ยวกับการเป็นหุ้นส่วนความสัมพันธ์เพศเดียวกัน เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ซึ่งจะอนุญาตให้คู่ดังกล่าวสมรสกันตามกฎหมาย แทนการเเป็นหุ้นส่วนความสัมพันธ์เท่านั้น [The Baltic Times] ข้อเสนอการสมรสกันตามกฎหมาย มีเป้าหมายที่จะได้รับการสนับสนุนที่กว้างขึ้นสำหรับการตระหนักถึงความสัมพันธ์ทางแพ่งที่เป็นกลางทางเพศ การสมรสกันอย่างแท้จริงตามกฎหมาย ในแง่นี้ จะถูกกำหนดให้เป็น "ข้อตกลงโดยสมัครใจระหว่างบุคคลสองคนเพื่อปกป้องความสัมพันธ์ส่วนตัวของพวกเขาอย่างถูกกฎหมาย" [The Baltic Times] ในขณะที่นักวิจารณ์โต้แย้งว่า ในทางพฤตินัย ร่างกฎหมายฉบับใหม่จะสร้างทางเลือกที่เท่าเทียมกันในการแต่งงานโดยไม่ระบุว่าเป็นการแต่งงาน ร่างกฎหมายดังกล่าวถือเป็นก้าวสำคัญไปสู่การเปิดเสรีรูปแบบต่างๆของความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ทั้งนี้ นักวิชาการมากกว่า 250 คนได้ลงนามในหนังสือเพื่อแสดงการสนับสนุนสาธารณะแก่ร่างกฎหมายนี้ โดยชี้ให้เห็นถึงความรับผิดชอบของลิทัวเนียในการปกป้องสิทธิมนุษยชน ซึ่งรวมถึงชุมชน LGBTQIA+ ด้วย [lrt] [The Baltic Times] (mo/gc, transl. by tj)
ลิทัวเนีย: ข้อตกลงข้ามพรรคการเมือง ไม่รวมการเกณฑ์ทหารทั่วไป และการใช้จ่ายทางทหารร้อยละ 3 ของจีดีพี คณะทำงานของรัฐสภาลิทัวเนียได้เสนอข้อตกลงข้ามพรรคการเมือง เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม โดยไม่รวมการเกณฑ์ทหารทั่วไปและการใช้จ่ายของกองทัพขั้นต่ำร้อยละ 3 ของจีดีพี [lrt] ข้อตกลงดังกล่าวระบุว่าอาจมีการเพิ่มจำนวนทหารอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยขึ้นอยู่กับความต้องการของกองทัพ ตามรายงานของ Lithuanian Radio and Television (LRT) ข้อตกลงขั้นสุดท้ายจะต้องมีการลงนามในต้นเดือนมิถุนายน [lrt] (mo/gc, transl. by tj)
ลิทัวเนีย: นายกรัฐมนตรีสนับสนุนชาวคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ที่แยกตัวออกจากสำนักปรมาจารย์มอสโก นายกรัฐมนตรีลิทัวเนีย Ingrida Simonyte กล่าวในหนังสือถึงสังฆราช Bartholomew ที่ 1 แห่งนครคอนสแตนติโนเปิลว่าเธอสนับสนุนคริสเตียนออร์โธดอกซ์ในลิทัวเนียอย่างแข็งขันในการแยกตัวออกจากสำนักปรมาจารย์มอสโก [lrt] (mo/gc, transl. by tj) กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ ![]() แอลเบเนีย: อดีตหัวหน้าศาลรัฐธรรมนูญถูกส่งตัวขึ้นศาลฐานปกปิดทรัพย์สิน อดีตหัวหน้าศาลรัฐธรรมนูญ Bashkim Deda จะถูกสอบสวนในข้อหาปกปิดทรัพย์สินและทำการประกาศเท็จตามคำสั่งศาลพิเศษต่อต้านการทุจริตและอาชญากรรมในวันที่ 10 พฤษภาคม [AlbanianDailyNews] ทรัพย์สินของ Deda ถูกยึดเช่นกัน เช่นเดียวกับทรัพย์สินของอดีตผู้พิพากษาอีกสองคน ผลการสอบสวนคดีอาญาพบว่าบุคคลเหล่านี้ครองครองอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่สามารถหาเหตุผลมาอ้างจากแหล่งข้อมูลทางกฎหมายได้ [AlbanianDailyNews] ในระหว่างการแถลงข่าวพิเศษเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม นายกรัฐมนตรี Edi Rama เรียกร้องให้รัฐบาลสอบสวนผู้พิพากษาและอัยการที่ทุจริตทุกคน โดยเสริมว่าพรรคสังคมนิยมและรัฐบาลพรรคสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด [AlbanianDailyNews] (jm/gc, transl. by tj)
โรมาเนีย: ผู้พิพากษาสองคนที่เป็นที่โต้เถียงได้รับเลือกให้เป็นศาลรัฐธรรมนูญของโรมาเนีย เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม รัฐสภาของโรมาเนียได้เลือกสมาชิกศาลรัฐธรรมนูญสองคนคือ Bogdan Licu และ Laura-Iuliana Scantei ซึ่งเป็นที่รู้จักจากประเด็นความขัดแย้งในประเทศ [BalkanInsight][RomanianInsider] Licu ซึ่งได้รับการเสนอชื่อโดยพรรค Social Democratic ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากข้อกล่าวหาเรื่องการลอกเลียนแบบระหว่างศึกษาระดับปริญญาเอก และการศึกษาระดับอุดมศึกษาในมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงบูคาเรสต์ที่มีชื่อเสียงเรื่องการออกประกาศนียบัตรง่าย อย่างไรก็ตาม Licu ได้รับคะแนน 208 ต่อ 93 เสียงในการเลือกตั้งที่จัดขึ้นในรัฐสภา [BucharestGrid][RomanianInsider] Scantei ถูกกล่าวหาว่าปลอมแปลงและฉ้อโกงหลังจากที่เธอได้เป็นสมาชิกวุฒิสภาพรรค National Liberal Party โดยไม่ได้เป็นสมาชิกของพรรค เธอยังได้สนับสนุนโครงการที่มีการโต้เถียงว่าจะให้ที่ดินฟรี 46 เฮคแทร์ แก่องค์กรพัฒนาเอกชน [BalkanInsight][BucharestGrid][RomanianInsider] (jm/gc, transl. by tj)
