![]() ![]() คว้าข่าวสาร อ่านเทรนด์ยุโรป ฉบับที่ 10, ตุลาคม 2565
ส่งข่าวสารถึงคุณโดย CPG สนับสนุนโดย KAS ![]() เรียน ท่านผู้อ่าน สวัสดีครับและขอยินดีต้อนรับสู่วารสาร Europe in Review (EiR) ฉบับเดือนตุลาคม จัดทำขึ้นโดยศูนย์ความเป็นเลิศด้านนโยบายสาธารณะและธรรมาภิบาลเยอรมัน-อุษาคเนย์ (CPG) แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิคอนราด อาเดนาวร์ (Konrad Adenauer Stiftung) เช่นเคย เรานำเสนอเรื่องราวที่ผ่านการคัดสรรทั้งหมดจากฉบับภาษาอังกฤษของ Europe in Review โดยแปลเป็นภาษาไทย หากท่านสนใจอ่านฉบับเต็มภาษาอังกฤษ โปรดลงทะเบียนผ่าน ช่องทางนี้ หากท่านสนใจในบทความสรุปในเรื่องราวล่าสุดของกิจการรัฐธรรมนูญ การเมืองภายในประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ภูมิรัฐศาสตร์ การป้องกัน ความมั่นคงร่วม และสิทธิมนุษยชนในเอเชีย โปรดลงทะเบียนอีกช่องทางเพื่อรับความสารจาก Asia in Review
ด้วยความปรารถนาดี Henning Glaser บรรณาธิการบริหาร
เว็บไซต์: https://www.cpg-online.de, เฟซบุ๊ก: https://www.facebook.com/CPGTU (transl. by ph) Main Sections
เรื่องเด่น - บรรณาธิการคัดสรร ![]() รัสเซียดำเนินการเคลื่อนพลหลังจากที่ยูเครนโต้กลับทำให้สถาณการณ์เกิดความรุนแรงขึ้น กันยายนถือเป็นเดือนที่เป็นจุดเปลี่ยนของทั้งสองฝ่ายสำหรับสงครามในยูเครน
ยูเครนประสบความสำเร็จอันสำคัญนี้ในการสู้เพื่อโต้กลับโดยสามารถบีบให้กองทัพของรัสเซียออกจากเมืองคาร์คีฟ (Kharkiv)
ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกไปได้
ซึ่งถือเป็นการกู้เมืองที่มีประชาการมากเป็นอันดับสองของประเทศและขับไล่กองทัพของรัสเซียออกจากบริเวณชายแดนซึ่งเป็นจุดที่สำคัญนี้ได้
อีกทั้งยังเผยให้เห็นถึงหลักฐานที่สืบเนื่องกับอาชญากรรมสงครามที่กำลังเป็นที่สงสัย หลังจากนั้นสองสัปดาห์
รัฐบาลแห่งรัสเซียประกาศที่จะผนวกสี่ภูมิภาคในยูเครนที่ยังไม่ได้ครอบครองอย่างเต็มรูปแบบ ในขณะที่ การกระทำดังกล่าวเพิ่มความรุนแรงต่อความขัดแย่งที่มีมานานกว่า 7 เดือน โดยประธานาธิบดีปูตินยังออกมาเตือนว่าเขาพร้อมที่จะพึ่งพาแนวทางการใช้อาวุธนิวเคลียร์เพื่อปกป้องเขตแดนที่รัสเซียอ้างสิทธิ ยูเครนประสบความสำเร็จในการรุดหน้าต่อสู้ ยูเครนได้ดำเนินการรุดหน้าต่อสู้แบบฉับพลันเมื่อวันที่ 6 กันยายน ในเมืองคาร์คีฟ (Kharkiv) ซึ่งอยู่ทางภูมิภาคตะวันออก เป็นผลให้พื้นที่กว่า 6,000 ตารางกิโลเมตรหลุดจากการครอบครองของรัสเซียและยังถือเป็นชัยชนะเหนือกองกำลังของรัสเซียอย่างเห็นได้ชัด การดำเนินการดังกล่าวถือเป็นการเดินหน้าต่อสู้ครั้งแรกและครั้งใหญ่ที่สุดที่ยูเครนเคยทำตั้งแต่สงครามเกิดขึ้น โดยหลายเดือนที่ผ่านมายูเครนได้เพียงแต่สู้ในรูปแบบการป้องกันเท่านั้น ก่อนที่จะมีการสู้กลับของยูเครน การต่อสู้ในแนวหน้าของเมืองคาร์คีฟเป็นลักษณะของการดวลด้วยปืนใหญ่เช่นเดียวกับแนวหน้าในเมืองดอนบาสก์ (Donbas) กองทัพรัสเซียได้เข้ายึดครองดินแดนตั้งแต่ช่วงที่สงครามเริ่มต้นโดยกองทัพฯได้รุดเข้ามาใกล้จนสามารถโจมตีเมืองคาร์คีฟ (Kharkiv) จากพื้นที่ชานเมืองได้ แต่เหตุการณ์เหล่านี้ได้เปลี่ยนไปตั้งแต่ 6 กันยายนที่ผ่านมาเนื่องจากกองกำลังของยูเครนเอาชนะกองทัพรัสเซียและสามารถเข้ายึดครองพื้นที่ยุทธศาสตร์เช่นเมือง Balakliia Shevchenkove Kupiansk และ Izium ได้ภายในช่วงเวลาเพียงสัปดาห์ ชาวบ้านที่อาศัยในบริเวณดังกล่าวซึ่งต้องทนทรมานอยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซียกว่า 200 วัน ได้จัดงานเลี้ยงเพื่อฉลองให้แก่กองกำลังยูเครน กระทรวงกลาโหมแห่งรัสเซียออกมากล่าวอ้างว่าการเสียดินแดนบริเวณดังกล่าวเป็นไปตามเจตนาของแผนการที่จะ “รวมกลุ่มใหม่” [Guardian] [BBC News] [Irish Times] [Telegraph] [Institute for the Study of War] [Washington Post] ผู้สังเกตการณ์มองว่ากองกำลังรัสเซียนั้นมีลักษณะ “ที่ไม่เป็นระบบและมีจำนวนน้อย” ไม่มีกำลังพลมากพอที่จะรักษาพื้นที่ที่กองกำลังยูเครนรุดหน้าเข้ามา อุปกรณ์จำนวนมากเช่นรถถัง เกราะ และระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศถูกทิ้งไว้โดยกองกำลังรัสเซีย ผู้นำและสื่อที่ให้การสนับสนุนรัสเซียออกมาวิพากษ์วิจารณ์กองกำลังรัสเซียอย่างรุนแรง บุคคลที่มีชื่อเสียงในสาธารณรัฐประชาชนดอนบาสก์ (Donbas) ซึ่งเป็นพื้นที่ในภูมิภาคดอนบาสก์ที่ได้รับการหนุนจากรัสเซียแต่ยังไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นประเทศ กล่าวว่า “หากท่านผู้อาสวุโสของเราในคณะบริหาร (Kremlin) ยังไม่เป็นวิธีการต่อสู้ เราจะต้องพบกับความพ่ายแพ้อย่างสาหัสในภายภาคหน้า” Ramzan Kadyrov ผู้นำของรัฐเชชเนียและผู้สนับสนุนหลักของประธานาธิบดีปูติน กล่าวว่าผู้บัญชาการกองทัพของรัสเซียได้ “ตัดสินผิดพลาด” โดยหากยังดำเนินการเช่นนี้ต่อไปเขาอาจต้อง “พูดคุยกับผู้นำในกระทรวงกลาโหมและผู้นำประเทศ” ผู้คนต่างพากันชื่นชม “ยุทธศิลป์อันชาญฉลาด” ของกองกำลังยูเครนในเมืองคาร์คีฟ โดยให้คำนิยามว่าเป็นปฏิบัติการที่ผสมผสานระหว่างคุณธรรมที่สูงประกอบกับกลยุทธ์ที่มี “แนวคิดและการทดลอง” โดยการชื่นชมถูกมุ่งประเด็นหลักไปที่ความสามารถในการลดความได้เปรียบของการต่อสู้ทางอากาศของกองกำลังรัสเซียผ่านการใช้ขีปณาวุธจากพื้น สู่อากาศ (surface-to-air missiles) ซึ่งส่งผลให้ “อากาศยานของรัสเซียระมัดระวังมากขึ้นจึงไม่สามารถดำเนินการบินเพื่อปกป้องกองกำลังภาคพื้นได้” กล่าวไว้โดย John Hardie ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันจาก Long War Journal [Atlantic] [Long War Journal] [Institute for the Study of War] [Guardian] [Guardian] [Economist] [Business Insider] ดูเหมือนว่าในขณะนี้ยูเครนกำลังพยายามที่จะใช้ความได้เปรียบจากเหตุการณ์ในเมืองคาร์คีฟมากดดันกองกำลังรัสเซียในพื้นที่ปกครองตนเองลูฮ ันสก์ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่รัสเซียยึดครองทั้งหมดจนกระทั่งยูเครนสามารถกู้พื้นที่ของหมู่บ้าน Bilohorivka กลับคืนมาได้เมื่อวันที่ 19 เดือนกันยายน เมือง Lyman ดูเหมือนว่าจะเป็นจุดสนใจของกองกำลังยูเครนในภาคตะวันออกเนื่องจากยังไม่มีการเดินหน้าทัพเข้าไปในบริเวณดังกล่าว บริเวณแนวหน้าในภูมิภาคดอนบาสก์ซึ่งอยู่ทางตะวันออกยังดูไม่มีการเคลื่อนไหวมากนัก ในขณะที่รัสเซียได้ทำการปิดล้อมเมือง Bakhmut และพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้อย่างภูมิภาค Zaporizhia ที่ยังมีความตรึงเครียดในเรื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Zaporizhzhia [Forbes] [Guardian] รัสเซียเดินหน้าระดมกำลังและผนวกพื้นที่ที่ยึดครอง การโต้กลับความพ่ายแพ้จากเหตุการณ์ในเมืองคาร์คีฟของรัสเซียมีอยู่สองด้าน ในด้านแรก ประธานาธิบดีปูตินแถลงเมื่อวันที่ 21 กันยายน ถึงการ “ระดมกำลังพลส่วนหนึ่ง” ของกองเกินรัสเซีย Sergei Shoigu รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งรัสเซียกล่าวว่าจะเพิ่มกำลังพลกว่า 300,000 นาย ปัญหาด้านกำลังพลเป็นประเด็นมาอย่างต่อเนื่องสำหรับกองกำลังรัสเซียซึ่งโดยส่วนใหญ่จะพึ่งพาทหารรับจ้าง โดยในต้นเดือนที่ผ่านมาภาพวิดีโอจาก Yevgeny Prigozhin ผู้ก่อตั้ง Wagner Mercenary Group เผยให้เห็นถึงความพยายามที่จะเกณฑ์ผู้ต้องขังจากเรือนจำในรัสเซียมาเป็นทหารรับจ้าง การระดมกำลังจะเพิ่มขีดความสามารถให้แก่กองกำลังรัสเซียแต่จะทำให้เกิดความท้าทายด้านการขนส่งเนื่องจากรัสเซียต้องใช้รถไฟและอุปกรณ์ต่ างๆในการขนกองกำลังใหม่นี้ Pavel Luzin ผู้เชี่ยวชาญด้านกองกำลังของรัสเซียจากคลังสมอง Foreign Policy Research Institute กล่าวว่ารัฐบาลของรัสเซียอาจต้องทำการสร้างหน่วยกองกำลังใหม่ขึ้นมาตั้งแต่ต้นเพื่อเกณฑ์ทหารใหม่ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่หากจะทำให้เป็นไปอย่างสมควรอาจต้องยืดเวลาออกไป โดยเฉพาะในขณะที่กองกำลังส่วนมากถูกส่งให้ไปต่อสู้ในยูเครน [Financial Times] [Reuters] [Associated Press] [Foreign Policy] [Guardian] [The Hill] [Deutsche Welle] [Sky News] [Al Jazeera] [Forbes] [New York Times] ในด้านที่สอง หน่วยงานที่มีอำนาจและตัวแทนจากดินแดนที่ถูกยึดครองใน Donetsk Luhansk Zaporizhzhia และ Kherson ได้ทำประชามติเพื่อโหวตที่จะผนวกพื้นที่ร่วมกับรัสเซียในวันที่ 23 และ 27 กันยายน รัสเซียได้เข้ายึดครอง Donetsk และ Luhansk ตั้งแต่ปี 2014 และจัดทำรัฐบาลตัวแทนขึ้นรู้จักในนามสาธารณรัฐประชาชนโดเนสก์และลูฮันสก์ตามลำดับ ในขณะที่การเข้ายึดครองผ่านกองกำลังในพื้นที่ Zaporizhzhia และ Kherson เกิดขึ้นในช่วงสงคราม รัสเซียไม่ได้ยึดครองภูมิภาคทั้งหมดนี้อีกต่อไป หลังจากที่ยึดครองลูฮันสก์มากว่าหลายเดือนก่อนที่การสู้กลับจากกองกำลังยูเครนจะกู้พื้นที่ของหมู่บ้าน Bilohorivka กลับมาได้เมื่อต้นเดือนกันยายน ประชามติถูกจัดขึ้นในดินแดนที่ถูกยึดครองซึ่งประชาการได้หลบหนีออกไปเป็นจำนวนมากแล้ว และทหารพยายามที่จะไปหน้าประตูของทุกบ้านเพื่อให้ทุกคนทำการโหวตซึ่งเป็นกระบวนการที่ถูกมองว่าเป็นอะไรที่หลอกลวง หน่วยงานที่มีอำนาจซึ่งถูกหนุนโดยรัฐบาลรัสเซียอ้างว่าผลโหวตมีจำนวนมากกว่าล้านโหวตและกว่าร้อยละ 95 ประสงค์ที่จะผนวกเข้ากับรัสเซีย การโหวตนั้นไม่ใช่การโหวตลับและต้องทำต่อหน้ากองกำลังทหาร อย่างไรก็ตาม รัฐบาลรัสเซียก็ยังถือว่านี่คือชัยชนะโดยประธานาธิบดีปูตินประกาศเมื่อ 30 กันยายนให้ดินแดนดังกล่าวเป็น “ส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์รัสเซียตลอดไป” ในบทสุนทรพจน์ที่ไม่มีประเด็นแน่ชัด ประธานาธิบดีปูตินได้กล่าวโทษว่าเป็นผลการกระทำจากฝั่งตะวันตกพร้อมทั้งประณามว่าเป็นพวกที่ “ชั่วร้าย” โดยใช้การอ้างอิงที่โดดไปมาจากเรื่องสงครามฝิ่นในศตวรรษที่ 19 และการผ่าตัดแปลงเพศ การเฉลิมฉลองถูกจัดขึ้นในกรุงมอสโคว โดยมีการขึ้นข้อความว่า “Donetsk, Luhansk, Zaporizhzhia, Kherson – Russia!” ทั้งยังมีศิลปินกล่าวสรรเสริญความเป็นอัตลักษณ์ของรัสเซีย หรือเหล่านี้อาจเป็นการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ ผู้เชี่ยวชาญเช่น Emily Ferris จาก Royal United Services Institute (RUSI) ซึ่งเป็นหน่วยงานคลังสมองด้านกลาโหมและความมั่นคงของสหราชอาณาจักร กล่าวว่าบทสุนทรพจน์ประธานาธิบดีปูตินและการผนวกดินแดนทำขึ้นเพื่อการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ ในมุมมองของเธอการกระทำดังกล่าวทำให้ประธานาธิบดีปูตินสามารถลดดีกรีของเป้าหมายในยูเครนลง ซึ่งในเริ่มต้นนั้นอยู่ในการเปลี่ยนแปลงระบอบ อีกทั้งยังทำให้กองกำลังรัสเซียมุ่งหน้าไปที่การผนวกดินแดนมากกว่าที่จะรุดหน้าเข้าไปในยูเครน ยูเครนออกมาตอบโต้การกระทำนี้โดยการดำเนินการขอเข้าร่วม NATOอย่างเป็นทางการ ถึงแม้ความเป็นไปได้จะมีเพียงน้อยนิดที่ชาติตะวันตกจะยอมให้ประเทศที่กำลังตกอยู่ในภาวะสงครามเข้าร่วม Jens Stoltenberg เลขาธิการ NATO กล่าวว่าองค์การฯมุ่งไปในเรื่อง “ให้การช่วยเหลือยูเครนในการป้องกันตนเองต่อการรุนรานอันรุนแรงของรัสเซีย” เดือนกันยายนถือเป็นเดือนที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนผันของการทูตรัสเซีย จีนและอินเดียปฏิเสธที่จะให้การสนันสนุนรัฐบาลรัสเซียในเรื่องการรุกรานและในขณะเดียวกันก็ไม่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ มีรายงานว่าประธานาธิบดี Xi Jinping ได้แสดง “ความกังวล” ในเรื่องสงครามกับประธานาธิบดีปูติน ในที่ประชุม Shanghai Cooperation Organisation ในเมือง Samarkand ประเทศ Uzbekistan เมื่อ 15 กันยายน อย่างไรก็ตามเขายังกล่าวเพิ่มว่าจีน “เข้าใจทุกอย่างและสนันสนุน” ผลประโยชน์ของรัสเซีย Narendra Modi นายกรัฐมนตรีแห่งอินเดียบอกกับประธานาธิบดีปูตินว่า “ยุคสมัยทุกวันนี้ไม่ใช่ยุคของสงคราม” Royal United Services Institute] [Politico] [Guardian] [EUobserver] [BBC News] [Euractiv] [Reuters] [NHK] [Euronews] [Deutsche Welle] เป้าหมายการทำสงครามของรัฐบาลรัสเซียในตอนนี้คือการขยายแนวชายแดนของประเทศเพื่อที่จะปิดล้อมยูเครนตอนใต้ไว้ อย่างไรก็ตามรัสเซียจะบรรลุเป้าหมายนี้ได้หรือไม่นั้นยังไม่แน่ชัดเนื่องมาจากการที่ต้องเสียเปรียบในการสู้รบบนภาคพื้นแก่กองกำลังยูเค รนที่ดำเนินกลยุทธ์การรบได้สำเร็จ ดูจะมีคุณธรรมกว่า และมีอาวุธกับยุทโธปกรณ์จากต่างชาติเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังไม่ชัดเจนว่าหากรัสเซียส่งกองกำลังเข้าเสริมเป็นจำนวนมากจะเพียงพอที่จะเปลี่ยนสถานการณ์ในพื้นที่แนวหน้าได้หรือไม่ (wb/pk, transl. by ph)
ชาวรัสเซียต่อต้านการเกณฑ์กองกำลังบางส่วนของประธานาธิบดีปูติน ประกาศของประธานาธิบดีปูตินเมื่อวันที่ 21 กันยายนว่าจะเกณฑ์กำลังพลส่วนหนึ่งเป็นจำนวน 300,000 นายทำให้เกิดการประท้วงทั่วรัสเซีย โดยผู้ที่มีแนวโน้มว่าจะถูกเกณฑ์นั้นได้หนีออกนอกประเทศ เกณฑ์อย่างเป็นทางการประกอบไปด้วยประสบการณ์ในการสู้รบทางทหาร ความสามารถพิเศษด้านการทหาร อายุต่ำกว่า 35 ปีและกองกำลังชั้นประทวนอายุต่ำกว่า 50 ปี [The Guardian] [Sky] แต่นักวิเคราะห์บางรายไม่คิดว่าการเกณฑ์กำลังเสริมจะเป็นผลสำเร็จ ความวุ่นวาย การประท้วง การประท้วงที่สร้างความโกลาหล ขมขื่น และเริ่มมีความรุนแรง เกิดขึ้นตั้งแต่มีการเกณฑ์กองกำลังเสริม โดยหลายกลุ่มเห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่มีกฎเกณฑ์ย่างแน่ชัดและเป็นการเกณฑ์กองกำลังที่กระทำแบบตามอำเภอใจ ในพื้นที่ North Caucasian republic of Dagestan ชาวบ้านเริ่มต่อต้านเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายด้วยความกล้าหาญมากขึ้น ในขณะเดียวกันนั้นพวกเขาก็ได้ส่งข้อความผ่านแอพพลิเคชั่น Telegram เพื่อเรียกร้องให้ประชาชนในพื้นที่เผาอาคารด้านการปกครองและกลาโหม [CEPA] ถึงแม้รัฐบาลรัสเซียจะระบุแค่ว่าผู้ที่มีประสบการณ์ทางทหารเท่านั้นที่จะถูกเกณฑ์ มีรายงานออกนำเสนอว่ากลุ่มคนที่ไม่มีประสบการณ์การสู้รบก็สามารถถูกเกณฑ์ได้เช่นกัน เหล่าชายหนุ่มที่อาจถูกจับไปเกณพ์ทหารได้ลี้ภัยไปต่างประเทศ จำนวนมากคือที่คาซัคสถาน จอร์เจีย และอาร์เมเนีย แต่ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป กลุ่มต่อต้านสงครามเช่นกลุ่มการเคลื่อนไหว Spring youth democratic movement ได้ออกมาเรียกร้องถึงการต่อต้าน [Al Jazeera] [Al Jazeera] การอพยพจากรัสเซียนั้นเห็นได้ชัดในบริเวณแนวชายแดนของคาซัคสถาน จากข้อมูลของกระทรวงกิจการภายในแห่งสาธารณรัฐคาซัคสถาน มีผู้คนกว่า 98,000 ได้ข้ามชายแดนเข้ามา Kassym-Jomart Tokayev ประธานาธิบดีแห่งคาซัคสถานแสดงถึงความกังวลในสถาณการณ์และต้องการนัดพูดคุยกับประธานาธิบดีปูติน [Vzsar.ru] การเดินประท้วงเพื่อต่อต้านสงคราม มีรายงานว่าการเดินประท้วงเพื่อต่อต้านสงครามเกิดขึ้นในกรุงมอสโควและเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยผู้ประท้วงกว่า 500 คนถูกคุมตัวเมื่อวันที่ 22 กันยายน ผู้คนจำนวนกว่า 70 คนถูกจับกุมใน Novosibirsk ทางตะวันออกของไซบีเรียหลังจากที่ออกมาเรียกร้องเพื่อสันติภาพ ทั่วทั้งรัสเซียมีคนกว่า 1,300 ที่ถูกจับกุม [Al Jazeera] [The Guardian] การเกณฑ์กองกำลังเสริมนี้ยังถูกต่อต้านในพื้นที่สื่อสังคมออนไลน์ (mo-ad/gc, transl. by ph)
