คว้าข่าวสาร อ่านเทรนด์ยุโรป

ฉบับที่ 5, พฤษภาคม 2565

 

ส่งข่าวสารถึงคุณโดย CPG

สนับสนุน​โดย KAS

 

เรียน ท่านผู้อ่าน 

เนื่องจากยูเครนที่เหมือนกำลังจะเสียเปรียบเพิ่มมากขึ้นทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ พวกเราจึงได้นำข่าวสารและพัฒนาการล่าสุดเกี่ยวกับสงครามยูเครนมานำเสนอท่าน ซึ่งขณะนี้ดูเหมือนว่ารัสเซียจะได้เปรียบในสงคราม โดยมีผู้บัญชาการกองทัพคนใหม่ที่มีชื่อเสียงน่าเกรงขามเข้ามานำทัพ

สำหรับประเด็นต่าง ๆ ที่เราหยิบยกขึ้นมานั้น เป็นพัฒนาการสำคัญที่เกิดขึ้นในทวีปยุโรป อาทิ เศรษฐกิจรัสเซีย การเลือกตั้งในฝรั่งเศส ฮังการี และสโลวีเนีย คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญที่น่าสนใจ 2 คดี ในเยอรมนีและอิตาลีตามลำดับ คดีความต่อพรรคฝ่ายค้านหลักในตุรกี หลักเกณฑ์ใหม่ว่าด้วยการใช้จ่ายงบประมาณของกษัตริย์สเปน และอื่น ๆ อีกจำนวนมาก

ท่านสามารถลงทะเบียนขอรับวารสารฉบับเต็ม Europe in Review ฉบับภาษาอังกฤษได้ และหากท่านต้องการที่จะได้รับข่าวสารเกี่ยวกับทุกสิ่งที่กำลังดำเนินไปในการเมืองภายใน ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ภูมิรัฐศาสตร์ และการบริหารการปกครองในเอเชีย ท่านก็สามารถลงทะเบียนขอรับวารสาร Asia in Review ได้เช่นเดียวกัน

เราหวังว่าท่านจะเพลิดเพลินกับการอ่านที่น่าสนใจนี้

Peter Kononczuk

รองบรรณาธิการบริหาร

 

เว็บไซต์: https://www.cpg-online.de, เฟซบุ๊ก: https://www.facebook.com/CPGTU

(transl. by aa)

 

Main Sections

  • สหภาพยุโรป ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและภูมิรัฐศาสตร์

  • กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปตะวันตกและยุโรปเหนือ

  • กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปตะวันออกและยุโรปกลาง

  • กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปใต้และยุโรปตะวันออกเฉียงใต้

 

สหภาพยุโรป ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและภูมิรัฐศาสตร์

 
 

รัสเซียเน้นการทำสงครามไปที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน ด้านสหรัฐอเมริกาให้คำมั่นว่าจะช่วยรัฐบาลยูเครนอย่างเต็มที่

ชาวยูเครนได้ตั้งแนวรับป้องกันขึ้นมาทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ทำให้กองทัพรัสเซียที่เข้ามารุกรานบริเวณนั้นต้องจัดทัพใหม่ ทั้งนี้ บริเวณดังกล่าวเป็นบริเวณที่มีการกระหน่ำยิงและการโจมตีด้วยขีปนาวุธ ซึ่งทำให้หลายเมืองเสียหายและคร่าชีวิตประชาชนไปแล้วหลายพันคน พันธมิตรตะวันตกต่างก็ให้คำมั่นว่าจะเพิ่มอาวุธไปยังคลังอาวุธของยูเครนเป็นจำนวนมหาศาล เพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจเป็นการตัดสินอนาคตของประเทศยูเครน การสนับสนุนอาวุธให้ยูเครนนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความหวาดกลัวว่าความขัดแย้งครั้งอาจขยายวงกว้างออกไปสู่ยุโรป [CBS News] [BBC] และในขณะนี้ ไซเรนโจมตีทางอากาศก็กลายเป็นเสียงคร่ำครวญอย่างไม่หยุดหย่อนทางด้านตะวันออกของยูเครนซึ่งเกิดขึ้นขณะที่รัสเซียเพิ่มการโจมตี ทั้งนี้ เมือง Mariupol ซึ่งเป็นเมืองท่าที่สำคัญทางตอนใต้ ยังคงเป็นเป้าโจมตีหลักของรัสเซียตั้งแต่การรุกรานยูเครนเริ่มต้นขึ้น เพราะหากรัสเซียครอบครองเมือง Mariupol ได้ รัสเซียก็จะสามารถเชื่อมไครเมียที่ถูกผนวกรวมเข้ากับรัสเซียไว้ก่อนแล้ว กับพื้นที่ทางตอนใต้ของยูเครนที่รัฐบาลรัสเซียควบคุมได้ด้วย [Europe Monthly April 2022]

รัสเซียอ้างว่าได้เข้ายึดเมือง Mariupol ในสัปดาห์ที่ 8 ของสงคราม อย่างไรก็ดี ทหารยูเครนหลายร้อยนายยังคงต่อต้านการรุกรานของรัสเซียด้วยการออกไปทำงานที่โรงงานเหล็กในเมืองตามปกติ ต่อมาทหารยูเครนนายหนึ่งได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เมือง Mariupol อยู่ “ในจุดที่ใกล้จะล่มสลาย” [CNBC] [AP] [Al Jazeera] เส้นทางหลบหนีออกจากเมือง Mariupol ถูกกำหนดขึ้นเมื่อวันที่ 29 เมษายน สำหรับพลเรือนหลายร้อยคนที่หลบภัยอยู่ในอุโมงค์ใต้ดิน ซึ่งประธานาธิบดีรัสเซีย Vladimir Putin ได้ออกมากล่าวก่อนหน้านั้น 2 วันว่า เขาเห็นด้วย “ตามหลักการ” ที่จะอนุญาตให้มีระเบียงทางมนุษยธรรมนี้ (humanitarian corridor) แต่พลเรือนราว 100,000 คน ก็ยังอยู่ในเมือง Mariupol [Sky News] [Reuters] [Sky News] [Euractiv] [AP] ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 เมษายน รัสเซียยึดเมือง Kremmina เป็นเมืองแรกในภูมิภาค Donbas ได้ และต่อมาในวันที่ 26 เมษายน กองทัพรัสเซียก็ได้ครอบครองเมือง Kherson เมืองทางตะวันออกเฉียงใต้ไว้ได้ [Republic World] [The Guardian] [Republic World] [BBC]

นอกจากนี้ Michael Carpenter เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (Organization for Security and Co-operation in Europe: OSCE) ออกมากล่าวว่า รัสเซียเตรียมที่จะผนวกภูมิภาค Luhansk และ Donetsk ด้านตะวันออกรวมเข้ากับรัสเซียในช่วงกลางพฤษภาคม Carpenter ยังบอกเป็นนัยอีกว่ารัสเซียอาจกำลังวางแผนที่จะจัดทำประชามติแยกเมือง Kherson ออกเป็นเอกราช [Republic World] กองทัพรัสเซียถูกกล่าวหาว่าได้กระทำการ “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” (genocide) ตั้งแต่การถอนกองกำลังออกจากภาคเหนือของยูเครน ในเมือง Bucha ซึ่งเป็นเมืองใกล้กับกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ประจักษ์พยานหลายรายได้ออกมาให้รายละเอียดว่ามีเหยื่อถูกข่มขืนและถูกลักพาตัวไปจนถึงมีหลุมฝังศพที่เพิ่มสูงขึ้นมาก รวมทั้งศพมากมายกองเกลื่อนกลาดอยู่บนท้องถนน การสังหารหมู่ที่เกิดขึ้นในเมือง Bucha นี้ ได้กระตุ้นความโกรธเคืองให้เกิดขึ้นในระดับระหว่างประเทศ และการสืบสวนการก่ออาชญากรรมสงครามโดยยูเครนก็ได้เกิดขึ้นเช่นเดียวกัน [BBC] [NBC News] [CNN]

ตามรายงานของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (United Nations High Commissioner for Refugees: UNHCR) ประชาชนมากกว่า 5.4 ล้านคน ได้ลี้ภัยออกมาจากยูเครนแล้วในขณะนี้ โดยสหประชาชาติบันทึกว่ามีพลเรือนกว่า 2,700 คน ประกอบด้วยเด็กมากกว่า 200 คน เสียชีวิตตั้งแต่เกิดสงคราม ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหราชอาณาจักรออกมาประเมินว่ามีทหารรัสเซียราว 15,000 นาย ถูกฆ่านับตั้งแต่การรุกรานเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ และประธานาธิบดียูเครน Volodymyr Zelensky เผยว่านักรบยูเครนราว 3,000 คน ได้เสียชีวิตแล้วจากสงครามครั้งนี้ [Al Jazeera] [Forbes] [CNN] ส่วนประธานาธิบดีสหรัฐฯ Joe Biden ออกมาให้คำมั่นเมื่อวันที่ 26 เมษายน ว่าพันธมิตรตะวันตกจะ “พยายามอย่างสุดความสามารถ” ที่จะส่งอาวุธไปยังยูเครนต่อไป และในวันที่ 28 เมษายน Biden ได้ของบประมาณ 33 พันล้านดอลลาร์สหรัฐกับสภาคองเกรสเพื่อสนับสนุนรัฐบาลยูเครน โดยจำนวนเงิน 20 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจะนำไปช่วยเหลือทางการทหาร [Al Jazeera] [Reuters]

เมื่อวันที่ 27 เมษายน เยอรมนีก็ได้ออกมาตอบสนองต่อข้อเรียกร้องที่ว่ารัฐบาลเยอรมันไม่เต็มใจที่จะส่งอาวุธหนักไปยังยูเครน โดยการประกาศว่าเยอรมนีจะจัดหารถยานเกราะรุ่น “Gepard” ให้กับรัฐบาลยูเครน ด้านประธานาธิบดีฝรั่งเศส Emmanuel Macron ได้ให้สัญญาว่าฝรั่งเศสจะจัดหาปืนใหญ่พิสัยไกล หรือ howitzer ให้แก่ยูเครนเช่นเดียวกัน [Ukrinform] [Al Jazeera] รัฐบาลสหรัฐฯ หวังว่ายูเครนจะไม่ใช้คลังอาวุธดังกล่าวเพียงเพื่อป้องกันการโจมตีของรัสเซียเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้คลังอาวุธนี้ในการสร้างความเสียหายมากเพียงพอต่อรัสเซียเพื่อป้องกันไม่ให้รัฐบาลรัสเซียดำเนินการทางทหารใดๆ ที่มากเกินกว่าขอบเขตของประเทศยูเครน [Reuters] และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ Lloyd Austin กล่าวเมื่อวันที่ 26 เมษายน ที่การประชุมกลาโหมในเยอรมนีว่า “เราเชื่อว่า พวกเขา [ยูเครน] สามารถชนะได้ หากพวกเขามีอาวุธที่เหมาะสม การสนับสนุนที่เหมาะสม” [AP]

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย Sergei Lavrov ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า การสนับสนุนทางการทหารที่หลั่งไหลเข้ายูเครนนี้ หมายความว่ารัสเซียอยู่ “ในจุดสำคัญ” ของการทำสงครามกับองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (North Atlantic Treaty Organization: NATO) [New York Post] ขณะที่ Putin กล่าวว่า “หากผู้ใดก็ตามตัดสินใจที่จะเข้ามาแทรกแซงในความขัดที่แย้งที่กำลังดำเนินอยู่นี้ และสร้างภัยคุกคามเชิงยุทธศาสตร์ที่รัสเซียไม่อาจยอมรับได้ พวกเขาต้องได้รู้ถึงการโต้ตอบที่รวดเร็วปานสายฟ้าแลบของเรา เรามียุทโธปกรณ์พร้อมสรรพสำหรับการโต้กลับ ซึ่งไม่มีใครสามารถอวดอ้างได้ว่ามียุทโธปกรณ์ที่เหนือกว่า และเราจะใช้ยุทโธปกรณ์เหล่านี้ หากเราจำเป็นต้องใช้” [The Express] [La Nacion] Lavrov ยังได้ออกมาเตือนเมื่อวันที่ 25 เมษายนอีกว่า ตะวันตกไม่ควรประเมินความเสี่ยงที่จะเกิดความขัดแย้งทางนิวเคลียร์ในยูเครนต่ำเกินไป [Gulf News] [Reuters] [Euro News] นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 20 เมษายน Putin ได้ออกมาอวยชัยความสำเร็จในการทดสอบการยิงขีปนาวุธข้ามทวีป (intercontinental ballistic missile) อย่างไรก็ดี ขีปนาวุธรัสเซีย 2 ลูกยิงถล่มไปที่กรุงเคียฟ ในขณะที่ Antonio Guterres เลขาธิการแห่งสหประชาชาติกำลังเยือนกรุงเคียฟในวันที่ 28 เมษายน ทั้งนี้วันก่อนหน้า Guterres พบปะกับ Putin โดย Putin ได้กล่าวว่า เขายังหวังว่าการเจรจาทั้งหลายจะช่วยยุติความขัดแย้งในยูเครนได้ [Reuters] [RFE/RL] [Express]

กองทัพยูเครนออกมาแสดงความคิดเห็นว่า พวกเขาเชื่อว่ารัสเซียอาจเข้าโจมตีมอลโดวาในอนาคตอันใกล้นี้ โดยแหล่งข่าวจากกองทัพยูเครนให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ The Times ว่ามี “ข้อบ่งชี้จำนวนมาก” ว่ารัฐบาลรัสเซียอาจเข้าครอบครอง Transnistria ของมอลโดวาที่สนับสนุนอยู่ข้างรัสเซีย (pro-Russian) ซึ่ง Transnistria นี้ เป็นภูมิภาคที่แยกตัวออกมาจากมอลโดวาแต่ไม่ได้รับการยอมรับในระดับระหว่างประเทศ โดยภูมิภาคดังกล่าวมีพรมแดนติดกับด้านตะวันตกของยูเครน รัสเซียเตรียมเข้าโจมตีมอลโดวาก็เพื่อที่จะโจมตียูเครนจากทางด้านตะวันตกต่อไป และเข้ายึดครองส่วนที่เหลือของมอลโดวาในท้ายที่สุด แหล่งข่าวจากกองทัพยูเครนยังให้สัมภาษณ์กับ The Times อีกว่า “เราเชื่อว่ารัฐบาลรัสเซียได้ตัดสินใจที่จะเข้าโจมตีมอลโดวาแล้ว ชะตากรรมของมอลโดวานั้นสำคัญมาก หากกองทัพรัสเซียเริ่มควบคุมมอลโดวาได้ พวกเราจะกลายเป็นเป้าทางทหารที่ง่ายกว่าเดิม และภัยคุกคามต่อยูเครนจะปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัด” [The Times] การระเบิดที่เกิดขึ้นใน Transnistria เมื่อช่วงต้นเดือนทำให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้น กลุ่มผู้มีอำนาจด้านการบริหารการปกครองใน Transnistria ต่างกล่าวโทษว่ายูเครนได้โจมตี Transnistria ด้านกระทรวงกลาโหมยูเครนกลับเรียกการโจมตีหลายครั้งที่เกิดขึ้นใน Transnistria ว่าเป็น “การยั่วยุที่วางแผนไว้แล้ว” ของรัสเซีย [The Times] [Euro News] [Reuters] [ABC News] [Forbes] โดย Zelensky กล่าวว่า “ยุโรปทั่วทั้งทวีปคือเป้าหมายในการโจมตีของรัสเซีย” [BBC]

เมื่อวันที่ 27 เมษายน โปแลนด์และบัลแกเรีย กลายเป็นประเทศแรก ๆ ที่รัสเซียตัดการส่งก๊าซไปให้ ซึ่งการกระทำครั้งนี้ Ursula von der Leyen ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เรียกว่าเป็นการกระทำที่ “ไม่สามารถยอมรับได้” Putin เรียกร้องให้ประเทศที่ “มีท่าทีไม่เป็นมิตร” นี้ จ่ายค่านำเข้าก๊าซเป็นสกุลเงินรูเบิล ซึ่งเป็นความพยายามที่จะรับมือกับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตก ที่มีมูลค่าความเสียหายระดับทำลายล้างต่อเศรษฐกิจรัสเซีย [Al Jazeera] [Politico] อย่างไรก็ดี สหภาพยุโรปเคยออกมาเตือนว่าประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปใดก็ตามที่ยอมรับข้อเรียกร้องการชำระเงินด้วยสกุลเงินรูเบิลแก่รัสเซีย อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายได้ [FT] [Reuters] [CNN] [Euro News] [DW]

นอกจากนี้ Zelensky ยังออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเนื่องจากรัสเซียปิดล้อมท่าเรือต่าง ๆ ของยูเครน ธัญพืชของยูเครนอาจเสียหายกว่าหลายสิบล้านตันในปีนี้ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะไปกระตุ้นให้เกิดอัตราเงินเฟ้อและการขาดแคลนอาหาร โดยตามรายงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งสหราชอาณาจักร ยูเครนเป็นประเทศผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าทางการเกษตรรายใหญ่ที่สุดลำดับที่ 4 ของโลก [Sky News] [The Guardian] ด้านธนาคารโลก (World Bank) ประเมินว่ามีมูลค่าความเสียหายทางกายภาพต่อยูเครนตั้งแต่รัสเซียเริ่มต้นรุกรานยูเครนแล้วกว่า 60 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และกำลังเพิ่มขึ้นอีกเรื่อย ๆ [Reuters] [The Telegraph] [The Economist]

(ht/pk, transl. by aa)

 

Putin แต่งตั้ง “มือสังหารแห่งซีเรีย” เป็นผู้บัญชาการกองทัพรัสเซียคนใหม่ในยูเครน

Vladimir Putin ประธานาธิบดีรัสเซีย แต่งตั้งผู้บัญชาการกองทัพรัสเซียคนใหม่เพื่อนำทัพในยูเครน หลังจากสูญเสียนายพล 8 นาย และนายทหารหลายพันนายในสงคราม ซึ่งสงครามถูกทำให้ชะลอลงเนื่องจากการจัดสรรทรัพยากรที่ย่ำแย่และโครงสร้างการบังคับบัญชาการที่ยุ่งเหยิง [CNN]

Aleksandr Vladimirovich Dvornikov เกิดเมื่อเดือนสิงหาคม ปี ค.ศ. 1961 ที่เมือง Ussuriysk ทางตะวันออกไกลของรัสเซีย ได้เข้าควบคุมกองทัพรัสเซีย เพราะรัฐบาลรัสเซียกำลังเผชิญกับช่วงเวลายากลำบากในการรวมกองกำลังเข้ามาอยู่ภายใต้โครงสร้างการบังคับบัญชาเดียวกันในยูเครน ตั้งแต่เกิดสงคราม รัสเซียไม่มีผู้บัญชาการทหารสูงสุดที่ถูกกำหนดให้ปฏิบัติการทางทหารในยูเครนหรือใกล้กับยูเครนเลย [ISW] กองกำลังต่าง ๆ ของรัสเซีย ดูเหมือนจะทำหน้าที่อย่างอิสระและแยกออกจากกัน โดยไม่มีการออกแบบเชิงปฏิบัติการที่สามารถรับรู้ร่วมกันได้อย่างชัดเจน แผนการทางทหารของรัสเซียยังเต็มไปด้วยปัญหา โดยเฉพาะปัญหาด้านการสื่อสาร รวมทั้งการใช้โทรศัพท์มือถือแทนที่จะใช้เครื่องมือสื่อสารทางทหาร [CNN] งานหลักของ Dvornikov คือการบูรณาการรวมเขตทหารตะวันตก (Western Military District: WMD) และเขตทหารกลาง (Central Military District: CMD) เข้ามาอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของ Dvornikov เอง โดยการป้องกันแคว้นปกครองตนเอง Kherson จากการโจมตีกลับของยูเครน และจะบุกต่อไปยังเมือง Zaporizhzhia เมือง Dnipro และอาจเป็นเมือง Odessa และ Dvornikov ยังจำเป็นที่จะต้องตีวงล้อมรอบยูเครนตะวันออก ยึดเมือง Mariupol และชนะในเมือง Kharkiv ด้วย [ISW]

นักวิเคราะห์จากสถาบันการศึกษาสงคราม (Institute for the Study of War) ตั้งสมมติฐานว่า Dvornikov ถูกแต่งตั้งขึ้นมาเพราะระดับอาวุโสในกองทัพ และความรับผิดชอบของเขาในฐานะผู้บัญชาการเขตทหารใต้ (Southern Military District: SMD) ซึ่งปฏิบัติการอยู่ในสาธารณรัฐประชาชน Donetsk และ Luhansk ที่ประกาศตนเองเป็นอิสระจากยูเครนโดยไม่ได้รับการรับรองจากนานาประเทศ [ISW] Dvornikov ถือเป็นนายพล “ยุคโบราณ” และ “ชาตินิยมแบบที่พร้อมจะปกปักรักษาชาติด้วยเลือดเนื้อ” (blood and soil nationalist) นอกจากนี้ เขายังได้รับการฝึกฝนหลักการทางทหารแบบโซเวียต ซึ่งมองว่าการพุ่งเป้าไปที่การกวาดล้างพลเรือนเป็นวิธีการที่จะได้รับความได้เปรียบในสนามรบ Dvornikov เป็นทหารอาชีพที่เติบโตอย่างมั่นคงผ่านยศต่าง ๆ ตั้งแต่เริ่มเป็นผู้บังคับหมวดในปี ค.ศ. 1982 เขาร่วมต่อสู้ในสงครามครั้งที่สองในเชชเนีย และได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งระดับสูงหลายตำแหน่งก่อนที่จะถูกมอบหมายให้ดูแลกองทัพรัสเซียในซีเรีย [The Guardian]