ตุรกี: ที่ปรึกษานโยบายต่างประเทศกล่าวว่าอังการาต้องรักษาสมดุลทางการทูตกับรัสเซียและยูเครน หัวหน้าที่ปรึกษานโยบายต่างประเทศของตุรกีกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Reuters เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมว่า ตุรกีต้องรักษาสมดุลทางการทูตระหว่างรัสเซียและยูเครน Ibrahim Kalın กล่าวเสริมว่า สิ่งนี้ จะเป็น "ผลประโยชน์ร่วมกันของทุกคน" เมื่อมีคนหนึ่งที่สามารถพูดคุยกับทั้งสองฝ่ายในสงครามยูเครนและกล่าวว่าไม่มี "สูตรมหัศจรรย์" ที่จะยุติสงคราม หากอังการาจะสนับสนุนเคียฟมากขึ้นก็ตาม [Reuters][EuroNews] Kalin ได้พูดถึงหนังสือจากประธานาธิบดี Joe Biden ที่มีถึงรัฐสภาคองเกรสของสหรัฐฯ เรียกร้องให้ทำข้อตกลงกับตุรกีเกี่ยวกับเครื่องบินขับไล่ F-16 โดยกล่าวว่าฝ่ายบริหารของ Biden ได้ดำเนินการในเชิงบวกเกี่ยวกับเรื่องนี้ การขายให้เสร็จสิ้นโดยเร็วจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านการป้องกันของ นาโต้ และตุรกี ตลอดจนเสริมสร้างเความสัมพันธ์ทวิภาคี ด้วย [Gercek Gündem] ตุรกีพยายามซื้อเครื่องบินขับไล่ F-16 หลังจากที่สหรัฐฯ หยุดโครงการเครื่องบินขับไล่ F-35 เมื่ออังการาซื้อระบบขีปนาวุธ S-400 ของรัสเซีย ซึ่งก่อนหน้านี้ อังการาประสบความล้มเหลวในความพยายามที่จะได้ระบบขีปนาวุธ Patriot ที่ผลิตในสหรัฐฯ [IISS] [Aljazeera] (fw/gc, transl. by tj)
ตุรกี: กองกำลังรักษาความปลอดภัยจับกุมผู้ต้องสงสัยสนับสนุนขบวนการกูเลน 92 คน กองกำลังความมั่นคงของตุรกีได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยสนับสนุนขบวนการกูเลน (FETO) จำนวน 92 คน ทั้งนี้ ยังมีผู้ต้องสงสัยอีกจำนวนมากที่มีส่วนเกี่ยวพันกับปฏิบัติการในกรุงอังการาและจังหวัดอิซเมียร์ทางตะวันตก ผู้ต้องสงสัยเป็นอดีตทหารและอดีตนักเรียนนายร้อยซึ่งถูกไล่ออกจากโรงเรียนทหารเนื่องจากสงสัยว่ามีความสัมพันธ์กับกลุ่มก่อการร้าย ขบวนการกูเลน (FETO) ถูกกล่าวหาว่าพยายามก่อรัฐประหาร ซึ่งล้มเหลวในปี 2559 [MenaFN] [Daily Sabah] (fw/gc, transl. by tj)
ตุรกี: ศาลอิสตันบูลตัดสินจำคุกนักการเมืองฝ่ายค้าน 5 ปี ศาลในนครอิสตันบูล ได้ตัดสินลงโทษ Canan Kaftancioglu นักการเมืองฝ่ายค้าน และพิพากษาจำคุก 5 ปีในข้อหาโฆษณาชวนเชื่อและดูหมิ่นรัฐ [ZEIT] [SPD] [EURONEWS] Kaftancioglu เป็นผู้นำของพรรค Republican People’s Party (CHP) และเป็นผู้สนับสนุนที่มีอิทธิพลของ Ekrem Imamoglu ซึ่งคาดว่าจะเป็นผู้นำฝ่ายค้าน ต่อต้าน Erdogan ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปีหน้า ศาลในนครอิสตันบูลตัดสินจำคุกนักการเมืองรายนี้เป็นครั้งแรกในเดือนกันยายน 2562 เป็นเวลามากกว่าเก้าปีแปดเดือน เนื่องจากข้อความบนทวิตเตอร์ ระหว่างปี 2555 ถึง 2560 ในเดือนมิถุนายน 2563 ศาลอุทธรณ์ได้ยืนหยัดคำตัดสิน อย่างไรก็ตาม พรรคฝ่ายค้านได้มีโอกาสอุทธรณ์อีกครั้ง แต่การอุทธรณ์คำตัดสินครั้งที่สองล้มเหลว [ZEIT] [SPD] [EURONEWS] ผู้พิพากษาตัดสินลงโทษเธอในการโฆษณาชวนเชื่อการก่อการร้ายและการดูหมิ่นรัฐตุรกี ดูหมิ่นเจ้าหน้าที่ ดูหมิ่นประธานาธิบดี และยุยงให้เกิดความเกลียดชัง ทนายความของเธอกล่าวว่า เธอจะถูกห้ามไม่ให้ทำกิจกรรมทางการเมืองเป็นเวลาห้าปี ผู้คนหลายพันคนออกไปตามท้องถนนในนครอิสตันบูลเพื่อแสดงการสนับสนุนและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับ Kaftancioglu และตะโกนคำพูดเช่น "สิทธิ กฎหมาย ความยุติธรรม" [ZEIT] [SPD] [EURONEWS] (go/gc, transl. by tj) กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปใต้ ![]() อิตาลี: สอบสวน 'ข้อมูลบิดเบือน' ที่แขกรับเชิญชาวรัสเซียเผยแพร่ทางโทรทัศน์ คณะกรรมการรัฐสภาของอิตาลีที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงจะสอบสวนว่าแขกรับเชิญชาวรัสเซียเผยแพร่ "ข้อมูลเท็จ" ในรายการข่าวในอิตาลีในช่วงสงครามในยูเครนหรือไม่ ได้มีการประกาศว่าจะมีการสอบสวนโดยคณะกรรมการ "Copasir" หลังจากนายกรัฐมนตรี Mario Draghi ของอิตาลีวิพากษ์วิจารณ์คำแถลง "เท็จและผิดปกติอย่างโจ่งแจ้ง" ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย Sergei Lavrov ที่ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมทางสถานีโทรทัศน์ Rete 4 ซึ่งเจ้าของคืออดีตนายกรัฐมนตรี Silvio Berlusconi [Today] การให้สัมภาษณ์ของ Lavrov ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางหลังจากที่เขาปฏิเสธรายงานการสังหารหมู่ในเมือง Bucha ของยูเครนว่าเป็นข่าวปลอม และกล่าวหาประธานาธิบดี Volodymyr Zelensky ของยูเครนซึ่งมีรากฐานมาจากชาวยิวว่าเป็นนาซี [TheGuardian] คณะกรรมการรัฐสภา Copasir ได้เริ่มการสอบสวนถึง "กิจกรรมการแทรกแซงและการบิดเบือนข้อมูลจากต่างประเทศ ... โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอ้างอิงถึงความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน" [Reuters] Lucio Caracciolo ผู้อำนวยการนิตยสารภูมิรัฐศาสตร์ของอิตาลี Limes อธิบายว่าการสอบสวนของคณะกรรมการเป็น “เรื่องตลก” และเสริมว่า “ถ้าคุณเอาจริงเอาจัง เราต้องคิดว่าพวกเขาต้องการก่อตั้งกระทรวงความจริง” [IlTempo] รายงานประจำปีล่าสุดของ Reporters Without Borders ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม จัดให้อิตาลีอยู่ในอันดับที่ 58 ของโลกในด้านเสรีภาพของสื่อ ลดลง 17 อันดับ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว [โปรดดูในส่วนระหว่างประเทศของ Europe Monthly เดือนนี้] (vb/pk, transl. by tj)
สเปน: รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนสิทธิการทำแท้งและริเริ่มให้มี ‘การลาประจำเดือน' ที่ได้รับค่าจ้าง เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม รัฐบาลฝ่ายซ้ายของสเปน อนุมัติร่างกฎหมายที่ส่งเสริมสิทธิการทำแท้ง และเพื่อขจัดมลทินจากการมีประจำเดือน เพื่อทำให้สเปนเป็นประเทศแรกในยุโรปที่เสนอการลาโดยได้รับค่าจ้างสำหรับผู้หญิงที่เจ็บปวดในช่วงเวลาที่มีประจำเดือน [Reuters] ภายใต้มาตรการดังกล่าว เด็กอายุ 16 และ 17 ปี สามารถทำแท้งได้โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ปกครอง ในขณะที่ "ช่วงเวลาทบทวน" บังคับสามวันก่อนที่จะมีการยกเลิกการทำแท้ง ร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งตามคำกล่าวของ Irene Montero รัฐมนตรีกระทรวงความเท่าเทียม “จะทำให้ชีวิตของผู้หญิงดีขึ้น” รวมถึงมาตรการในการจัดหายาคุมกำเนิดและยาประจำเดือนฟรีในสถาบันของรัฐ คาดว่าร่างดังกล่าว จะเป็นกฎหมายได้ในช่วงสิ้นปี [ElMundo] Montero กล่าวว่าการอนุมัติแผนของรัฐบาลแสดงให้เห็นว่าสเปนเป็นประเทศ "สตรีนิยม" ที่สามารถลดช่องว่างความไม่เท่าเทียมกันระหว่างชายและหญิง [Ser] ผู้นำคนใหม่ของพรรค People’s Party ซึ่งเป็นฝ่ายค้านอนุรักษ์นิยม Alberto Nunez Feijoo ได้วิพากษ์วิจารณ์แผนการที่จะอนุญาตให้ผู้เยาว์ทำแท้งโดยไม่ได้รับความยินยอมจากพ่อแม่ [TeleMadrid] ภายหลังการเสนอแผนดังกล่าวในสเปน รัฐสภาโปรตุเกสได้ปฏิเสธข้อเสนอของพรรค People Animal Nature ที่จะอนุญาตให้ “ผู้ที่มีมดลูกซึ่งมีอาการปวดอย่างรุนแรงในช่วงมีประจำเดือน” หยุดงานเป็นเวลาสามวันต่อเดือน [Jornal de noticias] ข้อเสนอนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ายังไม่เพียงพอ ไม่เหมือนแผนของสเปน ไม่รวมเวลาหยุดงานที่ได้รับค่าจ้างและกำหนดให้ผู้หญิงต้องได้รับใบรับรองแพทย์ MulherEndo สมาคมโปรตุเกสที่สนับสนุนผู้ที่เป็นโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ได้เรียกร้องให้ฝ่ายอื่นๆจัดทำข้อเสนอใหม่และนำเสนอรัฐสภาอีกครั้ง [Portugal] (vb-sr/pk, transl. by tj)
ศาลตัดสินว่านักร้องแร็ปเปอร์ชาวสเปนไม่ควรถูกส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดนจากเบลเยียม นักร้องแร็ปเปอร์ชาวสเปน Valtonyc จะไม่ถูกส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดนจากเบลเยียมไปยังประเทศบ้านเกิดของเขาเพื่อรับโทษจำคุก 3 ปีครึ่งที่เขาได้รับในปี 2560 จากการสนับสนุนความรุนแรงของ ETA กลุ่มแบ่งแยกดินแดน Basque และกลุ่มฝ่ายซ้ายที่สลายตัวไปแล้ว และหมิ่นราชาธิปไตยสเปนในเนื้อเพลงของเขา ศาลเบลเยียมในเมืองเกนต์ ตัดสินใจปฏิเสธการส่งผู้ร้ายข้ามแดน เนื่องจากความผิดดังกล่าวไม่ใช่อาชญากรรมภายใต้กฎหมายของเบลเยี่ยม [Reuters] Valtonyc วัย 28 ปี บอกกับผู้สื่อข่าวเมื่อสิ้นสุดการพิจารณาคดีของเขาว่า “ฉันคิดว่าฉันได้ปกป้องเสรีภาพในการแสดงออกมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ตั้งแต่ฉันอายุ 18 ปี เมื่อทั้งหมดนี้เริ่มต้นขึ้น และฉันต้องการเริ่มต้นชีวิต” [ElPaís] นักร้องรายนี้มีชื่อจริงว่า Josep Miguel Arenas Beltran ได้รับความสนใจจากองค์กรระดับนานาชาติ เช่น Amnesty International ซึ่งถือว่าคำพิพากษาของสเปนละเมิดเสรีภาพในการแสดงออก [Euronews] (vb/pk, transl. by tj)