ยุโรปสะเทือนเมื่อผู้นำขวาสุดโต่งคว้าชัยชนะการเลือกตั้ง อิตาลีพลิกสู่ประเทศขวาสุดโต่งเมื่อ Georgia Meloni หัวหน้าพรรค Brothers of Italy ชนะขาดการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 25 กันยายน เธอผู้ซึ่งได้รับการสนันสนุนจากสองพรรคใหญ่ฝ่ายขวาจะเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของอิตาลี และหัวหน้ารัฐบาลผสมที่สร้างความกังวลให้แก่รัฐบาลหลายประเทศในเรื่องของผลกระทบด้านลบที่จะมีต่อยุโรป . [Euronews] [AP] ผู้สังเกตการณ์ในขณะนี้มองเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในสมดุลทางการเมืองของทวีป โดยคาดการณ์ว่าอิตาลีจะเข้าพวกกับรัฐบาลชาตินิยมในโปแลนด์และฮังการี ซึ่งโดยปกติรัฐบาลเหล่านี้จะไม่ลงรอยกับสหภาพยุโรปมากนักถึงแม้จะเป็นสมาชิกของกลุ่มก็ตาม ชัยชนะของ Meloni ซึ่งดูเหมือนจะผู้นำขวาสุดโต่งคนแรกนับจาก Benito Mussolini เกิดขึ้นหนึ่งสัปดาห์หลังจากชัยชนะของกลุ่มพันธมิตรฝ่ายขวาในสวีเดนซึ่งประกอบไปด้วยพรรคการเมืองที่มีแนวคิดการเหยียดชาติพันธุ์ที่รุน แรงและแนวคิดลัทธิฟาสซิสต์ (สามารถอ่านเรื่องราวเฉพาะได้จากฉบับบนี้) พรรค Brothers of Italy ของ Meloni และพรรค Forza Italia ของอดีตนายกรัฐมนตรี Silvio Berlusconi และพรรค Lega ของ Matteo Salvini สามารถรวมกันเป็นรัฐบาลผสมโดยยังรวมไปด้วยพรรคที่มีแนวคิดเป็นกลางอย่าง Us Moderates Party ทำให้สมาชิกสภาผู้แทนฯเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 237 คนจากทั้งหมด 400 ที่นั่ง และ 115 จาก 200 ในสภานิติบัญญัติ [Thelocal] ถึงแม้รัฐบาลผสมจะมีชัยชนะ มีเพียงพรรคของ Meloni ที่มีที่นั่งเพิ่มขึ้น โดยพรรคของ Salvini และ Berlusconi ต่างเสียไปพรรคละ 59 ที่นั่ง พรรครัฐบาลผสมฝ่ายค้านซึ่งมีแนวคิดกลางถึงซ้ายได้ที่นั่งในสภาเพียง 85 ที่นั่ง โดยมีผลเป็นที่น่าผิดหวังเมื่อพรรค liberal Democratic เสียสมาชิกสภาผู้แทนฯไปเป็นจำนวน 43 ท่าน โดยพรรคกล่าวว่า “เป็นวันที่น่าเศร้าสำหรับประเทศของเรา” [Euronews] ในขณะเดียวกันพรรคที่มีเจตนาเพื่อต่อต้านระบบอย่าง Five Star Movement ซึ่งชนะเสียงมากสุดในการเลือกตั้งเมื่อปี 2018 เสียที่นั่งไปจำนวน 175 ที่ในวันที่ 25 กันยายนหลังจากที่ถูกปฏิเสธทำให้ไม่สามารถรวมกลุ่มเข้าเป็นรัฐบาลผสมเนื่องมาจากการสนับสนุนขบวนการโค่นล้มนายกรัฐมนตรี Mario Draghi ลงจากอำนาจ การเลือกตั้งแบบฉับพลันถูกเรียกร้องให้จัดขึ้นหลังจากวิกฤติการณ์การเมืองเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ทำให้เกิดการล่มสลายของ national unity government ในรัฐบาลของ Draghi ผู้ซึ่งเคยเป็นผู้ว่าของธนาคารกลางยุโรปมาก่อนและถูกลดทอนโดยสามพรรคใหญ่ในรัฐบาลของเขาถอนการให้การสนับสนุน การเลือกตั้งเผยให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่ต่ำเป็นประวัติการร์กว่าร้อยละ 63.9 (สามารถอ่านเรื่องราวเฉพาะได้จากฉบับบนี้) ผลจากการเลือกตั้งทำให้อิตาลีมีรัฐบาลขวาจัดเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1945 และจะมีนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก ผู้นำพรรค Brothers of Italy ให้คำนิยามว่าตนเองว่าเป็นแม่ชาวคริสที่จะปกป้อง “อัตลักษณ์ประวัติศาสตร์และรากเหง้าของวัฒนธรรมของยิว – คริสเตียนยุโรป” โดยเธอนั้นถูกกล่าวหามาอย่างต่อเนื่องว่ามีความเอนเอียงไปทางกลุ่มคนในลัทธิเหยียดชาติพันธุ์ซึ่งเธอนั้นก็ได้ปฏิเสธ เข้มงวดขึ้นเรื่องนโยบายการอพยพ การเดินหน้าเข้าสู่แนวคิดทางการเมืองฝ่ายขวาของอิตาลีสร้างความกังวลในวงกว้างต่อยุโรป ประกอบกับความกลัวที่เป็นผลมากจาก นโยบายการหาเสียงที่ปลุกเร้าของ ของ Meloni ซึ่งเธอกล่าวไปถึงการยกระดับความเข้มข้นในด้านนโยบายอพยพรวมไปถึงการเปิดการเจรจาใหม่ในเรื่องทุนจากสหภาพยุโรปซึ่งอาจทำให้ระบบตลาดแบบกว้างและการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมของ Draghi จบลง Luca Tomini นักรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Free Brussels University บอกกับ Euronews ว่าผลการเลือกตั้งอาจทำให้รัฐบาลอิตาลีปลีกตัวออกจากรัฐบาลกลางของสหภาพยุโรปและหันไปเข้าพวกกลับเหล่ารัฐบาลชาตินิยมและประชานิยมในกรุ งวอร์ซอและกรุงบูดาเปส Tomini ยังกล่าวอีกว่า “การเปลี่ยนแปลงจุดยืนของรัฐบาลอิตาลีจะเกิดขึ้นแน่นอนเมื่อเทียบกับรัฐบาล 2 สมัยของ Mario Draghi ที่ผ่านมา” นักนโยบายของสหภาพยุโรปกังวลว่ารัฐบาลอิตาลีในตอนนี้สามารถคัดค้านการตัดสินใจของรัฐบาลกลางฯในเรื่องการอพยพรวมไปถึงประเด็นด้านกฎหมาย ในประเทศเช่นโปแลนด์และฮังการี [Euronews] [Euractiv] [Euractiv] สหภาพยุโรปเตือนรัฐบาลอิตาลี Ursula von der Leyen ประธานคระกรรมาธิการยุโรปออกเตือนล่วงหน้าว่าก่อนมีการเลือกตั้งในอิตาลีว่ากลุ่มผู้นำในสหภาพฯสามารถใช้ “เครื่องมือ” กับรัฐบาลอิตาลีหาก “ผลออกมาเป็นไปในแนวทางอื่น” [Euronews] คณะกรรมาธิการฯมีอำนาจที่จะชะงักการส่งเงินทุนที่จัดสรรให้รัฐบาลของสมาชิกในกลุ่มสหภาพฯหากค่านิยมทางประชาธิปไตยถูกทำให้ถดถอยลง Davide Vampa ผู้บรรยายอาวุโสเรื่องการเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแห่ง Aston University ในสหราชอาณาจักรบอกกับ Euronews ว่าความสำเร็จของฝ่ายขวาในอิตาลีเกิดขึ้นได้ “เพราะความแตกแยกของฝ่ายซ้าย พรรคกลาง-ซ้ายและประชาธิปไตย และการเคลื่อนไหว Five Star Movement” เมื่อพูดถึงพรรค Brothers of Italy ของ Meloni เขากล่าวว่า “เขาจะไม่นิยามว่าพรรคนี้คือพรรคฟาสซิสต์หรือนีโอฟาสซิสต์ แต่ผมคิดว่าพรรคยังมีความเกี่ยวข้องกับค่านิยมหลังยุคฟาสซิสต์” [Euronews] Sam Pizzigati ผู้เขียนนิตยาสารออนไลน์ฝ่ายซ้ายที่มีชื่อว่า CounterPunch กล่าวว่าผลการเลือกตั้งไม่ได้แสดงให้เห็น “ความเห็นชอบจากประชากรส่วนมากให้อนาคตของอิตาลีเป็นไปในแนวทางนีโอฟาสซิสต์” ในทางกลับกันเขากล่าวว่าผลการเลือกตั้งสะท้อนถึง “ความโกรธเคืองของผู้คนจำนวนมาก” กับรัฐบาลกลาง-ซ้าย “ที่ไม่มีความพยายามที่จะแก้ปัญหารายได้และความร่ำรวยที่กระจุกอยู่และไม่สามารถแก้ไขปัญหาเพื่อตอบสนองต่อคนทำงานทั่วไปได้” Meloni ให้คำมั่นว่าจะให้การสนับสนุนรัฐบาลยูเครนท่ามกลางความหวาดกลัวที่อิตาลีอาจบ่อนทำลายความเป็นหนึ่งเดียวของชาติตะวันตกในสถานการณ์การท ี่รัสเซียรุกรานยูเครน Berlusconi ผู้เป็นคู่ทำงานของ Meloni ในรัฐบาลผสมนั้นเป็นเพื่อนสนิทของประธานาธิบดีปูติน ในขณะเดียวกัน Salvini ก็ถูกกล่าวหาว่ามีเอี่ยวสัมพันธ์กับเครมลิน ซึ่งเขานั้นได้ปฏิเสธ Volodymyr Zelensky ประธานาธิบดีแห่งยูเครนให้การสนับสนุน Meloni ผ่านสื่อสังคมออนไลน์อย่างรวดเร็ว โดยกล่าวว่าเขานั้น “มองไปข้างหน้าที่จะร่วมมือกันกับรัฐบาลใหม่ของอิตาลี” โดย Meloni ได้ตอบกลับทาง Twitter ว่า “คุณสามารถไว้ใจในการสนับสนุนของเราได้เพื่อไปสู่อิสรภาพของประชาชนยูเครน” [Twitter] (cg/pk, transl. by ph)
กลุ่มชาตินิยมในยุโรปพากันยินดีต่อชัยชนะของพรรคการเมืองฝ่ายขวาในอิตาลี ในขณะที่สหภาพยุโรปและสหรัฐฯเฝ้าระวัง รัสเซียและรัฐบาลชาตินิยมแห่งโปแลนด์และฮังการียินดีกับชัยชนะของพรรคขวาสุดโต่งในอิตาลีเป็นผลมาจากการเลือตั้งเมื่อเดือนกันยายน ในขณะที่รัฐมนตรีการต่างประเทศของสเปน ผู้ซึ่งมาจากพรรคสังคมนิยม ออกมาเตือนว่าการเคลื่อนไหวของประชานิยมมักมีจุดจบ “ที่เป็นหายนะ” ในขณะเดียวกันสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ ออกมาแสดงท่าที่ไม่มั่นจในการทำงานร่วมกับรัฐบาลใหม่ของอิตาลี ชัยชนะของพรรค Brothers of Italy ของ Georgia Meloni และเหล่าพันธมิตร รวมไปถึงนักการเมืองที่มีความสัมพันฉันท์มิตรกับประธานาธิบดีปูติน ทำให้เกิดความหวาดกลัวว่ารัฐบาลนี้อาจทำให้เอกภาพของยุโรปเสื่อมลงในขณะรัสเซียกับยูเครนกำลังต่อสู้กันในสงคราม (สามารถอ่านเรื่องราวเฉพาะได้จากฉบับบนี้) Antony Blinken รัฐมนตรีการต่างประเทศแห่งสหรัฐทวีตข้อความว่าสหรัฐฯพร้อมที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาลใหม่ของอิตาลี แต่ก็ยังให้การสนับสนุนในเรื่องการเคารพสิทธิมนุษยชนและให้การสนับสนุนยูเครน “เราพร้อมที่จะร่วมงานกับรัฐบาลอิตาลีในเป้าหมายที่มีร่วมกัน เพื่อสนับสนุนยูเครนที่เป็นเอกภาพและอิสระ เคารพในสิทธิมนุษยชนและสร้างอนาคตของเศรษฐกิจที่ยั่งยืน” และยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “อิตาลีเป็นพันธมิตรที่สำคัญ มีประชาธิปไตยที่แข็งแกร่ง และเป็นมิตรที่มีค่า” [WorldNews] ปฏิกิริยาของเพื่อนบ้านบริเวณประเทศอิตาลีค่อนข้างเป็นไปในแนวทางผสม โฆษกของนายกรัฐมนตรีแห่งเยอรมนี Olaf Scholz บอกกับผู้สื่อข่าวว่า “อิตาลีเป็นประเทศในยุโรปที่เป็นมิตรซึ่งเต็มไปด้วยประชากรที่เป็นมิตรเช่นกัน โดยเรามองว่ามุมมองนี้จะไม่มีทางเปลี่ยน” Elisabeth Borne นายกรัฐมนตรีแห่งฝรั่งเศสได้กล่าวสิ่งที่ถือว่าเป็นการเตือนว่า “เราและประธานคณะกรรมาธิการยุโรปจะเฝ้าระวังว่าค่าของสิทธิมนุษยชน การเคารพซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะสิทธิในการทำแท้ง จะได้รับการเคารพจากทุกฝ่าย” Eric Mamer โฆษกของคณะกรรมาธิการยุโรปซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริหารสหภาพฯกล่าวในบทสรุปข่าวว่า “แน่นอน เราหวังว่าเราจะได้ร่วมงานอย่างสร้างสรรกับรัฐบาลใหม่ของอิตาลี” อีกมุมหนึ่ง Jose Manuel Albares รัฐมนตรีการต่างประเทศของสเปนออกมาเตือนว่า “การเคลื่อนไหวของประชานิยมมักเติบโตแต่มีจุดจบแบบเดียวกัน นั่นก็คือหายนะ” [ The Times of Israel] [ france24.com)] ในขณะเดียวกัน พันธมิตรชาตินิยมของ Meloni จากทั่วทวีปรวมไปถึงโปแลนด์ ฮังการี และสเปนได้ร่วมยินดี โดยนายกรัฐมนตรีแห่งโปแลนด์ Mateusz Morawiecki เขียนบน Facebook ว่า “ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ ยินดีด้วย” นายกรัฐมนตรี Viktor Orban แห่งฮังการี ผู้นิยมลัทธิประชาธิปไตย กล่าวในทวีตว่า “ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ ที่เราต้องการมากกว่าสิ่งอื่นใด คือเพื่อนที่มีวิสัยทัศน์และแนวทางเดียวกันในการรับมือกับความท้าทายของยุโรป” ส่วน Santiago Abascal หัวหน้าพรรค Vox ซึ่งเป็นพรรคประชานิยมของสเปนกล่าวในทวีตถึงการสนับสนุนของเขาด้วย โดยเขียนว่า Meloni“ ได้แสดงให้เห็นหนทางสู่ยุโรปที่เป็นอิสระของประเทศอธิปไตย” [ABC News] [ BBC News] โฆษกเครมลิน Dmitry Peskov กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “เราพร้อมที่จะต้อนรับพลังทางการเมืองใดๆ ที่สามารถก้าวข้ามกระแสหลักที่จัดตั้งขึ้น ซึ่งเต็มไปด้วยความเกลียดชังประเทศของเรา… และแสดงความเต็มใจที่จะสร้างสรรค์ความสัมพันธ์กับประเทศของเรา” [ The Times of Israel] [ The Guardian] [ thejournal.ie] (mr/cg-pk, transl. by ph, tj)
นโยบายการเงินของนายกฯ กดดันเงินปอนด์อังกฤษ บีบให้ธนาคารกลางอังกฤษเข้าแทรกแซงตลาด เมื่อนายกรัฐมนตรีอังกฤษ Liz Truss สืบทอดตำแหน่งอย่างเป็นทางการจาก Boris Johnson ประเทศก็ประสบกับช่วงเวลาทางเศรษฐกิจที่ยากลำบากที่สุดในรอบหลายทศวรรษ โดยสหราชอาณาจักรอยู่ในภาวะถดถอยและค่าเงินปอนด์ร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ หลังจากที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง Kwasi Kwarteng ประกาศลดภาษีครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 50 ปีเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ค่าเงินปอนด์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และธนาคารกลางอังกฤษต้องแทรกแซง ซึ่งแพ็คเกจของการลดภาษีที่รวมถึงการยกเลิกภาษีนิติบุคคลที่มีแผนจะเพิ่ม อาจต้องใช้เงินมากกว่า 45,000 ล้านปอนด์ในปีงบการเงิน ค.ศ. 2026/27 [The Guardian] [BBC][Reuters][CNBC] เพียงไม่กี่สัปดาห์ต่อมา Truss ยกเลิกข้อเสนอที่ขัดแย้งกันมากที่สุดเกี่ยวกับแผนการเติบโตของเธอ นั่นคือการยกเลิกอัตราภาษี 45 เปอร์เซ็นต์สำหรับรายได้ที่สูงขึ้น การกระทำพลิกกลับโดย Truss และ Kwarteng ได้รับการต้อนรับจากนักลงทุน แม้ว่าจะต้องใช้เวลาอีกมากในการฟื้นฟูความไว้วางใจของพวกเขา [Reuters] การประกาศ "งบประมาณรายย่อย" เมื่อวันที่ 23 กันยายน ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล หรือที่รู้จักกันในสหราชอาณาจักรในชื่อทองคํา พุ่งสูงขึ้น ทำให้ธนาคารกลางแห่งอังกฤษต้องประกาศโครงการซื้อพันธบัตรอายุ 2 สัปดาห์และชะลอการขายทองตามแผนจนถึงสิ้นเดือนตุลาคม การแทรกแซงนี้อาจต้องใช้เงินประมาณ 65 พันล้านปอนด์ [CNBC] [Fortune] ความเคลื่อนไหวของธนาคารกลางอังกฤษเกิดขึ้นหลังจากการเทขายพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษจำนวนมาก หรือที่เรียกว่า "ทองคำ" หลังจากการประกาศนโยบายการคลังของรัฐบาลฉบับใหม่ นโยบายดังกล่าวรวมถึงการลดภาษีที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจำนวนมากซึ่งได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากทั่วโลก [Fortune] Desmond Lachman สมาชิกอาวุโสของ American Enterprise Institute กล่าวว่า "ไม่เคยมีช่วงเวลาที่ดีสำหรับนโยบายด้านงบประมาณที่ขาดความรับผิดชอบ" Barrons “อย่างไรก็ตาม Liz Truss นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของสหราชอาณาจักร ได้เลือกช่วงเวลาที่เลวร้ายโดยเฉพาะทั้งในและต่างประเทศ เพื่อทดลองนโยบายการคลังโดยประมาท ทั้งหมดนี้น่าจะทำให้สหราชอาณาจักร United Kingdom เข้าสู่วิกฤติเงินปอนด์เต็มตัว” [AEI] และเงินปอนด์ก็อ่อนค่าลง เกือบเท่าค่าเงินดอลลาร์เมื่อเดือนที่แล้วเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1985 เนื่องจากนักลงทุนตื่นตระหนกกับแนวโน้มที่รัฐบาลจะกู้ยืมเงินเพื่อจ่ายสำหรับการลดหย่อนภาษีครั้งใหญ่ในงบประมาณขนาดเล็กของ Kwarteng การออกคำตัดสินลงโทษเกี่ยวกับ “การพุ่งทะยานเพื่อการเติบโต” ของนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้ค่าเงินปอนด์ร่วงลงจากการเทขายในวงกว้าง [Reuters] วิจารณ์ไอเอ็มเอฟ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ วิพากษ์วิจารณ์จำนวนการลดภาษีและเรียกร้องให้รัฐบาลสหราชอาณาจักรพิจารณาใหม่เพื่อป้องกันความไม่เท่าเทียมกันและเพื่อจำกัดการกู้ยืมสา ธารณะ การลดภาษีอาจนำไปสู่การกู้ยืมเงินของรัฐบาลมากกว่า 4 แสนล้านปอนด์ในช่วงหลายปีต่อจากนี้ [Reuters] [The Guardian] [BBC] [The Guardian] [The Guardian] [The Guardian] [BBC] [Reuters] “เราเข้าใจดีว่าแพ็คเกจทางการคลังขนาดใหญ่ที่ได้ประกาศออกไป มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยครอบครัวและธุรกิจต่างๆ รับมือกับภาวะช็อกจากพลังงานและการกระตุ้นการเติบโตผ่านการลดภาษีและมาตรการด้านอุปทาน” ไอเอ็มเอฟกล่าว “อย่างไรก็ตาม เนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในหลายประเทศ รวมถึงสหราชอาณาจักร เราไม่แนะนำแพ็คเกจการคลังที่มีขนาดใหญ่และไม่ตรงเป้าหมายในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ เนื่องจากเป็นสิ่งสำคัญที่นโยบายการคลังจะไม่ทำงานข้ามวัตถุประสงค์กับนโยบายการเงิน