Putin ส่ง Dvornikov ไปยังซีเรียเพื่อทำให้กองกำลังของระบอบรัสเซียมีเสถียรภาพ ช่วง 10 เดือนจากปี ค.ศ. 2015 – 2016 เขาเป็นผู้บัญชาการกองทัพรัสเซียในซีเรีย และได้รับสมญานามว่าเป็น “มือสังหารแห่งรัสเซีย” เพราะเขาสั่งให้ทิ้งระเบิดโดยพุ่งเป้าไปที่พลเรือนและโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญต่าง ๆ โดย Dvornikov รับผิดชอบการปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียเพื่อต่อต้านกลุ่มรัฐอิสลามทางด้านตะวันออกของซีเรีย [The Guardian] อดีตนายทหารระดับสูงของอิสราเอลที่เคยเรียนเกี่ยวกับยุทธศาสตร์และยุทธวิธีในซีเรียของ Dvornikov อย่างใกล้ชิด กล่าวว่า Dvornikov แสดงออกถึงปณิธานและประสบการณ์ทางการทหารอย่างสูงในสมรภูมิซีเรีย อย่างไรก็ดี นายทหารระดับสูงคนดังกล่าวกังขาว่า Dvornikov จะสามารถปรามกองกำลังรัสเซียในยูเครนได้หรือไม่ [Haaretz] หลังจากกลับมาจากซีเรีย Dvornikov เขียนบทความว่าด้วยความสำคัญของการมีการบังคับบัญชาแบบรวมศูนย์ในสงครามเต็มรูปแบบหรือปฏิบัติการทางการทหาร และเขายังอ้างว่าเขาได้จัดระเบียบกองกำลังซีเรียใหม่ภายใต้การบังคับบัญชาแบบรวมศูนย์นี้ นอกจากนี้ Dvornikov มุ่งความสนใจไปที่สงครามในเมือง (urban warfare) ตามที่เขามีประสบการณ์ในซีเรีย [Voenno-promyshlenny Kur’er] [ISW] นักวิจารณ์กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ของ Dvornikov ในซีเรียคือการใช้ความเหนือกว่าทางการโจมตีทางอากาศของรัสเซียเข้าไปทิ้งระเบิดที่กลางเมืองต่าง ๆ ตามอำเภอใจ เพื่อสร้างความเสียหายมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ รวมไปถึงเพื่อข่มขวัญพลเรือน และทำให้กลุ่มกบฏหวาดกลัว [Haaretz] [ISW]

ในช่วงปี ค.ศ. 2000 – 2003 Dvornikov เป็นเสนาธิการทหาร และต่อมาเป็นผู้บัญชาการกองปืนไรเฟิลที่ 19 ในสงครามครั้งที่สองในเชชเนีย โดยเขาเข้าร่วมในสนามรบ Grozny และการปฏิบัติการทางทหารอีกหลายครั้งต่อมาในเชชเนีย เขาเริ่มรับราชการทหารในปี ค.ศ. 1982 เมื่ออายุ 21 ปี ในเขตทหารตะวันออกไกล (Far Eastern Military District) ซึ่งเขาเป็นทั้งผู้บังคับหมวด ผู้บังคับกองร้อย และผู้บังคับกองพันจนกระทั่งปี ค.ศ. 1991 [ISW] [Russian Ministry of Defence] แม้ว่าเขาจะมีเส้นทางอาชีพทางทหารที่ยาวนานและเป็นดาวเด่น แต่ก็ไม่ได้พิเศษกว่านายพลคนอื่น นายพลรัสเซียจำนวนมากมีเส้นทางอาชีพเช่นเดียวกันกับเขา อาทิ 2 ผู้นำกองทัพรัสเซียในซีเรีย Alexander Zhuravlev พลเอกอาวุโสและผู้บัญชาการ WMD และ Alexander Chayko พลเอกอาวุโสและผู้บัญชาการเขตทหารตะวันออก (Eastern Military District) ซึ่งเข้ารับผิดชอบสงครามซีเรียประมาณ 2 ปี [ISW]

Aleksandr Vladimirovich Dvornikov ได้รับรางวัลเกียรติยศมากมาย ได้แก่ เหรียญเกียรติยศกองทัพสำหรับทหารที่มีผลงานดีมาก (order for military merit) และเหรียญกล้าหาญ (order of courage) ในปี ค.ศ. 1996 เหรียญเกียรติยศสำหรับทหารที่ทำคุณงามความดีต่อปิตุภูมิ (order for merit to the Fatherland) ในปี ค.ศ. 2000 รางวัลวีรบุรุษแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย (Hero of the Russian Federation) ในปี ค.ศ. 2016 และเหรียญเกียรติยศสำหรับทหารที่ทำคุณงามความดีต่อปิตุภูมิ ชั้น 3 พร้อมดาบอันทรงเกียรติ (order of merit to the Fatherland, 3rd Class with sword) ในปี ค.ศ. 2017 รวมทั้งเหรียญเกียรติยศสำหรับทหารที่ทำคุณงามความดีต่อปิตุภูมิ ชั้น 2 (order of merit to the Fatherland, 2nd Class) ในปี ค.ศ. 2021 [ISW] [Russian Ministry of Defence]

ด้านการศึกษา Dvornikov จบการศึกษาจากโรงเรียนประจำด้านการทหาร Ussuriysk Suvorov (Ussuriysk Suvorov Military School) ในปี ค.ศ. 1978 และช่วงปี ค.ศ. 1978 – 1982 เขาเข้าศึกษาที่โรงเรียนฝึกอบรมการบังคับบัญชาทางทหารระดับสูงแห่งโซเวียตสูงสุด สาธารณรัฐโซเวียตรัสเซีย ณ กรุงมอสโก (Moscow High Command Training School of the Supreme Soviet of the Russian Soviet Republic) ต่อมาในปี ค.ศ. 1991 เขาจบการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหาร Mikhail Vasilyevich Frunze (Mikhail Vasilyevich Frunze Military Academy) ซึ่งตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นโรงเรียนเตรียมทหาร 4 เหล่า แห่งสหพันธรัฐรัสเซีย (Combined Arms Academy of the Armed Forces of the Russian Federation) และในปี ค.ศ. 2005 เขาจบจากสถาบันการทหารเพื่อกองเสนาธิการแห่งกองทัพสหพันธรัฐรัสเซีย (Military Academy of the General Staff of the Armed Forces of the Russian Federation) [Ussuriyskoe SVU] [Russian Ministry of Defence] ด้านชีวิตส่วนตัว เขาสมรสกับ Irina Dvornikova และมีลูกสาว 2 คน [Defence Intelligence of the Ukrainian Ministry of Defence]

(mo/gc, transl. by aa)

 

ระเบิดใน Transnistria ทำให้เกิดความหวาดกลัวว่ารัสเซียอาจเปิดฉากสู้รบทางทหารครั้งใหม่

ระเบิด 2 ครั้งที่เกิดขึ้นใน Transnistria ช่วงปลายเมษายน ทำให้เกิดความกังวลว่ารัสเซียอาจเริ่มปฏิบัติการทางทหารในยุโรปอีกครั้งเพื่อปกป้องชุมชนที่ใช้ภาษารัสเซียเป็นภาษาพูด ซึ่งต้องการเอกราชจากรัฐบาลมอลโดวา รัสเซียกล่าวว่าการระเบิดที่เกิดขึ้นในวันที่ 25 และ 26 เมษายน ในภูมิภาคที่รัสเซียให้การสนับสนุนนั้น ถือเป็นการบุกโจมตี ด้านหน่วยงานของรัฐบาลมอลโดวาออกมายืนยันว่าพวกเขาจะวางกองกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยหวั่นเกรงว่าสงครามในยูเครนอาจจะแผ่ขยายมายังมอลโดวา และจะมีความยุ่งเหยิงตามมา [The Moscow Times] [The Wall Street Journal] ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 25 เมษายน ตำรวจท้องถิ่นประกาศว่ากระทรวงความมั่นคงแห่งชาติ (Ministry of State Security) ในเมือง Tiraspol เมืองหลวงของ Transnistria ถูกโจมตีด้วยลูกระเบิด แม้ว่าจะมีหน้าต่าง 2 – 3 บาน ถูกทำให้แตกเป็นเสี่ยง ๆ แต่ก็ไม่มีรายงานว่ามีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนกระทรวงมหาดไทยของ Transnistria ได้รายงานถึงระเบิดอีกหนึ่งครั้งในวันถัดมาที่เมือง Mayak ซึ่งห่างจากเมือง Tiraspol ไปทางเหนือประมาณ 30 ไมล์ [Deutschlandfunk] [Newsweek] [BR]

สองเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความกังวลเพิ่มมากขึ้นว่ามอลโดวาอาจจะเป็นเป้าหมายถัดไปของประธานาธิบดีรัสเซีย Putin หลังจากการเข้ารุกรานยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และเมื่อวันที่ 22 เมษายน พลตรีและรองผู้บัญชาการเขตทหารกลาง (Central Military District) ของรัสเซีย Rustam Minnekayev กล่าวว่ารัสเซียจะต้องชนะในยูเครนทางตะวันออกและทางใต้ ซึ่งจะช่วยทำให้รัสเซียเข้าถึง Transnistria ได้ โดยเขาได้อ้างว่าประชากรที่พูดภาษารัสเซียถูกกดขี่โดยหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐบาลมอลโดวา [BBC] [BR] ด้านประธานาธิบดีมอลโดวา Maia Sandu ได้ประชุมกับสภาความมั่นคงสูงสุด (Supreme Security Council) เมื่อวันที่ 26 เมษายน โดยพยายามที่จะสืบสวนหาสาเหตุของการระเบิด 2 ครั้งที่เกิดขึ้น สภาความมั่นคงสูงสุดพบว่าการระเบิดที่เกิดขึ้นนั้น เป็นความพยายามที่จะทำให้ภูมิภาคนี้มีเสถียรภาพลดลง และพยายามยั่วยุให้เกิดความขัดแย้งระหว่างมอลโดวาและ Transnistria สภาฯ ได้แนะนำให้เพิ่มการลาดตระเวนบริเวณพรมแดนและยกระดับความพร้อมในด้านโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการรักษาความปล อดภัยอื่นๆ [The Moscow Times] [Tagesspiegel] [moldpres]

นักวิเคราะห์นโยบายระหว่างประเทศประจำสถาบันการศึกษาสงคราม (Institute for the Study of War) กล่าวว่าเบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้อาจเป็นปฏิบัติการจัดฉากที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย คณะผู้แทน OSCE ประจำมอลโดวาได้อภิปรายถึงเหตุการณ์ใน Transnistria โดยคณะผู้แทนฯ เรียกร้องให้ทุกฝ่ายระงับการยกระดับเหตุการณ์ออกไป เพราะหากยกระดับก็อาจจะเป็นการบ่อนทำลายคำสั่งที่ให้มีการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งของ OSCE [moldpres] [The Moscow Times] [Tagesspiegel] [moldpres]

(mo/gc, transl. by aa)

 

มอลโดวา: รัฐบาลมอลโดวาออกมาปฏิเสธข้อกล่าวอ้างที่ว่ากองทัพรัสเซียมีการปรับกำลังพลใหม่อีกครั้งในอาณาเขตของผู้สนับสนุนการแบ่งแยกดินแดน

มอลโดวาปฏิเสธข้อกล่าวอ้างของเสนาธิการทหารยูเครนเมื่อวันที่ 1 เมษายน โดยเสนาธิการคนดังกล่าว อ้างว่ากองทัพรัสเซียได้เพิ่มกิจกรรมทางทหารใน Transnistria อย่างต่อเนื่อง [BNE] และเมื่อวันที่ 2 เมษายน กระทรวงการต่างประเทศของ Transnistria ก็ได้ออกมาแถลงเช่นเดียวกันว่ากองทัพรัสเซียไม่ได้เพิ่มกิจกรรมทางทหารใด ๆ และภูมิภาคนี้จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่เพื่อรับประกันสันติภาพและเสถียรภาพให้คงอยู่ในภูมิภาค [Transnistria] นอกจากนี้ เสนาธิการทหารยูเครนยังได้กล่าวว่ารัสเซียได้ปรับกำลังพลบางกองกำลังใหม่ในอาณาเขต Transnistria ซึ่งเขาคาดการณ์ว่ามีทหารรัสเซียประมาณ 1,500 นาย เข้าประจำการแล้ว ด้าน Anna Malyar รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมของยูเครน ออกมาให้สัมภาษณ์ว่ายูเครนจำต้องเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีทางทหารทางปีกตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นบริเวณที่ยูเครนติดกับ Transnistria [ukrinform] ทั้งนี้ Transnistria ไม่ทั้งประณามหรือรับรองสงครามของรัสเซียในยูเครนอย่างเป็นทางการ [Balkaninsight]

(mo/gc, transl. by aa)

 

รัสเซียกล่าวหาว่าโปแลนด์วางแผนพิชิตยูเครนตะวันตก

ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองต่างชาติของรัสเซียกล่าวหาว่าโปแลนด์กำลังวางแผนพิชิตยูเครนตะวันตก แต่เขาเสนอหลักฐานออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดย Sergei Naryshkin อ้างถึง “ข่าวกรองที่ได้รับจากสำนักข่าวกรองต่างชาติของรัสเซีย” (Russia’s Foreign Intelligence Service) เมื่อวันที่ 29 เมษายนว่ารัฐบาลโปแลนด์และรัฐบาลสหรัฐฯ ได้จัดทำแผนเพื่อ “กำหนดการควบคุมทางทหารและทางการเมืองที่เข้มงวดของโปแลนด์” เหนือพื้นที่ทางตะวันตกของยูเครน ซึ่งครั้งหนึ่งโปแลนด์เคยปกครอง รวมทั้งเมือง Lviv ด้วย สำนักข่าวกรองต่างชาติของรัสเซียยังได้กล่าวหารัฐบาลโปแลนด์ว่า พยายามที่จะบรรลุการสร้าง “โปแลนด์ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม” (Greater Poland) โดยเข้ายึดครองพื้นที่บางส่วนจากยูเครนที่อ่อนแอลง [Reuters] [NPR] ด้าน Sergei Klimov รองประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศของวุฒิสภารัสเซีย ก็ได้กล่าวหาว่าโปแลนด์เตรียมการรุกรานยูเครนไว้แล้วเช่นเดียวกัน [Euractiv]

โฆษกของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติโปแลนด์เรียกข้อกล่าวหาดังกล่าวว่าเป็น “คำโกหก” และกล่าวว่ารัสเซียเผยแพร่การยืนกรานดังกล่าวมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว [Reuters] ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 26 เมษายน Nikolai Patrushev เลขาธิการสภาความมั่นคงของรัสเซีย อ้างว่า “ตะวันตก” เตรียม “การแยกยูเครนออกเป็นหลายๆ รัฐ” Patrushev ถือเป็น “silovik” ซึ่งเขาเป็นสมาชิกคนหนึ่งจากกลุ่มอดีตสายลับ KGB และทหารผ่านศึกที่มีอิทธิพลอย่างมากกับประธานาธิบดีรัสเซีย Vladimir Putin [Reuters] [Moscow Times] อย่างไรก็ดี ไม่มีหลักฐานว่าโปแลนด์ที่ให้การสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครน รวมทั้งมอบรถยานเกราะรุ่น T-72 นั้น กำลังวางแผนเพื่อบุกประเทศเพื่อนบ้านทางตะวันออกอย่างยูเครน ก่อนหน้านี้โปแลนด์ได้เสนอภารกิจ “รักษาสันติภาพ” ระหว่างประเทศในยูเครน แต่หยุดแนวคิดดังกล่าวไป เพราะเผชิญการคัดค้านจากพันธมิตร NATO และยูเครนเอง [Euractiv] [Defense News]

(wb/pk, transl. by aa)

 

รัสเซียยุติการส่งก๊าซไปยังโปแลนด์ บัลแกเรีย เพราะสหภาพยุโรปโต้แย้งกันถึงมาตรการคว่ำบาตรทางพลังงานที่เข้มงวดขึ้น

รัฐบาลรัสเซียได้ตัดการจ่ายก๊าซไปยังโปแลนด์และบัลแกเรีย ซึ่งถือเป็นการตอบโต้ที่แข็งกร้าวที่สุด ณ ปัจจุบันต่อมาตรการลงโทษระหว่างประเทศที่เกิดขึ้นกับรัสเซียในกรณีสงครามยูเครน ขณะที่ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปหลายประเทศไม่เห็นด้วยกับความรุนแรงที่อาจเพิ่มขึ้นไปอีกในการคว่ำบาตรน้ำมันและก๊าซของรัสเซีย เพราะอาจส่งผลเสียอย่างร้ายแรงต่อเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปบางประเทศ บริษัท Gazprom ที่ผูกขาดการส่งมอบก๊าซของรัสเซีย อ้างว่า 2 ประเทศดังกล่าว “ขาดการชำระเงินเป็นสกุลเงินรูเบิล” จึงเป็นเหตุให้บริษัทฯ ต้องระงับการส่งก๊าซ [Reuters] ในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 27 เมษายน Ursula von der Leyen ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เรียกการแถลงของบริษัท Gazprom ว่าเป็นสิ่งที่ “ไม่ชอบธรรมและไม่สามารถยอมรับได้” และแปะป้ายให้กับการใช้ก๊าซของรัสเซียว่าเป็น “เครื่องมือสำหรับการขู่กรรโชก” (instrument of blackmail) [Reuters]

ตามรายงานของศูนย์วิจัยด้านพลังงานและอากาศสะอาด (Centre for Research on Energy and Clean Air) รัสเซียได้จัดหาก๊าซประมาณร้อยละ 40 ให้กับสหภาพยุโรป และนำเข้าน้ำมันที่ร้อยละ 25 ในปี ค.ศ. 2020 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปชำระเงินค่าน้ำมันและก๊าซให้กับรัสเซียเป็นจำนวนเงิน 45 พันล้านยูโร ตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครน [Reuters] ในทางตรงกันข้าม Josep Borrell นักการทูตชั้นนำของยุโรปออกมากล่าวเมื่อวันที่ 6 เมษายนว่า ตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น สหภาพยุโรปมอบเงินเพียง 1 พันล้านยูโรเท่านั้นในการสนับสนุนการป้องกันประเทศของยูเครน [The Guardian]

ประธานาธิบดี Vladimir Putin ลงนามในพระราชกฤษฎีกาเมื่อวันที่ 31 มีนาคมกําหนดให้ผู้ซื้อต่างประเทศต้องจ่ายค่าก๊าซรัสเซียในสกุลเงินรูเบิลแทนยูโรหรือดอลลาร์และต้องเผชิญกับการส่งมอบที่หยุดชะงักหากป ฏิเสธข้อกำหนดดังกล่าว [Europe Monthly April 2022]

พระราชกฤษฎีกาของ Putin กําหนดให้ผู้ซื้อต้องเปิดบัญชีสองบัญชีกับ Gazprombank ซึ่งเป็นธนาคารที่ไม่ได้รับการคว่ำบาตรและเป็นบริษัทในเครือเดียวกันกับผู้ให้บริการก๊าซของรัสเซีย บัญชีหนึ่งจะเป็นยูโรหรือดอลลาร์ซึ่งผู้ซื้อจะฝากเงินการชําระเงินเข้าไปและจะถูกแปลงเป็นรูเบิลเป็นบัญชีที่สอง

คณะกรรมาธิการยุโรปได้เตือน บริษัท ตางๆไม่ให้เปิดบัญชีที่สองในสกุลเงินรูเบิลและกล่าวว่าการดำเนินการดังกล่าวละเมิดมาตรการคว่ำบาตรที่มีอยู่ต่อมอสโก คณะกรรมาธิการยุโรปด้านพลังงาน Kadri Simson กล่าวว่ารัฐมนตรีพลังงานของสหภาพยุโรปทุกคนเห็นพ้องกันในที่ประชุมเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมว่าการดำเนินการเรื่องการชําระเงินของรัสเซียจะละเมิดมาตรการคว่ำบาตร [The Guardian]

คณะกรรมาธิการก่อนหน้านี้แนะนําให้เปิดบัญชีเพียงบัญชีเดียวในสกุลเงินยูโรหรือดอลลาร์ฝากเงินที่นั่นและประกาศว่าได้ดำเนินการชำระเงิน ตามภาระผูกพันในสัญญา [Politico]