สเปน: อดีตกษัตริย์ Juan Carlos กลับมาพบกับครอบครัว อดีตกษัตริย์ Juan Carlos ที่ 1 ของสเปนเสด็จกลับประเทศบ้านเกิดเพื่อเยี่ยมครอบครัวที่พระราชวังซาร์ซูเอลาในกรุงมาดริดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เสด็จลี้ภัยโดยสมัครใจใน กรุงอาบูดาบีในเดือนสิงหาคม 2563 ในระหว่างการเยือน 11 ชั่วโมง พระองค์ได้พบกับพระราชโอรสและกษัตริย์องค์ปัจจุบัน Felipe ที่ 6 และพระมเหสี ตลอดจนสมาชิกราชวงศ์ท่านอื่นๆ [Euronews] การพบปะมีขึ้นเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม อย่างส่วนตัวและถูกมองว่าเป็นโอกาสที่จะปรับให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวกลับสู่สภาพปกติหลังจากที่อดีตกษัตริย์อยู่ภายใต้เรื่องอื้อฉาวส ่วนตัวและการเงิน [ElMundo] [Europe Monthly April 2022] เจ้าหน้าที่กล่าวว่า กษัตริย์ Felipe ที่ 6 ทรงแจ้งพระบิดา"เกี่ยวกับประเด็นครอบครัวตลอดจนเหตุการณ์ต่าง ๆ และผลที่ตามมาในสังคมสเปน" กษัตริย์ Juan Carlos ที่ 1 กำลังทรงพิจารณาถึงแนวความคิดที่จะกลับไปทรงใช้ชีวิตในสเปน [ElMundo] ก่อนเสด็จไปยังกรุงมาดริด อดีตกษัตริย์ทรงใช้เวลาช่วงสุดสัปดาห์ที่ Sanxenxo ทางตอนเหนือของสเปน เข้าร่วมการแข่งเรือและสนุกสนานกับพระสหาย [Euronews] (vb/pk, transl. by tj) กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปกลาง ![]() ฮังการี: Orban ได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งโดยรัฐสภาใหม่ รัฐสภาใหม่ของฮังการีประชุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม หนึ่งเดือนหลังจากการลงคะแนนเสียง ซึ่งนายกรัฐมนตรีฝ่ายขวา Victor Orban และพรรค Fidesz ของเขาได้รับชัยชนะติดต่อกันเป็นครั้งที่สี่ในการเลือกตั้งทั่วไป [Europe Monthly May 2022] รัฐสภาซึ่งมีสมาชิก 199 คน ประกอบด้วยสมาชิกพรรคที่ปกครองประเทศ (Fidesz-KDNP) 135 คน และสมาชิกฝ่ายค้าน 62 คน รวมทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอิสระ 1 คน และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 1 คนจากชนกลุ่มน้อยเยอรมัน พรรคร่วมฝ่ายค้านซึ่งรวมตัวกันในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 เมษายนในความพยายามที่จะยุติการปกครองประเทศเป็นเวลา 12 ปีของ Orban ได้จัดตั้งกลุ่มรัฐสภาแยกต่างหากในสภานิติบัญญัติใหม่ [Hungary Today] [Euronews] สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเลือก Orban เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง และ Laszlo Kover เป็นประธานสภา ทั้งสองดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี 2553 ในจำนวนรองโฆษกที่ได้รับเลือกตั้งหกคน สี่คนมาจากรัฐบาลและอีกสองคนมาจากฝ่ายค้าน [Telex] ภายหลังพิธีสาบานตน กลุ่มต่อต้านสามในเจ็ดได้ออกจากห้องไป แม้ว่าจะมีสองกลุ่มกลับมาในภายหลัง Andras Fekete-Gyor หัวหน้าของกลุ่ม Momentum ในรัฐสภา ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยังคงอยู่ข้างนอก กล่าวว่ามี “ระบบการเลือกตั้งและระบบสื่อในฮังการีที่เรารู้ว่าไม่เป็นประชาธิปไตย” เขาเสริมว่าพรรคของเขาไม่ต้องการทำให้ระบบดังกล่าวถูกต้องตามกฎหมายโดยการเข้าร่วมอยู่ในรัฐสภา [Telex] “ในปีต่อๆ ไป เราจะทำงานนอกรัฐสภาเป็นหลัก” เขาให้คำปฏิญาณ [Telex] Orban ได้ปะทะกับสหภาพยุโรปหลายครั้งท่ามกลางข้อกล่าวหาว่าเขาบ่อนทำลายหลักนิติธรรมและเสรีภาพของสื่อ เมื่อวันที่ 27 เมษายน บรัสเซลส์ได้เริ่มใช้กลไกหลักนิติธรรมเป็นครั้งแรก ซึ่งอาจอนุญาตให้ระงับเงินทุนจากฮังการีได้ [Europe Monthly May 2022] โดยไม่ขึ้นกับการเลือกตั้งรัฐสภาและการตั้งรัฐสภาใหม่ อำนาจของอดีตประธานาธิบดี Janos Ader จึงสิ้นสุดลง เขาถูกแทนที่เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมโดย Katalin Novak ซึ่งได้รับเลือกเมื่อต้นเดือนมีนาคม Novak ถือเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดของ Orban [Europe Monthly March 2022] (dk/pk, transl. by tj)