นอกจากนี้ ลักษณะของมาตรการของสหราชอาณาจักรมีแนวโน้มที่จะเพิ่มความไม่เท่าเทียมกัน” [IMF] มาตรการตามที่รายงานโดยสำนักข่าว CNBC รวมถึง: การพลิกกลับของเงินสมทบประกันแห่งชาติที่เพิ่มขึ้น 1.25 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเร็ว ๆ นี้ - ภาษีจากรายได้ การลดอัตราภาษีเงินได้ขั้นพื้นฐานจาก 20 เพนนีเป็น 19 เพนนี ค่าลดหย่อนอากรแสตมป์อย่างมาก ภาษีที่จ่ายสำหรับการซื้อบ้าน เครือข่าย "เขตการลงทุน" ทั่วสหราชอาณาจักร ซึ่งธุรกิจต่างๆ จะได้รับข้อเสนอลดภาษี กฎการวางแผนที่เสรี และลดอุปสรรคต่างๆ ด้านกฎระเบียบ โครงการเรียกร้องคืนภาษีขายที่จ่ายโดยนักท่องเที่ยว เลิกขึ้นอัตราภาษีสุราชนิดต่างๆ เลิกจำกัดโบนัสนายธนาคาร [CNBC] ถูกคุกคามจากความยากจน ก่อนการประกาศของ Kwarteng เศรษฐกิจของอังกฤษกำลังดิ้นรนอยู่แล้ว ในเดือนกันยายน ธนาคารกลางอังกฤษประเมินว่าเศรษฐกิจได้เข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่เดือนมิถุนายน แต่อาจเพิ่มขึ้นถึง 22 เปอร์เซ็นต์ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ผู้คนออกมาประท้วงเป็นเวลาหลายสัปดาห์เพื่อเรียกร้องให้ขึ้นเงินเดือนตามอัตราเงินเฟ้อ ครัวเรือนถูกคุกคามมากขึ้นจากความยากจนเนื่องจากราคาพลังงานที่สูงขึ้น ผู้คนออกมาประท้วงเป็นเวลาหลายสัปดาห์เพื่อเรียกร้องให้ขึ้นเงินเดือนตามอัตราเงินเฟ้อ ครัวเรือนถูกคุกคามมากขึ้นจากความยากจนเนื่องจากราคาพลังงานที่สูงขึ้น [BBC] [Reuters] [The Guardian] [BBC] [BBC] [Europe Monthly September 2022] [Reuters] [Reuters] เพื่อช่วยให้ประชาชนชาวอังกฤษจัดการราคาที่สูงขึ้น Truss จะจำกัดค่าพลังงานในครัวเรือนโดยทั่วไปที่ 2,500 ปอนด์เป็นเวลาสองปี ตั๋วเงินของธุรกิจจะตรึงที่ราคาตลาดครึ่งหนึ่งเป็นเวลาหกเดือน ค่าใช้จ่ายที่เกินจำนวนนี้จะจ่ายให้กับบริษัทพลังงานโดยรัฐ [BBC] [Reuters] [BBC] [Reuters] มาตรการนี้คาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 150 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 168.3 พันล้านยูโร) แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะได้รับเงินทุนอย่างไร เนื่องจาก Truss ได้ตัดภาษีโชคลาภจากผลกำไรของบริษัทก๊าซและน้ำมันที่ต้องจ่ายสำหรับแพ็คเกจนี้ [The Guardian] [BBC] [Reuters] [Reuters] [BBC] แม้จะตรึงราคาไว้ แต่คาดว่าคนหลายล้านจะตกอยู่ในความยากจนในฤดูหนาวนี้ เนื่องจากค่าพลังงานยังคงเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ราคาพลังงานในครัวเรือนโดยเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นเป็น 3,549 ปอนด์ต่อปีตั้งแต่เดือนตุลาคม ในขณะเดียวกัน ธุรกิจจำนวนมากอาจเผชิญกับภาวะล้มละลายโดยที่รัฐไม่ได้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด[The Guardian] [BBC] [The Guardian] มาตรการเพิ่มเติมเพื่อบรรเทาแรงกดดันจากราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น ได้แก่ การยกเลิกภาษีคาร์บอนในครัวเรือน การลดราคาพลังงาน 400 ปอนด์ก่อนหน้านี้ การยกเลิกการห้ามการทำให้เกิดรอยแตกและการส่งเสริมการผลิตน้ำมันและก๊าซในทะเลเหนือ [BBC] [BBC] [RTÉ] [Reuters] [Reuters] Truss ท้าทาย Truss ยืนยันว่าเธอจำต้องใช้ "การดำเนินการอย่างเด็ดขาด" ในการปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนเป็นครั้งแรกตั้งแต่งบประมาณของรัฐบาลทำให้ตลาดเกิดความวุ่นวาย ในการให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ BBC ในพื้นที่ นายกรัฐมนตรีปฏิเสธที่จะเปลี่ยนเส้นทางและกล่าวว่าเธอมี “แผนการที่ถูกต้อง” [Politico] เมื่อถามว่าเธอยังคงมั่นใจในนโยบายของเธอหรือไม่ Truss บอกกับ BBC ว่า “ดิฉันคิดว่าเราต้องดูสถานการณ์ที่เราจะเผชิญหากรัฐบาลไม่ดำเนินการ เรากำลังเผชิญกับช่วงเวลาทางเศรษฐกิจที่ยากลำบาก” นโยบายของเธอบ่อนทำลายความเชื่อมั่นของสาธารณชนชาวอังกฤษในการเป็นผู้นำของเธอ ชาวอังกฤษมากกว่าครึ่งคิดว่า Truss ควรลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามผลสำรวจของ YouGov ที่เพิ่มความลำบากให้กับเธอในการทำงานภายในเวลาไม่ถึงเดือน การสำรวจเน้นย้ำถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสถานะของ Truss และของพรรค Conservative ของเธอ [Yahoo] บังคับให้ขึ้นอัตรา การลดภาษีของ Truss ทำให้รัฐบาลต้องพบกับความขัดแย้งกับธนาคารกลางอังกฤษ Bank of England เนื่องจากพยายามลดอัตราเงินเฟ้อโดยการเพิ่มอัตราดอกเบี้ย [BBC] [Reuters] [BBC] [The Guardian] ต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นสำหรับผู้ให้กู้หมายถึงค่าใช้จ่ายรายเดือนเฉลี่ยของการจำนองอัตราคงที่สองปีจะเพิ่มขึ้น 70 เปอร์เซ็นต์ภายในเดือนมีนาคมตั้งแต่เดือนมกราคมปีนี้ Bloomberg Economics ประมาณการ ค่าใช้จ่ายของการจำนองอัตราคงที่สองปีสำหรับบ้านราคาเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 1,325 ปอนด์ ณ สิ้นไตรมาสแรกจากประมาณ 779 ปอนด์ในเดือนมกราคมปีที่แล้วตามรายงานของ Niraj Shah นักเศรษฐศาสตร์ ของ Bloomberg Economics [Bloomberg] (jv/gc, transl. by tj) กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปตะวันตก ![]() เบลเยียม: ศาลรัฐธรรมนูญของเบลเยียมพบว่าการติดตามการติดต่อของ Covid-19 ไม่ได้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญทั้งหมด ศาลรัฐธรรมนูญของเบลเยียมตัดสินว่ากฎหมายการติดตามการติดต่อของโควิด-19 ของประเทศนั้นขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิในความเป็นส่วนตัวและการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของพลเมือง [BrusselsTimes] ศาลอ้างถึงการขาดหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อให้สามารถเข้าถึงฐานข้อมูลกลางของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ Sciensano และไม่มีระยะเวลาการเก็บรักษาสูงสุดสำหรับข้อมูลที่เก็บไว้ คำตัดสินของศาลมมีเกิดขึ้นหลังจากการร้องเรียนโดยองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Vivant Ostbelgien ผู้แทนที่พูดภาษาเยอรมันหลายรายและสันนิบาตสิทธิมนุษยชน [BrusselsTimes] ศาลประกาศว่าบทบัญญัติเหล่านี้ขัดต่อรัฐธรรมนูญ แต่กล่าวว่ากฎหมายจะคงอยู่ “จนกว่า สมาชิกสภานิติบัญญัติที่เกี่ยวข้องอนุมัติข้อตกลงความร่วมมือเสริม” เพื่อแก้ไของค์ประกอบที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ จะแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 2023 ศาลยังได้เพิกถอนอำนาจที่มอบให้แก่คณะกรรมการรักษาความปลอดภัยข้อมูลเพื่อให้บุคคลที่สาม ต่างๆ เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ [BrusselsTimes] (gt/gc, transl. by tj)
เยอรมนี: นายกรัฐมนตรี Scholz ต้องการทหารเยอรมันที่แข็งแกร่งขึ้นและความร่วมมือในยุโรปมากขึ้น นายกรัฐมนตรี Olaf Scholz กล่าวเมื่อวันที่ 16 กันยายนว่าเขาต้องการให้เยอรมนีเป็นกองทัพที่ “พร้อมสรรพที่สุด” ในยุโรปและมีความรับผิดชอบในระดับสากลมากขึ้น [Tagesschau] [Euronews] เยอรมนีปรับจุดยืนเรื่องการใช้จ่ายทางทหารเพื่อตอบโต้การโจมตีของรัสเซียในยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ และอนุมัติกองทุน 100,000 ล้านยูโรเพื่อยกระดับกองทัพในช่วงต้นเดือนมิถุนายน [Europe Monthly July 2022] [Tagesschau] สถานะที่เป็นอยู่และเงินทุนเพิ่มเติมแบบครั้งเดียวนั้น ไม่เพียงพอที่จะ “เติมช่องว่างให้เต็ม” ในความสามารถและยุทโธปกรณ์ของกองทัพเยอรมัน Scholz กล่าว การปรับปรุงอุปกรณ์เป็นประเด็นเร่งด่วนที่สุด แต่จำเป็นต้องมี "การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์" ด้วยเช่นกัน เขากล่าว โดย Scholz ต้องการให้รัฐบาลมีการใช้จ่ายทางทหารต่อปี 2 เปอร์เซ็นต์ ของจีดีพี ซึ่งเป็นข้อกำหนดของนาโต้ [Tagesschau] [Spiegel] เยอรมนีต้องรับผิดชอบต่อความมั่นคงของยุโรปมากขึ้นในฐานะ “ประเทศที่มีประชากรมากที่สุด มีอำนาจทางเศรษฐกิจสูงสุด และเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ใจกลางทวีป” เขากล่าว เยอรมนีจำเป็นต้อง “ทบทวนกฎเกณฑ์ระดับชาติที่เข้มงวด” Scholz กล่าว [Euronews] เบอร์ลินได้รับอนุญาตภายใต้กฎหมายปัจจุบันว่าด้วยการส่งออกอาวุธเพื่อยับยั้งการส่งออกอาวุธที่พัฒนาร่วมกันโดยมีเหตุผลทางจริยธรรม สิ่งนี้ถูกมองว่าเป็นอุปสรรคต่อความร่วมมือระหว่างประเทศในยุโรป [EURACTIV] [Reuters] Scholz ต้องการเสริมสร้างความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศของยุโรปและสร้างกองกำลังป้องกันร่วมของยุโรปเพื่อให้สามารถพัฒนาและใช้งานระบบอาวุธ ร่วมกันและลดการแข่งขันระหว่างผู้ผลิตอาวุธ [Tagesschau] [Euronews] (mb/gc, transl. by tj)
เยอรมนี: ศาลยังคงพิจารณาคดีสภาพอากาศต่อ Volkswagen ศาลแขวง Detmold ของเยอรมนีกล่าวเมื่อวันที่ 9 กันยายนว่า จะยังคงพิจารณากรณีสภาพอากาศต่อVolkswagen ที่ยื่นฟ้องโดยเกษตรกรที่ได้รับการสนับสนุนจากกรีนพีซ ศาลนัดไต่สวนใหม่ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2023 เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม [AP] [Euronews] เกษตรกรชื่อ Ulf Allhoff-Cramer ได้ยื่นฟ้อง Volkswagen โดยกล่าวหาผู้ผลิตรถยนต์ในระหว่างการพิจารณาคดีเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ว่ามีส่วนรับผิดชอบสำหรับผลกระทบด้านลบที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีต่ออุตสาหกรรมการเกษตร นอกจากนี้ เขายังต้องการให้ Volkswagen หยุดผลิตเครื่องยนต์สันดาปภายในปี ค.ศ. 2030 [Europe Monthly June 2022] Volkswagen ได้ปฏิเสธการอ้างว่าเรื่องนี้สามารถเชื่อมโยงกับความเสียหายที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศและกล่าวว่ากำลังพยายามเปลี่ยนการผลิตเป็นรถยนต์ ไฟฟ้า กำหนดเส้นตายปัจจุบันสำหรับ Volkswagen ที่จะยุติการผลิตเครื่องยนต์สันดาปคือปี ค.ศ. 2040 [Euronews] เป็นครั้งแรกที่ศาลจะพิจารณาว่าผู้ผลิตรถยนต์สามารถถูกผูกมัดให้เปลี่ยนแปลงการดำเนินธุรกิจเพื่อป้องกันอันตรายจากสภาพอากาศได้หรือไม่ ตามรายงานของกรีนพีซ [AP] ศาลแขวงในเมือง Stuttgart เมื่อวันที่ 13 กันยายน ยกฟ้องกรณีสภาพภูมิอากาศโดยองค์กรพัฒนาเอกชน Deutsche Umwelthilfe ต่อผู้ผลิตรถยนต์ Mercedes-Benz โดยองค์กรฯ อ้างว่า Mercedes-Benz ละเมิดเสรีภาพของผู้คนโดยทำให้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศรุนแรงขึ้นด้วยการดำเนินธุรกิจ โจทก์ต้องการให้ Mercedes-Benz ใช้งบประมาณการปล่อยคาร์บอนที่เข้มงวดยิ่งขึ้นและยุติการผลิตเครื่องยนต์สันดาปภายในเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ. 2030 และวางแผนที่จะอุทธรณ์คำตัดสินของศาล [Reuters] (mb/gc, transl. by tj)
ไอร์แลนด์: ครูถูกจำคุกหลังจากปฏิเสธที่จะใช้สรรพนามที่นักเรียนต้องการ ครูชาวไอริชที่ปฏิเสธที่จะใช้สรรพนามที่นักเรียนต้องการ ถูกจำคุกหลังจากฝ่าฝืนคำสั่งศาลสูง Enoch Burke ถูกตัดสินให้จำคุกเมื่อวันที่ 5 กันยายน เพราะเขาเข้าไปที่ที่โรงเรียนทั้ง ๆ ที่มีคำสั่งห้ามเขา ก่อนหน้านี้ Burke ขัดแย้งกับอาจารย์ใหญ่ในขณะนั้น เพราะเขาปฏิเสธที่จะพูดถึงนักเรียนข้ามเพศโดยใช้สรรพนาม "พวกเขา" เขาถูกพักงานโดยได้รับค่าจ้างขณะรอผลของกระบวนการทางวินัยกับเขา แต่ Burke ยังคงมาที่โรงเรียนอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเขาจะถูกพักงานและคำสั่งห้ามในเวลาต่อมาห้ามไม่ให้เขาสอนและเข้าไปในบริเวณโรงเรียน ศาลจึงส่งเขาเข้าคุกจนกว่าเขาจะปฏิบัติตามคำสั่ง [RTÉ] [New York Post] [The Irish Times] Burke อธิบายพฤติกรรมของเขา โดยบอกว่าค่านิยมของคริสเตียนของเขาไม่อนุญาตให้เขายอมรับสิ่งที่เขาเรียกว่า "การแปลงเพศ" หลังจากใช้เวลาสองคืนในคุก Burke ยังคงปฏิเสธที่จะลบล้างการดูหมิ่นศาลของเขา โดยกล่าวว่าเขาจะ “ไม่มีวันออกจากเรือนจำ Mountjoy” [New York Post] [Irish Independent] (jv/gc), transl. by tj
สหราชอาณาจักร: การสิ้นพระชนม์ของพระราชินีทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ภายในและภายนอกสหราชอาณาจักร การสิ้นพระชนม์ของพระราชินี Elizabeth ที่ 2 เป็นที่อาลัยอย่างกว้างขวางจากพลเมืองสหราชอาณาจักรและผู้นำระดับโลกหลายคน ที่เดินทางไปกรุงลอนดอนเพื่อแสดงความเศร้าโศก แม้จะเป็นการรื้อฟื้นการโต้เถียงกันอีกเกี่ยวกับการยกเลิกสถาบันกษัตริย์เพื่อสถาปนาสาธารณรัฐ ประเทศในเครือจักรภพแคริบเบียน ได้แก่ จาเมกา แอนติกา และบาร์เบโดส ส่งสัญญาณว่าพวกเขาอาจต้องการล้มล้างระบอบราชาธิปไตยในไม่ช้านี้ ปัจจุบัน กษัตริย์อังกฤษทรงดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการ แม้ว่าส่วนใหญ่เป็นพระราชพิธี ประมุขแห่ง 14 รัฐซึ่งเป็นอดีตอาณานิคมของอังกฤษ [Reuters] [Reuters] ผู้ประท้วงฝ่ายนิยมสาธารณรัฐอย่างสันติจำนวนมากในสหราชอาณาจักร ถูกจับกุมระหว่างงานสาธารณะภายหลังการสิ้นพระชนม์ของพระราชินี ซึ่งนายกรัฐมนตรี Mark Drakeford แห่งเวลส์ตอบโต้ด้วยการกล่าวว่าการประท้วงอย่างสันติจะได้รับอนุญาตในระหว่างการเยือนเวลส์ของกษัตริย์ Charles [The Guardian] [BBC] [The Guardian] พระราชินีผู้ล่วงลับสิ้นพระชนม์อย่างสงบเมื่อพระชนมายุ 96 พรรษา พระราชวังบักกิงแฮมกล่าวเมื่อวันที่ 9 กันยายน พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดของสหราชอาณาจักร โดยเสด็จขึ้นครองบัลลังก์เมื่อกว่า 70 ปีที่แล้ว พระโอรสองค์แรกของพระองค์ได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการว่า กษัตริย์ Charles III ในวันรุ่งขึ้นหลังจากที่สิ้นพระชนม์ [The Guardian] [BBC] [Reuters] (jv/gc, transl. by tj) กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปตะวันออก ![]() เอสโตเนีย: อัยการสูงสุดสั่งปลดผู้พิพากษาสองคนฐานขัดขวางกระบวนพิจารณาที่กำลังดำเนินอยู่ อัยการสูงสุดของเอสโตเนีย Andres Parmas สั่งปลดผู้พิพากษาสองคนของเขตทางใต้เมื่อวันที่ 7 กันยายน เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าแทรกแซงในกระบวนการทางกฎหมายที่กำลังดำเนินอยู่และพยายามปกปิดหลักฐาน [ERR] ผู้พิพากษา Aro Siinmaa และ Kaire Hanilene ซึ่งทำงานให้กับอัยการสูงสุดมาเกือบ 30 ปี ถูกกล่าวหาว่าขัดขวางการสอบสวนในกระบวนการพิจารณาคดีอาญา พวกเขาถูกกล่าวหาว่าลบอีเมล์ที่จะนำเสนอเป็นหลักฐานในคดี [ERR] พวกเขายังถูกตั้งข้อหาว่ามีอิทธิพลต่อการกระบวนการพิจารณาคดีที่กำลังดำเนินอยู่ โดยสร้างการป้องกันสำหรับผู้ต้องสงสัยที่พวกเขาทั้งสองรู้จักเป็นการส่วนตัว [ERR] Parmas กล่าวว่าแม้ Siinmaa และ Hanilene เป็นอัยการที่ปฏิบัติหน้าที่มายาวนานและมีคุณธรรม อาชญากรรมของพวกเขาควรได้รับโทษตามกฎหมายที่มีอยู่ และเสริมว่าการเลิกจ้างเป็นการตัดสินใจที่เป็นไปได้ [ERR] (mo/gc, transl. by tj)