สมาชิกสหภาพยุโรปพึ่งพาก๊าซรัสเซียมากที่สุดรวมถึงเบอร์ลิน เวียนนา และบูดาเปสต์ไม่เต็มใจที่จะเห็นด้วยกับการห้ามใช้ก๊าซรัสเซียในอนาคตอันใกล้ [Al Jazeera]

บัลแกเรียกําลังมองหาซัพพลายจากกรีซและตุรกีและโปแลนด์ประกาศว่ามีก๊าซเพียงพอในการจัดเก็บสําหรับครัวเรือนโดยฤดูหนาวหน้าเป็นช่วงเวลา ที่ยากที่สุดสําหรับอุตสาหกรรม. [Euronews] วอร์ซอได้วางแผนที่จะห้ามการซื้อขายน้ํามันและก๊าซรัสเซียภายในเดือนธันวาคม

นอกจากโปแลนด์แล้วรัฐบอลติกยังอุทธรณ์เป็นเวลาหลายสัปดาห์สําหรับการห้ามใช้เชื้อเพลิงของรัสเซียอย่างเต็มที่ ลิทัวเนีย เอสโตเนีย และลัตเวียหยุดการนําเข้าก๊าซของรัสเซียเมื่อวันที่ 1 เม.ย. [Euractiv] [Euronews]

ในทางกลับกันเยอรมนีจะประสบกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยหากไม่ได้รับพลังงานของรัสเซียอีกต่อไป รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ Robert Habeck เตือนในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 27 เมษายน โดยเสริมว่า บริษัทเยอรมันจะยังคงปฏิบัติตามสัญญาของพวกเขาโดยจ่ายค่าก๊าซรัสเซียเป็นสกุลเงินยูโร [Reuters]

สหภาพยุโรปเมื่อวันที่ 8 เมษายนได้อนุมัติแผนที่จะห้ามใช้ถ่านหินรัสเซียอย่างเต็มที่ภายในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นจะเป็นมาตรการหลักในการคว่ําบาตรเครมลินชุดที่ห้า [Euronews] [EC]

มาตรการคว่ำบาตรชุดที่หกรวมถึงการห้ามใช้น้ำมันกําลังถูกถกเถียงกันอยู่ในขณะนี้ แต่จะไม่ได้รับการพิจารณาจนกว่าจะมีการประชุมสุดยอดของสหภาพยุโรปในปลายเดือนพฤษภาคม หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป Borrell กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม "สหภาพยุโรป [ไม่] ไม่มีจุดยืนร่วมกันในเรื่องนี้" Borrell กล่าวกับหนังสือพิมพ์เยอรมัน Die Welt เมื่อวันที่ 25 เมษายน [Reuters]

ในตอนแรกเยอรมนีไม่เต็มใจ แต่ได้กระจายซัพพลายเออร์น้ำมัน Habeck กล่าวเมื่อวันที่ 26 เมษายนว่าเบอร์ลินจะไม่พึ่งพาน้ำมันรัสเซียอีกต่อไปเป็นระยะเวลาของ "วัน" [Euractiv] [Politico]

ขณะเดียวกัน ฮังการีคัดค้านมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันอย่างหนักแน่น และนายกรัฐมนตรี Viktor Orban ให้คํามั่นว่าจะคัดค้านการห้ามค้าน้ํามันและก๊าซ โดยกล่าวเมื่อวันที่ 6 เมษายนว่า การคว่ําบาตรการนําเข้าพลังงานของรัสเซียถือเป็น "เส้นสีแดง" ที่สามารถ "ฆ่าฮังการี" ได้ [Politico]

ประธานาธิบดี Zelensky ของยูเครนได้เรียกร้องให้สหภาพยุโรปกําหนดมาตรการคว่ําบาตรน้ํามันรัสเซียและกําหนดเส้นตายสําหรับการยุติการนําเข้าก๊าซจากประเทศรัสเซ ีย [Euronews]

(qv/pk, transl. by aa, nl)

 

ประธานาธิบดีเซอร์เบียอ้างว่าเครื่องบินนาโต้บินใกล้เที่ยวบินโดยสาร

ประธานาธิบดีเซอร์เบีย Aleksandar Vucic กล่าวเมื่อวันที่ 7 เมษายนว่า เครื่องบินขับไล่นาโต้บินใกล้เครื่องบินโดยสารแอร์เซอร์เบียภายในน่านฟ้ารัสเซียใกล้ชายแดนลัตเวีย [BalkanInsight][N1]

เขากล่าวว่าเหตุการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงแรงกดดันต่อประเทศของเขาเนื่องจากสถานะของประเทศที่เป็นกลางในการรุกรานยูเครนของรัสเซียแล ะเซอร์เบียจะขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์เครื่องบินนาโต้ [BalkanInsight][N1]

(jm/gc, transl. by nl)

 

ฟินแลนด์, สวีเดนคาดว่าจะสมัครเป็นสมาชิกนาโต้

ฟินแลนด์และสวีเดนคาดว่าจะประกาศพร้อมกันได้ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมว่าพวกเขาทั้งสองกําลังสมัครเป็นสมาชิกของนาโต้หลังจากที่ไม่จัดแนว ทหารอย่างเป็นทางการมาเป็นระยะเวลาหลายสิบปี การเคลื่อนไหวดังกล่าวจะเปลี่ยนแปลงความมั่นคงของยุโรปและกระตุ้นให้เกิดการช่มขู่ทางนิวเคลียร์โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซีย

การตัดสินใจของสองประเทศนอร์ดิกที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกนาโต จะไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญสําหรับพันธมิตรทางทหารตะวันตก แต่ยังจะนํามาซึ่งสิ่งที่ประธานาธิบดี Vladimir Putin ได้โต้แย้งมาตลอด: การขยายตัวของนาโต้ถัดจากชายแดนของรัสเซีย [Politico]

มอสโกได้เตือนสวีเดนและฟินแลนด์ซ้ำแล้วซ้ําอีกไม่ให้เข้าร่วมพันธมิตรทางทหาร  Putin เปิดตัวสิ่งที่เขาเรียกว่า "ปฏิบัติการพิเศษ" ในยูเครนส่วนหนึ่งเพื่อตอบโต้การเคลื่อนไหวของนาโต้เพื่อขยายฐานทางทหารมายังพรมแดนของรัสเซีย [Reuters]

แม้ว่าฟินแลนด์และสวีเดนจะเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดของนาโต้ ฟินแลนด์และสวีเดนไม่ได้รับประกันความช่วยเหลือจากพันธมิตรในกรณีที่มีการโจมตี หากเป็นปัญหาเป็นเวลาหลายปี ทั้งสองประเทศสามารถอยู่กับมันได้ แต่การรุกรานยูเครนของรัสเซียเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความคิดของประชาชนและบังคับให้คิดใหม่

หนังสือพิมพ์ Expressen ของสวีเดนรายงานว่าสามารถส่งใบสมัครนาโต้พร้อมกันโดยฟินแลนด์และสวีเดนในวันที่ 17 หรือ 18 พฤษภาคมที่ประธานาธิบดีฟินแลนด์ Sauli Niinisto เดินทางเยือนสตอกโฮล์ม

Foreign Policy รายงานว่าเมื่อประเทศทั้งสองเข้าร่วม ประเทศนอร์ดิกมีทรัพยากรจํานวนมาก ฟินแลนด์มีกองกําลังติดอาวุธจํานวนมากหน่วยสืบราชการลับทางทหารที่มีคุณภาพและประวัติของการปกป้องชายแดนทางบกกับรัสเซีย Foreign Policy ตั้งข้อสังเกตว่าสวีเดนจะมาที่เป็นสมาชิกนาโตพร้อมกับหนึ่งในกองทัพเรือที่ใหญ่ที่สุดในทะเลบอลติก

การเข้าเป็นสมาชิกของฟินแลนด์และสวีเดนจะทําให้พันธมิตรมีขีดความสามารถมากขึ้นในการควบคุมบอลติกและเพื่อสนับสนุนการป้องกันเอสโตเนียล ัตเวียและลิทัวเนียตาม The Strategist, เว็บไซต์วิเคราะห์ที่ดําเนินการโดยสถาบันนโยบายเชิงกลยุทธ์ของออสเตรเลียซึ่งเป็นถังความคิด

ในขณะเดียวกันพรมแดน 1,300 กม. ของฟินแลนด์กับรัสเซียเป็นปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งนาโตจะต้องพัฒนาแผนการที่น่าเชื่อถือเพื่อป้องกันมอสโก [Carnegie Endowment for International Peace]

ในฟินแลนด์ แรงสนับสนุนสมาชิกนาโต้เพิ่มขึ้นถึง 68 เปอร์เซ็นต์ภายในวันที่ 11 เมษายนเพิ่มขึ้นจากระดับก่อนหน้านี้ร้อยละ 20 ถึง 30 [Foreign Policy] นายกรัฐมนตรี Sanna Marin ของฟินแลนด์กล่าวเมื่อวันที่ 13 เมษายนว่า ประเทศของเธอจะเป็นผู้ตัดสินใจในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าว่าจะสมัครหรือไม่

อดีตนายกรัฐมนตรีฟินแลนด์ Alexander Stubb ถูกอ้างถึงโดย The Guardian ว่า: "ชาวฟินแลนด์เป็นคนมีเหตุผลและปฏิบัติจริง ประชาชนปรับความคิดเห็นของพวกเขาเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป ตอนนี้ผู้คนตระหนักว่ารัสเซียเป็นผู้รุกรานที่คาดเดาไม่ได้และโดดเดี่ยว"

สวีเดนซึ่งปกครองโดยพรรค Social Democrats ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานในการต่อต้านองค์การนาโต้ระมัดระวังมากขึ้น เมื่อเร็ว ๆ นี้เมื่อต้นเดือนมีนาคมนายกรัฐมนตรีแมกดาเลนาแอนเดอร์สันของสวีเดนปฏิเสธที่จะเข้าร่วมพันธมิตรกลาโหมตะวันตกในขณะนี้โดยกล่าวว่าการสมั ครเป็นสมาชิกในเวลานี้มีความเสี่ยงต่อเสถียรภาพในยุโรปเหนือ [Europe Monthly April 2022]

อย่างไรก็ดี สวีเดนอยู่เบื้องหลังความคิดของการเข้าร่วม จากการสํารวจความคิดเห็นประชาชนเมื่อวันที่ 25 เมษายน แสดงให้เห็นว่า ร้อยละ 47 สนับสนุนการเสนอเข้าเป็นสมาชิกนาโต้  ในขณะที่ร้อยละ 21 ต่อต้านการเข้าเป็นสมาชิก อย่างไรก็ตามร้อยละ 59 สนับสนุนให้เข้าร่วมหากฟินแลนด์เข้าร่วมด้วย [Foreign Policy]

รัสเซียเฝ้าดูและไม่มีความสุข อดีตประธานาธิบดี Dmitry Medvedev หนึ่งในพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของปูตินเตือนเมื่อเดือนที่แล้วว่าหากสวีเดนและฟินแลนด์เข้าร่วมพันธมิตรทางทหารตะวันตกมอสโกจะส่งอาวุ ธนิวเคลียร์และขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิคในคาลินินกราดที่ชายฝั่งบอลติกระหว่างโปแลนด์และลิทัวเนีย ลิทัวเนียตอบว่ารัสเซียได้เคลื่อนกำลังอาวุธนิวเคลียร์ในคาลินินกราดนานก่อนสงครามในยูเครนจะเริ่มขึ้น [Reuters]

สําหรับฟินแลนด์และสวีเดนที่จะสมัครเข้าไปสมาชิกนาโต้ สมาชิกปัจจุบันของพันธมิตรทั้ง 30 คนจะต้องเห็นด้วยและกระบวนการนั้นอาจไม่ราบรื่น ประธานาธิบดีโครเอเชีย Zoran Milanovic ซึ่งประเทศเข้าร่วมกับพันธมิตรทหารตะวันตกในปี 2009 กล่าวเมื่อวันที่ 26 เมษายนว่ารัฐสภาในซาเกร็บ "ต้องไม่ให้สัตยาบันการเข้าเป็นสมาชิกนาโต้ของประเทศใด" จนกว่าบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาจะเปลี่ยนกฎหมายการเลือกตั้ง

Milanovic เสริมว่าการเข้าเป็นสมาชิกนาโต้ของฟินแลนด์และสวีเดนเป็น "การผจญภัยที่อันตรายมาก" อย่างไรก็ตาม หลังจากตั้งคําถามข้อกังวลของชาวฟินแลนด์รั รัฐมนตรีต่างประเทศของโครเอเชียยืนยันว่าซาเกรบสนับสนุนนโยบายเปิดประตู (open-door policy) ตามคํากล่าวของฟินแลนด์ counterpart [Euractiv]

(pk, transl. by nl)

 

สหภาพยุโรปให้คํามั่นสัญญาเร่งกระบวนการสําหรับการเข้าเป็นสมาชิกของยูเครน

สหภาพยุโรปได้รับคำร้องของยูเครนสําหรับการเป็นสมาชิกอย่างเร่งด่วนเพื่อเข้าร่วมกับอีก 27 ประเทศ กับคํามั่นสัญญาที่จะชั่งน้ําหนักใบสมัครของเคียฟเร็วที่สุดเท่าที่ฤดูร้อนนี้ และจะทำให้กระบวนการที่ปกติใช้เวลานานหลายปีดำเนินการได้เร็วมากขึ้น [Euro News] [DW] [Euro News] [Reuters] [Republic World]

Ursula von der Leyen ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เมื่อวันที่ 8 เมษายน เสนอต่อประธานาธิบดีของยูเครน Volodymyr Zelensky ถึงคำถามที่จำเป็นต่อการตัดสินเรื่องการเข้าเป็นสมาชิก เธอบอก Zelensky: “นี่คือจุดเริ่มต้นของการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป”

Von der Leyen กล่าวเสริมว่า "รัสเซียจะลงมาอยู่ในภาวะเศรษฐกิจการเงินและเทคโนโลยีที่สลายตัวในขณะที่ยูเครนกําลังเดินขบวนไปสู่อนาคตของยุโรป" [Euro News]

Zelensky ลงนามในคําขออย่างเป็นทางการสําหรับการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์สี่วันหลังจากการรุกรานของรัสเซีย ประธานาธิบดียูเครนลอบบี้อย่างแข็งกร้าวประกาศในเวลานั้นว่า “ฉันพูดอย่างตรงไปตรงมาเท่าที่จะเป็นไปได้คนยูเครนสมควรได้รับและมีสิทธิ์ได้รับการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป นี่จะเป็นหลักฐานหลักของการสนับสนุนประเทศของเรา" [Euro News]

ขณะเดียวกันจอร์เจียและมอลโดวาได้ยื่นใบสมัครเข้าร่วมสหภาพยุโรปในวันที่ 3 มีนาคม [rferl]

ผู้สังเกตการณ์มองว่าการขอเข้าเป็นสมาชิกเป็นปฏิกิริยาต่อการรุกรานของรัสเซียเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ José Ignacio Torreblanca นักวิจัยด้านนโยบายอาวุโสและหัวหน้าสํานักงานมาดริดของคณะมนตรียุโรปว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของยุโรป กล่าวว่า "เราจําเป็นต้องตระหนักว่าความมั่นคงของยูเครนและยุโรปสามารถรับประกันได้โดยสมาชิกนาโต้และสหภาพยุโรปเท่านั้น และโดยการป้องปรามอาวุธนิวเคลียร์ต่อความทะเยอทะยานการสร้างจักรวรรดิของมอสโก" [ecfr.eu]

รัฐบาลของยุโรปจำนวนหนึ่งรวมถึง เยอรมนี ฝรั่งเศสและเนเธอร์แลนด์ไม่ได้แสดงความกระตือรือร้นในความเป็นไปได้ของการเร่งกระบวนการเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปสําหรับยูเครน พวกเขากังวลว่าการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปไม่ใช่สิ่งที่สามารถเร่งได้โดยอ้างถึงระบบราชการและกระบวนการอันชอบธรรม โปแลนด์และอดีตรัฐโซเวียตให้การสนับสนุนการรับยูเครนเข้าเป็นสมาชิกอย่างรวดเร็ว [Newsweek] [The Guardian] [Express] [DW]

หลังจากคํามั่นสัญญาของสหภาพยุโรปต่อยูเครนประธานาธิบดี Recep Tayyip Erdogan ของตุรกีขอให้บรัสเซลส์เปิดการเจรจาสมาชิกภาพสําหรับประเทศของเขาอีกครั้ง ในขณะที่สวีเดนและฟินแลนด์สามารถเข้าร่วมสหภาพยุโรปได้ภายในไม่กี่ปีหลังจากการสมัคร ตุรกี รอมาตั้งแต่ปี 1999 เพื่อเข้าเป็นสมาชิก [Euractiv]

แอลเบเนีย สาธารณรัฐมาซิโดเนียเหนือ มอนเตเนโกรและเซอร์เบียรอนานกว่า ทศวรรษ สําหรับการตัดสินใจเกี่ยวกับการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป

ประเทศสุดท้ายที่เข้าร่วมสหภาพยุโรปคือโครเอเชียในปี 2013 การตัดสินเป็นเอกฉันท์โดย 27 ประเทศสมาชิกของกลุ่มเป็นสิ่งจําเป็นเพื่อให้สมาชิกใหม่ที่จะเข้ามา[The New York Times] [The Guardian] [Politico] [rferl]

Marie-Eve Belanger, นักวิจัยของมหาวิทยาลัยเจนีวาที่เชี่ยวชาญในการขยายตัวของสหภาพยุโรปกล่าวว่าการสนับสนุนของสหภาพยุโรปสําหรับยูเครน: "ท่าทางเชิงสัญลักษณ์อาจจะไม่ดีเท่ากับการดำเนินการอย่างเป็นทางการ แต่ไม่ควรเพิกเฉย"

ในปี 2013 มีการประท้วงเป็นระยะเวลาหลายเดือนในเมืองหลวงของยูเครนซึ่งรู้จักกันในชื่อ "Euromaidan" เมื่อประธานาธิบดียูเครน Viktor Yanukovych ปฏิเสธที่จะลงนามในข้อตกลงสมาคมกับสหภาพยุโรป เหตุการณ์ความไม่สงบที่เป็นที่นิยมที่ตามมาทําให้อดีตประธานาธิบดีต้องหนีออกนอกประเทศ [Foreign Policy]

(ht/pk, transl. by nl)

 

สงคราม Putin ในยูเครนอาจกระตุ้นให้เกิดการต่อต้านประชาธิปไตยในยุโรปยูเรเซีย: รายงาน

ความพยายามของรัสเซียในการโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอย่างเสรีของยูเครนอาจเป็นเหตุให้เกิดการต่อต้านประชาธิปไตยทั่วยุโรปและย ูเรเซียรายงานใหม่ของสถาบันวิจัย Freedom House ได้กล่าวไว้

ประชาธิปไตยในภูมิภาคได้ลดลงเป็นเวลา 18 ปีติดต่อกัน, ตามรายงาน Nations in Transit, ซึ่งออกมาเมื่อวันที่ 20 เมษายน

"ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ประเทศที่ครั้งหนึ่งเคยต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ประชาธิปไตยตกอยู่ ภายใต้การเปลี่ยนผ่านของทหารเผด็จการซึ่งล่อลวงด้วยคํามั่นสัญญาว่าจะแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนและเป็นระบบอย่างรวดเร็ว" Mike Smeltzer ผู้อำนวยการโครงการ Nations in Transit กล่าว “เมื่อคนที่แข็งแกร่งยึดอํานาจพวกเขาพยายามที่จะเก็บอำนวจนั้นไว้ไม่ว่าจะต้องเสียเท่าไร และรวมถึงการก้าวล่วงประชาธิปไตยในรัฐใกล้เคียง"

ในบรรดา 29 ประเทศที่ครอบคลุมโดยรายงาน, ประเภทที่โดดเด่นของรัฐบาลคือ "ระบอบการปกครองลูกผสม" ซึ่งเห็นได้ชัดว่าสถาบันประชาธิปไตยอยู่ภายใต้การปฏิบัติที่ไม่เป็นประชาธิปไตย Freedom House ระบุเพิ่มเติมถึงตัวอย่าง โดยอ้างถึงประเทศที่มีการเลือกตั้งเป็นประจําและมีการแข่งขันในการเลือกตั้งสูง แต่อาจขาดการกระบวนการการตรวจสอบในชัยชนะและมีปัญหากับหลักนิติธรรมหรือล้มเหลวในการปกป้องสิทธิของประชาชน

มีเพียงหกประเทศที่ครอบคลุม - สาธารณรัฐเช็กเอสโตเนียลัตเวียลิทัวเนียสโลวาเกียและสโลวีเนีย - ได้รักษาการกําหนด "ประชาธิปไตยแบบรวม" โดยลดลงจากแปดประเทศในปี 2004 แต่แม้ใน "ผลกระทบการกัดกร่อนของการที่ประชนไม่ได้รับข้อมูลและการทุจริต" ในปี 2021 เนําไปสู่การลดลงของคะแนน รายงานกล่าวไว้