ฮังการี: รัฐบาลใช้อำนาจฉุกเฉินท่ามกลางสงครามในยูเครน รัฐบาลฮังการีประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ส่งผลให้ผู้บริหารมีอำนาจมากขึ้นท่ามกลางสงครามในยูเครน ในวันเดียวกันนั้น ฝ่ายนิติบัญญัติได้นำการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่บังคับใช้มาตรการดังกล่าวมาใช้ [Reuters] [Politico] [Telex] การเก็บภาษีโชคลาภจากธนาคารและบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ถือเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญครั้งแรกของรัฐบาลภายใต้อำนาจฉุกเฉิน ภาษีใหม่นี้จะนำไปใช้เป็นกองทุนยุทโธปกรณ์ของกองทัพบกและเพื่อจัดหาพลังงานให้กับครอบครัวในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด [Euractiv] [Telex] ภาวะฉุกเฉินมีขึ้นหลังจากพรรคฝ่ายขวา Fidesz ของ Viktor Orban ชนะการเลือกตั้งรัฐสภาด้วยคะแนนเสียงข้างมากเมื่อวันที่ 3 เมษายน ทำให้พรรคได้รับเสียงข้างมากตามรัฐธรรมนูญในรัฐสภาเป็นสมัยที่สี่ติดต่อกัน [Europe Monthly May 2022] รัฐบาลกล่าวว่าการประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นสิ่งจำเป็นเนื่องจากการขัดแย้งทางทหารและภัยพิบัติด้านมนุษยธรรมในยูเครนซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ ้าน และเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อฮังการี [Magyar Közlöny] ฝ่ายค้านกังวลว่ารัฐบาลอาจมอบอำนาจให้ตัวเองกว้างเกินไปแต่ก็ไม่มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงต่อการเคลื่อนไหวของผู้บริหาร [Telex] (dk/pk, transl. by tj)
ฮังการี: แผนการลงประชามติในเรื่องมหาวิทยาลัยของจีนถูกตัดสินว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ แผนการลงประชามติในเรื่องที่ว่าควรจะอนุญาตให้เปิดวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งหนึ่งของจีนขึ้นในกรุงบูดาเปสต์หรือไม่ ถูกศาลสูงสุดของฮังการีตัดสินว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ [Hungary Today] นายกเทศมนตรีฝ่ายค้านของบูดาเปสต์ Gergely Karacsony ยื่นคำร้องขออย่างเป็นทางการเพื่อให้มีการลงประชามติเกี่ยวกับการเปิดวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยฟู่ตั้นขึ้นในเมืองหลวงของฮังการีในฤดูร้อ นปี 2021 [Hungary Today] [Telex] การเสนอเพื่อจัดการลงประชามติถูกปฏิเสธโดยศาลรัฐธรรมนูญหลังจากที่ได้รับการอนุมัติจากศาลฎีกาในเดือนธันวาคม 2021 ภายใต้รัฐธรรมนูญของฮังการี การลงประชามติไม่สามารถจัดขึ้นได้ในเรื่องสนธิสัญญาระหว่างประเทศ เช่น สนธิสัญญาที่ครอบคลุมการเปิดวิทยาเขตนี้ [Telex] กรณีของมหาวิทยาลัยฟู่ตั้นนั้นเป็นสาเหตุของการระดมมวลชนครั้งสำคัญสำหรับฝ่ายค้านในปี 2021 ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งที่สนับสนุนรัฐบาลจำนวนมากรวมถึงพรรคฝ่ายค้านหลายพรรคได้วิตกกังวลเกี่ยวกับอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของจีนใน ฮังการี [Telex] (dk/pk, transl. by vv)
สโลวาเกีย: รัฐบาลผสมเผชิญวิกฤติหลังการเสนอให้จับกุมอดีตนายกฯ ล้มเหลว รัฐบาลผสมของสโลวาเกียเผชิญกับวิกฤตการณ์ภายในหลังจากการลงคะแนนเสียงของรัฐสภาที่จำเป็นต่อการเพิกถอนความคุ้มกันของอดีตนายกรัฐมนตรีแ ละหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน Robert Fico ประสบความล้มเหลวเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม เมื่อวันที่ 20 เมษายน Fico ถูกตั้งข้อหาว่าเป็นผู้นำองค์กรอาชญากรรม พร้อมกับผู้ต้องสงสัยคนอื่นๆ ซึ่งรวมถึงอดีตรัฐมนตรีมหาดไทย [Europe Monthly May 2022] แต่เนื่องจาก Fico ยังคงมีความคุ้มกันของรัฐสภาจากการถูกฟ้องร้องดำเนินคดี เขาจึงไม่ถูกจับกุม ในทางทฤษฎี รัฐบาลผสมมีที่นั่งในรัฐสภามากพอที่จะทำให้ฟีโกถูกควบคุมตัวได้ โดยต้องมีคะแนนเสียง 76 เสียงในห้องประชุมรัฐสภาที่มี 150 ที่นั่ง อย่างไรก็ตาม มีสมาชิกสภาฯ 74 คนเท่านั้นที่สนับสนุนการดำเนินการดังกล่าว รัฐบาลผสมประกอบด้วยพรรคสายกลาง-ขวา Ordinary People (OL'aNO), พรรคสายกลาง-ขวา Freedom and Solidarity (SaS), พรรคฝ่ายขวา We Are Family (SR) และพรรคสายกลาง For the People (SL) [Spectator] แม้พรรค SR จะงดออกเสียง รัฐบาลผสมชุดนี้ก็ยังคงมีจำนวนสมาชิกสภาฯ เพียงพอที่จะได้รับชัยชนะ หากสมาชิกรัฐสภาทุกคนลงคะแนนเสียง แต่สมาชิกพรรค OL'aNO สองคนงดออกเสียง จึงส่งผลให้เกิดความล้มเหลวขึ้นในรัฐสภา Richard Sulik รัฐมนตรีเศรษฐกิจและหัวหน้าพรรค SaS เรียกสิ่งนี้ว่า “ความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ที่สุด” และกล่าวว่าพรรค OL'aNO ไม่สามารถเรียกตัวเองว่าเป็นพรรคที่ต่อต้านการทุจริตได้อีกต่อไป อย่างที่เคยทำมาจนถึงตอนนี้ [Spectator] สมาชิกสภาผู้แทนฯ สองคนที่งดออกเสียงเป็นผู้แทนจากพรรค