ลัตเวีย: สำนักต่อต้านการทุจริตเปิดการสอบสวนกรณีการปลุกปั่นก่อนการเลือกตั้งที่ผิดกฎหมาย สำนักต่อต้านการทุจริตในลัตเวียกล่าวเมื่อวันที่ 3 กันยายนว่าจะเปิดตัวการสอบสวนกรณีการละเมิดการหาเสียงเลือกตั้งที่อาจเกิดขึ้น 33 คดีและการใช้ทรัพยากรการบริหารเพื่อปลุกปั่นก่อนการเลือกตั้งอย่างผิดกฎหมาย 2 กรณี [LSM] การสืบสวนส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนการติดตั้งและจัดวางสื่อรณรงค์หาเสียงและการใช้เงินทุนของรัฐหรือเทศบาลอย่างเห มาะสมสำหรับการหาเสียงเลือกตั้ง สองกรณีที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดการบริหารเกี่ยวข้องกับสิ่งตีพิมพ์ที่สำนักงานต่อต้านการทุจริตพบหลักฐานของการรณรงค์หาเสียงที่ไม่ได ้รับอนุญาตตามกฎหมายของลัตเวีย [LSM] (mo/gc, transl. by tj)
รัสเซีย: สภาพแวดล้อมภายนอกยังคงเป็นความท้าทายสำหรับเศรษฐกิจรัสเซีย เศรษฐกิจรัสเซียยังคงถูกท้าทายโดย "สภาพแวดล้อมภายนอก" เนื่องจากมอสโกพยายามจำกัดความเสียหายภายในที่เกิดจากการคว่ำบาตรจากตะวันตกเนื่องจากการรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ ธนาคารกลางรัสเซียได้ตัดสินใจในวันที่ 16 กันยายนที่จะตัดอัตราดอกเบี้ยหลัก key interest rate จาก 50 คะแนนเป็น 7.50 เปอร์เซ็นต์ เพื่อช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและการใช้จ่ายของผู้บริโภค ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่ลดลงในปี ค.ศ. 2022 อาจเข้าใกล้ขอบเขตบนของช่วงคาดการณ์เดือนกรกฎาคมที่ -6 เปอร์เซ็นต์ ถึง -4 เปอร์เซ็นต์ [CBR] “สภาพแวดล้อมภายนอกของเศรษฐกิจรัสเซียยังคงท้าทายและจำกัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ” ธนาคารกลางกล่าว “ในขณะเดียวกันจีดีพี ของ ไตรมาสที่สอง และตัวชี้วัดความถี่สูง ชี้ให้เห็นถึงพลวัตของกิจกรรมทางธุรกิจที่แข็งแกร่งกว่าที่ธนาคารกลางรัสเซียคาดการณ์ไว้ในเดือนกรกฎาคม ในขณะเดียวกัน แนวโน้มในภาคส่วนต่างๆและหลายภูมิภาคยังคงปะปนกันอย่างชัดเจน” [CBR] ธนาคารกลางกล่าวว่าทั้งปัจจัยอุปสงค์และอุปทานมีผลกระทบในทางลบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การสำรวจชี้ให้เห็นว่าองค์กรส่วนใหญ่ยังคงประสบปัญหาในการผลิตและการขนส่ง “อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกของพวกเขาดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้ผลิตผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป วัตถุดิบและส่วนประกอบกระจายตัว เช่นเดียวกับตลาดการขาย” ในขณะที่ธนาคารกลางอื่น ๆ ทั่วโลกขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อชะลออัตราเงินเฟ้อ ธนาคารกลางรัสเซียได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ซึ่งอาจทำให้อัตราเงินเฟ้อรุนแรงขึ้น เช่นเดียวกับในตุรกีที่อังการาได้ผลักดันอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำลงแม้จะมีอัตราเงินเฟ้อที่สูงชันและค่าเงินลีราตุรกีที่อ่อนค่าลง ธนาคารกลางรัสเซียคำนึงถึงอัตราเงินเฟ้อ และในอนาคตข้างหน้า จะคำนึงถึง “พลวัตของอัตราเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นจริงและที่คาดการณ์ไว้ ตลอดจนความเสี่ยงที่เกิดจากสภาวะภายในประเทศและภายนอก และปฏิกิริยาของตลาดการเงิน” รายงานระบุ [CBR] อัตราเงินเฟ้อประจำปีลดลงในเดือนสิงหาคมมาอยู่ที่ 14.3 เปอร์เซ็นต์ หลังจากร้อยละ 15.1 เปอร์เซ็นต์ ในเดือนกรกฎาคม ตามการประมาณการวันที่ 9 กันยายน ลดลงเหลือ 14.1 เปอร์เซ็นต์ [CBR] “อัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่ลดลงส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการปรับราคาสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนมีนาคม” ธนาคารกลางกล่าว อัตราการเติบโตของราคาผู้บริโภคในปัจจุบันยังคงต่ำ ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อประจำปีชะลอตัวลงอีก พยากรณ์เงินเฟ้อ ในอนาคต ธนาคารกลางรัสเซียคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะผ่อนคลายลงต่อไป เมื่อพิจารณาถึงแนวโน้มที่เกิดขึ้นใหม่ของราคาผู้บริโภคแล้ว คาดว่าอัตราเงินเฟ้อประจำปีจะลดลงเหลือ 11 ถึง 13 เปอร์เซ็นต์ภายในสิ้นปี ค.ศ. 2022 ตามการคาดการณ์ของธนาคารแห่งรัสเซีย เมื่อพิจารณาจากทรรศนะเกี่ยวกับโยบายการเงินแล้ว อัตราเงินเฟ้อประจำปีจะลดลงร้อยละ 5 ถึงร้อยละ 7 ในปี 2023 และจะกลับสู่ร้อยละ 4 ในปี 2024 [CBR] กิจกรรมของผู้บริโภคยังคงอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งจะช่วยทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลง กิจกรรมของผู้บริโภคที่ลดลงนั้น “เนื่องจากรายได้ที่แท้จริงของครัวเรือนที่ลดลงเมื่อเร็วๆ นี้ ขณะที่พวกเขายังคงรักษาแนวโน้มที่จะเก็บออม” ธนาคารกลางกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัจจัยอย่างหลังที่ได้รับการอธิบายให้ชัดเจนด้วยอุปทานที่ลดลงของสินค้าและบริการหลายประเภท นอกเหนือจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโดยรวมแล้ว สถานการณ์ในตลาดแรงงานโดยทั่วไปยังคงมีเสถียรภาพ แม้ว่าจำนวนตำแหน่งงานว่างจะลดลง แต่อัตราการว่างงานอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ การปรับตัวของตลาดแรงงานให้เข้ากับสภาพที่เปลี่ยนแปลงไปเหล่านี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากกลไกของการจ้างงานไม่เต็มเวลาและการปรับค่าจ้างที่ แท้จริง [CBR] (gc, transl. by tj, vv) กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ ![]() แอลเบเนีย: อธิบดีกรมตำรวจถูกไล่ออกในท่ามกลางอัตราการฆาตกรรมที่เพิ่มสูงขึ้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของแอลเบเนีย Bledi Cuci ได้ตัดสินใจปลดอธิบดีกรมตำรวจ Gladis Nano ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากเขาไม่สามารถบรรลุ “วัตถุประสงค์” ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าได้ Cuci กล่าวว่าการตัดสินใจดังกล่าวนั้น “ส่วนใหญ่แล้วเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา” ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้นของอาชญากรรมและอัตราการฆาตกรรมในประเทศ [Balkan Insight] มีรายงานการฆาตกรรมเพิ่มขึ้นในแอลเบเนีย ซึ่งรวมถึงจำนวนการสังหารแบบมุ่งเป้า (targeted killings) ในกลุ่มอาชญากรต่างๆ, เหตุการณ์ความรุนแรงในครอบครัว และการปฏิบัติโดยมิชอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา มีการประท้วงเกิดขึ้นทั่วประเทศซึ่งเป็นการโต้ตอบในเรื่องที่เด็กคนหนึ่งถูกสังหารที่หาดหิมาราหลังจากถูกเรือสปีดโบ๊ตชน โดยเรือลำดังกล่าวขับโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเวลาทำงาน [Tirana Times] (hi/gc, transl. by vv)
แอลเบเนีย: แผนลอบสังหารอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศถูกเปิดเผย ตามข้อมูลในรายงานฉบับหนึ่งของหน่วยอำนวยการต่อต้านการก่อการร้าย (anti-terror directorate) ซึ่งรั่วไหลโดยฝีมือของกลุ่มแฮ็กเกอร์ที่โจมตีรัฐบาล เผยให้เห็นว่ามีการวางแผนการพยายามลอบสังหารอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศแอลเบเนีย Lulzim Basha ในปี 2017 โดยในขณะนั้น Basha ดำรงตำแหน่งประธานพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นฝ่ายค้าน [AlfaPress] ตามรายงานดังกล่าว ผู้ต้องสงสัยสามคนมีเป้าหมายที่จะ “ทำให้ประเทศไร้เสถียรภาพ” [Euronews] (hi/gc, transl. by vv)
กรีซ: คณะกรรมการของรัฐบาลสอบสวนข้อเรียกร้องเรื่องการดักฟังทางโทรศัพท์เมื่อกรณีอื้อฉาวทางการเมืองบานปลาย รัฐสภากรีซอนุมัติให้จัดตั้งคณะกรรมการที่จะสอบสวนข้อกล่าวหาเรื่องการดักฟังทางโทรศัพท์ที่เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม Nikos Androulakis หัวหน้าพรรคสังคมนิยม PASOK-KINAL ซึ่งเป็นฝ่ายค้าน รายงานต่อสาธารณชนว่าเขาตกเป็นเหยื่อของการพยายามดักฟังทางโทรศัพท์ โดยส่งผลให้หัวหน้าหน่วยงานข่าวกรองแห่งชาติ (EYP) และเลขาธิการนายกรัฐมนตรีต้องตกงาน ขณะที่รัฐบาลกล่าวว่าการสอดส่องนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องแต่ถูกกฎหมาย พวกเขาปฏิเสธที่จะรับผิดชอบในเรื่องการพยายามแฮ็คโทรศัพท์ของ Androulakis โดยใช้ซอฟต์แวร์การเข้าถึงระยะไกล คณะกรรมการจะสอบสวนข้อกล่าวหาของ Androulakis รวมทั้งเรื่องความพยายามในการสอดส่องที่คล้ายคลึงกันนี้ซึ่งกระทำต่อนักข่าว Athanasios Koukakis เมื่อต้นปีนี้และต่อสำนักงานใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งกรีซในปี 2016 กรณีการสอดส่องเหล่านี้เกี่ยวข้องกับพรรคเสรีนิยม-อนุรักษ์นิยม Nea Dimokratia ที่ปกครองประเทศและพรรคประชาธิปไตย-สังคมนิยม SYRIZA ซึ่งเป็นฝ่ายค้าน [Kathimerini] ในการพิจารณาไต่สวนของคณะกรรมการ อดีตหัวหน้า EYP และอดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้อ้างถึงการเก็บรักษาความลับเมื่อพวกเขาปฏิเสธที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับการติดตามและเฝ้าสังเกตพวกนักการเ มือง หรือว่าไฟล์ที่เกี่ยวกับ Androulakis นั้นมีอยู่จริงหรือไม่ เจ้าหน้าที่ของ EYP ที่ทำงานให้กับองค์กรนี้ในช่วงที่พรรค SYRIZA บริหารประเทศอยู่นั้นกล่าวว่าไม่มีนักการเมืองคนใดที่ถูกเฝ้าติดตามในขณะนั้นและกล่าวสนับสนุนการดักฟังทางโทรศัพท์ว่า “ไม่อาจเป็นเรื่องผิดกฎหมายได้” เนื่องจากเป็นการกระทำเพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านความมั่นคงของชาติเท่านั้น [Kathimerini] การพิจารณาไต่สวนทั้งหมดของคณะกรรมการกระทำเป็นความลับ รายงานการประชุม, คำให้การของพยาน (transcripts) และคำเบิกความของพยาน (testimonies) จะไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ สื่อท้องถิ่นจะสามารถรายงานได้เฉพาะคำแถลงของสมาชิกรัฐสภาเท่านั้น ในระหว่างการประชุมของคณะกรรมการตามกำหนดเดิมนั้น สมาชิกรัฐสภาที่เป็นฝ่ายค้านได้เดินออกจากห้องประชุมด้วยความโกรธเคืองหลังจากรัฐบาลปฏิเสธพยานบางคนที่ฝ่ายค้านพิจารณาว่า “สำคัญมาก” พวกเขากล่าวหาพรรค Nea Dimokratia ว่า “ทำการปกปิด” [Kathimerini] Christos Spirtzis อดีตรัฐมนตรีและสมาชิกพรรค SYRIZA ไปพบพนักงานอัยการที่ศาลสูงสุดของกรีซเพื่อรายงานข้อกล่าวหาที่ว่ามีการพยายามดักฟังเขาทางโทรศัพท์ในช่วงปลายปี 2021 เขากล่าวว่าผู้เชี่ยวชาญด้านโทรคมนาคมยืนยันกับเขาว่าลิงก์ต่างๆ ที่เขาได้รับผ่านทางข้อความ เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์ Predator ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์การเข้าถึงระยะไกลแบบเดียวกับที่ใช้ดักฟัง Androulakis และ Koukakis [Reuters] รัฐบาลกรีซกล่าวว่า “ยินดีที่จะทำงานร่วมกับบรัสเซลส์ด้วยจิตวิญญาณแห่งความร่วมมือกัน” เพื่อแก้ไขข้อกล่าวหาเรื่องกระทำการสอดส่อง แต่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องของความมั่นคงแห่งชาติและไม่อยู่ในขอบเขตอำนาจศาลของสหภาพยุโรป สมาชิกรัฐสภายุโรปหลายคนแสดงความไม่เห็นด้วย โดยกล่าวว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน หลักนิติธรรม และประชาธิปไตย [Politico] นักข่าวกรีกหลายคน นักข่าวกรีกหลายคน รวมทั้ง Koukakis ได้รับเชิญให้เป็นพยานในระหว่างการสอบสวนของรัฐสภายุโรปในเรื่อง “การใช้สปายแวร์ในกรีซ” การมีส่วนร่วมของ Koukakis ถูกขัดขวางโดยรัฐสภากรีซซึ่งออกเสียงไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอที่จะเรียกตัวเขาไปให้ปากคำ พวกนักข่าวกล่าวว่าตนได้รับคำถามจากสมาชิกรัฐสภายุโรปหลายคน พวกเขาถูกถามความคิดเห็นเกี่ยวกับว่ารัฐสภายุโรปควรดำเนินการอย่างไรในทางกฎหมาย Koukakis กล่าวว่าเขาเชื่อว่ารัฐสภายุโรปจะ “ทำการกดดันและให้ความสำคัญต่อแง่มุมต่างๆ ของคดีนี้ที่ยังไม่ได้รับการอธิบายให้ชัดแจ้ง” [Balkan Insight] กลุ่มนักข่าวกรีกและนักข่าวต่างประเทศที่อยู่ในประเทศกรีซได้เขียนคำแถลงร่วมส่งให้คณะกรรมการของรัฐสภายุโรป โดยขอให้คณะกรรมการสืบสวนเรื่องนี้เพิ่มเติมและจัดหาเงินทุนเพื่อตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆ ของพวกเขาเพื่อหาซอฟต์แวร์สอดแนม (spying software) ที่ผิดกฎหมาย พวกเขากล่าวว่า “ประชาธิปไตยของกรีซกำลังตกอยู่ในอันตราย” [Balkan Insight] รัฐบาลถูกวิพากษ์วิจารณ์หลังจากมีการออกหมายจับนักข่าว Petros Kousoulos ในข้อหาทำการเผยแพร่เอกสารที่ละเอียดอ่อน (classified documents) ที่เปิดเผยเรื่องการดักฟังทางโทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่สองคนในช่วงที่พรรค SYRIZA บริหารประเทศในปี 2016 การดำเนินการดังกล่าวถูกประณามโดยองค์กรต่างๆ ที่ทำการตรวจสอบเสรีภาพของสื่อ (media freedom watch dogs) เช่น International Press Institute (องค์กรระดับโลกที่อุทิศตนเพื่อส่งเสริมและปกป้องเสรีภาพของสื่อและปรับปรุงแนวปฏิบัติด้านสื่อสารมวลชน) Kousoulos กล่าวว่า “ไม่น่าเป็นไปได้” ที่นักข่าวจะถูกดำเนินคดีเพียงเพราะ “ทำงานของตน” [Balkan Insight] ในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก นายกรัฐมนตรี Kyriakos Mitsotakis กล่าวว่า “มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น” และว่ารัฐบาลกำลังดำเนินมาตรการเพื่อให้แน่ใจว่ามี “ตัวกรองที่เข้มงวดยิ่งขึ้นเมื่อพูดถึงปัญหาการดักฟังทางโทรศัพท์” เขากล่าวว่า “การแพร่กระจายอย่างรวดเร็วของสปายแวร์ที่ผิดกฎหมาย” ไปทั่วยุโรปนั้นต้องได้รับการตอบสนองจากยุโรป เพื่อหาความสมดุลระหว่างการคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานและการไม่ทำให้ความสามารถของหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติต้องลดลง โดยเรียกร้องให้มีการห้ามใช้ซอฟต์แวร์เช่น Predator [Bloomberg] คณะกรรมการสอบสวนของรัฐสภากรีซคาดว่าจะสรุปการพิจารณาไต่สวนพร้อมด้วยคำให้การของ Androulakis ในตอนต้นเดือนตุลาคม ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น คณะกรรมการคาดว่าจะใช้มาตรการหลัก 4 ประการ ได้แก่ เพิ่มการกรองและข้อกำหนดสำหรับ EYP เพื่อสอดส่องนักการเมือง, เพิ่มความโปร่งใสในการเปิดเผยแรงจูงใจเบื้องหลังการสอดส่องแต่ละครั้ง แทนที่จะอ้างถึงความมั่นคงของชาติ, ให้ผู้ถูกสอดส่องทราบเวลาและเหตุผลของการถูกสอดส่อง และจะห้ามการขายซอฟต์แวร์ Predator และซอฟต์แวร์อื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน คาดว่ารัฐจะยังคงสามารถซื้อซอฟต์แวร์ Predator ได้ แต่อยู่ภายใต้ “กฎเกณฑ์ที่เข้มงวดของความโปร่งใส” [Kathimerini] พรรค Nea Dimokratia ของ Mitsotakis ยังคงรักษาความได้เปรียบเหนือพรรค SYRIZA อยู่ 9 จุดร้อยละ (percent point) ในโพลสำรวจการเลือกตั้งเมื่อเร็วๆ นี้ แม้ว่าจะมีกรณีอื้อฉาวดังกล่าว การเลือกตั้งคาดว่าจะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายน 2023 [Politico] (hi/gc, transl. by vv)