สโลวีเนียเป็นประเทศที่เห็นการลดลงมากที่สุดในหนึ่งปี ในรายงานกล่าว เพิ่มว่ารัฐบาลของนายกรัฐมนตรี Janez Jansa ได้ "ทุบตีความเป็นอิสระของสื่อมวลชน" กัดเซาะความไว้วางใจของประชาชนในระบบตุลาการ, และเพิกเฉยรัฐสภาในปีที่ผ่านมา

ในขณะเดียวกัน อาร์เมเนีย โคโซโวและมอลโดวามีคะแนนเพิ่มขึ้นและเป็น "ระบอบไฮบริด" ตั้งแต่ปี 2004 แต่รัสเซีย อาเซอร์ไบจานคีร์กีซสถานและทาจิกิสถานได้กลายเป็น "ระบอบเผด็จการแบบรวม" ในช่วงเวลาเดียวกัน โดยอยู่ในตำแหน่งคะแนนเท่ากับเบลารุสคาซัคสถานเติร์กเมนิสถานและอุซเบกิสถาน ที่อยู่ลำดับล่างของรายงาน [Freedom House] [Politico]

"ผมรู้สึกเป็นปึกแผ่นกับความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่ประเทศประชาธิปไตยจํานวนมากได้แสดงให้เห็นกับยูเครน แต่ยังคงต้องใช้ความพยายามที่ยั่งยืน เด็ดขาดและเป็นหนึ่งเดียวเพื่อกั้นกระแสเผด็จการที่กว้างขึ้น" Smeltzer กล่าว

(pk, transl. by nl)

 

คณะกรรมาธิการยุโรปวางแผนที่จะห้ามสารเคมีอันตรายหลายพันชนิด

คณะกรรมาธิการยุโรปเมื่อวันที่ 25 เมษายนได้เปิดเผยแผนการจํากัดการใช้สารเคมีอันตราย ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่อาจส่งผลกระทบต่อสารที่ใช้กันมากถึง 12,000 ชนิดทั่วสหภาพยุโรป [EuroNews]

ในรายงานเมื่อปีที่แล้วเกี่ยวกับผลกระทบด้านสาธารณสุขของสารเคมีองค์การอนามัยโลกประเมินว่าในปี 2019 มีผู้เสียชีวิต 2 ล้านคนจากการได้รับสารเคมีอันตราย [WHO] แผนงานข้อจํากัดของคณะกรรมาธิการ มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหานี้โดยการห้ามใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมเช่นสารหน่วงไฟบิสฟีนอลและพีวีซีทุกรูปแบ บ

ข้อจํากัด และการห้ามอาจส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์ที่ใช้โดยผู้บริโภคและที่ใช้ในการปฎิบัติงานมากถึง ร้อยละ 74 ในสหภาพยุโรปและกลุ่มอุตสาหกรรมที่ส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในช่วงต้นของร่างแผนของคณะกรรมาธิการยุโรป [Chemical Watch]

อย่างไรก็ดี สํานักงานสิ่งแวดล้อมยุโรป (EEB) - เครือข่ายองค์กรพลเมืองสิ่งแวดล้อมในยุโรป - ยินดีกับแผน จากการประมาณการโดย EEB กระบวนการห้ามสารเคมีทั้งหมดที่กําหนดเป้าหมายโดยแผนงานจะเริ่มขึ้นภายในสองปีข้างหน้าและการห้ามทั้งหมดจะมีผลภายในปี 2030 [European Environmental Bureau]

ในขณะเดียวกันคณะกรรมาธิการยุโรปตัดสินใจที่จะ จํากัด การใช้สารกําจัดศัตรูพืชที่เป็นอันตรายต่อผึ้งซัลฟ็อกซาฟลอร์เมื่อวันที่ 14 เมษายน เพียงเจ็ดปีหลังจากผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเข้าสู่ตลาดยุโรป จากข่าวที่รั่วไหลเมื่อเดือนกุมภาพันธ์คณะกรรมาธิการวางแผนที่จะลดการใช้สารกําจัดศัตรูพืชร้อยละ 50ภายในปี 2030 [Forbes] อเมริการ้องว่าสินค้าที่ผลิตในสหรัฐอเมริกาซึ่งซัลฟ็อกซาฟลอร์ถูกนํามาใช้ไม่สามารถส่งออกไปยังยุโรปได้อีกต่อไป [Euractiv]

(jk/pk, transl. by nl)

 

หัวหน้าพรรคการเมืองโปแลนด์ตบเท้าพันธมิตรมานานนายกรัฐมนตรีฮังการีเหนือยูเครน

รองนายกรัฐมนตรีโปแลนด์และหัวหน้าพรรคกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม (PiS) Jaroslaw Kaczynski ได้วิพากษ์วิจารณ์พันธมิตรที่ยาวนานของนายกรัฐมนตรีฮังการี Viktor Orban เกี่ยวกับท่าทีของเขาเกี่ยวกับสงครามในยูเครน [Euronews] [Notes From Poland]

Kaczynski กระแทกผู้นําฮังการีที่ไม่เห็น "สิ่งที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนใน Bucha" ซึ่งหมายถึงหลักฐานอาชญากรรมสงครามรัสเซียต่อพลเรือนในเมืองยูเครนนอกเคียฟ [Euronews] [Notes From Poland] [Politico] "เราไม่สามารถให้ความร่วมมือเหมือนในอดีตได้หากจุดยืนดังกล่าวของฮังการียังคงอยู่ต่อไป" รองนายกรัฐมนตรีโปแลนด์กล่าวเสริม

Orban – ผู้ซึ่งเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ที่ใกล้ชิดของรัฐบาลฝ่ายขวาของโปแลนด์เป็นเวลาหลายปี ยังคงรักษาความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประธานาธิบดี Vladimir Putin ของรัสเซียและกล่าวว่าการสืบสวนสิ่งที่เกิดขึ้นในกรุง Bucha จําเป็นต้องเกิดขึ้นก่อนที่จะมีข้อสรุปเพราะ "เราอยู่ในช่วงเวลาแห่งการชักใยของคนจำนวนมาก" [Politico]

Orban ได้อ้างถึงประธานาธิบดียูเครน Volodymyr Zelensky ว่าเป็น "ฝ่ายตรงข้าม" และไม่อนุญาตให้จัดหาอาวุธให้กับยูเครนผ่านฮังการี นอกจากนี้ ยังได้พูดต่อต้านการเพิ่มมาตรการคว่ําบาตรของสหภาพยุโรปต่อรัสเซีย [Euronews] [Politico]

โปแลนด์และฮังการีได้ให้การสนับสนุนซึ่งกันและกันมานานในข้อพิพาทเกี่ยวกับสิ่งที่บรัสเซลส์เห็นว่าเป็นการกัดเซาะของหลักนิติธรรมและกา รทำให้ระบอบประชาธิปไตยถดถอยลงในสองประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป [Euronews] [Politico]

เมื่อเร็ว ๆ นี้พรรค PiS และ Fidesz ของ Kaczynksi และ Orban ได้พยายามเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างผู้นําฝ่ายขวาในสหภาพยุโรป ความพยายามเหล่านี้ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์จากพรรคฝ่ายค้านในโปแลนด์ซึ่งประณามความเต็มใจของพรรคการเมืองในการสร้างความสัมพันธ์กับ กลุ่มที่มีการเชื่อมโยงกับมอสโก [Notes From Poland]

ความแตกแยกครั้งใหม่ระหว่างโปแลนด์และฮังการีส่งผลให้มีการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมที่มีกําหนดจัดขึ้นที่บูดาเปสต์เมื่อปลายเดือนมีนาคมถู กเลื่อนออกไปหลังจากรัฐมนตรีจากโปแลนด์และสาธารณรัฐเช็กปฏิเสธที่จะเข้าร่วมเนื่องจากจุดยืนของ Orban ที่มีต่อรัสเซีย [Euronews]

หลังจากได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาฮังการีในเดือนนี้ [ดูเรื่องราวในฉบับนี้ของยุโรปรายเดือน] Orban ระบุว่าเขาต้องการมองผ่านมุมมองที่แตกต่างกันของเขาและวอร์ซอว์เกี่ยวกับรัสเซียโดยกล่าวว่า "พันธมิตรกับโปแลนด์จะต้องมั่นคง" [Euronews] [Politico]

(ek/pk, transl. by nl)

 

สหภาพยุโรปเริ่มกระบวนการกลไกหลักนิติธรรมต่อฮังการี เป็นการเคลื่อนไหวของยุโรปครั้งแรก

สหภาพยุโรปเมื่อวันที่ 27 เมษายนเริ่มกระบวนการกลไกหลักนิติธรรมเป็นครั้งแรกที่อนุญาตให้ระงับเงินทุนสำหรับฮังการี [Politico] [DW] [Euronews]

กระบวนการกลไกเงื่อนไข (conditionality mechanism)  ซึ่งเชื่อมโยงการจ่ายเงินโดยสหภาพยุโรปกับการรักษามาตรฐานหลักนิติธรรมในประเทศสมาชิก – ได้รับการอนุมัติจากศาลยุติธรรมของสหภาพยุโรปในเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากถูกท้าทายแต่ไม่สําเร็จโดยฮังการีและโปแลนด์ ซึ่งทั้งสองประเทศต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาจากบรัสเซลส์เรื่องการถอยหลังของระบอบประชาธิปไตยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา [Europe Monthly March 2022] [Euronews]

เจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรปกล่าวว่าการระงับเงินใด ๆ จะต้องเป็นสัดส่วนกับผลกระทบของการกระทําของฮังการีต่องบประมาณของกลุ่ม คําวินิจฉัยของศาลสูงของสหภาพยุโรปได้ชี้แจงว่ากลไกการมีเงื่อนไขมีขึ้นเพื่อปกป้องงบประมาณ [Euronews] [Europe Monthly March 2022]

รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีฮังการี Viktor Orban ถูกกล่าวหาว่าใช้อิทธิพลต่อศาลและสื่อของประเทศและการใช้เงินของสหภาพยุโรปในทางที่ผิด [DW] [Politico]

คณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวว่ามีข้อบ่งชี้ถึง "การละเมิดหลักนิติธรรม" ในฮังการี โดยอ้างถึง "ความผิดปกติ ข้อบกพร่องและจุดอ่อนในขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ" รวมถึง "เปอร์เซ็นต์ที่สูงผิดปกติของสัญญา" ที่มอบให้กับ บริษัทเฉพาะ [Politico]

เป็นเพราะข้อกล่าวหาว่าใช้เงินของสหภาพยุโรปในทางที่ผิดในบูดาเปสต์ที่ทำให้ฮังการีกําลังตกเป็นเป้าหมายของคณะกรรมาธิการยุโรป แต่สำหรับโปแลนด์ไม่ใช่กรณีดังกล่าว เจ้าหน้าที่กล่าว [Politico] คณะกรรมาธิการยังกล่าวหาว่าทางการฮังการีไม่สามารถหรือไม่เต็มใจที่จะป้องกันการฝ่าฝืนกฎหมาย [Politico]

ตอนนี้บูดาเปสต์มีเวลาสองเดือนในการส่งคําตอบให้กับบรัสเซลส์ [DW] [Euronews]

(ek/pk, transl. by nl)

 

สหภาพยุโรปเริ่มการสอบสวนในเรื่องโปรแกรมสปายแวร์

คณะสมาชิกแห่งสภายุโรปได้เริ่มการสืบสวนในเรื่องของการใช้โปรแกรมสปายแวร์ในเหล่าประเทศแถบภูมิภาคยุโรป นามว่า “ปีกาซัส “ (Pegasus) ท่ามกลางคำกล่าวอ้างว่าโปรแกรมดังกล่าวคือเครื่องมือที่ใช้ในการดักฟังนักการเมือง คณะกรรมาธิการอาวุโสแห่งสภายุโรป สื่อ และสมาชิกประชาสังคม

เมื่อไม่นานมานี้รัฐบาลของโปแลนด์ ฮังการี และสเปนถูกกล่าวหาว่านำโปรแกรมดังกล่าวหรือโปรแกรมที่มีลักษณะเทียบเท่ากับปีกาซัสไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง

ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่อาวุโสได้กล่าวเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมว่า บุคคลระดับสูงในรัฐบาลสเปนก็กำลังตกเป็นเป้าหมายของโปรแกรมปีกาซัสเช่นกัน โปรแกรมดังกล่าวถูกตรวจพบว่าอยู่ในโทรศัพท์มือถือของนาย Pedro Sanchez นายกรัฐมนตรีแห่งสเปน และ Margarita Robles  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งสเปน ข้อมูลจาก นาย Felix Bolanos รัฐมนตรีประจำสำนักนายก โดยเขานั้นไม่ได้เปิดเผยว่าผู้ต้องสงสัยที่ทำการล้วงข้อมูลมากจากสเปนหรือภายนอก [Reuters]

คณะกรรมาธิการสอบสวนในเรื่องดังกล่าวแห่งสภายุโรปจะใช้เวลาถึงปีถัดไปในการรวบรวมข้อมูลการใช้โปรแกรมปีกาซัสและโปรแกรมซอฟแวร์ใกล้เคีย งอื่นๆ ในความพยายามที่จะเสนอการใช้ข้อบังคับในอนาคต

Jeroen Lenaers ประธานคณะกรรมาธิการกล่าวเมื่อวันที่ 9 เมษายนว่า “เราได้พบเห็นอยู่หลายกรณีที่คนบริสุทธิ์เช่น สื่อหรือทนายตกเป็นเป้าหมายของโปรแกรมสปายแวร์ และนี่เป็นปัญหาใหญ่ต่อประชาธิปไตยและหลักนิติธรรม” [European Parliament]

โปรแกรมสปายแวร์ปีกาซัสสร้างขึ้นโดยบริษัทสัญชาติอิสราเอลนามว่า NSO Group Technologies และสามารถเปลี่ยนให้อุปกรณ์ในระบบปฏิบัติการ IOS และ Android เป็นเครื่องเฝ้าระวังแบบทางไกลได้ โดยมีเป้าประสงค์เพื่อใช้กับอาชญากรและผู้ก่อการร้าย และจะขายให้กับรัฐบาลเท่านั้น

จากถ้อยแถลงเมื่อวันที่ 18 เมษายน โดย CitizenLab ห้องปฏิบัติการสหวิชาซึ่งตั้งอยู่ที่ Munk สถาบันแห่งกิจการระหว่างระเทศและนโยบายสาธารณะแห่ง มหาวิทยาลัยโตรอนโต ให้ความว่ามีผู้คนอย่างน้อย 65 รายถูกสอดแนม โดยพวกเขามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่ออิสรภาพของ Cantalan จากข้อมูลของ CitizenLab กลุ่มเป้าหมายมักถูกโจมตีโดยโปรแกรมสปายแวร์ปีกาซัส แม้มีการรายงานว่ายังมีอีก 4 รายที่ถูกโจมตีด้วยโปรแกรมซอฟแวร์ที่ถูกผลิตโดย Candiru บริษัทผลิตสปายแวร์สัญชาติอิสราเอล [Euronews] [CitizenLab]

CitizenLab ตั้งข้อสงสัยว่าระบบสารสนเทศของรัฐบาลอังกฤษกำลังติดไวรัสของโปรแกรมปีกาซัส ห้องปฏิบัติการในแคนาดาให้ข้อมูลว่าสปายแวร์ซึ่งเป็นที่สงสัยดังกล่าวถูกค้นพบเมื่อปี 2020 และ 2021 [BBC] โดย BBC รายงานว่ามีหนึ่งเหตุการณ์ที่มีความเชื่อมโยงกับผู้ควบคุมในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 

ในขณะเดียวกันหน่วยข่าว Reuters รายงานว่า Didier Reynders สมาชิกคณะกรรมาธิการยุโรปด้านกิจการยุติธรรมพร้อมกับเจ้าหน้าที่จากคณะฯอย่างน้อย 4 ท่านตกเป็นเป้าของโปรแกรมสอดแนมเมื่อปีที่แล้ว Reuters ให้ข้อมูลว่าขณะนั้นไม่สามารถระบุได้ว่าโปรแกรมสปายแวร์ใช้โดยผู้ใด และไม่ได้ถูกตั้งชื่อว่าปีกาซัสในขณะที่ถูกใช้งาน

ในขณะที่ประนามการใช้งานซอฟแวร์ในทางที่ไม่ถูกต้อง คณะกรรมาธิการยุโรปยังกล่าวเมื่อวันที่ 19 เมษายนว่า จะไม่ทำการสอบสวนรัฐสมาชิกซึ่งตกเป็นที่สงสัยว่าใช้โปรแกรมดังกล่าว โฆษกของคณะกรรมาธิการฯบอกกับผู้รายงานข่าวว่า “เรื่องนี้ให้เป็นของการใช้อำนาจในแต่ละรัฐ” [euobserver]

(jk/pk, transl. by ph)

 

รัสเซีย-จีนกระชับความสัมพันธ์ท่ามกลางสงครามในยูเครน

Le Yucheng รองรัฐมนตรีการต่างประเทศของจีนกล่าวว่ารัฐบาลจีนจะเดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งด้านความสัมพันธ์ทางกลยุทธ์กับรัฐบาลรัสเซีย แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศแม้จะมีการโจมตีของรัสเซียต่อยูเครนและการประนามในเรื่อง อาชญกรรมสงครามจากประเทศแถบตะวันตก [Bloomberg]

ตั้งแต่สงครามในยูเครนเริ่มขึ้น จีนได้ถอยออกจากการคว่ำบาตรรัสเซียและวิจารณ์มาตราการการลงโทษของประเทศแถบตะวันตก Zhang Jun เอกอัครราชทูตจีนประจำสหประชาชาติปฏิเสธการโทษรัสเซียในเรื่องของรายงานการเข่นฆ่าพลเมืองในเมืองบูชา ของยูเครน ท่ามกลางเสียงโกรธเคืองจากนานาชาติต่อเหตุการณ์การเสียชีวิต [AiR No.15, April/2022, 2] [AiR No.16, April/2022, 3]  [The Hill]

จากที่ประชุมเมื่อวันที่ 19 เมษายนระหว่าง Andrey Ivanovich Denisov เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสาธารณรัฐประชาชานจีนในกรุงปักกิ่ง Le ขอให้มีการเสริมสร้างความสัมพันธ์ในแง่มุมต่างๆและกล่าวว่า “ไม่ว่าภูมิทัศน์ของนานาชาติจะเปลี่ยนไปอย่างไร จีนจะเสริมสร้างความร่วมมือทางกลยุทธ์กับรัสเซียอย่างต่อเนื่องเพื่อประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย โดยร่วมปกป้องผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ”

Denisov กล่าวว่ารัสเซียวางแผนที่จะสานความเป็นหุ้นส่วนกับรัฐบาลจีน และกล่าวเพิ่มเติมว่ารัสเซีย “เห็นการพัฒนาความสัมพันธ์กับจีนเป็นประเด็นหลักทางการทูตเสมอ” [Bloomberg]

โรงกลั่นน้ำมันซึ่งครอบครองโดยรัฐบาลจีนเดินหน้าทำงานตามสัญญาน้ำมันที่มีอยู่กับรัสเซีย อะไรก็ตามยังหลีกเลี่ยงที่จะทำสัญญาใหม่เนื่องจากไม่อยากถูกมองว่าให้การสนับสนุนรัฐบาลรัสเซียอย่างชัดเจนจนเกินไป มีรายงานว่าบางบริษัทถูกสั่งให้บริหารความเสี่ยงเหนือกำไร 

การค้าระหว่างจีนและรัสเซียเติบโตขึ้นจำนวนร้อยละ 12 ในเดือนมีนาคม หลังจากที่เติบโตมากกว่าร้อยละ 25 ในเดือนกุมภาพันธ์ แสดงให้เห็นถึงการที่จีนเฝ้าระวังในเรื่องการคว่ำบาตรจากตะวันตกต่อรัสเซีย [AiR No.16, April/2022, 3] [AiR No.15, April/2022, 2] 

(ar/pk, transl. by ph)

 

UnionPay ของจีนตัดสินใจไม่ขยายฐานในรัสเซีย

UnionPay บริษัทบัตรเครดิตยักษ์ใหญ่ตัดสินใจไม่ขยายการทำงานในรัสเซียท่ามกลางสงครามในยูเครน บริษัทสัญชาติจีนดังกล่าวเป็นบริษัทล่าสุดที่ระงับการเจรจากับรัสเซีย รวมไปถึงบริษัทที่เป็นผู้ให้กู้รายใหญ่เจ้าอื่นเช่น Alfa Bank VTB Bank และ Otkrytie ถึงแม้รัฐบาลรัสเซียและรัฐบาลจีนจะประกาศว่ามิตรภาพของเขานั้น “ไม่มีขีดจำกัด” ผู้ให้บริการด้านการชำระเงินของจีนยังไม่สนิทในที่จะร่วมมือกับรัสเซีย โดยมีรายงานว่ากลัวการคว่ำบาตรจากตะวันตก[Business Standard]