OL'aNO และถูกขับออกทันทีหลังจากไม่ปฏิบัติตามวิธีการลงคะแนนเสียงของพรรค ในวิดีโอที่โพสต์ลงบนโซเชียลมีเดียนั้น นายกรัฐมนตรี Eduard Heger แห่งพรรค OL'aNO กล่าวว่า “ผู้แทนได้ทรยศต่อค่านิยมหลักของพรรค OL'aNO ซึ่งเราได้กำหนดไว้ในแผนงานของเรา และเราก็ลงสมัครรับเลือกตั้งในระดับรัฐสภาในปี 2020 โดยทำตามแผนงานนั้น” [Pravda] ตอนนี้รัฐบาลผสมชุดนี้กำลังเผชิญวิกฤติเนื่องจากพรรค SaS ได้ตั้งคำถามถึงการนำพรรค SR เข้าร่วมรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง และแม้แต่ขู่ว่าจะแยกตัวออกจากการเป็นรัฐบาลผสม หากการนำเสนอมาตรการความช่วยเหลือต่อครอบครัวและการป้องกันเงินเฟ้อที่กำลังจะมีขึ้นนั้นมีผลบังคับใช้ [Pravda] Fico ถูกบีบให้ลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหลังจากมีการแสดงออกอย่างรุนแรงของสาธารณชนต่อกรณีการฆาตกรรมนักข่าวผู้ได้ทำการสอบหาข้อเท็จจริงเก ี่ยวกับการทุจริตของเจ้าหน้าที่ระดับสูง ตั้งแต่นั้นมา เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจำนวนมากในสโลวาเกียได้ถูกตรวจสอบเนื่องจากถูกสงสัยว่ารับสินบน [Europe Monthly November 2021] Heger ได้เป็นนายกรัฐมนตรีหลังจากการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่ในเดือนมีนาคม 2021 โดยเข้าดำรงตำแหน่งแทนที่ Igor Matovic (cg/pk, transl. by vv)
สโลวีเนีย: Golob ซึ่งชนะการเลือกตั้งประกาศจัดตั้งรัฐบาลผสมชุดใหม่ Robert Golob ซึ่งเป็นนักการเมืองหน้าใหม่และเป็นหัวหน้าพรรคกลุ่มเคลื่อนไหวเสรีภาพ (Freedom Movement) ซึ่งเป็นฝ่ายเสรีนิยมของสโลวีเนีย ได้ประกาศข้อตกลงในการจัดตั้งรัฐบาลผสมกลาง-ซ้ายกับพรรคโซเชียลเดโมแครตและพรรคฝ่ายซ้าย Levica หลังจากเขาได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งรัฐสภา Golob ซึ่งปัจจุบันเป็นนายกรัฐมนตรีของสโลวีเนีย ได้รับเสียงข้างมากอย่างง่ายดาย โดยมี 53 ที่นั่งจาก 90 ที่นั่งในรัฐสภา กลุ่มเคลื่อนไหวเสรีภาพของ Golob ได้รับคะแนนเสียงร้อยละ 34.4 ในการเลือกตั้ง (สมาชิก) สภานิติบัญญัติในเดือนเมษายน ซึ่งสร้างความตกใจให้กับอดีตนายกรัฐมนตรี Janez Jansa และพรรคประชาธิปัตย์สโลวีเนียที่ได้รับความนิยมของเขา [Europe Monthly May 2022] [Euronews] สโลวีเนียขัดแย้งอย่างรุนแรงกับบรัสเซลส์เกี่ยวกับคำกล่าวหาว่าสโลวีเนียได้บ่อนทำลายมาตรฐานประชาธิปไตยและหลักนิติธรรมในช่วงที่ Jansa ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในกฎหมายฉบับแรกของ Golob นั้น เขามีเป้าหมายที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้แก่หลักนิติธรรม สิทธิมนุษยชน และการคุ้มครองความเป็นอิสระของสื่อ ด้วยการยกเลิกข้อจำกัดที่ Jansa และพรรคประชาธิปัตย์สโลวีเนียนำมาใช้ [Europe Monthly March 2022] [Euractiv 1] [Euractiv 2] พรรครัฐบาลผสมชุดใหม่นี้ได้ประกาศว่าจะปรับโครงสร้างกระทรวงหลายกระทรวงเพื่อสะท้อนให้เห็นสถานะและเป้าหมายทางการเมืองของรัฐบาลได้ดีข ึ้น ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานสีเขียวและการปฏิรูปการจัดการรักษาพยาบาล กระทรวงใหม่ซึ่งมี Luka Mesec หัวหน้าพรรค Levica เป็นรัฐมนตรีว่าการนั้นจะถูกตั้งขึ้นเพื่อจัดการกับ “ความเป็นปึกแผ่นระหว่างประชากรต่างรุ่น (intergenerational solidarity)” หัวหน้าพรรคโซเชียลเดโมแครต Tanja Falon เตรียมตัวเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ หลังจากที่เธอลาออกจากตำแหน่งสภาชิกรัฐสภายุโรป (MEP) ทั้งเธอและ Mesec จะดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี Falon กล่าวในช่วงตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่าการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลผสมนั้น “ประสบความยุ่งยาก” [Euractiv] Golob ได้กล่าวว่าเขาวางแผนที่จะรวมกลุ่มฝ่ายซ้ายของสโลวีเนียเข้ากับกลุ่มเสรีนิยม เพื่อทำให้รัฐบาลผสมของเขามั่นคงขึ้น ในขณะที่เขาพยายามจะปกครองประเทศให้ได้สองสมัย เป้าหมายหลักของรัฐบาลผสมชุดใหม่นี้คือการฟื้นฟูความไว้วางใจและเสถียรภาพขึ้นในกระบวนการและสถาบันประชาธิปไตย มีการวางแผนการปฏิรูประบบการลงคะแนนเสียงเพื่อปรับปรุงเขตเลือกตั้งต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และเปิดใช้งานการลงคะแนนเสียงทางออนไลน์เพื่อดึงดูดผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งวัยหนุ่มสาว