กรีซ: ศาลพิเศษแห่งศาลฎีกาเริ่มพิจารณาคดีอดีตรัฐมนตรีและอัยการ ศาลฎีกาของกรีซเริ่มการพิจารณาคดีของอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงยุติธรรม Dimitris Papagelopoulos และอดีตหัวหน้าอัยการต่อต้านการทุจริต (Chief Corruption Prosecutor) Eleni Touloupaki ในข้อกล่าวหาว่าประพฤติมิชอบและใช้อำนาจในทางที่ผิด [Kathimerini] ข้อกล่าวหาต่อพวกเขาเกี่ยวข้องกับกรณีอื้อฉาวที่กล่าวหาว่าบริษัทโนวาร์ตีสจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกรีซเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของตน ได้รับราคาที่สูง (Novartis scandal) ในปี 2016 เมื่อนักการเมืองและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหลายคนถูกกล่าวหาว่ารับสินบนจากบริษัทยาแห่งนี้ Papagelopoulos ถูกกล่าวหาว่าเข้าแทรกแซงในการสอบสวนพนักงานอัยการหลายคนและทำให้นักข่าว Giorgos Papachristos ต้องตกเป็นเหยื่อโดยไม่มีหลักฐาน Touloupaki ถูกกล่าวหาว่าละเลยที่จะนำเสนอสำนวนต่อรัฐสภาให้ตรงเวลา ดังนั้นจึงขัดขวางการดำเนินคดีต่อบรรดารัฐมนตรีที่ถูกกล่าวหาว่าทำการทุจริต [CNN] [Ta Nea] (hi/gc, transl. by vv)
กรีซ: เอเธนส์ดำเนินการขายท่าเรือ Kavala และ Alexandroupoli กรีซได้เดินหน้าในแผนการขายท่าเรือ Kavala และ Alexandroupoli ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ เพราะความสนใจในท่าเรือดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากความสำคัญทางภูมิรัฐศาสตร์ในฐานะเส้นทางการค้าที่เชื่อมระหว่างทะเลเมดิเตอร์เรเน ียนกับทะเลดำ รวมถึงการเชื่อมต่อกับระบบการรถไฟของเซอร์เบียและของฮังการี [Proto Thema] ท่าเรือ Kavala ได้ถูกขายให้กับกลุ่มการลงทุนของอเมริกาที่ชื่อ Black Summit-GEK TERNA แล้ว แต่ทั้ง Black Summit-GEK TERNA และกลุ่มบริษัทอเมริกัน Quintana Infrastructure & Development ต่างได้ทำการยื่นประมูลสำหรับท่าเรือ Alexandroupoli มีรายงานด้วยว่าได้มีการยื่นประมูลราคาโดยกิจการร่วมทุนระหว่างประเทศ Cameron SA-Goldair Cargo-Bollore Africa Logistics และ Greek-Cypriot Thessaloniki Port Authority เช่นเดียวกัน [Kathimerini] สื่อท้องถิ่นอ้างว่าสหรัฐฯ ตั้งใจจะใช้ท่าเรือ Alexandroupoli เป็นฐานทัพเรือหากชนะการประมูล [Hurriyet] Thessaloniki Port Authority มีความเกี่ยวพันกับจีน โดยบริษัท China Merchants Port Holdings ซึ่งเป็นของรัฐบาลจีนควบคุมบริษัทนี้อยู่ถึงร้อยละ 33 นอกจากนี้ จีนยังควบคุมท่าเรือ Piraeus ซึ่งเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของกรีซด้วยเช่นกันหลังจากได้เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่เมื่อปี 2016 ท่าเรือ Piraeus ได้ถูกรวมอยู่ในโครงการข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) ของจีน ซึ่งมีลักษณะในเชิงพาณิชย์เป็นสำคัญ แต่การลงทุนใหม่ๆ ที่ดำเนินการใกล้พรมแดนของกรีซมากขึ้นได้กระตุ้นให้นักวิจารณ์ตั้งคำถามว่าแรงจูงใจของปักกิ่งนั้นเป็นใน “เชิงยุทธศาสตร์มากกว่าเชิงพาณิชย์” หรือไม่ [Janes IntelTrak] (hi/gc, transl. by vv) กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปใต้ ![]() โปรตุเกส: รัฐมนตรีลาออกหลังจากหญิงตั้งครรภ์เสียชีวิตในท่ามกลางวิกฤติด้านบริการสาธารณสุข รัฐมนตรีสาธารณสุขของโปรตุเกสได้ลาออกจากตำแหน่งในท่ามกลางความโกรธเคืองอย่างมากต่อการเสียชีวิตของหญิงตั้งครรภ์คนหนึ่งที่ไม่ได้รับก ารรักษาในโรงพยาบาลหลักของกรุงลิสบอนเนื่องจากขาดพื้นที่รักษา กรณีดังกล่าวนี้เกิดขึ้นหลังจากหลายเดือนแห่งวิกฤตการณ์ด้านบริการสุขภาพของประเทศ และหลังจากที่เกิดหลายเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันนี้ขึ้นในฤดูร้อน คนไข้รายนี้ซึ่งได้ถูกรับเข้ารักษาด้วยปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ มีอาการหัวใจวายขณะถูกย้ายไปยังโรงพยาบาลอื่น เนื่องเพราะโรงพยาบาลซานตามาเรียขาดความสามารถในด้านบริการดูแลทารกแรกเกิด (neonatal service) โดยโรงพยาบาลกล่าวว่าคนไข้มีอาการคงที่และว่าการย้ายโรงพยาบาลดังกล่าวเป็น “ขั้นตอนที่ปฏบัติกันบ่อยๆ” [The Guardian] อ้างจากคำกล่าวของประธานสมาคมแพทย์สาธารณสุขแห่งชาติ (National Association of Public Health Doctors) ว่า ระบบสุขภาพของโปรตุเกสได้ประสบกับปัญหาด้านโครงสร้างมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ ซึ่งรวมถึงปัญหาค่าแรงต่ำ อุปกรณ์ที่ล้าสมัย และระบบราชการที่ไร้ประสิทธิภาพ โปรตุเกสมีอัตราการเสียชีวิตในช่วงเวลาหนึ่งๆ ที่สูงกว่าปกติ (excess mortality rate) ถึงร้อยละ 23.9 ซึ่งเป็นสี่เท่าของค่าเฉลี่ยของสหภาพยุโรป และอัตราการเสียชีวิตของเด็กอยู่ที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2018 [The Guardian] เมื่อวันที่ 9 กันยายน Manuel Pizarro ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขภายหลังจากที่ Marta Temido ลาออกจากตำแหน่ง [RTP] (msa/pk, transl. by vv)
สเปน: รัฐสภาอนุมัติกฎหมายที่เข้มงวดขึ้นเกี่ยวกับความยินยอมทางเพศ รัฐสภาสเปนได้ลงคะแนนเสียงในกฎระเบียบใหม่ที่เกี่ยวกับความยินยอมทางเพศ ซึ่งถูกเรียกด้วยชื่อที่ไม่เป็นทางการว่ากฎหมาย “แค่ใช่ก็หมายความว่าใช่” ในการดำเนินการที่นักรณรงค์หวังว่าจะให้ความคุ้มครองแก่สตรีมากขึ้น Irene Montero รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความเสมอภาค (Equality Minister) ของสเปนกล่าวว่า “ในที่สุด ประเทศของเราก็กำลังบันทึกอย่างเป็นทางการไว้ในกฎหมาย ว่าความยินยอมต้องเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดในความสัมพันธ์ทางเพศของเรา” เธอกล่าวเสริมว่า “ผู้หญิงจะไม่ต้องแสดงให้เห็นว่ามีความรุนแรงหรือการข่มขู่คุกคาม (เกิดขึ้น) เพื่อให้ [คดี] ได้รับการยอมรับว่าเป็นการรุกรานทางเพศ (sexual aggression) อีกต่อไปแล้ว” [Euronews] [Guardian] แรงกดดันให้เปลี่ยนคำจำกัดความของความยินยอมทางเพศในสเปนนั้น มีขึ้นหลังจากชายห้าคนที่ผลัดกันมีเพศสัมพันธ์กับเด็กหญิงอายุ 14 ปีในปี 2016 ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานล่วงละเมิดทางเพศ แทนที่จะเป็นการข่มขืน ศาลกล่าวว่าเด็กหญิงคนดังกล่าวซึ่งหมดสติหลังจากที่ได้ดื่มสุราไม่ได้ต่อสู้กลับ และพวกผู้ชายก็ไม่ได้ (กระทำการ) รุนแรง [Euronews] โดยรวมแล้ว สมาชิกรัฐสภา 205 คนลงคะแนนเห็นชอบต่อกฎหมายฉบับใหม่นี้ ขณะที่ 141 คนออกเสียงคัดค้าน และสามคนงดออกเสียง บรรดาพรรคฝ่ายค้านที่ออกเสียงลงคะแนนไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายนี้ ซึ่งรวมถึงพรรคประชานิยม Vox และพรรคฝ่ายกลาง-ขวา Popular Party กล่าวว่ากฎหมายฉบับนี้ขาดความชัดเจนทางกฎหมายและมีเป้าหมายที่ “ไม่ได้ปกป้องคุ้มครองผู้หญิง แต่เพื่อเล่นงานผู้ชาย” ภายใต้มาตรการใหม่นี้ จะมีการให้การสนับสนุนเพิ่มเติมแก่บรรดาเหยื่ออาชญากรรมทางเพศ และพวกผู้หญิงจะได้รับการปกป้องคุ้มครองที่ดีขึ้นจากการถูกคุกคามทางร่างกายและทางออนไลน์ (cg/pk, transl. by vv)
สเปนดำเนินการเพื่อควบคุมราคาพลังงานในขณะที่เก็บภาษีคนรวย รัฐบาลสเปนได้ประกาศมาตรการต่างๆ เพื่อควบคุมราคาพลังงานที่สูงเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งรวมถึงการลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับก๊าซจากร้อยละ 21 ลงเหลือเพียงร้อยละ 5 มาตรการนี้จะมีผลใช้บังคับจนถึงต้นปี 2023 รัฐบาลที่นำโดยพรรคสังคมนิยมยังได้เสนอเก็บภาษีผู้ที่ร่ำรวยที่สุดจำนวนร้อยละ 1 ของประชากรทั้งประเทศเป็นการชั่วคราว โดยเริ่มในปี 2023 เพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อและช่วยจ่ายเงินสำหรับรัฐสวัสดิการในการช่วยเหลือประชาชนที่ตกอยู่ในความทุกข์ยาก (welfare state) ในเวลาเดียวกัน นายกรัฐมนตรี Pedro Sanchez กล่าวว่าข้อจำกัดด้าน (การใช้) พลังงานต่อธุรกิจและครัวเรือนส่วนตัว (private households) นั้นไม่สามารถปฏิบัติได้ ในการให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุสเปน Cadena Ser เขากล่าวว่า “เมื่อเราเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว ดูเหมือนเป็นการสมเหตุสมผลที่จะพยายามลดค่าจัดหาพลังงานเพื่อให้ความร้อนแก่อาคาร (heating bills) ลง” รัฐบาลยังได้ประกาศด้วยว่าจะขยายเพดานราคาก๊าซ (cap on gas prices) เพื่อพยุงและสนับสนุนอุตสาหกรรมหนักและโรงไฟฟ้า ข้อตกลงฉบับหนึ่งที่ทำกับสหภาพยุโรปทำให้ประเทศต่างๆ ในแถบคาบสมุทรไอบีเรียสามารถให้เงินอุดหนุนก๊าซเพื่อผลิตไฟฟ้าได้ [Reuters] อัตราเงินเฟ้อในสเปนเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาสูงเกินร้อยละ 10 ในเดือนมิถุนายนและยังคงพุ่งสูงขึ้น แม้ว่ารัฐบาลคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงต่ำกว่าร้อยละ 8 ภายในสิ้นปีนี้ Nadia Calvino รัฐมนตรีเศรษฐกิจของสเปนกล่าวว่า “มีความไม่แน่นอนมากมายเนื่องจากสงคราม” ในยูเครน [Euronews] ในขณะเดียวกัน สหภาพการค้าของสเปนกำลังร้องขอให้ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเพื่อให้ถึงร้อยละ 60 ของค่าจ้างเฉลี่ยของประเทศ ซึ่งเป็นการดำเนินการที่ได้รับการต่อต้านจากสมาคมนายจ้าง [Euractiv] แม้ว่าราคาจะเพิ่มสูงขึ้น Sanchez ก็กล่าวว่าสเปนอยู่ในสถานการณ์ที่ “พอเพียงและมั่นคงมากกว่า” ประเทศยุโรปอื่นๆ มากที่พึ่งพาก๊าซรัสเซียเป็นอย่างมาก [Euractiv] ราคาไฟฟ้าของสเปนแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนสิงหาคมโดยอยู่ที่ 307.80 ยูโรต่อเมกะวัตต์-ชั่วโมง ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.3 เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมาได้มีการขึ้นราคาอย่างต่อเนื่อง สมาคมผู้บริโภคสเปน FACUA กล่าวว่ามันเป็น “เดือนสิงหาคมที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์” [Euractiv] รัฐบาลได้เริ่มปฏิบัติการเพื่อดำเนินการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง (radical changes) ซึ่งรวมถึงการจำกัดการใช้เครื่องปรับอากาศด้วย เก็บภาษีเศรษฐี? ในการดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อนั้น รัฐบาลได้เสนอเก็บภาษีผู้ที่ร่ำรวยที่สุดจำนวนร้อยละ 1 ของประชากรทั้งประเทศเป็นการชั่วคราว ภาษีใหม่นี้ ซึ่งยังไม่ได้ประกาศระดับอัตราร้อยละ (level) ออกมานั้น จะดำเนินการเป็นเวลาสองปี โดยเริ่มในปี 2023 และจะเกิดขึ้นในไม่ช้าหลังจากการเก็บภาษีลาภลอย (windfall tax) จากบรรดาธนาคารและบริษัทพลังงานที่ได้ประกาศให้รู้กันทั่วไปแล้วในเดือนกรกฎาคม [Europe Monthly August 2022] Sanchez กล่าวไว้ในสุนทรพจน์เมื่อวันที่ 23 กันยายนว่า “เรากำลังเสนอให้คนเหล่านั้นที่ร่ำรวยที่สุด ทำการอย่างมุ่งมั่นเพื่อให้เงินสนับสนุนต่อรัฐสวัสดิการ ซึ่งเป็นของทุกคน” ข้อเสนอนี้ได้รับการสนับสนุนจากพรรคประชานิยมฝ่ายซ้าย Unidas Podemos ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลผสมที่มีอิทธิพลน้อยกว่าพรรคอื่น ที่กำลังพยายามผลักดันให้ทำการเก็บภาษีนี้อย่างถาวร แต่พรรคประชาชนซึ่งเป็นฝ่ายค้านอนุรักษ์นิยมได้แสดงความกังวลออกมา Alberto Feijoo หัวหน้าพรรคประชาชนกล่าวว่าสเปนควรพยายาม “ดึงดูดความมั่งคั่งและนักลงทุน แทนที่จะไปไล่พวกเขา” [Associated Press] [Bloomberg] คณะกรรมาธิการยุโรปได้ขอให้สเปนกลับสู่ (การมี) เสถียรภาพทางการเงินการคลัง (fiscal stability) และเสริมสร้างรายได้ของประเทศให้แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพมากขึ้น [Reuters] (cg-km/pk, transl. by vv)
สเปน: รัฐบาลเสนอให้ตั๋วรถไฟฟรี และตั้งเป้าตรึงค่าอาหารในท่ามกลางเงินเฟ้อสูง รัฐบาลสเปนได้เปิดเผยมาตรการใหม่ซึ่งรวมถึงตั๋วโดยสารรถไฟฟรี เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อ แต่ข้อเสนอหนึ่งที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อตรึงราคาอาหารบางรายการได้รับการปฏิเสธจากกลุ่มร้านค้าปลีกแบบบริการตนเองขนาดใหญ่ (supermarket chain) จำนวนมาก รัฐบาลกำลังแสวงหาข้อตกลงกับผู้ค้าปลีกเพื่อกำหนดราคาผลิตภัณฑ์อาหารหลายประเภทจนถึงเดือนมกราคม 2023 อัตราเงินเฟ้อประจำปีของสเปนพุ่งแตะที่ร้อยละ 10.8 ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 38 ปี และยังคงอยู่ในระดับสูง [El Mundo] [Reuters 1] เมื่อวันที่ 12 กันยายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน Yolanda Diaz และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงผู้บริโภค (Consumer Minister) Alberto Garzon ได้ประชุมกับกลุ่มร้านค้าปลีกแบบบริการตนเองขนาดใหญ่ ซึ่งรวมถึงร้านค้าปลีกชั้นนำของประเทศ Mercadona ที่มีส่วนแบ่งการตลาดถึงร้อยละ 25 เพื่อแสวงหาข้อตกลง ข้อเสนอของรัฐบาลได้ก่อให้เกิดข้อโต้แย้งขึ้น โดยผู้ค้าปลีกบางรายกล่าวว่าพวกเขามีส่วนลด (ให้กับลูกค้า) อยู่แล้วเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ ธุรกิจอื่นๆ มองว่าการดำเนินการนี้เป็นการควบคุมและกำหนดราคา แต่ Diaz และ Garzon มองว่าการดำเนินการนี้ “ถูกกฎหมายและเป็นไปตามหลักการแข่งขัน” [Reuters 2] [El Pais] ในขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 1 กันยายน รัฐบาลสเปนได้เริ่มแจกตั๋วโดยสารรถไฟฟรีสำหรับการเดินทางไม่เกิน 300 กิโลเมตร ซึ่งเป็นอีกความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ การริเริ่มนี้จะทำให้รัฐบาลต้องเสียค่าใช้จ่ายถึง 221 ล้านยูโรและเป็นส่วนหนึ่งของแพ็คเกจมูลค่า 9.5 พันล้านยูโรที่ออกประกาศในเดือนมิถุนายนเพื่อช่วยค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น [Reuters 3] [Euronews] ตั๋วฟรีซึ่งจะสามารถใช้ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคมนั้น มีเป้าหมายเพื่อให้สเปนลดการพึ่งพาน้ำมันของรัสเซีย นอกจากนี้ การริเริ่มนี้คาดว่าจะมีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ซึ่งจะช่วยต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ [New York Times] Raquel Sanchez รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของสเปนกล่าวบนทวิตเตอร์ว่า “บัตรโดยสารใหม่นี้มีประโยชน์ในการช่วยเหลือ […] ชนชั้นกลางและชนชั้นแรงงาน” (km/pk, transl. by vv) กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปกลาง ![]() พรรคฝ่ายค้านสาธารณรัฐเช็กชนะการเลือกตั้งระดับเทศบาลในเมืองใหญ่เป็นส่วนมาก พรรคประชานิยม ANO ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านในรัฐสภาตั้งแต่ปีที่แล้ว คว้าชัยชนะใน 17 เมืองจากทั้งหมด 27 เมืองใหญ่ในการเลือกตั้งเทศบาลของสาธารณรัฐเช็กเมื่อวันที่ 23 และ 24 กันยายน อย่างไรก็ดี ในสองเมืองใหญ่ ได้แก่ ปรากและเบอร์โน นั้น กลุ่มพรรคพันธมิตรรัฐบาลกลาง-ขวา “Together” ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยนายกรัฐมนตรี Peter Fiala ได้คะแนนที่ดีที่สุดไป [iRozhlas CZ] Tomio Okamura จากพรรคประชานิยมฝ่ายขวาอย่างพรรค SPD ได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายจากการเลือกตั้งเทศบาล โดยชนะทั้งหมด 492 ที่นั่ง เพิ่มขึ้นจากการเลือกตั้งเมื่อสี่ปีที่แล้วที่ได้เพียง 161 ที่นั่ง พรรค ANO ของ Andrej Babis มหาเศรษฐีประชานิยมและผู้มีแนวคิดต่อต้านสหภาพยุโรป (Eurosceptic) ซึ่งถูกขับไล่จากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนตุลาคม 2021 ในการเลือกตั้งรัฐสภา (parliamentary elections) ได้รับที่นั่ง 1,748 ที่นั่งในสภาเทศบาล จากเดิมที่มีที่นั่ง 1648 ในปี ค.ศ. 2018 [iRozhlas CZ] พรรคคอมมิวนิสต์ฝ่ายซ้ายของโบฮีเมียและโมราเวีย ชนะโดยมีจำนวนที่นั่งน้อยลงที่ร้อยละ 68 เมื่อเทียบกับเมื่อสี่ปีก่อน พรรคฝ่ายซ้ายกลางอย่าง Czech Social Democratic Party ได้รับคะแนนเสียงน้อยลงที่ร้อยละ 59 การเลือกตั้งแสดงให้เห็นว่าผู้แข่งขันเลือกตั้งมีจำนวนกว่า 200,000 คน เข้าแข่งขันในการเลือกตั้งจำนวน 60,000 ที่นั่งของสภาท้องถิ่นทั่วประเทศ ในขณะเดียวกัน มีการเลือกตั้งวุฒิสภาซึ่งเป็นสภาสูงของประเทศ จำนวน 27 ที่นั่ง โดย 1 ใน 3 ของที่นั่งในวุฒิสภาจะได้รับการเลือกตั้งใหม่ทุก ๆ 2 ปี โดยสมาชิกที่ได้รับเลือกตั้งมีวาระ 6 ปี [English Radio CZ] ในการเลือกตั้งวุฒิสภาเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม กลุ่มพรรคพันธมิตรกลางขวา “Together” คุมเสียงข้างมาก พันธมิตรดังกล่าวประกอบด้วย พรรค Civic Democrats (ODS) ซึ่งชนะ 8 ที่นั่ง พรรค Christian Democrats (KDU-CSL) ซึ่งชนะ 7 ที่นั่ง และพรรค TOP 09 ซึ่งชนะ 3 ที่นั่ง [Zpravy Aktualne] พรรค ANO ของ Babis ชนะ 3 ที่นั่งในวุฒิสภา ส่วนบรรดาพรรคเล็กชนะพรรคละหนึ่งที่ [Denik N] [CT 24] [Aktuality] (vs/pk, transl. by vv, aa)