บริษัทชำระเงินฝั่งตะวันตกเช่น Mastercard หรือ Visa ต่างได้ถอนตัวจากตลาดรัสเซีย เมื่อไม่มีตัวเลือกอื่นหลงเหลือ ธนาคารในรัสเซียเริ่มออกบัตรชำระเงินกับ UnionPay และ Mir ระบบบัตรเครดิตของรัสเซีย จำนวนของบัตร UnionPay ได้ทำการอนุมัติมากขึ้นกว่าสิบเท่า

Unionpay คือเครือข่ายบริการทางการเงินนำโดยรัฐบาลจีน ก่อตั้งเมื่อปี 2002 โดยการรวมตัวของธนาคารต่างๆ ถูกจัดให้เป็นอันดับหนึ่งในด้านบัตรที่หมุนเวียนมากที่สุดทั่วโลกภายในสิ้นปี 2021 ทั้งในปี 2020 มีอัตราซื้อทั่วโลกเป็นร้อยละ 32 ผ่านบัตรเครดิต UnionPay ในเดือนมีนาคม 2021 ผู้ขายมากกว่า 55 ล้านรายทั่วโลกรับจ่ายด้วยบัตรดังกล่าว [DW in German] [Reuters]

(ar/pk, transl. by ph)

 

ยูเครนรับการช่วยเหลือจากประเทศในแถบเอเชียตะวันออก

ประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเช่นญี่ปุ่นและเกาหลีใต้แสดงการสนับสนุนด้านการเงินกับยูเครนอย่างต่อเนื่อง ยิ่งไปกว่านั้นทางกระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่นได้ประกาศว่าจะทำการส่งอากาศยานไร้คนขับพร้อมหน้ากากและชุด NBC ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากสารกัมมันตภาพรังสี สารชีวภาพและสารเคมี เพื่อเป็นการตอบรับคำขอจากรัฐบาลยูเครน การตัดสินใจดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องมาจากรายงานว่าอาจมีการโจมตีด้วยอาวุธทางเคมีโดยรัสเซียในเมืองมารีอูปอล [Japan Times]

ก่อนหน้านี้รัฐบาลญี่ปุ่นได้ส่งเสื้อเกราะกันกระสุนและสิ่งของอื่นๆเช่นหมวกกันกระสุน เสื้อกันหนาว และอาหาร อีกทั้งยังได้เพิ่มจำนวนเงินให้กูแก่ยูเครนจาก 92.5 ล้านยูโรเป็น 278 ล้านยูโร โดยระบุว่า “การสนับสนุนในเรื่องเศรษฐกิจของยูเครนคือภารกิจเร่งด่วน” [Japan Times][Japan Times]

เมื่อวันที่ 12 เมษายน รัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจที่จะอนุมัติการคว่ำบาตรที่รุนแรงขึ้นต่อรัสเซีย รวมไปถึงการสั่งระงับการดำเนินการทางสินทรัพย์กับชาวรัสเซียกว่า 400 รายและองค์กรสัญชาติรัสเซียกว่า 28 ราย หนึ่งในผู้ที่ตกเป็นเป้าหมายคือลูกสาว 2 คนของประธานาธิบดี Vladimir Putin องค์กรเกี่ยวกับธุรกิจทางด้านการทหารของภรรยานาย Sergey Lavrov รัฐมนตรีการต่างประเทศ และธนาคาร Sberbank กับ Alfa Bank สองสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซีย 

บุคคลและบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นถูกห้ามมิให้เริ่มทำการลงทุนใหม่กับรัสเซีย โดยการนำเข้าสินค้าจากรัสเซียในบางประการนั้นถูกระงับเช่นวอดก้า [AiR No.15, April/2022, 2] ญี่ปุ่นได้ทำการถอนรัสเซียจากสถานะ “ชาติที่ได้รับอนุเคราะห์ยิ่ง” และขึ้นภาษีนำเข้ากับรัสเซีย ยกเว้นแก๊สประเภทของเหลวและถ่านหิน

เพื่อเป็นการสนับสนุนยูเครน  ไต้หวันได้ระงับการส่งออกสินค้าประเภทกลยุทธ์ไฮเทคกว่า 60 รายซึ่งสามารถนำไปใช้เพื่อจุดประสงค์ทางพลเรือนและการทหาร ซึ่งเป็นการตัดตลาดของรัสเซียและตัดมิให้รัฐบาลรัสเซียมิเข้าถึงชิป Elbrus ซึ่งถูกใช้อย่างแพร่หลายโดยกองกำลังรัสเซียและหน่วยสืบราชการลับ กระทรวงเศรษฐกิจของไต้หวันได้เร่งให้ภาคธุรกิจ “ปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมการส่งออกและหลีกเลี่ยงการส่งออกสินค้าที่รัสเซียจะสามารถนำไปใช้ในการต่อยอดเพื่อทำอาวุธได้โดยมิได้ผ่านการเห ็นชอบ” [AiR No.15, April/2022, 2] [ Focus Taiwan]

ในขณะเดียวกันเกาหลีใต้จะให้เงินสนับสนุนแก่ยูเครนเป็นจำนวน 37 ล้านยูโรและจะพิจารณาเพื่อเพิ่มการช่วยเหลือ โดยกาชาดแห่งเกาหลีใต้ยังได้ส่งความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมเป็นครั้งที่สามแล้วเช่นกัน [see AiR No.15, April/2022, 2] Volodymyr Zelensky ประธานาธิบดียูเครนได้ส่งคำขอไปถึงเกาหลีใต้ในเรื่องขอการสนับสนุนทางทหาร แต่ Suh Wook รัฐมนตรีกลาโหมของรัฐบาลเกาหลีใต้กล่าวว่าอาจมีข้อจำกัดทางการสนับสนุนด้านอาวุธเนื่องจากสถานการณ์ความมั่นคงในเกาหลีใต้และผลกระทบที่ อาจเกิดขึ้นต่อความพร้อมในด้านการทหารของประเทศแถบเอเชีย [Reuters] 

(ar/pk, transl. by ph)

 

ส่วนใต้สุดของเกาะคูริลถูก “ครอบครองอย่างผิดกฎหมาย” โดยรัสเซีย กล่าวโดยญี่ปุ่น

กระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่นได้ให้สัญญาณการเปลี่ยนแปลงท่าทีของรัฐบาลต่อข้อพิพาทที่มีมาอย่างยาวนานกับรัสเซียว่าด้วยเรื่องของสี่ เกาะบริเวณใต้สุดของเกาะคูริล ญี่ปุ่นได้กล่าวผ่านรายงานประจำปีด้านการทูตของ (Diplomatic Bluebook) ในปี 2022 ว่าเกาะดังกล่าวเป็นมรดก “ตกทอด” ของประเทศและกำลังถูก“ครอบครองอย่างผิดกฎหมาย” โดยรัสเซีย 

เกาะดังกล่าวซึ่งถูกอ้างสิทธิ์โดยรัฐบาลญี่ปุ่นและถูกยึดครองโดยสหภาพโซเวียตหลังจากที่ จักวรรดิญี่ปุ่นได้ยอมแพ้เมื่อปี 1945 โดยตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะฮอกไกโดซึ่งเป็นภูมิภาคเหนือสุดของญี่ปุ่น [Asia Times]

ขณะที่ความตึงเครียดในภูมิภาคเพิ่มขึ้น ญี่ปุ่นและสหรัฐจะทำการฝึกซ้อมทางทหารร่วมกันในฤดูใบไม้ร่วงนี้ในภูมิภาคฮอกไกโด การฝึกซ้อมนี้จะเป็นการฝึกที่ใหญ่ที่สุดท่ามกลาง 10  ชุดการฝึกซ้อมระหว่างสองประเทศตั้งแต่มีการรุกรานยูเครนโดยรัสเซียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์
[see AiR No.17, April/2022, 4]

(ar/pk, transl. by ph)

 

หัวหน้า Frontex ลงจากตำแหน่งหลังจากมีข้อพิพาทเรื่องละเมิดสิทธิมนุษยชน

หัวหน้าหน่วยงานชายแดนและยามฝั่งแห่งยุโรป (European Border and Coast Guard Agency) หรือรู้จักในนาม Frontex ได้ลาออกจากตำแหน่ง [Frontex]

Fabrice Leggeri ผู้เป็นหัวหน้าและหน่วยงานดังกล่าวถูกกล่าวหาว่าทำการว่าจ้างกลุ่มคนจาก Pushbacks โดยวลีดังกล่าวสื่อถึงสถานการณ์ที่กลุ่มคนถูกกีดกันมิให้ข้ามชายแดนมายังสหภาพยุโรป และปฏิเสธการให้สถานะผู้ลี้ภัย Frontex ไม่เคยใช้วิธีดังกล่าวจากคำให้การของ Leggeri [DW]

ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนเมษายน มีรายงานออกมาจากสื่อหลายรายซึ่งกล่าวหา Frontex ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในสถานการณ์ Pushbacks จำนวน  22 ครั้ง ในทะเลอีเจียนระหว่างมีนาคม 2020 ถึงกันยายน 2021 ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้ลี้ภัยไม่น้อยกว่า 957 ราย จากรายงานระบุว่าหน่วยงานดังกล่าวนิยามการกระทำ Pushbacks ว่าเป็น “การป้องกันการเข้าประเทศ” [EuroNews].

สำนักงานต่อต้านการทุจริตแห่งยุโรป European Anti-Fraud Office (OLAF) ได้ทำการสืบสวน Frontex มาหลายปีและรายงานฉบับสุดท้ายคาดว่าจะออกมาเร็วๆนี้ [Politico] [Erik Marquardt, MEP / European Parliament]

(jk/pk, transl. by ph)

 

รัสเซียขอการสนับสนุนจากบราซิลเพื่อต่อสู้กับการคว่ำบาตรของตะวันตก

รัสเซียได้ขอให้บราซิลเข้าแทรกแทรงกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ธนาคารโลก (World Bank) และ กลุ่ม G20 เพื่อต่อสู้กับการคว่ำบาตรจากตะวันตกที่ทำให้รัสเซียหยุดชะงักตั้งแต่การรุกรานยูเครน [Reuters][USNews]

Anton Siluanov รัฐมนตรีการคลังของรัสเซียร่างหนังสือถึง Paulo Guedes รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจเพื่อขอการสนับสนุนจากบราซิลที่จะป้องกันการกล่าวหาทางการเมืองและการเลือกปฏิบัติในสถาบันการเงินระหว่างประเทศ รวมถึงเวทีพหุภาคี หนังสือดังกล่าวถูกส่งไปถึง Guedes โดยเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำบราซิลเมื่อวันที่ 13 เมษายน [Reuters][USNews]

Jair Bolsonaro ประธานาธิบดีขวาสุดโต่งแห่งบราซิลยังคงแสดงท่าทีเป็นกลางต่อสงคราม โดยยังไม่ได้ประนามการโจมตี ถึงแม้ว่าจะเผชิญกันการวิจารณ์ของสหรัฐก็ตาม [EurActiv]

Erivaldo Gomes เลขาธิการด้านกิจการเศรษฐกิจระหว่างประเทศแห่งกระทรวงเศรษฐกิจของบราซิล แสดงท่าทีตอบโต้ต่อหนังสือโดยกล่าวว่าประเทศของเขานั้นพร้อมที่จะเปิดการเจรจาและอยากให้รัสเซียรักษาการมีส่วนร่วมในการเจรจาภายใต้องค ์กรพหุภาคีต่อไป [EurActiv]

(jm/gc, transl. by ph)

 

กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปตะวันตกและยุโรปเหนือ

 
 

เบลเยี่ยม: รัฐสภากลางขับเคลื่อนกฎหมายแพ่งของประเทศให้ทันสมัยขึ้น

รัฐสภากลางแห่งเบลเยี่ยมได้อนุมัติสองร่างกฎหมายเพื่อที่จะจัดทำกฎหมายแพ่งเล่มใหม่ขึ้น ซึ่งจะประกอบด้วยชุดบทบัญญัติทั่วไปและปรับกฎหมายว่าด้วยหนี้ซึ่งดูแลในเรื่องข้อผูกพันตามสัญญาและข้อผูกพันเพิ่มเติมจากสัญญาระหว่างบ ุคคล

หน่วยงานข่าว Belga รายงานว่า หนังสือจะรวบรวมชุดบทบัญญัติให้เป็นตัวกฎหมายหมายที่ก่อนหน้านี้จะพบได้ในสุภาษิตกฎหมายหรือคดีความ เช่นหลักความรับผิดก่อนสัญญา เหตุสุดวิสัย หรือการสมรู้ร่วมคิดในการทำผิดสัญญา 

Koen Geens สมาชิกรัฐสภากลางและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ผู้เสนอร่างกฎหมายทั้งสองร่างกล่าวว่าร่างกฎหมายใหม่นี้จะดูแลในเรื่องของการปฏิบัติต่อกันระหว่างบุคคล [BrusselsTimes]

(gt/gc, transl. by ph)

 

ฝรั่งเศส: Macron รับชัยชนะขมอมหวานจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของภูมิทัศน์ทางการเมือง

Emmanuel Macron ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ผู้มีอายุ 44 ปี สามารถรักษาวาระการดำรงตำแหน่งที่สองได้เมื่อ 24 เมษายนที่ผ่านมา โดยได้ชัยชนะเหนือคู่แข่งซึ่งเป็นผู้นำฝ่ายขวาสุดโต่งอย่าง Marine Le Pen ด้วยคะแนนจำนวนร้อยละ 58.5 เมื่อเทียบกับร้อยละ 41.5 ของคู่แข่ง ผ่านการเลือกตั้งที่แสดงให้เห็นถึงการแบ่งแยกทางการเมืองในประเทศอย่างชัดเจน

Macron เป็นประธานาธิบดีคนแรกใน 20 ปีที่ได้รับชัยชนะในวาระที่สอง โดยตบเท้าตามจาก Jacques Chirac ผู้ได้รับชัยชนะในวาระที่สองจากการเลือกตั้งที่เขย่าภูมิทัศน์ทางการเมืองของฝรั่งเศส รอบสุดท้ายในปี 2002 ซึ่งแข่งกับ Jean-Marie Le Pen ผู้นำฝ่ายขวาสุดโต่ง [The Guardian]

Macron ได้กล่าวขอบคุณผู้สนับสนุนของเขาในถ้อยแถลงต่อชัยชนะ บริเวณใต้หอไอเฟล ณ ช็องเดอมาร์สพร้อมทั้งยอมรับผู้ที่โหวตโดย “ไม่ได้ตั้งใจ” เพื่อกีดกันชัยชนะของฝ่ายขวาสุดโต่ง เขาบอกกับเหล่าผู้สนับสนุนว่า “ผมไม่ใช่ประธานาธิบดีของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอีกต่อไป และจะไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างถนน” [Le Monde]

จากผลแม้แสดงให้เห็นว่า Macron ได้รับชัยชนะด้วยอัตราส่วนที่ง่ายดาย ฝรั่งเศสก็ยังคงเป็นประเทศที่มีหลายขั้วทางการเมืองที่ โดยพรรค National Rally ของ Marine Le Pen ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดในประวัติศาสตร์ของกลุ่มขวาสุดโต่งในฝรั่งเศส ทำให้ผู้นำนับเอาคะแนนโหวตว่าเป็น “ชัยชนะในตัวของมันเอง” อัตราการงดออกเสียงซึ่งมีจำนวนมากว่าร้อยละ 28 เป็นอัตราที่สูงที่สุดในรอบการเลือกตั้งครั้งสุดท้ายตั้งแต่ปี 1969 เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงสภาพการเมืองที่ไม่มีความแน่นอนและความรู้สึกที่ถดถอยลงในฝรั่งเศส [The Guardian]

ชัยชนะของ Macron ได้ถูกตอบรับด้วยความโล่งใจของผู้ในนำแถบประเทศยุโรปโดยพวกเขานั้นรีบเข้าไปแสดงความยินดีทันที Macron ผู้ซึ่งยึดมั่นในสหภาพยุโรปให้คำมั่นที่จะสร้างสหภาพฯที่แข็งแกร่งขึ้นและเป็นเอกเทศมากขึ้น ตรงข้ามกับ Le Pen ที่มักแสดงความเกลียดชังต่อรัฐบาลกลางของสหภาพยุโรปในบรัสเซลล์และให้คำมั่นที่จะเปลี่ยนสหภาพฯไปอย่างสิ้นเชิง [Politico]

สำหรับประธานาธิบดีผู้ได้รับเลือกใหม่ จุดสนใจจะตกไปอยู่ที่การเลือกตั้งฝ่ายนิติบัญญัติในเดือนมิถุนายนซึ่งจะเกิดขึ้นจำนวนสองรอบ หาก Macron ไม่สามารถรักษาคะแนนส่วนใหญ่ในสภาไว้ได้ เขาจะต้องเผชิญกับอุปสรรคในการผลักดันประเด็นทางการเมือง ซึ่งรวมไปถึงการปฏิรูปเพื่อตอบรับภาคธุรกิจ และนโยบายซึ่งไม่เป็นที่นิยมในเรื่องการเพิ่มอายุเกษียณ [Reuters]

(la/gc, transl. by ph)

 

ฝรั่งเศส: Macron ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีแม้มีข้อพิพาท McKinsey 

ผู้วิจารณ์ Emmanuel Macron กล่าวหาว่าประธานาธิบดีฝรั่งเศสเล่นพรรคเล่นพวกหลังจากที่ถูกเปิดเผยว่ารัฐบาลของเขาได้จ้างบริษัทที่ปรึกษาต่างชาติรวมไปถึงบริษัทสัญช าติอเมริกันเช่น McKinsey& Co เพื่อให้คำแนะนำในการแจกจ่ายวัคซีนโควิด 19 และนโยบายอื่นๆ [Euronews]

ข้อพิพาทดังกล่าวถูกขนานนามว่า McKinsey Affair มีผลกระทบต่อการลงแข่งขันเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของ Macron ถึงแม้เขาจะชนะขาดจากคู่แข่งฝ่ายขวาอย่าง Marine Le Pen ก็ตาม ก่อนหน้าการเลือกตั้งมีผู้วิจารณ์ว่า Macron นั้นคือ “ประธานาธิบดีของผู้มีฐานะ” โดย Le Pen กล่าวว่าประธานาธิบดีนั้นเป็นประมุขของรัฐที่ “ไม่ได้รับความเชื่อมั่นจากรัฐหรือข้าราชการที่ทำงานให้เลย”

ข้อพิพาท McKinsey Affair ได้กลายเป็นเรื่องหลักในการวิจารณ์ Macron ที่เกินต้านจนกระทั่งเขานั้นต้องหยุดการหาเสียงตั้งแต่การเลือกตั้งในรอบแรก ถึงแม้จะมีการโจมตีจากทั้งฝ่ายซ้ายสุดโต่งและขวาสุดโต่ง Macron ก็สามารถรักษาคะแนนนำได้อย่างง่ายดายเมื่อเทียบกับคู่แข่งของเขา [AP News]

นาย Macron ผู้ซึ่งเป็นอดีตพนักงานของธนาคาร Rothschild กลบเกลื่อนข้อพิพาทโดยแย้งว่าไม่มีอะไรที่ผิดปกติในการใช้ที่ปรึกษาจากภายนอกและรัฐบาลของเขาได้ต่อสู้เพื่อที่จะจำกัดภาษีด้วยนโยบายที ่มีประสิทธิภาพมาเป็นเวลาหลายปี ผู้โหวตชาวฝรั่งเศสเกิดความฉุนเฉียวที่เงินจากผู้จ่ายภาษีถูกนำมาให้บริษัทที่ปรึกษาเอกชนสืบเนื่องมาจากภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นกว่าร ้อยละ 5.1 และค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น [France24] [Financial Times]

ถึงแม้ว่าในประเทศอื่นๆการที่รัฐบาลใช้บริษัทที่ปรึกษาจะเป็นเรื่องทั่วไป การปฏิบัติดังกล่าวมักจะไม่ได้รับการเห็นชอบในฝรั่งเศสเนื่องจากมีหน่วยงานภาครัฐที่ทำงานโดยข้าราชการมีฝีมืออยู่เป็นจำนวนมาก การสืบสวนระดับรัฐซึ่งได้เริ่มขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมเผยให้เห็นว่ากระทรวงต่างๆในฝรั่งเศสได้เพิ่มการลงเงินกับบริษัทที่ปรึกษาเอกชนกว่า ครึ่ง จาก 379 ล้านยูโร ในปี 2018 เป็น 894 ล้านยูโรในปี 2021 [France24]

การสืบสวนเบื้องต้นเรื่องข้อกล่าวหาว่าบริษัท McKinsey & Co  ได้ทำการยักยอกงบหลวงเริ่มขึ้นหลังจากรายงานการประนามจากสมาชิกวุฒิสภาซึ่งถูกตีพิมพ์เมื่อวันที่ 16 มีนาคม โดยกล่าวหาว่าบริษัทได้ใช้นโยบายการวางแผนภาษีหลายรูปแบบเพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีนิติบุคคลในฝรั่งเศสอย่างน้อยตั้งแต่ปี 2011 โดยทางบริษัทได้ปฏิเสธทุกการกระทำ [Financial Times]