รัฐบาลผสมชุดนี้ยังมีจุดมุ่งหมายที่จะแก้ไขความขัดแย้งทางชายแดนเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับสถานะของสโลวีเนียในพื้นที่แถบอัลไพน์-เอ เดรียติก-ดานูบ สโลวีเนียกับโครเอเชียมีข้อพิพาทในเรื่องพรมแดนมาเป็นเวลานาน ซึ่งส่งผลให้สโลวีเนียปิดกั้นการสมัครเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปของโครเอเชียในปี 2008 [Dnevnik] รัฐบาลผสมชุดใหม่นี้ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากรัฐบาลที่กำลังหมดวาระการทำงานแล้วเช่นกัน เนื่องจาก Golob ได้ให้ตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีสองตำแหน่งแก่หัวหน้าพรรคฝ่ายเสรีนิยมที่ไม่มีคุณสมบัติครบตามเกณฑ์การเลือกตั้งและไม่ได้เข้าไปนั่งในรัฐส ภา ตำแหน่งที่เป็นปัญหาคือตำแหน่งรัฐมนตรีมหาดไทยและรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ประเด็นความขัดแย้งอีกประการหนึ่งคือการที่รัฐบาลผสมแก้ไขสัญญาซื้อ-ขายอาวุธขนาดใหญ่ที่วางแผนโดยรัฐบาลของ Jansa ในเดือนพฤษภาคม รัฐมนตรีกลาโหม Jaroslav Nad ได้ประกาศลงนามในบันทึกความเข้าใจสำหรับการซื้อรถหุ้มเกราะ BOXER จำนวน 45 คันจากสองบริษัทผลิตอาวุธสัญชาติเยอรมัน Rheinmetall และ KMW ข้อตกลงนี้มีมูลค่า 400 ล้านยูโร [Euractiv] (cg/pk, transl. by vv)
สโลวีเนีย: กฤษฎีกาว่าด้วยโควิดที่ให้อำนาจอย่างกว้างขวางแก่นายกฯ ถูกประกาศว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ ศาลสูงสุดของสโลวีเนียได้ตัดสินเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมว่า กฤษฎีกาซึ่งให้อำนาจแก่นายกรัฐมนตรี Janez Jansa อย่างกว้างขวางในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิดนั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมันถูกนำไปใช้เพื่อละเมิดสิทธิ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองในกฎหมายสูงสุดของประเทศ กฤษฎีกาฉบับนี้อนุญาตให้รัฐบาลรวบรวมและใช้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานะการตรวจ การติดเชื้อ หรือการฉีดวัคซีนของบุคคลได้ เพื่อให้ประชาชนที่ได้รับวัคซีนหรือรับการตรวจแล้วได้เข้าถึงสถานที่สาธารณะได้โดยผ่าน “เอกสารรับรองการฉีดวัคซีนโควิด (Covid pass)” [Sloveniatimes][Pisrs.si] เว็บไซต์ข่าว Euractiv ระบุว่าศาลรัฐธรรมนูญของสโลวีเนียกล่าวว่ากฤษฎีกาฉบับนี้ละเมิดสิทธิมนุษยชนและสิทธิ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล Mojca Prelesnik กรรมาธิการข้อมูลของสโลวีเนียกล่าวว่า “รัฐต้องปกป้องผู้คนจากโรคติดต่อ ซึ่งเป็นหนึ่งในสิทธิมนุษยชน แต่ต้องไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชนในด้านอื่น” รัฐบาลตอบโต้ด้วยการอ้างระเบียบการคุ้มครองข้อมูลทั่วไปของสหภาพยุโรป (European General Data Protection Regulation - GDPR) และอ้างว่าตนได้ดำเนินการภายในขอบเขตทางกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ศาลรัฐธรรมนูญไม่เห็นด้วยกับการตีความของรัฐบาล โดยกล่าวว่า “วัตถุประสงค์ของ GDPR คือการปกป้องบุคคลจากการ (ถูก) ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่สามารถยอมรับได้ และไม่ ‘ในทุกกรณี’ อนุญาตให้รัฐทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” [Dnevnik] แม้จะประกาศว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ แต่กฤษฎีกาฉบับนี้จะยังคงมีผลใช้บังคับจนถึงสิ้นปี Jansa และพรรคประชาธิปัตย์สโลวีเนีย (SDS) ฝ่ายขวาของเขาถูกกวาดคะแนนเสียงไปอย่างมากจนต้องพ้นจากตำแหน่งในการเลือกตั้งรัฐสภาเมื่อวันที่ 24 เมษายน [Europe Monthly May 2022] (cg/pk, transl. by vv) กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปเหนือ ![]() นอร์เวย์: รัฐสภาลงมติคัดค้านการตั้งจุดลงทะเบียนล็อบบี้ยิสต์ รัฐสภานอร์เวย์ได้ลงมติคัดค้านข้อเสนอของพรรคเสรีนิยมฝ่ายค้านในการตั้งจุดลงทะเบียน ซึ่งจะกำหนดให้ล็อบบี้ยิสต์หรือนักวิ่งเต้น (lobbyist) ทุกคนที่เข้าและออกจากรัฐสภาต้องลงทะเบียนที่จุดนั้น ปัจจุบันนี้มีโครงการที่เรียกว่า “โครงการบัตรทอง” ทุกคนที่ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติจะได้รับบัตรผ่านตลอดชีวิต ซึ่งพวกเขาจะไม่สูญเสียสิทธิ์นี้แม้ว่าจะไม่ได้เป็นผู้แทนอีกต่อไปแล้ว และตอนนี้ได้ทำงานให้กับกลุ่มนักวิ่งแต้นหรือบริษัทประชาสัมพันธ์ที่พยายามใช้อิทธิพลทางการเมือง [vg] เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พรรคแรงงานและพรรคสายกลางที่ปกครองประเทศ รวมทั้งพรรคอนุรักษ์นิยมฝ่ายค้านและพรรคกรีน ได้ลงมติคัดค้านข้อเสนอให้เปลี่ยนระบบ โดยแย้งว่าการลงทะเบียนจะไม่ทำให้ประชาธิปไตยแข็งแกร่งขึ้น Kari Henriksen รองประธานรัฐสภากล่าวว่าข้อเสีย เช่น ระบบราชการที่เพิ่มขึ้นมากและความต้องการทรัพยากรที่เพิ่มขึ้นนั้น จะมีมากกว่าข้อดี สมาชิกสภาฯ ของนอร์เวย์หารือเกี่ยวกับว่าได้มีการแนะนำให้มีจุดลงทะเบียนนักวิ่งเต้นในปี 2010 และ 2014 แต่แนวคิดนี้ก็ถูกปฏิเสธทั้งสองครั้ง หน่วยงานต่อต้านการทุจริตของสภายุโรปได้ขอให้นอร์เวย์พิจารณาดำเนินการลงทะเบียนดังกล่าวอีกครั้งในปี 2014 [aftenposten] (js/pk, transl. by vv)
สวีเดน: ศาลตัดสินให้ตำรวจมีความผิดฐานปฏิเสธการอนุญาตให้ฝ่ายขวาจัดจัดการชุมนุม ศาลสวีเดนได้ตัดสินว่าตำรวจไม่ถูกทำให้พ้นผิดในการปฏิเสธที่จะอนุญาติให้นักการเมืองฝ่ายขวาจัด Rasmus Paludan จัดการชุมนุมหลังจากการรวมกลุ่มที่เขาจัดขึ้นในเดือนเมษายนจุดชนวนให้เกิดการจลาจล Paludan ซึ่งมีทั้งสัญชาติสวีเดนและเดนมาร์ก เป็นผู้นำพรรคขวาจัด Stram Kurs (Hard Line) ของเดนมาร์ก และวางแผนจะลงสมัครรับเลือกตั้งในระดับรัฐสภาสวีเดนในฤดูใบไม้ร่วงนี้ เขาเป็นที่รู้จักจากการจัดชุมนุมต่อต้านมุสลิม ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของสิ่ง (ที่ทำให้เกิด) การเผาคัมภีร์อัลกุรอาน การชุมนุมที่เขาจัดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์อีสเตอร์นั้นทำให้เกิดการแสดงออกอย่างรุนแรงในประเทศมุสลิม และจุดชนวนให้เกิดความรุนแรงขึ้นทั่วประเทศสวีเดน มีรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายร้อยคนหลังจากการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจ [Göteborgs-Posten] [Europe Monthly May 2022] หลังจากการจลาจลนั้น Paludan ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้จัดการชุมนุมใดๆ ขึ้นอีกในเดือนเมษายน ตำรวจกล่าวว่าพวกเขาไม่สามารถรับประกันความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยได้ เพราะการยื่นขอจัดการชุมนุมเหล่านั้นกระทำขึ้นในเวลาอันสั้นซึ่งทำให้มีเวลาเตรียมตัวน้อย [Dagens Nyheter] เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ศาลปกครองในเมืองโกเธนเบิร์กได้ตัดสินว่ามีอย่างน้อยหนึ่งคดีที่ตำรวจมีความผิดฐานปฏิเสธที่จะให้การอนุญาตแก่ Paludan และว่าเขาควรได้รับมอบหมายสถานที่อื่นให้จัดงานชุมนุมได้ หลังจากการตัดสินของศาลแล้ว Paludan ก็ได้จัดการชุมนุมต่อไปในเดือนพฤษภาคม ซึ่งส่วนใหญ่ถูกตำรวจปิดล้อม บรรยากาศเต็มไปด้วยอารมณ์ตื่นเต้นรุนแรงแต่ก็ไม่มีรายงานว่าเกิดเหตุการณ์ไม่สงบอย่างมากขึ้น [Dagens Nyheter] [Göteborgs-Posten] (pr/pk, transl. by vv) Contributors and editorial team: Aleksandra Bulatova (ab), Anamilé Grothuesmann Restituyo (ar), Ann-Charlotte Neumann (acn), Antonia Lawrenz (aml), Aurea T. da S. Ferreira (af), Beatrice Paladini (bp), Christopher James Godwin (cg), David Kiss (dk), Eric Kliszcz (ek), Fabian Schubert (fs), Ferdinand Witthuhn (fw), Giulia Taraborrelli (gt), Gizem Öztürk (gö), Glen Carey (gc), Harry Taunton (ht), Henning Glaser (hg), Ivandzhelin Bozadzhieva (ib), Jan Grosser (jg), Jan Vogelgesang (jv), Jannis Kupfer (jk), Jasmin Spekkers (js), Jonas Borini (jb), Jose Moises Sanchez Amaya (jm), Ketevan Esaiashvili (ke), Kevin Sarmiento (ks), Lavinia Abbott (la), Lea Holst (lh), Lena Krummeich (lk), Marcel Varga (mv), Marlene Busch (mb), Maximilian Ohle (mo), Natinunt Muenchorn, Peter Kononczuk (pk), Philipp Rieth (phr), Piet Rehmert (pr), Quentin Vidberg (qv), Saen Witthayaphatthanaphorn (sw), Sophie Roth (sr), Tamari Akhaladze (ta), Valentina Polacchi (vp), Venus Phuangkom, Vincenzo Bardo (vb), Warren O'Broin (wo), Yara Pstrong (yp), Yury Malakhov (ym)
Translators: Tomwit Jarnson (tj), Natthanicha Lephilibert (nl), Aekpaween Anuson (aa), Vachiravan Vanlaeiad (vv), Pattariya Hansawong (ph) เราจะขอบคุณมากสำหรับความคิดเห็นของคุณ! โปรดส่งความคิดเห็นใดๆ ที่คุณมีเกี่ยวกับจดหมายข่าวนี้ไปที่ : info@cpg-online.de นอกจากนี้ อย่าลืมกด Like CPG บน Facebook และเยี่ยมชม เว็บไซต์ ของเราสำหรับการอัปเดตข้อมูลข่าวสารอื่นๆ
|