ศาลสิทธิมนุษยชนยุโรปชี้การดำเนินคดีดูหมิ่นต่อนักดนตรีชาวโปแลนด์ เป็นการละเมิดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ศาลสิทธิมนุษยชนยุโรปพิพากษาว่าการดำเนินคดีดูหมิ่นต่อนักดนตรีชาวโปแลนด์ ผู้กล่าวว่าคัมภีร์ไบเบิลถูกเขียนขึ้นภายใต้อิทธิพลของแอลกอฮอล์และยาเสพติด นั้น ถือเป็นการละเมิดเสรีภาพการแสดงออก นักดนตรีป็อป Dorota Rabczewska หรือชื่อบนเวทีว่า Doda กล่าวต่อนักข่าวในการให้สัมภาษณ์ว่าเธอเชื่อใน “พลังที่เหนือกว่า” (higher power) แต่เธอมีความศรัทธาในวิทยาศาสตร์มากกว่า “เรื่องเล่าที่เหลือเชื่อ” (incredible stories) ที่เขียนโดย “ใครบางคนที่เมามายจากการดื่มไวน์และสูบกัญชา” ศาลโปแลนด์พิพากษาเธอด้วยข้อหาที่เธอกระทำการอันกระทบกระเทือนความรู้สึกในเชิงศาสนาของผู้อื่น และเพิ่มเติมว่าคำพูดของเธอนั้นตั้งใจดูหมิ่น และเป็นการแสดงความปรามาสต่อผู้ที่มีความเชื่อ นักร้องคนดังกล่าวได้ยื่นคดีของเธอต่อศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป ซึ่งเมื่อวันที่ 15 กันยายน ศาลได้พิพากษาว่าคำพูดของเธออาจจะสะเทือนใจบางคน แต่ไม่ถือว่าเป็นถ้อยคำที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) และศาลโปแลนด์ล้มเหลวในการพิจารณาบริบทของคำพูดดังกล่าวของเธอ ศาลสิทธิมนุษยชนยุโรปกล่าวว่าในขณะนั้นนักร้องคนดังกล่าวกำลังตอบคำถามเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวและคำตอบดังกล่าวได้ถูกเรียบเรียงเพื่อดึง ดูดผู้ฟังอายุน้อย ศาลจึงตัดสินว่าเสรีภาพในการแสดงความเห็นของเธอมีชัยชนะเหนือสิทธิของผู้อื่นในการได้รับการปกป้องความรู้สึกในเชิงศาสนา โดยศาลได้จ่าย 10,000 ยูโรเป็นค่าเสียหายให้กับเธอ [ECHR, Rabczewska v. Poland] (aml/pk, transl. by aa)
สโลวาเกีย: วิกฤติทางการเมืองเมื่อพันธมิตรรัฐบาลแตกหัก หุ้นส่วนสำคัญได้แยกทางกับรัฐบาลผสมของสโลวาเกียท่ามกลางข้อพิพาทเกี่ยวกับนโยบายหลัก ซึ่งเป็นการปล่อยให้ประเทศอยู่กับรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่มีความไม่มั่นคง หลักจากที่ความตึงเครียดอันยาวนานนั้นปะทุขึ้น [Reuters] [Dennikn] ท่ามกลางวิกฤติการเมือง ขณะที่แนวโน้มของการเลือกตั้งอย่างกะทันหันนั้นยังคงไม่แน่นอน รัฐบาลสโลวาเกียประกอบด้วย พรรคขวา-กลาง Ordinary People’s party (OL’aNO) พรรคขวา-กลาง Freedom and Solidarity (SaS) พรรคขวา We Are Family และพรรคกลาง For the People (ZL) โดยพรรคเหล่านี้ได้รวมตัวกันเป็นพันธมิตรกลาง-ขวาตั้งแต่การเลือกตั้งเมื่อปี 2020 ซึ่งพรรค OL’aNO ได้คว้าชัยชนะเหนือพรรคคู่แข่งหลักอย่างพรรคประชานิยม SMER-SD เมื่อวันที่ 5 กันยายน หลังจากที่มีคำขาดไปก่อนแล้วในช่วงต้นปี รัฐมนตรีเศรษฐกิจ และผู้นำของพรรค SaS Richard Sulik ก็ได้ถอนตัวพรรคออกจากการเป็นพันธมิตรร่วมรัฐบาลและลาออกจากตำแหน่งของฝ่ายรัฐบาล ร่วมกับรัฐมนตรีศึกษาธิการ รัฐมนตรียุติธรรม และรัฐมนตรีต่างประเทศ ซึ่งทั้งหมดเป็นสมาชิกพรรค SaS [AP] [Reuters] [Spectator] [Pravda] [TASR] Sulik ได้ขู่ว่าจะถอนตัวจากการเป็นพันธมิตรร่วมรัฐบาลหากหัวหน้าพรรค OL’aNO และรัฐมนตรีการคลัง อย่าง Igor Matovic ไม่ถูกปลดออกจากตำแหน่งโดยนายกรัฐมนตรี Eduard Heger ภายในสิ้นเดือนสิงหาคม ด้าน Heger เลือกที่จะยืนเคียงข้างเพื่อนร่วมพรรคและปฏิเสธจะที่ปลด Motavic ผู้ซึ่งถูกมองว่าเป็นนักการเมืองที่มีคะแนนความนิยมต่ำสุดตลอดกาลของสโลวาเกีย โดยมีอัตราการไม่ได้รับการยอมรับสูงถึงร้อยละ 88 [Euractiv] ทั้งนี้ Matovic เป็นนายกรัฐมนตรีจนกระทั่งถูกกดดันให้ลาออกหลังจากการจัดซื้อวัคซีนโควิดสปุตนิกของรัสเซียซึ่งตรงข้ามกับความตั้งใจของพันธมิตรร่วมรัฐ บาล เขาได้ส่งต่อตำแหน่งให้กับ Heger จากพรรคเดียวกัน การปราบปรามการทุจริตถูกตั้งคำถาม หัวหน้าพรรค SaS และ OL’aNO ขัดแย้งกันเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม เนื่องจากเรื่องอื้อฉาวที่สมาชิกพรรค OL’aNO โหวตสวนมติในประเด็นการยกเลิกความคุ้มกันสมาชิกรัฐสภาของอดีตนายกรัฐมนตรี Robert Fico ผู้ซึ่งถูกดำเนินคดีอาชญากรรมหลายคดี โดยสมาชิกพรรค OL’aNO คนดังกล่าวถูกขับออกจากพรรคทันทีเนื่องจากโหวตสวนมติพรรค หลังจากเรื่องนั้น Sulik ได้ตั้งคำถามอย่างเปิดเผยต่อการดำรงอยู่ของพันธมิตร และความสามารถในการดำเนินงานตามเจตนารมณ์ที่จะปราบปรามการทุจริต ความตึงเครียดถึงจุดสูงสุดในเดือนกรกฎาคม หลังจากที่ Matovic ผ่านกฎหมายเกี่ยวกับการต่อต้านเงินเฟ้อและกฎหมายความช่วยเหลือครอบครัวได้สำเร็จด้วยการสนับสนุนจากพรรคฝ้ายขวาจัด ซึ่งพรรค SaS ต่อต้านกฎหมายดังกล่าว การเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้ Sulik เรียกร้องให้ปลด Motavic ออกทันที พันธมิตรที่เหลืออยู่ต้องพยายามที่จะบริหารประเทศต่อไปแม้ไม่ได้คุมเสียงส่วนใหญ่ในสภาแล้ว ในวันที่ 14 กันยายน รัฐบาลของ Heger ล้มเหลวในการเปิดประชุมสภาสมัยใหม่ ซึ่งจะต้องได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกรัฐสภา 76 เสียง โดย Heger ได้เพียง 71 เสียงเท่านั้น [Euronews] การเลือกตั้งกะทันหัน? หากไม่สามารถเปิดประชุมสภาในภายในสามเดือน จะทำให้มีการเลือกตั้งกะทันหันโดยอัตโนมัติ ทั้งนี้ Sulik ประกาศว่าพรรคของเขาจะไม่ขัดขวางการออกกฎหมายเกี่ยวกับการให้สัตยาบันของฟินแลนด์และสวีเดนในการเข้าร่วมนาโต หรือกฎหมายพลังงาน [Euractiv] ด้านพรรคฝ่ายตรงข้ามนั้นได้ฉวยเอาประโยชน์จากวิกฤติดังกล่าว โดยพรรคประชานิยม SMER-SD เป็นแกนนำในการจัดทำประชามติว่ารัฐบาลควรจะลาออกหรือไม่ และรัฐธรรมนูญควรได้รับการแก้ไขเพื่ออนุญาตให้เสียงมหาชนสามารถย่นวาระสภาได้หรือไม่ ทั้งนี้ ประธานาธิบดี Caputova ยืนยันเมื่อวันที่ 12 กันยายน ว่าการลงคะแนนเสียงจะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคม หลังจากที่พรรคฝ่ายตรงข้ามสามารถรวบรวมการลงชื่อจำนวน 380,000 รายชื่อ และเสนอต่อรัฐบาลต่อไป [Slovak Spectator] (cg/pk, transl. by aa) กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปเหนือ ![]() ฟินแลนด์: นักข่าวถูกดำเนินคดีในข้อกล่าวหาว่าเปิดเผยข้อมูลความลับเกี่ยวกับการป้องกันประเทศ นักข่าวชาวฟินแลนด์จำนวนสามคนอยู่ในระหว่างการถูกดำเนินคดีและอาจมีโทษจำคุกในข้อหาการเปิดเผยข้อมูลความลับเกี่ยวกับการป้องกันประเทศใ นบทความเมื่อปี ค.ศ. 2017 โดยรายงานที่นักข่าวข้างต้นเขียนสำหรับหนังสือพิมพ์ของประเทศฟินแลนด์ Helsingin Sanomat เปิดเผยเกี่ยวกับกิจกรรมของกองกำลังป้องกันประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หน่วยงานวิจัยเกี่ยวกับการสืบราชการลับของประเทศฟินแลนด์ (Finnish Intelligence Research Centre) ซึ่งเป็นหน่วยสืบราชการลับทางทหาร รายงานดังกล่าวเน้นไปที่ปฏิบัติการที่ดำเนินการโดยศูนย์วิจัยฯ และในที่อยู่ของศูนย์วิจัยฯ [AP] นักข่าวสองคน ได้แก่ Tuomo Pietilaina และ Laura Halmi และผู้จัดการของหนังสือพิมพ์ในขณะนั้น Kalle Silfverberg ถูกกล่าวหาว่าเปิดเผยข้อมูลความลับ โดยที่ทั้งสามปฏิเสธการกระทำความผิดดังกล่าว [AlJazeera] [YLE] เจ้าหน้าที่ของกองกำลังป้องกันทราบว่า Halmi มีข้อมูลความลับ และรายงานต่อหน่วยต่อต้านข่าวกรองของกองทัพในปี ค.ศ. 2017 ซึ่งนำไปสู่การสืบสวนของตำรวจ [aamulehti] [aamulehti] (cg/pk, transl. by aa)
สวีเดน: กลุ่มพรรคฝ่ายขวาชนะกลุ่มพันธมิตรฝ่ายรัฐบาลเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของกลุ่มขวาสุดโต่ง พรรคฝ่ายค้านขวาของสวีเดนชนะพันธมิตรร่วมฝ่ายรัฐบาลในการเลือกตั้งที่สูสีกัน เมื่อวันที่ 11 กันยายน ปิดฉาก 8 ปี ของการครองอำนาจของพรรค Social Democrats โดยการจับมือกับพรรคขวาสุดโต่งอย่าง Sweden Democrats ซึ่งกลายมาเป็นพรรคที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ พรรค Social Democrats ซึ่งนำโดย นายกรัฐมนตรี Magdalena Andersson ชนะการสนับสนุนที่ร้อยละ 30.3 ในการเลือกตั้ง ทำให้ได้มาซึ่ง 108 ที่นั่งในรัฐสภา โดยได้รับเสียงลงคะแนนจากการเลือกตั้งเมื่อปี ค.ศ. 2018 และสามารถรักษาสถานะการเป็นพรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสวีเดนไว้ได้ [Riksdagen] [Politico] [CNBC] อย่างไรก็ดี พรรค Social Democrats และพรรคพันธมิตร อย่างพรรค Greens พรรค Centre Party และพรรค Left Party รวมกันแล้วได้รับที่นั่งเพียง 173 ที่นั่ง และพ่ายแพ้อย่างหวุดหวิดต่อกลุ่มพรรคขวาฝ่ายค้าน 4 พรรค ซึ่งได้รับที่นั่ง 176 ที่นั่ง [Reuters] [Euronews] พรรคการเมืองของสวีเดนแทบจะไม่เคยได้เสียงข้างมากในสภา 349 ที่นั่ง และทำให้ต้องจับมือกับพันธมิตรเพื่อจัดตั้งรัฐบาลร่วม โดยส่วนใหญ่แล้วจะนำโดย พรรคซ้าย-กลาง อย่างพรรค Social Democrats หรือพรรคอนุรักษ์นิยม อย่างพรรค Moderate ด้าน Ulf Kristersson ผู้ซึ่งเป็นคู่แข่งของ Andersson และเป็นหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม Moderate ได้รับมอบหมายเมื่อวันที่ 19 กันยายน ให้จัดตั้งรัฐบาลหลังจากที่ Andersson ยอมรับความพ่ายแพ้และลาออก [The Guardian] พรรค Moderate ได้คะแนนมาเป็นที่สาม ด้วย 68 ที่นั่ง และคาดการณ์ว่าจะต้องพึ่งพาการสนับสนุนจากพรรค Christian Democrat และพรรคเสรีนิยมอื่น ๆ และถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่จะต้องพึ่งพาการสนับสนุนจากพรรค Sweden Democrats ด้วย [Riksdagen] [BBC] จากพรรคที่สังคมไม่ยอมรับสู่การเป็นผู้เล่นหลัก พรรค Sweden Democrats ที่เข้าสู่รัฐสภาสวีเดนครั้งแรกในฐานะพรรคที่สังคมไม่ยอมรับ ด้วยจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 20 ที่นั่ง ในปี ค.ศ. 2010 ขณะนี้ประสบความสำเร็จสูงสุด และกลายเป็นพรรคที่ใหญ่ที่สุดลำดับที่สองของสวีเดน ด้วยจำนวน ส.ส. ในรัฐสภา 73 ที่นั่ง โดยคิดเป็นร้อยละ 20.6 ของคะแนนเลือกตั้งทั้งหมด พรรคขวาจัดและต่อต้านผู้อพยพที่ยอมรับด้วยตนเองว่ามีจุดกำเนิดมาจากลัทธินิยมความสูงสุดของคนผิวขาว (white supremacist) และฟาสซิสต์ (fascist) จะเป็นพรรคที่ใหญ่ที่สุดเบื้องหลังรัฐบาลผสมที่จัดตั้งใหม่ [Le Monde] [Riksdagen] Jimmie Akesson ซึ่งเป็นผู้นำพรรค Sweden Democrats ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2005 ฉลองผลการเลือกตั้ง โดยเขียนบนเฟซบุ๊กของเขา เมื่อวันที่ 14 กันยายน ว่า “ถึงเวลาแล้วที่จะเริ่มสร้างความมั่นคง สวัสดิการ และสมานฉันท์ ถึงเวลาแล้วที่สวีเดนต้องมาก่อน” [DW] อย่างไรก็ดี อีก 3 พรรคที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มพรรคขวาจัด ให้สัมภาษณ์ว่าพวกเขาจะไม่ให้ตำแหน่งรัฐมนตรีใด ๆ กับพรรค Sweden Democrats ขวาจัด แม้ว่าพวกเขาอาจต้องพึ่งคะแนนเสียงสนับสนุนจากพรรค Sweden Democrats ในรัฐสภาเพื่อแลกกับการออกนโยบายหลายประการก็ตาม [CNBC] [The Guardian] ซึ่งนี่อาจเป็นปัญหาที่ Kristersson ต้องเผชิญในการจัดตั้งรัฐบาลผสมที่อาจไม่มีเสถียรภาพนัก อีกประเด็นปัญหาคือความร้าวฉานอันยาวนานของ 2 พรรค คือ Liberal Party และ Sweden Democrats [Le Monde] ต้นกำเนิดของ ‘นีโอนาซี’ Magdalena Andersson ที่กลายเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของสวีเดนในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2021 และนำรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่มาจากพรรคการเมืองเดียว ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว The Guardian ระหว่างการหาเสียงเมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนว่าพรรค Sweden Democrats มี “ต้นกำเนิดที่ฝังรากลึกจากในองค์กรนีโอนาซี (neo-Nazi) และองค์กรเหยียดเชื้อชาติ (racist) อื่น ๆ ในสวีเดน” ทั้งนี้ พรรค Sweden Democrats ไม่ปฏิเสธการกล่าวหาของ Andersson และพรรคฯ เอง ก็เพิ่งตีพิมพ์ผลการศึกษาเจาะลึกถึงต้นกำเนิดของพรรคฯ โดยเปิดเผยว่าสมาชิกผู้ก่อตั้งพรรค Sweden Democrats ในช่วงทศวรรษ 1980 หลายคน มีสายสัมพันธ์เชื่อมโยงกับขบวนการเคลื่อนไหวนีโอนาซีและฟาสซิสต์ (fascist) [AP] อย่างไรก็ดี ผู้นำพรรคฯ Akesson กล่าวกับสำนักข่าว AP ว่าสมาชิกผู้ก่อตั้งพรรคฯ เหล่านั้นออกจากพรรค Sweden Democrats ไปนานมากแล้ว “ดังนั้น พรรค Sweden Democrats ในปัจจุบัน แตกต่างจากตอนที่เพิ่งเริ่มก่อตั้งขึ้นมาเมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว” สำหรับความสำเร็จของพรรคฯ นั้น มาในช่วงเวลาที่ราคาพลังงาน และการก่อความรุนแรงแบบกลุ่ม (gang violence) พุ่งสูงขึ้น รวมทั้งประเด็นการรวมผู้อพยพเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสังคมสวีเดน ซึ่งเกี่ยวพันกับจำนวนผู้อพยพที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเป็นครั้งแรกที่ผลสำรวจความคิดเห็นจากบางสำนักระบุว่า ประเด็นอาชญากรรมเป็นประเด็นสำคัญที่สุดของผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวสวีเดน [Bloomberg] พรรคของ Akesson ค่อย ๆ ทะยานขึ้น หลังจากที่เขาทำให้ภาพลักษณ์ของพรรคดูรุนแรงน้อยลง ในปี ค.ศ. 2006 หนึ่งปีหลังจากที่ Akesson เข้าดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค เขาแทนที่ตราสัญลักษณ์คบเพลิงของพรรคด้วยดอกไม้ และในปี ค.ศ. 2012 เขาได้นำนโยบายความอดทนเป็นศูนย์ (zero-tolerance policy) มาใช้ เพื่อต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติและแนวคิดสุดโต่ง (extremism) [AP] หากไม่พิจารณาถึงบทบาทที่เป็นไปได้ของพรรค Sweden Democrats ในรัฐบาล พรรคฯ จะใช้อิทธิพลในฐานะพรรคที่ใหญ่ที่สุดในรัฐบาลผสม รวมทั้งพรรคฯ ยังได้ผลักให้ประเด็นการอภิปรายทางการเมืองของสังคมสวีเดนหันไปทางขวาแล้ว ซึ่งทั้งรัฐบาลฝ่ายซ้าย-กลาง และพรรคฝ่ายค้านขวา-กลาง ได้นำท่าทีที่แข็งกร้าวขึ้นมาใช้กับประเด็นการรับผู้อพยพและอาชญากรรมในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง [Europe Monthly September 2022] [AP] [Time] การจัดตั้งรัฐบาลใหม่อาจเป็นกระบวนการที่ยาวนานท่ามกลางความพยายามที่จะสร้างโครงการร่วมกันระหว่างพันธมิตรรัฐบาลผสม ทั้งนี้ หลังจากการเลือกตั้งครั้งก่อนในปี ค.ศ. 2018 พรรค Social Democrats ต้องใช้เวลาถึง 4 เดือนในการรวมเสียงข้างมาก [Euronews] [The Guardian] อย่างไรก็ดี บทบาทของพรรค Sweden Democrats ในรัฐบาลต่อไปจะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด โดยประเทศอื่นในยุโรป เป็นต้น เนื่องจากรัฐบาลสวีเดนอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการเข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต (North Atlantic Treaty Organization: NATO) และเตรียมเข้ารับวาระการดำรงตำแหน่งประธานสหภาพยุโรปในวันที่ 1 มกราคม อีกด้วย [The Washington Post] (qv/pk, transl. by aa)