(la/gc, transl. by ph)

 

ฝรั่งเศส: หัวหน้าหน่วยสอดแนมทางทหารถูกปลดจากตำแหน่งสืบเนื่องจากความล้มเหลวในการสืบราชการจากรัสเซีย

Eric Vidaud หัวหน้าหน่วยสอดแนมทางทหารของฝรั่งเศสถูกปลดจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 31 มีนาคมหลังจากล้มเหลวในการคาดการณ์การรุกรานของรัสเซียต่อยูเครน โดยการตัดสินดังกล่าวก่อให้เกิดข้อถกเถียงในวงการข่าวกรองของฝรั่งเศส

การรายงานของ Le Monde ซึ่งมีแหล่งอ้างอิงจากทางทหาร ระบุว่า พลเอก Vidaud ผู้ถูกแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าหน่วย Directorate of Military Intelligence (DRM) เมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา ถูกกล่าวหาว่า “ให้รายงานที่ไม่เพียงพอ” โดยขาดความชำนาญใน “ประเด็นที่สำคัญ” ของสงคราม ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าเขาถูกใช้เป็นแพะรับบาป โดยการปลดจากตำแหน่งนั้นเกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างภายในองค์กรมากกว่าความล้มเหลวในการคาดการณ์เรื่องการรุกราน [LeMonde]

ผู้สนับสนุนของพลเอก Vidaud ต่างเร่งออกปกป้องเขาโดยแย้งว่าหน้าที่ของเขาคือประเมินความสามารถของกองกำลังมิใช่คาดการณ์เจตนาของกองกำลังรัฐบาลต่างชาติ Christophe Gomart อดีตหัวหน้าหน่วย DRM กล่าวโทษหน่วยงาน ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรองหลักของฝรั่งเศส ว่าพลาดการเข้าใจจุดประสงค์ของ Putin ในการเข้ายึดพื้นที่ส่วนใหญ่ของยูเครนด้วยกองกำลังทหาร [Politico]

Thierry Burkhard เสนาธิการกองทัพบกฝรั่งเศสกล่าวกับหนังสือพิมพ์ Le Monde ว่ามีความเหลื่อมล้ำอย่างมากระหว่างฝ่ายข่าวกรองของฝรั่งเศสและสหรัฐฯ เกี่ยวกับความตั้งใจของ Putin โดยสหรัฐฯ กล่าวว่ารัสเซียจะโจมตี “และพวกเขาพูดถูก”

เขากล่าวต่อว่า หน่วยข่าวกรองของฝรั่งเศสเชื่อว่าการรุกรานยูเครนจะเกิดความเสียหายที่สูงและแพงเกินไปสำหรับรัสเซีย และรัสเซียจะใช้มาตรการอื่นๆ เพื่อโค่นล้มประธานาธิบดี Volodymyr Zelensky [Euronews]

นายพล Jacques Langlade de Montegros ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่ของ DRM เมื่อวันที่ 13 เมษายน

(la/gc, transl. by ph, tj)

 

เยอรมนี: รัฐบาลจะให้ความช่วยเหลือมากกว่า 100 พันล้านยูโรแก่บริษัทที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม

รัฐบาลเยอรมันตกลงเรื่องแพ็คเกจความช่วยเหลือทางการเงิน รวมถึงการค้ำประกันเงินกู้มูลค่ากว่า 100 พันล้านยูโร สำหรับบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากสงครามยูเครน [AP] [Bloomberg]

แพ็คเกจเงินกู้ซึ่งให้บริการผ่านธนาคารเพื่อการพัฒนาของรัฐ (KfW) จะเสนอเงินจำนวน 100 พันล้านยูโรพร้อมการค้ำประกันให้กับบริษัทพลังงานหรือบริษัทอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันและก๊าซที่ได้รับผลกระทบจากราคาพลังงานที่สูงขึ้น ภายหลังจากการรุกรานยูเครนของรัสเซียและการคว่ำบาตรรัสเซีย [FAZ] [Reuters]

Robert Habeck รัฐมนตรีกระทรวงกิจการเศรษฐกิจและการดำเนินงานด้านสภาพอากาศ กล่าวว่า จะจัดสรรเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำและปลอดภาระหนี้สินเพิ่มเติมจำนวน 7 พันล้านยูโร เพื่อช่วยบริษัททุกขนาดในการแก้ไขปัญหาสภาพคล่อง เนื่องจากบางบริษัทหรือภาคส่วนอาจไม่สามารถ "อยู่รอดในช่วงเวลานี้" หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ [Bloomberg] [FAZ]

(mb/gc, transl. by tj)

 

เยอรมนี: หน่วยงานกำกับดูแลของรัฐบาลกลางเข้ารับช่วงต่อ Gazprom Germania เพื่อรับรองความมั่นคงด้านพลังงาน

หน่วยงานกำกับดูแลและควบคุมพลังงานของเยอรมนี ได้เข้ารับช่วงต่อ Gazprom Germania ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของ Gazprom ผู้ผลิตก๊าซของรัสเซีย และอาจจัดให้หน่วยงานดังกล่าวเป็นของรัฐบาล เพื่อปกป้องแหล่งพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศจากมอสโก [EnergyLiveNews]

หน่วยงาน Federal Network Agency (FNA) จะควบคุม Gazprom Germania จนถึงวันที่ 30 กันยายน และจะถือสิทธิ์ในการออกเสียงทั้งหมดในบริษัท รวมถึงสามารถปลดผู้บริหาร จ้างพนักงานใหม่ และสอบถามผู้บริหารว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร

Klaus Müller ผู้อำนวยใหญ่ของ FNA กล่าวว่าเป้าหมายคือการบริหาร Gazprom Germania เพื่อผลประโยชน์ของเยอรมนีและยุโรป [Bloomberg] [Reuters] [ZDF]

กระทรวงเศรษฐกิจกล่าวว่า Gazprom ยุติการเข้าร่วมในบริษัทในเครือเมื่อวันที่ 1 เมษายน โดยไม่ได้ขออนุมัติจากรัฐบาลเยอรมัน ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายการค้าต่างประเทศของเยอรมนี และไม่ได้เปิดเผยเจ้าของใหม่ของบริษัท หลังจากนั้น FNA ได้เข้ารับช่วงต่อหน่วยGazprom [Reuters] [Spiegel][Bloomberg] [Süddeutsche] [ZDF]

Robert Habeck รัฐมนตรีกระทรวงกิจการเศรษฐกิจและการดำเนินงานด้านสภาพอากาศ กล่าวว่า "จำเป็น" ที่จะดำเนินการให้ Gazprom Germania มาอยู่ภายใต้การดูแลของ FNA เพื่อปกป้องโครงสร้างพื้นฐานของประเทศจากการ "อยู่ภายใต้การตัดสินใจตามอำเภอใจ" ของเครมลิน [Reuters] [Spiegel] [ZDF]

เยอรมนีอาจจัดให้หน่วยของ Rosneft ของรัสเซียที่ปฏิบัติการในประเทศ มาเป็นของรัฐบาลด้วย [EnergyLiveNews]

ประธานาธิบดี Vladimir Putin ของรัสเซีย กล่าวเมื่อวันที่ 5 เมษายนว่าเขาจะตอบโต้เยอรมนีที่เข้ารับช่วงต่อหน่วย Gazprom โดยเตือนว่าการจัดให้บริษัทของรัสเซียมาเป็นของรัฐบาล เป็น “ดาบสองคม” โดยเขากล่าวว่าการสกัดกั้นการส่งออกอาหารอาจจะเป็นมาตรการตอบโต้ [EURACTIV]

Gazprom Germania ดำเนินงานด้านสถานที่จัดเก็บก๊าซที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนี และซื้อขายและขนส่งก๊าซทั่วประเทศ

(mb/gc, transl. by tj)

 

เยอรมนี: ตำรวจสอบสวนการแสดงการสนับสนุนรัสเซียบุกยูเครน

ตำรวจเยอรมันเปิดการสอบสวนกว่า 140 คดีที่มีการแสดงต่อสาธารณะว่าสนับสนุนรัสเซียบุกยูเครน ตามการสำรวจของกระทรวงมหาดไทยและยุติธรรมของรัฐบาลกลางที่เผยแพร่โดยเครือข่ายข่าว RND เมื่อวันที่ 18 เมษายน [ZDF] [DW]

เจ้าหน้าที่กล่าวว่า การสืบสวนจำนวนมากมุ่งเน้นไปที่การใช้สัญลักษณ์ “Z" ซึ่งทหารรัสเซียวาดบนยานพาหนะสงคราม ในการประท้วง การแสดง "Z" ในบริบทของสงครามรัสเซียจะถือเป็นการแสดงการสนับสนุนหรือการรับรองและยอมรับการบุกรุกที่ผิดกฎหมาย และมีโทษตามกฎหมายอาญาของเยอรมนี  [Spiegel] [DW] [FAZ]

ผู้จัดการประท้วงที่สนับสนุนรัสเซียกล่าวว่า พวกเขาไม่ได้รับรองและยอมรับสงคราม แต่เป็นการประท้วงต่อต้านการเลือกประติบัติต่อผู้พูดภาษารัสเซียในเยอรมนี [DW]

Georg Eisenreich รัฐมนตรียุติธรรมของบาวาเรียกล่าวว่า การใช้สัญลักษณ์ "Z" เป็นความผิดทางอาญาในบริบทของสงครามรัสเซีย ไม่ใช่การละเมิดเสรีภาพในการพูด “เสรีภาพในการพูดสิ้นสุดลงเมื่อความผิดทางอาญาเริ่มต้น” เขากล่าว พร้อมเสริมว่าการยินยอมอาชญากรรมต่อกฎหมายระหว่างประเทศจะไม่ได้รับการยอมรับ [DW] [FAZ]

(mb/gc, transl. by tj)

 

เยอรมนี: ศาลสูงประกาศว่ากฎหมายว่าด้วยการเฝ้าระวังของบาวาเรียละเมิดกฎหมายพื้นฐานบางส่วน

ศาลรัฐธรรมนูญของสหพันธรัฐเยอรมนีตัดสินว่า ข้อบังคับหลายประการของกฎหมายคุ้มครองรัฐธรรมนูญของบาวาเรียละเมิดกฎหมายพื้นฐานของประเทศ กฎหมายบางส่วนละเมิดสิทธิทั่วไปของบุคคล ความเป็นส่วนตัวของการสื่อสารโทรคมนาคมและการละเมิดไม่ได้ของบ้าน  [Xinhua]

Joachim Herrmann รัฐมนตรีมหาดไทยของบาวาเรียกล่าวว่า เขาจะหารือเกี่ยวกับคำตัดสินกับผู้ที่อยู่ในสายงานเดียวกันในรัฐบาลกลางและรัฐบาลของรัฐ ภายหลังการเจรจา เขาจะยื่นข้อเสนอให้เปลี่ยนแปลงกฎหมายดังกล่าว [Xinhua]            

(gc, transl. by tj)

 

สหราชอาณาจักร: นายกรัฐมนตรี Johnson ถูกสอบสวนอย่างเป็นทางการฐานหลอกลวงรัฐสภา

Boris Johnson นายกรัฐมนตรีอังกฤษ จะถูกสอบสวนอย่างเป็นทางการโดยรัฐสภา ฐานหลอกลวงรัฐสภาเกี่ยวกับการเข้าร่วมงานเลี้ยงที่ทำเนียบของเขาที่ 10 ถนน Downing ในช่วงระหว่างการล็อกดาวน์

การตัดสินใจของรัฐสภาในการอนุมัติการสอบสวนมีขึ้นหลังจากที่ตำรวจได้ปรับเจ้าหน้าที่อย่างน้อย 50 คนฐานฝ่าฝืนกฎการปิดเมือง รวมถึง Johnson และสมาชิกคณะรัฐมนตรีคนอื่นๆ ด้วย [BBC]

แม้จะถูกนำเสนอโดยพรรคแรงงานที่เป็นฝ่ายค้าน ญัตติผ่านการลงคะแนนเสียงเนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอนุรักษ์นิยม นายกรัฐมนตรีกล่าวขอโทษเมื่อ 2 วันก่อนการลงคะแนนเสียง โดยระบุว่าเขาไม่ได้ตระหนักรู้ถึงการละเมิดกฎใดๆ แต่ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดที่เข้าร่วมงานเลี้ยง [Times]

การสอบสวนอย่างเป็นทางการโดยคณะกรรมการสิทธิพิเศษที่รับผิดชอบของรัฐสภาจะเริ่มขึ้นเมื่อตำรวจและผู้ตรวจสอบภายในของรัฐบาล Sue Gray มีข้อสรุปการไต่สวน ตามลำดับ แม้ว่าคณะกรรมการฯ จะบังคับให้นายกฯ Johnson ลาออกไม่ได้ แต่การทำให้รัฐสภาเข้าใจผิดถือเป็นประเด็นที่ต้องลาออก ตามกฎกระทรวง [BBC][Guardian]

(pr/gc, transl. by tj)

 

นอร์เวย์: นอร์เวย์ขอโทษกลุ่ม LGBTQIA+  50 ปีหลังจากยกเลิกการสั่งห้าม

Jonas Gahr Store นายกรัฐมนตรีของนอร์เวย์ ได้ออกมาขอโทษในนามของประเทศ เกี่ยวกับการดำเนินคดีทางอาญากับกลุ่ม LGBTQIA+ ในอดีต

เขากล่าวเมื่อวันที่ 14 เมษายน ในโอกาสครบรอบ 50 ปีนับตั้งแต่มีการยกเลิกการสั่งห้ามรักร่วมเพศของนอร์เวย์ ห้าปีต่อมาในปี 1977 การรักร่วมเพศถูกลบออกเป็นการวินิจฉัยทางจิตเวช [nrk]

นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนยินดีกับคำขอโทษของ Store แต่เห็นว่ายังมีงานที่ต้องทำอีก และเรียกร้องให้มีการสั่งห้ามสิ่งที่เรียกว่าการบำบัดเพื่อการเปลี่ยนใจเลื่อมใส ซึ่งเป็นวิธีปฏิบัติในการพยายามเปลี่ยนรสนิยมทางเพศของบุคคลที่เป็นคนรักร่วมเพศ [The Local] [Aftenposten]

ตามรายงานที่ตีพิมพ์ในปี 2020 การรักร่วมเพศเป็นสิ่งต้องห้ามใน 69 ประเทศทั่วโลก [The Local]

(js/pk, transl. by tj)

 

สวีเดน: การจลาจลปะทุขึ้นหลังจากการวางแผนเผาคัมภีร์กุรอาน

การจลาจลปะทุขึ้นในเมืองต่างๆ ในสวีเดนหลังจาก Rasmus Paludan นักการเมืองต่อต้านมุสลิม ผู้นำกลุ่มขวาจัด Stram Kurs ได้เรียกร้องให้มีการเผาคัมภีร์กุรอานในการประท้วงช่วงสุดสัปดาห์อีสเตอร์ เจ้าหน้าที่ในหลายประเทศมุสลิมได้ออกมาต่อต้านสิ่งที่พวกเขากล่าวว่าเป็นความไม่อดทนต่อศาสนาอิสลาม

นายกรัฐมนตรี Magdalena Andersson ของสวีเดน ได้ประณามความรุนแรง โดยผู้ประท้วงโจมตีตำรวจก่อนการชุมนุมที่วางแผนไว้โดยกลุ่มฝ่ายขวาจัด

การจลาจลปะทุขึ้นในเมืองต่างๆ ซึ่งรวมถึง นอร์เชอปิง โอเรโบร มัลโม สตอกโฮล์ม และลันด์สโครนา ในเมืองนอร์เชอปิง มีรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คนจากกระสุนปืนที่สะท้อนกลับจากการยิงเตือนของตำรวจ และได้รับการรักษาในโรงพยาบาล ทั้งนี้ มีผู้ถูกจับกุมมากกว่า 40 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ 26 นาย และประชาชน 14 คนได้รับบาดเจ็บ ยานพาหนะจำนวนหนึ่งได้รับความเสียหายหรือถูกทำลาย [Aljazeera, BBC News, CTV News, Reuters]

มีรายงานการปะทะกันในย่าน Rinkeby ชานกรุงสตอกโฮล์ม หลังจาก Paludan จุดไฟเผาสำเนาคัมภีร์กุรอาน ซึ่งเป็นหนังสือศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาอิสลาม เมื่อวันศุกร์ที่ 15 เมษายน [Aljazeera]

Anders Thornberg ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวในการแถลงข่าวหลังจากการจลาจลในช่วงสุดสัปดาห์อีสเตอร์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตกเป็นเป้าหมาย โดยขอทรัพยากรเพิ่มเติมให้ตำรวจ Thornberg กล่าวว่า "พวกเรามีจำนวนน้อยเกินไป เราเติบโตขึ้นแล้ว แต่เราไม่ได้เติบโตไปพร้อม กับปัญหาที่เป็นหัวใจของสังคม” [The Local]

Paludan ซึ่งเป็นทนายความที่มักโพสต์ข้อความบน YouTube มีความผิดทางอาญาในเดนมาร์กในปี 2019 ฐานยุยงให้เกิดความเกลียดชังทางเชื้อชาติ เขาได้รับความนิยมในประเทศนั้นผ่านการประท้วงต่อต้านชาวมุสลิมซึ่งมักจัดขึ้นในพื้นที่ที่มีชุมชนคนกลุ่มน้อยขนาดใหญ่ โดยลักษณะสำคัญของการประท้วงของเขาคือการดูหมิ่นและเผาคัมภีร์กุรอาน

Paludan ถือทั้งสัญชาติสวีเดนและเดนมาร์ก และมีเป้าหมายที่จะสมัครเข้ารับการเลือกตั้งรัฐสภาของสวีเดนในเดือนกันยายน แต่ต้องได้คะแนนเสียงอย่างน้อยร้อยละ 4 เพื่อเข้าสู่รัฐสภา [The Local]

เจ้าหน้าที่ในหลายประเทศมุสลิมได้ประณามการเคลื่อนไหวที่ก่อให้เกิดการประท้วง กระทรวงการต่างประเทศของอิรักกล่าวว่าได้เรียกตัวอุปทูตสวีเดนในกรุงแบกแดดมาพบโดยเตือนถึง “ผลกระทบร้ายแรง” ต่อความสัมพันธ์ระหว่างสวีเดนและประเทศมุสลิม และที่ปรึกษาประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กล่าวต่อต้าน “ความเกลียดชัง” และ “การไม่อดทน” ต่อศาสนาอิสลาม [The Local] [The Guardian] [Aljazeera]

ที่นอร์เวย์ องค์กรต่อต้านอิสลามที่มีชื่อว่า “หยุดการทำให้นอร์เวย์เป็นอิสลาม” ได้จัดการประท้วงเมื่อวันที่ 22 เมษายน ที่ซานเดฟยอร์ด ห่างจากกรุงออสโลไปทางใต้ราว 90 กิโลเมตร โดยมีการเผาคัมภีร์กุรอาน หลังจากมีผู้ร่วมประท้วง 300 ถึง 400 คน ตำรวจได้เข้าแทรกแซงและยุติการชุมนุม ทั้งนี้ ไม่มีรายงานผู้เข้าร่วมหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ [nrk] [The Local]

(jl/pk, transl. by tj)

 

สวีเดน: หัวหน้าพรรคเสรีนิยมลาออก เหตุแสดงความคิดเห็นขัดแย้ง

หัวหน้าพรรค Liberal ซึ่งเป็นฝ่ายค้านของสวีเดน ได้ลาออกเมื่อวันที่ 8 เมษายน หลังจากการวิพากษ์วิจารณ์ความคิดเห็นในวิดีโอ YouTube ซึ่งดูเหมือนว่าเธอได้กล่าวว่าเธอจะหลบหนีไปนอร์เวย์หากสวีเดนถูกโจมตีในสงคราม

ในวิดีโอดังกล่าว Nyamko Sabuni พูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านความมั่นคงท่ามกลางความขัดแย้งในยูเครนกับ UIf Kristersson ผู้นำพรรค Moderate ซึ่งเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งต่อมาได้ถูกลบออกจาก YouTube ทั้งนี้ Sabuni ได้พูดถึงข้อดีของการอาศัยอยู่ในชนบทและกล่าวว่า “ถ้ามันแย่กว่านี้ เราจะขับรถไปนอร์เวย์”  [The Local]

ในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Dagens Nyheter  Sabuni กล่าวว่าความคิดเห็นของเธอเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการสนทนาแบบสบายๆ เป็นกันเอง [Dagens Nyheter] [The Local]

Sabuni เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าพรรค Liberal ในเดือนมิถุนายน 2019 และดึงพรรคกลับเข้าสู่ฝ่ายค้านขวาจัด หลังจากถอนตัวจากข้อตกลงที่กลุ่มของเธอเคยเสนอให้การสนับสนุนนายกรัฐมนตรีที่เป็น Social Democrat

จากการสำรวจคะแนนเสียงตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่อ้างโดย Politico แสดงให้เห็นว่าพรรค Liberal ได้รับการสนับสนุนจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งประมาณร้อยละ 2 ในสวีเดน ร้อยละ 4 คือเกณฑ์ขั้นตำ่ที่จำเป็นในการเข้าสู่รัฐสภา ทั้งนี้ Johan Pehrson ได้เข้ารับตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคแทน Sabuni [The Local] [Politico] [Liberalerna]

(jl/pk, transl. by tj)

 

กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปตะวันออกและยุโรปกลาง

 
 

โครเอเชีย: นายกรัฐมนตรีประกาศคว่ำบาตรประธานาธิบดี

Andrej Plenkovic นายกรัฐมนตรีโครเอเชียและคณะรัฐมนตรีได้ประกาศจะคว่ำบาตรประธานาธิบดี Zoran Milanovic หลังจากที่เขาได้กล่าวหาว่าพรรค HDZ Christian Democratic มีส่วนเกี่ยวข้องกับอดีตหน่วยสืบราชการลับของยูโกสลาเวีย

Plenkovic ผู้นำพรรค HDZ ประกาศว่ารัฐมนตรีของรัฐบาลจะไม่เดินทางหรือจัดประชุมกับประธานาธิบดีอีกต่อไป ทั้งยังกล่าวหา Milanovic ว่ามี “ทัศนะนิยมรัสเซีย” [Euractiv]

Milanovic ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ปี 2011 ถึง 2016 และเป็นหัวหน้าพรรค SDP Social Democratic Party ตั้งแต่ปี 2007 ถึง 2016

ความขัดแย้งดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมีข้อโต้เถียงกันเกี่ยวกับคำขอของนายพลหลายคนให้ประธานาธิบดีอภัยโทษอดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองสองคนท ี่เคยทำงานให้กับยูโกสลาเวียในยุคคอมมิวนิสต์ [Hina]

พรรค HDZ กล่าวว่า เรื่องการให้อภัยโทษ เป็นความคิดริเริ่มของ Milanovic ซึ่งเขาปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ [Hina]

(jg/pk, transl. by tj)

 

สาธารณรัฐเช็ก: ประธานาธิบดีวิพากษ์วิจารณ์การให้อภัยโทษอดีตข้าราชการ

Milos Zeman ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเช็ก ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากการให้อภัยโทษอดีตเจ้าหน้าที่ ในประเด็นที่นักวิเคราะเห็นว่าเป็นการละเมิดอำนาจของเขาและระบบตุลาการของประเทศ ท่ามกลางความโกรธเคืองต่อการเคลื่อนไหวของ Zeman รัฐมนตรีของรัฐบาลหลายคนได้เรียกร้องให้มีการตัดงบประมาณของสำนักงานประธานาธิบดี [Radio Prague International]

โฆษกของประธานาธิบดีได้ออกมาปกป้องการตัดสินใจของ Zeman โดยอ้างว่า Milos Balak อดีตเจ้าหน้าที่ ถูกตัดสินลงโทษด้วยเหตุผลทางการเมือง [Radio Prague International] [Spiegel]

Balak เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารป่าไม้ของปราสาท Lany ของประธานาธิบดี เขาถูกตัดสินจำคุกสามปีในความผิดเกี่ยวกับการประกวดราคาสาธารณะสำหรับโครงการระบายน้ำทางลาดมูลค่า 8 ล้านยูโร [Spiegel] สื่อท้องถิ่นรายงานว่า Balak ถูกตั้งอีกข้อหาซึ่งเกี่ยวโยงกับการทำเหมืองหินที่ Lany ด้วย [Radio Prague International]

ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเช็กมีสิทธิที่จะให้อภัยโทษตามมาตรา 62 ของรัฐธรรมนูญของประเทศ แต่การใช้สิทธินี้ไม่ค่อยเกิดขึ้น [Spiegel]

ก่อนที่เขาจะได้รับเลือกในปี 2013 Zeman กล่าวว่าเขาจะใช้อำนาจนี้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และสัญญาด้วยว่าจะมอบให้กระทรวงยุติธรรมเป็นผู้พิจารณาคำขอ ในขณะเดียวกัน กระทรวงยุติธรรมไม่ได้มีส่วนร่วมในการอภัยโทษ Balak [Radio Prague International]

(jg/pk, transl. by tj)

 

ฮังการี: Orban นายกรัฐมนตรีฝ่ายขวา ชนะเลือกตั้งเป็นวาระที่สี่ติดต่อกัน

Viktor Orban นายกรัฐมนตรีฝ่ายขวาและพรรค Fidesz ของเขา ได้รับชัยชนะติดต่อกันเป็นครั้งที่สี่ในการเลือกตั้งรัฐสภาเมื่อวันที่ 3 เมษายน โดยเอาชนะพันธมิตรของพรรคฝ่ายค้านที่หวังจะขับไล่ผู้นำที่มีตราสัญลักษณ์ "ประชาธิปไตยแบบไม่เสรี" และความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัสเซียซึ่งสร้างปัญหามากมายให้กับตะวันตก

พรรค Fidesz ได้ชัยชนะด้วยคะแนนเสียงมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาและอีกสองในสามในรัฐสภา ในขณะที่ Peter Marki-Zay ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของฝ่ายค้าน ประสบความล้มเหลวแม้แต่ในเขตเลือกตั้งท้องถิ่นของเขาเอง [Telex] [Magyar Nemzet] [Hungary Today]

นักวิเคราะห์บางคนเกรงว่าด้วยชัยชนะนี้ Orban ซึ่งเคยปะทะกับสหภาพยุโรปมาหลายครั้งท่ามกลางข้อกล่าวหาว่าเขาบ่อนทำลายหลักนิติธรรมและเสรีภาพของสื่อ จะมีความกล้ายิ่งขึ้นที่จะบ่อนทำลายค่านิยมหลักของสหภาพยุโรป ในขณะเดียวกัน จะทำให้นาโต้อ่อนแอลง [The Telegraph]

เจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรปรายหนึ่งถูกอ้างโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า “หากไม่ต้องการให้ฟังดูเป็นละครจนเกินไป เรื่องนี้ถือเป็นโศกนาฏกรรม และดูเหมือนเป็นจุดจบของความฝันใดๆเกี่ยวกับประชาธิปไตยในฮังการีที่เราอาจมี”

ฮังการีซึ่งเป็นสมาชิกของทั้งพันธมิตรทางทหารกับตะวันตกและสหภาพยุโรป ได้ปฏิเสธที่จะอนุญาตให้มีการส่งอาวุธผ่านอาณาเขตของตนไปยังยูเครน และได้แสดงท่าทีต่อต้านการคว่ำบาตรรัสเซียของสหภาพยุโรปที่เพิ่มสูงขึ้น

นักวิจารณ์กล่าวว่า Orban มีข้อได้เปรียบที่สำคัญในการเลือกตั้งของฮังการีเนื่องจากการครอบงำสื่อของรัฐบาล

องค์การ Organization for Security and Co-Operation in Europe (OSCE)  ซึ่งกำกับดูแลการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง กล่าวว่าบัตรลงคะแนนดังกล่าว “ดำเนินการได้ดีและเสนอทางเลือกที่แตกต่างออกไป” แต่ถูกบ่อนทำลายโดยการไม่มีสนามแข่งขันที่เท่าเทียมกัน

OSCE กล่าวว่า "กระบวนการนี้เสียหายจากการทับซ้อนกันของรัฐบาลและการสื่อข้อความของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งทำให้เส้นแบ่งระหว่างรัฐและพรรคไม่ชัดเจน ตลอดจนอคติของสื่อและการระดมทุนที่คลุมเครือ"

ในขณะเดียวกัน พรรค Fidesz ยกย่องชัยชนะว่าเป็นชัยชนะของระบอบประชาธิปไตยแบบคริสเตียน ความคิดของพลเมืองแบบอนุรักษ์นิยม และการเมืองที่มีใจรักชาติ เหนือ“ฝ่ายซ้ายในประเทศ ฝ่ายซ้ายในต่างประเทศ  ฝ่ายข้าราชการในกรุงบรัสเซลส์” และ “สื่อกระแสหลักระหว่างประเทศ และท้ายที่สุด แม้แต่ ประธานาธิบดียูเครน”

ก่อนการเลือกตั้ง ประธานาธิบดี Volodymyr Zelensky ของยูเครน ได้กล่าวหา Orban ว่าเป็น “ผู้เดียวในยุโรปที่ให้การสนับสนุน Putin อย่างเปิดเผย” เกี่ยวกับสงครามในยูเครน [Euronews]

เมื่อวันที่ 27 เมษายน สหภาพยุโรปได้นำกลไกหลักนิติธรรมที่อนุญาตให้ระงับเงินทุนสำหรับฮังการีเป็นครั้งแรก [โปรดดูเรื่องราวก่อนหน้านี้ในวารสารยุโรปรายเดือนฉบับนี้] [Euronews] [Politico] [Guardian] [Telex]

(dk/pk, transl. by tj)

 

ภาพอนาคตของเศรษฐกิจรัสเซียในท่ามกลางการคว่ำบาตร

เศรษฐกิจรัสเซียคาดว่าจะหดตัวลงอย่างมากในปีนี้ เนื่องจากประเทศถูกโดดเดี่ยวมากขึ้นเพราะการคว่ำบาตรของตะวันตกในกรณีการรุกรานยูเครน ขณะที่รัฐบาลปรับอัตราดอกเบี้ยเพื่อค้ำจุนค่าเงินรูเบิล

ธนาคารโลกได้คาดการณ์ข้อมูลด้านเศรษฐกิจในปัจจุบันในระหว่างการทำ “สงครามในภูมิภาค” ว่าจีดีพีของรัสเซียจะหดตัวลงร้อยละ 11.2 ภายในสิ้นปี 2022 อันเนื่องมาจากความไม่แน่นอน “ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน” จากสงครามในยูเครน กระทรวงการคลังของรัสเซียได้กล่าวว่าทองคำและทุนสำรองระหว่างประเทศประมาณ 300 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจาก 640 พันล้านดอลลาร์สหรัฐถูกแช่แข็งหลังจากชาติตะวันตกบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรอย่างรุนแรง [Yahoo] [RBC][RBC]

นายกรัฐมนตรี Mikhail Mishustin กล่าวว่ารัสเซียจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยหกเดือนในการปรับเศรษฐกิจของตนให้เข้ากับมาตรการคว่ำบาตรดังกล่าว ในขณะที่ Ilya Torosov รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพัฒนาเศรษฐกิจกล่าวว่าเศรษฐกิจรัสเซียสามารถฟื้นตัวกลับไปอยู่ที่อินดิเคเตอร์บ่งชี้ทางเศรษฐกิจของปี 2021 ได้ภายในหนึ่งปี หน่วยงานให้บริการของ Standard & Poors (ซึ่งเป็นผู้จัดทำดัชนี S&P 500) ที่เรียกว่า S&P Global Market Intelligence กล่าวว่ารัสเซียจะต้องใช้เวลาถึงสิบปีในการฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับไปอยู่ในระดับปี 2021 [RBC]

Alexei Kudrin ประธานสภาซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการเงินแห่งรัฐสภา (Chairman of the Accounts Chamber) กล่าวว่าอัตราเงินเฟ้ออาจสูงถึงร้อยละ 20 ในปี 2022 ส่วนหน่วยงานสถิติของรัสเซียกล่าวว่าอัตราเงินเฟ้อประจำปี ณ สิ้นเดือนมีนาคมอยู่ที่ร้อยละ 16.7 ซึ่งเป็นอัตราเงินเฟ้อที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2015 [RBC] [RBC]

ธนาคารกลางของรัสเซียได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเฉพาะซึ่งกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารและต้นทุนสินเชื่อสำหรับผู้กู้ (key rate) เป็นร้อยละ 20 ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ทั้งนี้เพื่อป้องกันอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ในช่วงต้นเดือนเมษายน ธนาคารได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็นร้อยละ 17 [RBC]

(ab/gc, transl. by vv)

 

สโลวาเกีย: อดีตนายกรัฐมนตรี Fico ถูกตั้งข้อหาว่าเป็นผู้นำ ‘องค์กรอาชญากรรม’

เมื่อวันที่ 20 เมษายน อดีตนายกรัฐมนตรี Robert Fico แห่งสโลวาเกีย ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน Smer อันเป็นพรรคประชานิยมกลาง-ซ้าย ถูกหน่วยงานอาชญากรรมแห่งชาติตั้งข้อหาว่าทำความผิดฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรม เว็บไซต์ข่าว Politico รายงานว่าเขาต้องถูกคุมขังนานถึง 12 ปีหากถูกตัดสินว่ามีความผิด

Fico ถูกกล่าวหาว่าเป็น “หัวหน้าองค์กรอาชญากรรม” ข้อกล่าวหาที่ตั้งขึ้นต่อเขาครอบคลุมช่วงเวลาตั้งแต่ปี 2012 ถึงปี 2018 ซึ่งใกล้เคียงกับวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่สองของเขา ทนายความของ Fico กล่าวว่าข้อกล่าวหาเหล่านี้รวมถึงการถูกกล่าวหาว่าใช้ไฟล์ข้อมูลภาษีที่เป็นความลับในการรณรงค์ต่อต้านคู่แข่งทางการเมือง (ซึ่งรวมถึงอดีตประธานาธิบดี Andrej Kiska ด้วย) ด้วยการใส่ร้ายเพื่อทำลายชื่อเสียง

นอกจากนี้ ผู้ถูกตั้งข้อหายังรวมถึงอดีตรัฐมนตรีมหาดไทย Robert Kaliniak, อดีตอธิบดีกรมตำรวจ Tibor Gaspar และ Norbert Bodor ประมุขแห่งระบอบคณาธิปไตยสโลวาเกีย (Slovak oligarch)

สำนักงานอัยการพิเศษแห่งสโลวาเกียกล่าวว่า “ทั้งสี่คนถูกตั้งข้อหาก่ออาชญากรรมซ้ำๆ ที่เป็นภัยต่อการค้า การธนาคาร ไปรษณีย์ การสื่อสารโทรคมนาคม และความลับทางภาษี” [Aktuality]

Fico ไม่ได้ถูกจับกุมตัวเพราะเขาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยการจับกุมต้องได้รับอนุญาตจากรัฐสภาก่อน ผู้แทนฯ หลายคนจึงได้เรียกร้องให้เขาถูกตัดสิทธิ์จากความคุ้มกัน [Pravda]

ตามรายงานจากเว็บไซต์ข่าว Pravda Fico อธิบายว่าข้อกล่าวหาต่อเขาเป็น “เรื่องไร้สาระที่ถูกกุขึ้น” และกล่าวเสริมว่า “ในข้อกล่าวหานั้น จริงๆ แล้วพวกเขาปั้นเรื่องขึ้นโดยกล่าวหาเกี่ยวกับว่าผมก่อตั้งกลุ่มอาชญากรรมขึ้นมาอย่างไร” [Webnoviny]

Fico ถูกบังคับให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในท่ามกลางการประท้วงใหญ่แบบอารยะขัดขืนหลังจากการสังหารนักข่าว Jan Kuciak ในปี 2018 Kuciak ได้ทำการตรวจสอบหาความจริงเกี่ยวกับการทุจริตในรัฐบาลสโลวาเกียในช่วงเวลาที่เขาถูกสังหาร ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่มอาชญากรรม [Europe Monthly November 2021]

(cg/pk, transl. by vv)

 

สโลวีเนีย: นายกรัฐมนตรีจากพรรคฝ่ายขวา Jansa ถูกกวาดคะแนนเสียงเลือกตั้งโดยผู้มาใหม่

ชาวสโลวีเนียออกเสียงลงคะแนนให้นายกรัฐมนตรี Janez Jansa ที่ดำรงตำแหน่งมายาวนานและได้รับความนิยมและพรรคประชาธิปัตย์สโลวีเนีย (SDS) ฝ่ายขวาของเขา พ้นจากตำแหน่งในการเลือกตั้งระดับรัฐสภาเมื่อวันที่ 24 เมษายน Robert Golob อดีตผู้บริหารบริษัทพลังงานได้ทำให้พรรคกลุ่มเคลื่อนไหวเสรีภาพ (Freedom Movement) ซึ่งมีเป้าหมายในการลดการใช้ทรัพยากรและเพิ่มการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ (green-leaning) ที่จัดตั้งขึ้นใหม่ของเขากวาดคะแนนเสียงอย่างเด็ดขาดและฉับพลัน และคาดว่าจะได้เป็นรัฐบาลผสมกลาง-ซ้าย

Jansa ถูกกล่าวหาว่าได้ทำลายมาตรฐานประชาธิปไตย ในขณะที่ Golob สัญญาว่าจะฟื้นฟูหลักนิติธรรมขึ้น กลุ่มเคลื่อนไหวเสรีภาพของเขาทำการรณรงค์บนแพลตฟอร์มหนึ่งเพื่อนำความเป็นผู้นำใหม่ๆ มาสู่ประเทศ พร้อมด้วยแนวคิดสีเขียว (green ideas) ที่เกิดขึ้นใหม่, สังคมที่เปิดกว้าง และรัฐสวัสดิการที่ทันสมัย [Europe Monthly March 2022]

โพลเลือกตั้งบางแห่งกล่าวว่ากลุ่มเคลื่อนไหวเสรีภาพดำเนินการได้ดีกว่าที่คาดไว้ โดยได้รับคะแนนเสียงร้อยละ 34.3 ซึ่งหมายถึงได้รับ 41 ที่นั่งในจำนวน 90 ที่นั่งในรัฐสภาสโลวีเนีย เว็บไซต์ข่าว Euractiv เรียกสิ่งนี้ว่าคะแนนที่ดีที่สุดที่เคยได้รับโดยพรรคการเมืองเดียวในสโลวีเนียตราบถึงปัจจุบัน พรรค SDS ของ Jansa ได้รับคะแนนเสียงร้อยละ 23.5 ซึ่งลดลงร้อยละ 1.5 จากการเลือกตั้งในระดับรัฐสภาครั้งล่าสุดในปี 2018

แม้จะได้ผลลัพธ์ที่แย่กว่าเมื่อสี่ปีที่แล้ว แต่พรรค SDS ก็ยังได้รับที่นั่งในรัฐสภาเพิ่มขึ้นอีก 2 ที่นั่ง ทำให้ Jansa มีที่นั่งทั้งหมด 27 ที่นั่ง ข้อมูลของคณะกรรมการการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งของสโลวีเนียระบุว่ามีผู้ออกมาลงคะแนนเสียงถึงร้อยละ 69.7 ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ [Reuters]

Golob กล่าวว่าเขาต้องการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคฝ่ายซ้ายโซเชียลเดโมแครต (SD) และพรรค Levica โดยพรรค Levica ได้ประกาศว่าตนจะไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ในการเข้าร่วมรัฐบาลผสมกับกลุ่มเคลื่อนไหวเสรีภาพ

พรรค SD และพรรค Levica ได้รับเพียงเจ็ดและห้าที่นั่งตามลำดับ พรรค Levica แทบจะไม่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 4 ที่กำหนดไว้เพื่อได้เข้าไปนั่งในรัฐสภา เนื่องจากได้รับคะแนนเสียงร้อยละ 4.4

อีกพรรคหนึ่งเดียวที่ผ่านเกณฑ์ดังกล่าวคือพรรคกลาง-ขวา NSi ของ Matej Tonin ซึ่งเป็นพันธมิตรของพรรค SDS พรรคของ Tonin ได้ที่นั่งในรัฐสภาเพิ่มขึ้นหนึ่งที่นั่ง ทำให้พรรค NSi มีแปดที่นั่ง ซึ่งถือเป็นผลคะแนนเลือกตั้งที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2004

Jansa แสดงความยินดีกับ Golob ที่ได้รับชัยชนะ แต่กลับให้ความสำคัญกับความพ่ายแพ้ของตนเองน้อยกว่าที่เป็น โดยกล่าวว่าพรรค SDS ของเขาตอนนี้ได้แข็งแกร่งขึ้นแล้วในรัฐสภา

(cg/pk, transl. by vv)

 

สโลวีเนีย: ผลการสอบสวนเกี่ยวกับการต่อต้านการทุจริตระบุว่านายกฯ มีการกระทำที่เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์

คณะกรรมการต่อต้านการทุจริตกล่าวว่าการที่ Janez Jansa ซึ่งถูกบังคับให้ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของสโลวีเนียในการเลือกตั้งเมื่อเดือนเมษายน ได้ตัดสินใจลงคะแนนเสียงให้ทนายความของเขาได้เป็นกรรมการที่ไม่ใช่ผู้บริหารที่บริษัท Bank Assets Management (BAMC) นั้น ถือเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์

ทนายความ Franci Matoz ซึ่งเป็นตัวแทนของทั้ง Jansa และพรรค SDS ของเขา ได้รับแต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมการบริหารของบริษัทในเดือนกรกฎาคม 2021

คณะกรรมการต่อต้านการทุจริตซึ่งเริ่มการสอบสวนในเดือนสิงหาคม 2021 กล่าวว่าการป้องกันการขัดกันแห่งผลประโยชน์นั้นมีความสำคัญยิ่งและเป็น “หนึ่งในเสาหลักสำคัญของหลักนิติธรรม, ความไว้วางใจในสถาบันประชาธิปไตยและความโปร่งใส, ความเสมอภาคและความเป็นกลางในกิจการสาธารณะและกองทุนสาธารณะ” [Vecer] [Delo]