กองกำลังนาโตจากเยอรมนีเดินทางถึงลิทัวเนีย เพื่อเสริมความเข้มแข็งให้กับฝั่งตะวันออกของนาโต กองกำลังทหารเยอรมันแห่งกองพลยานเกราะ (tank brigade) ที่ 41 หนึ่งร้อยกองแรก เดินทางถึงลิทัวเนียแล้ว เมื่อวันที่ 4 กันยายน เพื่อปกป้องฝั่งตะวันออกของนาโต (NATO) จากการรุกรานยูเครนของรัสเซีย [NTV] [NATO] [The Defence Post] [DW] Oana Lungescu โฆษกประจำนาโต เผยว่า “การเดินทางถึงลิทัวเนียของกองกำลังเยอรมันชุดแรกที่เป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังนาโต แสดงให้เห็นถึงก้าวสำคัญในการเสริมความเข้มแข็งให้กับการป้องปรามและการป้องกันของนาโต ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อความมั่นคงของนาโตเอง และยังช่วยส่งข้อความอันชัดเจนว่านาโตจะปกป้องทุกตารางนิ้วของดินแดนพันธมิตร” [NATO] จากคำแถลงของกองทัพเยอรมันบนทวิตเตอร์ กองทัพเยอรมันพยายามจัดหากำลังเสริมให้กับกองกำลังนาโต รวมทั้งพยายามที่จะมีส่วนร่วมในการฝึกทหารกับกองกำลังทหารลิทัวเนียด้วย และโพสต์บนทวิตเตอร์ของ Christian Nawrat พลจัตวา (Brigadier General) แห่งกองทัพเยอรมัน ยังได้ระบุว่ากองกำลังนาโตจำเป็นต้องแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและความบากบั่นในขณะที่ตั้งกองกำลังอยู่ในลิทัวเนีย [NTV] [Twitter] (mo/mb/gc, transl. by aa)
คณะกรรมาธิการยุโรปเสนอหลักเกณฑ์เพื่อปกป้องเสรีภาพสื่อ ผู้บริหารของสหภาพยุโรปเผยแพร่ข้อเสนอสำหรับกฎหมายที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อออกการคุ้มครองความเป็นอิสระด้านบรรณาธิการ (editorial independence) และพหุนิยมในสื่อ (media pluralism) ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวออกมาในช่วงเวลาที่เสรีภาพสื่อในยุโรปเผชิญกับการคุกคาม ทั้งนี้ พระราชบัญญัติเสรีภาพสื่อแห่งสหภาพยุโรป (European Media Freedom Act) ที่เสนอโดยคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) เป็นส่วนหนึ่งของแผนปฏิบัติการเพื่อประชาธิปไตยยุโรป (Action Plan for European Democracy) ของผู้บริหารสหภาพยุโรปที่ประกาศออกมาในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2020 [European Commission] หากกฎหมายดังกล่าวผ่าน อาจห้ามไม่ให้รัฐบาลเข้าไปแทรกแซงความเป็นอิสระด้านบรรณาธิการของผู้ให้บริการสื่อ รวมทั้งหน่วยงานรัฐอาจต้องรับประกันว่ากองทุนสาธารณะ ซึ่งประกอบด้วยการโฆษณาที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐ จะได้รับการจัดสรรตามขั้นตอนที่โปร่งใสและเป็นไปตามวัตถุประสงค์ กฎหมายที่เสนอนี้ของคณะกรรมาธิการฯ ยังกำหนดให้รัฐบาลติดตั้งระบบวัดเรตติ้งผู้ชม โดยอาจใช้การจัดสรรงบประมาณข้างต้น และยังมอบหน้าที่ให้คณะกรรมาธิการฯ เฝ้าติดตามตลาดสื่อ (media market) เป็นประจำทุกปี [Euractiv] [European Commission 1] ตามการรายงานของสำนักข่าว Politico ร่างระเบียบข้อบังคับของคณะกรรมาธิการฯ นี้ เป็นการตอบโต้การคุกคามต่อเสรีภาพสื่อที่เพิ่มขึ้นทั่วสหภาพยุโรป ยกตัวอย่างเช่น รัฐสมาชิก อาทิ ฮังการีและโปแลนด์ควบคุมสื่อเข้มข้นขึ้น ขณะที่ผู้สื่อข่าวในประเทศอย่างกรีซ มอลตา และสโลวีเนีย กล่าวว่าพวกเขาทำงานภายใต้แรงกดดันจากรัฐบาล [Politico] ‘ไม่ควรมีสื่อสาธารณะใดกลายเป็นช่องทางโฆษณาชวนเชื่อ’ Vera Jourova รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรปด้านคุณค่าและความโปร่งใส กล่าวว่ามัน “ถึงเวลาแล้วที่ต้องทำอะไรบางอย่าง” เธอเสริมว่า “ไม่ควรมีสื่อสาธารณะใดกลายเป็นช่องทางโฆษณาชวนเชื่อ นี่เป็นสิ่งที่เรากำลังเสนอ… เป็นครั้งแรก” ด้าน Thierry Breton ข้าหลวงใหญ่แห่งสหภาพยุโรปเพื่อตลาดภายใน (EU Commissioner for the Internal Market) กล่าวว่าบริษัทสื่อมีบทบาทที่สำคัญยิ่ง แต่กลับกำลังเผชิญกับรายได้ที่ลดลง การคุกคามเสรีภาพสื่อและพหุนิยมในสื่อ การเกิดขึ้นของแพลตฟอร์มออนไลน์ขนาดใหญ่ และการปะติดปะต่อของหลักเกณฑ์ระดับชาติที่แตกต่างกัน เขาเสริมว่าพระราชบัญญัติเสรีภาพสื่อแห่งสหภาพยุโรปจะ “มอบการคุ้มครองร่วมกันในระดับสหภาพยุโรป เพื่อรับประกันความหลากหลายของความคิดเห็น และรับประกันว่าสื่อของเราสามารถดำเนินการได้โดยปราศจากการแทรกแซง ไม่ว่าจะในพื้นที่ส่วนตัวหรือสาธารณะ” [European Commission 2] ขณะนี้ รัฐสภายุโรป (European Parliament) ยังต้องลงคะแนนเสียงรับรองหลักเกณฑ์ที่ได้รับการเสนอโดยคณะกรรมาธิการฯ เพื่อให้หลักเกณฑ์ดังกล่าวสามารถใช้ได้ทั่วยุโรป (acn/pk, transl. by aa)
สหภาพยุโรปพยายามที่จะยุติการมอบเงินสนับสนุนจากกองทุนให้แก่ฮังการี เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับประชาธิปไตย คณะกรรมาธิการยุโรปเรียกร้องให้ยุติการมอบเงินราว 7.5 พันล้านยูโร จากกองทุนสหภาพยุโรปที่ตั้งขึ้นมาเพื่อมอบให้ฮังการี เพราะเห็นถึงความล้มเหลวของรัฐบาลฮังการีในการยืนหยัดเพื่อหลักนิติธรรม (rule of law) และการรับรองว่าเงินนี้จะไม่ถูกใช้ไปในทางที่ผิด [Euronews] [Reuters] ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 กันยายน ผู้บริหารของสหภาพยุโรปออกมาแสดงความเห็นชอบกับการใช้สิ่งที่เรียกว่ากลไกการกำหนดเงื่อนไข (conditionality mechanism) ซึ่งเป็นการดำเนินการของสหภาพยุโรปที่ไม่เคยมีมาก่อน ท่ามกลางความกังวลว่ารัฐบาลฮังการีล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันที่เกิดขึ้นในกลุ่มผู้นำระดับสูงของรัฐบาล โดยกลไกดังกล่าวเชื่อมโยงกับการการจ่ายเงินของสหภาพยุโรปเพื่อรักษามาตรฐานประชาธิปไตยในรัฐสมาชิกสหภาพยุโรป Johannes Hahn ข้าหลวงใหญ่แห่งสหภาพยุโรปด้านงบประมาณกล่าวว่า การตัดสินใจนี้เป็น “การพิสูจน์ให้เห็นมติของคณะกรรมาธิการยุโรปที่ชัดเจนในการปกป้องงบประมาณของสหภาพยุโรป และในการใช้เครื่องมือทั้งหมดที่เรามีเพื่อรับรองวัตถุประสงค์ที่สำคัญนี้” ‘เผด็จการทางการเลือกตั้ง’ ในขณะที่ สมาชิกของรัฐสภายุโรประบุว่าสถานการณ์ทางการเมืองในฮังการีได้ทำให้ประเทศเสื่อมถอยลงจนกลายเป็นประเทศ “เผด็จการทางการเลือกตั้ง” (electoral autocracy) ในรายงานที่ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย สมาชิกรัฐสภายุโรปประณาม “ความพยายามอันไตร่ตรองอย่างรอบคอบและอย่างเป็นระบบ” ของรัฐบาลฮังการีที่จะบ่อนทำลายคุณค่าของยุโรป และกล่าวโทษสถาบันต่าง ๆ ของสหภาพยุโรปที่ล้มเหลวในการดำเนินการต่อฮังการี รายงานที่ได้รับการรับรองเมื่อวันที่ 15 กันยายน ชี้ให้เห็นถึงความกังวลหลักเกี่ยวกับความเป็นอิสระของตุลาการฮังการี คอร์รัปชัน และระบบการเลือกตั้งของฮังการี ขณะเดียวกันก็แสดงความกังวลเกี่ยวกับสิทธิของชนกลุ่มน้อยด้วย [European Parliament] สำหรับการระงับกองทุนของฮังการีชั่วคราวตามข้อเรียกร้องของคณะกรรมาธิการฯ นั้น จะต้องได้รับการสนับสนุนโดยเสียงส่วนใหญ่ที่มีคุณสมบัติอยู่ในคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป (Council of the European Union) อย่างน้อยร้อยละ 55 ของรัฐสมาชิก ซึ่งคิดเป็นอย่างน้อยร้อยละ 65 ของประชากรสหภาพยุโรป ทั้งนี้ รัฐสมาชิกมีเวลา 4 สัปดาห์เพื่อตัดสินใจว่าจะรับรองข้อเสนอของคณะกรรมาธิการฯ หรือไม่ อย่างไรก็ดี กรอบเวลาในการตัดสินใจสามารถขยายออกไปได้อีก 2 เดือน [Politico] ข้อเรียกร้องเพื่อให้ดำเนินการบางอย่างกับฮังการีของผู้บริหารสหภาพยุโรป เกิดขึ้นหลังจากสหภาพยุโรปเปิดใช้กลไกการจัดสรรเงินทุนตามหลักนิติธรรม (cash-for-rule-of-law mechanism) ต่อรัฐบาลฮังการีในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่สหภาพยุโรปใช้อำนาจที่ได้รับมาเมื่อเดือนมกราคม ค.ศ. 2021 [Europe in Review May 2022] ที่ว่างสำหรับการประนีประนอม ขณะเดียวกัน คณะกรรมาธิการฯ ก็เปิดประตูสู่การประนีประนอมที่อาจเป็นไปได้ ซึ่งอาจอนุญาตให้รัฐบาลฮังการีสามารถเข้าถึงกองทุนของสหภาพยุโรปได้ต่อไป หากฮังการีเสนอมาตรการเยียวยา [Politico] ด้าน Tibor Navracsics รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาแห่งฮังการี กล่าวว่าฮังการีจะปฏิบัติตามพันธกรณีทั้งหมด 17 ประการ ที่ได้ให้ไว้กับผู้บริหารของสหภาพยุโรป เพื่อป้องกันการสูญเสียกองทุนดังกล่าว โดยหนึ่งวันหลังจากที่คณะกรรมาธิการฯ เสนอการระงับการมอบเงินให้ฮังการีชั่วคราว รัฐบาลฮังการีก็ได้ส่งร่างกฎหมายต่อต้านคอร์รัปชันหลายฉบับชุดแรกเข้าสู่รัฐสภา [Reuters] อย่างไรก็ดี รัฐบาลฮังการีปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าประเทศเผชิญกับการถดถอยของประชาธิปไตย (democratic backsliding) ภายใต้การบริหารของ Viktor Orban นายกรัฐมนตรีชาตินิยม ซึ่ง Orban นั้น ได้ปะทะกับสหภาพยุโรปซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้านนักวิจารณ์แสดงความกังวลเกี่ยวกับการประมูลโครงการต่าง ๆ ในฮังการีที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากสหภาพยุโรป โดยโครงการเหล่านั้นบ่อยครั้งที่เกี่ยวพันกับผู้ประมูลเพียงรายเดียว ซึ่งมีสายสัมพันธ์กับพรรครัฐบาล นอกจากนี้ สหภาพยุโรป กลุ่มประชาสังคม และองค์กรเฝ้าระวัง ต่างก็กังวลถึงระดับการควบคุมที่พรรค Fidesz ของ Orban ได้รับ เช่นเดียวกันกับการเพิ่มขึ้นของประเด็นคอร์รัปชัน เหนืออำนาจศาล สื่อ และองค์กรพัฒนาเอกชน [Politico] Orban ได้รับเลือกตั้งอีกครั้งเป็นสมัยที่ 4 ในเดือนเมษายน [Europe Monthly May 2022] นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ Mateusz Morawiecki ประเทศซึ่งถูกกล่าวหาโดยคณะกรรมาธิการยุโรปว่าละเมิดหลักการประชาธิปไตย กล่าวว่าวอร์ซอว์จะต่อต้านการเคลื่อนไหวใด ๆ ที่ "ผิดกฎหมาย" ในการระงับเงินสําหรับฮังการี โปแลนด์เป็นหนึ่งในพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของฮังการีในสหภาพยุโรป และทั้งสองประเทศได้สนับสนุนซึ่งกันและกันในข้อพิพาทกับบรัสเซลส์เกี่ยวกับหลักนิติธรรม ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศตึงเครียดจากความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดของบูดาเปสต์กับมอสโกท่ามกลางสงครามของรัสเซียในยูเครน แต่ขณะนี้วอร์ซอกําลังพยายามปรับปรุงความสัมพันธ์กับฮังการี. (ดูเรื่องราวแยกต่างหากในฉบับนี้) (pk, transl. by aa, nl)
สภายุโรปเปิดตัวการเจรจาปกติกับกองกําลังประชาธิปไตยเบลารุส คณะกรรมาธิการของคณะมนตรียุโรปจะจัดการประชุมเป็นประจํากับตัวแทนของกองกําลังฝ่ายค้านประชาธิปไตยเบลารุสเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์กับ ภาคประชาสังคมของประเทศและฝ่ายค้านที่ถูกเนรเทศ คณะกรรมาธิการรัฐมนตรีได้ระงับความสัมพันธ์ทั้งหมดกับทางการเบลารุสเนื่องจากเบลารุสสนับสนุนสงครามของรัสเซียในยูเครน, [Council of Europe] (al/gc, transl. by nl)
อาร์เมเนียต้องการให้ CSTO สนับสนุนความพยายามในการยุติความขัดแย้งกับอาเซอร์ไบจาน อาร์เมเนียต้องการองค์การสนธิสัญญาความมั่นคงร่วม (CSTO) ช่วยเจรจายุติการสู้รบกับอาเซอร์ไบจานหลังจากการต่อสู้ปะทุขึ้นในเดือนกันยายน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอาร์เมเนีย Vahe Gevorgyan หารือเมื่อวันที่ 23 กันยายนความขัดแย้งกับเลขาธิการ CSTO Stanislav Zas. อาร์เมเนียต้องการให้ CSTO ป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งทวีความรุนแรงขึ้น[PanArmenien.net] Vladimir Zainetdinov, โฆษกของ CSTO กล่าวเมื่อวันที่ 13 กันยายนว่า CSTO
ได้ดําเนินการแก้ไขปัญหาการปะทะกันเมื่อเร็ว ๆ นี้ระหว่างอาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจาน
อ้างถึงข้อตกลงที่มีอยู่ระหว่างรัสเซียอาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจาน พันเอก Anatoly Sidorov, หัวหน้าคณะเสนาธิการร่วม CSTO กล่าวเมื่อวันที่ 15 กันยายนว่าการใช้กองกําลัง CSTO ในการแก้ไขความขัดแย้งอาร์เมเนีย - อาเซอร์ไบจานนั้นเป็นไปไม่ได้ ในเดือนกันยายนการสู้รบปะทุขึ้นระหว่างสองประเทศโดยอาร์เมเนียกล่าวหาว่ากองทัพอาเซอร์ไบจานทําการโจมตีข้ามพรมแดนและการทำการโจมตีลึกเ ข้าไปในดินแดนของตน ประธานาธิบดีรัสเซีย Vladimir Putin ยังกล่าวด้วยว่ามอสโกสนับสนุนการระงับข้อพิพาทอย่างสันติของความขัดแย้งระหว่างอาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจาน "ผมอยากบอกว่าความขัดแย้งระหว่างประเทศที่ใกล้ชิดกับเราเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่ง เราขอเรียกร้องให้ทุกคนใช้ความยับยั้งชั่งใจปฏิบัติตามการหยุดยิงอย่างเคร่งครัดและปฏิบัติตามแถลงการณ์ไตรภาคีของผู้นํารัสเซียอาร์เมเ นียและอาเซอร์ไบจาน,” Putin said. [ANA] เลขาธิการสหประชาชาติ Antonio Guterres เรียกร้องให้อาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจาน "ดําเนินการทันทีเพื่อขจัดความตึงเครียดใช้ความยับยั้งชั่งใจสูงสุดและแก้ไขปัญหาที่มีอยู่ผ่านการเจรจา" และดําเนินการตามข้อตกลงก่อนหน้านี้ โฆษกของเลขาธิการสหประชาชาติกล่าว [CNBC] รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ Antony Blinken พูดคุยกับผู้นําของทั้งสองประเทศเพื่อระงับสถานการณ์ สหรัฐฯ มีทูตพิเศษในภูมิภาคนี้ Blinken กล่าวว่า “และความหวังของผมคือเราสามารถเปลี่ยนความขัดแย้งไปที่โต๊ะเจรจาและกลับไปพยายามสร้างสันติภาพ” [CNBC] 207 คนถูกฆ่า Yerevan อ้างว่าพลเมืองอาร์เมเนีย 207 คน ทั้งเจ้าหน้าที่ทหารและพลเรือนถูกสังหารและหายตัวไปจากเหตุรุนแรงในเดือนกันยายน อาร์เมเนียกล่าวหาอาเซอร์ไบจานว่าใช้อาวุธขนาดใหญ่ปืนใหญ่ระบบขีปนาวุธและโดรน นอกจากนี้ยังระบุว่ามีพลเรือนเสียชีวิต 3 ราย และไม่ทราบที่อยู่ของพลเรือนอีก 2 คน ทหารได้รับบาดเจ็บ 293 คน พลเรือน 3 คน และทหารรับใช้ 20 คนถูกจับเป็นเชลย [ARKA] “หลังจากนําวาระการสร้างสันติภาพและการเปิดการสื่อสารระดับภูมิภาคมาใช้ สาธารณรัฐอาร์เมเนียพิจารณาว่านโยบายการคุกคามและการบีบบังคับที่ดําเนินการโดยอาเซอร์ไบจานไม่สามารถยอมรับได้,” คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติกล่าวในแถลงการณ์ของสํานักข่าวของรัฐ Armenpress [MSN] สภาซึ่งนายกรัฐมนตรีอาร์เมเนียเข้าร่วมด้วย, Nikol Pashinyan ยังเน้นย้ำด้วยว่าประเทศจะปกป้อง "เอกราช อธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดน" ด้วย "วิธีการที่มีอยู่ทั้งหมด" “มีหลักฐานของกรณีของการทรมานการทําร้ายร่างกายและดังนั้นการประหารชีวิตอย่างผิดกฎหมายของทหารอาร์เมเนียที่ถูกจับหรือสังหารโดย Azeris” เขากล่าวเสริม [MSN] กระทรวงการต่างประเทศของอาเซอร์ไบจานกล่าวว่ากําลังตอบสนองต่อ "การยั่วยุขนาดใหญ่" โดยอาร์เมเนีย กระทรวงฯ กล่าวต่อไปว่ากองทหารอาร์เมเนียปลูกทุ่นระเบิดและยิงใส่ตําแหน่งทางทหารของอาเซอร์ไบจาน ทางการอาเซอร์ไบจานประกาศถึงการเสียชีวิตของทหารอย่างน้อย 80 นาย ในขณะที่ระบุว่าทหาร 282 นายได้รับบาดเจ็บระหว่างวันที่ 12 ถึง 14 กันยายน [CNBC] CSTO เป็นพันธมิตรทางทหารระหว่างรัฐบาลที่สร้างขึ้นในปี 1992 และประกอบด้วยรัสเซี ยอาร์เมเนีย เบลารุส คาซัคสถานคีร์กีซสถานและทาจิกิสถาน. [CSTO] (ad-mo/gc, transl. by nl)
กรีซประท้วงเลขาธิการนาโตเกี่ยวกับคําพูดเฉลิมฉลองแห่งชาติตุรกี นาโตแสดงความยินดีกับตุรกีในในครบรอบ 100 ปีแห่งการได้รับเอกราช โดยกล่าวในทวีตที่ถูกลบไปแล้วว่ากลุ่มทหารเข้าร่วมกับพวกเขาในการ "ฉลองชัยชนะและวันกองทัพตุรกี" กรีซประท้วงเลขาธิการนาโตโดยย้ําว่าการเฉลิมฉลอง - รําลึกถึงชัยชนะของตุรกีในสงครามกรีก - ตุรกีในปี 1922 - เป็นเครื่องเตือนใจถึง "การเผาไหม้ของ Smyrna" และการประหัตประหารของประชากรกรีกในเมืองอิซเมียร์ของตุรกีในปัจจุบัน. [Kathimerini] [Euronews] หลังจากการลบทวีต ทางการตุรกีเรียกการยินยอมของนาโตว่าเป็นสิ่งที่ "ยอมรับไม่ได้" และเรียกร้องให้นาโตอย่ายอมแพ้ต่อพฤติกรรมที่ "เห็นแก่ตัว" ของสมาชิกอื่น [Kathimerini] ท่ามกลางการถูกกล่าวหาว่าบินเกินอาณาเขตโดยทั้งสองฝ่าย ข้อพิพาทเกี่ยวกับการขุดเจาะน้ำมัน ผู้อพยพและการทหารของหมู่เกาะกรีก ประธานาธิบดีตุรกี Recep Tayyip Erdogan กล่าวว่า การที่ กรีซ "ยึดครองหมู่เกาะไม่ได้ทําให้ตุรกีตาบอด" อังการาจะ "ทําสิ่งที่จําเป็น" และ "อาจเกิดขึ้นในทันทีทันใดในคืนหนึ่ง” Erdogan กล่าว ยังไม่มีความชัดเจนว่า คําว่า "การยึดครอง" หมายถึงการเอาทหารเข้าไปประจำหมู่เกาะกรีกหรือแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงในสํานวนโวหารของตุรกีและความท้าทายต่ออํานาจอธิปไตยของกรีซ [Hurriyet] รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกรีซ Nikos Dendias กล่าวว่าเขาจะรายงาน "ภัยคุกคามล่าสุดของตุรกี" ต่อเลขาธิการนาโตและสหประชาชาติ รวมถึงสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ก่อนหน้านี้เขาได้หารือเกี่ยวกับปัญหานี้กับ Josep Borrel หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรปและผู้แทนของสหรัฐอเมริกา. [Proto Thema] (hi/gc, transl. by nl)
นายกรัฐมนตรีฮังการีกล่าวว่าสหภาพยุโรป 'ยิงตัวเองในเท้า' ด้วยการคว่ําบาตรรัสเซีย นายกรัฐมนตรีฮังการี Viktor Orban กล่าวในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 26 กันยายนว่าการคว่ําบาตรของสหภาพยุโรปต่อมอสโกได้ "ส่งผลเสียย้อนกลับ" โดยการผลักดันราคาพลังงานให้สูงขึ้น Orban, ซึ่งรัฐบาลฝ่ายขวาถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับมอสโกท่ามกลางสงครามของรัสเซียกับยูเครนโดยอ้างว่ายุโรป "ยิงตัวเองด้วยเท้า" และพลเมืองยุโรปก็ยากจนลงในขณะที่รัสเซีย "ไม่ยอมคุกเข่าลง" Orban also ประกาศว่ารัฐบาลของเขาจะจัด "การปรึกษาหารือระดับชาติ" เพื่อถามชาวฮังกาเรียนเกี่ยวกับการคว่ําบาตรของสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นกลไกที่เขาเคยใช้มาก่อนเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนในหมู่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสําหรับนโยบายที่เข้มงวดเกี่ยวกับการย้ายถิ่นฐาน [Reuters] [Euroefe/Euractiv] (msa/pk, transl. by nl)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศฮังการีพบกับรัฐมนตรีกว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียแม้ว่าจะเป็น “ความเข้าใจ”ว่าสหภาพยุโรป ไม่สนับสนุนให้ทําเช่นนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฮังการี Peter Szijjarto พบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย Sergei Lavrov เมื่อวันที่ 22 กันยายนในนิวยอร์กเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากโฆษกคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวว่าประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปมี "ความเข้าใจ" ว่าตอนนี้ "มันไม่สมเหตุสมผลเลย" ที่จะเจรจากับเจ้าหน้าที่รัสเซีย การประชุมดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ Szijjarto กล่าวในโพสต์ Facebook ว่า "สันติภาพต้องมีการเจรจา การเจรจาต้องมีการเจรจา" [Euronews] ฮังการีซึ่งเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความสัมพันธ์ฉันมิตรกับเครมลินในช่วงเวลาที่รัสเซียกําลังทําสงครามนองเลือดในยูเ ครน Szijjarto and Lavrov กล่าวถึงการจัดส่งก๊าซและการก่อสร้างโรงงานนิวเคลียร์ที่ถูกสร้างขึ้นในฮังการีโดยบริษัทของรัสเซีย Rosatom รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศของฮังการีกล่าวว่าผลประโยชน์ของชาติกําหนดว่าประเทศของเขาควรรักษา "ความร่วมมือที่เชื่อถือได้และคาดการณ์ได้" กับรัสเซียและด้วย Gazprom [Reuters] Szijjarto ประกาศในช่วงฤดูร้อนว่ายักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของรัสเซีย Gazprom จะให้ก๊าซมากขึ้นไปยังฮังการีในเดือนกันยายนและตุลาคม ไม่นานก่อนที่ Szijjarto และ Lavrov จะพบกัน โฆษกคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป Peter Stano บอกกับผู้สื่อข่าวว่า: “มีความเข้าใจในหมู่ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปว่าในการประชุมขั้นนี้โดยเฉพาะกับ Lavrov เช่น การพบปะกันในนิวยอร์กไม่มีประโยชน์เพราะมันจะไม่ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่จําเป็น” [Euronews] (msa/pk, transl. by nl)
ตุรกี: Erdogan ตําหนิยุโรปสําหรับอาวุธพลังงานของรัสเซีย ประธานาธิบดีตุรกี Recep Tayyip Erdogan บอกกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 6 กันยายนว่า "ยุโรปกําลังเก็บเกี่ยวสิ่งที่หว่านไว้จริง ๆ" และเรียกอาวุธของรัสเซียว่าการจัดหาพลังงานเป็นวิธีการตอบโต้ของมอสโกต่อการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก [Turkish Minute] [Alarabiya] หลังจากประเทศในยุโรปกําหนดมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเนื่องด้วยการรุกรานยูเครน ตุรกีตําหนิปัญหาพลังงานของตะวันตกว่าเกิดจากการคว่ำบาตร ในเดือนสิงหาคม, Erdogan and ประธานาธิบดีรัสเซีย Vladimir Putin พบกันใน Sochi และ ตกลงที่จะดําเนินการซื้อขายและลงทุนในก๊าซธรรมชาติต่อไป. [Turkish Minute] [Alarabiya] เมื่อตุรกีต่อต้านเพื่อนบ้านในยุโรปและไม่กําหนดมาตรการคว่ำบาตรใด ๆ ต่อรัสเซีย อังการาก็ตกลงที่จะเริ่มจ่ายค่าก๊าซธรรมชาติในเงินสกุลรูเบิล [Turkish Minute] "ผมคิดว่ายุโรปจะประสบปัญหาร้ายแรงในฤดูหนาวนี้ เราไม่มีปัญหาดังกล่าว” Erdogan said. ตุรกีจะได้รับก๊าซจากรัสเซียผ่านท่อส่งเติร์กสตรีมซึ่งไหลผ่านใต้ทะเลดํา [Alarabiya] (go/gc, transl. by nl)
Erdogan กล่าวว่าเขาต้องการให้ตุรกีเข้าร่วมองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ ประธานาธิบดีตุรกี Recep Tayyip Erdogan กล่าวว่าเขาต้องการให้ประเทศของเขาเข้าร่วมองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) ตามรายงานของสื่อ NTV และสื่ออื่น ๆ [Reuters] [Tagesshau] “ความสัมพันธ์ของเรากับประเทศเหล่านี้จะเปลี่ยนไปอยู่ในตําแหน่งที่แตกต่างกันมากหากดำเนินการด้วยขั้นตอนดังกล่าว” Erdogan กล่าว เมื่อถูกถามว่าเขาหมายถึงการเป็นสมาชิกของ SCO หรือไม่เขากล่าวว่า "แน่นอนว่านั่นคือเป้าหมาย" [Reuters] [Tagesshau] Erdogan กล่าวว่าเขาต้องการหารือเกี่ยวกับการเป็นสมาชิกในการประชุมของกลุ่มในอินเดียในปีหน้า จนถึงขณะนี้ตุรกีได้รับสถานะผู้สังเกตการณ์เท่านั้นและได้รับการจัดลำดับเป็นพันธมิตรร่วมเจรจาโดย SCO Erdogan กล่าวว่าตุรกีมีความเชื่อมโยง "ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม" กับทวีปเอเชียและในกรณีของการภาคยานุวัติจะทําให้ประเทศเป็นสมาชิกแรกที่เป็นส่วนหนึ่งขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือด้วย (go/gc, transl. by nl)
องค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้อนุมัติการภาคยานุวัติเบลารุส องค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) ประกาศเมื่อวันที่ 16 กันยายนว่าได้อนุมัติการเข้าเป็นสมาชิกภาพของเบลารุสอย่างเป็นเอกฉันท์และจะเริ่มขั้นตอนการภาคยานุวัติหลังจากประธานาธิบดี Aleksandr Lukashenko ของเบลารุสเข้าร่วมการประชุมสุดยอด SCO ในปีนี้ใน Samarkand, Uzbekistan. [AKIpress] [Belta] [Belarus] ก่อนหน้านี้เบลารุสเคยดํารงตําแหน่งหุ้นส่วนการเจรจาตั้งแต่ปี 2010 ถึง 2015 และเป็นผู้สังเกตการณ์ตั้งแต่ปี 2015 แต่ไม่มีสิทธิ์ออกเสียงลงคะแนนในกระบวนการตัดสินใจในช่วงเวลานั้น [SCO] [Belta] เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศ Igor Bely กล่าวว่าด้วยการเข้าเป็นสมาชิกที่ประสบความสําเร็จ ในไม่ช้าเบลารุสจะสามารถเข้าถึงโครงการและข้อตกลงเพื่อเพิ่มความร่วมมือระหว่างประเทศทั่วทั้งดินแดนยูเรเชีย เขาเสริมว่าในขณะที่เบลารุสจะได้รับประโยชน์จากกรอบสัญญาของ SCO แต่ประเทศสมาชิกอื่น ๆ ก็จะได้รับประโยชน์จากความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการเกษตรของเบลารุสเช่นกัน [Belta] [Belarus] เอกอัครราชทูตรัสเซียประจําเบลารุส Boris Gryzlov กล่าวในแถลงการณ์ว่ารัสเซียได้สนับสนุนความทะเยอทะยานในการเป็นสมาชิกของเบลารุสอย่างเต็มที่ โดยเสริมว่า "เบลารุสจะมีส่วนช่วยอย่างมากในการบรรลุเป้าหมายที่กําหนดไว้ต่อหน้าองค์กร” [Belta] (mo/gc, transl. by nl)
กรีซ: ฝรั่งเศสยืนยันการสนับสนุนในกรณีที่มีความขัดแย้งทางอาวุธกับตุรกี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของฝรั่งเศส Catherine Colonna แสดงความกังวลของฝรั่งเศสต่อสถานการณ์ระหว่างกรีซและตุรกี และยืนยันอีกครั้งว่าลําดับความสําคัญของประเทศคือการลดความรุนแรงและความสัมพันธ์ที่มั่นคง เธอแสดงความคิดเห็นระหว่างการเยือนกรีซอย่างเป็นทางการ เมื่อถูกถามว่าจุดยืนของฝรั่งเศสจะเป็นอย่างไรในกรณีที่เกิดความขัดแย้งทางอาวุธ Colonna กล่าวว่าฝรั่งเศสจะปฏิบัติตามข้อตกลงความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ที่ลงนามก่อนหน้านี้กับกรีซ ซึ่งจะรวมถึงการป้องกันร่วมกัน [Kathimerini] ประธานาธิบดีประเทศฝรั่งเศส Emmanuel Macron ประณาม "การยั่วยุของตุรกี" และแสดงความเชื่อของเขาว่าความร่วมมือระหว่างฝรั่งเศสกับกรีก "จะไม่อนุญาตให้เกิดความไม่สงบในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก" เขาแสดงความคิดเห็นหลังจากพบกับนายกรัฐมนตรีกรีซ Kyriakos Mitsotakis [Greek Reporter] (hi/gc)
นักสู้รัฐอิสลามเดนมาร์กถูกตัดสินจําคุก 14 ปี ชาวเดนมาร์กที่เกิดในเลบานอนซึ่งออกจากเดนมาร์กเพื่อต่อสู้เพื่อสิ่งที่เรียกว่ารัฐอิสลามในปี 2013 ได้รับโทษจําคุก 14 ปีโดยศาลโคเปนเฮเกนในข้อหากบฏหลังจากกลับมาจากซีเรีย Jacob El Ali อายุ 33 ปี เป็นพลเมืองเดนมาร์กคนแรกที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานเข้าร่วมกลุ่มก่อการร้าย เขาสารภาพผิด แต่อ้างว่ามีปัญหาทางจิต El Ali ได้มุ่งหน้าไปยังซีเรียหลังจากดูภาพจากประเทศที่ถูกทําลายจากสงคราม เขาบอกว่าเขาอยากสู้ Bashir Al-Assad เผด็จการซีเรีย หลังจากที่เขามาถึงเขาเริ่มฝึกฝนและดําเนินการกับกลุ่มญิฮาดขนาดเล็กก่อนที่จะเข้าร่วมกองกําลังรัฐอิสลามในที่สุด ภาพที่แสดง El Ali โพสท่ากับศพหัวขาดและอวดเครื่องแบบรัฐอิสลามของเขา อย่างไรก็ตามเขายืนยันว่าเขาไม่ได้มีส่วนร่วมในฆ่า ในปี 2017, El Ali จัดการเพื่อช่วยภรรยาและลูกสาวของเขาหลบหนีดินแดนที่ควบคุมโดยกลุ่มติดอาวุธอิสลามและหนีไปตุรกี แต่ไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ด้วยตัวเองเขาเสนอตัวเองให้กับทางการเดนมาร์กผ่านทนายความของเขา ในที่สุดเขาก็ถูกจับกุมในปี 2019 ทนายของเขา Mette Grith-Stage กล่าวในแถลงการณ์ “ผมยอมรับว่า [กรณี] เป็นบ้าร้ายแรงและที่ลูกความของฉันจะต้องถูกลงโทษอย่างรุนแรง [...] แต่ศาลจะต้องประเมินสถานการณ์โดยรอบสิ่งที่ลูกค้าของฉันได้ทํา” [NyhederTV2] ทนายจําเลยของ El Ali ได้พยายามที่ขอให้ลดโทษเพื่อสะท้อนความจริงที่ว่าเขาเข้ามอบตัวกับทางการ ในขณะที่อัยการต้องการโทษจําคุก 16 ปี [dr.dk] รัฐอิสลามมีชื่อเสียงในปี 2014 หลังจากชัยชนะในสนามรบในอิรักและซีเรียติดต่อกันอย่างรวดเร็วทําให้กลุ่มนี้ควบคุมดินแดนของประเทศเหล่านั้นได้ นอกจากนี้ยังได้รับความอับอายขายหน้าจากการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในยุโรป รวมถึงการสังหารหมู่ที่บาตาแคลนในปี 2015 ในปารีสซึ่งทําให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 90 คน และสําหรับการประหารชีวิตผู้ที่ไม่ใช่ชาวมุสลิมและฝ่ายตรงข้ามอย่างโหดเหี้ยม (cg/pk, transl. by nl)
ธนาคารเบลารุสหันไปใช้ทางเลือกของจีนแทนระบบ SWIFT รองนายกรัฐมนตรีคนแรกของเบลารุส, Nikolai Snopkov กล่าวเมื่อวันที่ 6 กันยายนว่าธนาคารเบลารุสจะเชื่อมต่อกับระบบการชําระเงินข้ามพรมแดนระหว่างธนาคารที่ดําเนินการโดยสาธารณรัฐประชาชนจีนในไม่ช้. [Belta] Snopkov กล่าวว่าระบบการชําระเงินข้ามพรมแดนระหว่างธนาคารถูกมองว่าเป็นทางเลือกแทน SWIFT ซึ่งเบลารุสถูกตัดขาดจากระบบดังกล่าว ในขณะที่ Belarusbank เป็นสถาบันทางการเงินแรกที่เชื่อมโยงภายใต้ระบบใหม่ และสถาบันการเงินอื่น ๆ จะดำเนินการตามมาในไม่ช้า เขาเสริม [Belta] ธนาคารเบลารุสถูกตัดขาดจาก SWIFT เนื่องจากการคว่ําบาตรของตะวันตกที่ประกาศใช้ในเดือนมีนาคมเนื่องจากเบลารุสมีส่วนร่วมในสงครามในยูเครน [Interfax] [Russia Briefing] [European Commission] (mo/gc, transl. by nl) Contributors and editorial team: Anastasiya Drobava (ad), Ann-Charlotte Neumann (acn), Antonia Lawrenz (al), Christopher James Godwin (cg), Eric Kliszcz (ek), Federica Sansò (fs) Giulia Taraborrelli (gt), Gizem Öztürk (gö), Glen Carey (gc), Harry Ioannou (hi), Henning Glaser (hg), Jan Vogelgesang (jv), Katherine Mansfield (km), Ketevan Esaiashvili (ke), Khalid El Kebir (kk), Maria Rusu (mr), Maria Simon Arboleas (msa) Marlene Busch (mb), Maximilian Ohle (mo), Peter Kononczuk (pk), Quentin Vidberg (qv), Rex Wempen (rw), Venus Phuangkom, Viktoria Styková (vs), Warren O'Broin (wb)
Translators: Tomwit Jarnson (tj), Natthanicha Lephilibert (nl), Aekpaween Anuson (aa), Vachiravan Vanlaeiad (vv), Pattariya Hansawong (ph) เราจะขอบคุณมากสำหรับความคิดเห็นของคุณ! โปรดส่งความคิดเห็นใดๆ ที่คุณมีเกี่ยวกับจดหมายข่าวนี้ไปที่ : info@cpg-online.de นอกจากนี้ อย่าลืมกด Like CPG บน Facebook และเยี่ยมชม เว็บไซต์ ของเราสำหรับการอัปเดตข้อมูลข่าวสารอื่นๆ
|