Sebastijan Peterka แห่งองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติสโลวีเนียเรียกร้องให้มีมาตรการป้องกันการขัดกันแห่งผลประโยชน์ในสถาบันหลักสำคัญ Jansa ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นบนโซเชียลมีเดีย แต่กลับวิพากษ์วิจารณ์คณะกรรมการต่อต้านการทุจริตที่ล้มเหลวในการสอบสวนกรณีอื่นๆ ตามที่ถูกกล่าวหา [Euractiv]

(cg/pk, transl. by vv)

 

ยูเครน: หน่วยรักษาความปลอดภัยสังหารตัวแทนการเจรจาในระหว่างที่ถูกจับกุมตัวในข้อหาทำการสอดแนมให้กับรัสเซีย

รายงานจากสื่อระบุว่า หน่วยรักษาความปลอดภัยของยูเครนสังหารผู้แทนคนหนึ่งของตนที่กำลังเจรจากับรัสเซียในระหว่างการจับกุมตัวเขา เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าเป็นสายลับให้กับรัฐบาลรัสเซีย

หน่วยงานรักษาความปลอดภัยมีหลักฐานว่า Denis Kireev กำลังสอดแนมให้กับรัสเซีย ซึ่งรวมถึง (กระทำ) ผ่านการสนทนาทางโทรศัพท์ Kireev ถูกยิงเสียชีวิตในระหว่างการจับกุมตัวเขา เจ้าหน้าที่ในกรุงเคียฟกล่าวว่า Kireev อายุ 45 ปี เป็นสายลับและอดีตนายธนาคาร เขาถูกสังหารในระหว่างการปฏิบัติการ “ปกป้องชาติ” [The Sun]

(gc, transl. by vv)

 

กฎหมายรัฐธรรมนูญและการเมืองในยุโรปใต้และยุโรปตะวันออกเฉียงใต้

 
 

บัลแกเรีย: รัฐบาลมีความเห็นแตกแยกกันอย่างมากในเรื่องความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน

การตัดสินใจให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนได้ทำให้เกิดความแตกแยกขึ้นในรัฐบาลบัลแกเรีย โดยพรรคสังคมนิยมบัลแกเรีย (Bulgarian Socialist Party - BSP) ที่สนับสนุนรัสเซียเตือนว่าตนจะออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหากรัฐสภาของประเทศตัดสินใจส่งอาวุธไปยังเคียฟ [Euractiv]

พรรคสังคมนิยม BSP สนับสนุนความช่วยเหลือทุกประเภท ยกเว้นความช่วยเหลือทางทหาร อย่างเช่น อาวุธยุทธภัณฑ์และอาวุธร้ายแรง เพราะจะทำให้มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตมากขึ้น หากพรรค BSP ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว รัฐบาลก็จะสูญเสียเสียงข้างมากในรัฐสภา [Euractiv] [RadioFreeEurope]

พรรคประชาธิปไตยบัลแกเรียซึ่งเป็นหนึ่งในสี่พรรคร่วมรัฐบาล สนับสนุนการจัดหาความช่วยเหลือทางทหาร เนื่องจากผลลัพธ์ที่ไม่ตั้งใจให้เกิดของสงครามยูเครนจะมีอิทธิพลต่อภาพอนาคตของระเบียบระหว่างประเทศ Hristo Ivanov ผู้นำร่วมของพรรคประชาธิปไตยบัลแกเรียเสนอให้ดำเนินการออกเสียงลงคะแนนใหม่ในเรื่องความช่วยเหลือทางทหารในวันที่ 4 พฤษภาคม [Euractiv] [RadioFreeEurope]

ประธานาธิบดีบัลแกเรีย Rumen Radev ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจที่จะจัดหาอาวุธและเครื่องกระสุนปืนให้กับยูเครนเนื่องจากจะทำให้สงครามยืดเยื้อ [RadioFreeEurope]

แม้จะไม่ได้ส่งอาวุธและเครื่องกระสุนปืนไปยังยูเครนโดยตรง แต่บัลแกเรียก็ได้ส่งออกอาวุธที่มีมูลค่าเกือบสามเท่าของที่ตนส่งออกไปในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว อาวุธเหล่านั้นถูกส่งไปยังประเทศต่างๆ ที่ให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน สื่อสหรัฐและยูเครนได้รายงานว่าอาวุธของบัลแกเรียสามารถพบเห็นได้ในยูเครน สิ่งนี้ได้นำไปสู่การคาดคะเนความจริงในประเทศที่บัลแกเรียกำลังส่งความช่วยเหลือทางทหารไปให้โดยทางอ้อม [RadioFreeEurope]

(ib/gc, transl. by vv)

 

อิตาลี: ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดว่าเด็กแรกเกิดควรมีนามสกุลของทั้งพ่อและแม่

ศาลรัฐธรรมนูญอิตาลีตัดสินเมื่อวันที่ 27 เมษายนว่าเด็กแรกเกิดควรได้รับนามสกุลของทั้งพ่อและแม่โดยอัตโนมัติ ไม่ใช่แค่นามสกุลของพ่อเท่านั้น ดังที่เคยเป็นมาจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม คู่สามีภรรยาจะได้รับอนุญาตให้ตัดสินใจโดยตกลงร่วมกันเพื่อให้บุตรใช้นามสกุลของพ่อหรือแม่เพียงฝ่ายเดียว

หนังสือพิมพ์ เดอะวอชิงตันโพสต์ ได้อ้างคำพูดของ Domenico Pittella ซึ่งเป็นทนายความของคู่สามีภรรยาที่นำคดีนี้ขึ้นพิจารณาในศาล ว่านี่เป็น “คำตัดสินที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ” ในอิตาลี และเสริมว่าการให้เด็กแรกเกิดใช้นามสกุลของพ่อเท่านั้นเป็นระบบหนึ่ง “ที่ถูกกำหนดโดยต้นแบบอันล้าสมัยของครอบครัวปิตาธิปไตย (patriarchal family)” [WashingtonPost]

บรรดาผู้แทนฯ ของอิตาลีกำลังดำเนินการเกี่ยวกับร่างกฎหมายเพื่อควบคุมประเด็นดังกล่าวนี้ แต่การอภิปรายในรัฐสภาในหัวข้อนี้ได้ถูกเลื่อนออกไปหลายครั้งแล้ว ฝ่ายนิติบัญญัติหลายคนยอมรับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญและสนับสนุนให้เร่งกระบวนการดำเนินงานในรัฐสภา [LaRepubblica]

การใช้นามสกุลคู่ (double surname) เป็นบรรทัดฐานในประเทศสเปน ขณะที่ในโปรตุเกสนั้น มีความเป็นไปได้ที่จะกำหนดนามสกุลให้บุตรใช้ได้ถึงสี่นามสกุล [Open]

(vb/pk, transl. by vv)

 

คอซอวอ: คำฟ้องร้องคดีอาชญากรรมสงคราม ซึ่งมีอุปสรรคในการจับกุมเนื่องจากอัยการประสบความลำบากในการนำตัวผู้กระทำผิดขึ้นศาล

ศูนย์กฎหมายมนุษยธรรมคอซอวอกล่าวในรายงานเมื่อวันที่ 4 เมษายนว่ามีการฟ้องร้องเพียงครั้งเดียวและมีการจับกุมสองครั้งในปี 2021 สำหรับการก่ออาชญากรรมสงครามที่กระทำในระหว่างความขัดแย้งทางทหารของประเทศในช่วงปี 1998-1999 ขณะที่อัยการประสบความยากลำบากในการนำตัวผู้กระทำผิดที่ถูกกล่าวหาขึ้นสู่ศาล

Drita Hajdari หัวหน้าแผนกอาชญากรรมสงครามที่สำนักงานอัยการพิเศษคอซอวอกล่าวว่ามีคดีอาชญากรรมสงคราม 1,000 คดีที่อยู่ในระหว่างการพิจารณา อัยการได้ยื่นคำฟ้องต่อหน้าจำเลย แต่ถ้าพวกเขาไม่มาปรากฏตัวในศาล แผนกก็ไม่สามารถยื่นฟ้องพวกเขาได้ [BalkanInsight]

Nicholas Abbott เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำคอซอวอกล่าวว่า การขาดความร่วมมือด้านตุลาการระหว่างคอซอวอกับเซอร์เบียเป็นอุปสรรคต่อการสืบสวนคดีอาชญากรรมสงคราม กระบวนการนี้สามารถเร่งได้หากสิ่งนี้ได้รับการเปลี่ยนแปลง เซอร์เบียไม่ยอมรับความเป็นเอกราชของคอซอวอและไม่ส่งผู้ต้องสงสัยข้ามแดนไปยังพริสตีนา [BalkanInsight]

คำฟ้องคดีอาญาล่าสุดนั้นตั้งข้อหาบุคคลหนึ่งซึ่งเป็นชาติพันธุ์แอลเบเนียที่ถูกระบุเพียงชื่อย่อว่า M.A. ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการก่ออาชญากรรมสงครามต่อพลเรือนในหมู่บ้านอิซบิคาเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 1999 เมื่อกองกำลังเซอร์เบียสังหารชาวแอลเบเนียแห่งคอซอวอทั้งหมด 147 คน มีรายงานว่าเขาอาศัยอยู่ในเซอร์เบีย [BalkanInsight]

Hajdari กล่าวว่าคอซอวออนุญาตให้มีการพิจารณาคดีในกรณีที่จำเลยไม่มาปรากฏตัวในศาล แต่คำตัดสินโดยทั่วไปไม่สามารถบังคับใช้ได้ อาชญากรสงครามที่ถูกกล่าวหาหลายคนตอนนี้เสียชีวิตแล้ว

(bp/gc, transl. by vv)

 

เซอร์เบีย: Aleksandar Vucic ได้รับเลือกตั้งอีกครั้งด้วยชัยชนะถล่มทลาย

ประธานาธิบดีผู้ได้รับความนิยม Aleksander Vucic แห่งเซอร์เบียชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 3 เมษายน ด้วยคะแนนเสียงประมาณร้อยละ 60 [Aljazeera][BalkanInsight][Euronews][TheGuardian]

Vucic กล่าวหลังจากได้รับชัยชนะว่า ความท้าทายสำหรับเซอร์เบียคือความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้านและการรักษาสัมพันธภาพที่ดีกับพันธมิตรดั้งเดิม และเสริมว่าประเทศจะดำเนินต่อไปตามวิถีทางของยุโรป สงครามในยูเครนเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญตลอดการรณรงค์หาเสียงของ Vucic โดยประธานาธิบดีเซอร์เบียให้คำปฏิญาณว่าจะคงความเป็นกลางทางทหารและรักษาความสัมพันธ์ฉันมิตรกับรัสเซีย [Aljazeera][Euronews][France24]

พรรคโพรเกรสซีฟเซอร์เบียของ Vucic ได้รับชัยชนะด้วยคะแนนเสียงร้อยละ 43 ในการเลือกตั้งระดับรัฐสภา ขณะที่ฝ่ายค้านได้รับคะแนนเสียงร้อยละ 13 [Euronews] [BalkanInsight] [Aljazeera]

ฝ่ายค้านและผู้สังเกตการณ์อิสระกล่าวว่าเหตุการณ์รุนแรงและความผิดปกติหลายอย่างได้เกิดขึ้นในระหว่างการเลือกตั้ง ซึ่งรวมถึงการสงสัยว่าจะมีการซื้อเสียง, การกดดันต่อผู้สังเกตการณ์ และการปิดสถานที่ลงคะแนนก่อนที่ประชาชนทั้งหมดจะได้ลงคะแนนเสียง [Aljazeera][BalkanInsight][Theguardian]

Vucic ได้รักษาความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดทางเศรษฐกิจและการเมืองกับรัสเซียและจีน

(jm/gc, transl. by vv)

 

สเปน: การใช้จ่ายของกษัตริย์จะถูกควบคุมดูแลโดยเจ้าหน้าที่รัฐ

เมื่อวันที่ 26 เมษายน รัฐบาลสเปนได้อนุมัติพระราชกฤษฎีกาที่บังคับให้ราชวงศ์เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับรายจ่ายประจำพระองค์และของกำนัลทั้งหมดบนเว็บไซต์ที่เป็น ทางการของราชวงศ์เพื่อทำให้โปร่งใสขึ้น

การตัดสินใจที่กระทำกับกษัตริย์ก่อนหน้านั้นถูกทำให้เป็นทางการหลายชั่วโมงต่อมาภายหลังจากกษัตริย์ Felipe VI ซึ่งได้ทรงพยายามฟื้นฟูศักดิ์ศรีของสถาบันพระมหากษัตริย์สเปนภายหลังที่เกิดเรื่องอื้อฉาวหลายครั้งขึ้นนั้น ได้ทรงเปิดเผยต่อสาธารณชนและโดยสมัครใจว่าทรัพย์สินส่วนพระองค์มีมูลค่า 2.6 ล้านยูโร

พระราชกฤษฎีกาไม่ได้กำหนดให้กษัตริย์ต้องแจ้งทรัพย์สินส่วนพระองค์ แต่อนุญาตให้ศาลผู้ตรวจสอบบัญชี (Court of Auditors) ซึ่งตรวจสอบหน่วยงานสาธารณะทั้งหมด ทำการควบคุมดูแลบัญชีต่างๆ ของกษัตริย์ [Reuters] [Público] [ElPeriodico]

กษัตริย์ Felipe VI ทรงขึ้นครองราชย์ในปี 2014 เมื่อ Juan Carlos พระราชบิดาของพระองค์สละราชสมบัติเพื่อประโยชน์ของเขาเองหลังจากเกิดเรื่องอื้อฉาวต่างๆ เกี่ยวกับการเงินและความสัมพันธ์ส่วนตัว นับแต่นั้นมา กษัตริย์ Felipe ก็ได้ทรงพยายามสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับกษัตริย์ ในปี 2020 พระองค์ทรงสละมรดกส่วนพระองค์ในอนาคตที่อาจได้รับจากพระราชบิดา [TheGuardian]

อดีตกษัตริย์ Juan Carlos เมื่อเร็วๆ นี้เสนอความคิดที่จะกลับสู่สเปนหลังจากการยุติการสอบสวนเรื่องราวทางการเงิน ซึ่งนำไปสู่การที่เขาต้องเนรเทศตัวเองไปอยู่ที่กรุงอาบูดาบีในปี 2020 [Europe Monthly April 2022]

(vb/pk, transl. by vv)

 

ตุรกี: รองประธานร่วมของพรรค HDP กล่าวว่าคดีในศาลคือความพยายามที่จะทำลายพรรค

รองประธานร่วมของพรรคประชาธิปัตย์ของประชาชน (Peoples’ Democratic Party - HDP) ในตุรกีกล่าวเมื่อวันที่ 19 เมษายนว่าคดีในศาล (ที่ฟ้องร้อง) โดยอัยการสูงสุดของประเทศ ซึ่งกล่าวหาว่าพรรคสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดนั้น เป็นความพยายามที่มีแรงจูงใจทางการเมืองที่จะทำลายพรรค

Umit Dede แสดงความคิดเห็นในคำให้การต่อสู้คดี (ที่ยื่น) ต่อศาลรัฐธรรมนูญตุรกี โดยกล่าวว่าคำฟ้องร้องก่อนหน้านี้จากศาลอุทธรณ์ (Supreme Court of Appeals) ถูกปฏิเสธโดยศาลรัฐธรรมนูญ เขากล่าวว่าคดีนี้เป็นความพยายามที่จะทำให้พรรค HDP ออกจากการเมืองแบบประชาธิปไตย [Hürriyet Daily News] [Reuters]

อัยการยื่นฟ้องคดีเมื่อเดือนมีนาคม 2021 เพื่อสั่งแบนพรรคนี้เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ด อัยการกำลังพยายามแบนสมาชิกพรรค HDP จำนวน 451 คนเป็นเวลาห้าปีอีกด้วย อันเป็นการเคลื่อนไหวที่จะป้องกันไม่ให้พวกเขาลงสมัครรับเลือกตั้งทั่วไปในเดือนมิถุนายน 2023 [Hürriyet Daily News] [Reuters]

ขั้นตอนต่อไปในคดีที่ต่อเนื่องนี้คือการนำเสนอด้วยวาจา (oral presentation) ต่อสาธารณะ ซึ่งสำนักงานอัยการเป็นผู้ดำเนินการก่อน แล้วจากนั้นจึงกระทำโดยพรรค HDP หลังจากนี้ ศาลก็จะไตร่ตรองและตัดสินโดยไม่มีการกำหนดเส้นตายตามคณะกรรมการการกฎหมายของพรรค HDP [Reuters]

พรรคแรงงานเคิร์ดิสถาน (Partya Karkeren Kurdistan - PKK) ถูกจัดเป็นกลุ่มก่อการร้ายในประเทศตุรกี สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป [Reuters]

(fw/gc, transl. by vv)

 

ตุรกี: คนใจบุญชาวตุรกีถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตในข้อหาให้เงินสนับสนุนการประท้วง

คนใจบุญชาวตุรกี Osman Kavala ถูกศาลตุรกีตัดสินจำคุกตลอดชีวิตเมื่อวันที่ 25 เมษายน ฐานให้เงินสนับสนุนการประท้วงในระหว่างการชุมนุมประท้วงที่สวนสาธารณะเกซีในปี 2013

Kavala ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาและจะสามารถยื่นอุทธรณ์คดีได้ คนอื่นๆ อีกเจ็ดคนถูกตัดสินจำคุก 18 ปีในข้อหาให้เงินสนับสนุนการประท้วง [Reuters] [Balkan Insight]

สหรัฐฯ กล่าวว่าการตัดสินลงโทษขัดกับหลักการสิทธิมนุษยชน ในขณะที่เยอรมนีเรียกเอกอัครราชทูตตุรกีเข้าพบเพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัว Kavala ทันที โฆษกรัฐบาลคนหนึ่งกล่าวว่าคำตัดสินดังกล่าวสร้างความเสียหายให้กับภาคประชาสังคมและหลักนิติธรรมในตุรกี [Süddeutsche Zeitung] [FAZ]

ในอีกด้านหนึ่ง ตุรกีก็ได้เรียกเอกอัครราชทูตเยอรมนีเข้าพบเพื่อแสดงความกังวลต่อเยอรมนีที่เข้ามาแทรกแซงความสัมพันธ์ภายในประเทศของตุรกี [ZEIT ONLINE] [Hürriyet Daily News]

(fw/gc, transl. by vv)

 
 

Contributors and editorial team:

Aleksandra Bulatova (ab), Anamilé Grothuesmann Restituyo (ar), Ann-Charlotte Neumann (acn), Antonia Lawrenz (al), Beatrice Paladini (bp), Christopher James Godwin (cjg), David Kiss (dk), Eric Kliszcz (ek), Fabian Schubert (fs), Ferdinand Witthuhn (fw), Giulia Taraborrelli (gt), Gizem Öztürk (gö), Glen Carey (gc), Harry McNeil (hm), Harry Taunton (ht), Henning Glaser (hg), Ivandzhelin Bozadzhieva (ib), Jan Grosser (jg), Jan Vogelgesang (jv), Jannis Kupfer (jk), Jasmin Spekkers (js), Jonas Borini (jb), Jonas Langlotz (jl), Jose Moises Sanchez Amaya (jm), Ketevan Esaiashvili (ke), Kevin Sarmiento (ks), Lavinia Abbott (la), Lena Krummeich (lk), Marcel Varga (mv), Marlene Busch (mb), Maximilian Ohle (mo), Natinunt Muenchorn, Peter Kononczuk (pk), Piet Rehmert (pr), Quentin Vidberg (qv), Saen Witthayaphatthanaphorn (sw), Sarah Donald (sdo), Tamari Akhaladze (ta), Valentina Polacchi (vp), Venus Phuangkom, Vincenzo Bardo (vb), Warren O'Broin (wo), Yury Malakhov (ym)

 

Translators:

Tomwit Jarnson (tj), Natthanicha Lephilibert (nl), Aekpaween Anuson (aa), Vachiravan Vanlaeiad (vv), Pattariya Hansawong (ph)

 

เราจะขอบคุณมากสำหรับความคิดเห็นของคุณ! โปรดส่งความคิดเห็นใดๆ ที่คุณมีเกี่ยวกับจดหมายข่าวนี้ไปที่ : info@cpg-online.de 

นอกจากนี้ อย่าลืมกด Like CPG บน Facebook และเยี่ยมชม เว็บไซต์ ของเราสำหรับการอัปเดตข้อมูลข่าวสารอื่นๆ

 
FacebookWebsite
 
German-Southeast Asian Center of Excellence for Public Policy and Good Governance - CPG

Room 207, Faculty of Law, Thammasat University, 2 Prachan Road, Bangkok 10200, Thailand

www.cpg-online.de
www.facebook.com/cpgtu
Preferences  |  Unsubscribe